จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?/Road to Billion

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?/Road to Billion

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?

ใน Meeting ของ Road to Billion ที่ผ่านมามีคนถามคุณสุมาอี้กับผมว่า "ควรจะมีหุ้นซักกี่ตัวดี?"​ คำถามนี้คงเป็นเรื่องที่ค้างคาใจนักลงทุนหลายท่านเพราะในงานสัมมนาแทบทุกครั้ง ผมมักจะได้ยินคนถามคำถามนี้ ผมก็เลยได้โอกาสไปค้นคว้าหาแง่มุมต่างๆมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เป็นการลองบิดกุญแจไขปัญหาที่ค้างคาอยู่ในหน้าอก (ข้างซ้าย) ของนักลงทุนทุกท่าน

แต่ก่อนจะตอบว่ามีหุ้นกี่ตัวดี เราควรจะถามก่อนว่าจำนวนหุ้นที่เราถือจะมีผลยังไงต่อพอร์ตและชีวิตของเราบ้าง

1. หุ้นเยอะ ต้องการเวลาแยะ

ปี เตอร์ ลินช์ เคยพูดว่า “หุ้นก็เหมือนกับลูก มีเท่าที่คุณพอจะดูแลเค้าได้ก็พอ” เดี๋ยวคนไทยส่วนมากมีลูกแค่คนเดียวหรืออย่างมากก็สองคน ลองนึกภาพมีลูกซัก 10 คนเหมือนสมัยก่อนคงจะตลกพิลึก แต่ “หุ้น” ต่างกับ “ลูก” ตรงที่ว่าหุ้นของแต่ละคนอาจจะต้องการเวลาในการดูแลต่างกัน ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

เราต้องตามงบเป็นรายไตรมาสหรือเปล่า?
เราจำเป็นต้องเฝ้าราคาหุ้นหรือเปล่า?
เรารู้จักอุตสาหกรรมหรือหุ้นตัวนั้นดีแค่ไหน?
เรามีประสบการณ์ในการลงทุนมากน้อยแค่ไหน?
หุ้นที่เราถือในพอร์ตมีความคล้ายคลึงกันแค่ไหน?
ส่วน ตัวแล้วผมยังไม่มีลูก แต่ก่อนที่ผมจะตัดสินใจลงทุน ผมจะใช้เวลาศึกษาหุ้นแต่ละตัวเยอะมาก และถ้าตัดสินใจแล้วก็จะไม่ได้ใช้เวลาในการตามเท่าไหร่ (อาจจะมีตามงบรายไตรมาสบ้าง แต่ก็แค่ปีละ 4 หน) ก็เลยสามารถดูแลหุ้นได้ประมาณ 8 - 10 ตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะถือเท่านั้นนะครับ มันเป็นแค่แนวทางเฉยๆ ผมอาจจะมีหุ้นมากกว่านั้นได้ถ้าหุ้นพวกนั้นไม่ต้องการเวลาจากผมมากหรือไม่มี นัยสำคัญกับพอร์ต

2. จำนวนหุ้นน้อย ความเสี่ยงกระจุกตัว

คุณสุ มาอี้เคยพูดว่า “ถึงหุ้นจะดีแค่ไหนมันก็มีโอกาสจะพลาดได้” โดยส่วนตัว ถึงแม้หุ้น “ร้านค้าห้องแถว” จะดีอย่างไร จะมีความสามารถในการแข่งขันเยอะแค่ไหน เติบโตได้ไกลเท่าไหร่ ผมก็คงนอนไม่ค่อยหลับถ้าจำเป็นต้องถือหุ้นตัวนั้นเพียงตัวเดียว เพราะหุ้นทุกตัวย่อมมีความเสี่ยง แต่ถ้าในทางตรงกันข้ามพอร์ตผมมีหุ้น 50 ตัว ผมก็ไม่รู้ว่าจะผมตื่นขึ้นมาหาหุ้นใหม่ๆไปทำไมเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะเลือกถูกหรือเลือกผิดมันก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อพอร์ตซักเท่า ไหร่

เบนจามิน เกรแฮม เคยบอกไว้ว่าเราจะสามารถได้ประโยชน์จากการ “กระจายความเสี่ยง” ถ้าเรามีหุ้น 10 - 30 ตัวในพอร์ตเรา แต่ในขณะที่ปีเตอร์ ลินช์ และบัฟเฟต์ เคยพูดว่าหุ้น 5 ตัวก็น่าจะเพียงพอแล้ว

แล้วเราจะมีกี่ตัวดี?

