อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    บรรยากาศของตลาดหุ้นในช่วงนี้  ถ้าจะให้ผมบรรยายด้วยคำเพียง 3 คำ  ผมคิดว่าคำที่เหมาะสมที่สุดก็คือ  “อึ้ง-ทึ่ง-เสียว”  เพราะเหตุการณ์  เรื่องราว  และสถานะของหุ้นจำนวนไม่น้อยทำให้ผมเกิดความรู้สึกวนเวียนอยู่ในสามอาการดังกล่าวนั่นก็คือ  “อึ้ง”  เพราะเรื่องราวที่ปรากฏเป็นข่าวหรือบริษัทมีการกระทำหรือได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกว่ามันท้าทายจริยธรรมและความเชื่อปกติของสังคมนักลงทุนมากจนทำให้เรา  “พูดไม่ออก”  หรือ  “ไม่กล้าพูด” หรือ  “ไม่อยากพูด”   ผม  “ทึ่ง” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นหลายอย่างนั้น  มัน  “แหกกฎเกณฑ์” หรือทฤษฎี  หรือมันเกินไปจาก  “ประสบการณ์”หรือ  “ภาวะปกติ” ที่ผมคุ้นเคยไปมาก  และสุดท้าย  มัน  “เสียว”  เพราะหลาย ๆ  เรื่องที่เกิดขึ้นหรือเป็นข่าวนั้น  ดูเหมือนว่ามันน่ากลัวหรือดูมีความเสี่ยงสูง  แต่คนก็เข้าไปทำกันอย่าง  “บ้าคลั่ง” ราวกับว่ามันมีแต่ได้กับได้ในขณะที่ผมดูแล้วมันมีอันตรายสูงและตัวเอง  “เสียว” จนต้องพยายามลดความเสี่ยงลง

    ที่จริงผมเคยเจอสถานการณ์แบบ อึ้ง-ทึ่ง-เสียว มาแล้วในช่วงที่ตลาดหุ้นบูมสุด ๆ ในช่วงประมาณปี 2536 ถึง 2538 อาการหลาย ๆ  อย่างในตลาดหุ้นในช่วงนั้นก็คล้าย ๆ  กับในช่วงนี้  ความแตกต่างดูเหมือนว่าจะเป็น  “รายละเอียด” ของเหตุการณ์และความรุนแรงของแต่ละเรื่อง  นอกจากนั้น  ความแตกต่างอีกข้อหนึ่งที่สำคัญก็คือ  ในช่วงนั้น  เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตเร็วมากระดับ 7%-10% ต่อปี จนทุกคนคิดว่าเรากำลังเป็น  “เสือ” ทางเศรษฐกิจของเอเชีย  ในขณะที่ปัจจุบัน  เศรษฐกิจไทยกำลัง  “มีปัญหา” และน่าจะเติบโต  “รั้งท้าย” ในเอเชีย  อย่างไรก็ตาม  คนต่างก็คิดว่าเราน่าจะกำลัง  “ฟื้นตัว”  ในขณะที่ช่วงปี 2536-2538 นั้น  เราโตอย่าง  “ไร้คุณภาพ” เป็น  “ฟองสบู่” ทางเศรษฐกิจ  แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  อาการในตลาดหุ้นนั้น  คล้ายคลึงกัน  สิ่งที่ยังไม่รู้ก็คือ  มันจะจบเหมือนกันหรือไม่?

    เรื่องที่ทำให้ “อึ้ง” นั้น  ค่อย ๆ  ทยอยออกมาเป็นระยะ  หลาย ๆ  เรื่องก็จะเกี่ยวข้องกับคน “นอก” ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับหุ้นและตลาดหุ้นในทางใดทางหนึ่งหรือนักลงทุนโดยเฉพาะที่เป็นรายใหญ่ในตลาดหุ้น  ในอดีตนั้น  เราก็จะพบเหตุการณ์เช่นว่าคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูงในวงราชการที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับตลาดเงินตลาดทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นที่มีแผนจะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  หรือมีนักการเมืองบางคนมาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นบางตัวอะไรทำนองนี้แต่ก็ไม่มีใครจะพูดอะไรเพราะมันเป็น  “สิทธิ” อันชอบธรรมของทุกคนตราบที่เขาไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือกฎเกณฑ์อะไรของตลาด

