ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คุณปรัชญา ครับ
ผมได้อ่านหัวข้อ"ประสบกาณ์เซียน" ตามที่คุณ genie ตั้งไว้
www.thaivalueinvestor.com/webboard/viewtopic.php?t=564
ด้วยความสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประสบการณ์จริงของคุณปรัชญาเองใน รอบที่ 2 ที่บอกว่า
ปรัญชญา เขียน:...รอบที่2.หมดไปกับการเก็งกำไร3แสนบาทเพราะถือหุ้นผิดตัว จนเหลือเพียงเศษเสี้ยวของอดีต...
หากเป็นไปได้อยากให้เล่าว่าเป็นหุ้นตัวไหน ผิดอย่างไร เพราะเหตุใด ทำให้เลือกผิดเช่นนั้น ฯลฯ เพื่อจะได้เป็นกรณีศึกษาสำหรับชาว TVI โดยเฉพาะผมกำลังศึกษาเรื่อง VI ชั้นอนุบาลอยู่ครับ ...และก็หวังจะเป็น VI ที่ดีในอนาคตครับ

ขอบคุณล่วงหน้า นะครับ

PP
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา1
Verified User
โพสต์: 1092
ผู้ติดตาม: 0

Re: ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 2

โพสต์

:arrow: รอบ2ที่หมดเพราะรัฐบาลเชาวลิตครับ ปิด56ไฟแนนซ์
หุ้นที่มีอยู่พวกตระกูลไฟ จึงมีค่าเป็น0ครับ
เพราะอยู่บ้านนอกออกของไม่ทัน
ยังไม่ได้เป็นเซียนครับ
ถ้าเป็นเซียนก็คงไม่หมดนี่หมดไป2รอบ
หมดจากการเก็งกำไร(ก็เลยลืมเก็งขาดทุน)
สมัยก่อนเราไม่เป็นมวยเท่าไหร่
เช้ามาขับรถไปห้องค้า
อ่านหนังสือพิมพ์ อ่านเปเปอร์ที่เขาแจก
แล้วถึงดูวอลุ่ม ตัวไหนที่บิดเยอะๆเราก็เคาะออบเฟอร์เลย
เคยจำได้ว่า...เวลาหุ้นลงหนักๆ
เคยขายราคาฟลอ3วันไม่หลุดเพราะไปตั้งทีหลังเขาครับ
สมัยนั้นราคาซิลลิ่งกับฟลอแค่10% สมัยนี้30%ครับ

ประวัติศาสตร์สอนไว้เป็นบทเรียน
สมัยนั้นไม่มี ท่านดร.นิเวศน์ คอยชี้ทางให้เห็นการลงทุนแบบVI
ที่ลงทุนในหุ้นที่มีคุณค่า
เล่นหุ้นอะไรก็ไม่มันส์
เท่ากับไฟแนนซ์และหุ้นแบ๊งก์
เพราะชีวิตประจำวันมันก็ใกล้กับ2อย่างนี้

เราเลยมาเรียนรู้การผิดพลาดได้จากประสพการณ์ตอนหมดเงินแล้ว
สมัยนั้นจะมีหนังสือเกี่ยวกับหุ้น
ทุกสิ้นเดือนจะรายงานว่ากองทุนไหน
ถือหุ้นอะไร เพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าไหร่ พิมพ์ขาย(สมัยนี้ไม่มี)
เมื่อก่อนเขาไม่ได้รายการ แยกให้ดูเหมือนทุกวันนี้
ที่มีนักลงทุนสถาบันซื้อหรือขายเท่าไหร่?
นักลงทุนต่างประเทศซื้อหรือขายเท่าไหร่?
นักลงทุนทั่วไป(รายย่อย)ซื้อหรือขายเท่าไหร่?
เล่นกันไปแบบตาบอดคลำช้าง
เราได้ข้อมูลจากหนังสือถึงได้มาดูว่าพวกกองทุนเขาซื้อถือหุ้นอะไร
ดูแล้วก็น่าติดตาม ที่พวกกองทุนเก็บหุ้นปันผลไว้ทุกกองทุน
ล้วนแต่หุ้นดีๆแต่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง
เนื่องจากคำว่าถือคือไม่ขาย
เราก็ต้องมาพัฒนาเลียนแบบเขาไปครับ
สมัยก่อนไม่มีคอมฯหรืออินเตอร์เนทต่อเข้าเซทเทรด
ไม่มีที่ค้นหาข้อมูลบริษัทที่เราสนใจ
ไม่มีเครื่องมือช่วยเราเรื่องการลงทุน
ไม่มีเวปไซด์ไว้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
หรือถามข้อข้องใจของสังคมนักลงทุน

สมัยนี้ดีมาก
มีรายงานการซื้อขายแต่ละกลุ่มหลังปิดตลาด
ทำให้เราพอคาดเดาตามนักลงทุนต่างชาติและกองทุนได้

สมัยก่อนต่างชาติโหดมาก
เวลาเขาขายเขาจะขายแบบให้ลงไปที40-50%เลย
(ราคาของหุ้นแต่ละตัว)
เพื่อให้พวกที่เล่นหุ้นด้วยบัญชีมาร์จิ้นนำหลักทรัพย์มาเพิ่มกับทาง บล.
ถ้าไม่มีมาเพิ่ม เมื่อหุ้นลงถึงระดับหนึ่ง
หุ้นในพอท์ตของลูกค้าก็จะถูกจับขาย เพราะเป็นกติกา
เมื่อต่างชาติขายจนลงไประดับหนึ่ง
รายย่อยถูกจับขายอีกก็เท่ากับทำร้ายตลาดให้ลงไปอีก
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะเข้าทางต่างชาติไปรอรับซื้อได้ราคาต่ำๆ
เพื่อนๆผมถูกจับหุ้นขายจนหมดยังไม่พอ
หลักทรัพย์พวกอาคารพานิชที่ดินและตั๋วเงินฝากที่นำมาค้ำประกัน
ก็ถูกยึดไปชำระค่าบัญชีมาร์จิ้นด้วย
เรื่องยาวครับเล่าลำบาก
แต่ถ้ารู้จักใครที่เล่นหุ้นย้อนไปสัก15ปีเขาจะมีประสพการณ์เล่าให้ฟังครับ

ผมถึงพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า...ผมมาจากนักเก็งกำไร
ผมพูดอย่างภาคภูมิใจว่า....หมดมา2รอบ
ทุกวันนี้ก็ยังนึกว่ายังดี ที่ปรับปรุงตัวเอง
มาเล่นหุ้นแบบไร่นาสวนผสม
คือถือหุ้นลงทุนรอรับเงินปันผล70%
มีเงินอีก20%ไว้ไปขุดพลอย
และสำรองไว้10%
เพราะในอดีต พอหมดแล้วหมดจริงๆ
ต้องไปก้มหน้าก้มตาทำมาหาเก็บ
กว่าจะเหลือพอมีเงินเหลือ
ก็เหมือนมีใครมากวักมือให้เข้าไปซื้อขายหุ้นอีก
ชาตินี้คงเลิกเล่นหุ้นไม่ได้
แต่เราแก่แล้วควรจะเลือกถือความเสี่ยงให้น้อยลง
ถ้าหมดรอบนี้ อายุก็มากแล้วคงหมดเวลาแก้ตัว
แต่ถ้าใครไม่อยากหมดและไม่โลภ ก็ควรลงทุนแนวVI
อ่านหนังสือท่าน ดร.นิเวศน์ (ตีแตก)สัก2-3รอบ
เรียนรู้และวิเคราะห์ตามนั้น เป็นหนังสือเกี่ยวกับหุ้นที่ดีที่สุดเท่าที่ผมได้อ่านมาครับ

ส่วนใครจะอ้างปีเตอร์ลินซ์ บับเฟ่และอื่นฯ
ผมว่าจะไปก๊อปปี้ต่างประเทศลำบาก
เนื่องจากเศรษฐกิจของเรา
นิสัยของการลงทุนของรายย่อยบ้านเราไม่เหมือนพวกเมกาเลย
บริษัทจดทะเบียนของเราก็ไม่เหมือนเขา ตลาดหุ้นบ้านเราไม่มี
หุ้นไมโครซอฟ ไม่มีหุ้นเวชภัณฑ์ ไม่มีหุ้นบริษัทขายอาวุธสงคราม
ไม่มีหุ้นใบมีดโกน
และที่สำคัญที่สุด ตลาดบ้านเรามีรายย่อยมากกว่านักลงทุนสถาบัน
มันจึงมีความผันผวนสูง และที่เมกาเขามีกองทุนเยอะกว่ารายย่อย
เวลาใครเขาคุยถึงบับเฟ่หรือปรมาจารย์ต่างชาติ
ผมจะไม่เข้าไปแจมเลยสังเกตดูผมได้
แต่ถ้าเป็นข้อคิดความเห็นของท่าน ดร.นิเวศน์ ผมชอบมาก
ผมจะซื้อหนังสือของท่านทุกเล่มตอนนี้ออกมา3เล่มแล้ว
และตามอ่านบทความของท่านทุกวันอังคารทาง นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ผมชอบการวิเคราะห์หุ้นและการดูงบการเงินของท่าน ดร.นิเวศน์
ที่ไม่ใช้ภาษาซับซ้อน
เนื่องจากผมการศึกษามาน้อยครับ

ผมว่ายาวมากแล้วไม่ค่อยมีเนื้อมีแต่น้ำทนๆอ่านคนแก่ขี้บ่นเอาหน่อยนะครับ

เล่นหุ้นให้เล่นแบบเป็นเจ้าของกิจการ และก่อนจะซื้อหุ้นตัวไหน
ไปค้นหาผลประกอบการย้อนหลังสัก3-5ปี ดูอุตสาหกรรมด้วย
ดูผู้บริหารด้วยว่านามสกุลน่าเชื่อถือแค่ไหนบริหารงานโปร่งใสหรือเปล่า
ดูแนวโน้มและควรคาดการว่า3-5ปีข้างหน้า
บริษัทที่เราจะเข้าไปร่วมเป็นเจ้าของจะเป็นยังไง

ขอให้โชคดีและปลอดภัยในการลงทุนครับ
M149
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ใจจริงนี่ผมอยากรวบรวมประสบการณ์ของพี่ๆหลายๆท่านแล้วเอาลงในคอลัมน์ GURU จริงๆนะครับเนี่ย อย่างประสบการณ์ พี่ปรัชญา น่าสนใจมาก หรืออย่าง ลุงขวด พี่ครรชิต พี่นักดูดาว พี่loso ผมว่าก็น่าจะน่าสนใจไม่แพ้กัน หากพี่ๆสนใจพี่ลองสรุปประสบการณ์การลงทุนของพี่ๆมาคร่าวๆพร้อมรูปมาก็ได้นะครับ ผมยินดีเกลาภาษาแล้วนำขึ้นเป็นทำเนียบGURUครับ :D
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0

Re: ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณหลายครับสำหรับข้อมูลกรณีศึกษาจากประสบการณ์จริงที่คุณปรัชญาได้กรุณานั่งทบทวนเหตุการณ์แล้วอุตสาห์ลงมือถ่ายทอดเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นตัวหนังสือไว้ให้คนที่จะเล่นหุ้นรุ่นหลังๆได้เรียนรู้ เห็นภาพได้ชัดเจนดีมากครับ

