โลกในมุมมองของ Value Investor 10 ธันวาคม 2553
เมื่อผมเข้ามาอยู่ในแวดวงของการลงทุนเต็มตัว บ่อยครั้งผมคิดถึงประสบการณ์เก่า ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกม “พนัน” ที่ผมเคยทำมา ส่วนใหญ่แล้ว เกม “พนัน” ที่ว่า มักจะเป็นเกมเดิมพันของ “ชีวิต” มากกว่าจะเป็นเรื่องของเงินทอง อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งผมก็เล่น “พนัน” เป็นเงินบ้าง และทุกครั้งก็เป็นการเล่นเพื่อความสนุกสนาน หนึ่งในการเล่นพนันที่ผมเคยทำก็คือการเป็น “เจ้ามือป๊อกเด้ง” และต่อไปนี้คือประสบการณ์ที่ผมคิดว่ามีประโยชน์สำหรับการลงทุนโดยเฉพาะในหุ้น
ในการเป็นเจ้ามือป๊อกเด้งนั้น สิ่งที่ผมพบก็คือ ผมอาจจะได้เปรียบลูกมือเล็กน้อยในแง่ที่ผมสามารถเลือกที่จะ “จับ” หรือเปิดไพ่ของลูกมือก่อนโดยเฉพาะคนที่ “จั่ว” ไพ่ไปหลายใบและมีโอกาส “ตาย” ซึ่งจะทำให้ผมชนะหรือ “กิน” คนนั้นก่อน อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ผมมักจะเล่นได้กำไรเป็นกอบเป็นกำในช่วงเวลาหนึ่งติดต่อกันจนเงินบนหน้าตักผมกองท่วม อาจจะเป็นเพราะผมมีฝีมือ หรือที่น่าจะเป็นมากกว่าก็คือ “ดวง” กำลังขึ้น แต่หลังจากนั้น “ดวง” ผมก็มักจะเริ่มตก ผมเริ่มแพ้หรือเสียเงินมากขึ้นและมากขึ้นจนเงินกองโตนั้นลดลงไปเรื่อย ๆ จนแทบหมดซึ่งถ้าเวลายังเหลือ ผมก็จะต้อง “ควักเค้า” หรือเอาเงินจากกระเป๋าออกมาเพิ่ม และแล้ว โชคก็มักจะกลับมา ผมเริ่มได้กำไรและพอร์ต.. อุ๊บ.. กองเงินบนหน้าตักก็เติบโตขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็จะลดลงไปอีกในเวลาต่อมา เป็นวงจรหมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณตีสองซึ่งได้เวลานอนและเป็นเวลาที่ต้องเลิกเล่น นั่นก็จะเป็นเวลาตัดสินว่าผมจะได้หรือจะเสียเงินจากการเล่นพนันในครั้งนั้น
การเล่นหุ้นหรือการลงทุน โดยเฉพาะคนที่ทุ่มเท เอาจริงเอาจัง มุ่งมั่น และ “กล้าได้กล้าเสีย” บางทีผมก็คิดว่าอาจจะมีอะไรคล้าย ๆ กับการเล่นเป็นเจ้ามือป๊อกเด้งอยู่เหมือนกันในแง่ของผลตอบแทนหรือเม็ดเงินที่ได้หรือเสีย ลองมาดูตัวอย่างของนักลงทุนชื่อดังระดับโลกหลาย ๆ คน
คนแรกก็คือ Jesse Livermore “นักเก็งกำไรบันลือโลก” ลิเวอร์มอร์นั้นเป็นนักเก็งกำไรโดยเฉพาะในสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ โดยการใช้มาร์จินหรือเงินกู้มาเก็งกำไรมหาศาล วิธีการลงทุนนั้น แน่นอน คงเป็นการ “ซื้อนำ” ไล่ราคา รวมถึงการปล่อยข่าวต่าง ๆ ซึ่งในแนวนี้ก็คงคล้าย ๆ กับการทำตัวเป็น “เจ้ามือ” ป๊อกเด้ง ซึ่งมีความได้เปรียบคนที่ “ซื้อตาม” หรือลูกมืออยู่ไม่น้อย ผลการเล่นหุ้นหรือเก็งกำไรของลิเวอร์มอร์นั้นคล้ายคลึงกับเจ้ามือป๊อกเด้งมากนั่นก็คือ เขารวยขึ้นมหาศาลจนกลายเป็น “เซเล็บ” ที่คนรู้จักกล่าวขวัญกันไปทั่ว และต่อมาเขาก็เจ๊งจนล้มละลาย แต่ด้วยการที่ยังมี “เครดิต” หรือยัง “เหลือเค้า” อยู่บ้าง เขาจึงสามารถทำกำไรกลับมาได้อีก แต่แล้วเขาก็เจ๊งอีก นับได้ถึงสามครั้งที่เขาล้มละลายและกลับมาใหม่เหมือนเจ้ามือป๊อกเด้งเหมือนกัน โชคไม่ดีที่ครั้งสุดท้ายตอนที่เขาเลิกเพราะฆ่าตัวตาย พอร์ตของเขาเหลือศูนย์ดอลลาร์