    ประเด็นที่ทำให้คน “อึ้ง” นั้น  อยู่ที่ว่า “ดีล”  หรือเงื่อนไขที่ได้มานั้น  บางทีมันก็  “ดีเกินไป” และคนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนั้น  ใครได้ประโยชน์และใครเสียประโยชน์  และถ้าเป็นคนอื่นเขาจะได้เงื่อนไขแบบนั้นหรือไม่  ประเด็นที่สำคัญยังอยู่ที่ว่าไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือขัดขวางการดำเนินการอะไรอย่างจริงจัง   ว่าที่จริงพวกเขาก็อาจจะทำอะไรไม่ได้จริง ๆ  และเขาก็อาจจะไม่อยากทำเพราะเหตุผลสารพัดที่ไม่อยากจะพูด  นั่นก็คือ  พวกเขาก็  “อึ้ง”  เหมือนกัน  ในช่วงปัจจุบันนั้น  ผมเองก็คิดว่ามันมีหลายเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามัน “แปลก” และมีความไม่ชอบมาพากล  แต่ในเมื่อมัน  “ไม่ผิดกฎเกณฑ์อะไร” ผมก็ได้แต่เก็บความคิดและความรู้สึกเอาไว้  และนี่ก็คือความหมายของคำว่า  “อึ้ง”

    เรื่องน่า “ทึ่ง” ที่ผมเห็นนั้นมีมากมาย  ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเรื่องที่  “ไม่น่าเป็นไปได้” โดยสามัญสำนึกหรือโดยประสบการณ์  “ปกติ”  นี่เป็นสิ่งที่มักปรากฏขึ้นในยามที่ตลาด  “ไม่ปกติ”  โดยเฉพาะในยามที่ตลาดบูมมาก ๆ  เป็น “ฟองสบู่”  ในอดีตนั้น  สิ่งที่เห็นชัดเจนและเป็นเรื่องน่าทึ่งก็คือราคาหุ้นขนาดเล็กโดยเฉพาะที่เป็นหุ้น  IPO นั้น  มีราคาที่สูงมากเกินกว่าผลประกอบการที่ทำได้ไปมากจนไม่น่าเชื่อ  และราคาที่ปรับขึ้นมานั้น  ส่วนมากก็ปรับขึ้นตั้งแต่วันแรก ๆ  ของการเข้ามาซื้อขายในตลาด  ในช่วงเร็ว ๆ นี้หุ้น IPO มีความน่าทึ่งยิ่งกว่าในช่วงปี 2536-2538   เพราะหลายตัวปรับขึ้นถึง 200% ในวันแรกนอกจากนั้น  หุ้นตัวเล็กที่มีเรื่องราวน่าสนใจก็มีราคาสูงมากจนไม่น่าเชื่อ  ค่า PE เฉลี่ยของหุ้น MAI ที่เป็นหุ้นตัวเล็กนั้น  สูงถึง 60-70 เท่า  และที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้นก็คือ  ปริมาณการซื้อขายของหุ้นตัวเล็กที่มีมูลค่าตลาดเพียงหลักพันล้านบาทนั้น  บ่อยครั้ง  สูงกว่าหุ้นตัวใหญ่ระดับแสนล้านบาท

    นอกจากเรื่องของราคาและปริมาณการซื้อขายของหุ้นขนาดเล็กที่ “กลบรัศมี”  หุ้นตัวใหญ่แล้ว  ความน่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ  ในช่วงที่ตลาดหุ้นบูมหนักนั้น  เราก็มักจะพบความน่าทึ่งอีกเรื่องหนึ่งก็คือ  มักจะมีรายการ  “หนูกินช้าง” หรือ  “ปลาเล็กกินปลาใหญ่”  ในอดีตนั้น  เราเห็นบริษัทเงินทุนเอกธนกิจพยายามเทคโอเวอร์ธนาคารไทยทนุที่เป็นธนาคารที่ใหญ่กว่ามาก  แม้แต่ในต่างประเทศอย่างในตลาดสหรัฐเองนั้น  เวลาที่ตลาดหุ้นบูมหนักในบางครั้งเราก็จะเห็นความน่าทึ่งแบบนี้ที่ปลาเล็กหรือหุ้นบริษัทเล็กที่  “ร้อนแรง”  เทคโอเวอร์บริษัทใหญ่หรือกินปลาใหญ่ที่อ่อนแอ  ในช่วงเร็ว ๆ  นี้เราก็เริ่มได้ยินข่าวแบบนี้บ้างแล้วในตลาดหุ้นไทย

