คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4501

โพสต์

extraordinary เขียน:สวัสดีครับพี่วิบูลย์
ผมอ่านกระทู้พี่เป็นกระทู้แรกของที่นี่เลย
ได้หลักคิดเรื่องการลงทุนมากๆเลยครับ

พอดีอ่านหนังสสือเล่มใหม่ของพี่ แล้วมีจุดนึงที่ผมสงสัย
เรื่องGYP ratioอ่ะครับ

ค่าGYP ถ้าเปนของหุ้นเฉพาะตัวผมก็พอคิดแบบคร่าวๆได้อ่ะครับ
แต่เหนในหนังสือบอกว่า เนฟฟ์ให้ความสำคัญกับGYPของพอร์ทเทียบกับตลาดมากกว่า
หากตลาดขึ้นสูงมากจนราคาหุ้นสูงเกินไปให้เปลี่ยนมาถือเงินสดไว้ราว 20%
เพื่อเตรียมตัวสำหรับโอกาสครั้งหน้า

GYP ของพอร์ท เราเอาของหุ้นแต่ละตัวมาถ่วงน้ำหนักแล้วเฉลี่ยออกมาใช่ไหมครับ
แล้วถ้าเป็นของเซตเราคิด earning growthมันยังไงอ่ะครับ
เอาค่าเฉลี่ยผลตอบแทนเซตแบบหยาบๆที่10% มาแทนได้ไหม

อีกข้อคือจุดที่เนฟฟ์ให้เปลี่ยนมาถือเงินสด20%นี้GYP ของพอร์ทกับเซตต้องอยุ๋ถึงระดับไหนครับเราถึงลดพอร์ท

เรื่อง GYP นี่ผมก็ไม่เคยใช้หรอกครับ
เป็นแนวทางของ John Neff
ซึ่งถ้าจะใช้ก็ใช้ได้ซึ่งเป็นการปรับสัดส่วนลงทุนของพอร์ตแบบออโต
GYP สัมพันธ์กับ SET อย่างไรผมไม่ได้ศึกษาครับ
ลองทำดู
ได้อย่างไรบอกกันด้วย

extraordinary เขียน: จุดนี้ผมรุ้สึกว่าค่อนข้างมีปัญหาสำหรับผม เลยอยากถามพี่วิบูลย์ดู
เพราะว่าเวลาที่ตลาดกระทิง มีแนวโน้มที่ผมจะถือหุ้นไปเรื่อยๆเพราะเอนจอยราคาหุ้นโดยไม่สนพื้นฐาน
ที่ผ่านมาก็อาศัยว่าปรับเป็นตัวๆไป ขายตัวนุ้นไปซื้อตัวนี้ ถ้าตลาดพานิกจริงๆผมก็คงไม่รอดอยุ่ดี

ผมว่าจังหวะการถือเงินสดนี่ก็สำคัญมากๆเพราะมันช่วยให้ปลอดภัยเวลาตลาดลงหนัก
(ซึ่งผมเองยังไม่เคยผ่านมันเลย)
เลยอยากรุ้ว่าจุดที่ผู้รุ้ที่มีประสบการณ์บอกว่าตลาดโดยรวมเริ่มแพงแล้วนี่ดูยังไง

ถ้าเป็นวีไอ
ดูที่ตัวธุรกิจมากกว่าตลาด
เราไม่รู้หรอกว่าตลาดจะไปทางไหน
เมื่อไหร่ต่ำสุด
เมื่อไหร่สูงสุด
ดังนั้นให้ดูธุรกิจที่เราถืออยู่
ถ้าราคาไม่สูงเกินพื้นฐานก็ถือต่อได้
ตลาดตก เดี๋ยวก็กลับมาเอง (แต่ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่)

ส่วนการถือเงินสดนั้น
บางคนบอกว่าเป็นการเสียโอกาส
แต่ผมมองว่าถ้าเรามีเงินสด เราก็มีโอกาส
ดังนั้นเรามีเงินสดก็เมื่อเราหาหุ้นที่ลงทุนในราคาที่ดีไม่ได้
ก็ถือเงินสดไป ไม่มีอะไรเสียหายหรอกครับ
ไม่มีกฏที่บอกว่าห้ามถือเงินสดนะ
แต่ถือมากถือน้อย ไม่ถือเลยก็ได้
ถามว่าเมื่อไหร่นั้น
ถ้าเราไม่ได้เก็งดัชนี ไม่สนตลาด มันก็ตอบไม่ได้หรอกว่าเมื่อไหร่ควรขายล้างพอร์ต
หรือขายหุ้นเมื่อดัชนีไปเท่าไหร่
ไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า

ขอย้ำอีกทีว่า
ไม่มีใครรู้ว่า
เมื่อไหร่ดัชนีจะต่ำสุด
เมื่อไหร่ดัชนีจะสูงสุด
อย่าเดาตลาด
ให้ดูที่มูลค่าธุรกิจเทียบกับราคา

extraordinary เขียน: อย่างตอนต้นปีผมฟังดร.นิเวศน์ ท่านก็บอกว่าถ้าปีนี้setขึ้นไป30% ท่านจะเริ่มลดพอร์ทแล้ว
ผมก็สงสัยอยุ่ว่าทำไมต้องเป็นที่30% เป็น20% ก็ลดเลยไม่ได้เหรอ หรือ รอซัก50%ก่อน
ดร.ท่านก็คงมีวิธีการที่จะดูตลาดเหมือนกัน
ผมเดาว่าท่านคงไม่ได้ดูดัชนี
แต่ดูที่ราคาหุ้นที่ท่านถืออยู่ราคาเท่าไหร่
สูงกว่ามูลค่าหรือยัง
เพราะเราเดาดัชนีไม่ได้ถูกต้องตลอดไป

แต่บางครั้งเราขายหุ้นออกไป
แต่ราคาหุ้นยังเพิ่มขึ้นได้นะ
และเป็นบ่อยเสียด้วย

อย่างบัฟเฟตขายหุ้นปิโตรไชนาไป
ราคาหุ้นปิโตรไชน่ายังขึ้นต่อได้อีก..เป็นต้น
ลองหาหนังสือเคล็ดลับเซียหุ้นมาอ่านดู
มีเรื่องนี้ด้วย.......เชียร์หนังสือตัวเอง
chatchaithai
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4502

