หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 1
โลกในมุมมองของ Value Investor 30 พ.ค. 52
ในช่วงนี้นอกจากหุ้นพลังงานและหุ้นสถาบันการเงินที่กำลังวิ่งขึ้นเป็นกระทิงแล้ว หุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่วิ่งขึ้นไม่น้อยไปกว่ากันก็คือหุ้นของกลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรรซึ่งรวมถึงคอนโดก็วิ่งขึ้นไม่แพ้กัน ที่สำคัญ หุ้นหลายตัวไม่ใช่หุ้นตัวใหญ่ที่เป็นกลุ่มที่กำลังวิ่งนำตลาดอยู่ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่สร้างบ้านและคอนโดมิเนียมขายนั้น เป็นธุรกิจที่ “มีเสน่ห์” และเป็นหุ้นที่ “ไม่เคยตาย” ในตลาดหุ้นไทย เพราะคุณสมบัติสำคัญของหุ้นกลุ่มนี้ก็คือ เวลาที่มันวิ่ง มันจะขึ้นแรงมาก ตรงกันข้าม เวลาที่ลง มันก็ลงแรงมาก และไม่ว่าเวลาใด ปริมาณการซื้อขายมีมาก เรียกว่ามีสภาพคล่องสูงเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของกิจการ ดังนั้น ถ้าจะหาหุ้นเก็งกำไรที่เล่นสนุก ได้เสียกันเร็วแล้วละก็ นี่เลย!
แต่หุ้นบ้านจัดสรรนี้เป็นหุ้นที่มีความซับซ้อนและการวิเคราะห์ก็ต้องมองแตกต่างไปจากหุ้นของกิจการอื่นพอสมควร ถ้าคิดแบบธรรมดาเราก็อาจจะวิเคราะห์ผิดได้ ที่สำคัญก็คือ การดูตัวเลขผลประกอบการนั้น อาจจะใช้ไม่ได้และกลายเป็นกับดักให้เราเข้าไปติด และนี่ทำให้การดูค่า PE สำหรับธุรกิจบ้านจัดสรรนั้น มีความหมายน้อยกว่ากิจการอย่างอื่นอีกหลาย ๆ อย่าง
ความแตกต่างหรือแปลกไปจากธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจเรื่องแรกก็คือ ตัวเลขผลประกอบการของธุรกิจบ้านจัดสรรที่ “เพิ่งประกาศ” มานั้น มักจะเป็นผลงานของบริษัทใน “อดีต” ที่ห่างไกล เช่น กำไรที่เห็นในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องของการขายคอนโดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อ “สองปี” ที่แล้ว เหตุผลก็คือ การรับรู้รายได้ส่วนใหญ่นั้น เพิ่งจะมาทำกันตอนคอนโดสร้างเสร็จและโอนกันเรียบร้อยหลังจากการสร้างเสร็จซึ่งใช้เวลาสองปี ดังนั้น เมื่อเราเห็นกำไรที่งดงามในวันนี้ ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะการซื้อหุ้นนั้นหรือราคาหุ้นที่จะไปนั้นอยู่ที่ผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่ผลประกอบการในอดีต
สิ่งที่ช่วยพิสูจน์หรือยืนยันในเรื่องของผลประกอบการของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็คือ ผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มนี้ในไตรมาศแรกที่ผ่านมา นั่นก็คือ ในขณะที่เศรษฐกิจในไตรมาศแรกของปีนี้ตกต่ำที่สุดคือลบลงมาถึง 7% ซึ่งทำให้ผลประกอบการรวมของบริษัทจดทะเบียนลดลงถึงเกือบ 50% จากปีก่อน แต่ผลประกอบการของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งโดยตรรกะแล้วควรที่จะถูกกระทบมากกว่าธุรกิจอื่นเนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาสูงมากและผู้คนมักจะไม่อยากลงทุนซื้อในยามที่มีความไม่แน่นอนของการจ้างงาน กลับมีผลกำไร “เท่าเดิม” โดยที่หลายบริษัทมีผลกำไรมากกว่าเดิมมาก ดังนั้น ข้อสรุปของเรื่องนี้ก็คือ เวลาวิเคราะห์ดูพื้นฐานของกิจการบ้านจัดสรร อย่าเพิ่งใช้ตัวเลขกำไรในไตรมาศหรือแม้แต่ปีที่ผ่านมาเป็นตัวอ้างอิง
กิจการพัฒนาบ้านจัดสรรขายนั้น เป็นกิจการที่ต้อง “เริ่มต้นใหม่ทุกปี” นั่นคือ มันเป็นธุรกิจที่ต้องหาลูกค้าใหม่เกือบทั้งหมด ลูกค้า “ขาประจำ” ที่จะกลับมาซื้อซ้ำนั้นแทบไม่มีเพราะบ้านนั้น เวลาซื้อแล้ว ส่วนใหญ่ก็ไม่ซื้ออีกในชีวิตนี้ ดังนั้น การที่จะคาดหวังยอดขายและรายได้ในแต่ละปีก็มักจะทำได้ยาก การสร้างความภักดีในยี่ห้อหรือตัวสินค้าก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องอะไร เหนือสิ่งอื่นใด ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อบ้านนั้น เขามักจะเลือกที่ทำเลเป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นเป็นตัวประกอบ ดังนั้น การต่อสู้กันของผู้ประกอบการจึงอยู่ที่ทำเลซึ่งไม่มีใครได้เปรียบใครเนื่องจากทุกคนสามารถหาซื้อที่ดินที่ไหนก็ได้