    เรื่องน่าทึ่งอีกเรื่องหนึ่งก็คือ  การเป็นเศรษฐี  “ช่วงข้ามคืน”  ของคนหลาย ๆ  คนโดยเฉพาะที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นครั้งแรกหรือในหุ้นเล็กที่  “มีการเปลี่ยนแปลง”  ซึ่งทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นไป “มโหฬาร” ภายในระยะเวลาอันสั้น  ความร่ำรวยของคนหลายคนในช่วงเวลาอันสั้นนั้นผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าทึ่ง  โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการที่ถ้าเขาไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาด เหตุผลก็เพราะว่า  หลายบริษัทนั้น  ไม่ได้มีกำไรอะไรมากมายนักและมีขนาดเล็ก  ถ้าอยู่นอกตลาดก็อาจจะเป็นแค่บริษัทขนาดเล็กธรรมดา ๆ ที่เจ้าของไม่สามารถที่จะเป็นมหาเศรษฐีได้อย่างแน่นอน

    ความ “เสียว”  นั้น  น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเป็นส่วนตัวมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของสังคมนักลงทุนไทย  เหตุเพราะว่านักลงทุนส่วนใหญ่  รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเช่น  นักวิเคราะห์  โบรกเกอร์ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต่างก็ยังมองว่าตลาดหุ้นไทยและหุ้นส่วนใหญ่นั้น  ยังแข็งแรงดีอยู่  ราคาหุ้นโดยส่วนรวมก็ยังไม่แพงเทียบกับเพื่อนบ้านแม้ว่าบางคนจะดูว่าหุ้นตัวเล็กมีราคาสูงเกินไปเป็น  “ฟองสบู่” แต่ถ้ามีปัญหาก็คงไม่กระทบกับหุ้นทั้งตลาด  เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ  สภาพของเศรษฐกิจ การเงิน สังคม  การเมืองและตลาดหุ้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรน่าวิตก  ค่า PE ตลาดหุ้นไทยที่สูงถึง 19 เท่าและพอ ๆ  กับจุดสูงสุดในช่วงวิกฤติตลาดหุ้นรอบที่แล้วก็อาจจะไม่ได้แปลว่าหุ้นไทยมีราคาแพง  เหตุผลก็เพราะอัตราดอกเบี้ยในช่วงนั้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ที่ต่ำติดดิน  ดังนั้น  PE 19 เท่าจึงไม่ถือว่าแพง  แต่ถ้ายังคิดว่าแพงก็มีเหตุผลว่าคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในเวลานี้ก็สูงกว่าในอดีต  ดังนั้น  สรุปว่าตลาดหุ้นไทยไม่น่ากลัว

    สิ่งที่ผมกังวลนั้น  เกิดจากเหตุการณ์และสถานการณ์หลาย ๆ  เรื่องที่โอกาสจะเกิดขึ้นอาจจะไม่สูงแต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วก็มี “ศักยภาพ”  ที่จะทำให้เกิดอาการช็อกได้กับตลาดหุ้น   ตัวอย่างเช่นเศรษฐกิจไทยในปีหน้า  ถ้ายังแย่อยู่แบบปีนี้  ผลก็อาจจะรุนแรงได้เพราะมันอาจจะเปลี่ยน “ความเชื่อ” ของนักลงทุนว่าหุ้นจะดี  เช่นเดียวกับด้านของการเมือง  ถ้าทุกอย่างไม่ได้  “ลงตัว”  ปัญหาก็อาจจะรุนแรงได้  ประเด็นสำคัญก็คือ  ทุกครั้งที่หุ้นปรับตัวขึ้นมามากและดัชนีหุ้นขึ้นไปเร็วและสูงกว่ามาตรฐานระยะยาวแล้ว  โอกาสที่มันจะปรับตัวลงแรงก็มักจะมีสูงขึ้นเมื่อตลาดหุ้นประสบปัญหา  สิ่งต่าง ๆ  เหล่านี้  ประกอบกับสัญญาณของความ  “อึ้ง” และ “ทึ่ง” ดังที่กล่าว  ผมจึงรู้สึก “เสียว” จนบอกไม่ถูก
[/size]
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผมแน่นป้องกันเป็นหลักแล้วครับ ผลตอบแทนมาทีหลังเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
หมูน้อย
Verified User
โพสต์: 153
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับอาจารย์ ว่าแต่ท่านใดพอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม สำหรับเรื่องที่ทำให้ อาจารย์ ท่าน อึ้ง

