ผมรอฟังคุณ MMX มาเล่าส่วนอื่นๆต่อละกานนะครับ

ไม่ได้เล่าครับMMX เขียน:ปล. แล้วคนที่ชวนไปฟังละ คุณได้เล่าปัญหาที่แท้จริง หรือข้อสัยที่แท้จริง ให้กับเค้าไหม เพราะ คนนั้นคือว่าที่ upline คุณ เมื่อคุณจะทำธุรกิจร่วมกับเค้า คุณต้องไว้ใจเค้า วางใจไว้ที่เค้า เล่าปัญหาทั้งเรื่องธุรกิจ และเรื่องส่วนตัวให้เค้า เพื่อเค้าจะได้ช่วยเหลือคุณได้ เพราะ upline เปรียบเหมือน อาจารย์ หรือ พ่อ แม่ ในธุรกิจ
คุณ MMX พูดตรงส่วนหนึ่งครับคุณมีทัศนคติว่า ทำ Amway ต้องมีบุคลิก เป็นผู้บริหาร คือ เข้ากับคนได้ ต้องตามกระแส Active ใส่ใจคนอื่น ... ซึ่งตรงข้ามกับนักลงทุน
ซึ่งคุณอยากเป็นนักลงทุนมากกว่า คุณกลัวว่า ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นนักบริหาร เพื่อจะให้ประสบความสำเร็จ
ใน Amway แล้ว พลังหรือความสามารถในการลงทุนคุณจะถดถอยไป
ถ้าคุณมีความคิดแบบนี้จริง(ซึ่งคุณเหมือนผมตอนแรก) ผมมีวิธี ที่จะทำให้คุณสำเร็จได้ โดยที่คุณจะยังคงพลังของความเป็นนักลงทุน
ไว้ คุณสนใจไหม
น่าสนใจครับ รบกวนคุณ MMX ช่วยอธิบายให้หน่อยครับผมมีวิธี ที่จะทำให้คุณสำเร็จได้ โดยที่คุณจะยังคงพลังของความเป็นนักลงทุน ไว้ คุณสนใจไหม
ผมเห็นด้วยกับคุณ MMX ในเืรื่องนี้ 100 % เลยคับMMX เขียน:ผมอ่านแล้วครับ link ที่ให้มา อ่านผ่านๆ
ผมขอพูดอย่างงี้เลย จะได้ไหม
" ช่างเค้าเถอครับ ใครจะทำ หรือจะมอง Amway เป็นยังไง
อย่างที่ผมเคยบอกว่า คนอื่นเค้ามองคนมาชวนยังไง เค้ามอง Amway แบบนั้น "
" คนที่ไม่ทำ Amway มันเป็นปัญหาของเค้าเอง เค้าไม่เลือก Amway เค้าก็ต้องหาเครื่องมืออื่นมาเลี้ยงปากเลี้ยงทองอยู่ดี"
"ถ้าเค้าทำกับเรานั่นแหละ มันคือปัญหาของเรา เราต้องให้คำปรึกษา ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจ เพื่อให้เค้าสำเร็จ"
MMX เขียน:
ผมว่าต้องคิดจากเงินปันผล ไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่คิดว่าผลตอบแทนที่ทำให้ มูลค่า port เพิ่มขึ้นครับ ผมว่าลงทุนให้หุ้น ในสภาพปก โดยเฉลี่ย เงินปันผลที่ได้ 5% ถ้าเป็นอสังหา 7%
ใช่ครับ แต่ upline ก็มีสิทธิ์เลือกคุณเหมือนกันผมเห็นด้วยครับนะครับ ว่าถ้าผมจะทำจริงๆ Upline สำคัญกับผมมากๆ
ดังนั้นแล้ว ผมก็มีคำถามครับ >>> ผมจะเลือก Upline เองได้ไหมครับ ???
ในเมื่อ Upline สำคัญมากขนาดนี้ ผมควรจะมีสิทธิเลือกได้ใช่ไหมครับ ???