ปรัชญา เขียน:....เราได้ข้อมูลจากหนังสือถึงได้มาดูว่าพวกกองทุนเขาซื้อถือหุ้นอะไร
ดูแล้วก็น่าติดตาม ที่พวกกองทุนเก็บหุ้นปันผลไว้ทุกกองทุน
ล้วนแต่หุ้นดีๆแต่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง
เนื่องจากคำว่าถือคือไม่ขาย
เราก็ต้องมาพัฒนาเลียนแบบเขาไปครับ
.........
ผมเองก็เอาตามคนที่มาชักชวน คือ ในสมัยช่วงก่อนรัฐบาลเชาวลิตขณะที่กองทุนรวมกำลังฮิตนั่นแหละครับ ..เพื่อนจากธนาคารมาชวนซื้อ กองทุนรวม SCB2 Taweesub .....พี่จากบริษัทหลักทรัพย์ มาชวนซื้อ กองทุนรวม One+1 รวมๆกันแล้วราว 3 แสนกว่าบาท แล้วตอนฟองสบู่แตกปรากฏจากราคาลงทุน 10 บาทต่อหน่วยลงทุน มาเหลือ 5 บาทกว่า และ 3 บาทกว่า เลยตัดใจขายทิ้งหมดเหลือเงินแสนกว่านิดๆ ตอนแรกๆคนชวนเขาบอกว่าลงทุนกับกองทุนรวมปลอดภัยได้ผลตอบแทนแน่นอน แต่เอาเข้าจริงๆไม่ยักเป็นอย่างที่เขาพูด ผมก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่ากองทุนรวมว่าแน่แล้ว ถือแบบไม่ขายหุ้นดีๆ แต่ยังไม่วายขาดทุนมาก ...เข็ดมากเลยครับ เดี่ยวนี้ใครมาชวนลงทุนกองทุนรวมผมไม่เอาด้วยแล้ว กะว่าค่อยๆหาความรู้เพื่อลงทุนเองดีกว่า พอดีมาเห็น web TVI ชอบมากตรงที่ผู้มีความรู้ประสบการณ์จริงหลายๆท่าน ทั้งคุณปปรัชญาเอง คุณ CK คุณครรชิต ลุงขวด และท่านอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยนามมา ที่ได้กรุณาถ่ายทอดเรื่องจริงไว้เป้นข้อคิดเตือนใจ ดีมากๆครับ ขณะเดียวกันก็กำลังพยายามติดตามหาความรู้จากหนังสือหนังหาเพิ่มเติมเรื่อยๆ ....กะว่าจบอนุบาลขึ้นมัธยมได้ประกาศนียบัตร VI แล้วค่อยย่องเข้าตลาดหุ้นครับ
ปรัชญา เขียน:ขอให้โชคดีและปลอดภัยในการลงทุนครับ
ขอบคุณมากครับที่กรุณาอวยพรมาด้วย
PP
ภาพประจำตัวสมาชิก
suthepj
Verified User
โพสต์: 125
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 5

โพสต์

รูปภาพ


ขอบคุณครับ
ปีเตอร์ ชาง
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ไม่อยากขัดคอ แต่ฟังพี่ปรัชญาแล้วแปลกๆในประโยคนี้ครับ

"อ่านหนังสือท่าน ดร.นิเวศน์ (ตีแตก)สัก2-3รอบ
เรียนรู้และวิเคราะห์ตามนั้น เป็นหนังสือเกี่ยวกับหุ้นที่ดีที่สุดเท่าที่ผมได้อ่านมาครับ

ส่วนใครจะอ้างปีเตอร์ลินซ์ บับเฟ่และอื่นฯ
ผมว่าจะไปก๊อปปี้ต่างประเทศลำบาก
เนื่องจากเศรษฐกิจของเรา
นิสัยของการลงทุนของรายย่อยบ้านเราไม่เหมือนพวกเมกาเลย"

พี่ปรัชญาลองไปอ่าน buffetology สักรอบสิครับ แล้วพี่จะรู้ว่า คนเขียน buffetology นั้น คงมาอ่านตีแตก แล้ว copy ไปเขียนหนังสือเขาแน่ๆเลย ขึ้นมาหน้าแรกประโยคแรกก็เหมือนกันเด๊ะ

ดังนั้นที่พี่บอกว่า ใครอ้าง ปีเตอร์ ลินซ์ บัฟเฟ่ พี่ไม่สนใจ แต่สนใจ ดร นิเวศฯ

ผมก็สงสัยว่า ดร นิเวศน์น่ะ เขาต่างจากตำราฝรั่งตรงไหนเหรอครับ ผมว่าหนังสือตีแตกน่ะ กลิ่นนมกลิ่นเนยเต็มเล่มเลยครับ

ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เพราะผมอ่าน buffetology แล้วค่อยมาอ่านตีแตก ผมเลยรู้สึกว่า เอ ทำไมหนังสือเนื้อหามันเล่มเดียวกันหรือเปล่าหว่าเนี่ย

ขออภัย คนรัก ดร นิเวศน์ ด้วย ผมเล่าให้ฟังเฉยๆ เพราะ ดร ท่านเป็น hero ของหลายๆคน เด๋วผมโดนด่า

แต่ขอบอกว่า สิ่งที่ผมพูดข้างต้น ไม่ใช่ opinion นะครับ มันคือ fact
M149
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 7