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ติดตามข่าว จะได้ระมัดระวังตัวได้ถูกครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
มงคลชีวิต 38 ประการ

คือ บทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ทั้งหมด ๓๘ ประการ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คำว่า "ท้อใจ" คงมีไว้กับคนหลายคน
คำว่า "พ่ายแพ้" มีไว้ใช้กับตัวเราเอง

คงใช้ไม่ได้มั๊ง ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

นักวิ่งมาราธอนที่วิ่งจนขาล้าแต่เหลือภูเขาอีกสองสามลูกต้องวิ่งข้ามไป
นักมวยที่โดนต่อยลงไปกองและกรรมการกำลังนับ จะลุกหรือไม่ลุกดี
นักบอลกองหน้าเวลายังไม่หมดแต่คู่แข่งนำไปเยอะเสียเหลือเกิน

นักลงทุนผู้ชาญฉลาดหนังสือขายดีของเบนแกรม ถึงกับมีหน้าหนึ่งเขียนไว้ว่าคำปฏิญาณเมื่อถือหุ้นแล้วจะถือไว้ยี่สิบปี โดยไม่ต้องสนใจคนประสาทอย่างมิสเตอร์มาร์เก๊ต

พูดแล้วมันเทห์แต่ใครจะทำจริงๆ ตลาดร้อนแรง ตลาดหมี ล้วนกดดันให้คนเราทำอย่างใดอย่างหนึ่งทั้งนั้น

โดยหารู้ไม่ว่าการไม่ทำอะไรและยึดมั่นกับกลยุทธ์ที่เราวางไว้ก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง

อย่าแพ้ใจตนเองครับตลาดหุ้นไม่เคยทำให้เราเสียเงิน เราเองทั้งนั้นเป็นคนทำร้ายพอร์ตของเราเอง
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 6

โพสต์

สมัยก่อน เคยเจอ หุ้นตก 10 % หรือ เกือบ 10 % แล้วถอดปลั๊ก ให้ตลาดเทรดไม่ได้ ตอนนั้น

ไม่เห็นจะมีรายการ อึ้ง ทึ่ง เสียว

และแล้ว อยู่ดีๆ ก็ลงพรวดๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pavilion
Verified User
โพสต์: 1766
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ไม่มีอะไรให้เสียว :doi:
bing1992
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 30
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 8

โพสต์

คนกล้ากันมากขึ้น อยากเล่นหุ้นมากขึ้น ใครๆก็เล่นหุ้นดูแล้วรวยเร็ว
สบายไม่ต้องทำงาน ครั้งนี้อาจจะดีกว่าครั้งก่อนบ้าง ที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับมูลค่า
ความคุ้มค่า ทำให้ตลาดยังอยู่มาได้ทุกวันนี้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีคนจำนวนมาก
เข้ามาเพิ่มเงินในตลาดหุ้น ทำให้ตลาดผันผวน จนviดูน้อยลงไปถึงตอนนั้น
คงเป็นช่วงทำลายตลาด ตลาดไร้ประสิทธิภาพ ตอนขึ้นคงสุดโต่งตอนลงคงสุด....เท้า
ซื้อสินค้าซื้อกิจการ

ต่างคนต่างพื้นฐานความเห็นไม่ถูกต้องโปรดชี้แนะ มือใหม่หัดลงทุน
gripen
Verified User
โพสต์: 276
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 9

โพสต์

นักวิ่งมาราธอนอย่างผม ไม่มีคำว่า " อึ้ง ทึ่ง เสียว " สภาวะแวดล้อมรอบข้างจะเป็นอย่างไรก้อช่าง บริษัทที่ผมลงทุนยังคงเติบโต กำไรโต ปันผลมากขึ้นทุกปี ผมก้อลงทุนของผมไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนการวิ่งในแบบมาราธอน ในช่วงสั้น การวิ่งของผมคงแพ้นักวิ่งแบบ 100 เมตร แต่ในระยะยาวๆๆๆ รับรอง ผมวิ่งสู้เส้นชัยด้านอิสระภาพทางการเงินแน่นอน
ปล่อยให้เงินทำงาน...$$$
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 10

