ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
oatty
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2444
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โลกในมุมมองของ Value Investor               9 สิงหาคม 2552

ในอดีตนั้น  การลงทุนในหุ้นสำหรับ Value Investor ค่อนข้างจำกัดอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น  แต่ปัจจุบันเรามีทางเลือกที่จะลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้  การลงทุนในต่างประเทศนั้น   ดูเหมือนจะไม่ได้ยากอย่างที่หลายคนอาจจะกลัวกันอีกต่อไป   เพราะปัจจุบันมีโบรกเกอร์  หลายรายให้บริการการซื้อขายหุ้นต่างประเทศสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่มีเงินเพียงประมาณห้าแสนหรือหนึ่งล้านบาทขึ้นไป  การซื้อขายก็ทำกันทางอินเตอร์เน็ตที่ไม่ได้แตกต่างจากการซื้อขายหุ้นไทยเท่าใดนัก  ผมคงยังไม่วิจารณ์ว่า  Value Investor ควรจะลงทุนในหุ้นต่างประเทศหรือไม่  แต่อยากจะวิเคราะห์ถึงข้อดีและข้อเสียของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะในกรณีของการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกาเป็นหลัก

ข้อดีข้อแรกของการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างตลาดนิวยอร์กก็คือ  เรามีโอกาสในการเลือกลงทุนในหุ้นจำนวนมาก   นอกจากจำนวนของบริษัทที่มีมากมายแล้ว  เรายังมีโอกาสหาหุ้นที่มีลักษณะเฉพาะที่เราต้องการลงทุนได้มากมายซึ่งหาไม่ได้จากตลาดหุ้นไทย   ยกตัวอย่างเช่น  หุ้นของกิจการที่  “ดีเยี่ยม”  แบบ  “Great Company”  ที่มีโอกาสที่จะกลายเป็น  “Super Stock” ที่ให้ผลตอบแทนมหาศาลในระยะยาวอย่างที่ วอเร็น บัฟเฟตต์ ชอบลงทุนนั้น  ถ้าเรานำมาใช้ในตลาดหุ้นไทย  เราอาจจะหาได้ค่อนข้างยาก  แต่ในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น  หุ้นที่มีคุณภาพสูงระดับโลกนั้นมีมากมายให้เลือก  ไล่ตั้งแต่หุ้น Google  ไปถึง  ไมโครซอพท์  ที่เป็นหุ้นไฮเท็ค ถึงหุ้นโค๊กที่เด่นทางด้านยี่ห้อ  และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเงินระดับโลกอย่างหุ้นที่ให้บริการบัตรเครดิตเช่น  หุ้นวีซ่า เป็นต้น

ข้อดีข้อสองก็คือ  ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐโดยเฉลี่ยในระยะยาวนั้นดูเหมือนจะสูงกว่าผลตอบแทนที่ได้จากตลาดหุ้นไทย  โดยที่ผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นของอเมริกานั้นให้ผลตอบแทนประมาณปีละ 10-11%  ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยน่าจะให้ผลตอบแทนประมาณปีละ 8-9%  ผลต่างประมาณปีละ 2%  นั้นในระยะยาวก็ถือว่าค่อนข้างต่างกันมาก  และนั่นก็อาจจะเป็นผลจากคุณภาพที่สูงกว่าของบริษัทจดทะเบียนในอเมริกาเทียบกับบริษัทไทย

ข้อดีข้อสามก็คือ  การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศด้วยนั้น  ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนลง  เพราะการขึ้นลงของราคาหุ้นของไทยกับหุ้นต่างประเทศนั้นโดยทั่วไปมักจะไม่ตรงกัน  บางช่วงที่ตลาดหุ้นไทยคึกคัก  หุ้นต่างประเทศอาจจะซบเซา  และช่วงที่หุ้นต่างประเทศดี  หุ้นไทยอาจจะแย่  โดยรวมแล้ว  ถ้าเรามีหุ้นอยู่ในทั้งสองตลาด   ผลตอบแทนการลงทุนของเราจะมีความสม่ำเสมอขึ้นหรือก็คือความเสี่ยงลดลง