คนที่สอง ผมยกให้ Julian Robertson ตำนานผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ อดีตผู้บริหารกองทุน Tiger Fund กองทุนเฮดจ์ฟันด์กองแรก ๆ ของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยเท็คนิคการลงทุนที่มาในแนว “VI” อยู่เหมือนกันแม้ว่าหลายคนอาจจะบอกว่าไม่ใช่ ผลตอบแทนที่โดดเด่นทำให้พอร์ตของเขาเติบโตมหาศาลจากปีเริ่มต้นในปี 1980 ที่พอร์ตแค่ 8 ล้านเหรียญกลายเป็น 7.2 พันล้านในปี 1996 และกลายเป็นเฮดฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วยกองทุนถึงกว่า 22 พันล้านเหรียญในปี 1998 แต่พอถึงปี 2000 “โชค” ก็ไม่เข้าข้างเขา กองทุน Tiger มีผลงานย่ำแย่มาก ผลงานพ่ายแพ้ดัชนี S&P ย่อยยับและผู้ถือหน่วยลงทุนพากันถอนทุนทำให้เขาต้องประกาศปิดกองทุน สาเหตุหนึ่งก็คือการที่กองทุนไม่ได้ถือหุ้นไฮเท็คที่กำลังร้อนแรงและราคาวิ่งกันมายาวนานเลย แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือการที่ Tiger Fund ถือหุ้นบริษัท US Airway อยู่ในพอร์ตมหาศาล ซึ่งราคาหุ้นตกลงมาอย่างหนักและเขาปฎิเสธที่จะขายมัน ในที่สุด US Airway ก็ล้มละลายทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเสียหายยับเยิน ยังดีที่ Robertson ยังเหลือเงินส่วนตัวอยู่บ้าง ต่อมาเขาก็ใช้เงินนั้นช่วยเป็น “เงินเริ่มต้น” เพื่อก่อตั้งเฮดฟันด์ใหม่ ๆ อีกหลายสิบกอง นอกจากนั้นลูกน้องหลายคนที่เคยทำงานใน Tiger Fund ก็ออกไปตั้งกองทุนเฮดฟันด์ใหม่ ๆ อีกหลายกองที่เรียกกันว่า Tiger Cubs หรือกองทุน “ลูกเสือ” ส่วนตัวจูเลียนเองก็คงจะแก่เกินที่จะเล่นเองแล้วเขาจึงหันมาทำเรื่องการกุศลแทน
คนสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ Bill Miller ผู้บริหารกองทุน Legg Mason Value Trust บิล มิลเลอร์ เคยเป็นสุดยอดนักบริหารกองทุนรวมที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดในระยะเวลาที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นคือ ในระยะเวลา 15 ปี จากปี 1991-2005 กองทุนของเขาทำผลตอบแทนชนะดัชนี S&P ได้ทุกปีติดต่อกัน กองทุนเติบโตขึ้นจาก 750 ล้านเหรียญในปี 1990 เป็น 20 พันล้านเหรียญในปี 2006 เขาบอกว่าตนเองเป็น Value Investor ทั้ง ๆ ที่พอร์ตลงทุนของเขาเล่นหุ้นไฮเท็คจำนวนมากที่มีราคาหรือค่า PE สูงลิ่ว ในตอนนั้นเขาเป็น “ซุปเปอร์สตาร์” แต่แล้ว “โชค” ก็ไม่เข้าข้างเขา ตั้งแต่ปี 2006 ผลตอบแทนของเขาก็ตกต่ำลงและต่ำกว่าดัชนี S&P ในปี 2008 จากต้นปีถึงเดือนมิถุนายน พอร์ตเขาขาดทุนถึง 28% ในขณะที่ดัชนีลบแค่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ ถ้านับย้อนหลังไปสิบปี สถิติของเขาต่ำกว่าดัชนี S&P และแม้ว่าจะดูย้อนหลังไปตั้งแต่ตั้งกองทุน ผลตอบแทนที่เคยยอดเยี่ยมนั้นก็กลายเป็นธรรมดา คือดีกว่าดัชนี S&P เพียงนิดเดียว เทียบกับเจ้ามือป๊อกเด้ง นี่ก็คือช่วงที่เงินบนหน้าตักกองโตลดฮวบลงไปเกือบหมด เราคงต้องดูกันต่อไปว่าเงิน “บนหน้าตัก” จะโตขึ้นอีกไหมสำหรับ บิล มิลเลอร์