โพสต์

สวัสดีพี่วิบูลย์ครับ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ประมาณ 30 หน้าแล้วครับกำลังพยายามอ่านอยู่ได้ความรู้มาก มีเรื่องอยากเรียนถามพี่วิบูลย์เรื่องเงินเฟ้อครับว่าทำไมถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ธปท.จึงต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อระงับเงินเฟ้ออยากรบกวนพี่วิบูลย์ช่วยอธิบายเหตุผลที่มาที่ไปด้วยครับ ขอบคุณครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4503

โพสต์

chatchaithai เขียน:สวัสดีพี่วิบูลย์ครับ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ประมาณ 30 หน้าแล้วครับกำลังพยายามอ่านอยู่ได้ความรู้มาก มีเรื่องอยากเรียนถามพี่วิบูลย์เรื่องเงินเฟ้อครับว่าทำไมถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ธปท.จึงต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อระงับเงินเฟ้ออยากรบกวนพี่วิบูลย์ช่วยอธิบายเหตุผลที่มาที่ไปด้วยครับ ขอบคุณครับ

อันนี้เป็นทฤษฏีเศรษฐศาตร์ครับ
เรื่องกระแสของเงิน (Monetary Velocity)
โดยมิลตัน เฟรดแมนแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก
ผู้ได้รับรางวัลโนเบิลสาขาเศรษฐศาตร์

สมัยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจอเมริกา 1929
นักเศรษฐศาตร์สำนักเคนส์นำโดย
John Maynard Keynes
เสนอให้รัฐบาลเพิ่มเงินงบประมาณ
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเรียกว่าเป็นการใช้ Fiscal Policy
ซึ่งรัฐบาลในสมัยนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้
แต่พอเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
รัฐบาลนำเงินงบประมาณมาใช้ในการสงคราม
ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาหลุดพ้นจากภาวะถอถอยได้

รัฐบาลในสมัยต่อมาทั่วโลกจึงใช้หลักการของเคนส์
ต่อสู้กับความตกต่ำของเศรษฐกิจตลอดมา

แต่เมื่อปี 1970
โอเปคตัดการส่งน้ำมันให้อเมริกา
ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมาก
เกิดภาวะ Stagflation
นั่นคือราคาสินค้าสูงขึ้น เงินเฟ้อมากขึ้น
แต่เศรษฐกิจโดยรวมตกต่ำ

การแก้ปัญหาด้วย Fiscal Policy ก็ไม่ดีขึ้น
ยิ่งรัฐบาลเพิ่มเงินงบประมาณ
กลับทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
และเศรษฐกิจก็ไม่ได้กระเตื้องขึ้น

คราวนี้ถึงทีของพระเอกขี่ม้าขาว
นั่นคือมิลตัน เฟรดแมนออกมาเสนอทฤษฏี Monatary Policy
นั่นคือการควบคุมปริมาณเงินในระบบ
เพราะเป็นสาเหตุของเงินเฟ้อ

เฟรดแมนบอกว่า
ถ้ามีเงินในระบบมากเกินไปจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น
วิธีที่จะทำให้ปริมาณเงินในระบบลดลงคือ
การขึ้นดอกเบี้ย
และการออกพันธบัตรของเฟดเพื่อดึงเงินกลับออกจากระบบ

ประธานเฟดในขณะนั้นคือ Paul A. Volcker
นำนโยบายของเฟรดแมนมาใช้ในการควบคุมกระแสเงินในระบบ
โดยการขึ้นดอกเบี้ยและออกพันธบัตร
ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาหลุดออกจากภาวะ Stagflation ได้

หลังจากนั้นหน้าที่ของ Fed ก็คือการใช้ Inflation Target
เป็นเป้าหมายในการดำเนินงานตลอดมา

ถามว่าเกิดเงินเฟ้อทำไมต้องขึ้นดอกเบี้ย
ก็เพราะทำให้การหมุนเวียนของเงินในระบบลดลงนั่นเอง

พอเข้าใจไหมครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4504

โพสต์

มีเรื่องรบกวนถามพี่วิบูลย์ครับ
คำถามคงดูง่ายมากสำหรับพี่เลยทีเดียว
ผมงงเรื่อง spread กับ product to feed margin น่ะครับ
เช่น atc สมัยก่อนมี spread px 450 benzene 400
สมมุติว่า px ราคา 1050 benzene ราคา 1000
condensate ราคา 600
ตามหลักคือเขาให้ดูว่าเราผลิตเท่าไหร่เช่นถ้า
3 แสนตันเป็น px 2 แสน benzene 1 แสน
ใช้คอนเดนเสท 3 แสนก็เอามาเฉลี่ยกัน
ที่ผมงงๆคือผมเฉลี่ยกันออกมามันดันได้ p2f
เหลือแค่ 100 เศษๆ งงอะครับ
ปกติถ้า spread 450 กับ 400 ตัวเลขน่าจะออกมาซัก 425
ไม่ใช่เหรอครับทำไมมันลดไปเหลือแค่ 100 กว่าๆอะครับ

แบบนี้เวลาเราประมาณการกำไรเราต้องใช้ p2f แทน spread ถูกไหมครับ

ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4505

โพสต์

ลืมถามไปอีกข้อครับพี่วิบูลย์

ผมไปดู spread px สมัยก่อนช่วงปี 2000-2002 มันอยู่แถวๆ 200เศษแล้วเป็นขาขึ้นในปี 2003-2004 ตอนนั้น demand ไม่ได้มากกว่า supply เลยสิ่งที่เกิดขึ้น capacity surplus มันลดลงและกำลังการผลิตขึ้นไปถึงเกือบระดับ 90% แบบนี้แสดงว่าจริงๆกำลังการผลิตเนี้ยใช้เต็มไม่ได้ก็คือ
สมมุติ capacity 100
production อาจจะสูงสุดแค่ 90 เพราะว่าเครื่องจักรหลายเครื่องที่เก่าไม่สามารถเดินได้เต็มที่ 100% ดังนั้นถ้า capacity เกือบๆ 90% spread ก็วิ่งได้แล้วผมเข้าใจถูกไหมครับพี่ิวิบูลย์

ข้อ 2 นะครับพี่วิบูลย์
ถ้าโรงงาน pta เกิดจะทำให้ px ราคาสูงขึ้นถูกไหมครับ
ถ้าใช่ล่ะก็ประเด็นก็คือเวลาหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นจะขึ้นจากปลายน้ำก่อนหรือเปล่าครับ
เช่น ptl ขึ้นเพราะ spread bopet ราคาดีซึ่งถ้า bopet ขายดีก็จะมีความต้องการ pta สำหรับทำเม็ด pet resin มากขึ้นทำให้ px ขึ้น
แต่ถ้าปลายน้ำไม่ดีเช่น bopet ลดลงก็ทำให้ความต้องการ pta ลดลงส่งผลไปถึงดีมานของ px แล้วก็กระทบมาที่ต้นน้ำอย่าง pttar อีกที