โพสต์

gripen เขียน:นักวิ่งมาราธอนอย่างผม ไม่มีคำว่า " อึ้ง ทึ่ง เสียว " สภาวะแวดล้อมรอบข้างจะเป็นอย่างไรก้อช่าง บริษัทที่ผมลงทุนยังคงเติบโต กำไรโต ปันผลมากขึ้นทุกปี ผมก้อลงทุนของผมไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนการวิ่งในแบบมาราธอน ในช่วงสั้น การวิ่งของผมคงแพ้นักวิ่งแบบ 100 เมตร แต่ในระยะยาวๆๆๆ รับรอง ผมวิ่งสู้เส้นชัยด้านอิสระภาพทางการเงินแน่นอน
ขอบคุณมากครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
surapol
Verified User
โพสต์: 272
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ถ้าเทียบการลงทุน กับการวิ่งมาราธอน ก็อยากจะเล่าประสบการณ์ที่ผ่านการวิ่งทั้งมาราธอน

หรือ อัลตรามาราธอน แล้วสิ่งที่เหมือนกันสำหรับการเตรียมการคือ

1. ต้องซ้อมให้ถึง จนรู้จักสังขารตัวเองดีพอ(รู้จักใจตัวเองยังถือว่าไม่พอ)

2. ต้องรู้ว่า การแข่งขันที่แท้จริง นั้นมักจะเริ่มต้นที่กิโล 35 เป็นต้นไป คุณจะเร็วตอนต้น

หรือช้าเป็นเต่าคลาน ท้ายที่สุดจะอยู่ที่แผนการใช้พลังงานอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้มาซึ่ง

กรอบเวลาที่พอใจต่อตัวเอง และ ความสมเหตุสมผลในระยะมาราธอน

3. ปฏิหารย์ หรือ กำลังใจที่มากล้น แต่ขาดข้อใดข้อหนึ่งใน สองข้อข้างบน สุดท้ายคุณจะ

บาดเจ็บ หรือไม่ก็จบการแข่งขันที่กลางทาง แม้จะคุยกับใครได้ว่าเคยผ่านแต่ในใจคุณ

จะรู้ดีที่สุดถึง ความโหดร้ายของการอาศัยปฏิหารย์ หรือ กำลังใจ

4. ระหว่างการแข่งขันแม้จะเตรียมตัวมาดีแค่ใหน ก็ยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดเหตุไม่

คลาดฝันได้อยู่เรื่อย แม้แต่เรื่องเล็กๆ เป็นต้นว่าเท้าคุณตกหลุมตื้น โดยไม่ได้ตั้งตัวจน

ทำให้คุณไปต่อไม่ได้และต้องรักษากันอีกนาน

5. เมื่อต้องเริ่มวิ่ง มาราธอน อีกครั้ง แม้มีประสบการณ์แล้ว ก็ยังคงต้องเริ่มจากข้อที่1 อยู่

เสมอ ด้วยเหตุผลข้อจำกัดของ สังขาร ที่อาจจะดีขึ้น หรือแย่ลง จึงมีเหตุจำเป็นต้องทำ

ทำความรู้จักสังขารตัวเองอยู่อย่างต่อเนื่อง

ผลสำเร็จของการวิ่งมาราธอน คือ ความโล่งใจ + ความลังเล+ความหึกเหิม ผสมกันไป จน

เป็นความระมัดระวัง แล้วนำไปสู่แผนการณ์ในครั้งต่อไป

ที่เล่ามาทั้งหมดไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับการลงทุนหรือเปล่า?
Way of life is way of brain
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 12

โพสต์

มา ตาม คำเรียกร้อง อึ้ง ทึ่ง เสียว แดง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมชอบบทความข้อเขียนนี้มาก ๆ ครับผม และผมขออนุญาต ตอบคำถามนะครับว่าน่าจะเทียบเคียงกับการลงทุนได้ดีทีเดียวครับ
ขอบคุณมากครับ
surapol เขียน:ถ้าเทียบการลงทุน กับการวิ่งมาราธอน ก็อยากจะเล่าประสบการณ์ที่ผ่านการวิ่งทั้งมาราธอน

หรือ อัลตรามาราธอน แล้วสิ่งที่เหมือนกันสำหรับการเตรียมการคือ

1. ต้องซ้อมให้ถึง จนรู้จักสังขารตัวเองดีพอ(รู้จักใจตัวเองยังถือว่าไม่พอ)
การลงทุนก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ใจสู้แต่ MOS ในพอร์ตและความสามารถในการเติบโตไม่มากพอ
ก็ถือว่าไม่รู้จัก "สังขารของพอร์ต" ดีพอ
อย่างน้อยเราควรรู้ว่า วัฏฏะ ของพอร์ตของเราอยู่ในช่วงไหนบริษัทที่เราลงทุนอยู่ในช่วงไหน เติบโต, วัยฉกรรจ์, วัยชรา