อาการแบบเจ้ามือป๊อกเด้ง หรือจะเรียกให้เท่ว่า “ป๊อกเด้งซินโดรม” นี้ ผมคิดว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่น้อยถ้าเวลาของการเล่นหรือการลงทุนยาวพอ มันเกิดขึ้นได้กับนักลงทุนธรรมดาเช่นเดียวกับ “เซียน” มันเกิดขึ้นได้กับคนที่เป็นนักเก็งกำไรเช่นเดียวกับคนที่เรียกตัวเองว่า Value Investor ดังนั้น เราจะต้องไม่ประมาทและมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินไป สถานการณ์ตลาดหุ้นที่เป็นกระทิงที่ยาวนานอาจทำให้เราฮึกเหิมและโลภเกินไปจนลืมไปว่า “หายนะ” นั้นมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าที่เราคิด เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ถ้าเราไม่แน่ใจ การ “เก็บเงินเข้ากระเป๋าบ้างในยามที่เงินกำลังกองเต็มหน้าตัก” ก็อาจเป็นกลยุทธ์ที่ไม่เลวนัก
เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 1
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1495
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณมากครับ เป็นบทความที่ถูกใจในรอบปีเลยครับ
ผมล่ะกลัวมากเลย "ป๊อกเด้งซินโดรม”
ผมล่ะกลัวมากเลย "ป๊อกเด้งซินโดรม”
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 6
ป็อกเด้งนั้น เจ้ามือได้เปรียบลูกมือนิดเดียวอย่างที่ดร.ว่าจริงครับ
ถ้าเล่นคงเล่นแบบสนุกๆกับเพื่อนๆเวลาไปเที่ยวด้วยกัน
ไม่มีศาสตร์หรือศิลป์แบบไหนที่จะช่วยให้มีโอกาสชนะสูงกว่าแพ้มากๆ
ผลบั้นปลายจึงแพ้กับชนะสูสีกันโดยเฉลี่ยก็เสมอตัวหรืออาจจะกำไรนิดหน่อยถ้าดวงไม่แย่เกินไป
แต่ตีแตกนั้นต่างออกไป นอกจากเรื่องดวงแล้ว
สามารถวิเคราะห์วิจัยแล้ววางยุทธศาสตร์ให้ชนะมากกว่าแพ้ได้
เมื่อเล่นไปนานๆเข้าจึงมีโอกาสได้กำไรโดยเฉลี่ยไม่ใช่เสมอตัว ถ้าดวงไม่ลำเอียงจนเกินไป
ผมว่าดร.น่าจะมียุทธศาสตร์ที่ว่านั้น และมีความเชี่ยวชาญในกลยุทธ์ไม่น้อยด้วย
และดร.น่าจะชอบเกมส์ตีแตกไม่น้อย
เลยดลบันดาลให้ดร.เขียนหนังสือ " ตีแตก"
ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของพวกเราไปด้วย
ถ้าดร.ชอบโปคเกอร์และประสบผลสำเร็จจากโปคเกอร์
หนังสือที่ออกมาก็ไม่น่าจะหนีไปจาก "เล่นหุ้นแบบเซียนโปคเกอร์"
เนื้อหาคงจะเน้นการวิเคราห์ด้วยกราฟและเทคนิค
เพราะเกี่ยวข้องกับการอ่านใจคนและจิตวิทยาตลาด
วีไอในวันนี้ก็คงไม่มี
ขอบคุณสวรรค์ที่ดลบันดาลให้ดร.ชอบตีแตก
ถ้าเล่นคงเล่นแบบสนุกๆกับเพื่อนๆเวลาไปเที่ยวด้วยกัน
ไม่มีศาสตร์หรือศิลป์แบบไหนที่จะช่วยให้มีโอกาสชนะสูงกว่าแพ้มากๆ
ผลบั้นปลายจึงแพ้กับชนะสูสีกันโดยเฉลี่ยก็เสมอตัวหรืออาจจะกำไรนิดหน่อยถ้าดวงไม่แย่เกินไป
แต่ตีแตกนั้นต่างออกไป นอกจากเรื่องดวงแล้ว
สามารถวิเคราะห์วิจัยแล้ววางยุทธศาสตร์ให้ชนะมากกว่าแพ้ได้
