สนใจลงทุนในหุ้นจีนครับ เนื่องจากคิดว่าค่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นในอนาคตครับ
จึงรบกวนสอบถามผู้รู้สามเรื่องครับ
เรื่องแรกคือ
บริษัทpetrochinaของจีน ไปจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นอเมริกา ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ใช้เงินหยวนเล่น ในตลาดหุ้นฮ่องกงใช้ ฮ่องกงดอลล่าเล่น ในตลาดหุ้นอเมริกา ใช้ดอลล่าสหรัฐเล่น ทั้งนี้ทั้งนั้น กำไรสุทธิน่าจะเป็นเงินหยวน ดังนั้นเวลาคำนวนค่า pe สำหรับหุ้นนี้ ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ไม่มีปัญหา แต่เวลาคำนวนค่าpe ในตลาดหุ้นฮ่องกง กำไรสุทธิที่รายงานในไตรมาสนั้น จะต้องแปลงเป็นค่าเงินฮ่องกง โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ณ วันออกงบใช่หรือไม่ครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้น ถ้าผมลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง ก็สามารถ รับผลกำไรจากค่าเงินหยวนที่แข็งขึ้นได้ใช่ไหมครับ เนื่องจาก แนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนของหยวนเมื่อเทียบกับฮ่องกง แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ แต่งบการเงินต้องแปลงเป็นค่าเงินจากหยวนเป็นฮ่องกงดอลล่า ไตรมาสต่อไตรมาส
เรื่องที่สองคือ
ทำไมหุ้นpetrochina ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นทั้งสามแห่งมีค่า pe ไม่เท่ากันเลยครับ
เรื่องที่สามคือ
เท่าที่ผมรู้ การลงทุนในหุ้นจีน ทำได้สองแบบคือ
ผมเคยได้ยิน เรื่องสามารถเปิดโบรคเกอร์ที่นั่น เพื่อจะได้ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าโดยใช้passportของเราเปิดบัญชีธนาคาร และสมัครโบรคเกอร์เลยที่นั่น โดยผมสนใจจะลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงประมาณ 1 ล้านบาท โดยกะแลกเป็นเงินหยวนที่ไทยแล้วพกไปที่นั่น จะผิดกฏหมายอันใดหรือไม่ แล้วตอนพกเงินกลับถ้าปิดพอทแล้ว จะสามารถพกเงินกลับโดยไม่เสียภาษีอะไร หรือผิดกฏหมายอันใดใช่หรือไม่ครับ
หรืออีกแบบคือ เล่นผ่านฟิลลิป ซึ่งเท่าที่ผมรู้ บริษัทแม่ของฟิลลิป อยู่ที่สิงคโปร์ การดำเนินงานจึงต้องส่งเงินไปสิงคโปร์ก่อนที่จะไปฮ่องกง ดังนั้น ปัญหาคือ ถ้าบริษัทแม่ที่สิงคโปร์มีปัญหา จะกระทบถึงเงินเราที่เล่นหรือไม่ เท่าที่ผมรู้คือ ถ้าเล่นหุ้นไทย รัฐบาลจะประกันพอทให้ 1 ล้านบาท แต่นี่ หุ้นต่างประเทศ ทำให้ต้องระวังในเรื่องโบรคเกอร์ฟิลลิปในไทยเอง และตัวบริษัทแม่ในสิงคโปร์ใช่หรือไม่ คือ ผมกลัวเงินสูญ เพราะถ้าบริษัทแม่ในสิงคโปร์มีปัญหาคงยุ่งยากครับ
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