วิธี คิดแบบง่ายๆในการประเมินระดับความเสี่ยงที่เรารับได้: สมมติว่าเราถือหุ้น 5 ตัว แสดงว่าแต่ละตัวจะมีน้ำหนัก 20% ของพอร์ตโดยเฉลี่ย ถ้าหุ้นตัวใดตัวหนึ่งปรับตัวลง 30% พอร์ตคุณจะลดลงประมาณ 6% คุณรับกับมันได้รึเปล่า?​(ถ้าคุณมีระบบ cut loss คุณอาจจะใช้ตัวเลข 5% 10% แล้วแต่ระบบของคุณเพื่อนำมาคำนวณความเสี่ยงได้) ลองคำนวณเล่นๆดูครับ ปรับไปปรับมาก็จะเจอตัวเลขที่เราคิดว่าเหมาะสมครับ

3. ผลตอบแทนที่เราจะได้รับ?

ผม เคยได้ยินนักลงทุนหลายท่านบอกว่า “จำนวนหุ้นที่น้อยกว่า” จะทำให้เราได้ “ผลตอบแทนที่ดีขึ้น” แต่ถ้าเราลองมาคิดดูดีๆจะพบว่าเรา “อาจจะ” ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น “ถ้า” เราเลือกหุ้นได้ถูกตัว เพราะฉะนั้นการถือหุ้นจำนวนน้อยตัวหรือแบบ Focus จะมีประโยชน์มากกว่าสำหรับนักลงทุนที่พอจะมีความสามารถระดับหนึ่งแล้ว แต่สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่หรือนักลงทุนที่ยังลองผิดลองถูกอยู่อย่างผม การถือแบบ Focus อาจจะไม่ได้ให้ผลประโยชน์เท่ากับนักลงทุนที่เก่งๆและยังอาจจะเพิ่มความ เสี่ยงให้กับพอร์ตมากกว่าการถือหุ้นหลายๆตัว

ผมสังเกตว่านักลงทุนหน้า ใหม่บางท่านชอบอัดเงินทั้งพอร์ตเข้าไปซื้อ “หุ้นเด็ด” โดยไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอ พูดอีกอย่างคือเล่นหุ้นแบบ “แทงหวย” คนแบบนี้ส่วนมากก็มักจะถูกเจ้ามือหวยกินเรียบจนหลายคนขยาดการลงทุนไปเลย

ใน อีกมุมนึง ปีเตอร์ ลินช์ เคยบอกไว้ว่าเค้าไม่รู้หรอกว่าหุ้นตัวไหนจะกลายเป็นหุ้น 5 เด้ง 10 เด้ง เพราะฉะนั้นการมีหุ้นเยอะๆก็อาจจะเหมือนการซื้อลอตเตอรี่ ถ้าเราซื้อหลายๆใบก็อาจจะมีโอกาสถูกมากกว่า ฉะนั้นในบางครั้งการถือหุ้นหลายๆตัว (ที่ผ่านการคัดกรองมาแล้ว) ก็อาจจะดีกว่าการใช้เวลาไปกับการเลือกหุ้นเพียงตัวเดียวที่จะให้ผลตอบแทน สูงสุดก็ได้ครับ เพราะบางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าไอเดียการลงทุนของเราอันไหนจะออกดอกออกผล

