ดี-เกิน-ไป/คนขายของ

[Thai VI Article]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ยินข่าวมีสถานบริการฟิตเนสแห่งหนึ่งต้องปิดตัวลงเพราะปัญหาสภาพคล่องและการขาดทุนสะสม ก่อนหน้านี้กิจการนี้มีการเสนอขายสมาชิกแบบตลอดชีพในราคาที่จูงใจมาก ด้วยราคาที่ฟังดูแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้ ทำให้หลายคนให้ความสนใจ และได้ลองสมัครสมาชิกดู แต่พอไปใช้บริการได้ไม่นานก็พบว่าแต่ละสาขาต้องทำการปิดตัวลง

เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงสามเหตุการณืที่เกิดขึ้นในชีวิตนักลงทุนของผม ซึ่งแต่ละเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน แต่ต่างมีเหตุจูงใจที่ใกล้เคียงกัน

เหตุการณ์ที่หนึ่ง: เป็นเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนที่บริษัทที่ทำกิจการโรงไฟฟ้าใหญ่แห่งหนึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผมได้รับการจัดสรรหุ้น IPO มาจำนวนหนึ่ง มาร์เก็ตติ้งที่ผมใช้บริการอยู่ตอนนั้นพอเห็นหุ้น IPO นี้ในพอร์ตผมก็โทรมาและแนะนำให้ผมทำการขายหุ้นก่อนที่จะเทรดวันแรก โดยบอกว่าสภาพตลาดตอนนี้ไม่ดีเลย หุ้นตัวนี้เข้าเทรดวันแรกไม่น่าจะได้ราคาดี แต่ตอนนี้มีคนเขาตั้งโต๊ะ รับซื้อหุ้นตัวนี้ที่ราคาบวกไป 50% เขาเลยอยากแนะนำให้ผมขายออกไปก่อน ผมรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับข้อเสนอนี้ผมจึงไม่ได้ขายให้รายใหญ่ที่รับซื้อไป ผมรอจนหุ้นตัวนี้เข้าซื้อขายในวันแรกและได้ขายไปที่ราคาสูงกว่า ราคา IPO ประมาณสองเท่า(ซึ่งหลังจากที่ผมขายไป ราคาก็ยังคงวิ่งต่อขึ้นไปอีกเกือบ 50% จากราคาที่ผมขายไป)

เหตุการณ์ที่สอง: เกิดขึ้นประมาณปี 2008 ก่อนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ผมได้รับโทรศัพท์จากพนักงานของธนาคารข้ามชาติรายใหญ่รายหนึ่งซึ่งมาชักชวนให้ผมลงทุนในกองทุนน้ำมัน ผมเองไม่ถนัดการลงทุนใน commodity เท่าไหร่เพราะผมเชื่อว่า commodity อย่างน้ำมันเป็น global business ดังนั้นมีคนที่รู้ดีกว่าผมเยอะ ผมจะไปสู้เขาได้อย่างไร ผมก็เลยตอบปฏิเสธไป พอวางสายไปได้ไม่นาน ก็มีโทรศัพท์มาจากธนาคารใหญ่รายนั้นอีก แต่คราวนี้คนที่โทรมาไม่ใช่พนักงานธรรมดา แต่เขาบอกว่าเขาเป็นผู้จัดการกองทุนของกองทุนน้ำมันนั้น หลังแนะนำตัวเสร็จเขาก็ให้เหตุผลต่างๆนานาว่าทำไมผมถึงควรจะลงทุนในน้ำมัน แต่ว่าผมก็ยังยืนยันหนักแน่นเหมือนเดิม และรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับการที่มีผู้จัดการกองทุนโทรมาหาเพื่อมาอธิบายเหตุผลในการลงทุนด้วยตนเองปรากฎว่าอีกไม่กี่เดือนต่อมาราคาน้ำมันก็เป็นอย่างที่หลายคนทราบว่าได้ดำดิ่งลง จากที่กูรูหลายๆท่านที่ว่าจะไป 200 USD/Barrelตอนนั้นลงแบบเทกระจาดแทบไม่มีใครอยากเข้าไปรับเอา

เหตุการณ์ที่สาม: เป็นเหตุการณ์ซี่งเพิ่งเกิดเมื่อปลายปีที่แล้ว หนึ่งในโบรกเกอร์ที่ผมใช้บริการอยู่โทรมาหาผม ก่อนหน้านี้ผมเคยอยากจองหุ้น IPO บางตัวแต่เขาไม่สามารถหาให้ได้ในจำนวนทีผมอยากได้ แต่คราวนี้เขาบอกผมว่า กำลังจะมีหุ้น IPO ตัวหนึ่งที่เขาจะเอาเข้าตลาด ถ้าผมอยากได้เท่าไหร่ให้บอกได้เลย เขาจะจัดให้ ซึ่งผมน่าจะได้มากเท่าที่ผมอยากได้ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ว่าเรื่องนี้มันดูดีเกินไปอย่างประหลาด ก่อนหน้านี้มีแต่ประมาณว่าขอไปร้อยได้มาห้า ด้วยสัญชาติญาณ ผมจึงทำการปฏิเสธไม่จองหุ้น IPO ตัวนี้ ต่อมาไม่นานหุ้นตัวนี้ก็เข้าเทรดวันแรกและได้ทำให้หลายคนประหลาดใจที่ราคาปิดต่ำกว่าจองในขณะที่หุ้น IPO หลายๆตัวในปีที่แล้วล้วนสร้างความฮือฮาในวันที่เข้าเทรดวันแรก