โพสต์

จริงๆแล้วผมว่าที่คุณปีเตอร์กล่าวมาก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะอ.นิเวศน์ เองก็พูดอยู่เสมอว่าหลักการที่แกใช้ก็นำมาจาก Graham, Buffett, และ Lynch ดังนั้นหากเนื้อหาจะคล้ายคลึงกันผมว่ามันก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะมันมาจากรากฐานเดียวกัน อย่างผมอ่าน Essential Buffett แล้วอ่าน Buffettology ผมว่ามันยังคล้ายๆกันเลยครับ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 8

โพสต์

สงสัยผมจะเป็นคนอ่านหนังสือที่ไม่ได้สังเกตุอะไรเลย จึงไม่เห็นเหมื่อนคุณ ปีเตอร์ คงต้องกับไปอ่านใหม่แล้ว

ผมว่าจะเป็นหลักการของใครก็ชั่งเถอะครับ หากเป็นหลักการที่make sense ก็ควรนำมาประยุกต์ใช้ได้ ถึงแม้บ้านเราจะต่างกับ อเมริกามาก แต่เราก็นำเอาหลักที่เป็นแก่นมาประยุกต์ใช้ได้นะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
moo
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ได้ประโยชน์อย่างยิ่งเลยครับพี่ปรัชญา การเรียนรู้สิ่งที่ที่ประสพความสำเร็จแล้ว ไม่ค่อยลึกซึ้งเท่ากับการเรียนรู้สิ่งผิดพลาดครับ ถ้าพี่จะกรุณาเล่าประสพการณ์บ่อยๆ จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ เป็นวิทยาทานกับน้องๆรุ่นหลังๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา1
Verified User
โพสต์: 1092
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ปีเตอร์ ชาง เขียน:ไม่อยากขัดคอ แต่ฟังพี่ปรัชญาแล้วแปลกๆในประโยคนี้ครับ

"อ่านหนังสือท่าน ดร.นิเวศน์ (ตีแตก)สัก2-3รอบ
เรียนรู้และวิเคราะห์ตามนั้น เป็นหนังสือเกี่ยวกับหุ้นที่ดีที่สุดเท่าที่ผมได้อ่านมาครับ

ส่วนใครจะอ้างปีเตอร์ลินซ์ บับเฟ่และอื่นฯ
ผมว่าจะไปก๊อปปี้ต่างประเทศลำบาก
เนื่องจากเศรษฐกิจของเรา
นิสัยของการลงทุนของรายย่อยบ้านเราไม่เหมือนพวกเมกาเลย"

พี่ปรัชญาลองไปอ่าน buffetology สักรอบสิครับ แล้วพี่จะรู้ว่า คนเขียน buffetology นั้น คงมาอ่านตีแตก แล้ว copy ไปเขียนหนังสือเขาแน่ๆเลย ขึ้นมาหน้าแรกประโยคแรกก็เหมือนกันเด๊ะ

ดังนั้นที่พี่บอกว่า ใครอ้าง ปีเตอร์ ลินซ์ บัฟเฟ่ พี่ไม่สนใจ แต่สนใจ ดร นิเวศฯ

ผมก็สงสัยว่า ดร นิเวศน์น่ะ เขาต่างจากตำราฝรั่งตรงไหนเหรอครับ ผมว่าหนังสือตีแตกน่ะ กลิ่นนมกลิ่นเนยเต็มเล่มเลยครับ

ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เพราะผมอ่าน buffetology แล้วค่อยมาอ่านตีแตก ผมเลยรู้สึกว่า เอ ทำไมหนังสือเนื้อหามันเล่มเดียวกันหรือเปล่าหว่าเนี่ย

ขออภัย คนรัก ดร นิเวศน์ ด้วย ผมเล่าให้ฟังเฉยๆ เพราะ ดร ท่านเป็น hero ของหลายๆคน เด๋วผมโดนด่า

แต่ขอบอกว่า สิ่งที่ผมพูดข้างต้น ไม่ใช่ opinion นะครับ มันคือ fact

ตอบคุณปีเตอร์ชางครับ

คือตัวหุ้นที่ของบัพเฟ่กับหุ้นต่างประเทศ อย่างหุ้นใบมีดโกน
ตลาดเราก็ไม่มีครับ และวิธีร่อนหาหุ้นของท่าน
ดร.ท่านให้วิธีคิด
และอย่างบัพเฟ่ เขาระดับกองทุน
เขาสนใจหุ้นตัวไหนซื้อแล้วตั้งยันราคาไม่ให้ลงเขาก็สามารถทำกราฟรอคนมาช่วยซื้อหุ้นได้ ผมเลยมองตัวเราว่าเงินน้อยเป็นรายย่อยแนวคิดของท่าน ดร. มาหาวิธีร่อนหาหุ้นในตลาดจะดีกว่า ผมไม่ได้ต่อต้านบับเฟ่แต่ผมไม่เห็นด้วยเป็นความคิดส่วนตัวผมเลยไม่ได้ศึกษาลึกซึ้ง อย่างท่าน ดร.นิเวศน์จะอธิบายดีว่าช่วงเวลาลดค่าเงินปล่อยเงินบาทลอยตัว ผู้ส่งออกได้เงินดอลกับมาแปลงค่าจะได้ประโยชน์อย่างหุ้นโชติวัฒน์ สถานะการณ์มันใกล้ตัวครับเลยอ่านแล้วว่าเข้าใจง่าย ถ้าผมมีเงินเยอะเท่าปีเตอร์ลินเท่าบับเฟ่ ผมก็คงลงทุนแบบบับเฟ่ แต่วันนี้เงินทุนผมจำกัดและอยู่ในตลาดที่เล็กผมก็คงต้องเล่นแบบท่าน ดร.ครับ จริงอยู่ไม่เถียงเรื่องท่าน ดร.ไปก๊อปปี้มาของเขามา เพื่อปรังปรุงแก้ไขให้เข้ากับตลาดหุ้นไทย
ไม่ได้เถียงเพื่อเอาชนะกันนะครับ
เพียงแต่ผมคิดของผมคนเดียว
อาจจะถูกของผม และผิดในความรู้สึกของคนอื่น
แต่ผมก็คิดของผมว่าอันไหนอ่านแล้วเข้าใจง่าย
และเข้าใจคือความไม่เสี่ยง
เสี่ยเจ๋งเขารักบับเฟ่มากเขาบอกให้ผมซื้อหนังสือแล้วไปจ้างเขาแปลเลย ตอนนี้เขากำลังก๊อปปี้บับเฟ่อยู่เรื่องกลุ่มพานิช ผมก็คอยตามดูเขาไปล่ะครับ