นอกจาก ปัจจัยที่ต้องพิจารณาทั้งสามข้อแล้ว จำนวนหุ้นที่ถืออาจจะต้องเพิ่มขึ้นตามความจำเป็นถ้าคุณมีพอร์ตขนาดใหญ่หรือ ลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อย และอาจจะลดลงได้ถ้าคุณมีหุ้นที่คุณชอบและมั่นใจมากๆ (อย่าลืมว่าทุกคนมีโอกาสที่จะผิด) จะว่าไปการปรับสัดส่วนหุ้นในพอร์ตก็อาจจะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการ ตัดสินใจ คงจะไม่มีสูตรตายตัว

สุดท้ายแล้วใครจะมี “ลูก” ​กี่คนก็แล้วแต่จะเลือกเลยครับ ตามจริตและความสามารถของแต่ละคน ถ้าอยากจะมีลูกเยอะก็อาจจะต้องเหนื่อยหน่อย แต่ก็อุ่นใจเพราะเวลาแก่ตัวไปจะได้ไม่เหงาครับ 555

คนอื่นๆถือหุ้นกันกี่ตัวครับ? มีหลักอะไรในการคิดบ้าง? มาแลกเปลี่ยนไอเดียกันครับ

ด้วยรักและพันล้าน
Road to Billion
[/size]
รูปภาพ
"ซื้อหุ้นก็เหมือนมีลูก อยากจะมีกันกี่คนครับ? แฝด 5 ดีมั้ย?"
ปล. รูปน่ารักๆนี้มาจาก http://phillipsmultiples.blogspot.com/ นะครับ เป็น blog ของครอบครัวลูกแฝด 6 (อีกคนไม่อยู่ในรูป) น่ารักดีครับ
zephyr
Verified User
โพสต์: 915
ผู้ติดตาม: 0

Re: จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?/Road to Billion

โพสต์ที่ 2

โพสต์

พยายามจะถือ 5 ตัว แต่ตอนนี้มี 10 ตัวแล้ว ฮือๆ จะขายตัวไหนดีเนี่ย
roadtobillion
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 34
ผู้ติดตาม: 0

Re: จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?/Road to Billion

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ึคุณ zephyr ครับ สถานการณ์ผมก็คล้ายๆกันครับ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าพอร์ตผมจะกระจัดกระจายไปหน่อย เมื่อวานฟังพี่หลินพูดที่ห้องสมุดมารวยเกี่ยวกับจำนวนหุ้นที่ถือก็ได้ไอเดียดีนะครับ (เสียดายที่ไม่ได้ัฟังก่อนเขียนบทความ) พี่หลินบอกว่าหุ้นตัวที่ชอบที่สุดไม่ควรถือเกิน 30% และตัวที่น้อยที่สุดไม่ควรจะต่ำกว่า 10% (เพราะจะไม่มีนัยกับพอร์ต) พี่หลินบอกว่าเราต้อง "ทบทวนพอร์ต" บ่อยๆ พิจารณาว่าตัวไหนเราควรจะถือไว้ ตัวไหนไม่ควรถือหรือซื้อเพิ่ม ผมกะว่าจะเอาวิธีนี้มาใช่ล่ะครับ ฟังดูง่ายและน่าจะได้ผลดีครับ
zephyr
Verified User
โพสต์: 915
ผู้ติดตาม: 0

Re: จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?/Road to Billion

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมถือ 10 ตัว คือถือลงทุนจริงๆมี 5-6 ตัวครับ ประมาณ 70% ของ port
ตัวใหญ่สุด 35% ของ port

อีก 4-5 ตัว ถือไว้เก็งผลประกอบการ ถ้าดี ก็อาจจะลดสัดส่วนตัวอื่นมาเพิ่ม แต่ถ้าแย่ก็ขายออกครับ
ตอนนี้ยังอยากซื้อเพิ่มอีกสักตัวสองตัวเลย แต่ต้องอดใจไว้ แหะแหะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?/Road to Billion

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="Thai VI Article"]
คนอื่นๆถือหุ้นกันกี่ตัวครับ? มีหลักอะไรในการคิดบ้าง? มาแลกเปลี่ยนไอเดียกันครับ
[/quote]

คุณ Road ถามได้ชวนตอบครับ ขออนุญาต ร่วมแสดงความเห็นนะครับ

หลักการของผมคือ

1 หุ้นที่เราถือไว้ ณ ปัจจุบัน สมมติเราตายไป พวกเค้ายังสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกหลานเราได้ใช่หรือไม่?

