จัดพอร์ตลงทุนรับปีหมู/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

จัดพอร์ตลงทุนรับปีหมู/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    ปี 2561 ที่กำลังจะผ่านไป ถือเป็นปีที่ยากสำหรับผู้ลงทุน เพราะมีปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ แทรกซ้อนเข้ามากเป็นระยะๆ

    ที่ดิฉันเคยเรียนว่า สองปีที่ผ่านมา (2559-2560) ค่าความผันผวนในตลาดทุนทั่วโลกต่ำกว่าปกติ ซึ่งคงจะไม่ได้เห็นความผันผวนต่ำขนาดนั้นในปีนี้

    11 เดือนแรกของปีนี้ ตลาดหุ้นโลก วัดโดยดัชนี MSCI World ปรับตัวลดลง 1.2% มีค่าความผันผวน 9.92%  (วัดโดยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือ Standard Deviation)  ดัชนี Dow Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.31% (ณ วันนี้ติดลบไปแล้ว) มีค่าความผันผวน 13.74% ในขณะที่ตลาดเกิดใหม่ วัดโดย MSCI Emerging Market ปรับตัวลดลง 12.24% มีค่าความผันผวน 12.86% (ผันผวนน้อยกว่าดาวโจนส์) และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปรับตัวลดลง 6.38% มีค่าความผันผวน 9.78% ขณะที่น้ำมัน ปรับตัวลดลง 15.71% มีค่าความผันผวนถึง 23.38% และ สินค้าโภคภัณฑ์ ปรับตัวลดลง 6.26% และมีค่าความผันผวน 23.38% และดัชนีพันธบัตรรัฐบาลไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.06% และมีค่าความผันผวน 1.25% ในช่วง 11 เดือน

    แม้จะเตรียมตัวไว้แล้ว แต่พอความผันผวนสูงกลับมา ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังรู้สึกว่าปรับตัวปรับใจและปรับพอร์ตไม่ได้

    แต่การลงทุนก็มีธรรมชาติเช่นนี้ค่ะ มีทั้งปีที่ดีและไม่ดี  ปีที่ราบรื่นแบบสองปีก่อน หายาก ตอนนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้วเท่านั้นเอง

    สำหรับพอร์ตที่ดิฉันจะแนะนำในปีหน้า คงเป็นพอร์ตที่มีความอนุรักษนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงเพิ่มจากการที่เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะของประเทศพัฒนาแล้วเริ่มชะลอการเติบโต และมีความเสี่ยงจากไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะสงครามการค้า การถอนตัวจากอียูของสหราชอาณาจักร ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ และสำหรับไทยเราก็มีความเสี่ยงหากมีความไม่ลงตัวหลังการเลือกตั้ง

    เนื่องจากมีความผันผวนและตลาดจะมีการปรับตัว จึงควรลงทุนแบบระมัดระวัง และเลือกหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เพื่อจะได้สามารถทนต่อความผันผวนได้ และราคาจะไม่ปรับตัวลงไปมากนัก

    ในส่วนของหุ้นทุน ในปีหน้าดิฉันให้น้ำหนักหุ้นไทยมากกว่าหุ้นต่างประเทศค่ะ และดิฉันมองว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวไปมากกว่าตลาดที่พัฒนาแล้ว และหลายตลาดมีราคาต่ำลง มีมูลค่าที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบว่ายังมีโอกาสเติบโตของยอดขายสูงกว่า อัตราการเติบโตของหลักทรัพย์ในประเทศพัฒนาแล้ว

    พอร์ตแบบอนุรักษนิยม ดิฉันแนะนำให้มีเงินสด/เงินฝาก/กองทุนตลาดเงิน 30% ลงทุนในพันธบัตร/หุ้นกู้คุณภาพดี อายุตราสารไม่ยาวมากนัก 35% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์/กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 20% ลงทุนในหุ้นไทย 10% และลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 5% พอร์ตนี้มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 4.4% และมีค่าความผันผวน 6.15%

    สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง แนะนำให้มีเงินสด/เงินฝาก/กองทุนตลาดเงิน 20% ลงทุนในพันธบัตร/หุ้นกู้คุณภาพดี อายุตราสารไม่ยาวมากนัก 28% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์/กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 20% ลงทุนในหุ้นไทย 20% และลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 10% และลงทุนในกองทุนทองคำ 2% พอร์ตนี้มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 5.9% และมีค่าความผันผวน 8.06%

    สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้เพิ่ม แนะนำให้มีเงินสด/เงินฝาก/กองทุนตลาดเงิน 20% ลงทุนในพันธบัตร/หุ้นกู้คุณภาพดี อายุตราสารไม่ยาวมากนัก 23% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์/กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 20% ลงทุนในหุ้นไทย 25% และลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 10% และลงทุนในกองทุนทองคำ 2% พอร์ตนี้มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 6.35% และมีค่าความผันผวน 8.41%

    สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้สูง ดิฉันแนะนำให้มีเงินสด/เงินฝาก/กองทุนตลาดเงิน 17% ลงทุนในพันธบัตร/หุ้นกู้คุณภาพดี อายุตราสารไม่ยาวมากนัก 20% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์/กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 20% ลงทุนในหุ้นไทย 25% และลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 15% และลงทุนในกองทุนทองคำ 3% พอร์ตนี้มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 6.8% และมีค่าความผันผวน 9.12%

    สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก ดิฉันแนะนำให้มีเงินสด/เงินฝาก/กองทุนตลาดเงิน 10% ลงทุนในพันธบัตร/หุ้นกู้คุณภาพดี อายุตราสารไม่ยาวมากนัก 12% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์/กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 25% ลงทุนในหุ้นไทย 30% และลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 20% และลงทุนในกองทุนทองคำ 3% พอร์ตนี้มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 7.85% และมีค่าความผันผวน 10.28%

    ต้องเรียนย้ำว่าดิฉันกำลังแนะนำพอร์ตที่ลงทุนระยะยาวนะคะ เช่น ลงทุนเพื่อการเกษียณอายุงาน

    ในการปรับพอร์ต ต้องมีการทบทวนค่ะ ว่าเราตั้งเป้าหมายสัดส่วนของกลุ่มหลักทรัพย์ที่จะถืออย่างไร เช่น จะลดสัดส่วนหุ้นทุนของประเทศพัฒนาแล้วลง 5% เวลาปรับพอร์ตจริง เราต้องทำแบบว่าเป็นตัวๆค่ะ คือเข้าไปดูในรายละเอียดเลย ว่าในบรรดาหุ้นทุนของประเทศพัฒนาแล้ว อุตสาหกรรมอะไรจะไม่ดี ภูมิภาคไหนจะไม่ดี และหุ้นของบริษัทไหนที่มูลค่าน่าจะขยับไปได้ไม่มากไปกว่านี้ หรือมีโอกาสปรับตัวลดลงอีก เราก็ควรลดสัดส่วนการลงทุนลง

    อย่าลืมว่าไม่ได้ดูแต่ที่ต้องการลดอย่างเดียว ต้องดูเปรียบเทียบด้วยว่าต้องเก็บหลักทรัพย์ไหนไว้ บางหลักทรัพย์สภาพคล่องน้อย จ่ายปันผลตอบแทนดี การขายออกไปก็อาจจะเสียราคา และกลับมาซื้อใหม่ก็ยาก ลักษณะนี้ควรถือต่อค่ะ

    สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ และอย่าลืมคำเตือนว่า การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถทำนายผลตอบแทนในอนาคตได้
[/size]
โพสต์โพสต์