โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

บทความ Value Way  ฉบับวันที่ 23 กรกฏาคม  2555
โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โคตรเซียนเทคโอเวอร์

	นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยคงไม่ค่อยรู้จักกับชื่อของ”คาร์ล ไอคาน” (Carl  Icahn) เท่าไหร่นัก แต่สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐแล้วชื่อของไอคานถือว่าเป็นต้นแบบของนักลงทุนรุ่นใหม่หลายคนเลยทีเดียว เพียงแค่ได้ยินว่าไอคานซื้อหุ้นบริษัทไหนในตลาดหุ้นสหรัฐสามารถทำให้ผู้บริหารของบริษัทนั้นหนาวๆร้อนๆตามๆกัน เพราะไม่เพียงเขาจะเข้าถือหุ้นบริษัทนั้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังกดดันให้ผู้บริหารทำตามที่เขาต้องการอีกด้วย กลยุทธการลงทุนของเขาไม่ได้รับการศึกษามากนักโดยเฉพาะนักลงทุนไทย แต่การเรียนรู้จากชีวิตของไอคานทำให้เห็นอีกด้านของระบบทุนนิยมเป็นอย่างดี

	คาร์ล ไอคานเกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1936 ปัจจุบันอายุ 76 ปี ในวัยเด็กเขาอาศัยกับพ่อแม่ที่เป็นชาวยิวชั้นกลางในกรุงนิวยอร์ค ด้วยความเป็นเด็กเรียนเก่งทำให้เขาเป็นคนแรกของโรงเรียนท้องถื่นที่ได้รับทุนเรียนที่มหาวิทยาลัยปรินสตัน สาขาวิชาปรัชญา หลังจากจบปริญญาตรี แม่อยากให้เขาเรียนวิชาแพทย์เพื่อที่จะได้มีอาชีพหมอที่ถือว่ามีหน้ามีตาในสังคมชาวยิวในขณะนั้น แต่หลังจากเรียนที่โรงเรียนแพทย์ได้เพียงหนึ่งปี เขาก็เลิกและหันหลังให้โรงเรียนแพทย์เพราะด้วยความไม่ชอบและทนเรียนเพื่อเอาใจแม่เท่านั้น เขาสนใจในเรื่องเงินๆทองๆจึงเข้าทำงานที่บริษัทค้าหุ้นแห่งหนึ่งในวอลล์สตรีท

	ในบริษัทนั้น เขาเห็นช่องทางทำเงินจากการซื้อขายอนุพันธ์ซึ่งในช่วงเวลานั้นยังไม่มีตลาดกลางรองรับ ไอคานจึงทำหน้าที่เป็นโบรกเกอร์คอยติดต่อลูกค้าที่คิดซื้อหรือขายอนุพันธ์อย่างการซื้อขายออปชั่นของหุ้นบริษัทต่างๆในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ หลังจากทำงานมาสักพัก เขาจึงยืมเงินลุงที่เป็นเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นเงิน 4 แสนเหรียญเพื่อซื้อใบอนุญาตซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค จากนั้นเขาตั้งบริษัทแรกของเขาเองชื่อไอคานและเพื่อน (Icahn and Co)

	ช่วงแรกบริษัทของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายออปชั่นที่เขาถนัด นอกเหนือจากนั้นเขายังซื้อหุ้นให้กับลูกค้าและเข้าพอร์ตส่วนตัวของบริษัทอีกด้วย วันหนึ่งนักวิเคราะห์ประจำบริษัทบอกเขาถึงบริษัทหนึ่งที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ราคาหุ้นมีราคาต่ำมากและน้อยกว่ามูลค่าทางบัญชีกว่าครึ่ง ไอคานและทีมวิเคราะห์บริษัทนั้นแล้วพบว่ามูลค่าของกิจการไม่ควรมีราคาต่ำมากขนาดนั้น แต่เนื่องจากผู้บริหารดำเนินงานผิดพลาดทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ย่ำแย่ ราคาหุ้นจึงตกต่ำ นอกเหนือจากนั้นยังไม่มีใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทรวมถึงตัวผู้บริหารเองด้วย เขาจึงเริ่มซื้อหุ้นบริษัทในตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เมื่อไอคานซื้อหุ้นบริษัทนั้นเกิน 5 เปอร์เซนต์ เขาต้องรายงานกับตลาดหลักทรัพย์ว่าได้ถือครองหุ้นบริษัทนั้นต่อสาธารณะ

       ในช่วงแรกผู้บริหารบริษัทต่างๆยังไม่รู้จักไอคานเลยว่าเป็นใครมาจากไหน จึงไม่สนใจว่าจะมีใครมาซื้อหุ้นของบริษัทตนเองบ้าง แต่เมื่อไอคานเริ่มติดต่อกับผู้บริหารของบริษัทและเรียกร้องของตำแหน่งในคณะกรรมการของบริษัท เพียงแค่นั้นก็ทำให้ผู้บริหารของบริษัทนั้นเริ่มนั่งไม่ติด เพราะถ้าไอคานเข้ามาในบอร์ดและมีอำนาจ ไอคานอาจไล่ผู้บริหารเหล่านั้นออก ตำแหน่งหน้าที่ซีอีโอและผลประโยชน์ต่างๆที่ตนเองเคยได้อาจต้องเสียไป ทำให้ผู้บริหารบริษัทนั้นเริ่มดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเต็มที่ เริ่มจากเจรจากับไอคานเพื่อให้ตนเองอยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่เมื่อไอคานเริ่มยื่นคำขาดเพื่อขอเก้าอี้ในคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารจึงฟ้องร้องไอคานเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ไอคานเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้