2 โห พี่ NB ถามซะ เว่อ จริง ๆ แล้วมันสำคัญครับ พี่จะทดสอบอะไรบางอย่างในใจเรา นั่นหมายถึง ถ้าข้อ 1 บอกว่า เออ นะ หุ้น ABC นี่แหละ เป็นคู่ทุกข์คู่ยาก มันจะสร้างภูมิคุ้มกันให้เราประมาณว่า ถ้าลงเรากล้าซื้อเพิ่ม ถ้าขึ้นเราไม่ปล่อยหมู

3 ถ้าจะเลือกได้ขนาดนั้น คงต้องแงะกันลึก ทั้งแนว Horizontal และ Vertical ก็คงจริงต้องเข้าใจกัน จะหาอีหนูก็ง่ายกว่ากิ๊ก จะหากิ๊กก็ง่ายกว่าหาเมีย จะหาเมียก็ง่ายกว่าหาแม่ให้ลูก เฮ้ย พูดไรวะพี่

4 พอสักพักนึงก็ตัดอีหนูไปมั่ง ตัดกิ๊กไปมั่ง บางคนทำไม่ได้นะ ก็แหมพี่ผมลงทุนไปเยอะแล้ว พี่จะอะไรกับผมนักหนา

จบ......... จบแบบ งง ๆ แบบนี้หล่ะครับ

ขอบคุณเจ้าของบทความคุณ Road To Billion ครับผม
roadtobillion
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 34
ผู้ติดตาม: 0

Re: จะถือหุ้นกี่ตัวในพอร์ตดี?/Road to Billion

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมว่าพี่ NB ถามได้น่าสนใจมากครับ
"หุ้นที่เราถือไว้ ณ ปัจจุบัน สมมติเราตายไป พวกเค้ายังสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกหลานเราได้ใช่หรือไม่?"

บางครั้งนักลงทุนส่วนมากสนใจเพียงแค่ "กำไรในอนาคต" จนลืมไปว่า "พื้นฐานของธุรกิจ" นั้นเป็นอย่างไร ส่วนมากการวิเคราะห์พื้นฐานของหุ้น (การพัฒนาผลิตภัณฑ์, DCA, การแข่งขัน, ภาพอุตสาหกรรม) จะไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย ฟังดูแล้วจะไม่ตื่นเต้นเหมือนการคาดเดาว่างบไตรมาสหน้าหรือปีหน้าจะออกมาเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องอย่าลืมว่าพื้นฐานเหล่านี้แหล่ะจะสะท้อนออกมาในผลประกอบการระยะยาว พี่ IH เคยบอกไว้ว่า "หุ้นที่ดี มักจะมี Positive Surprise ส่วนหุ้นที่แย่มักจะมี Negative Surprise" ผมว่าคำพูดนี้อธิบายได้ดีมากๆเลย

คำถามว่า "ถ้าเราตายไปหุ้นตัวนี้จะยังดีพอสำหรับลูกหลานเราหรือไม่?" เป็นคนถามที่จะช่วยให้เรากลับมาคิดว่าจริงๆแล้วเราซื้อตัวนี้เพราะอะไร และธุรกิจแข็งแกร่งพอที่จะยืนหยัดและเติบโตในอนาคตได้รึเปล่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ถือว่าหุ้นตัวนี้มี "คุณค่า" พอที่จะอยู่ในพอร์ตเราครับ

ขอบคุณที่ช่วยแชร์ครับ
โพสต์โพสต์