เกาะกระแสนักท่องเที่ยวจีน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

เกาะกระแสนักท่องเที่ยวจีน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    ผมอาศัยอยู่ใน ถนนรางน้ำมาประมาณ 30 ปีแล้ว  ช่วงแรก ๆ  นั้น ถนนเส้นสั้น ๆ ที่ยาวเพียง 400-500 เมตร นี้ “เงียบมาก”  โดยเฉพาะในตอนค่ำที่คนที่อยู่อาศัยต่างก็กลับเข้าบ้านหลังจากกลับจากการทำงาน   ชุมชนใน “ซอยรางน้ำ” ตามที่เรียกกันในสมัยนั้นเล็กมากและประกอบไปด้วยคน “รุ่นเก่า” จำนวนมากรวมถึงคนใน “อาคารสงเคราะห์ทหารผ่านศึก” ที่เก่าแก่และอยู่มานานจนกองถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง “Good Morning Vietnam” ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำแทน “ชุมชนเวียตนาม” สมัยที่เวียตนามทำสงครามกับอเมริกา  เวลาผ่านไปน่าจะประมาณ 20 ปี  กรุงเทพขยายตัวขึ้นมาก   ถนนรางน้ำและบริเวณข้างเคียงเริ่มมีการก่อสร้างอาคารใหม่ ๆ  เกิดขึ้นอานิสงค์จากการที่ที่ดินมีราคาไม่แพงแต่อยู่ใกล้ใจกลางเมืองของกรุงเทพ  โดยที่อาคารใหญ่ที่สุดก็คือ “คิงเพาเวอร์” ร้านค้าปลอดภาษีและโรงแรมพูลแมน   ตามมาด้วย “เซ็นจูรี่มอล” ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  ถนนรางน้ำก็เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น  อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็น  “ซอยเล็ก ๆ”  ที่ผู้คนในพื้นที่อาศัยอยู่และค้าขายให้กันและกันเป็นหลัก  มีคนนอกเข้ามาทำกิจกรรมต่าง ๆ  น้อยมากโดยเฉพาะในยามค่ำคืน

    แต่แล้ว  ซักประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา  ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป  ซอยที่ผมใช้เดินหาอาหารเย็นกินหลังจากการออกกำลังที่ “สวนสันติภาพ” ที่มาแทนอาคารสงเคราะห์  เกือบทุกวันก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจีนทั้งที่มาซื้อสินค้าที่คิงเพาเวอร์และที่พักอาศัยอยู่ตามโรงแรมและอพาร์ทเม้นท์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณนี้ซึ่งรวมถึงอพาร์ทเม้นท์ข้างบ้านผมที่ถูกปรับเปลี่ยนให้มารับนักท่องเที่ยวจีนแทนที่ผู้เช่าคนไทยก่อนหน้านี้   บ้านพักของคนไทยที่อยู่มานานบนถนนรางน้ำต่างก็ถูกไล่หรือย้ายออกเพื่อแปลงให้เป็นสถานที่ค้าขายโดยเฉพาะให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินกันเต็มซอยในช่วงหัวค่ำและดึก  ร้านค้าเหล่านี้ไม่ใช่ร้านค้าขนาดใหญ่เนื่องจากไม่มีที่ที่จะสร้าง  มันเป็นร้านค้าเล็ก ๆ  รวมถึงแผงลอยที่ผุดขึ้นมากมาย แต่ร้านที่น่าสนใจที่สุดดูเหมือนจะเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่ทยอยผุดขึ้นมาจนมีถึง 6 สาขาบนถนนที่สั้นนิดเดียวนี้  ทั้งหมดนั้นเพื่อที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่ “หลั่งไหล” เข้ามาเที่ยวประเทศไทย  เวลาเพียงไม่กี่ปี  นักท่องเที่ยวจีนจากจำนวนที่แทบไม่มีนัยสำคัญได้กลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่มีจำนวนถึงเกือบ 6 ล้านคนหรือประมาณ 30% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เข้ามาเมืองไทยในครึ่งปี 2559 ที่ผ่านมาและน่าจะยังเพิ่มขึ้นไปอีกในอนาคต

    พฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในประเทศไทยเองนั้นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปที่มักจะเป็นชาวตะวันตกที่พักโรงแรมหรู ๆ  ใช้เวลากับชายหาดหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นโบราญสถานเป็นเวลานานและอาจจะซื้อสินค้าที่ระลึกราคาแพง  เหตุผลก็เพราะคนจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่เหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนชั้นกลางที่เพิ่งเดินทางออกนอกประเทศ  พวกเขาน่าจะต้องการหา  “ประสบการณ์ใหม่ ๆ” ในต่างแดนด้วยเม็ดเงินค่าใช้จ่ายจำนวนไม่มากแต่ได้รับความสุขที่เต็มเปี่ยมซึ่งรวมถึงการซื้อสินค้าและของที่ระลึกที่ “แปลก  ราคาไม่แพงแต่ไม่มีในประเทศจีน” กลับไปฝากเพื่อนและญาติมิตรเพื่อเป็นการแสดงว่าได้เดินทางไปต่างประเทศคือเมืองไทยมาแล้ว

    กระแสของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเร็ว ๆ  นี้นั้น  แน่นอน  ส่งผลดีต่อสินค้าที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยตรง  เช่น  สนามบิน  สายการบินต้นทุนต่ำที่พวกเขามักใช้บริการ  โรงแรมราคาถูกระดับไม่เกิน 3 ดาว  สถานที่ท่องเที่ยวที่มีการแสดงและเก็บเงินเช่นรายการโชว์ทางวัฒนธรรมและการแสดงต่าง ๆ  ที่  “Exotic”  หรือแปลกและหาดูไม่ได้ในประเทศจีน เช่น  การแสดงโชว์ของสาวประเภทสองหรือการแสดงการทำงานหรือการละเล่นของช้าง เป็นต้น

    แต่สิ่งที่ผมคิดว่ากระแสการท่องเที่ยวของคนจีนที่คนยังไม่ตระหนักอีกอย่างหนึ่งและอาจจะเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนที่ไม่ได้ทำธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรงก็คือการขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวคนจีนนิยมมาซื้อหรือใช้บริการในประเทศไทย  เหตุผลก็เพราะด้วยจำนวนมหาศาลของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามานั้น  พวกเขาช่วยให้ยอดขายของบริษัทที่ผลิตสินค้าหลาย ๆ  อย่างที่เป็น “สินค้ายอดนิยมของคนจีน” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะที่เป็นสินค้าราคาไม่แพงที่เป็น “นิช” หรือสินค้าที่ไม่ได้มีตลาดใหญ่นักของเมืองไทย

    การได้เห็นพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนและเข้าร้าน 7-11 ในซอยรางน้ำของผมนั้น  ทำให้ผมรู้ว่าว่านักท่องเที่ยวชาวจีนนั้นชอบทำอะไร  กินหรือซื้ออะไรเป็น “ของฝากจากเมืองไทย”

    เรื่องแรกก็คือ  พวกเขาจำนวนมากชอบ “เที่ยวดึกหรืออยู่ดึก”  แม้แต่เวลาหลังเที่ยงคืนแล้วผมก็มักจะได้ยินเสียงคนจีนพูดเสียงดังผ่านหน้าบ้านและที่อยู่ในอพาร์ทเม้นท์ข้างบ้านผม  ผมไม่รู้ว่าพวกเขาไปไหนมาแต่คิดว่าอาจจะไปดื่มที่ไหนซักแห่ง  “แถว ๆ  นี้” หรือไม่ก็มาจาก  “เอเซียที้ก” มอลยอดนิยมของนักท่องเที่ยวย่านถนนเจริญกรุงที่เปิดเฉพาะกลางคืนก็เป็นได้

    เรื่องที่สองที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องแรกก็คือพวกเขาชอบที่พักที่ราคาถูก  สะอาด  เดินทางสะดวกไม่ต้องหรูหรา  เหตุผลก็เพราะพวกเขามักจะเข้ามาใช้เฉพาะตอนนอนเฉย ๆ  ไม่ได้ทำอย่างอื่นมากนัก  และนี่ก็คงเป็นผลดีต่อโรงแรมแบบ Budget Hotel หรืออพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ในหรือใกล้สถานที่ที่พวกเขาจะไปเที่ยวและอยู่ในชุมชนที่ไม่เปลี่ยว

    สำหรับการเดินทางนั้น  สายการบินที่ใช้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่บินสะดวกไม่ต้องต่อเครื่องมากนัก  เช่นเดียวกับการเดินทางไปเที่ยวที่เน้นรถไฟฟ้าหรือรถทัวร์ในกรณีที่ต้องออกนอกเมืองหรือนอกเส้นทาง

