อธิบายเพิ่มเติมทีครับว่า low ยังไงporzilla เขียน:price แต่ low quility
![Rolling Eyes :roll:](./images/smilies/icon_rolleyes.gif)
อธิบายเพิ่มเติมทีครับว่า low ยังไงporzilla เขียน:price แต่ low quility
ผมเห็นด้วยตรงอย่างยิ่งตรงคำพูดที่เน้นสีดำครับrakoilnaka เขียน: ปล. ถึงผมจะไม่เคยชอบและไม่เคยทำ MLM (เพราะผมไม่มีปัญญารวยเหมือนคนที่ขึ้นเวที) แต่ทุกอย่างมันก็มีดีไม่ดีหล่ะคับ แต่ถ้าทำแล้วรวยมันก้ดีทั้งนั้นหล่ะคร๊าบ ดีต่อเราและต่อครอบครัวเรา เงินถึงจะไม่ใช่เพื่อนแท้ แต่ถ้ามีมันอยู่กับเราเราก็อุ่นใจ ครอบครัวเราก็อุ่นใจ
ผมก็ชอบคำว่า "อิสรภาพ" เหมือนกันครับrakoilnaka เขียน:ผมเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณ kornjackrit นะครับ ตรงความมั่งคั่ง(wealth) ความมั่งคั่งบางครั้งอาจต้องพึ่งพาเงินเหมือนกันนะคับ แต่บางอย่างอาจไม่ต้อง เพราะของบางอย่างซื้อไม่ได้ เช่น อยากสุขภาพดีต้องออกกำลังกายเอง(แม้มีเงินคงจ้างใครออกกำลังกายแทนไม่ได้) ส่วนครอบครัวนั้นก็อยู่ที่เราและคนในครอบครัว เพื่อนฝูงที่ดีนั้นก็อยู่ที่เราเลือกคบกับวาสนาเราเองและการกระทำของเรา เพราะการช่วยเหลือกันอาจไม่ได้เป็นเรื่องเงิน อาจเป็นแรงหรือสมองก็ได้ แม้แต่คำดีดีให้กำลังใจกันก็ยังได้ แต่ผมชอบคำว่าอิสรภาพคับ อิสรภาพนั้น ถ้าถามผม feeling ประมาณว่า สบายๆ ปลอดโปร่ง ไม่แบกรับ ไม่ยึดติด หลุดพ้น ที่จริงแล้วอาจจะเป็นสิ่งสุดยอดที่ทุกคนตามหาก็ได้ เพราะในสังคมเราหลายคนก็ดิ้นรนกันเหลือเกิน
แก้คำผิดครับปล. พูดถึงเรื่องเงินซื้อสุขภาพดีไม่ได้ ผมนึกถึงมุขตลกอันนึงไม่แน่ใจว่าคุณ rakoilnaka จะเคยได้ยินไหม
เขาบอกว่า " ขนาดมีเงินร่ำรวยมากมาย ยังซื้อทุกๆอย่างไม่ได้เลย แล้วถ้าไม่รวยจะไม่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่หรือ "
นึกกี่ครั้งผมก็ขำนะครับ ฮ่าๆ
low เมื่อเทียบกับราคาของสินค้านั้นๆ ไม่ใช่ว่าด้อยกว่าสินค้าทั่วไปตามท้องตลาด ในความหมายของผมคือสินค้าประเภทเดียวกัน คุณภาพพอๆกัน ปริมาณพอๆกัน คุณสมบัติเหมือนๆกันแต่ราคาถูกกว่ามาก มันเป็นเรื่องของMarketingที่ราคาสูงเพราะต้องเปอเซนต์ส่วนแบ่งจากราคาขาย ให้กับ คนขาย อัพไลส์ หัวหน้าที่อยู่ยอดๆขึ้นไป เช่น ยาสีฟันทั่วไปราคา60-70บาท แอมเวย์ ขาย200กว่า คุณสมบัติป้องกันฟันผุ ช่วยให้ฟันขาว ป้องกันการเสียวฟัน ฯลฯ เหมือนๆกัน ต้นทุนก็น่าจะใกล้เคียงกัน แต่ขายแพงกว่า3เท่า ราคาที่แพงกว่า3เท่าความจะมีคุณภาพมากกว่า3เท่าเช่นกัน ไม่ใช่จากความรู้สึกแค่ว่าดี แต่ต้องมีข้อมูลทางวิชาการที่มีเหตุผลรองรับ มีมาตรฐานการันตีซากคน เขียน:อธิบายเพิ่มเติมทีครับว่า low ยังไงporzilla เขียน:price แต่ low quility
แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่า สินค้าของเค้าเป็นสูตรเข้มข้นporzilla เขียน:low เมื่อเทียบกับราคาของสินค้านั้นๆ ไม่ใช่ว่าด้อยกว่าสินค้าทั่วไปตามท้องตลาด ในความหมายของผมคือสินค้าประเภทเดียวกัน คุณภาพพอๆกัน ปริมาณพอๆกัน คุณสมบัติเหมือนๆกันแต่ราคาถูกกว่ามาก มันเป็นเรื่องของMarketingที่ราคาสูงเพราะต้องเปอเซนต์ส่วนแบ่งจากราคาขาย ให้กับ คนขาย อัพไลส์ หัวหน้าที่อยู่ยอดๆขึ้นไป เช่น ยาสีฟันทั่วไปราคา60-70บาท แอมเวย์ ขาย200กว่า คุณสมบัติป้องกันฟันผุ ช่วยให้ฟันขาว ป้องกันการเสียวฟัน ฯลฯ เหมือนๆกัน ต้นทุนก็น่าจะใกล้เคียงกัน แต่ขายแพงกว่า3เท่า ราคาที่แพงกว่า3เท่าความจะมีคุณภาพมากกว่า3เท่าเช่นกัน ไม่ใช่จากความรู้สึกแค่ว่าดี แต่ต้องมีข้อมูลทางวิชาการที่มีเหตุผลรองรับ มีมาตรฐานการันตีซากคน เขียน:อธิบายเพิ่มเติมทีครับว่า low ยังไงporzilla เขียน:price แต่ low quility
ปล.เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะ
เพิ่งมาเห็นว่าตัวเองเป็น member ตอนปี 2007 สงสัยเมื่อปี 2005 ยังแอบอ่านอยู่ ;Psophonamway เขียน:ก่อนอื่นเลย Login ผมคือ sophonamway ดังนั้นก็ชัดเจนอยู่ว่าผมเกี่ยวข้องกับธุรกิจแน่นอน จากที่อ่านหลายๆความเห็นทั้งในบอร์ดนี้และที่อื่นๆก่อนหน้านี้ก็หลากหลายครับ ผมอาจทำธุรกิจนี้มาได้เพียง 6 ปี (เริ่มต้นพร้อมๆกับการเป็น member thaivi เลย) ผมเข้าไปในธุรกิจนี้เพราะเพื่อนสนิทชวนเหมือนหลายๆท่าน มันพาไปฟังเรื่องเงินสี่ด้าน เมื่อมาในส่วนที่เป็น Investor อาจเพราะวิทยากรสื่อสารได้ดี ผมจึงได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง "การเล่นหุ้น" กับ "การลงทุน" ถ้ามองย้อนกลับไป การไปฟังแอมเวย์ครั้งนั้นก็เป็นประโยชน์มหาศาลนี่คือสิ่งแรกๆที่ผลได้รับจากการไปฟังแอมเวย์ นอกจากนั้น ทุกธุรกิจมีด้านมืดด้านสว่างครับ ถ้าเราศึกษาแล้วเข้าใจจริงๆ เห็นว่ามีประโยชน์ จะลงมือทำ ก็จงทำตัวให้เป็นด้านสว่างของธุรกิจครับ ด้านมืดทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ยั่งยืน case study มีมากมายที่หลายๆท่านก็คงได้ผ่านหูผ่านตามาแล้ว ที่สำคัญก็คือ การที่ผมพิจารณาทำธุรกิจนี้ ก็ใช้หลักเดียวกับการลงทุน คือ การศึกษาตัว "แนวโน้มอุตสาหกรรม"+ "พฤติกรรมผู้บริโภค" +"บริษัทแอมเวย์" + "แผนธุรกิจ" + "กฎจรรยาบรรณ(สำคัญมาก)" เหมือนกับการ ศึกษาเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และตัวบริษัทจดทะเบียน ผ่านข้อมูลตัวเลขนโยบายต่างๆและงบการเงิน หลังจากนั้นก็ลงมือใช้ธุรกิจนี้ให้เหมาะกับ "จริต" ของเรา ไม่เกินตัว ไม่เชื่อใครง่ายๆ ไม่โลภ (คล้ายกับการลงทุนเลยครับ) อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่า หากใครที่ศึกษาอย่างจริงๆเข้าใจ รู้จักธุรกิจนี้พร้อมบริบท โดยถ้วนทั่วแล้ว เห็นว่าไม่เหมาะกับตัวเอง ก็สามารถที่จะวางตัวเลือกนี้ลงได้ แต่ถ้ายังไม่ได้รู้จริงแล้ววิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหาย มันก็เป็นการไม่ยุติธรรมต่อตัวธุรกิจเช่นเดียวกัน เพราะ สิ่งที่ทำให้เสื่อม มันอยู่ที่ "คน" (^^)
เท่าที่ผมเจอมาแอมเวย์เขาจะเน้นขายของ upline เขายังบอกผมเองเลยว่า ธุรกิจมันจะอยู่ได้ก็ด้วยการขายของนี่แหละFox เขียน: สรุปก็คือแอมเวย์เน้นขายของมากกว่าเอมสตาร์ที่เน้นหาคนเข้าระบบ จากที่สัมผัสมานะครับ(60:40เอมเวย์ขายของ:หาคน ในขณะที่เอมสตาร์20:80)