ขอบคุณพี่วิบูลย์มากๆครับสำหรับคำชี้แนะ ผมไม่ได้เก่งหุ้นกลุ่มนี้เลยถ้าผมพิมพ์ผิดตรงไหนรบกวนพี่จัดหนักสอนมวยผมแรงๆได้เลยนะครับ ผมถามเพราะต้องการความรู้ไปต่อยอดจริงๆ ไม่มี ego หรืออัตราเหมือนสมัยก่อนแล้วครับพี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4506

โพสต์

คำถามสุดท้ายแล้วครับพี่
ในทางกลับกันถ้าต้นน้ำดีก่อนเช่น
ราคา px เพิ่มเพราะ supply ไม่ค่อยมี
ทำให้ต้นน้ำในส่วน aromatic ของ pttar ขายดี
แต่ทำให้พวกปลายน้ำที่ใช้ px เป็นวัตถุดิบอ้อมๆเช่น pta
ลงไปจะกำไรแย่ถูกไหมครับ

สรุปอีกทีก็คือว่า ถ้าต้นน้ำเริ่มดีก่อนพวกปลายน้ำอาจจะแย่
เพราะต้นทุนโดนบีบ แต่ถ้าปลายน้ำดีก่อนพวกต้นน้ำก็จะดีตาม

ชี้แนะด้วยครับพี่ ตีสองกว่าแล้วผมไปนอนก่อนล่ะ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4507

โพสต์

hongvalue เขียน:คำถามสุดท้ายแล้วครับพี่
ในทางกลับกันถ้าต้นน้ำดีก่อนเช่น
ราคา px เพิ่มเพราะ supply ไม่ค่อยมี
ทำให้ต้นน้ำในส่วน aromatic ของ pttar ขายดี
แต่ทำให้พวกปลายน้ำที่ใช้ px เป็นวัตถุดิบอ้อมๆเช่น pta
ลงไปจะกำไรแย่ถูกไหมครับ

สรุปอีกทีก็คือว่า ถ้าต้นน้ำเริ่มดีก่อนพวกปลายน้ำอาจจะแย่
เพราะต้นทุนโดนบีบ แต่ถ้าปลายน้ำดีก่อนพวกต้นน้ำก็จะดีตาม

ชี้แนะด้วยครับพี่ ตีสองกว่าแล้วผมไปนอนก่อนล่ะ


ตอบข้อนี้ก่อน

ใช่แล้ว
ถ้าราคาต้นน้ำสูงๆ พวกตายน้ำก็ตายเพราะต้นทุนสูง
จริงๆมีพวกกลางน้ำด้วยนะ
อย่าง BOPET
ต้นน้ำก็คือ PTTAR ผลิตพาราไซลีน
กลางน้ำคือ IVL เอาพาราไซลีนมาผสมเป็น PET
ปลายน้ำพวกแรกคือ PTL เอา PET มาทำเป็นฟิล์ม
ปลายน้ำสุดท้ายคือ พวกเอาฟิล์มไปทำถุงห่อขนมพิมพ์ลาย

ถ้าปลายน้ำดีก็ทำให้ต้นน้ำดีไปด้วยเช่นเดียวกัน
แต่ของอย่างนี้ก็ต้องใช้เวลานะ
มันไม่ได้เกิดขึ้นปุ๊บปั๊บ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4508

โพสต์

hongvalue เขียน:ลืมถามไปอีกข้อครับพี่วิบูลย์

ผมไปดู spread px สมัยก่อนช่วงปี 2000-2002 มันอยู่แถวๆ 200เศษแล้วเป็นขาขึ้นในปี 2003-2004 ตอนนั้น demand ไม่ได้มากกว่า supply เลยสิ่งที่เกิดขึ้น capacity surplus มันลดลงและกำลังการผลิตขึ้นไปถึงเกือบระดับ 90% แบบนี้แสดงว่าจริงๆกำลังการผลิตเนี้ยใช้เต็มไม่ได้ก็คือ
สมมุติ capacity 100
production อาจจะสูงสุดแค่ 90 เพราะว่าเครื่องจักรหลายเครื่องที่เก่าไม่สามารถเดินได้เต็มที่ 100% ดังนั้นถ้า capacity เกือบๆ 90% spread ก็วิ่งได้แล้วผมเข้าใจถูกไหมครับพี่ิวิบูลย์
90% ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
บางโรงก็สามารถผลิตได้เกิน 100% นะ
แต่บางช่วงเท่านั้น
เพราะถ้าใช้กำลังการผลิตทั้งปีคงต่ำกว่านั้น
เพราะต้องมีการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี


hongvalue เขียน:ข้อ 2 นะครับพี่วิบูลย์
ถ้าโรงงาน pta เกิดจะทำให้ px ราคาสูงขึ้นถูกไหมครับ
ถ้าใช่ล่ะก็ประเด็นก็คือเวลาหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นจะขึ้นจากปลายน้ำก่อนหรือเปล่าครับ
เช่น ptl ขึ้นเพราะ spread bopet ราคาดีซึ่งถ้า bopet ขายดีก็จะมีความต้องการ pta สำหรับทำเม็ด pet resin มากขึ้นทำให้ px ขึ้น
แต่ถ้าปลายน้ำไม่ดีเช่น bopet ลดลงก็ทำให้ความต้องการ pta ลดลงส่งผลไปถึงดีมานของ px แล้วก็กระทบมาที่ต้นน้ำอย่าง pttar อีกที
แม่นแล้ว
แต่ก็มีระยะเวลาในผลกระทบนะ
มันจะค่อยๆเป็นไป
ไม่ทันที

hongvalue เขียน:ขอบคุณพี่วิบูลย์มากๆครับสำหรับคำชี้แนะ ผมไม่ได้เก่งหุ้นกลุ่มนี้เลยถ้าผมพิมพ์ผิดตรงไหนรบกวนพี่จัดหนักสอนมวยผมแรงๆได้เลยนะครับ ผมถามเพราะต้องการความรู้ไปต่อยอดจริงๆ ไม่มี ego หรืออัตราเหมือนสมัยก่อนแล้วครับพี่
ใครจะไปกล้าสอน"เซียนฮง"..อิ อิ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4509