    อาหารการกินนั้น  นอกจากเรื่องของบุฟเฟ่ต์ที่กินไม่จำกัดและไม่แพงแล้ว  สำหรับคนจีนจำนวนมากที่เดินทางมาเที่ยวเอง   พวกเขามักจะกินอาหารง่าย ๆ ร้าน  “ข้างทาง”  และสิ่งที่ผมเห็นก็คือ  ทุเรียนกับมะพร้าวอ่อนที่พวกเขาชอบมาก  ทุเรียนนั้น  แน่นอนว่าเป็นผลไม้ที่อร่อยมากและหากินได้ยากในจีน เช่นเดียวกับมะพร้าวที่แก้กระหายได้ดีในประเทศร้อนอย่างไทย  ทั้งสองสินค้านี้ผมเข้าใจว่ากำลังขายได้ดีมากและราคาปรับตัวขึ้นไปสูงเพราะ “ขาดตลาด”  อานิสงค์จากคนจีนที่เดินทางท่องเที่ยวในไทย

    สินค้าที่ระลึกหรือซื้อกลับไปใช้ของนักท่องเที่ยวจีนที่เป็น  “ยอดนิยม”  นั้นมักจะมาจากร้านสะดวกซื้อ 7-11 รวมถึงสาหร่ายยี่ห้อเถ้าแก่น้อยที่มักซื้อกันเป็นหลาย ๆ  ซอง  ยาดมชนิดหลอดหรือแท่งที่ซื้อกันเป็นโหล  ยาแก้เคล็ดขัดยอกที่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ ตราเสือ  นมอัดเม็ดจิตรลดาซึ่งมีไม่พอขายและทำให้ยี่ห้ออื่นเข้าทดแทนจนเป็นผู้นำได้  และสุดท้ายที่น่าจะขายได้มากที่สุดก็คือกลุ่มเครื่องสำอางขนาดบรรจุเล็กลงมาที่รวมถึงครีมบำรุงผิวหลากหลายยี่ห้อที่มีขายในร้าน 7-11 ซึ่งน่าจะรวมถึงครีม “หอยทาก”  ที่ดูแปลกและแตกต่างสำหรับคนจีน  นอกจากสินค้าที่กล่าวแล้ว  ผมยังพบว่าผลิตภัณฑ์ “ยาแผนไทย”  หรือสมุนไพรไทยก็ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวจีน  เหตุผลก็แบบเดียวกัน  มันหาได้ยากและน่าจะใช้ได้ดีและ “มาจากเมืองไทย”

    สิ่งที่พูดมาทั้งหมดนั้น  เป็นเพียงส่วนน้อยนิดของสิ่งที่นักท่องเที่ยวนิยม  แต่ผมเชื่อว่าผลิตภัณฑ์และสินค้าเหล่านั้นขายได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพราะนักท่องเที่ยวจีน  ว่ากันว่าสาเหตุที่บริษัท  BEAUTY มีผลประกอบการดีขึ้นมากและหุ้นขึ้นมากมายส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะคนจีนจำนวนมากที่เข้ามาซื้อเครื่องสำอางราคาไม่แพงของร้าน Beauty ที่ขายแบบ  “บุฟเฟ่ต์” และมีสาขาทั่วไปตามสถานที่ที่คนจีนไปเที่ยว  เช่นเดียวกับหุ้น Karmart  หุ้นเถ้าแก่น้อย และอีกหลาย ๆ ตัวที่  “เกาะกระแสนักท่องเที่ยวจีน” ในช่วงนี้  อย่างไรก็ตาม  นี่ก็ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อหุ้น  เพราะการลงทุนนั้นนอกจากผลประกอบการของบริษัทแล้ว  ราคาหุ้นก็เป็นปัจจัยที่สำคัญไม่น้อยกว่าหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ  ดังนั้น  ก่อนที่จะเกาะก็ต้องระวังว่าเราจะไม่  “หลุดลอย” จากสิ่งที่เกาะ  หรือ  แทนที่จะกำไรก็กลายเป็นขาดทุนได้เพราะราคาหุ้นแพงเกินไป
[/size]
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 2187
ผู้ติดตาม: 0

Re: เกาะกระแสนักท่องเที่ยวจีน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบพระคุณมากครับ
เราลงรายละเอียดระดับไหน + แผนการ + วินัยในการแบ่งและใช้เวลาในแต่ละวัน
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: เกาะกระแสนักท่องเที่ยวจีน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
superboy
Verified User
โพสต์: 1049
ผู้ติดตาม: 0

Re: เกาะกระแสนักท่องเที่ยวจีน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณ อาจารย์ ครับ
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: เกาะกระแสนักท่องเที่ยวจีน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

บทความนี้มาไม่ทันไร เจอรัฐบาลปราบทัวร์ศูนย์เหรียญซะแล้วครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
โพสต์โพสต์