Value Way ฉบับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
กฎ 10 ข้อนักลงทุนระยะยาว (2)
กฎข้อที่สาม อย่าสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ในฐานะนักลงทุนระยะยาว เราไม่ควรตกใจเวลาที่ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไปมาในระยะสั้น ในตอนที่เราเฝ้าดูการลงทุนของเรา นักลงทุนระยะยาวควรจะมองภาพใหญ่หรือผลประกอบการของบริษัทมากกว่าราคาหุ้นที่เปลี่ยนไปมาในแต่ละวัน อย่าลืมว่าเราควรมั่นใจในคุณภาพของบริษัทที่เราลงทุนมากกว่าที่จะไปประสาทเสียเวลาที่ตลาดหุ้นตก และอย่าไปต่อรองราคามากในการซื้อหุ้น บางครั้งการรอต่อราคาซื้อหุ้นอีกไม่กี่สตางค์อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการลงทุนไปก็ได้ เช่น หุ้นตัวหนึ่งราคา 10.50 บาท นักลงทุนบอกตัวเองว่าถ้า 10.00 บาทจะซื้อแต่ราคาหุ้นไม่เคยลงมาต่ำเท่าที่คิดและสุดท้ายหุ้นบริษัทนั้นปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆทำให้เราพลาดการลงทุนในหุ้นนั้นได้
ในการลงทุน นักเก็งกำไรมักใช้ความผันผวนของราคาในแต่ละวันหรือแม้แต่ในแต่ละนาทีทำกำไรจากความแตกต่างของราคา แต่การทำกำไรจากการลงทุนระยะยาวนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เพราะบางครั้งนักลงทุนอาจจะต้องถือหุ้นไปอีกหลายปีกว่าที่ราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง ระหว่างนั้นเราควรสนใจในการศึกษาหาความรู้ในปรัชญาการลงทุนระยะยาวมากกว่าเอาเวลาไปเฝ้าตลาดหุ้น
กฎข้อที่สี่ อย่าใส่ใจในค่าพีอี มากนัก
นักลงทุนมักให้ความสนใจในค่าพีอี (P/E – Price Earnings Ratio) เป็นอย่างมาก แต่บางครั้งการใช้ค่าพีอีเพียงอย่างเดียวในการลงทุนอาจทำให้เราผิดพลาดได้ ค่าพีอีควรถูกนำมาใช้ในการลงทุนร่วมกับการวิเคราะห์ธุรกิจด้วยวิธีอื่น บริษัทที่มีค่าพีอีต่ำอาจไม่ได้เป็นหุ้นที่มีราคาถูกเสมอไปและบริษัทที่มีค่าพีอีสูงๆอาจไม่ได้แพงกว่าที่เราคาดคิดก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่นหุ้นวัฏจักรทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปิโตรเคมีหรือธุรกิจเดินเรือ ในช่วงที่บริษัทเหล่านี้มีค่าพีอีสูงๆเพราะธุรกิจทำกำไรได้น้อยนั่นเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมกำลังตกต่ำซึ่งเป็นช่วงที่น่าลงทุน ขณะที่ในช่วงพีคของวัฏจักร ธุรกิจเหล่านี้ทำกำไรได้มากทำให้ดูเหมือนมีค่าพีอีต่ำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจในอนาคตกำลังแย่เพราะซัพพลายหรืออุปทานกำลังเพิ่มเข้ามาในตลาดจำนวนมาก ทำให้ค่าพีอีในอนาคตไม่ได้ต่ำเหมือนที่ผ่านมา
กฎข้อที่ห้า หักห้ามใจในหุ้นไม่ถึงบาท
ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งของนักลงทุนคือหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าเป็นหุ้นที่ถูกกว่า เช่น หุ้นราคา 5 บาทถูกกว่าหุ้นราคา 50 บาท ซึ่งในความเป็นจริงถ้าหุ้นทั้งสองบริษัทลดลงเหลือศูนย์บาท เราก็ขาดทุนจากการลงทุน 100% ทั้งสองกรณีอยู่ดี บริษัทแย่ๆที่ราคา 5 บาทมีความเสี่ยงพอๆกับหุ้นบริษัทแย่ๆที่ราคา 50 บาทเหมือนกัน บริษัทที่หุ้นราคาต่ำกว่าหนึ่งบาทถ้าสังเกตดูมักเป็นหุ้นเก็งกำไรมากกว่าหุ้นที่มีราคาสูง ดังนั้นนักลงทุนระยะยาวควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีลักษณะของการเก็งกำไรแบบนี้
กฎข้อที่หก เลือกกลยุทธในการลงทุนและอย่าเปลี่ยนบ่อย
นักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธเดียวกันในการลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อที่จะได้กำไรจากการลงทุน มีกลยุทธหลายอย่างในการลงทุนและไม่มีวิธีไหนดีกว่ากัน ถึงอย่างไรก็ตามถ้าเราพบวิธีที่เหมาะสมกับการลงทุนของเรา เราควรจะยึดถือวิธีการนั้นไว้ นักลงทุนที่เปลี่ยนวิธีการลงทุนไปมามักจะพบว่าผลการลงทุนนั้นย่ำแย่กว่าที่คิด นักลงทุนระยาวที่เปลี่ยนกลยุทธไปมามักพบว่าตนเองกำลังเก็งกำไรอยู่ เพราะเมื่อเราเห็นคนอื่นทำกำไรได้มากในระยะสั้น เรามักจะละทิ้งวิธีการลงทุนระยยาวและหันไปลงทุนเพื่อทำกำไรในระยะสั้นไปด้วย บุคคลที่ยึดมั่นในการลงทุนคนหนึ่งคือวอร์เรน บัฟเฟต ในช่วงยุคฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยี่ บัฟเฟตไม่ได้ลงทุนในหุ้นเหล่านั้นเลย ถึงแม้จะถูกสื่อในช่วงนั้นโจมตีว่าเป็นไดโนเสาร์ล้าหลัง แต่สุดท้ายทุกคนก็พบว่าบัฟเฟตเป็นผู้ชนะในเกมนี้เพราะนักลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี่เหล่านั้นต่างขาดทุนกันเป็นจำนวนมาก
กฎ10ข้อนักลงทุนระยะยาว(2):ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
กฎ10ข้อนักลงทุนระยะยาว(2):ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 1
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
- jojolorsud
- Verified User
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ10ข้อนักลงทุนระยะยาว(2):ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 2
godlike
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ10ข้อนักลงทุนระยะยาว(2):ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 4
มีครบทั้ง 10 ข้อไหมคะ