โพสต์

hongvalue เขียน:มีเรื่องรบกวนถามพี่วิบูลย์ครับ
คำถามคงดูง่ายมากสำหรับพี่เลยทีเดียว
ผมงงเรื่อง spread กับ product to feed margin น่ะครับ
เช่น atc สมัยก่อนมี spread px 450 benzene 400
สมมุติว่า px ราคา 1050 benzene ราคา 1000
condensate ราคา 600
ตามหลักคือเขาให้ดูว่าเราผลิตเท่าไหร่เช่นถ้า
3 แสนตันเป็น px 2 แสน benzene 1 แสน
ใช้คอนเดนเสท 3 แสนก็เอามาเฉลี่ยกัน
ที่ผมงงๆคือผมเฉลี่ยกันออกมามันดันได้ p2f
เหลือแค่ 100 เศษๆ งงอะครับ
ปกติถ้า spread 450 กับ 400 ตัวเลขน่าจะออกมาซัก 425
ไม่ใช่เหรอครับทำไมมันลดไปเหลือแค่ 100 กว่าๆอะครับ

แบบนี้เวลาเราประมาณการกำไรเราต้องใช้ p2f แทน spread ถูกไหมครับ

ช่วยชี้แนะด้วยครับ


อ่านไม่เข้าใจนะ
ช่วยเขียนอธิบายการคำนวณทั้งหมดหน่อย
ตามไม่ทันว่า 100 มาจากไหน
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4510

โพสต์

[quote="VIB007"]
อ่านไม่เข้าใจนะ
ช่วยเขียนอธิบายการคำนวณทั้งหมดหน่อย
ตามไม่ทันว่า 100 มาจากไหน[/quote]

ยกตัวอย่างนะครับ
จากโจทย์เดิมคือ
สมมุติว่า atc สมัยก่อนมี spread px 450 benzene 400
สมมุติว่า px ราคา 1050 benzene ราคา 1000
condensate ราคา 600
ตามหลักคือเขาให้ดูว่าเราผลิตเท่าไหร่เช่นถ้า
3 แสนตันเป็น px 2 แสน benzene 1 แสน
ใช้คอนเดนเสท 3 แสนก็เอามาเฉลี่ยกัน

p2f = (sale/ton product)-(feed cost/ton feed)
(px*pxprice)+(benzene*benzeneprice)-(condensate*consensate price)
=(0.2*1050+0.1*1000)-(.3*600)
=(210+100)-(180)
= 130 เหรียญต่อตัีน

อันนี้คือคำนวนออกมาได้ที่ 130 แต่จริงๆแล้วพอเราดูที่แต่ spread แต่ละตัวค่ามันคือ 450 กับ 400 แต่ทำไมพอมาเฉลี่ยต้นทุนกันแล้ว p2f มันเหลือแค่ 130 ล่ะครับพี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4511

โพสต์

มีคำถามอยากถามเพิ่มครับ
อย่าง pet เนี้ยเขาแยกได้เป็น 3 แบบอีกคือ
1.pet bottle ที่ irp ทำ
2.pet film ที่ ptl ทำ
3.pet fibre&yarn(เส้นใยสังเคราะห์) ที่ tr ทำ

แบบนี้ก็คือว่าทั้งสามชนิดนี้ยังไงก็ใช้ต้นทุนมาจาก pet resin เหมือนกันหมด
ผมเข้าใจถูกไหมครับ ? อันนี้คำถามแรก

คำถามที่สองนะครับ
สมมุติว่าผมสนใจหุ้นที่ทำ pet film แล้วความต้องการ pet film ไม่ได้ขึ้นหรอกแต่ว่าความต้องการ pet fibre ขึ้นแบบนี้จะส่งผลให้ pet film ดีหรือแย่ลงครับ

-ในส่วนที่แย่ก็คือว่าพอมีความต้องการมากขึ้นก็ผลิตมากขึ้น pet fibre จึงซื้อ pet resin มากขึ้นซึ่งกระทบไปถึงต้นทุนของ pet film ไปด้วย


-ส่วนกรณีที่อาจจะดีคือ มันสามารถทำให้ pet โดยรวมมี demand มากขึ้นได้หรือเปล่าครับไม่ว่าจะเป็น pet bottle หรือ pet film ก็เถอะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4512

โพสต์

คำถามสุดท้ายแล้วครับ


bopet ที่ราคาขึ้นเพราะมันมีเป็นแบบ thick film ที่บางเป็นพิเศษที่สามารถนำไปทำ solar cell และ lcd ได้
ในขณะที่ฟิลม์แบบ bopp กับ bopa ไม่มีชนิด thick ซึ่งจะบางพอที่จะทำ solar cell และ lcd ได้จึงเป็นสาเหตุให้ spread bopet enjoy ได้มากกว่าถูกต้องใช่ไหมครับ

คำถามต่อมานะครับ
ในกรณีของ bopet นั้นมีต้นทุนสองอย่างคือ pta กับ meg
ที่คุยกันไปก่อนหน้านี้คือ bopet ราคาดีความต้องการ pta สูงขึ้น
pttar enjoy มากขึ้น
ที่นี้ pttch ก็ต้อง enjoy มากขึ้นเช่นกันถูกไหมครับในส่วนของ meg
เพราะว่าเป็นต้นทุนของส่วนนึงด้วย

ถ้าใช่ที่นี้มีอีกประเด็นคือว่า ถ้าฟิลม์ bopp ราคาดีต้นน้ำที่สูงขึ้นไปคือ
polypropylene ก็ควรจะดีขึ้นตามถูกไหมครับ ถ้าถูกหุ้นต้นน้ำตัวไหนจะได้ประโยชน์จากกรณีที่ bopp ราคาสูงขึ้นครับ ที่ถามเพราะว่า bopp spread สูงขึ้นแต่ bopet ลงครับข้อมูลนี้ได้มาจาก aj ผมเลยสนใจจะไล่ว่ากรณีนี้ต้นน้ำของใครจะได้ประโยชน์

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4513

โพสต์

เพิ่งนึกได้อีกข้อครับ

สมมุติว่า spread เพิ่มสิ่งที่เป็นไปได้มาสองอย่างคือ
1.ราคาขายขึ้น
2.ต้นทุนลง

ถ้า spread ขึ้นด้วยเหตุผลของราคาขายขึ้นจะดีกว่าไหมครับเนื่องจากมันสะื้ื้ท้อนว่ามี demand ในตัวสินค้าจริงๆ หรือไม่ก็สะท้อน supply tight

