RMF หรือ LTF จะเลือกตัวใด
http://dcopywriter.wordpress.com/2007/12/24/
นับถึงตอนนี้ ก็เหลือเพียงสัปดาห์สุดท้ายของปีแล้วนะครับ ใครที่ยังสามารถซื้อกองทุนทั้งสอง เพื่อไปช่วยลดภาษีและเพิ่มเงินออมให้ตัวเอง ก็ต้องรีบแล้วละครับ แต่ก็ยังมีหลายคนยังเลือกไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อกองทุน RMF หรือ จะเป็น LTF ดี ยังเลือกไม่ถูก แล้วในแต่ละประเภทก็มีให้เลือกอีกตั้งหลายประเภท ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเลือกยาก สำหรับผู้ไม่เคยซื้อกองทุนรวมมาก่อนด้วยยิ่งกลัวไปกันใหญ่ กลัวว่าจะขาดทุนหรือเปล่า จะคุ้มหรือไม่
ถ้าไม่อยากอ่านบทความคนที่ไม่รู้จักกันเช่นข้าพเจ้า ก็ตามไปอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาดีๆ เกี่ยวกับการลงทุน เรื่องกองทุน และเรื่องออมเงินอื่นๆ ที่เขาให้ download เป็น pdf files มาอ่านได้ ฟรี ตาม link นี้ไปเลยครับ ของสมาคมบริษัทจัดการกองทุน หรือ ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไทย หนังสืออาจมีซ้ำกันบ้งนะครับ อย่าแปลกใจ
http://www.aimc.or.th/2006/html/modules ... ublication
http://www.thaipvd.com/thaipvd_v3/docum ... date.shtml
ส่วนเรื่องสรุป คำคัญต่างๆ link นี้ไปก็เข้าใจได้ง่ายดีครับ
http://www.thaimutualfund.com/brokerpag ... /Q_RMF.pdf
สำหรับผู้ที่จะอ่าน..ของข้าพเจ้าซึ่งคิดเองบ้าง รวบรวมมาบ้างก็ตามไปด้านล่างครับ
ตัดบางส่วนมาจาก blog ครับ http://dcopywriter.wordpress.com/
RMF หรือ LTF จะเลือกตัวใด
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
RMF หรือ LTF จะเลือกตัวใด
โพสต์ที่ 2
ลองลงทุนผ่านกองทุนกับ scbam และ tmbam
http://dcopywriter.wordpress.com/2007/12/27/
ตั้งชื่อหัวเรื่องมาอย่างนี้ ใช่ว่าจะมาเปรียบเทียบผลงานแต่ละบริษัท หรือกองทุนที่ทั้งสองบริษัทมีอยู่มากมาย แต่จะมาบ่นถึงระบบการทำงานในขบวนการเปิดบัญชีกองทุน เพื่อจะสามารถซื้อขายกองทุนของทั้งสองบริษัท ซึ่งข้าพเจ้าได้เข้าไปสัมผัสเองโดยตรงหนึ่งบริษัทเมื่อเดือนที่แล้ว และไปร่วมอยู่ในขั้นตอนการทำงานทั้งหมด
.....
.....