2. ต้องรู้ว่า การแข่งขันที่แท้จริง นั้นมักจะเริ่มต้นที่กิโล 35 เป็นต้นไป คุณจะเร็วตอนต้น

หรือช้าเป็นเต่าคลาน ท้ายที่สุดจะอยู่ที่แผนการใช้พลังงานอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้มาซึ่ง

กรอบเวลาที่พอใจต่อตัวเอง และ ความสมเหตุสมผลในระยะมาราธอน

อันนี้น่าสนทีเดียวครับ 35 ปี น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแพ้ชนะในการลงทุน ถ้าเทียบกับ เรคคอร์ด 50 กว่าปีของ วอร์เรน บัฟเฟตต์แล้ว
เราเพิ่งเป็นหนอนไข่ดักแด้เท่านั้นเอง




3. ปฏิหารย์ หรือ กำลังใจที่มากล้น แต่ขาดข้อใดข้อหนึ่งใน สองข้อข้างบน สุดท้ายคุณจะ

บาดเจ็บ หรือไม่ก็จบการแข่งขันที่กลางทาง แม้จะคุยกับใครได้ว่าเคยผ่านแต่ในใจคุณ

จะรู้ดีที่สุดถึง ความโหดร้ายของการอาศัยปฏิหารย์ หรือ กำลังใจ

มิสเตอร์มาร์เก๊ต นั้นเรื่องความโหดร้ายไม่เป็นรองใคร ปาฏิหารย์ยามตลาดตก เป็นไปไม่ได้
ไอ้เรื่องปลอบกันไปกันมานั่นก็แค่ ปะโลมโลก ไปวัน ๆ



4. ระหว่างการแข่งขันแม้จะเตรียมตัวมาดีแค่ใหน ก็ยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดเหตุไม่

คลาดฝันได้อยู่เรื่อย แม้แต่เรื่องเล็กๆ เป็นต้นว่าเท้าคุณตกหลุมตื้น โดยไม่ได้ตั้งตัวจน

ทำให้คุณไปต่อไม่ได้และต้องรักษากันอีกนาน

แม้กระทั่งในยามตลาดดี ก็มีเรื่องมากระทบกับบริษัทของเราจนเราต้องเสียหาย หรือคัทลอสเพราะคิดผิดอยู่เสมอ ๆ


5. เมื่อต้องเริ่มวิ่ง มาราธอน อีกครั้ง แม้มีประสบการณ์แล้ว ก็ยังคงต้องเริ่มจากข้อที่1 อยู่

เสมอ ด้วยเหตุผลข้อจำกัดของ สังขาร ที่อาจจะดีขึ้น หรือแย่ลง จึงมีเหตุจำเป็นต้องทำ

ทำความรู้จักสังขารตัวเองอยู่อย่างต่อเนื่อง

ผู้รู้บอกว่า การฝึกจิต, การพัฒนาตนเอง, กอล์ฟ และหุ้น ไม่มีคำว่ามือใหม่มือเก่า

ผลสำเร็จของการวิ่งมาราธอน คือ ความโล่งใจ + ความลังเล+ความหึกเหิม ผสมกันไป จน

เป็นความระมัดระวัง แล้วนำไปสู่แผนการณ์ในครั้งต่อไป

ที่เล่ามาทั้งหมดไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับการลงทุนหรือเปล่า?
ที่ (พยายาม) เล่าต่อก็เหมือน ๆ จะเกี่ยวกับการลงทุน แต่ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวหรือเปล่าอยู่ดี
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
yoko
Verified User
โพสต์: 4337
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ถ้าเรือกำลังจะล่ม อย่ามัวแต่สวดภาวนา ให้กระโดดลงน้ำทันที