ว่าที่จริง การทำธุรกิจบ้านจัดสรรนั้น บริษัทจำนวนมากแทบจะไม่ได้มีคนหรือหน่วยงานมากมายในการดำเนินงานเลย ยกเว้นเรื่องของที่ดินที่บริษัทต้องซื้อเองและการดูแลงานปฏิบัติการของบริษัทซึ่งก็ไม่ต้องใช้คนมากมายอะไรแล้ว บริษัทสามารถจ้างคนออกแบบบ้านหรือคอนโดให้หรูหราอย่างไรก็ได้โดยสถาปนิกชื่อดัง บริษัทสามารถจ้างบริษัทอื่นในการขายของโครงการหรือถ้าขายเองก็จ้างคนอื่นในการทำโฆษณา ขายได้แล้วบริษัทก็มักจะจ้างบริษัทอื่นเป็นคนสร้าง สรุปแล้ว การเป็นบริษัททำโครงการจัดสรรนั้นดูเหมือนไม่ใช่เรื่องยาก บางทีขอให้มีทำเลที่ดีก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างสูงได้ และว่าที่จริงก็มีโครงการอย่างที่ว่าให้เห็นมาพอสมควรด้วย และนี่ก็มาถึงข้อสรุปที่ว่า บริษัทบ้านจัดสรรนั้น ส่วนใหญ่ไม่น่าจะมี Goodwill หรือค่าความนิยมในทางธุรกิจ ซึ่งถ้าจะขยายความก็คือ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้มีลูกค้า ระบบการทำงาน ชื่อเสียงของยี่ห้อ และอื่น ๆ ที่ทำให้ธุรกิจมีค่ามากกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท
และนั่นนำมาถึงข้อสรุปสุดท้ายที่ว่า ถ้าพูดถึงมูลค่าพื้นฐานของหุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว ผมคิดว่า หุ้นอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่นั้น ถ้าเราไม่สามารถหา ความ “โดดเด่นพิเศษ” ที่บริษัทอื่นทำไม่ได้หรือเลียนแบบไม่ได้ เราก็อาจจะเสี่ยงถ้าไปลงทุนในบริษัทที่มีราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีของบริษัท
ประเด็นที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ แม้ว่าเราจะพบและลงทุนในหุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจและมีราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ เราไม่ควรถือไว้ยาวนานเกินไป เพราะธุรกิจนี้มีลักษณะที่เป็นวัฏจักรขึ้นและลงเป็นรอบ ๆ ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ผมเองไม่แน่ใจว่าธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจที่จะค่อย ๆ ตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ หรือไม่ในระยะยาว เหตุผลก็คือ อัตราการเกิดของคนไทยลดลงมาก ถึงวันหนึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะไม่จำเป็นต้องมีบ้านใหม่เพราะสามารถรับมรดกบ้านต่อจากพ่อแม่ได้ ดังนั้น การลงทุนในหุ้นบ้านจัดสรรนั้น เราต้องรู้ว่า นี่เป็นเกมที่ไม่สามารถซื้อไว้แล้วนั่งอยู่เฉย ๆ นาน ๆ ได้
ในช่วงนี้นอกจากหุ้นพลังงานและหุ้นสถาบันการเงินที่กำลังวิ่งขึ้นเป็นกระทิงแล้ว หุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่วิ่งขึ้นไม่น้อยไปกว่ากันก็คือหุ้นของกลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรรซึ่งรวมถึงคอนโดก็วิ่งขึ้นไม่แพ้กัน ที่สำคัญ หุ้นหลายตัวไม่ใช่หุ้นตัวใหญ่ที่เป็นกลุ่มที่กำลังวิ่งนำตลาดอยู่ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่สร้างบ้านและคอนโดมิเนียมขายนั้น เป็นธุรกิจที่ “มีเสน่ห์” และเป็นหุ้นที่ “ไม่เคยตาย” ในตลาดหุ้นไทย เพราะคุณสมบัติสำคัญของหุ้นกลุ่มนี้ก็คือ เวลาที่มันวิ่ง มันจะขึ้นแรงมาก ตรงกันข้าม เวลาที่ลง มันก็ลงแรงมาก และไม่ว่าเวลาใด ปริมาณการซื้อขายมีมาก เรียกว่ามีสภาพคล่องสูงเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของกิจการ ดังนั้น ถ้าจะหาหุ้นเก็งกำไรที่เล่นสนุก ได้เสียกันเร็วแล้วละก็ นี่เลย!