เห็นด้วยครับ การเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งความสำเร็จ หรือชิบหาย ก็ได้ ตองลองดูครับ การศึกษา การคิด ไม่สามารถสรุปผลได้ครับ มันแค่ได้คำตอบว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เท่านั้นเองความสงสัยลง ในบางเวลา แล้วใช้เวลาส่วนใหญ่ลงมือทำตามความรู้และความเข้าใจที่มีอยู่ทั้งหมด อุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นมาก-น้อย ในระหว่างทางที่น้องลงมือทำ จะตอบคำถามเกือบทั้งหมดที่น้องมี ซึ่งคือความเป็นจริง
ในขณะที่การไตร่ตรองด้วยเหตุ-ผล เป็นเพียงคำตอบที่คลอดออกจากสมอง
ของเรา ภายใต้เงื่อนไขต่างๆที่เราคิดว่าไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งแปลว่า การใช้เหตุและผลไม่จำเป็นต้องตอบความจริงเราเสมอไปครับ
Voldtrest เขียน:ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า กระทู้นี้จะเดินหน้ามาได้ไกลขนาดนี้ ทั้งๆที่หัวข้อก็เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่สงสัยกัน (ผมไม่ได้เจตนาต่อว่าใครนะครับ ถ้าหากไม่สบายใจ ผมขอโทษล่วงหน้าครับ)
จริงๆผมว่าอาจจะไม่นะครัย
ส่วนตัวผมรู้สึกว่า เราใช้เวลาในหัวข้อสนทนานี้ยาวนานเกินไปหรือเปล่า ในเมื่อมีเรื่องอื่นๆที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
( ตรงกับหลักกาลามสูตรเลยครับVoldtrest เขียน:น้อง kornjackrit หากเป็นไปได้ พี่อยากแนะนำให้น้องหยุดความคิดและ
ความสงสัยลง ในบางเวลา แล้วใช้เวลาส่วนใหญ่ลงมือทำตามความรู้และความเข้าใจที่มีอยู่ทั้งหมด อุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นมาก-น้อย ในระหว่างทางที่น้องลงมือทำ จะตอบคำถามเกือบทั้งหมดที่น้องมี ซึ่งคือความเป็นจริง
ในขณะที่การไตร่ตรองด้วยเหตุ-ผล เป็นเพียงคำตอบที่คลอดออกจากสมอง
ของเรา ภายใต้เงื่อนไขต่างๆที่เราคิดว่าไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งแปลว่า การใช้เหตุและผลไม่จำเป็นต้องตอบความจริงเราเสมอไปครับ
MMX เขียน:ปล. จำได้ว่าคุณต้องการ port 50 ล้าน ตอนอายุแก่ๆ ถ้าต้องการแบบนี้ บนเงื่อนไขทีคุณคิด (หมายถึงอนาคต ไม่มีเหตุการที่มากระทบกับแผนการลงทุนของคุณ) แบบนี้ คุณไม่ต้องทำ Amway หรือ ธุรกิจอื่นๆ หรือครับ ลงทุน แบบ VI ก็สามารถช่วยแก้โจทย์ชีวิตคุณได้แล้ว
ต้องขอโทษนะครับถ้าทำให้เข้าใจผิดkornjackrit เขียน: ผมก็ขอตอบตามตรงเลยครับว่าเป้าหมาของผมในแง่ตัวเงิน
คือการมีพอร์ตระดับ 50 ล้านบาท และใช้ชีวิตเรียบง่าย
กับครอบครัว ชื่นชมกับความงามของธรรมชาติรอบตัว
และใช้ชีวิตอิสระ อ่านหนังสือบ้าง ฟังเพลงบ้าง
ไปวิ่งเล่นในสวนสาธารณะบ้าง ไปเที่ยวทะเลบ้าง
แค่นั้นละครับ
ผมว่าแบบนี้ เรื่องใหญ่ละครับต้องขอโทษนะครับถ้าทำให้เข้าใจผิด
ผมต้องการจะสื่อแค่ว่ามีพอร์ต 50 ล้านครับ
สำหรับอายุนั้นน้อยกว่า หรือเท่ากับ 35 ปีครับ
( ผมคิดว่า 35 ปีไม่น่าจะเรียกว่าแก่นะครับ )
