คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    นักลงทุนในตลาดหุ้นมักจะชอบอยากรู้ว่าคนอื่นๆโดยเฉพาะขาใหญ่หรือเซียนหุ้นกำลังซื้อหุ้นตัวไหนอยู่ หลายคนพอรู้ว่ารายใหญ่กำลังซื้อหุ้นบริษัทใดอยู่ก็เข้าไปซื้อตามในทันทีโดยไม่ได้ศึกษาหุ้นบริษัทนั้นอย่างดีพอ นอกเหนือจากนั้นตามงานสัมมนาต่างๆหลังเลิกงานแล้ว คำถามที่ได้ยินอยู่เสมอคือช่วงนี้ซื้อหุ้นอะไรดี ซึ่งเป็นคำถามที่ยอดนิยมและไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด ยิ่งในช่วงนี้มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก เพียงเพราะมีคนทำกำไรจากตลาดหุ้นได้มากจึงอยากได้กำไรเหมือนคนอื่นบ้าง แต่หลายคนเข้ามาโดยไม่มีความรู้ในการลงทุนเพียงพอ

    คำถามหนึ่งที่ตลอดเวลาที่เป็นนักลงทุนและไปบรรยายในโอกาสต่างๆไม่เคยมีนักลงทุนคนใดใครถามเลยคือคำถามที่ว่า”มีหลักการลงทุนอย่างไร” คนส่วนใหญ่ต้องการรู้แค่ชื่อหุ้นเพื่อไปซื้อตามแค่นั้น แต่มีน้อยคนมากที่สนใจว่าหลักการลงทุนที่ทำเงินจากตลาดหุ้นนั้นจริงๆแล้วมีอยู่หรือไม่ ถ้ารู้หลักการนี้แล้วสามารถนำไปใช้ได้ตลอดอายุการลงทุนเลยทีเดียว แต่คนส่วนใหญ่สนใจใน”วิธีการ”มากกว่า”หลักการ”ดังนั้นพอมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหุ้นที่ตนไปสอบถามมาก็เกิดอาการประสาทเสีย ไม่รู้จะทำอย่างไรดีโดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นที่ซื้อมาตกลงๆทุกวัน

    หลักการการลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้นถ้าสรุปใจความสำคัญสั้นๆง่ายๆนั้นมีเพียงประโยคเดียวคือ “ซื้อหุ้นในธุรกิจที่เข้าใจ ราคาต่ำกว่ามูลค่า ผู้บริหารไว้ใจได้และถือไว้ตราบเท่าที่บริษัทยังมีผลประกอบการที่ดี” ฟังดูเหมือนไม่ยากแต่ในความเป็นจริงการปฏิบัติตามหลักการนี้หลายคนไม่สามารถทำได้ตลอดรอดฝั่ง เหตุผลหนึ่งก็คือหุ้นบริษัทที่ซื้อมาราคาไม่ไปไหน ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆโดยเฉพาะหุ้นตัวเล็กๆที่มีเจ้ามือคอยลากราคาหุ้นมีราคาสูงขึ้นทุกวัน สุดท้ายก็ทนใจตนเองไม่ไหว หันไปเล่นหุ้นปั่นดีกว่า ได้กำไรเร็วกว่าการมายึดมั่นในหลักการที่ไม่รู้ว่าจะทำกำไรได้อย่างไร

    นักลงทุนที่มีหลักการในการลงทุนอย่างเหนียวแน่นนี้ต้องยกให้วอร์เรน บัฟเฟต มีหลายครั้งที่บัฟเฟตทำอะไรสวนกระแสจนผู้คนในช่วงนั้นกล่าวหาว่าเขาคงบ้าไปแล้วหรือไม่ก็คงเพิ้ยนจนตามโลกสมัยใหม่ไม่ทัน ในช่วงปี 1970 ตอนนั้นบัฟเฟตยังบริหารกองทุนของเขาเองที่ชื่อบัฟเฟตพาร์ทเนอร์ชิพ (Buffet Partnership) เขาลงทุนโดยรวบรวมเงินของครอบครัวและผู้ร่วมลงทุนมาลงทุนในตลาดหุ้นโดยใช้หลักการการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของเกรแฮม เขาประสบความสำเร็จมากจนมูลค่ากองทุนเพิ่มขึ้นหลายเท่าในช่วงเวลาสิบปีของการก่อตั้ง จนถึงต้นปี 1970 ตลาดหุ้นในอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจนบัฟเฟตไม่สามารถหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าของกิจการได้ เขาตัดสินใจยุบกองทุนของเขาและคืนเงินให้กับผู้ลงทุนไป คนที่รู้เรื่องต่างประหลาดใจเป็นอย่างมากเพราะตลาดหุ้นกำลังไปได้ดีและหุ้นก็มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่บัฟเฟตกลับเลิกที่จะลงทุนในหุ้น สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อประเทศกลุ่มโอเปกประกาศขึ้นราคาน้ำมันกว่าเท่าตัวทำให้เศรษฐกิจอเมริกาฟุบหนัก ตลาดหุ้นอเมริกาในช่วงปี 1970 ต้องล่มสลายและราคาหุ้นส่วนใหญ่ตกลงอย่างมาก ผ่านไปสามสี่ปี บัฟเฟตถึงเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้งหลังจากที่มีหุ้นราคาถูกในตลาดมากเพียงพอ