ข้อดีข้อที่สี่  ระบบบัญชีและการรายงานต่าง ๆ  ของบริษัทในอเมริกามีความโปร่งใสและผู้บริหารสามารถให้ข้อมูลแก่นักลงทุนได้มากกว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย  ยกตัวอย่างเช่น  ผู้บริหารสามารถคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทได้เป็นรายไตรมาศซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถนำมาใช้ประกอบในการตัดสินใจซื้อขายหุ้นได้  นอกจากนั้น  สังคมของนักวิเคราะห์ที่มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นก็ทำให้การคาดการณ์ต่าง ๆ  เกี่ยวกับผลประกอบการมักจะไม่ค่อย  “มั่ว”   ถ้าผู้บริหารคาดการณ์ผิดบ่อยหรือผิดไปมากก็จะเสียเครดิต

ข้อเสียของการไปลงทุนนอกประเทศนั้นก็มีไม่น้อยกว่ากัน  ข้อแรกก็คือ  ความเข้าใจในตัวกิจการหรือบริษัทที่เราจะลงทุนในต่างประเทศนั้นอาจจะมีน้อยกว่าในกรณีของบริษัทในประเทศไทย  จริงอยู่  ข้อมูลที่เป็นตัวเลขหรือรายงานต่าง ๆ  ของบริษัทต่างประเทศอาจจะดี มีมาก  และหาได้ง่ายกว่าโดยที่เราเพียงแต่เข้าไปดูผ่านหน้าเว็บดัง ๆ  อย่าง  YAHOO FINANCE  ได้  แต่ข้อมูลที่เราจำเป็นต้อง “สัมผัส”  เช่นในเรื่องของผลิตภัณฑ์  การตลาด  หรือการพบปะกับผู้บริหารนั้น  เราไม่สามารถทำใด้  นอกจากนั้น  สำหรับหลายคนที่ภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรงพอ   การทำความเข้าใจในตัวบริษัทก็จะยากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

ข้อเสียข้อที่สองก็คือ   การซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นอเมริกามีต้นทุนค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายสูงกว่าในตลาดไทย  โดยที่ค่าคอมมิชชั่นรวมกับค่าบริการอื่น ๆ  แล้ว   อาจจะขึ้นถึง 0.5%  ในกรณีที่ซื้อขายครั้งละไม่มาก  ในขณะที่ของไทยอยู่ที่ประมาณ 0.2 - 0.27%  รวมภาษี  อย่างไรก็ตาม  ความแตกต่างนี้ก็อาจจะไม่ถึงกับมากถ้าเราไม่ได้ซื้อขายหุ้นบ่อย

ข้อเสียข้อสามก็คือ  การซื้อขายหุ้นในตลาดสหรัฐนั้น  เรามีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเงินดอลลาร์กับเงินบาทซึ่งคาดการณ์ไม่ได้  นอกจากนั้น  เราต้องมีการแลกเงินในกรณีซื้อขายครั้งแรกและตอนที่จะเอาเงินกลับซึ่งทำให้เราเสีย  Spread หรือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขายเงินตราที่ธนาคารคิดกับเราซึ่งก็มักจะต่างกันพอสมควร

ข้อเสียที่สี่ก็คือ  การลงทุนในต่างประเทศนั้น  กฏก็คือ  ถ้าเราได้กำไรจากการขายหุ้นและนำเงินเข้ามาในประเทศในปีภาษีเดียวกัน  เราจะต้องนำกำไรที่ได้ไปคิดคำนวณเป็นรายได้ส่วนบุคคลที่จะต้องเสียภาษีรายได้ประจำปี   ดังนั้น  ถ้าไม่ต้องการเสียภาษีนี้ก็ต้องนำเงินเข้ามาในปีต่อไป  ซึ่งทำให้การโอนย้ายเงินไม่คล่องตัวนัก  

