บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 4:07 pm | 0 คอมเมนต์
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 4:38 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบพระคุณอย่างสูงๆ
นานๆผมถึงจะรับการชี้ทางไปสู่ขุมทรัพย์มหาศาลเช่นนี้
ลงทุนเพื่อชีวิต
unnop.t
Verified User
โพสต์: 924
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 6:24 pm | 0 คอมเมนต์
เคยพออ่านแนวคิดของโซรอสมาบ้างในหนังสือ The winning habits ซึ่งผู้เขียนเปรีียบเทียบแนวคิดการลงทุน ของโซรอสกับบัฟเฟตต์
ผมว่าโซรอสเก่งมากในการเล่นกับจิตวิทยามวลชนกับอารมณ์ตลาด แต่หลักการอันหนึ่งซึ่งโซรอสกับบัฟเฟตต์ที่ค่อนข้างต่างกันสุดขั้ว
โซรอส : Invest first, Investigate later
บัฟเฟตต์ : Investigate first, Invest later
บัฟเฟตต์พยายามหลีกหนีอารมณ์ของตลาด แต่โซรอสพยามเข้าหาอารมณ์ตลาด
ขอบคุณสำหรับบทความครับ แต่ผมยังอ่านไม่จบ เพราะตัวหนังสือค่อนข้างเล็ก ทรมานสายตาสำหรับคนอยู่ใกล้ "หลักสี่"
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
wc
Verified User
โพสต์: 231
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 9:57 pm | 0 คอมเมนต์
ชอบครับ อ่านแล้วสนุกมาก
Things are almost never clear on Wall Street,
or when they are, then it’s too late to profit from them.
iceberg
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 9:58 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณสำหรับบทความครับ
นิดนึง Soros วิธีการคิดจะเหมือน Charlie มากกว่าครับ
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 10:06 pm | 0 คอมเมนต์
ผมขอน้อมรับหลักการทั้งสองท่าน
คือ คิดวิเคราะห์กิจการให้ดีก่อนลงทุนของบัฟเฟต + เข้าถึงอารมณ์ของตลาด
ลงทุนเพื่อชีวิต
iceberg
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ม.ค. 24, 2011 11:46 am | 0 คอมเมนต์
อีกนิด พี่โหน่ง อ่าน Influence แล้ว แนะนำผมบ้างนะครับ
อ่านแล้ว ผมรู้ผิวเผินนะครับ วิเคราะห์ไม่เป็น ไม่รู้จะพัฒนายังไง
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ม.ค. 25, 2011 9:37 am | 0 คอมเมนต์
ตอบคุณ ICEBERG
บทความนี้เก่าแลวนะครับ
ผมไปเดินงานกะเสดแฟ เพราะปีนี้จับฉลากกับเขาไม่ได้ ไปเดินหา non-equilibrium เดินไปพาพกสายตานักล้วงว่าถ้าเราเป็นพวกเขา เราจะล้วงใคร ที่ไหน ตรงไหนดี นั่นเหยื่อผมมาแล้วครับ
reality–> มีผู้หญิงสัก 50 กว่า เดินนำผูกข้อมือเชือกจูงเด็กสัก 6-7 ขวบ เดินตาม เชือกยาว 1 ฟุต เดินไปไหนสายคล้องเห็นชัดว่าติดกัน เดินไปตามฝูงคน expectation ตามมาติด ๆ เชื่อกนี้ทำให้ผมนึกถึง options ที่ทำหน้าที่เป้น insurance ป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่เกิด critical mass เพราะถ้าเป็น market events ในลักษณะเช่นนี้ มันหมายถึงเป็นโอกาสสำหรับ critical point มันสามารถเกิด variations ขึ้นได้ทั้งนั้น