แม็ก กุนเธอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 15

โพสต์

yoko เขียน:ถ้าเรือกำลังจะล่ม อย่ามัวแต่สวดภาวนา ให้กระโดดลงน้ำทันที


แม็ก กุนเธอ
อ้าว จิงดิ

ผมว่ากำลังจะไปช้อบของถูก ขายเพราะสติหรือขายเพราะเตลิดครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
เหล็งฮู้ชง
Verified User
โพสต์: 275
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เรือกำลังจะ ต้องอยู่หัวเรือ เพื่อรอจังหวะกระโดด จะได้ไม่ถูกแรงน้ำดูด หลับหูหลับตาโดดก็มีแต่ตายละครับ 555
จงอยู่ด้วยความไม่ประมาท
syj
Verified User
โพสต์: 4241
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เรือ --> บมจ. หรือ บริษัท ครับ
แต่น้ำหรือทะเล --> คือตลาดฯ

เรือ อาจรั่ว อาจมีปัญหาเครื่องพัง อาจไฟไหม้ กัปตันทิ้งเรือ ฯลฯ --> เราต้องสละเรือ (หรือเปล่า?)

น่านน้ำ หรือทะเล อาจปั่นป่วน มีพายุ --> เราต้องสละน่านน้ำ (หรือเปล่า?)
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 18

โพสต์

อืม ลงซะขนาดนี้ หายเสียวไปเยอะเลย

( ถ้าอยู่สูงๆแล้วเสียว )
nuk
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอบคุณอาจารย์ดร.นิเวศน์ที่ออกมาเตือนครับ แต่ผมก็ยังขายไม่ทันเลย เอาไงดีหนอ :?
yoko
Verified User
โพสต์: 4337
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ไม่น่าเชื่อว่านายตลาดจะกังวลมากขนาดนี้555
b4solid
Verified User
โพสต์: 995
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 21

โพสต์

วันนี้ มันจริงๆ
musicman
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ช้อปของถูกครับ แต่กระสุนมีไม่ค่อยเยอะ แบ่งเอาไปทำนั้นทำนี้ คงต้องไปรับจ็อบเพิ่มครับ
ดนตรีนั้นคือชีวิต
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ไม่รู้จริงหรือไม่ อ่านข่าวว่า บัญชี มาร์จิ้นโดน force sell เกือบ 2 หมื่นล้าน ช่วง 15.00-15.15

ถ้าจริง การเล่นมาร์จิ้นก็มีความเสี่ยงมากๆ
yoko
Verified User
โพสต์: 4337
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 24

โพสต์

มีได้ก็ต้องมีเสีย555
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 25

โพสต์

นายตลาดยุค Gen Y มีพัฒนาการจากยุคก่อนครับ อารมณ์แปรปรวนมากขึ้น เปลี่ยนใจเร็วมากด้วย
nuk
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 26

โพสต์

นายตลาดจะมาต่อราคาแบบนี้ ผมไม่ยอมขายให้หรอกครับ เก็บไว้กินปันผลดีกว่า
เดี๋ยวพรุ่งนี้เตรียมกระสุนไปยิงต่อสู้ดีกว่า เอ......มีใครคิดเหมือนผมไหมครับ..
WorriedInvestor
Verified User
โพสต์: 262
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 27

โพสต์

วันนี้ลองตั้งไว้ราคาข้างล่างเล่นๆ 2-3ตัว แล้วไม่ได้อยู่หน้าจอ ไม่นึกว่าจะเฟิร์มทุกออเดอร์ ดีซะอีกครับ(ปลอบใจตัวเอง) เพราะถ้าอยู่หน้าจอ Cancel ซะก่อนทุกที ต่อราคาอยู่นั่นแหละ ไม่ได้ของซะที อิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ถ้าวันก่อนกระโดดลงเรือตอนเช้า ช่วงบ่ายก็คงดำน้ำสักพักท่ามกลางคลื่นใหญ่สำลักน้ำกันพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงคนตะโกน เร็วเข้ารีบขึ้นเรือเร็วก็โหมขึ้นเรือกัน

เอาเช้าอีกแล้วจะโดดอีกรอบมั๊ย
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

Re: อึ้ง-ทึ่ง-เสียว/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 29

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ถ้าวันก่อนกระโดดลงเรือตอนเช้า ช่วงบ่ายก็คงดำน้ำสักพักท่ามกลางคลื่นใหญ่สำลักน้ำกันพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงคนตะโกน เร็วเข้ารีบขึ้นเรือเร็วก็โหมขึ้นเรือกัน

เอาเช้าอีกแล้วจะโดดอีกรอบมั๊ย
ตายไปตั้งแต่สำลักรอบแรกแล้วครับพี่
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
โพสต์โพสต์