แต่ถ้าเป็น spread ขึ้นในที่นี้ผมสมมุติว่าเป็น spread ที่ขึ้นคือปลายน้ำเช่น bopet นะครับ แต่ขึ้นเพราะต้นทุันลงเช่น pta ราคาลงแบบนี้ถือว่าไม่ดีเท่าแบบแรกไหม เพราะว่าถ้าต้นน้ำแย่ ปลายน้ำคงไม่สามารถ enjoy ได้นานเนื่องจากสุดท้ายก็ต้องปรับราคาลงให้กับลูกค้าอยู่ดี

ไม่ทราบว่ามีความเห็นว่าอย่างไรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4514

โพสต์

ถามพี่วิบูลย์เพิ่มครับ

การที่ปูนใหญ่มีปิโตรแต่เป็นสาย olefin
เพราะว่ามันเกื้อหนุนกับการก่อสร้างใช่ไหมครับ
เห็นพี่เคยบอกว่า pp ใช้ในการก่อสร้างหรือเปล่าครับ ถ้าผมจำไม่ผิด

โดยโครงสร้างแล้วหุ้นโรงกลั่นควรจะมีปิโตรสาย px เพื่อที่จะหนุนกัน
(แต่หนุนยังไงกันแน่)
ส่วนหุ้นก่อสร้างก็มีปิโตรอีกสายหนุนเช่นกัน อะไรประมาณนี้ใช่ไหมครับ

ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิครับพี่
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4515

โพสต์

hongvalue เขียน:เพิ่งนึกได้อีกข้อครับ

สมมุติว่า spread เพิ่มสิ่งที่เป็นไปได้มาสองอย่างคือ
1.ราคาขายขึ้น
2.ต้นทุนลง

ถ้า spread ขึ้นด้วยเหตุผลของราคาขายขึ้นจะดีกว่าไหมครับเนื่องจากมันสะื้ื้ท้อนว่ามี demand ในตัวสินค้าจริงๆ หรือไม่ก็สะท้อน supply tight

แต่ถ้าเป็น spread ขึ้นในที่นี้ผมสมมุติว่าเป็น spread ที่ขึ้นคือปลายน้ำเช่น bopet นะครับ แต่ขึ้นเพราะต้นทุันลงเช่น pta ราคาลงแบบนี้ถือว่าไม่ดีเท่าแบบแรกไหม เพราะว่าถ้าต้นน้ำแย่ ปลายน้ำคงไม่สามารถ enjoy ได้นานเนื่องจากสุดท้ายก็ต้องปรับราคาลงให้กับลูกค้าอยู่ดี

ไม่ทราบว่ามีความเห็นว่าอย่างไรครับ

ขอโทษที่ที่ตอบช้า
ไม่ได้เข้าเวปในวันเสาร์อาทิตย์นะ

ที่ฮงเข้าใจเรื่องนี้ก็ถูกต้องแล้ว

ราคาของสินค้าเหล่านี้เป็นเรื่องของดีมานด์ซัพพลาย
เพราะเป็น Commodity ของแท้แน่นอน
โดยเฉพาะต้นน้ำ
พาราไซลีนจากโรงไหนก็เหมือนกันทั่วโลก
PTA จากโรงไหนก็แทบจะเหมือนกันร้อยเปอร์เซนต์เช่นเดียวกัน
ดังนั้น
ถ้าลูกค้าสุดท้ายเยอะ เช่น ขายขนมคบเคี้ยวมากขึ้น
ต้องใช้ฟิล์มเยอะ
กำลังการผลิตเพิ่มได้ไม่เร็วเท่า
จะทำให้มาร์จินสูงขึ้นเพราะลูกค้าต้องแย่งกันซื้อของ

แต่ถ้า PTA ราคาลดลง
ก็ทำให้ผู้ผลิตฟิล์มมีกำไรสูงขึ้นได้
แต่จะถูกตัดราคาจากผู้ผลิตฟิล์มรายอื่น
ทำให้สุดท้ายต้องลดราคาให้ลูกค้าอยู่ดี

ดังนั้นถ้าอุตสาหกรรมนี้ไม่มีการฮั้วราคา
ราคาของสินค้าจะปรับไปหาจุดสมดุลเสมอ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4516

โพสต์

hongvalue เขียน:คำถามสุดท้ายแล้วครับ


bopet ที่ราคาขึ้นเพราะมันมีเป็นแบบ thick film ที่บางเป็นพิเศษที่สามารถนำไปทำ solar cell และ lcd ได้
ในขณะที่ฟิลม์แบบ bopp กับ bopa ไม่มีชนิด thick ซึ่งจะบางพอที่จะทำ solar cell และ lcd ได้จึงเป็นสาเหตุให้ spread bopet enjoy ได้มากกว่าถูกต้องใช่ไหมครับ

เป็นไปได้
ดูจากยอดขายไอเพด ไอโฟนซิ
ผลิตกันแทบไม่ทัน
อย่างนี้ผู้ผลิตไหนจะกำไรมากกว่ากันหละ
มันก็ต้อง BOPET อยู่แล้ว

hongvalue เขียน:คำถามต่อมานะครับ
ในกรณีของ bopet นั้นมีต้นทุนสองอย่างคือ pta กับ meg
ที่คุยกันไปก่อนหน้านี้คือ bopet ราคาดีความต้องการ pta สูงขึ้น
pttar enjoy มากขึ้น
ที่นี้ pttch ก็ต้อง enjoy มากขึ้นเช่นกันถูกไหมครับในส่วนของ meg
เพราะว่าเป็นต้นทุนของส่วนนึงด้วย

ไม่แน่
เพราะต้องดูกำลังการผลิตทั่วโลกของ meg ด้วย
แต่ก่อนกำลังการผลิตไม่พอขาย
แต่หลังๆโรงงาน meg สร้างเยอะ
ทำให้ meg ล้นตลาดไปพักหนึ่งเหมือนกัน

แต่ถ้าเทียบกับปัจจุบัน
และยอดขาย pta สูงขึ้น
ก็ทำให้ meg มาร์จินดีขึ้นได้
เมื่อเทียบกับปัจจุบันนะ

แต่ยอดขาย meg ของ PTTCH มันสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับการผลิตทั้งหมด

hongvalue เขียน:ถ้าใช่ที่นี้มีอีกประเด็นคือว่า ถ้าฟิลม์ bopp ราคาดีต้นน้ำที่สูงขึ้นไปคือ
polypropylene ก็ควรจะดีขึ้นตามถูกไหมครับ ถ้าถูกหุ้นต้นน้ำตัวไหนจะได้ประโยชน์จากกรณีที่ bopp ราคาสูงขึ้นครับ ที่ถามเพราะว่า bopp spread สูงขึ้นแต่ bopet ลงครับข้อมูลนี้ได้มาจาก aj ผมเลยสนใจจะไล่ว่ากรณีนี้ต้นน้ำของใครจะได้ประโยชน์