เรื่องก็มีอยู่เท่านี้ ไม่ได้ดูถูกท่านบับเฟ่
แต่ผมตีความหนังสือท่านไม่ค่อยออก
ใครจะว่าไม่มีเซ็นต์ก็ยอมรับครับ

แต่ท่านดร.อธิบายดีวิธีหาหุ้นมาร่อน ดูงบการเงิน
และดูตลาดสินค้าแบรนด์เนม
ผมเลยคิดว่าผมรู้เรื่องบับเฟ่น้อยเลยไม่กล้าคุยเรื่องบับเฟ่
คุณปีเตอร์ชางคงไม่ว่าอะไรนะครับ
เรื่องความเห็นขัดแย้งกัน
แต่ก็ยินดีรับฟังการทักท้วงของคุณปีเตอร์ชางอยู่นะครับ
ประจวบ
Verified User
โพสต์: 304
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอแจมด้วยครับในฐานะที่ผมก็ติดตามข้อเขียนของอจ.นิเวศน์ และguru หลายๆท่านเช่นwarren buffett , ben graham , peter lynch ... จะเห็นว่าแนวการลงทุนของอจ.นิเวศน์เป็นส่วนผสมของguru 3ท่านดังกล่าวข้างต้น คือ
1.ซื้อหุ้นที่pe pb ต่ำ dv มากกว่าเงินฝาก=3-5% และปันผลมาอย่างยาวนาน นี่คือไสตล์ของ ben graham
2.นักลงทุนรายย่อยจะลงทุนได้ดีกว่าสถาบันถ้าสนใจสืบหาข้อมูลจากการช้อปปิ้ง โฆษณาหนังสือพิมพ์ tv นี่คือไสตล์ของpeter lynch
3.ซื้อหุ้นที่คนนิยม มีแบรนด์แข็งแกร่ง และเข้าใจในธุรกิจนั้นๆเป็นอย่างดี และไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากในระยะยาวๆๆๆๆ + ถือยาวๆๆๆๆ+ ลงทุนในหุ้นเยี่ยมๆเพียงไม่กี่ตัว(focus investment)นี่คือไสตล์ของwarren buffett
ก็เหมือนตอนเรียนหนังสือแหละครับ ตอนผมเรียนหนังสือผมจะเก็บส่วนที่ดีจากอจ.คนโน้นที อจ.คนนี้ที + จริตส่วนตัวของตัวเองที่ชอบ+ประสบการณ์ที่เจอกับตัวเอง ผลลัพพ์ก็ออกมาเป็นแนวทางส่วนตัวและถ้าเพื่อนๆๆดูให้ดีๆ วิทยาการณ์ทุกอย่างที่มีมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกิดจากการสะสมพอกพูนของผู้รู้หลายๆๆๆๆคนที่ผสมปนเปกันขึ้นมา ขอบคุณความใจกว้างของคนที่รู้และไม่หวงวิชานำมาถ่ายทอดให้คนอื่นๆได้เรียนรู้ด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ถูกใจมากครับพี่ประจวบ
Solo
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ตามมาอ่านกระทู้ ดีดี ครับ ขอบคุณครับ
ปีเตอร์ ชาง
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 14

โพสต์

คือที่ผมจะบอกพี่ปรัชญาก็คือว่า ที่ดร เขาบอกวิธีการเลือกหุ้นในตีแตกน่ะครับ

แค่ประโยคแรกมา ที่บอกว่า ให้มองการซื้อหุ้นเหมือนทำกิจการ ให้เลือก brandname หรือพวกที่มี franchise (ป้อนค่ายคูรบ) ให้เลือก ROE เกิน 15% อะไรพวกนี้ นั้น ถอด หรือ copy มาจาก buffetology เกือบๆเรียงแถวเลยครับพี่ปรัชญา

ดังนั้น ผมจะบอกก็คือ วิธีการมองของ ดร นั้น ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมไปจากของ บุฟเฟเลยครับ และถอดแบบออกมาเลยด้วยซ้ำครับ อิอิ

ที่จริงก็ไม่มีไรมากครับ วิธีการของใครไม่สำคัญ ใช้ได้เป็นพอ ผมแค่อยากจะบอกว่า วิธีการของ ดร นั้น เขาเหมือน buffet ยังกับแกะครับ
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมเห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของทุกท่าน และการโต้แย้งอย่างสร้างสรรผมว่าก่อให้เกิดความคิด และปัญญา ดีนะครับ

