คืออยากรู้ว่าจะป้องกันความเสี่ยงได้ดีแค่ไหนกัน นั่นเพราะถ้าซื้อหุ้น แล้วขาย Futures เพื่อกันความเสี่ยงที่หุ้นตก เมื่อหุ้นขึ้นเราก็ต้องขาดทุน futures พอหุ้นเราก็ขาดทุนหุ้นไป
อย่างนี้บวกลบมันก็ 0 ตลอด ไม่ได้ไม่เสียอะไรนี่ครับ
หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิดไปรึปล่าว
มีท่านใดในที่นี้ใช้ SET50 futures ในการ hedge บ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
มีท่านใดในที่นี้ใช้ SET50 futures ในการ hedge บ้างครับ
โพสต์ที่ 2
ก็ถูกแล้วนี่ครับ ความเสี่ยงคู่ผลตอบแทน เมื่อไม่มีความเสี่ยงก็ไม่มีผลตอบแทน
เราคงไม่ซื้อหุ้น แล้วขาย Futures ทันทีมั่งในการปฏิบัติ เว้นแต่มั่นใจว่าหุ้นเราจะขึ้น แต่ Futures จะตก
ในการใช้ Futures ที่จะทำให้เป็น fully hedge หรือการใช้ futures แบบต่างๆ เคยคุยกันมาก่อนเมื่อปีที่แล้ว ช่วงตลาด tfex กำลังจะเปิด
เราคงไม่ซื้อหุ้น แล้วขาย Futures ทันทีมั่งในการปฏิบัติ เว้นแต่มั่นใจว่าหุ้นเราจะขึ้น แต่ Futures จะตก
ในการใช้ Futures ที่จะทำให้เป็น fully hedge หรือการใช้ futures แบบต่างๆ เคยคุยกันมาก่อนเมื่อปีที่แล้ว ช่วงตลาด tfex กำลังจะเปิด
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
มีท่านใดในที่นี้ใช้ SET50 futures ในการ hedge บ้างครับ
โพสต์ที่ 3
ถ้าผลตอบแทนเป็น 0 จริง ขายหุ้นออกมาแล้วฝากแบงค์ดีกว่าครับ
จะ hedge ทำไมละครับ เอาเงินเพิ่มเข้าไปแต่ผลตอบแทนเป็น 0
จะ hedge ทำไมละครับ เอาเงินเพิ่มเข้าไปแต่ผลตอบแทนเป็น 0
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
มีท่านใดในที่นี้ใช้ SET50 futures ในการ hedge บ้างครับ
โพสต์ที่ 4
ก็เพราะมันเป็นการบริหารความเสี่ยงไง มันไม่ได้เป็นการทำให้ผลตอบแทนเป็นศูนย์ตลอดไป ยามที่ความเสี่ยงนั้นหายไปหรือเรามั่นใจแล้วเราก็สามารถตัดสินใจว่าจะ net long หรือ net short ดี
ถ้าบอกว่าถ้างั้นก็ขายหุ้นทิ้งแล้วนำเงินไปฝาก เราอาจจะเจอภาวะความเสี่ยงสภาพคล่อง ที่ทำให้ราคาขายเราต่ำกว่าราคาตลาดที่เป็นอยู่ หรือ ราคาที่จะซื้อใหม่สูงกว่าราคาตลาด เช่น หุ้นที่ราคาบิดอ๊อฟเฟอร์ฟันหลอ
สุดท้ายนี่เป็นเครื่องมือที่ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น เราก็พิจารณาความเหมาะสมที่จะหยิบมาใช้
อย่างตอนนี้ผมมี long หุ้น ในพอร์ทผม แต่คิดว่าสภาวะตลาดไม่น่าจะดีไปกว่านี้ ผมเลยมี position ในฟิวเจอร์เป็น short อยู่ แทนที่จะขายหุ้นออกมา เพราะมันวุ่นวายไม่รู้จะขายตัวไหน จำนวนเท่าไหร่ และความเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนที่ผมกังวลคือสภาวะตลาดรวม ไม่ใช้ sector ใด sector หนึ่ง หรือ ธุรกิจใธรกิจหนึ่ง การช๊อตฟิจเจอร์ดูแล้วน่าเหมาะสมกว่า
ถ้าบอกว่าถ้างั้นก็ขายหุ้นทิ้งแล้วนำเงินไปฝาก เราอาจจะเจอภาวะความเสี่ยงสภาพคล่อง ที่ทำให้ราคาขายเราต่ำกว่าราคาตลาดที่เป็นอยู่ หรือ ราคาที่จะซื้อใหม่สูงกว่าราคาตลาด เช่น หุ้นที่ราคาบิดอ๊อฟเฟอร์ฟันหลอ
สุดท้ายนี่เป็นเครื่องมือที่ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น เราก็พิจารณาความเหมาะสมที่จะหยิบมาใช้
อย่างตอนนี้ผมมี long หุ้น ในพอร์ทผม แต่คิดว่าสภาวะตลาดไม่น่าจะดีไปกว่านี้ ผมเลยมี position ในฟิวเจอร์เป็น short อยู่ แทนที่จะขายหุ้นออกมา เพราะมันวุ่นวายไม่รู้จะขายตัวไหน จำนวนเท่าไหร่ และความเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนที่ผมกังวลคือสภาวะตลาดรวม ไม่ใช้ sector ใด sector หนึ่ง หรือ ธุรกิจใธรกิจหนึ่ง การช๊อตฟิจเจอร์ดูแล้วน่าเหมาะสมกว่า