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ

โรงงาน PP ในเมืองไทย
ก็มีปูนซิเมต์ไทยที่มีโรงงานผลิต PP ของตนเอง
และกำลังก่อสร้าง PO (Propylene Oxide) แห่งแรกของไทยด้วย

ส่วนของ PTTCH ก็ถือหุ้น HMC Polymer อยู่
ก็ได้ประโยชน์เหมือนในทางอ้อม
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4517

โพสต์

hongvalue เขียน:มีคำถามอยากถามเพิ่มครับ
อย่าง pet เนี้ยเขาแยกได้เป็น 3 แบบอีกคือ
1.pet bottle ที่ irp ทำ
2.pet film ที่ ptl ทำ
3.pet fibre&yarn(เส้นใยสังเคราะห์) ที่ tr ทำ

แบบนี้ก็คือว่าทั้งสามชนิดนี้ยังไงก็ใช้ต้นทุนมาจาก pet resin เหมือนกันหมด
ผมเข้าใจถูกไหมครับ ? อันนี้คำถามแรก

แม่นแล้ว

hongvalue เขียน: คำถามที่สองนะครับ
สมมุติว่าผมสนใจหุ้นที่ทำ pet film แล้วความต้องการ pet film ไม่ได้ขึ้นหรอกแต่ว่าความต้องการ pet fibre ขึ้นแบบนี้จะส่งผลให้ pet film ดีหรือแย่ลงครับ

-ในส่วนที่แย่ก็คือว่าพอมีความต้องการมากขึ้นก็ผลิตมากขึ้น pet fibre จึงซื้อ pet resin มากขึ้นซึ่งกระทบไปถึงต้นทุนของ pet film ไปด้วย


-ส่วนกรณีที่อาจจะดีคือ มันสามารถทำให้ pet โดยรวมมี demand มากขึ้นได้หรือเปล่าครับไม่ว่าจะเป็น pet bottle หรือ pet film ก็เถอะ
อย่างนี้ก็แย่งเม็ด pet กัน
ทำให้ pet ราคาสูงขึ้นในระยะสั้น

แต่ในระยะยาวแล้ว
ถ้าดีมานด์มากขึ้น
ผู้ผลิตจะเพิ่มกำลังการผลิตจนวันหนึ่งมันก็จะตามดีมานด์ทัน
ทำให้ราคาของสินค้าลดลงสู่จุดสมดุล
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4518

โพสต์

hongvalue เขียน:ถามพี่วิบูลย์เพิ่มครับ

การที่ปูนใหญ่มีปิโตรแต่เป็นสาย olefin
เพราะว่ามันเกื้อหนุนกับการก่อสร้างใช่ไหมครับ
เห็นพี่เคยบอกว่า pp ใช้ในการก่อสร้างหรือเปล่าครับ ถ้าผมจำไม่ผิด
ปูนใหญ่มาสาย Olefin เช่นเดียวกับ PTTCH
สาย Olefin เอาอิทิลีนมาผลิตเป็น PE PP และ PVC
การก่อสร้างส่วนใหญ่ใช้ PE และ PVC
อย่างท่อน้ำ สายไฟ แผ่นพลาสติกต่างๆ

แต่ PP จะใช้มากกับพวก Packaging และ Automotive
เช่น กล่องใส่อาหาร ภาชนะ และวัสดุรถยนต์อย่างกันชนรถหรือวัสดุหุ้มภายใน

จะเห็นว่าปูนมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ Toyota และปูนถือหุ้นบริษัท Toyota Thailand ด้วยนะจะบอกให้


hongvalue เขียน:โดยโครงสร้างแล้วหุ้นโรงกลั่นควรจะมีปิโตรสาย px เพื่อที่จะหนุนกัน
(แต่หนุนยังไงกันแน่)
ส่วนหุ้นก่อสร้างก็มีปิโตรอีกสายหนุนเช่นกัน อะไรประมาณนี้ใช่ไหมครับ

ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิครับพี่

ถ้าโรงกลั่นเพียวๆอย่างบางจาก
ถ้ามาร์จินโรงกลั่นดีก็จะดีใจหาย
แต่ถ้าโรงกลั่นมาร์จินแย่ บางจากจะซวย

แต่ถ้ามีโรงพาราไซลีน
จะช่วยลดความผันผวนของกำไรลงได้
เพราะถ้าเมื่อไหร่น้ำมันดีก็ผลิตดีเซลเยอะๆ
ถ้าเมื่อไหร่มาร์จินน้ำมันตก ก็เอาตัวตั้วต้นดีเซลไปผลิตเป็นพาราไซลีนแทน
เรียกว่าหยืดหยุ่นมากกว่า

TOP PTTAR ESSO เป็นโรงกลั่นที่มีพาราไซลีนพ่วงด้วย

แต่โรงกลั่น Caltex และ BCP เป็นโรงกลั่นเพียวๆ

พอเข้าใจไหม
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4519

โพสต์

hongvalue เขียน:
VIB007 เขียน: อ่านไม่เข้าใจนะ
ช่วยเขียนอธิบายการคำนวณทั้งหมดหน่อย
ตามไม่ทันว่า 100 มาจากไหน
ยกตัวอย่างนะครับ
จากโจทย์เดิมคือ
สมมุติว่า atc สมัยก่อนมี spread px 450 benzene 400
สมมุติว่า px ราคา 1050 benzene ราคา 1000
condensate ราคา 600
ตามหลักคือเขาให้ดูว่าเราผลิตเท่าไหร่เช่นถ้า
3 แสนตันเป็น px 2 แสน benzene 1 แสน
ใช้คอนเดนเสท 3 แสนก็เอามาเฉลี่ยกัน

p2f = (sale/ton product)-(feed cost/ton feed)
(px*pxprice)+(benzene*benzeneprice)-(condensate*consensate price)
=(0.2*1050+0.1*1000)-(.3*600)
=(210+100)-(180)
= 130 เหรียญต่อตัีน

อันนี้คือคำนวนออกมาได้ที่ 130 แต่จริงๆแล้วพอเราดูที่แต่ spread แต่ละตัวค่ามันคือ 450 กับ 400 แต่ทำไมพอมาเฉลี่ยต้นทุนกันแล้ว p2f มันเหลือแค่ 130 ล่ะครับพี่