อีกอย่างที่จะย้ำให้ทราบกับอีกครั้ง คือ การลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ ใครลงทุน RMF<F ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา มาถึงปีนี้ ข้าพเจ้ารับประกันได้เลยว่า ทุกๆคนต้องลงทุนซื้อซ้ำแน่นอน เพราะอะไรหรือครับ ก็หลังจากท่านเห็นผลตอบจากการลงทุนทั้ง RMF & LTF ในปีที่ผ่านมา ที่แน่ๆความโลภย่อมเข้าตาไม่มากก็น้อย เพราะไม่มีอะไตจะลงทุนได้ ผลตอบแทยจูงใจอะไรไปมากกว่านี้ ได้แน่นอน เพราะกองทุนส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนทั้งปี มากกว่า ๑๐% เกือบทั้งหมด ยิ่งถ้ากองไหนที่ลงทุนให้หุ้นกลุ่ม SET50 ยิ่งได้ผลดีบางกองโตกว่า ๔๐-๕๐% ด้วยซ้ำ
ดังนั้นคนส่วนใหญ่จะซื้อเพิ่มในจำนวนที่มากกว่าเดิมด้วย ดังนั้นขอย้ำดังๆ ให้ทราบว่า การลงทุนให้หุ้นนั้นมีความเสี่ยงนะครับ โดยเฉพาะการลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้นเราไม่ได้บริหารจัดการเอง ที่เขาเรียกว่าการชกผ่านสิงห์ สิงห์ที่ว่าคือผู้เชี่ยวชาญการลงทุนผู้มาดูแลกองทุนให้เรานั่นเอง ดังนั้นการจัดสินใจทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่ขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุน ในตลาดที่มีกำลังซื้อ แย่งกันซื้อ หรือเรียกว่ากระทิง จะเป็นกระทิงแท้ หรือ กระเทียม (กระทิง)เทียม เช่นปีที่ผ่านมานั้นก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่ออยู่ในภาวะที่ตลาดถดถอย ไม่ค่อยมีคนอยากซื้อ สินค้าราคาแพงๆ เงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจไม่ดี ตลาดหุ้นก็ย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน เมื่อตลาดอยู่ในภาวะหมี คือจุดที่สำคัญที่จะใช้ทบสอบสภาพจิตใจเหล่านักลงทุนทั้งหลายว่า จะเชื่อมั่น หรือมั่นใจในการลงทุนได้ดีแค่ไหน
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้น มันจะมีขึ้นมีลงบ้าง เป็นธรรมดา บางปีอาจได้ผลตอบแทนปีมาก บางปีได้น้อย บางปีอาจขาดทุน แต่ด้วยระยะเวลา ๕ ปี ของ LTF ซึ่งไม่น้อยไปหรือมากเกินไป ๕ ปีปฏิทิน ยาวกำลังดี ด้วยระยะเวลาเช่นนี้ก็มั่นใจได้ว่าผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนนั้นจะไม่ขาดทุนแน่นอน (แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสจะเป็นนะครับ) แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนใน LTF นี้ อย่าลืมว่าเราได้กำไรจากการลงทุนไปแล้วบางส่วน จากภาษีที่เราจ่ายน้อยลง ตามสัดส่วนอัตราภาษีที่แต่ละคนต้องเสีย ในปีที่ลงทุนนะครับ ดังนั้นก็อย่ากังวลเกินไป
ส่วน RMF นั้น ลงทุนยาว ไว้ใช้ตอนเกษียณ ซึ่งต้องถือไม่น้อยกว่า ๕ ปี และจะถอนการลงทุนได้เมื่อมีอายุ ๕๕ ปีขึ้นไป จึงจะไม่เสียสิทธิการลงทุนนั้น รับประกันได้เลยว่าไม่ขาดทุน ยิ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานใหม่ อายุน้อย มีเวลาลงทุนเยอะ ยกตัวอย่างเช่น ในตอนนี้ถ้าท่านอายุ ๒๕ ปี กว่าจะถึงอายุตามกำหนดก็ยาวนานถึง ๓๐ ปี หรือถ้าท่านมีอายุ ๓๕ ปี ก็มีเวลาลงทุนใน RMF ถึง ๒๐ ปี หรือถ้าท่านอายุ ๔๕ ปีแล้ว ก็ยังมีเวลาอีก ๑๐ ปีนะครับ ยังไงไม่ว่าวิกฤติใดๆ ๑๐ ปี ก็ยาวนานพอที่จะเชื่อมั้นได้ว่า ยาวนานพอที่ ผลการลงทุนที่ถ้าอาจติดลบไปบ้าง รับรองว่าได้พื้นกลับคืน แถมยังมีกำไรชนะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเงินฝากได้แน่ครับ