ถูกต้องเลยครับ ผมจำเป็นต้องศึกษาธุรกิจทุกอย่างๆ(ซึ่งผมกำลังทำอยู่)MMX เขียน:ผมว่าแบบนี้ เรื่องใหญ่ละครับ
คุณควรจะศึกษาการลงทุนในธุกริจเครือข่าย หรือการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ด้วยครับ (จะใช้คำว่า ต้องศึกษาเลยก็ว่าได้ จำเป็นมาก)
เพราะ
สมมุติว่า คุณเรียนจบอายุ 22 ถึง อายุ 35 ปี ใช้เวลา 13 ( 35-22)
FV = 50 ล้าน
สมมุติเงินเดือน เท่าไหร่ไม่รู้ แต่มีเงินลงทุน เดือนละ 15000 ละกัน pmt = 15000*12
ดังนั้นคุณต้องทำให้ได้ผลตอบแทนทบตั้น ปีละ 45% ครับ
(เค้าว่า บัพเฟตทำได้ ปีละ 30% เองน่ะ อันนี้เคยอ่านเจอ ไม่มีแหล่งอ้างอิง)
ว่าที่จริงผมได้รับบทเรียนในการลงทุนจากการลงทุนเองในหุ้นรายตัวมาลงทุนเป็นหุ้นรายตัวจริงๆ ก็ประมาณกลางเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ถือเป็นนัดล้างตาจริงๆ ลงทุนด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เจตนาที่เปลี่ยนไป
เพราะเราไม่สามารถนำเงินก้อนนี้ไปทดสอบความเชื่อส่วนตัวหรือหลักการได้อีกเหมือนกับครั้งก่อนๆๆ....(คนที่บ้านผิดหวังกับการทดสอบครั้งก่อน และกลัวความเสี่ยงจากการลงทุนเป็นที่สุด)
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับสิ่งสำคัญอื่นๆนอกเหนือจาก การพบเจอตัวเองแล้ว เรายังจำเป็น ต้องพาตัวเองเข้าไปหากลุ่มคนและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมด้วย การปรับตัวให้เข้ากับผู้คนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ถ้าหาคนที่เข้าใจเราไม่ได้จริงๆ ก็ป่วยการที่จะอยู่กับสังคมเดิมๆ
จริงอยู่ที่ปลูกพืชอะไร ก็ได้ต้นอันนั้น แต่ถ้าได้ดินไม่ดี โตมาก็แคระแกร็นอย่างที่ผมเป็นอยุ่ (ผมกำลังหาเวลาที่จะมา meeting กับคนชมรมนี้อยู่)
^^
Voldtrest เขียน:สำหรับการลงทุนในกองดัชนี ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการลงทุนเน้นคุณค่าเลย
พี่ตั้งใจจะทดสอบเทคนิค DCA กับ ความเชื่อในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มาจากภายในประเทศ
กับตลาดหุ้นเกิดใหม่นั้นเป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่า
ซึ่งพี่เลือกกองที่มี 2 ประเทศคือ จีนกับอินเดีย ครับ
วางเป้าหมายไว้ 5 ปีเลย แล้วมาดูกันว่าจะแซง SET50 ไหม
ผมว่าน่าจะถูกแล้วนะครับปล. ที่ไหนยังขาดแคลน ย่อมต้องการบริโภคมาก เศรษฐกิจจึงต้องขยายตัวรองรับตาม (ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า)
55+ เห็นด้วยครับพี่Voldtrest เขียน:^^ ลืมไปเลยว่า หัวข้อนี้ AMWAY นี่หว่า งั้นเรามารอฟังคุณ MMX ตอบดีไหม
เข้าไปอ่านในเว็บ Pantip มาครับขอวิเคราะห์โดยใช้หลักการของ Dr. Edward de Bono คิดโดยสวมหมวกทั้ง 6 ใบ ด้วยแนวคิดที่เป็นกลางนะครับ
ลองสวมหมวกสีขาว (คิดเป็นกลาง ดู data ดู information)
- มีคนทำได้จริง ถึงระดับเพชรหลายคน
- ของคุณภาพดีจริง ใช้ได้นานกว่าของในท้องตลาดจริง
- สินค้าทุกอย่างมีวิธีใช้ ใช้เป็น