เล่นเอาซะงง
ก็เอ็งคำนวณผิดน่ะ

PX = 200,000 ตัน
ราคา 1,050 เหรียญต่อตัน
คิดเป็นเงิน 210,000,000 เหรียญ (1)

Bx = 100,000 ตัน
ราคา 1000 เหรียญต่อตัน
คิดเป็นเงิน 100,000,000 เหรียญ (2)

Con = 300,000 ตัน
ราคา 600 เหรียญต่อตัน
คิดเป็นเงิน 180,000,000 เหรียญ (3)

กำไร = (1)+(2)-(3) = 130,000,000 เหรียญ
กำไรต่อตัน = 130,000,000/300,000 = 433 เหรียญต่อตัน

นายลืมเอา 300000 ตันมาหารตัวเลขที่ได้ไง
ตอนนี้เท่ากันแล้วนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4520

โพสต์

สุดยอดจริงๆกับคำตอบแต่ละข้อ ขอบคุณมากครับ
ปรึกษาทุกคนก็แบบนี้แหละ ได้คำตอบเร็วและละเีอียด อิอิ

ส่วนเรื่องคำนวนผิดต้องขอโทษด้วยครับ โจทย์มันยากไปหน่อย
คำนวนหลายตอนเลยมึนๆงงๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4521

โพสต์

hongvalue เขียน:สุดยอดจริงๆกับคำตอบแต่ละข้อ ขอบคุณมากครับ
ปรึกษาทุกคนก็แบบนี้แหละ
พิมพ์ผิดครับ จะพิมพ์ว่าถูกคน
ไม่ใช่ทุกคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4522

โพสต์

ขอความรู้จากซือแป๊วิบูลย์ พึงประเสริฐ (เรียกเต็มยศ)
ต่อนะครับ

หุ้นที่บางคนเรียกว่า great company เช่น โรงบาลหรือค้าปลีกส่วนใหญ่แล้วตอนนี้หลายบริษัทมี pe สูงกว่า 20 เท่า

ผมคุ้นๆว่าเคยอ่านเจอจาก lych ว่าถ้าอัตราการเติบโตน้อยกว่า pe
เขาคิดว่าไม่น่าสนใจ ในที่นี้ผมเลยลองเสนอว่าให้ใช้ growth
เฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า เช่นถ้าบริษัท pe 20 แล้ว เฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า
โตได้ไม่ถึง 20 แบบนี้จะมีแนวโน้มที่เราให้มูลค่ามันแพงเกินไปไหม


เอาอย่าง pttep ที่พี่เคยลงทุนก่อนได้ตอนซื้อก่อนที่จะขึ้นไป 10 เด้ง
pe ก็น่าจะต่ำกว่า growth เฉลี่ยข้างหน้าส่วนตอนที่ขาย 200 กว่าบาท
pe คงจะสูงกว่า growth ที่คิดไว้แล้วถูกไหมครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4523

โพสต์

ขอความรู้ต่อนะครับ

ที่เคยคุยกันไปนานแล้วว่า pttep มี pe ที่สูงถ้าเทียบกับ
top atc toc npc rrc bcp tpc irpc

น่าจะเป็นเพราะว่ามีรายได้จากแก๊สซึ่งเป็นรายได้ที่ stable พอสมควร
และธุรกิจมี bte รายใหม่เข้ามาได้ยากจึงสะท้อนที่ roe ที่สูงระดับ
20% ยาวนาน

จึงๆแล้วถ้าคนมองเผินๆ pttep ก็น่าจะเป็น commo หลายคนคงงงว่าทำไม pe ถึงสูงแบบนั้นได้ ที่นี้ประเด็นทีี่อยากแชร์คือ

การที่บริษัทมี roe สูงสม่ำเสมอนั้นหุ้นควรจะมี pe ที่สูงด้วยจริงหรือไม่
เพราะมันสะท้อน stable income,การจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม,การเป็นธุรกิจที่มี five force ที่ดีไม่โดนหน้าใหม่รุกมาแข่งหรือโดนบีบจาก supplier มากเกินไป อะไรต่างๆ

สมมุตินะครับ สมมุติอยู่ดีๆ top ได้ roe มากกว่า 20% ติดกันสามปีบ้างล่ะครับ จะมีโอกาศที่ตลาดจะปรับค่า pe ให้หรือไม่ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4524

โพสต์

เพิ่งอ่าน "เคล็ดลับเซียนหุ้นบรรลือโลก" ของพี่จบครับ อ่านสนุกมากครับ อยากจะถามพี่วิบูลย์ว่า ถ้าพี่จะหามูลค่าของ robins พี่จะคิดถึงเรื่องอะไรบ้าง จะเริ่มต้นอย่างไร ประเด็นไหนที่คิดว่าสำคัญมากๆบ้างครับ
ขอบคุณครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4525

โพสต์

worapong เขียน:เพิ่งอ่าน "เคล็ดลับเซียนหุ้นบรรลือโลก" ของพี่จบครับ อ่านสนุกมากครับ อยากจะถามพี่วิบูลย์ว่า ถ้าพี่จะหามูลค่าของ robins พี่จะคิดถึงเรื่องอะไรบ้าง จะเริ่มต้นอย่างไร ประเด็นไหนที่คิดว่าสำคัญมากๆบ้างครับ
ขอบคุณครับ
ถ้าจะตอบละเอียดๆ
คงต้องเขียนเป็นหนังสือสักหนึ่งเล่มถึงจะจบ

เอาคร่าวๆ
ไปดูคู่แข่งว่าแต่ละคนมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร
ไปดูอุตสาหกรรมว่าธุรกิจนี้เติบโตไปทางไหน
ไปดู Position ของบริษัทว่าอยู่ตรงไหนมีจุดแข็งอย่างไร
บริษัทใช้จุดแข็งให้เป็นประโยชน์หรือเปล่า

ดูแผนการลงทุนแผนธุรกิจของบริษัทในอนาคตว่าเป็นอย่างไร
จะเติบโตหรือเติบตาย

ดูงบการเงินว่าจะทำธุรกิจให้เป็นไปตามแผน
เอาเงินมาจากไหน
ปัจจุบันฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
หนี้มีมากน้อย เงินมาจากกระแสเงินสดหรือกู้

ดูผู้บริหารไว้ใจได้แค่ไหน
มีประวัติอย่างไร

สุดท้ายจากข้อมูลทั้งหมด คำนวณมูลค่าได้เท่าไหร่
ราคาปัจจุบันเป็นอย่างไร หุ้นน่าสนใจหรือไม่