ข้อเสียสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ  ความเสี่ยงในเรื่องของกฏระเบียบและวิธีปฏิบัติโดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับภาษีต่าง ๆ   ของการลงทุนซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ  ในขณะนี้อาจจะมีการสรุปแนวทางปฏิบัติเป็นที่ตกลงกันระหว่างโบรกเกอร์กับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกันแล้ว  แต่ก็เช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ  เรื่อง    ความเห็นและความเข้าใจกันในวันนี้อาจจะไม่ได้รับการยอมรับหรือมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปหรือมีเจ้าหน้าที่คนใหม่เข้ารับหน้าที่ต่อ  ความเสี่ยงตรงนี้ไม่มีใครบอกได้ว่าสูงต่ำแค่ไหน   แต่ถ้าเกิดขึ้น  ความยุ่งยากคงจะมีไม่น้อย   และนี่อาจจะเป็นข้อเสียที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งสำหรับคนที่ระมัดระวังและไม่ค่อยไว้วางใจกับระบบของราชการไทยอย่างผม

กล่าวโดยสรุปสำหรับตัวผมเองนั้น  ในขั้นนี้ผมคงจะรอดูไปก่อน  และตราบใดที่ยังพอหาหุ้นดีที่คุ้มค่าน่าลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้พอสมควรผมก็คงไม่ไปลงทุนในต่างประเทศ  อย่างไรก็ตาม  ผมคิดว่าการลงทุนในต่างประเทศนั้น  มีประโยชน์และมีคุณค่าพอสมควรทีเดียว   และวันหนึ่งก็อาจจะหนีไม่พ้นที่ผมจะต้องไปลงทุนด้วยเหมือนกัน
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1254
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

:bow:

ยุทธจักรหุ้นโลก กำลังรอคอยท่านอ.อยู่ครับ จีนกับอินเดียก็น่าสนใจในการลงทุนมากครับ

ถ้าท่านอ.ได้เป็นมหาเศรษฐีแล้วการสละเงินสักเล็กน้อยในการไปรับประทานอาหารกับท่านปู่บัฟเฟตต์อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ท่านทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับท่านเกตต์ก็เป็นได้ครับ แต่บางสิ่งที่เงินนำพามาได้อาจทำให้ท่านอ.มีความสุขได้มากขึ้น ก็คือกิจกรรมที่น่าสนใจบางอย่างเช่นการลงทุนในนาฬิการาคาแพง(อย่างที่คุณไตรภพใส่ออกรายการ) แน่นอนว่าคงจะให้ผลตอบแทนการลงทุนมากเท่าที่ตลาดหุ้นให้ได้ยาก แต่คงจะช่วยเพิ่มความสำราญให้กับผู้หลงใหลในนาฬิกาได้มาก  :idea:

ปล.ที่ว่าเป็นกิจกรรมนั้นเพราะถ้าท่านให้เวลายามว่างศึกษาเรื่องนาฬิการาคาแพงเป็นอย่างดีจะทำให้ท่านสนุกมากขึ้นเวลาไปเลือกซิ้อโดยลองคาดการณ์ล่วงหน้าว่าในอนาคต(เช่น5ปีข้างหน้า)นาฬิกาTOP5หรือTOP10ใดจะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในการลงทุนมากที่สุดแล้วก็เลือกเรือนที่ท่านชอบในนั้นมา
เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับที่ท่านคาดไว้ก็จะทำให้ท่านมีความสุขมากขึ้นได้และถึงเวลาที่ท่านจะได้นาฤกาเรือนใหม่อีกแล้วหลักจากผลตอบเรือนที่ได้คาดไว้เป็นที่น่าpor jai kub :)
เด็กใหม่ไฟแรง
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1575
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

moneytalk daily กำลังเชิญผู้เชี่ยวชาญการสะสมและลงทุนนาฬิกามาออกรายการครับ
อาจจะทำให้ ดร.นิเวศน์ สนใจบ้างก็ได้ครับ
แต่ส่วนตัวผมว่า ยาก............ครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
niyom_value
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 4