โลกของการลงทุนนั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่มากมาย ตอนผมเข้ามาลงทุนใหม่นั้นผมเองก็มองทุกอย่างเป็นสีชมพู ประมาณว่าถ้าตลาดหุ้นเป็นรูปวาดสักรูป…ก็เป็นรูปแบบที่เด็กๆชอบวาดกัน ก็คือ มีบ้านมีภูเขา มีแม่น้ำ มีพ่อแม่ลูก มีสายรุ้งพาดผ่าน แต่ต่อมาผมพบว่าตลาดหุ้นนั้นก็เหมือนหลายๆสิ่งในโลก ที่มีด้านตรงข้ามเสมอ มีดำ มีขาว มีสงบมีวุ่นวาย มีกลางวัน มีกลางคืน ดังนั้นนักลงทุนควรตะหนักถึงทั้ง สองด้านให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน 

[/size]

[THAMES'DADDY]

ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆครับ

[zephyr]

ขอบคุณครับ

บางทีผมเคยคิดเหมือนกันว่ามันดีเกินไปในบางเหตุการณ์
แต่ผลมันก็ออกมาดีจริงๆ แต่ผมพลาด 555
อย่างว่าครับ เสียดายดีกว่าเสียใจ

[MaiFuen]

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีดีครับ ^^

[kongkiti]

ดี-เกิน-ไป = too good to be true ^^

[investment biker]

อ่านเหตุการณ์ที่สอง แล้วทำให้นึกถึงหนังสือเล่มนึงที่ชื่อ "Liar's Poker"

[seksan999]

อ่านแล้วได้มุมมองดีๆเพิ่มขึ้นครับ ขอบคุณมากๆครับ

[naijan]

ได้มุมมองดีๆอีกแล้ว ขอบคุณมากๆครับ

------------------------------------
รวยด้วยรัก

http://www.thorfun.com/story/view/URtOR67rWaF3ABtA

[roadtobillion]

ขอบคุณครับ อ่านแล้วเตือนสติได้ดีมากครับ

[Gobkung]

ขอบคุณครับ :D

[Thai_Yor]

เป็นข้อคิดที่ดีครับ ทำให้รู้ว่า มือใหม่อย่างผม ถ้าจะประสบความสำเร็จ หนทางยังอีกยาวไกล ความรู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องหาประสบการณ์จากผู้รู้ด้วย

ขอบคุณมากครับ

[Dr.Jfk]

ขอบคุณ ครับ

สรุป ว่่าถ้า เจออะไร ที่มันดูดีเหลือเชื่อ

ก่อนจะเชื่อให้คิดให้หนักๆ หรือ ไม่ก็อย่าไปเชื่อมันเลย ดีกว่า ใข่มั้ย คับ อิๆ

[musashi]

เป็นมุมมองจากประสบการณ์ที่ดีมากครับ ถ้าเราเรียนรู้ที่จะสังเกตุเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วนำมาวิเคราะห์ เก็บไว้ในบทเรียนของเรา จะยิ่งทำให้เราพัฒนามากขึ้น
ขอบคุณครับ

[PLUSLOVE]

ขอบคุณครับ ผมชอบประโยคนี้ครับ


โลกของการลงทุนนั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่มากมาย ตอนผมเข้ามาลงทุนใหม่นั้นผมเองก็มองทุกอย่างเป็นสีชมพู ประมาณว่าถ้าตลาดหุ้นเป็นรูปวาดสักรูป…ก็เป็นรูปแบบที่เด็กๆชอบวาดกัน ก็คือ มีบ้านมีภูเขา มีแม่น้ำ มีพ่อแม่ลูก มีสายรุ้งพาดผ่าน แต่ต่อมาผมพบว่าตลาดหุ้นนั้นก็เหมือนหลายๆสิ่งในโลก ที่มีด้านตรงข้ามเสมอ มีดำ มีขาว มีสงบมีวุ่นวาย มีกลางวัน มีกลางคืน ดังนั้นนักลงทุนควรตะหนักถึงทั้ง สองด้านให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน

[TissueThiti]

บทความนี้ดีเกินไป 555 #ล้อเล่นนะครับ
เห็นด้วยนะครับ ผมเริ่มเรียนรู้มาสักพักแล้วว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โลกไม่ได้สวยสำหรับเราขนาดนั้น
โดยเฉพาะ "การรวยเร็ว" มันไม่ง่ายหรอกที่จะเหมือนในนิยายหรือความฝัน แบบซื้อปุ้บพรุ่งนี้รวยปั้บ

เราต้องยอมรับว่า "เราเป็นคนธรรมดา" ที่ต้องทำงานหนักและตั้งใจพอ

[Vinzy]

ได้ข้อคิดไปพอควรเลยครับ ขอบคุณครับ

[JAY-BOSS]

ขอบคุณครับ เตือนให้เห็นว่าในตลาดหุ้นนั้นเต็มไปด้วยระบบผลประโยชน์มากมาย ทำให้เตือนสติตัวเองเสมอว่า เกมในโลกทุนนิยมนั้นเป็นเกมที่ต้องระมัดระวังตัวมากครับ OMG T_T