- ราคาสมกับเวลาที่ใช้ของไปจริง ถ้าใช้เป็น
- องค์กรมีอยู่จริง
- อัตราคนที่สำเร็จ : คนที่ล้มเหลว(ล้มเลิก) ไม่ถึง 10%
- สินค้าไม่โฆษณา (ตอนนี้มีโฆษณาแล้วบางตัว) ทำให้ไม่เสียค่าการตลาด กำไรตกที่ตัวนักธุรกิจ
- นักธุรกิจต้องใช้ด้วย ถึงจะขายได้ แนะนำได้
- ต้องพูดเป็น(พูดเป็น ต่างกับพูดเก่งนะ) สาธิตเป็น แนะนำเป็น แบ่งเวลาเป็น ใจกล้า
ลองสวมหมวกสีแดง (คิดแบบใช้อาร์มณ์ ความคิดเห็นส่วนตัว<-ของหลายๆคน)
- ของแพงกว่าท้องตลาด แพงเกินซื้อไม่ไหว
- สินค้าบางตัวไม่จำเป็นต้องใช้
- ไม่จริงใจ
- เสียเวลาส่วนตัวมากไป
- ไม่เหมาะกับตัวเอง
- ไปแล้วรู้สึกไม่ชอบ
- กิเลสไม่จบสิ้น แนะนำเพราะหวังขยาย downline
- ต้องลองผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง ต้องซื้อใช้เสียเงินโดยใช่เหตุ
- มีการให้กำลังใจว่าทำเป็นทีม แต่หัวหน้าทีมยังไงก็หวังผลประโยชน์จากลูกทีมแหละ
- อาหารเสริมบางอย่างไม่จำเป็น อาจจำเป็นสำหรับบางวัย
ลองสวมหมวกสีดำ (คิดแบบระวังภัย ระแวงอันตรายแง่ร้าย)
- องค์กรมีสิทธิ์ล่มสลาย (โดยก่อการร้าย วางระเบิด หุ้นตกทั่วโลก เกิดภัยธรรมชาติกับบริษัทแม่ นโบยายกีดกันทางการค้า)
- ตายก่อนได้เงินเดือน
- โดนเพื่อน ญาติ คนรู้จัก ไม่ชอบ
- กลับบ้านดึกโดนโจรจี้ ไม่สบายเพราะพักผ่อนน้อย นอนน้อย
- ถ้าทำสำเร็จแล้วหยุดแล้ว ไม่ซื้ออะไรเลย ไม่ยุ่งอีกเลย จะได้เงินเดือนจริงหรือ
- เสียตังค์ค่าอบรมมากมาย บางอย่างอ่านหนังสือเอาหรือศึกษาจากที่อื่นก็ได้
- รู้จักคนมากขึ้น จาเจอเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ ทำให้จิตใจเสีย
- เงินตราไหลออกนอกประเทศหมด เสียดุล
- คนที่ทำแล้วล้มเหลว เสียเงินมากมายเลยนะ ลองอ่านกรณีศึกษาของคนล้มเหลว(ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง)ในเนตดู
- ในกรณีล้มเหลว เท่ากับเสียเวลามากมาย แต่ได้บทเรียนราคาแพง
ลองสวมหมวกสีเหลือง (คิดแบบ positive มองโลกแง่ดี ตรงข้ามกับหมวกดำ)
- ทำสำเร็จแล้วสบายมีเงินใช้ตลอดชีวิตชั่วลูกชั่วหลาน
- ได้ไปเที่ยวต่างประเทศฟรีด้วย
- มีอบรมเยอะมากมาย ได้ความรู้ ได้พัฒนาตัวเอง
- ได้รู้จักคนมากขึ้น เรียนรู้มากขึ้น
- ใช้ของเป็นแล้วคุ้ม
ลองสวมหมวกสีเขียว (คิดแบบ creative สร้างสรรค์สิ่งใหม่)
- ถ้าไม่ทำ amway ทำอย่างอื่นมีอะไรมั่นคงรึป่าว
- ลองหาอะไรทำที่เป็นส่วนตัว งานอิสระ งานที่ชอบ งานที่ทำแล้วมีความสุข
- จบอะไรมา ไม่จำเป็นต้องทำงานเกี่ยวกับที่จบก็ได้ ลองงานอื่นๆดูบ้าง
- การเรียนรู้มีหลายแบบ มองให้ออก เรียนให้เป็น คิดให้เป็น ทำในสิ่งใหม่ๆ
ลองสวมหมวกสีฟ้า (คิดแบบมองภาพรวม สรุป ไม่ลงรายละเอียด)
amway เป็นองค์กรใหญ่ มั่นคง คนประสบความสำเร็จมาก คนล้มเหลวก็มาก มีเครือข่ายทั่วโลก
ของสิ่งเดียว มีหลายมุม ขึ้นอยู่กับว่าคุณสวมหมวกใบไหนมองอยู่ (อย่าใส่หลายใบแล้วพิจารณาพร้อมกัน เพราะคุณจะโดนอคติบังจนแยกแยะเหตุผลและอารมณ์ไม่ออก)
จากคุณ : ShinchanX - [ 30 ม.ค. 52 11:31:49 ]