โพสต์

น่าจะเป็นการขยายขอบเขตความมั่งคั่งของ ท่านอ. ละครับ
หรือไม่ก็เป็นการ Think Global Act Local
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4549
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

สองคน ยลตามช่อง

คนหนึ่ง มอง เห็นโคลนตม

คนหนึ่งตาแหลมคม  เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย



ดร. เก็บได้หมดทุกเม็ดจริงๆครับ

สุดยอดครับ   :D
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1464
ผู้ติดตาม: 1

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ETF ก็น่าสนใจนะครับ ซื้อหุ้นรายตัวตปท. ผมว่าถ้าไม่จัดพอร์ตดี ๆ และเข้าใจกิจการมาก ๆ ก็เสี่ยงมาก

เคยศึกษาอยู่พักนึง พอหุ้นไทยราคาตกปลายปี โปรเจคเลยเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนด :lol:
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
A man from the Islay
Verified User
โพสต์: 393
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ดร ครับ ข้อเสียของหุ้นตปทข้อ 3&4 ถ้ามี บช off-shore ไม่ต้องกังวลน่ะครับ เข้าใจว่า ดร ก็คงทราบดีเช่นกัน

ผมเติมข้อเสียอีกอย่างว่า inheritant tax สูงมาก แล้วแต่กรณีแต่โดยเฉลี่ยประมาณ 30% ครับ
chode
Verified User
โพสต์: 590
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 8

โพสต์

A man from the Islay เขียน:ผมเติมข้อเสียอีกอย่างว่า inheritant tax สูงมาก แล้วแต่กรณีแต่โดยเฉลี่ยประมาณ 30% ครับ
ในอเมริกายังเหลือแค่บางรัฐนี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Inheritance_tax
A man from the Islay
Verified User
โพสต์: 393
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ทุกบัญชีที่ถือหุ้น US, ไม่ว่าจะเป็น on/offshore account, ถ้าเกิดเจ้าของบัญชีเสียชีวิต  คนที่เป็น benefitiary ของคนที่เสียชีวิตจะโดน tax โดยประมาณ 30%.
แต่โดยมากเลี่ยงได้เพราะใส่ชื่อได้ 4 คนในบัญชี ถ้าเสียชีวิตก็จะโดน tax 30% ของ 1/4 ของทั้งหมด

หรือถ้าเกิดกำลังจะเสียชีวิต (ป่วยหนัก) คนที่อยู่อีก 3 คนทำเรื่องโอนย้าย assests ออกมาจากคนนั้นก็ได้ครับ ยกเว้นเดินทางพร้อมกันหมด แล้วเกิดอุบัติเหตุ กรณนี้ช่วยไม่ได้

ไม่ได้กำหนดว่ารัฐไหนครับ เพราะไม่ได้เป็นอสังหาริมทรัพย์
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1254
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 10

โพสต์

การได้รับความรู้ผ่านสื่อมากมายของท่านอ. ทำให้ผมคิดได้ว่าสไตล์การลงทุนของปีเตอร์ลินซ์นั้นคงจะทำให้ท่านอ.สบายใจได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นตลาดหุ้นฮ่องกงกับเวียดนามอาจเหมาะกับท่านเพราะว่าเดินทางสะดวกไปกลับภายในได้ ถ้าจีนกลับภายในวันได้แต่ท่านอ.คงจะเหนื่อยหน่อย ชิวๆคงต้องให้เวลาซัก2วันครับ :8)

มีคำถามที่น่าสนใจถ้าท่านเชิญคุณหมอสมมาเป็นกูรูรับเชิญอีก ในหนังสือเขียนว่าถ้ามนุษย์ใช้กำลังสติได้10%จะเป็นอัจฉริยะ ไม่ทราบว่ามีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มารองรับไหมครับ :idea:

Taxนอกนี่ไม่เบาเลยลงทุนไทยสบายกว่ากันเยอะ :)
richreason
Verified User
โพสต์: 21
ผู้ติดตาม: 0

ซื้อหุ้นต่างประเทศ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ตอนนี้หุ้น US น่าสนใจมั้ยครับ ช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้น
โพสต์โพสต์