แต่หุ้นบ้านจัดสรรนี้เป็นหุ้นที่มีความซับซ้อนและการวิเคราะห์ก็ต้องมองแตกต่างไปจากหุ้นของกิจการอื่นพอสมควร ถ้าคิดแบบธรรมดาเราก็อาจจะวิเคราะห์ผิดได้ ที่สำคัญก็คือ การดูตัวเลขผลประกอบการนั้น อาจจะใช้ไม่ได้และกลายเป็นกับดักให้เราเข้าไปติด และนี่ทำให้การดูค่า PE สำหรับธุรกิจบ้านจัดสรรนั้น มีความหมายน้อยกว่ากิจการอย่างอื่นอีกหลาย ๆ อย่าง
ความแตกต่างหรือแปลกไปจากธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจเรื่องแรกก็คือ ตัวเลขผลประกอบการของธุรกิจบ้านจัดสรรที่ “เพิ่งประกาศ” มานั้น มักจะเป็นผลงานของบริษัทใน “อดีต” ที่ห่างไกล เช่น กำไรที่เห็นในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องของการขายคอนโดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อ “สองปี” ที่แล้ว เหตุผลก็คือ การรับรู้รายได้ส่วนใหญ่นั้น เพิ่งจะมาทำกันตอนคอนโดสร้างเสร็จและโอนกันเรียบร้อยหลังจากการสร้างเสร็จซึ่งใช้เวลาสองปี ดังนั้น เมื่อเราเห็นกำไรที่งดงามในวันนี้ ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะการซื้อหุ้นนั้นหรือราคาหุ้นที่จะไปนั้นอยู่ที่ผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่ผลประกอบการในอดีต
สิ่งที่ช่วยพิสูจน์หรือยืนยันในเรื่องของผลประกอบการของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็คือ ผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มนี้ในไตรมาศแรกที่ผ่านมา นั่นก็คือ ในขณะที่เศรษฐกิจในไตรมาศแรกของปีนี้ตกต่ำที่สุดคือลบลงมาถึง 7% ซึ่งทำให้ผลประกอบการรวมของบริษัทจดทะเบียนลดลงถึงเกือบ 50% จากปีก่อน แต่ผลประกอบการของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งโดยตรรกะแล้วควรที่จะถูกกระทบมากกว่าธุรกิจอื่นเนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาสูงมากและผู้คนมักจะไม่อยากลงทุนซื้อในยามที่มีความไม่แน่นอนของการจ้างงาน กลับมีผลกำไร “เท่าเดิม” โดยที่หลายบริษัทมีผลกำไรมากกว่าเดิมมาก ดังนั้น ข้อสรุปของเรื่องนี้ก็คือ เวลาวิเคราะห์ดูพื้นฐานของกิจการบ้านจัดสรร อย่าเพิ่งใช้ตัวเลขกำไรในไตรมาศหรือแม้แต่ปีที่ผ่านมาเป็นตัวอ้างอิง
กิจการพัฒนาบ้านจัดสรรขายนั้น เป็นกิจการที่ต้อง “เริ่มต้นใหม่ทุกปี” นั่นคือ มันเป็นธุรกิจที่ต้องหาลูกค้าใหม่เกือบทั้งหมด ลูกค้า “ขาประจำ” ที่จะกลับมาซื้อซ้ำนั้นแทบไม่มีเพราะบ้านนั้น เวลาซื้อแล้ว ส่วนใหญ่ก็ไม่ซื้ออีกในชีวิตนี้ ดังนั้น การที่จะคาดหวังยอดขายและรายได้ในแต่ละปีก็มักจะทำได้ยาก การสร้างความภักดีในยี่ห้อหรือตัวสินค้าก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องอะไร เหนือสิ่งอื่นใด ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อบ้านนั้น เขามักจะเลือกที่ทำเลเป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นเป็นตัวประกอบ ดังนั้น การต่อสู้กันของผู้ประกอบการจึงอยู่ที่ทำเลซึ่งไม่มีใครได้เปรียบใครเนื่องจากทุกคนสามารถหาซื้อที่ดินที่ไหนก็ได้
ว่าที่จริง การทำธุรกิจบ้านจัดสรรนั้น บริษัทจำนวนมากแทบจะไม่ได้มีคนหรือหน่วยงานมากมายในการดำเนินงานเลย ยกเว้นเรื่องของที่ดินที่บริษัทต้องซื้อเองและการดูแลงานปฏิบัติการของบริษัทซึ่งก็ไม่ต้องใช้คนมากมายอะไรแล้ว บริษัทสามารถจ้างคนออกแบบบ้านหรือคอนโดให้หรูหราอย่างไรก็ได้โดยสถาปนิกชื่อดัง บริษัทสามารถจ้างบริษัทอื่นในการขายของโครงการหรือถ้าขายเองก็จ้างคนอื่นในการทำโฆษณา ขายได้แล้วบริษัทก็มักจะจ้างบริษัทอื่นเป็นคนสร้าง สรุปแล้ว การเป็นบริษัททำโครงการจัดสรรนั้นดูเหมือนไม่ใช่เรื่องยาก บางทีขอให้มีทำเลที่ดีก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างสูงได้ และว่าที่จริงก็มีโครงการอย่างที่ว่าให้เห็นมาพอสมควรด้วย และนี่ก็มาถึงข้อสรุปที่ว่า บริษัทบ้านจัดสรรนั้น ส่วนใหญ่ไม่น่าจะมี Goodwill หรือค่าความนิยมในทางธุรกิจ ซึ่งถ้าจะขยายความก็คือ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้มีลูกค้า ระบบการทำงาน ชื่อเสียงของยี่ห้อ และอื่น ๆ ที่ทำให้ธุรกิจมีค่ามากกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท
และนั่นนำมาถึงข้อสรุปสุดท้ายที่ว่า ถ้าพูดถึงมูลค่าพื้นฐานของหุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว ผมคิดว่า หุ้นอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่นั้น ถ้าเราไม่สามารถหา ความ “โดดเด่นพิเศษ” ที่บริษัทอื่นทำไม่ได้หรือเลียนแบบไม่ได้ เราก็อาจจะเสี่ยงถ้าไปลงทุนในบริษัทที่มีราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีของบริษัท
ประเด็นที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ แม้ว่าเราจะพบและลงทุนในหุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจและมีราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ เราไม่ควรถือไว้ยาวนานเกินไป เพราะธุรกิจนี้มีลักษณะที่เป็นวัฏจักรขึ้นและลงเป็นรอบ ๆ ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ผมเองไม่แน่ใจว่าธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจที่จะค่อย ๆ ตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ หรือไม่ในระยะยาว เหตุผลก็คือ อัตราการเกิดของคนไทยลดลงมาก ถึงวันหนึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะไม่จำเป็นต้องมีบ้านใหม่เพราะสามารถรับมรดกบ้านต่อจากพ่อแม่ได้ ดังนั้น การลงทุนในหุ้นบ้านจัดสรรนั้น เราต้องรู้ว่า นี่เป็นเกมที่ไม่สามารถซื้อไว้แล้วนั่งอยู่เฉย ๆ นาน ๆ ได้
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 2
ผมว่าธุรกิจบ้านจัดสรรก็มีค่าความนิยม หรือ Brand นะครับ
เนื่องจากบ้านเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง
แต่การตรวจสอบคุณภาพนั้นยากลำบากสำหรับคนทั่วไป
จะพิจารณาได้แต่ทำเล รูปแบบบ้าน
แต่คุณภาพการก่อสร้างนั้นคงยากที่จะตรวจสอบ
ดังนั้น ชื่อเสียงของบริษัทก็มีส่วนที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
สังเกตได้จากสัดส่วนทางการตลาดจะเป็นของบริษัทใหญ่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากบ้านเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง
แต่การตรวจสอบคุณภาพนั้นยากลำบากสำหรับคนทั่วไป
จะพิจารณาได้แต่ทำเล รูปแบบบ้าน
แต่คุณภาพการก่อสร้างนั้นคงยากที่จะตรวจสอบ
ดังนั้น ชื่อเสียงของบริษัทก็มีส่วนที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
สังเกตได้จากสัดส่วนทางการตลาดจะเป็นของบริษัทใหญ่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1657
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 3
จริงๆแล้วในงานจิบเบียร์ที่ผ่านมาดร.ก็พูดถึงประเด็นนี้เหมือนกัน
แกบอกว่าธุรกิจบ้านจัดสรรที่น่าสนใจก็ควรจะเป็นตัวที่มีแบรนด๋
เนื่องจากพวกเรโชอื่นๆ (p/e, roe)
เราไม่สามารถใช้ได้เลยกับธุรกิจแบบนี้
ถ้าเราสนใจธุรกิจแบบนี้ก็ควรจะเลือกตัวที่มีแบรนด์
ว่าแล้วดร.ก็ยกตัวอย่างมาตัวนึงเป็นตัวใหญ่ที่คุณก็รู้ว่าหมายถึงใคร
แกบอกว่าธุรกิจบ้านจัดสรรที่น่าสนใจก็ควรจะเป็นตัวที่มีแบรนด๋
เนื่องจากพวกเรโชอื่นๆ (p/e, roe)
เราไม่สามารถใช้ได้เลยกับธุรกิจแบบนี้
ถ้าเราสนใจธุรกิจแบบนี้ก็ควรจะเลือกตัวที่มีแบรนด์
ว่าแล้วดร.ก็ยกตัวอย่างมาตัวนึงเป็นตัวใหญ่ที่คุณก็รู้ว่าหมายถึงใคร
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 4
ผมเพิ่งไปวิ่งดูคอนโดมาสำหรับตัวเอง
ตามพฤติกรรมของผมนี่สังเกตุได้ว่า
ผมจะไปดูทำเลก่อนเป็นอย่างแรก
อย่างตอนดูหัวหินก็จะไปเฉพาะที่ติดหาด
ส่วนในเมืองก็จะดูที่ติดสถานีรถไฟฟ้า
พอเลือกทำเลเสร็จก็จะ เดินดูพวก แบรนด์ๆก่อน
จะเน้นพวกที่ได้รางวัน developer award
และที่สำคัญต้องไม่เจ๊ง
เพราะได้ข่าวเรื่องคนไปจองคนคอนโดแล้วเจอชักดาบเยอะมาก
ถ้าไม่มีแบรนด์ก็ต้องไปสืบดูว่ารู้จักเจ้าของโครงการหรือปล่าว
ถ้ารู้จักแล้วเป็นคนดีก็โอเค
ดูไปดูมารู้สึกว่าคอนโดใหม่ๆราคาแพงเว่อร์มากๆ
เลยตัดสินใจไปดูพวกคอนโดเก่าๆ ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง
ทำเลก็ดีกว่า แถมห้องใหญ่กว่า
ถ้าซื้อคอนโดตอนนี้ผมคงเลือกที่จะซื้อคอนโดเก่าๆมากกว่า
แต่ไม่ทราบคนทั่วไปจะมาเสียเวลาเดินดูแบบนี้รึปล่าวนะ
ตามพฤติกรรมของผมนี่สังเกตุได้ว่า
ผมจะไปดูทำเลก่อนเป็นอย่างแรก
อย่างตอนดูหัวหินก็จะไปเฉพาะที่ติดหาด
ส่วนในเมืองก็จะดูที่ติดสถานีรถไฟฟ้า
พอเลือกทำเลเสร็จก็จะ เดินดูพวก แบรนด์ๆก่อน
จะเน้นพวกที่ได้รางวัน developer award
และที่สำคัญต้องไม่เจ๊ง
เพราะได้ข่าวเรื่องคนไปจองคนคอนโดแล้วเจอชักดาบเยอะมาก
ถ้าไม่มีแบรนด์ก็ต้องไปสืบดูว่ารู้จักเจ้าของโครงการหรือปล่าว
ถ้ารู้จักแล้วเป็นคนดีก็โอเค
ดูไปดูมารู้สึกว่าคอนโดใหม่ๆราคาแพงเว่อร์มากๆ
เลยตัดสินใจไปดูพวกคอนโดเก่าๆ ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง
ทำเลก็ดีกว่า แถมห้องใหญ่กว่า
ถ้าซื้อคอนโดตอนนี้ผมคงเลือกที่จะซื้อคอนโดเก่าๆมากกว่า
แต่ไม่ทราบคนทั่วไปจะมาเสียเวลาเดินดูแบบนี้รึปล่าวนะ
เล่นหุ้นคนแก่ แต่แอบเปรี้ยวเป็นบางเวลา
-
- Verified User
- โพสต์: 590
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 5
ค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณ HughesHughes เขียน:ดูไปดูมารู้สึกว่าคอนโดใหม่ๆราคาแพงเว่อร์มากๆ
เลยตัดสินใจไปดูพวกคอนโดเก่าๆ ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง
ทำเลก็ดีกว่า แถมห้องใหญ่กว่า
ถ้าซื้อคอนโดตอนนี้ผมคงเลือกที่จะซื้อคอนโดเก่าๆมากกว่า
แต่ไม่ทราบคนทั่วไปจะมาเสียเวลาเดินดูแบบนี้รึปล่าวนะ
น่าจะมี webคอนโดมือสอง search ดีๆแบบรถยนต์
แบบเลือกทำเล ราคา เกรดของคอนโด ค่าเช่าได้
ถ้าใครรู้รบกวนบอกด้วยนะครับ
แบบของออสเตรเลียแบบเนี้ย
http://www.domain.com.au/?s_rid=smh:topnav
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 7
ผมสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ตัวเลขผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมากมายของ บ.