คร่าวๆนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4526

โพสต์

ขอบคุณมากครับพี่วิบูลย์ แค่คำแนะนำคร่าวๆก็ละเอียดแล้วนะครับ
อ้อ ในหนังสือของพี่ที่แนะนำให้ถือเงินสดไว้บ้าง หลังจากขายหุ้นไปแล้วนี่ มันช่วยให้เราไม่พลาด เมื่อโอกาสมาถึง แถมยังช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นด้วยครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4527

โพสต์

worapong เขียน:ขอบคุณมากครับพี่วิบูลย์ แค่คำแนะนำคร่าวๆก็ละเอียดแล้วนะครับ
อ้อ ในหนังสือของพี่ที่แนะนำให้ถือเงินสดไว้บ้าง หลังจากขายหุ้นไปแล้วนี่ มันช่วยให้เราไม่พลาด เมื่อโอกาสมาถึง แถมยังช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นด้วยครับ
ขอบคุณครับ โชคดีครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4528

โพสต์

hongvalue เขียน:ขอความรู้จากซือแป๊วิบูลย์ พึงประเสริฐ (เรียกเต็มยศ)
ต่อนะครับ

ทีหลังอย่าเรียกเต็มยศ
เดี๋ยวเจ้านายเห็นแล้วจะซวย

hongvalue เขียน:หุ้นที่บางคนเรียกว่า great company เช่น โรงบาลหรือค้าปลีกส่วนใหญ่แล้วตอนนี้หลายบริษัทมี pe สูงกว่า 20 เท่า

ผมคุ้นๆว่าเคยอ่านเจอจาก lych ว่าถ้าอัตราการเติบโตน้อยกว่า pe
เขาคิดว่าไม่น่าสนใจ ในที่นี้ผมเลยลองเสนอว่าให้ใช้ growth
เฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า เช่นถ้าบริษัท pe 20 แล้ว เฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า
โตได้ไม่ถึง 20 แบบนี้จะมีแนวโน้มที่เราให้มูลค่ามันแพงเกินไปไหม

ถ้าตามหลักของปีเตอร์ ลินซ์ก็ใช่
PE เกิน Growth Rate ในอนาคตไม่น่าสนใจ

hongvalue เขียน:เอาอย่าง pttep ที่พี่เคยลงทุนก่อนได้ตอนซื้อก่อนที่จะขึ้นไป 10 เด้ง
pe ก็น่าจะต่ำกว่า growth เฉลี่ยข้างหน้าส่วนตอนที่ขาย 200 กว่าบาท
pe คงจะสูงกว่า growth ที่คิดไว้แล้วถูกไหมครับ
น่าจะใช่นะ
ตอนที่ซื้อนั่น PE 7 เท่าเอง
ตอนขายน่าจะสัก 25-30 เท่า
มันขึ้นเพราะราคาน้ำมันที่ไป 140 เหรียญนั่นเอง
บ้าชัดๆ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4529

โพสต์

hongvalue เขียน:ขอความรู้ต่อนะครับ

ที่เคยคุยกันไปนานแล้วว่า pttep มี pe ที่สูงถ้าเทียบกับ
top atc toc npc rrc bcp tpc irpc

น่าจะเป็นเพราะว่ามีรายได้จากแก๊สซึ่งเป็นรายได้ที่ stable พอสมควร
และธุรกิจมี bte รายใหม่เข้ามาได้ยากจึงสะท้อนที่ roe ที่สูงระดับ
20% ยาวนาน

จริงๆเป็นเพราะธุรกิจของ pttep มีคู่แข่งน้อย
และเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้ เงินทุนและ
สายสัมพันธ์กับรัฐบาลในการได้สัมปทานปิโตรเลียม
ทำให้คนเข้ามาใจธุรกิจนี้ได้น้อย
มาร์จินเลยสูงได้อย่างต่อเนื่อง
ทำให้ ROE สูงตลอดมา

บริษัทน้ำมันระดับโลก
ก็ได้กำไรจากธุรกิจขุดเจาะเป็นหลักนะ
อย่าง Exxon Shell BP Total Chevron ConocoPhillip

hongvalue เขียน: จึงๆแล้วถ้าคนมองเผินๆ pttep ก็น่าจะเป็น commo หลายคนคงงงว่าทำไม pe ถึงสูงแบบนั้นได้ ที่นี้ประเด็นทีี่อยากแชร์คือ

การที่บริษัทมี roe สูงสม่ำเสมอนั้นหุ้นควรจะมี pe ที่สูงด้วยจริงหรือไม่
เพราะมันสะท้อน stable income,การจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม,การเป็นธุรกิจที่มี five force ที่ดีไม่โดนหน้าใหม่รุกมาแข่งหรือโดนบีบจาก supplier มากเกินไป อะไรต่างๆ

ต้องดูอัตรากำไรสุทธิด้วย
นอกเหนือจาก ROE
อย่าง pttep Net PRofit Margin ๖หลังหักภาษีแล้วด้วยนะ
ยังสูงถึงกว่า 30% มาตลอดกว่า 10 ปี
มันหาไม่ได้แล้วหละ
จะมีธุรกิจไหนทำกำรได้ขนาดนี้
รายได้ก็สม่ำเสมอ
ถ้าไม่นับราคาน้ำมันดูปริมาณขายอย่างเดิม
จะเพิ่มขึ้นทุกปี
เพราะลูกค้าซื้อแล้วไม่ยอมเลิกซื้อไง
พวกโรงไฟฟ้าใช้แกสเปิดแล้วคงไม่เลิกง่ายๆเป็นต้น

hongvalue เขียน:สมมุตินะครับ สมมุติอยู่ดีๆ top ได้ roe มากกว่า 20% ติดกันสามปีบ้างล่ะครับ จะมีโอกาศที่ตลาดจะปรับค่า pe ให้หรือไม่ครับ
นายตลาดคงไม่โง่หรอกครับ
ทุกคนก็รู้ว่าธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีเป็นวัฏจักรแน่นอนอย่างกับแช่แป้ง
สินค้าจากโรงกลั่นไหนก็เหมือนกัน
ถ้าtop ได้ PE สูงขึ้นก็คงเป็นการชั่วคราว
ไม่ถาวรแน่นอน รับประกันได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
erickiros
Verified User
โพสต์: 415
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4530

โพสต์

ได้ความรู้ใหม่เยอะแยะเลยจากที่พี่ฮงถาม พี่วิบูลย์ตอบ ขอบคุณมากค่า