ยิ่งลงทุนก่อน ยิ่งได้เปรียบนะครับ อย่ามองว่าอายุยังน้อยค่อยลงทุนก็ได้ ไม่เชื่อลองอ่านหนังสือหลายเล่ม เอาง่ายๆเลยก็เล่มนี้ครับ ออมก่อนรวมกว่า เล่มนี้สอนอะไรหลายๆอย่าง และยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าจำไม่ผิดจะพูดถึง RMF LTF ด้วย ที่กล่าวมาจะหมดจะเห็นได้ว่า ถ้าไม่เกินสงครามนิวเคลียร์กันไปก่อน หรือมีภาวะวิกฤติพลังงานรุนแรงมากๆ หรือภาวะโลกร้อน โลกหนาวรุนแรง อย่างไรเสียก็แค่คุ้มแน่ๆ ที่จะลงทุนทั้งใน RMF และ LTF ยิ่งอายุน้อยยิ่งได้เปรียบครับ
อย่ารีรออีกเลย สำหรับปีนี้เหลือเพียงวันนี้ และพรุ่งนี้ รวมมีเวลาอีกสองวันเท่านั้น ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกองใดก็ ควรจะตัดสินใจได้แล้วนะครับ จะเป็นของ SCB หรือ TMB หรือจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอื่นๆ ก็ได้ตามใจท่านได้เลยครับ ขอให้ประสบความสำเร็จ ในการลงทุน..ข้าพเจ้าเอง
http://dcopywriter.wordpress.com/2007/12/27/
ตั้งชื่อหัวเรื่องมาอย่างนี้ ใช่ว่าจะมาเปรียบเทียบผลงานแต่ละบริษัท หรือกองทุนที่ทั้งสองบริษัทมีอยู่มากมาย แต่จะมาบ่นถึงระบบการทำงานในขบวนการเปิดบัญชีกองทุน เพื่อจะสามารถซื้อขายกองทุนของทั้งสองบริษัท ซึ่งข้าพเจ้าได้เข้าไปสัมผัสเองโดยตรงหนึ่งบริษัทเมื่อเดือนที่แล้ว และไปร่วมอยู่ในขั้นตอนการทำงานทั้งหมด
.....
.....
อีกอย่างที่จะย้ำให้ทราบกับอีกครั้ง คือ การลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ ใครลงทุน RMF<F ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา มาถึงปีนี้ ข้าพเจ้ารับประกันได้เลยว่า ทุกๆคนต้องลงทุนซื้อซ้ำแน่นอน เพราะอะไรหรือครับ ก็หลังจากท่านเห็นผลตอบจากการลงทุนทั้ง RMF & LTF ในปีที่ผ่านมา ที่แน่ๆความโลภย่อมเข้าตาไม่มากก็น้อย เพราะไม่มีอะไตจะลงทุนได้ ผลตอบแทยจูงใจอะไรไปมากกว่านี้ ได้แน่นอน เพราะกองทุนส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนทั้งปี มากกว่า ๑๐% เกือบทั้งหมด ยิ่งถ้ากองไหนที่ลงทุนให้หุ้นกลุ่ม SET50 ยิ่งได้ผลดีบางกองโตกว่า ๔๐-๕๐% ด้วยซ้ำ
ดังนั้นคนส่วนใหญ่จะซื้อเพิ่มในจำนวนที่มากกว่าเดิมด้วย ดังนั้นขอย้ำดังๆ ให้ทราบว่า การลงทุนให้หุ้นนั้นมีความเสี่ยงนะครับ โดยเฉพาะการลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้นเราไม่ได้บริหารจัดการเอง ที่เขาเรียกว่าการชกผ่านสิงห์ สิงห์ที่ว่าคือผู้เชี่ยวชาญการลงทุนผู้มาดูแลกองทุนให้เรานั่นเอง ดังนั้นการจัดสินใจทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่ขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุน ในตลาดที่มีกำลังซื้อ แย่งกันซื้อ หรือเรียกว่ากระทิง จะเป็นกระทิงแท้ หรือ กระเทียม (กระทิง)เทียม เช่นปีที่ผ่านมานั้นก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่ออยู่ในภาวะที่ตลาดถดถอย ไม่ค่อยมีคนอยากซื้อ สินค้าราคาแพงๆ เงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจไม่ดี ตลาดหุ้นก็ย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน เมื่อตลาดอยู่ในภาวะหมี คือจุดที่สำคัญที่จะใช้ทบสอบสภาพจิตใจเหล่านักลงทุนทั้งหลายว่า จะเชื่อมั่น หรือมั่นใจในการลงทุนได้ดีแค่ไหน
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้น มันจะมีขึ้นมีลงบ้าง เป็นธรรมดา บางปีอาจได้ผลตอบแทนปีมาก บางปีได้น้อย บางปีอาจขาดทุน แต่ด้วยระยะเวลา ๕ ปี ของ LTF ซึ่งไม่น้อยไปหรือมากเกินไป ๕ ปีปฏิทิน ยาวกำลังดี ด้วยระยะเวลาเช่นนี้ก็มั่นใจได้ว่าผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนนั้นจะไม่ขาดทุนแน่นอน (แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสจะเป็นนะครับ) แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนใน LTF นี้ อย่าลืมว่าเราได้กำไรจากการลงทุนไปแล้วบางส่วน จากภาษีที่เราจ่ายน้อยลง ตามสัดส่วนอัตราภาษีที่แต่ละคนต้องเสีย ในปีที่ลงทุนนะครับ ดังนั้นก็อย่ากังวลเกินไป
ส่วน RMF นั้น ลงทุนยาว ไว้ใช้ตอนเกษียณ ซึ่งต้องถือไม่น้อยกว่า ๕ ปี และจะถอนการลงทุนได้เมื่อมีอายุ ๕๕ ปีขึ้นไป จึงจะไม่เสียสิทธิการลงทุนนั้น รับประกันได้เลยว่าไม่ขาดทุน ยิ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานใหม่ อายุน้อย มีเวลาลงทุนเยอะ ยกตัวอย่างเช่น ในตอนนี้ถ้าท่านอายุ ๒๕ ปี กว่าจะถึงอายุตามกำหนดก็ยาวนานถึง ๓๐ ปี หรือถ้าท่านมีอายุ ๓๕ ปี ก็มีเวลาลงทุนใน RMF ถึง ๒๐ ปี หรือถ้าท่านอายุ ๔๕ ปีแล้ว ก็ยังมีเวลาอีก ๑๐ ปีนะครับ ยังไงไม่ว่าวิกฤติใดๆ ๑๐ ปี ก็ยาวนานพอที่จะเชื่อมั้นได้ว่า ยาวนานพอที่ ผลการลงทุนที่ถ้าอาจติดลบไปบ้าง รับรองว่าได้พื้นกลับคืน แถมยังมีกำไรชนะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเงินฝากได้แน่ครับ
ยิ่งลงทุนก่อน ยิ่งได้เปรียบนะครับ อย่ามองว่าอายุยังน้อยค่อยลงทุนก็ได้ ไม่เชื่อลองอ่านหนังสือหลายเล่ม เอาง่ายๆเลยก็เล่มนี้ครับ ออมก่อนรวมกว่า เล่มนี้สอนอะไรหลายๆอย่าง และยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าจำไม่ผิดจะพูดถึง RMF LTF ด้วย ที่กล่าวมาจะหมดจะเห็นได้ว่า ถ้าไม่เกินสงครามนิวเคลียร์กันไปก่อน หรือมีภาวะวิกฤติพลังงานรุนแรงมากๆ หรือภาวะโลกร้อน โลกหนาวรุนแรง อย่างไรเสียก็แค่คุ้มแน่ๆ ที่จะลงทุนทั้งใน RMF และ LTF ยิ่งอายุน้อยยิ่งได้เปรียบครับ
อย่ารีรออีกเลย สำหรับปีนี้เหลือเพียงวันนี้ และพรุ่งนี้ รวมมีเวลาอีกสองวันเท่านั้น ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกองใดก็ ควรจะตัดสินใจได้แล้วนะครับ จะเป็นของ SCB หรือ TMB หรือจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอื่นๆ ก็ได้ตามใจท่านได้เลยครับ ขอให้ประสบความสำเร็จ ในการลงทุน..ข้าพเจ้าเอง
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์