เมื่อเล่นไปนานๆเข้าจึงมีโอกาสได้กำไรโดยเฉลี่ยไม่ใช่เสมอตัว ถ้าดวงไม่ลำเอียงจนเกินไป
ผมว่าดร.น่าจะมียุทธศาสตร์ที่ว่านั้น และมีความเชี่ยวชาญในกลยุทธ์ไม่น้อยด้วย
และดร.น่าจะชอบเกมส์ตีแตกไม่น้อย
เลยดลบันดาลให้ดร.เขียนหนังสือ " ตีแตก"
ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของพวกเราไปด้วย
ถ้าดร.ชอบโปคเกอร์และประสบผลสำเร็จจากโปคเกอร์
หนังสือที่ออกมาก็ไม่น่าจะหนีไปจาก "เล่นหุ้นแบบเซียนโปคเกอร์"
เนื้อหาคงจะเน้นการวิเคราห์ด้วยกราฟและเทคนิค
เพราะเกี่ยวข้องกับการอ่านใจคนและจิตวิทยาตลาด
วีไอในวันนี้ก็คงไม่มี
ขอบคุณสวรรค์ที่ดลบันดาลให้ดร.ชอบตีแตก
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 201
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 7
อาจารย์กำลังบอกว่า ให้ทยอย take profit ใช่มั้ยครับ
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณครับ อาจารย์
อาจารย์ออกมาเตือนโต้งๆ แบบนี้
ผู้มีเงินเต็มหน้าตัก
ได้กำไรหลายร้อยเปอร์เซนต์
ให้เก็บใส่กระเป๋าบ้าง
น่าจะมีอะไรที่เป็นจุดบอกเหตุซักอย่าง
พวกเราระวังก็แล้วกันนะครับ :lol:
อาจารย์ออกมาเตือนโต้งๆ แบบนี้
ผู้มีเงินเต็มหน้าตัก
ได้กำไรหลายร้อยเปอร์เซนต์
ให้เก็บใส่กระเป๋าบ้าง
น่าจะมีอะไรที่เป็นจุดบอกเหตุซักอย่าง
พวกเราระวังก็แล้วกันนะครับ :lol:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 201
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 9
port ของท่านอาจารย์ pe เกิน limit ไปมากแล้ว
ก็น่า take profit
แต่หุ้นหลายๆตัว โดยเฉพาะพวกที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง
ราคายัง undervalue อยู่เลย คงต้องถือต่อ
ก็น่า take profit
แต่หุ้นหลายๆตัว โดยเฉพาะพวกที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง
ราคายัง undervalue อยู่เลย คงต้องถือต่อ
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 10
ตีแตก ป๊อกเด้ง โป๊กเกอร์ เก้าเก ไฮโล ปั่นแปะ หวย ลอตเตอรี่ ล้วนเป็นเกมพนันที่เล่นกับ "ความน่าจะเป็น"
เกมไหนที่เรามีโอกาส หรือความน่าจะเป็น ในการชนะสูง ก็เป็นเกมที่เราควรจะเข้าไปเล่น
คนที่ถนัดในการตีแตก และชนะบ่อยๆก็สมควรแล้วที่จะได้รับผลตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำ
จนถึงจุดหนึ่งที่หน้าตักเราเยอะ อาจจะต้องพิจารณาเลือกเล่นเฉพาะเกมที่โิอกาสชนะของเรามีมากขึ้นเป็นพิเศษ
ตลาดหุ้นบ้านเรา วงไพ่ดีๆยังมีอีกหลายร้อยวง จังหวะและโอกาสมีให้ผู้ที่มองเห็นอยู่เสมอ
เรื่องการจำกัดความเสี่ยง ก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกเล่นเกมอะไรในวงไพ่
สำหรับผม ถ้าเป็นไปได้ ขอร่วมวงเฉพาะเกมตีแตกในสถานะที่เรามีไพ่ดีในมือเรื่อยไปเท่านั้นพอ
เกมไหนที่เรามีโอกาส หรือความน่าจะเป็น ในการชนะสูง ก็เป็นเกมที่เราควรจะเข้าไปเล่น