ประเด็น "หลักการลงทุนในตลาดหุ้น" ..เท่าที่อ่านๆมาสองสามเล่ม ผมเห็นหลักการของ อ.นิเวศน์ก็คล้ายของ Warren Buffet ซึ่งตัว Buffet เองได้รับอิทธิพลพื้นฐานจาก Benjamin Graham เท่าที่อ่านมาเหมือนกันทราบว่า Warren ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้หลักของ Ben Graham ทั้งหมด แต่เขาประยุกต์จากพื้นฐานเดิม โดยใช้หลักของ Ben Graham 85% บวกกับของ Philip A. Fisher อีก 15% (ผมก็พยายามหาหนังสือของ Philip A. Fisher มาอ่านอยู่เหมือนกัน - ที่สนใจ คือ Common Stocks and Uncommon Profits - เห็นโฆษณาใน TVI แต่ไม่แจ้งเบาะแสแหล่งซื้อหาเลยนะครับคุณ Genie และอีกเล่ม คือ Conservative Investors Sleep Well แต่หาเบาะแสที่ซื้อไม่เจอ ไม่ทราบบ้านเรามีขายเปล่า ใครทราบโปรดชี้แนะด้วยนะครับ) สรุปแล้วผมว่าแต่ละท่านก็พัฒนาปรัญชาการลงทุนของตนเองขึ้นมาตามจริตนิสัยส่วนตนและประสบการณ์ที่ตนพบเจอมา แล้วยึดถือเป็นปรัชญาของตัวเอง ....... แต่ที่สำคัญผมว่าหากปรัชญาการลงทุนของใครที่ยึดถืออยู่เมื่อเอาไปใช้เป็นหลักปฎิบัติในการลงทุนของตนแล้วได้ผล ...ผมว่าใช้ได้ทั้งนั้นละครับ

และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ ความผิดพลาดในการลงทุนจากประสบการณ์ของแต่ละท่านมีค่ายิ่งสำหรับผู้คนที่มาทีหลังไว้ศึกษา เพราะเป็นเรื่องเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ทฤษฎีที่บันทึกไว้เป็นตัวหนังสือ ผมจึงอยากให้ท่านอื่นที่มีประสบการณ์ผิดพลาดดังกล่าวในอดีตเฉกเช่นคุณปรัชญา ที่แตกต่างออกไป ช่วยกรุณานั่งทบทวนแล้วบันทึกเป็นตัวอักษรไว้บน TVI จะดียิ่งนะครับ ตามที่คุณ genie ร้องขอมาแต่เดิม และขอบคุณไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ เหมือนกับ Charlie Munger เองซึ่งทำงานให้กับ Warren Buffet เขายังเสาะแสวงหาความผิดพลาดต่างๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดิินหลงเข้าไปติดกับดักความผิดพลาดดังกล่าวซ้ำเติมอีก (แหล่งที่มาจาก Uncommon Sense - บทสัมภาษณ์ของ Warren และ Munger ...... ที่คุณ Mon Money ได้เอิ้อเฟิ้อส่งไปให้ผมทางอีเมล นั่นแหละครับ)

PP
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา1
Verified User
โพสต์: 1092
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ปีเตอร์ ชาง เขียน:คือที่ผมจะบอกพี่ปรัชญาก็คือว่า ที่ดร เขาบอกวิธีการเลือกหุ้นในตีแตกน่ะครับ

แค่ประโยคแรกมา ที่บอกว่า ให้มองการซื้อหุ้นเหมือนทำกิจการ ให้เลือก brandname หรือพวกที่มี franchise (ป้อนค่ายคูรบ) ให้เลือก ROE เกิน 15% อะไรพวกนี้ นั้น ถอด หรือ copy มาจาก buffetology เกือบๆเรียงแถวเลยครับพี่ปรัชญา

ดังนั้น ผมจะบอกก็คือ วิธีการมองของ ดร นั้น ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมไปจากของ บุฟเฟเลยครับ และถอดแบบออกมาเลยด้วยซ้ำครับ อิอิ

ที่จริงก็ไม่มีไรมากครับ วิธีการของใครไม่สำคัญ ใช้ได้เป็นพอ ผมแค่อยากจะบอกว่า วิธีการของ ดร นั้น เขาเหมือน buffet ยังกับแกะครับ

อยากร้องขอให้คุณปีเตอร์ชาง ช่วยเข้ามาให้ข้อคิดความเห็นเรื่องการลงทุน ที่ได้สัมผัสมาหลายปีแล้ว ที่ลงทุนทั้งแบบVI และVS การเอาตัวรอดจากเกมส์ไล่ล่าต่าง เจอลูกเล่นอะไรมาบ้าง หากว่างก็ขอให้ความรู้กับพวกเราด้วยนะครับ ผมยังไปเวปของคุณปีเตอร์ชางทุกวันครับ
แต่ไม่ได้โพท์สเฉยๆ
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ปรัชญา เขียน:"อยากร้องขอให้คุณปีเตอร์ชาง ช่วยเข้ามาให้ข้อคิดความเห็นเรื่องการลงทุน ที่ได้สัมผัสมาหลายปีแล้ว ที่ลงทุนทั้งแบบVI และVS การเอาตัวรอดจากเกมส์ไล่ล่าต่าง เจอลูกเล่นอะไรมาบ้าง......."
ผมขอยกมือสนับสนุนให้คุณปีเตอร์ ชาง มาร่วมแจมเล่าประสบการณ์ตามที่คุณปรัชญาร้องขอมา ....อีกหนึ่งเสียงครับ

PP
ปล. ช่วยลง website address ของคุณปีเตอร์ ชางเองด้วยนะครับ
Neng
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 18

โพสต์

Common Stocks and Uncommon Profits ของFisher ภายในเล่มมี 3 contents ครับ:common stocks and uncommon profits
conservative investors sleep well
developing an investment philosophy
ซื้อ1ได้3เลยครับ ผมซื้อมา 687 บาทครับ(สั่งซื้อพิเศษ)ที่ศูนย์ฯจุฬาฯครับ
:D
tanapong
Verified User
โพสต์: 22
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 19

