สุขสันต์วันเกิด 80ปี วอร์เรน บัฟเฟต:ValueWay วิบูลย์ พึง...

[PERFECT LUCKY]

Value Way ฉบับวันที่ 13 กันยายน 2553
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ

สุขสันต์วันเกิด 80 ปีวอร์เรน บัฟเฟต

นักลงทุนระดับตำนานวอร์เรน บัฟเฟตมีอายุครบ 80 ปีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ในช่วงอายุเช่นนี้หลายๆคนอาจเลิกทำงานไปหลายปีแล้ว แต่บัฟเฟตยังดูเหมือนว่าเขายังคงสนุกกับงานของเขาที่เบิร์คไชน์มากขึ้นทุกวัน ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2007 เขาเขียนในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่าเขาคาดว่าตนเองคงมีอายุไปได้อีกสัก 12 ปีนับจากวันนั้น ประเมินคร่าวๆว่าเขาคงอยู่ได้ถึงอายุ 88 ปี แต่หลายคนที่ใกล้ชิดกับเขาคิดเหมือนกันว่าเขาเก่งขึ้นเรื่อยๆตามอายุและไม่มีแนวโน้มว่าเขาจะเลิกทำงานแต่อย่างใด

บัฟเฟตให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า เขาวางแผนที่จะทำงานจนอายุเลย 100 ปี แต่ถ้าจะทำอย่างนั้นได้เขาคงต้องเรียนรู้ที่หัดคิดอะไรนอกกรอบมากๆ เขาไม่คิดที่จะเกษียณอายุจากการทำงานเพราะเขารักงานของเขาที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับบัฟเฟตจริงๆ คณะกรรมการของบริษัทเบิร์คไชน์มีหน้าที่ประกาศตำแหน่งซีอีโอคนใหม่มาแทนเขาในการบริหารงานและผู้บริหารอีกคนที่มาดูแลด้านการลงทุน ปัจจุบันมีผู้ถูกวางตัวอยู่สามคนที่มาทำหน้าที่แทนบัฟเฟตได้ หนึ่งในนั้นคือเดวิด โซคอล (David Sokol) ผู้บริหารของบริษัทมิดอเมริกันเอเนอยี่ (MidAmerican Energy Holding) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเบิร์คไชน์ในปัจจุบัน ในส่วนของผู้บริหารเงินลงทุนยังไม่มีความชัดเจนสักเท่าไหร่นักว่าใครจะเป็นผู้มาแทนบัฟเฟต การขาดแผนที่ชัดเจนในการหาผู้มาทดแทนเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยงสำคัญของบริษัทในการดำเนินงานให้มีผลประกอบที่ดีเยี่ยมเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่ปี 1965 ถึงปี 2009 เบิร์คไชน์ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ยปีละ 20.3% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี (S&P 500) มีผลตอบแทนเพียง 9.3%

ชาร์ลี มังเกอร์ คู่หูของบัฟเฟตและผู้ช่วยประธานกรรมการเบิร์คไชน์เคยถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้มาดำรงตำแหน่งแทนบัฟเฟต แต่ปัจจุบันชาร์ลีมีอายุ 86 ปีแล้วซึ่งมากกว่าตัวบัฟเฟตเองเสียอีก ตัวแทนอีกคนที่เคยถูกคาดหมายว่าจะมาทำหน้าที่แทนบัฟเฟตคือลู ซิมป์สัน (Louis Simpson) ผู้ทำหน้าที่บริหารเงินลงทุนของบริษัทไจโค (Geico Insurance) แต่ปัจจุบันลูตัดสินใจเกษียณอายุจากการทำงานในปลายปีนี้ เขาอายุ 73 ปีน้อยกว่าบัฟเฟตไม่มาก บัฟเฟตกล่าวว่าเขาคงไม่สามารถยืดเวลาทำงานของลูไปได้มากกว่านี้เพราะเป็นการตัดสินใจของลูเอง แต่เขาก็ยังหวังว่าลูคงจะเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย บัฟเฟตกล่าวว่าคงต้องนำเงินลงทุนจำนวน 4 พันล้านเหรียญของไจโคมารวมกับเงินลงทุนขนาด 5 หมื่นล้านเหรียญของเบริคไชน์

ผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะมาทำหน้าที่แทนบัฟเฟตในเรื่องของการบริหารเงินลงทุนอีกคนคือลี ลู (Li Lu) อดีตนักศึกษาจีนผู้ลี้ภัยจากเหตุการณ์จตุรัสเทียนอันเมิน ปัจจุบันลีอายุ 44 ปี เขาเป็นคนที่แนะนำให้บัฟเฟตลงทุนในบริษัทบีวายดี ผู้ผลิตแบตเตอรี่และรถไฟฟ้าชั้นนำของจีน แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าลีเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารเงินลงทุนของเบิร์ตไชน์อย่างไรในปัจจุบัน
สำหรับตัวบัฟเฟตเอง ถึงแม้เขาจะชอบอาหารจังค์ฟู้ดอย่างแฮมเบอร์เกอร์และชอบดื่มน้ำอัดลมอย่างเชอรี่โค๊กเป็นชีวิตจิตใจ เขายังไม่มีอาการของความเจ็บป่วยร้ายแรงแต่อย่างใด บัฟเฟตเคยเขียนไว้ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อหลายปีก่อนกล่าวว่าเขาเข้าใจดีว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เขาหมดสภาพที่จะบริหารงานต่อไปแล้ว ในความเป็นจริงตัวเขาเองอาจไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงเวลานั้นอาจจำเป็นต้องมีใครบางคนคอยเป่านกหวีดบอกหมดเวลาสำหรับเขาแล้ว

บัฟเฟตเคยกล่าวไว้เขาหวังว่าเมื่อวันหนึ่งที่สมองของเขาเกิดละเลือนขึ้นมา บิล เกต ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ผู้เป็นเพื่อนเล่นบริดจ์และเป็นหนึ่งในกรรมการของเบริ์คไชน์จะช่วยเป่านกหวีดนั้นเพื่อบอกเขาให้เลิกทำงาน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ วันนั้นยังไม่มาถึง