บ้านจัดสรรในช่วงนี้นั้น มันเพิ่มขึ้นมาในช่วงเศรษฐกิจแย่อย่างนี้ได้อย่างไร
พอได้มาอ่านบทความของ ดร. แล้ว แจ่มแจ๋วเลยครับ...
บ้านจัดสรรในช่วงนี้นั้น มันเพิ่มขึ้นมาในช่วงเศรษฐกิจแย่อย่างนี้ได้อย่างไร
พอได้มาอ่านบทความของ ดร. แล้ว แจ่มแจ๋วเลยครับ...
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 8
กำลังมองหาคอนโด อยู่พอดี เพื่อนๆคนไหน มีที่เด็ดๆแนะนำบ้างครับ :lol:
ผมว่า ดร มองไกลมากกว่าพวก เราเยอะมากเลยนะ
มองถึงขนาดว่า ตลาดอสังหา อาจถึงวัน ตัน
เมือไหร่ที่อัตราการเกิดของคนลดมากกว่า
อัตราการเติบโตของธุรกิจนี้
ตอนนั้นก็จะเกิดเป็นภาวะ
Over-supplied Accomodations!!! :lol:
ผมว่า ดร มองไกลมากกว่าพวก เราเยอะมากเลยนะ
มองถึงขนาดว่า ตลาดอสังหา อาจถึงวัน ตัน
เมือไหร่ที่อัตราการเกิดของคนลดมากกว่า
อัตราการเติบโตของธุรกิจนี้
ตอนนั้นก็จะเกิดเป็นภาวะ
Over-supplied Accomodations!!! :lol:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 9
ไม่ค่อยซื้อบ้านใหม่ ก็ต้องตบแต่งบ้านเก่าใช่ไหมครับ (คงจะได้ยินกันมาหลายหน... :lol:)
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 10
ตลาดอสังหาผมว่ามีgoodwillน่ะครับ
คนซื้อบ้านมักซื้อชุมชนที่อยู่ด้วย บริษัททำบ้านที่มีGoodwillที่ดี
มักเป็นบริษัททำบ้านที่สามารถดึงดูดคนดีๆ เข้ามาอยู่ได้
และระบบความปลอดภัยค่อนข้างดี
คนซื้อบ้านมักซื้อชุมชนที่อยู่ด้วย บริษัททำบ้านที่มีGoodwillที่ดี
มักเป็นบริษัททำบ้านที่สามารถดึงดูดคนดีๆ เข้ามาอยู่ได้
และระบบความปลอดภัยค่อนข้างดี
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 11
เข้ามาเก็บความรู้ :oops:
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 12
กำลังคิดจะทำกับเพื่อน ที่ได้มรดกที่ดิน รังสิต คลอง 10 กว่า มา 26 ไร่
กะจะแบ่งแปลงละ 200-400 ตร วา
แล้ว ปลูกบ้านชั้นเดียวยกพื้น ตามแบบ ที่ อ เชี่ยว ออกแบบ แจก
อยากเห็น serch ดู จาก google โดยใช้ keyword ว่า
บ้านไม่บาน ยอดนิยม
คาดว่า จะขาย คนที่ มีบ้านหลังแรกอยู่ ต้นคลอง ตามหมู่บ้านจัดสรรที่แน่นๆ
แล้ว อยากจะมี บ้านพัก แนว สวนเกษตร ที่ไม่ไกลจาก กรุงเทพ มากนัก
กะจะแบ่งแปลงละ 200-400 ตร วา
แล้ว ปลูกบ้านชั้นเดียวยกพื้น ตามแบบ ที่ อ เชี่ยว ออกแบบ แจก
อยากเห็น serch ดู จาก google โดยใช้ keyword ว่า
บ้านไม่บาน ยอดนิยม
คาดว่า จะขาย คนที่ มีบ้านหลังแรกอยู่ ต้นคลอง ตามหมู่บ้านจัดสรรที่แน่นๆ
แล้ว อยากจะมี บ้านพัก แนว สวนเกษตร ที่ไม่ไกลจาก กรุงเทพ มากนัก
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 14
บ้านเก่า <- สร้างมานาน ไม่ค่อยสะดวก ไม่ทันสมัย อยากเปลี่ยน
บ้านเล็ก <- พอมีฐานะขึ้น ก็อยากอยู่บ้านใหญ่ขึ้น สะดวกสบาย สังคมที่ดี
บ้านไม่พอ <- กรณีเสี่ยใหญ่ๆ ต้องมีบ้านเล็กบ้านน้อย เอาไว้เลี้ยงเด็กๆ
อิอิ เยอะเหมือนกันนะครับ กรณีที่ต้องซื้อบ้านใหม่
บ้านเล็ก <- พอมีฐานะขึ้น ก็อยากอยู่บ้านใหญ่ขึ้น สะดวกสบาย สังคมที่ดี
บ้านไม่พอ <- กรณีเสี่ยใหญ่ๆ ต้องมีบ้านเล็กบ้านน้อย เอาไว้เลี้ยงเด็กๆ
อิอิ เยอะเหมือนกันนะครับ กรณีที่ต้องซื้อบ้านใหม่
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 16
[quote="beammy"]ผมรอให้ ดร. เขียนเรื่อง Halo Effect อยู่ครับ
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณท่านอ.ครับ อาจจะเหมาะกับการเล่นเป็นรอบๆตามที่ท่านว่าไว้
ทำให้นึกถึงคำพูดในการดวลเพลงหมากล้อมอันดุเดือดระหว่างผู้เข้าถึงวิถีแห่งหัตถ์เทวะ(ซาอิ) กับ โทยะ เมจิยอดคนแห่งยุคโลกาภิวัฒณ์