โพสต์

Neng เขียน:Common Stocks and Uncommon Profits ของFisher ภายในเล่มมี 3 contents ครับ:common stocks and uncommon profits
conservative investors sleep well
developing an investment philosophy
ซื้อ1ได้3เลยครับ ผมซื้อมา 687 บาทครับ(สั่งซื้อพิเศษ)ที่ศูนย์ฯจุฬาฯครับ
:D
ดีจังครับที่มาตอนเกือบสว่างแล้วมาอ่านข้อคิดดีๆจากเพื่อนๆ ชื่นฃมสิ่งที่คุณปรัชญาเล่าครับเลยขอสนับสนุนด้วยเล็กน้อย
จุดแตกต่างของทั้งสองความคิดเห็น(argument)อยู่ที่ สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันเป็นตัวกำหนดครับ ซึ่งทุกคนได้กล่าวในเบื้องต้นและปราศจากผู้ให้ข้อคิดเห็นที่ผิดทาง(แปลว่าถูกหมดครับ)
....แต่กระบวนการเรียนรู้เรายอมรับเรื่อง"go through learning curve"(แปลแบบของผมคือ)เรียนรู้ให้ทราบหลักการ...แล้วนำมาปฏิบัติจริง...ประเมินผล....แล้วปรับปรุงวางแผนแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด...แล้วนำกลับไปปฏิบัติ...เป็นวัฏจักร...
สรุปทั้ง2สิ่งประกอบด้วยหลักการและการปฏิบัติจริงครับ
ดังนั้น
"ผู้ที่ประสพผลสำเร็จ(หรือพ่ายแพ้)หลังจากปผ่านการลงมือทำจริง อิงหลักการ(ที่ปรับปรุง)"....
"ย่อมเป็นผู้ประเสริฐที่เผยแพร่ให้คนอื่นรับรู้ผู้นั้นคือครูผู้น่านับถือตลอดกาล"

ทั้งหมดที่ขอแจมเลยชื่นฃมกระบวนการเรียนรู้ของพวกเราทุกคนครับแต่โดยส่วนตัวนับถือสิ่งที่คุณปรัชญากล่าวแล้วเล่าให้เราฟังครับ.....


สุดท้ายถนอมพระวรกาย...พักผ่อนวันหยุด...ให้ปลอดโปร่ง(สมองและแผนการลงทุน)....working hours day time ( Mon-Sat)ภาระกิจของ VI & VS รออยู่ครับ...ขอให้ฝันเป็นจริงทุกคนครับ...เข้านอนแล้วครับ
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 20

โพสต์

Neng เขียน:.....ซื้อ1ได้3เลยครับ ผมซื้อมา 687 บาทครับ(สั่งซื้อพิเศษ)ที่ศูนย์ฯจุฬาฯครับ :D
ขอบคุณคุณ Neng ที่ได้บอกแหล่งซื้อหนังสือดังกล่าว ไม่ทราบที่ศูนย์ฯดังกล่าวยังมีเหลืออีกหรือเปล่า ผมคงต้องรีบให้คนรู้จักที่อยู่ กทม.ไปหาดูให้

PP
jeng
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 21

โพสต์

เว็บนี้อ่านแล้วได้สาระจริงๆ

เห็นด้วยกับพี่ปรัชญา

เห็นด้วยกับคุณปีเตอร์ ชาง

แต่แต่มีความเห็นที่แตกต่างจากคุณประจวบ ทรงเกียรติ

ด้วยเหตุผลคือ การเอาข้อดีของหลายๆคนมาผสม เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่แล้วครับ แต่ถ้าจะเรียนรู้ให้เร็ว ต้องเรียนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ไปก่อนซักระยะหนึ่ง แล้วค่อยดัดแปลง

ประโยค โตแล้วค่อยแตก ของนายห้างเทียมยังชอบใจอยู่ทุกวันนี้

ฝลินจื่อ อาจารย์ของหานเฟย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของจินซือ กล่าวว่า "สืบทอดไม่เป็น ดัดแปลงไม่ได้"

ผมไม่ได้แย้งอะไรนะครับ

ผมกำลัง ศึกษา warren buffet 100 % เพื่อการดัดแปลงเป็นแบบของผมเองในอนาคต

ข้อที่เห็นแตกต่างคือ ต้องเรียนแบบ 100 % ก่อนดัดแปลงเป็นของตัวเอง

แต่คนส่วนใหญ่ จะดัดแปลงก่อนเลย โดยคิดไปว่า วอเรนทำแบบนั้น ฟิชเช่อ ทำแบบนี้ งั้นเมืองไทย ไม่เหมือน เมกา ต้องทำแบบนี้

ผมขอยืนยัน

ถ้าให้ดร.นิเวศน์ที่ผมเคารพ 100 ล้านบาท
แล้วเชิญอาจารย์ผมมา ผมหมายถึง วอเรน บัพเฟต
ก็มี 100 ล้านบาท เท่ากัน

มาเล่นหุ้นไทย แข่งกัน

ผมมั่นใจว่า วอเรนชนะครับ

ขออภัยที่ล่วงเกินท่านดร.นิเวศน์ คิดแบบว่ารุ่นน้องจุฬา ยกมาอ้างบ้าง ห้ามโกรธนะ
_THiNK_
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ผมว่าหัวใจของ VI อยู่ที่แบ่งปัน ไม่ใช่ชนะหรือแพ้
ทางข้างหน้า ชนะหรือแพ้ แล้วแต่ฟ้าลิขิต
ที่นี่เดี๋ยวนี้ มีคนเดินเคียงข้าง ก็น่าจะพอใจแล้ว
jeng
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ใช่ครับ ลืมคิดไป ขอบคุณมากครับ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ผมว่าแข่งขันกันอยู่ดีครับ