          แต่สำหรับไอคานเองมองว่าผู้บริหารเหล่านั้นไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด เพราะทุกสิ่งที่ผู้บริหารบริษัททำนั้นก็เพื่อผลประโยชน์และสวัสดิการของพรรคพวกของตนเองทั้งสิ้น ด้วยข้อแก้ต่างเช่นนี้ทำให้เขาชนะในชั้นศาลอยู่เสมอ ไอคานเริ่มซื้อหุ้นบริษัทนั้นเป็นจำนวนมากขึ้นและเรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทคนอื่นๆมอบอำนาจให้เขาเข้ามาบริหารจัดการซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า“การต่อสู้ผ่านตัวแทน” (Proxy Fight) ไอคานมักใช้ประโยคลักษณะเช่นนี้ในการเชิญชวนให้ผู้ถือหุ้นเข้าข้างเขา เช่น “บริษัทนี้ขาดทุนต่อเนื่องมายาวนาน แต่ผู้บริหารกลับได้รับเงินเดือนเป็นล้านพร้อมรถประจำตำแหน่งและคนขับ ผู้ถือหุ้นควรทำอะไรสักอย่างหนึ่งได้แล้ว มอบอำนาจให้ผมจัดการกับพวกผู้บริหารพวกนี้เถอะ” เป็นต้น  

          โดยส่วนใหญ่ผู้บริหารมักใช้เงินของบริษัทซื้อหุ้นคืนจากไอคานในราคาที่สูงกว่าต้นทุนที่ซื้อมา ทำให้ไอคานได้รับกำไรจากการลงทุนในลักษณะนี้เกือบทุกกรณีเลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารของบริษัทมักปกป้องตำแหน่งหน้าที่ของตนเองก่อนผลประโยชน์ของบริษัทอยู่เสมอ ชีวิตของไอคานถูกนำไปเป็นต้นแบบของหนังฮอลลีวูดในชื่อเรื่องวอล์ทสตรีท (Wall Streets) แต่ต่างกันตรงที่ไอคานทำอะไรถูกต้องตามกฏหมายตลอดเวลาและไม่เคยถูกจำคุกสักครั้งเดียวในชีวิต

[/size]
บุณยา
Verified User
โพสต์: 173
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คิดตามแล้วสนุกดีจัง : )

ขอบคุณสำหรับบทความครับ
sipoonya
Verified User
โพสต์: 469
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เอามาจากกระทู้นี้นะครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 7&start=30

http://dekisugi.net/archives/10639
0374: Carl Icahn, the corporate raider

Carl Icahn, เป็นนักลงทุนที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 5 ของโลก ตามการจัดอันดับของ Forbes เขามีสินทรัพย์รวม $10.5 billions

อาชีพหลักของเขาคือ การบริหาร Private Equity ซึ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินของเขาเอง (นักลงทุนที่จะร่วมหุ้นกับเขาได้ จะต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำ $25 millions, ค่าบริหาร 2.5% ต่อปี และ profit sharing 25% ของกำไร)

เป้าหมายของกองทุนของเขาคือ บริษัทที่บริหารงานยอดแย่ แต่ว่ามีสินทรัพย์ในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดที่ค่อนข้างชัดเจนเยอะ (ถ้าเป็นเงินสดยิ่งดี) จนทำให้ราคาหุ้นในตลาด เทรดอยู่ต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์อย่างมาก โดยเขาจะเข้าไปถือหุ้น ขอที่นั่งกรรมการ และกดดันให้มีการเปลี่ยนผู้บริหาร เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการบริหารงาน และ/หรือ ขายสินทรัพย์ที่มีค่าออกมา และจะทำให้เขาได้กำไรจากการลงทุนในหุ้นของบริษัทนั้นอย่างงดงาม อาจกล่าวได้ว่าเป็นการลงทุนแนว Asset Play ก็ได้ แต่แทนที่จะลงทุนแล้วสวดมนต์ (invest and pray) ให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เขาจะเข้าไปกดดันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเอง ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงบริษัทดังๆ มากมาย จนทำให้เขามียี่ห้อของ Corporate Raider ที่กัดไม่ปล่อย ยี่ห้ออันนี้มีส่วนช่วยสร้างผลตอบแทนให้เขาได้อย่างมากในเวลาต่อมา เพราะเมื่อไรที่เขาเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทไหน ตลาดหุ้นจะรีบตอบรับทันที (aka “The Icahn Lift”)