    เหตุการณ์ครั้งที่สองเกิดขึ้นในปี 2000 ในช่วงนั้นตลาดหุ้นแนสแดคกำลังฟู่ฟ่าเนื่องจากนักลงทุนมองว่าหุ้นของบริษัทดอดคอมทั้งหลายกำลังมาแรงและจะเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจของบริษัทในอเมริกา หุ้นบางบริษัทเพิ่งเข้าไปไอพีโอมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก หลายบริษัทราคาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยเท่า นักลงทุนโดยเฉพาะผู้บริหารบริษัทและผู้ถือหุ้นร่วมทุน (Venture Capital) ต่างร่ำรวยกันถ้วนหน้า ช่วงนั้นราคาหุ้นเบิร์คไชน์ของบัฟเฟตราคาไม่ไปไหนแถมมีราคาลดลงทุกวัน เพราะนักลงทุนหันไปเล่นหุ้นเทคโนโลยี่กันหมด จนหลายคนกล่าวว่า”บัฟเฟตตายแล้ว การลงทุนแบบเน้นคุณค่าใช้ไม่ได้อีกต่อไป” บัฟเฟตไม่ได้ซื้อหุ้นเหล่านี้เข้าพอร์ตเลยเพราะเขาบอกว่าเขาไม่เข้าใจในธุรกิจดอดคอมดีพอ บัฟเฟตถูกเปรียบเทียบกลายเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี สุดท้ายคนที่หัวเราะทีหลังแล้วดังกว่าก็คือบัฟเฟตเพราะในช่วงต้นปี 2000 ตลาดหุ้นแนสแดคตกลงอย่างมาก หุ้นหลายบริษัทต้องล้มละลายและถูกถอดออกจากตลาดไป หลายบริษัทราคาหุ้นลดลงเหลือแค่ 10 เปอร์เซนต์ ดังนั้นคนที่เชื่อมั่นในหลักการอย่างบัฟเฟตถึงสามารถยืดหยัดอยู่ในตลาดหุ้นได้มานานกว่า 70 ปีนับจากวันแรกที่เขาซื้อหุ้นตัวแรกเมื่ออายุ 12 ขวบจนถึงปัจจุบัน แล้วเราๆท่านๆมี”หลักการ”ในการลงทุนอย่างไรบ้าง
[/size]
yoko
Verified User
โพสต์: 4337
ผู้ติดตาม: 0

Re: คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คำถามแท้จริง ที่ไม่มีใครถาม คือ “แล้วมีวิธีการอื่นที่เหนือกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์หรือไม่?”

เคยได้ยินมั๊ยครับ ไม่มี ไม่มีใครถาม เพราะคำถามนี้ท้าทายความเชื่อ เพราะนักลงทุนติดกรอบไปแล้ว มันมีกรอบความคิดไปแล้วแงะไม่ได้แล้ว

วอร์เรนเอง ก็มีช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่ไม่ดี ถึงกับเคยบอกว่าเค้าอาจจะไม่สามารถทำอัตราผลตอบแทนสูง ๆ ได้อีกแล้ว

นี่ต่างหากเล่าคือคำถามที่ควรจะถาม

เราจะเป็นนักลงทุนอย่างคุณค่าอย่างแท้จริง หากเราใช้ประโยชน์จากคำถามอย่างมีเหตุผล แม้ว่าในที่สุดแล้วเราอาจจะก้าวข้ามคำถามนี้ไม่ได้ แต่มันมีประโยชน์ที่เราจะพยายามตอบ ตอบอย่างมีเหตุผลและไม่ใช่อารมณ์ อนาคตจะมีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้น และความสำเร็จเหล่านั้นจะพัฒนาต่อยอดแน่นอน
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
Akkapun
Verified User
โพสต์: 249
ผู้ติดตาม: 0

Re: คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เจอโพสนี้ของพี่ NB กระตุ้นสมอง จนถึงกับต้องคอมเม้นเลย
Nevercry.boy เขียน:คำถามแท้จริง ที่ไม่มีใครถาม คือ “แล้วมีวิธีการอื่นที่เหนือกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์หรือไม่?”