โทยะ เมจิ กล่าวว่า"อ่านเกมส์ไปไกลๆแล้วรู้สึกว่าอันตราย อย่าเข้าไปตามการหลอกล่อของคู่ต่อสู้ดีกว่า" เพราะซาอิกำลังใช้กลยุทธ์"ยั่วให้รุก" อยู่ขอรับ
ทำให้นึกถึงคำพูดในการดวลเพลงหมากล้อมอันดุเดือดระหว่างผู้เข้าถึงวิถีแห่งหัตถ์เทวะ(ซาอิ) กับ โทยะ เมจิยอดคนแห่งยุคโลกาภิวัฒณ์
โทยะ เมจิ กล่าวว่า"อ่านเกมส์ไปไกลๆแล้วรู้สึกว่าอันตราย อย่าเข้าไปตามการหลอกล่อของคู่ต่อสู้ดีกว่า" เพราะซาอิกำลังใช้กลยุทธ์"ยั่วให้รุก" อยู่ขอรับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 18
โทยะ เมย์จิน ครับศิษย์เซียน007 เขียน:ขอบคุณท่านอ.ครับ อาจจะเหมาะกับการเล่นเป็นรอบๆตามที่ท่านว่าไว้
ทำให้นึกถึงคำพูดในการดวลเพลงหมากล้อมอันดุเดือดระหว่างผู้เข้าถึงวิถีแห่งหัตถ์เทวะ(ซาอิ) กับ โทยะ เมย์จิน ยอดคนแห่งยุคโลกาภิวัฒณ์
โทยะ เมย์จิน กล่าวว่า"อ่านเกมส์ไปไกลๆแล้วรู้สึกว่าอันตราย อย่าเข้าไปตามการหลอกล่อของคู่ต่อสู้ดีกว่า" เพราะซาอิกำลังใช้กลยุทธ์"ยั่วให้รุก" อยู่ขอรับ
- Flashy
- Verified User
- โพสต์: 295
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 19
โครงสร้างประชากร...
ผมยังเห็นต่อว่าอัตราการเกิดที่ลดลง น่าจะทำให้ความเป็นอยู่ของคนดีขึ้นนะครับ(ไม่ใช่แนวคิดแบบเมื่อก่อนที่ว่า ให้มีลูกเยอะๆ จะได้ช่วยกันทำมาหากิน) เพราะนั้นดีมานด์สำหรับบ้านจัดสรร ยังรอการปลดล็อคอีกมาก(ผมด้วย...อยากมีบ้านใหม่ สภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ แต่ว่าตอนนี้ยังเรียนอยู่เลย :D )
อีกมุมหนึ่งผมมองว่าสภาพการใช้ชีวิตในสังคมของคนปัจจุบัน-อนาคต จะเป็นครอบครัวเดี่ยว คนทำงานต้องมีบ้านแถบชานเมืองซึ่งยังมีเนื้อที่เป็นป่าเขียวอีกมาก รอการพัฒนา
ระบบขนส่งก็เริ่มดีขึ้น(ถ้านโยบายรัฐไม่สะดุดจนเกินไป)
คอนโดก็เกาะตามแนวรถไฟฟ้า
แล้วจะเป็นได้ไหมครับ ที่จะเกิดเมืองเศรษฐกิจใหม่ๆ ตามภูมิภาคอื่นๆ เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว
ประเทศเรายังเป็นประเทศกำลังพัฒนาอยู่เลย
ผมว่ายังอีกไกลมากครับ กว่าจะถึงทางตัน
แต่อย่างว่า...ไม่อาจแย้งได้ สิ่งสำคัญคือ อุตสาหกรรมพัฒนาอสังฯ ต้องเล่นรอบตามภาวะเศรษฐกิจ
ผมยังเห็นต่อว่าอัตราการเกิดที่ลดลง น่าจะทำให้ความเป็นอยู่ของคนดีขึ้นนะครับ(ไม่ใช่แนวคิดแบบเมื่อก่อนที่ว่า ให้มีลูกเยอะๆ จะได้ช่วยกันทำมาหากิน) เพราะนั้นดีมานด์สำหรับบ้านจัดสรร ยังรอการปลดล็อคอีกมาก(ผมด้วย...อยากมีบ้านใหม่ สภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ แต่ว่าตอนนี้ยังเรียนอยู่เลย :D )
อีกมุมหนึ่งผมมองว่าสภาพการใช้ชีวิตในสังคมของคนปัจจุบัน-อนาคต จะเป็นครอบครัวเดี่ยว คนทำงานต้องมีบ้านแถบชานเมืองซึ่งยังมีเนื้อที่เป็นป่าเขียวอีกมาก รอการพัฒนา
ระบบขนส่งก็เริ่มดีขึ้น(ถ้านโยบายรัฐไม่สะดุดจนเกินไป)
คอนโดก็เกาะตามแนวรถไฟฟ้า
แล้วจะเป็นได้ไหมครับ ที่จะเกิดเมืองเศรษฐกิจใหม่ๆ ตามภูมิภาคอื่นๆ เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว
ประเทศเรายังเป็นประเทศกำลังพัฒนาอยู่เลย
ผมว่ายังอีกไกลมากครับ กว่าจะถึงทางตัน
แต่อย่างว่า...ไม่อาจแย้งได้ สิ่งสำคัญคือ อุตสาหกรรมพัฒนาอสังฯ ต้องเล่นรอบตามภาวะเศรษฐกิจ
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 20
จริงๆ developer ก็มี brand นะครับ ก่อนหน้านี้ผมมองหาบ้าน ถ้าเป็น LH ก็จะคิดว่าดีแน่ๆเลย แบบว่าเชื่อโดยรักแรกพบแบบในโฆษณาเลยอ่ะครับ :oops: แต่แพงอ่ะ อยู่บ้านพ่อแม่ไปก่อนดีก่า
ส่วน developer ชื่อเน่าๆที่เห็นชื่อก็ไม่ซื้อแล้วก็หาอ่านได้ที่ pantip ครับ ได้ยินบ่อยๆเข้าก็จะไม่ไปเยี่ยมโครงการอีกเลย 555