แม้ว่าเขาจะทำไปเพื่อให้ตัวเอง แต่สิ่งที่เขาทำก็ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยพลอยได้ประโยชน์ไปด้วย รูปแบบของบริษัทในปัจจุบันที่คณะกรรมการบริษัทเป็นใหญ่เป็นโครงสร้างที่แย่ กับผู้ถือหุ้น เพราะกรรมการส่วนใหญ่ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถเลย ในขณะที่ได้รับค่าตอบแทนกันสูงมาก ผู้ถือหุ้นก็ทำอะไรผู้บริหารได้ยากมาก อาชีพอย่างเขาจึงมีส่วนช่วยกำจัดความไร้ประสิทธิภาพออกไปจากองค์กรธุรกิจใน สหรัฐฯ

เดี๋ยวนี้แทนที่เขาจะต้องลงทุนเองมากๆ เพื่อให้สิทธิ์ที่มากพอ เขาจะเข้าไปถือหุ้นเพียงส่วนน้อย แล้วปลุกระดมให้นักลงทุนรายย่อยร่วมมือกับเขามอบฉันทะให้เขาในการโหวตเพื่อ เปลี่ยนแปลงผู้บริหาร (Proxy Fight) ทำให้เขาเสี่ยงน้อยลงด้วย

Icahn จบจาก Princeton ด้วยเงินที่เขาหามาได้เองจากการเล่นโป๊กเกอร์สมัยที่เป็นนักเรียน ส่วนชีวิตการทำงานของเขานั้นจะคุยโทรศัพท์แทบทั้งวัน เขามีมือขวาสองคนที่ช่วยเขาขุดหาบริษัทที่มีลักษณะตรงกับเป้าหมายของกองทุน จากแหล่งข้อมูลต่างๆ และมีลูกมืออีก 26 คนที่คอยช่วยงานเข้า ซึ่งจำนวนหนึ่งพวกเป็นนักกฏหมาย

ดีลที่เริ่มทำให้ Icahn มีชื่อเสียงระดับประเทศคือ การเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของสายการบิน TWA ซึ่งเขาได้ปรับโครงสร้างและปลดคนงานจำนวนมากในเวลาต่อมา บางคนอาจมองว่าเขาโหด แต่เขาบอกว่า TWA ขาดทุนมานานนับสิบปี และจะต้องปรับองค์กรอยู่แล้ว เพียงแต่คนที่เขามาปรับองค์กรได้สำเร็จคือเขานั่นเอง

หลังจากนั้น Icahn ก็เข้าไปพัวพันกับดีลใหญ่ๆ ในประวัติศาสตร์อีกมากมาย อาทิ Oracle to takeover BEA systems (กวาดกำไรไป $300 millions), Motorola breakup, Time Warner breakup (เขาแพ้ Takeover Bid แต่ก็กำไร $300 millions), Casinos in Neveda (ได้กำไรไปกว่า $1billions), Microsoft to buy Yahoo!, Liongate Takeover, Sale of Dynegy against Blackstone เป็นต้น กองทุนของเขาสามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ถึง 50% ต่อปีตั้งแต่ปี 1990 ทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็น the Corporate Raider ที่รวยที่สุดในโลก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Undead
Verified User
โพสต์: 158
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ที่เมืองไทย ก็มีโครตเซียน เทคโอเว่อร์ครับ เสี่ยเจริญ ไงครับ
Factor_9
Verified User
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

น่าทึ่งมากเลยครับ ขอบคุณสำรับบทความครับพี่^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เป็น Warren Buffett Inverse ภาคขาโหด ไล่เจ้าของอย่างเดียว อิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tok
Verified User
โพสต์: 833
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ลองไปอ่านใน yahoo message board หุ้น CVI ที่ Icahn เข้าไป Hostile takeover ล่าสุด เป็นหุ้นโรงกลั่นบวกกับบริษัทปุ๋ย เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมากครับ

http://messages.finance.yahoo.com/mb/CVI

แต่ผมว่างานนี้ Icahn พลาดนะครับ ไป take over เลยช่วง Peak ของค่ากลั่น และน้ำมันราคาดิ่งเหวพอดี

และดูเหมือนบริษัททำปุ๋ยที่ Icahn พยายามขายออกไปก็ผ่านช่วง peak เมื่อปีก่อนไปแล้วด้วย
harikung
Verified User
โพสต์: 2232
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

[quote="Undead"]ที่เมืองไทย ก็มีโครตเซียน เทคโอเว่อร์ครับ เสี่ยเจริญ ไงครับ[/quote]
รายนั้นเค้าคนละแบบมั้งครับ เสี่ยจ.แกเทคเผื่อขยายอาณาจักรธุรกิจของแก
ภาพประจำตัวสมาชิก
bunacer
Verified User
โพสต์: 57
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ในเมืองไทยน่าจะมีแบบนี้บ้างนะครับ จะได้ขยันทำเพื่อผู้ถือหุ้นบ้าง
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4244
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ในไทยล่าสุดก็มีกรณี TTA กับ คุณประยุทธ มหากิจศิริ ไงครับ
_________
IM_VI
Verified User
โพสต์: 95
ผู้ติดตาม: 0

Re: โคตรเซียนเทคโอเวอร์/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เป็นอีกหนึ่งมุมมอง ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้
โพสต์โพสต์