เคยได้ยินมั๊ยครับ ไม่มี ไม่มีใครถาม เพราะคำถามนี้ท้าทายความเชื่อ เพราะนักลงทุนติดกรอบไปแล้ว มันมีกรอบความคิดไปแล้วแงะไม่ได้แล้ว

วอร์เรนเอง ก็มีช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่ไม่ดี ถึงกับเคยบอกว่าเค้าอาจจะไม่สามารถทำอัตราผลตอบแทนสูง ๆ ได้อีกแล้ว

นี่ต่างหากเล่าคือคำถามที่ควรจะถาม

เราจะเป็นนักลงทุนอย่างคุณค่าอย่างแท้จริง หากเราใช้ประโยชน์จากคำถามอย่างมีเหตุผล แม้ว่าในที่สุดแล้วเราอาจจะก้าวข้ามคำถามนี้ไม่ได้ แต่มันมีประโยชน์ที่เราจะพยายามตอบ ตอบอย่างมีเหตุผลและไม่ใช่อารมณ์ อนาคตจะมีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้น และความสำเร็จเหล่านั้นจะพัฒนาต่อยอดแน่นอน
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ถ้าอ่านดีดี วิธีบัฟเฟต ก้อดีที่สุด แล้วนี่....
The One
yakjabon
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

Re: คำถามที่ไม่เคยถาม/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

จำได้ว่ามี speech นึงของ Warren Buffett ที่มหาวิทยาลัยนึง เขาบอกเองว่า "I don't understand why people would like to be like me. I'm obsolete but you are the future." ไรประมาณนี้น่ะครับ ถ้า Warren เองไม่เคยตั้งคำถามกับหลักการของ Graham ก็คงไม่มี WB ในวันนี้ และผมเชื่อว่าคงมี Great investor ปี 2040 อีกหลายคนที่ตอนนี้กำลังตั้งคำถามกับวิธีการปัจจุบัน มันเป็นพัฒนาการ เป็นสัจธรรม ไม่ว่ารูปธรรมหรือนามธรรมฉันใดก็ฉันนั้น

แต่พุดงี้เดี๋ยวแฟนคลับปู่บัฟจะโกรธเอา ก็ขออ้างหลักคำสอนของพุทธศาสนาเราอย่างนึงละกันครับ ว่า "อย่าเชื่อ (ถ้าเราไม่ได้ประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง)" .. Invincible MOS is knowing what you are doing ครับ :)
Nevercry.boy เขียน:คำถามแท้จริง ที่ไม่มีใครถาม คือ “แล้วมีวิธีการอื่นที่เหนือกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์หรือไม่?”

เคยได้ยินมั๊ยครับ ไม่มี ไม่มีใครถาม เพราะคำถามนี้ท้าทายความเชื่อ เพราะนักลงทุนติดกรอบไปแล้ว มันมีกรอบความคิดไปแล้วแงะไม่ได้แล้ว

วอร์เรนเอง ก็มีช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่ไม่ดี ถึงกับเคยบอกว่าเค้าอาจจะไม่สามารถทำอัตราผลตอบแทนสูง ๆ ได้อีกแล้ว

นี่ต่างหากเล่าคือคำถามที่ควรจะถาม

เราจะเป็นนักลงทุนอย่างคุณค่าอย่างแท้จริง หากเราใช้ประโยชน์จากคำถามอย่างมีเหตุผล แม้ว่าในที่สุดแล้วเราอาจจะก้าวข้ามคำถามนี้ไม่ได้ แต่มันมีประโยชน์ที่เราจะพยายามตอบ ตอบอย่างมีเหตุผลและไม่ใช่อารมณ์ อนาคตจะมีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้น และความสำเร็จเหล่านั้นจะพัฒนาต่อยอดแน่นอน
Invincible MOS is knowing what you're doing
โพสต์โพสต์