reality–> เดินไปสักพัก หายไปไหนฝูงที่ยังไม่เกิด mass ผมเดินตามไปติด ๆ เห็นหัวอาร์ตตัวแม่หยิกเดินไปอย่างช้า ๆตาม กระแสฝูงชน ตัวลูกไม่เห้นแล้ว แต่ expectation บอกว่า—>แม่ไปด้วย ลูกก็ติดไปด้วย ผมเริ่ม predict ว่าควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเชือกดันไปมี function ที่เรียกว่า correlation ที่ผมใช้ predict เชื่อมโยงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในอดีตกับอนาคต ผมคิดในใจเห้นแม่กับลุกเดินตรงนั้น ตอนนี้ไม่เห็นลุก เห้นแต่แม่ ถ้าเดินไปที่โล่งๆสักหน่อยก็จะเห็นลูกเดินอยู่เอง ผมคำนวณเสร็จสรรพ
reality–> แม่เดินไปหยุดหน้าร้านบะหมี่ซีอ่าง คนขายเอามือหยิบบะหมี่ใส่จาน expectation—> น่ากินชมัด คนมุงดูเพราะ social validation กับ scarcity กฎสองข้อในตลาดหุ้นมีให้เห้นบ่อย ๆ แต่พ่อค้าอย่างผมเห็นทุกงาน events จนชินตามันคือ outdoor website ดีๆ นี่เอง ถ้าเป้น indoor บางที่มีให้เงินถุงก่อนแล้วค่อยจับเหยื่อ อย่างนี้เรียก reciprocation เอา commitment มาหลอก ผสม social validation เติม liking ในตัวบุคลเข้าไปหน่อย บางคนใช้ authority กล่อมเข้าไปอีก ในที่สุดคนที่เคยต่าง ก็คืดเหมือน indoor website ที่ว่า เกิด efficient market ขนาดย่อม ๆ อย่างนี้ก็เกิด corelaton function กลายเป็นเชือกดีๆ เส้นหนึ่ง เหมือนแม่ดึงเด็กไปทางไหน เด็กก้ไปทางนั้น
แต่ outdoor website อย่างร้านบะหมี่ คนมุงสักพัก ไม่มุงสักพัก สลับกันไป คนขายมีเชือกมาดึงให้ตลาดมันเป็น inefficient ได้ไม่นาน แต่พอนานหน่อยๆ ขายไม่ทัน คนที่คอยนานข้างหลัง มีเวลาคิดขึ้นอีกหน่อย พอคิดได้ว่ามันคือบะหมี่แห้งที้ใช้มือหยิบ กูรมายืนมุงทำไมฟะะ ไม่เห็นแปลกตรงไหน คิดได้แล้วก็เดินเดินจากไป กลายเป็น efficient market พอคนบางตา คนขาย ก็จับบะหมี่พันไปพันมา ท่าทางเหมือนกางฟูวัดเส้าหลิน คนที่ผ่านมาหน้าใหม่ก็มุงดูเช่นเดิม กลายเป้น inefficient อีกครั้ง
เห็น uncertainty อย่างนี้มาจนชินตา พอสรุปไว้เป้นวิชาติดตัวได้ว่า กลุ่ม Indoor (รวมถึงเครือค่าย MLM) จัดไว้เป้นกลุ่มวิชา fundamental เป็นแกนหลัก ตลาดจะต้องเป็น efficient เพื่อใช้อดีต correlate อนาคต เวลาเป้น inefficient อนาคตมองยาก ข้ามไปอีกฝากเป็นกลุ่ม outdoor เป้น nothing fundamental (รวมถึงกลุ่ม Technical ) ตลาดจะต้องเป็น inefficient เพื่อใช้ข้อมูลจากอดีตเพื่อทำนายอนาคต แต่ถ้าเป้น efficient อนาคตเป็นเรื่องของ God ล้วน ๆ
Hey! God doesn’t play dice.