คนที่ถนัดในการตีแตก และชนะบ่อยๆก็สมควรแล้วที่จะได้รับผลตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำ
จนถึงจุดหนึ่งที่หน้าตักเราเยอะ อาจจะต้องพิจารณาเลือกเล่นเฉพาะเกมที่โิอกาสชนะของเรามีมากขึ้นเป็นพิเศษ
ตลาดหุ้นบ้านเรา วงไพ่ดีๆยังมีอีกหลายร้อยวง จังหวะและโอกาสมีให้ผู้ที่มองเห็นอยู่เสมอ
เรื่องการจำกัดความเสี่ยง ก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกเล่นเกมอะไรในวงไพ่
สำหรับผม ถ้าเป็นไปได้ ขอร่วมวงเฉพาะเกมตีแตกในสถานะที่เรามีไพ่ดีในมือเรื่อยไปเท่านั้นพอ
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 11
เจ้ามือป๊อกเด้ง นับไพ่ 1สำรับ มี52ตัว แจกจ่ายผู้เล่นไปกี่ตัว คงเหลือกี่ตัว
เจ้ามือหุ้น คงกำลังนั่งนับหุ้นว่า...มีหมุนเวียนในตลาดกี่หุ้น ถือครองอยู่กี่หุ้น
ต้องแจกจ่ายให้นักลงทุนคนอื่นกี่หุ้น เกมส์นี้ถึงจะได้เปรียบ กระมัง
เจ้ามือหุ้น คงกำลังนั่งนับหุ้นว่า...มีหมุนเวียนในตลาดกี่หุ้น ถือครองอยู่กี่หุ้น
ต้องแจกจ่ายให้นักลงทุนคนอื่นกี่หุ้น เกมส์นี้ถึงจะได้เปรียบ กระมัง
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 13
ภาวะแบบนี้ ไม่ควรขายหุ้น
เพราะ ปริมาณเงินในโลกสูงมาก
QE จะทำให้เงินเฟ้อ ดังนั้นไม่ควรถือเงินสด
เพราะ ปริมาณเงินในโลกสูงมาก
QE จะทำให้เงินเฟ้อ ดังนั้นไม่ควรถือเงินสด
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 14
ถ้าหุ้นตัวไหน สามารถปันผลมากกว่า 5%
ธุรกิจเข้มแข็ง การถือหุ้น จะดีกว่าถือเงินสดมาก
ธุรกิจเข้มแข็ง การถือหุ้น จะดีกว่าถือเงินสดมาก
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 16
ขอบคุณมากๆนะครับผม
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 18
ผมว่าหลักการบริหารพอร์ต มัน ยากกว่าการเลือกหุ้นเยอะเลยนะครับ
ผลตอบแทนในระยะยาว มันตัดกันที่การบริหารพอร์ตนี้แหละ
ผลตอบแทนในระยะยาว มันตัดกันที่การบริหารพอร์ตนี้แหละ
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 19
ช่วงนี้ theme การเขียนของดร. มาแนวสะกิดเตือนเรื่องตลาดที่กำลังร้อนแรง ซึ่งก็ช่วยเตือนสติเราให้ระวัง
สงสัยรวมเล่มบทความเล่มหน้าคงต้องชื่อ "กลยุทธ์การเล่นหุ้นในปีกระทิง"
อ่านบทความนี้แล้วก็ให้นึกถึง Money House Effect ซึ่งคนเราจะเริ่มเสี่ยงมากขึ้น ๆเรื่อยตอนที่เรามีกำไร
เพราะคิดว่าเป็นเงินที่ได้มาจากคนอื่น ไม่ใช่ของเรา ในช่วงตลาดกระทิงอย่างนี้ปรกกฎการณ์นี้คงใช่อย่างที่ว่า
สงสัยรวมเล่มบทความเล่มหน้าคงต้องชื่อ "กลยุทธ์การเล่นหุ้นในปีกระทิง"
อ่านบทความนี้แล้วก็ให้นึกถึง Money House Effect ซึ่งคนเราจะเริ่มเสี่ยงมากขึ้น ๆเรื่อยตอนที่เรามีกำไร
เพราะคิดว่าเป็นเงินที่ได้มาจากคนอื่น ไม่ใช่ของเรา ในช่วงตลาดกระทิงอย่างนี้ปรกกฎการณ์นี้คงใช่อย่างที่ว่า
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 21
โห ดร.เป็นทั้งเซียนตีแตก และบ๊อกเด้งนี่เอง... ว่าไปแล้วก็อยากเห็น ดร. ตอนสับไพ่จริงๆ ไม่รู้จะออกมายังไง แซวเล่นครับ