ตอนสัมภาษณ์งานได้ยินว่า
Property never die but property developers do
เป็นการลงทุนที่น่ากลัวจริงๆครับ
ส่วน developer ชื่อเน่าๆที่เห็นชื่อก็ไม่ซื้อแล้วก็หาอ่านได้ที่ pantip ครับ ได้ยินบ่อยๆเข้าก็จะไม่ไปเยี่ยมโครงการอีกเลย 555
ตอนสัมภาษณ์งานได้ยินว่า
Property never die but property developers do
เป็นการลงทุนที่น่ากลัวจริงๆครับ
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 21
การเอาประเด็นเรื่องของการซื้อซ้ำมันสรุปเรื่องของ ความสำคัญของ Brand
แก้ไขล่าสุดโดย yoyo เมื่อ พุธ มิ.ย. 03, 2009 12:28 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 22
นอกจากนี้แล้ว ถึงแม้ว่าอัตราการเกิดของคนจะลดลง แต่แนวโน้มครัวเรื่อนของคนไทยก็มี Trend ที่ชัดว่าจำนวนคนต่อครัวเรือนลดลงเรื่อยๆ .. เพราะฉะนั้นผมว่า Trend condo กับ Town House ที่น่าจะไปได้ในระยะยาว
ธุรกิจอสังหาไม่หายไปไหนแน่นอน.. มันมีขึ้นมีลงของมันเป็นปกติ
แต่ Developer จะมีล้มหายตายจากไป มีเกิดขึ้นมาใหม่... ในภาวะแย่ๆ คนที่เอาตัวรอดได้ก็จะใหญ่ขึ้น เพราะมีคนล้มหายไปเรื่อยๆ กว่าจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้ก็ต้องใช้เวลา เพราะแบงค์เองก็มักจะปล่อยกู้ให้กับบริษัทที่มี Track record ดีๆ มากกว่าบริษัทใหม่ๆ วิกฤตครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจอสังหามีการ Consolidate ลงจนมีผู้เล่นหลักน้อยรายลง .. Developer รายหลักจะครอง Share ที่มากขึ้นและมีความแข็งแกร่งกว่าก่อนเกิดวิกฤต นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนวิกฤตครั้งก่อน และผมเชื่อว่าก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีกทีในวิกฤตครั้งนี้ด้วย (แต่ Degree ของการ Conso อาจจะไม่มากเท่าเดิม เพราะคนที่เจ็บมาจากครั้งก่อนยังระวังตัวกันเยอะ ทำให้ไม่ล้มตายกันมากเท่าครั้งก่อน)
ในวิกฤตมีโอกาสนี่เป็นจริงอย่างยิ่งเลยครับ.. ถ้าเราเลือกคนที่จะรอดได้ กิน Share คนอื่นมาได้ และมีราคาไม่แพง ก็น่าจะทำผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี
ประโยคนี้คือ Key ของการเล่นหุ้นอสังหาเลยแหละครับ...Property never die but property developers do
ธุรกิจอสังหาไม่หายไปไหนแน่นอน.. มันมีขึ้นมีลงของมันเป็นปกติ
แต่ Developer จะมีล้มหายตายจากไป มีเกิดขึ้นมาใหม่... ในภาวะแย่ๆ คนที่เอาตัวรอดได้ก็จะใหญ่ขึ้น เพราะมีคนล้มหายไปเรื่อยๆ กว่าจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้ก็ต้องใช้เวลา เพราะแบงค์เองก็มักจะปล่อยกู้ให้กับบริษัทที่มี Track record ดีๆ มากกว่าบริษัทใหม่ๆ วิกฤตครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจอสังหามีการ Consolidate ลงจนมีผู้เล่นหลักน้อยรายลง .. Developer รายหลักจะครอง Share ที่มากขึ้นและมีความแข็งแกร่งกว่าก่อนเกิดวิกฤต นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนวิกฤตครั้งก่อน และผมเชื่อว่าก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีกทีในวิกฤตครั้งนี้ด้วย (แต่ Degree ของการ Conso อาจจะไม่มากเท่าเดิม เพราะคนที่เจ็บมาจากครั้งก่อนยังระวังตัวกันเยอะ ทำให้ไม่ล้มตายกันมากเท่าครั้งก่อน)
ในวิกฤตมีโอกาสนี่เป็นจริงอย่างยิ่งเลยครับ.. ถ้าเราเลือกคนที่จะรอดได้ กิน Share คนอื่นมาได้ และมีราคาไม่แพง ก็น่าจะทำผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 23
ยอดขายที่ทำได้นี่เป็นการซื้อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อลงทุน??