หุ้นดีๆเป็น scarce resource ถึงตอนนี้จะไม่แข่ง แต่ทุกคนก็อยากได้ที่ราคาถูก มันก็ต้องแย่งกันครับ สุดท้ายระดับความอยากได้ก็ต้องถูกกำหนดโดยราคาอยู่ดี

ข้อมูลนี่แบ่งปันกันได้ครับ แต่หุ้นนี่ ตัวใครตัวมัน ถ้าอยากแบ่งหุ้นก็ต้องร่วมกันจัดตั้งกองทุนขึ้นมาครับ

เห็นด้วยกับพี่เจ๋งเรื่องลอกเลียนด้วยครับ ฝรั่งยังมีสุภาษิตว่า "Don't Reinvent the Wheel" เลย อย่าไปเสียเวลาพัฒนาอะไรที่เขาทำมาดีแล้วเลยครับ ปิ๊งก็ลอกเลย แล้วดัดแปลงทีหลัง
ประจวบ
Verified User
โพสต์: 304
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ความคิดรวบยอดในแต่ละสิ่งเกิดจาก3อย่างครับ
1.ความรู้ที่ได้ศึกษามาจากแหล่งต่างๆ
2.ประสบการณ์ส่วนตัวที่ลองทำลองปฏิบัตรแล้วได้ผลออกมา
3.จริตส่วนตัวว่าเป็นคนลักษณะความชอบความคิดแบบไหนครับ
ดังนั้นการที่อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน ซื้อหุ้นไสตล์เดียวกัน แต่ผลระยะยาวอาจออกมาไม่เหมือนกัน สุดท้ายบางคนเดินแนวทางเดิมอย่างมั่นใจ บางคนเปลี่ยนไปเป็นนักเก็งกำไร ก็เกิดจาก3ข้อข้างต้นครับ ข้อ1กับ3ได้มาทันทีที่เริ่มลงทุนแต่ข้อ2ต้องใช้เวลาครับ ดังนั้นผมว่าแต่ละคนคงต้องรวบรวมประสบการณ์จากการลงทุนกันขึ้นมาด้วยตัวเองหลายๆปีกว่าจะค้นพบว่าตัวเองเหมาะกับแบบไหนหรือทำแบบไหนได้ดีกว่ากัน ของอจ.นิเวศน์ก็คงมาจากจุดยืนของนักวิชาการเพราะอจ.เคยสอนที่วิทยาลัยเกริกอยู่หลายปี บวกกับมาลงทุนเมื่ออายุค่อนข้างมากเท่าที่ทราบคือมาลงทุนปี40เมื่อลอยค่าเงินบาทก็ราวๆ40กว่าๆ(แบบผมคือเข้ามาอายุ40+กว่าแล้ว) ก็เลยต้อง"ชัว ไม่มั่วนิ่ม"ค่อยลงทุนครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 26

โพสต์

เข้าใจแล้วครับ คุณประจวบ คุณทรงเกียรติ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ผมอยากแนะนำเพื่อนๆที่อยากซื้อหนังสือต่างประเทศครับ มีหลายเล่มที่ผมสนใจและไม่มีขายในเมืองไทย ผมก็อาศัยการสั่งซื้อทาง Internet ที่ Amazon.com ครับ แต่รอนานหน่อยนะครับประมาณ 1 เดือน ราคาก็พอประมาณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ก่อนอื่นต้องยินดีต้อนรับพี่เจ๋งครับ

แนวความคิดพี่เจ๋งกับพี่จวบผมว่าไม่ห่างกันมากหรอกครับ พอจูนกันแล้วก็ok

ผมเองศึกษาBuffettเป็นพิเศษแต่หาข้อมูลจากทุกแหล่งที่หาได้ อ่านหนังสือทุกเล่มที่เขียนถึงเขา และอ่านรายงานประจำปีทุกปี และพยายามสรุปประเด็นให้มากและเราเข้าใจได้มากที่สุด เพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสภาพของเราครับ

เรื่องหนังสือผมมีหลายเล่ม ที่น่าอ่านและไม่มีในเมืองไทย ผมสั่งจากAmazonมา ผมยินดีแบ่งปันให้เพื่อนๆที่สนใจได้อ่านด้วยครับ พี่จวบแกก็ใช้บริการของผมบ่อยๆ
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 29

โพสต์

chatchai เขียน:........."ผมก็อาศัยการสั่งซื้อทาง Internet ที่ Amazon.com ครับ แต่รอนานหน่อยนะครับประมาณ 1 เดือน ราคาก็พอประมาณครับ"
ผมก็ลองเข้าไปเหมือนกันที่ amazon.com แต่พอเวลา check out จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต เขากลับบอกไม่รับจากประเทศไทย ไม่ทราบคุณ Chatchai เจอปัยหาอย่างนี้หรือเปล่าครับ ?
Mon money เขียน:"........เรื่องหนังสือผมมีหลายเล่ม ที่น่าอ่านและไม่มีในเมืองไทย ผมสั่งจากAmazonมา ผมยินดีแบ่งปันให้เพื่อนๆที่สนใจได้อ่านด้วยครับ พี่จวบแกก็ใช้บริการของผมบ่อยๆ"
ขอบคุณที่อุตสาห์เอื้อเฟื้อให้ยืมนะครับคุณ Mon money ....เสียดายจริงถ้าผมอยู่กรุงเทพฯต้องไปรบกวนแน่ๆครับ

PP
M149
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

ประสบการณ์เซียน(ขอคุณปรัชญาช่วยขยายความได้ไหมครับ)

โพสต์ที่ 30

โพสต์

พี่PPครับ พี่จวบแกก็อยู่ที่ตราดครับไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ :mrgreen:
โพสต์โพสต์