- kopoko
- Verified User
- โพสต์: 383
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 25
เหมือนจริงๆผมก็เคย เสพติดการเล่นป้อกเด้งอยู่ช่วงนึง เงินมาแปปเดียวจริงๆ
ผมว่าถ้าจะเปรียบการลงทุนในหุ้นคงคล้าย การเล่นโป้กเกอร์ครับ เพราะถ้าไพ่ดี เรายอมเทหมดหน้าตัก ไม่ดียอมหมอบหรือไม่ลงไปเล่น
ขอบคุณบทความครับ
ผมว่าถ้าจะเปรียบการลงทุนในหุ้นคงคล้าย การเล่นโป้กเกอร์ครับ เพราะถ้าไพ่ดี เรายอมเทหมดหน้าตัก ไม่ดียอมหมอบหรือไม่ลงไปเล่น
ขอบคุณบทความครับ
ไม่เป็นจึงต้องเรียน ไม่รู้จึงต้องถาม
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 27
ผมไม่เข้าใจ สิ่งที่อาจารเขียนว่ากำลังบอกอะไร
1. รีบขายทำกำไร (กำไรพอแล้ว) ขึ้นมามาก
2. ขายทำกำไรซัก ครึ่งนึง
3. ไม่ซื้อหุ้นเพิ่ม
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าเงิน กำลังท่วม
ถ้าเราขายหุ้นแล้ว เราจะเอาเงินไปทำอะไร
หุ้นไม่เหมือนไพ่ ไพ่เราสามารถหยิบเงินหน้าตักเราออกมาได้เลย
แต่ถ้าเป็นหุ้น ถ้าต้องการกันเงินออกมาเราต้องขายหุ้น
(อาจารย์ บอกตลอดเวลาว่า หุ้นดีที่สุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ตัวอื่น
และโดยส่วยตัวอาจารย์ก็ถือหุ้นเกือบ 100%)
1. รีบขายทำกำไร (กำไรพอแล้ว) ขึ้นมามาก
2. ขายทำกำไรซัก ครึ่งนึง
3. ไม่ซื้อหุ้นเพิ่ม
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าเงิน กำลังท่วม
ถ้าเราขายหุ้นแล้ว เราจะเอาเงินไปทำอะไร
หุ้นไม่เหมือนไพ่ ไพ่เราสามารถหยิบเงินหน้าตักเราออกมาได้เลย
แต่ถ้าเป็นหุ้น ถ้าต้องการกันเงินออกมาเราต้องขายหุ้น
(อาจารย์ บอกตลอดเวลาว่า หุ้นดีที่สุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ตัวอื่น
และโดยส่วยตัวอาจารย์ก็ถือหุ้นเกือบ 100%)
Blueplanet
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1657
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจ้ามือป๊อกเด้ง / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 29
ผมเข้าใจว่าแกอาจจะหมายความว่า เมื่อเราได้กำไรมามาก หลายครั้งblueplanet เขียน:ผมไม่เข้าใจ สิ่งที่อาจารเขียนว่ากำลังบอกอะไร
1. รีบขายทำกำไร (กำไรพอแล้ว) ขึ้นมามาก
2. ขายทำกำไรซัก ครึ่งนึง
3. ไม่ซื้อหุ้นเพิ่ม
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าเงิน กำลังท่วม
ถ้าเราขายหุ้นแล้ว เราจะเอาเงินไปทำอะไร
หุ้นไม่เหมือนไพ่ ไพ่เราสามารถหยิบเงินหน้าตักเราออกมาได้เลย
แต่ถ้าเป็นหุ้น ถ้าต้องการกันเงินออกมาเราต้องขายหุ้น
(อาจารย์ บอกตลอดเวลาว่า หุ้นดีที่สุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ตัวอื่น
และโดยส่วยตัวอาจารย์ก็ถือหุ้นเกือบ 100%)
อาจจะทำให้เรามีความมั่นใจมากเกินไป
จนอาจจะมีบางครั้งที่ความมั่นใจนั้นกลับมาทำร้ายเรา
เพื่อเป็นการ safe ตัวเองจากความมั่นใจเกินไปนั้น
การเอาเงินออกมาบ้างก็อาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ดี วิธีหนึ่ง