ผมสังเกตุ LPN เเถวปิ่นเกล้าช่วง 3- 5 ทุ่ม มีห้องเปิดไฟอยู่ไม่กี่ห้องเอง หรือ เขายังไม่กลับเข้าบ้านกัน???
ผมสังเกตุ LPN เเถวปิ่นเกล้าช่วง 3- 5 ทุ่ม มีห้องเปิดไฟอยู่ไม่กี่ห้องเอง หรือ เขายังไม่กลับเข้าบ้านกัน???
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 24
[quote="terati20"]ยอดขายที่ทำได้นี่เป็นการซื้อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อลงทุน??
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 26
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 27
ใครชอบอสังหา โดยเฉพาะคอนโด แนะนำเข้าเว็บนี้ครับ
http://www.prakard.com/
จะรู้ได้ทันทีเลยว่า ช่วงไหน คอนโดบูม ช่วงไหน คอนโดซบ (ล้นตลาด)
ช่วงซบเซา จะมีขายใบจอง ปล่อยห้องเช่าราคาถูก ค่อนข้างเยอะ
อันนี้แสดงว่าล้นตลาดไปมากแล้ว
http://www.prakard.com/
จะรู้ได้ทันทีเลยว่า ช่วงไหน คอนโดบูม ช่วงไหน คอนโดซบ (ล้นตลาด)
ช่วงซบเซา จะมีขายใบจอง ปล่อยห้องเช่าราคาถูก ค่อนข้างเยอะ
อันนี้แสดงว่าล้นตลาดไปมากแล้ว
- kmphol
- Verified User
- โพสต์: 417
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 28
หุ้นบ้านจัดสรรยังไงก็มีแบรนด์ครับ
ยากที่บ้านจัดสรร no name จะทำธุรกิจได้ดีในระยะยาว
แต่Brand บ้านจัดสรรในเมืองไทยที่มีperception ว่ามี Brand ก็มีเป็นสิบ brand ทั้ง LH SPALAI NOBLE PS SC LPN AP A MK etc ซึ่ง Brand เหล่านี้ ก็ differentiate กันแทบไม่ได้เลย
ผมเลยมองว่าหุ้นบ้านจัดสรรที่อยู่ใน SET มันก็โภคภัณดีดีนี่เอง อาจมีตัวใหญ่บางตัวที่มีPremium มากกว่า มันก็เท่านั้นเหมือนโภคภัณอย่างอื่นที่มี SIZE เป็น premium เช่น แบงค์ ปิโตร โรงกลั่น etc
สรุปว่า หุ้นบ้านจัดสรรใน SET มันก็โภคภัณดีดีนี่เองคล้ายกับแบงค์ (เห็นด้วยกับ ดร. อย่างแรงครับ)
ไม่เหมือนหุ้นอสังหาประเภทอื่น เช่น ศุนย์การค้า ศุนย์การค้าให้เช่า นิคมอุตสาหกรรม ที่มีแบรนด์แบบ Differentiate กันได้อย่างมาก
ยากที่บ้านจัดสรร no name จะทำธุรกิจได้ดีในระยะยาว
แต่Brand บ้านจัดสรรในเมืองไทยที่มีperception ว่ามี Brand ก็มีเป็นสิบ brand ทั้ง LH SPALAI NOBLE PS SC LPN AP A MK etc ซึ่ง Brand เหล่านี้ ก็ differentiate กันแทบไม่ได้เลย
ผมเลยมองว่าหุ้นบ้านจัดสรรที่อยู่ใน SET มันก็โภคภัณดีดีนี่เอง อาจมีตัวใหญ่บางตัวที่มีPremium มากกว่า มันก็เท่านั้นเหมือนโภคภัณอย่างอื่นที่มี SIZE เป็น premium เช่น แบงค์ ปิโตร โรงกลั่น etc
สรุปว่า หุ้นบ้านจัดสรรใน SET มันก็โภคภัณดีดีนี่เองคล้ายกับแบงค์ (เห็นด้วยกับ ดร. อย่างแรงครับ)
ไม่เหมือนหุ้นอสังหาประเภทอื่น เช่น ศุนย์การค้า ศุนย์การค้าให้เช่า นิคมอุตสาหกรรม ที่มีแบรนด์แบบ Differentiate กันได้อย่างมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นบ้านจัดสรร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 30
ถ้าได้เห็นการสัมมนาหุ้นกลุ่มอสังหา โดยท่านอ.และคุณyoyo นักลงทุนจะได้เปิดหูเปิดตาบ้างครับ