แม่เดินขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว แต่ correlation ตัวลูก ยังไม่หายไปไหน ยังเดินขึ้นตามไปติดๆ
Imperfection man อย่างผมตัดสินใจเดินกลับบ้านนึกถึง Holy Grail of non-equilibrium ในวันพรุ่งนี้…
ปล ชื่อคุณ ICEBERG ทำให้คิดถึงฟรอยด์เพราะอะไรเลือกชือนี้
ทำให้คิดถึงชื่อคนยิว
ผมเห็นซิกเนเจอร์
ลีโอนาโดสอนเราได้เยอะมากทีเดียวนะครับ
โดยเฉพาะเรื่องความสมดุลในสิ่งต่างๆ
ผมอ่านงานโซรอส บางทียังคิดว่าอ่านงานของลีโอนาโด
คนหนึ่งเอาไปใช้ในศิลปะ อีกคนเอาไปใช้ในการลงทุน
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ม.ค. 25, 2011 9:54 am | 0 คอมเมนต์
ตอบคุณ อรรณพ
INVEST FIRST INVESTIGATE LATER ความหมายที่แท้จริงหมายถึง การคิดในหัวก่อนถึงเหตุการณ์จริงมาถึง แล้วดูว่าเรามีอารมณตอบสนองอย่างไร ไม่ได้หมายึง ซื้อหุ้นแล้ว มาตรวจสอบทีหลัง ในภาษาที่มีความหมายตามตัวอักษร เหมือนสถานการณ์ ว่าเราปีนบันได ปีนได้ก้ดีไป ถ้าวันไหน พาดตกลงมา เผลอพลาดตกแล้วกระโจนลงมาทัน จะได้ไม่เจ็บมาก คือ ยอมรับไว้แล้ว ว่ามันพลาดกันได้ เวลาพลาดจริงๆ จะได้มันเจ็บมากเพราะยอมรับไว้แล้ว วิชานี้ น่าจะเรียกว่า วิชาตกกระไดพลอยโจน
งานเขียนส่วนใหญ่ของอาจารย์ เบาและ อ่านง่าย
ผมเอาตัดสระออก ตัดวรรณยุกต์ เรียกว่า วิชา ตัวเบา
เป็นการฝึกตัวเองเรื่อง INVES FIRST ได้เปนอย่างดี
กราบของพระคุณอาจารย์ด้วยครับ
บทความไหนของอาจารย์ ตัดออกแล้ว ไม่เท่าบทความนี้
ทน สนุก ๆ ครับ
บทความของอาจารย์นี้ชื่อว่าอะไรครับ?
กร ที่ จ ป็น Vlue Invstr ท ม ควม สมรถ สง ด้ นั้น สงหนึ่ง ที่ จ ป็น ปรยชน์ ก คือ กร “จนตนกร” ฟังด อจ จ รูสึก ว่ ป็น รื่อง ขง ควม พ้อ ฝัน ละ ป็น รื่อง ที่ สน กัน ม่ด้ ต่ จริงๆ ล้ว กร จนตนกร นั้น สมรถ ที่ จ ฝกฝน กนได้ ปรเดน สำคญ ก็คือ ราตอง รู้ รื่อง อื่นๆ มากพอ ที่ จะ ทำ ให้ สมรถ นำไป ปรียบทยบ กับ เรื่อง ขง บริษท จดทเบยน และ หุ้นที่รา สน จได้ มื่อเกดจนตนกร เรา ก็ สมรถ จ มอง ตอ ไป ด้ วา บรษัท หรือหุ้น ที่ เร สน จ นั้น ใน ที่ สุด น่ จะ เป็น อย่งไร น่นอน จนตนกร กบ ของจริง คง จ ไม่ หมือน กัน ต่ มัน ก็ ให้ ภาพ ที่ จะ ทำ ให้ รา เห็น ทิศ ทา เดิน ของ หุ้น ผม พูด แบบนี้อย่า นึก ว่า เป็น เรื่อง ปรหลาด ลอง นึก ทบ ทวน ดู ก็ จะ พบ ว่า ม้ แต่ ใน เรื่อง ทงวทยศสตร์ ต่างๆ เรา ก็ พบ ว่า การ ใช้ จินตนาการ เป็น สิ่ง สำ คญ ที ทำ ให้ มนษย์ค้น พบ ทฤษฎ หรือ สร้ง สิ่ง ปรดิษฐ์ ที่ สำคัญ ต่งๆ ขึ้น ใน โลก พูด ก พูด ถ้คนไม่จนตนกร ว่า จ สมรถ บิน ได้ อย่าง นก เรา จ มี กร ปรดิษฐ์ เครื่องบน หรือครบ?
iceberg
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ม.ค. 25, 2011 8:27 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณครับ พี่โหน่ง
ตัว sgn ผมเอามาจากหนังสือ Influence แต่งโดย Robert Cialdini บทที่เขียนเรื่อง
Commitment and Consistency ตอนแรกไม่รู้หรอกครับว่ามันเกี่ยวอะไร
แต่บทนี้จบแล้ว ประโยคนี้ใช่เลยครับ ชอบมาก