บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
-
- Verified User
- โพสต์: 421
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 1
ผมว่าสิ่งที่คนทำประกันไม่เคยคิดก็คือการคิดย้อนหามูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบันนะ ทำให้โดนตัวเลขหลอกว่าเราขาดทุนไม่มากเท่าไหร่
มีตัวแทนประกันคนหนึ่งมาคุยกับผมว่า ให้ผมจ่ายเงินไป 25000 บาททุกปี แล้วในอีกห้าสิบปีข้างหน้าผมจะได้เงินกลับคืนมาเท่ากับ 1,000,000 บาท
ถ้าเอา 25,000 คูณ ห้าสิบ เลยก็ได้ 1,250,000 บาท ดูเหมือนว่าขาดทุนไปแค่ สองแสนห้าหมืน ถือไปซะว่า สองแสนห้าหมื่นนี้เป็นค่าสำหรับประกันเรื่องสุขภาพ และ ประกันชีวิตให้เรา ก็แสดงว่าตกปีละ ห้าพันบาทเอง
หารู้ไม่ว่า ถ้าเอามาคิดในแบบค่าเงินปัจจุบัน
จะได้ตามตารางนี้
1 25000 25000
2 25000 23809.52381
3 25000 22675.73696
4 25000 21595.93996
5 25000 20567.56187
6 25000 19588.15416
7 25000 18655.38492
8 25000 17767.03325
9 25000 16920.98405
10 25000 16115.22291
11 25000 15347.83134
12 25000 14616.98223
13 25000 13920.93545
14 25000 13258.03377
15 25000 12626.69882
16 25000 12025.42745
17 25000 11452.78805
18 25000 10907.41719
19 25000 10388.01637
20 25000 9893.348925
21 25000 9422.237072
22 25000 8973.559116
23 25000 8546.246777
24 25000 8139.282645
25 25000 7751.697757
26 25000 7382.569292
27 25000 7031.018374
28 25000 6696.207975
29 25000 6377.340929
30 25000 6073.658027
31 25000 5784.436216
32 25000 5508.986873
33 25000 5246.654165
34 25000 4996.81349
35 25000 4758.869991
36 25000 4532.257134
37 25000 4316.435366
38 25000 4110.890824
39 25000 3915.134118
40 25000 3728.69916
41 25000 3551.142058
42 25000 3382.040055
43 25000 3220.990528
44 25000 3067.610027
45 25000 2921.533359
46 25000 2782.412723
47 25000 2649.916879
48 25000 2523.730361
49 25000 2403.552725
50 25000 2289.097833
ค่ารวมมูลค่าปัจจุบัน 479218.0433
( คิดค่า k ที่ 0.05 )
แต่ว่าพอได้เงินไปประมาณห้าแสนบาทดังกล่าว ในปีแรกเค้าก็เอาเงินไปฝากธนาคารแค่ 91654 บาท แล้วจะได้เงินในปีสุดท้ายเป็น หนึ่งล้าน บาทโดยปริยาย
แสดงว่าจริงๆแล้วผมขาดทุนไปตั้ง แปดสิบเปอร์เซนต์ แหนะ ถึงว่า ว่าทำไมบริษัท่ประกันถึงได้รวยได้รวยเอา
มีตัวแทนประกันคนหนึ่งมาคุยกับผมว่า ให้ผมจ่ายเงินไป 25000 บาททุกปี แล้วในอีกห้าสิบปีข้างหน้าผมจะได้เงินกลับคืนมาเท่ากับ 1,000,000 บาท
ถ้าเอา 25,000 คูณ ห้าสิบ เลยก็ได้ 1,250,000 บาท ดูเหมือนว่าขาดทุนไปแค่ สองแสนห้าหมืน ถือไปซะว่า สองแสนห้าหมื่นนี้เป็นค่าสำหรับประกันเรื่องสุขภาพ และ ประกันชีวิตให้เรา ก็แสดงว่าตกปีละ ห้าพันบาทเอง
หารู้ไม่ว่า ถ้าเอามาคิดในแบบค่าเงินปัจจุบัน
จะได้ตามตารางนี้
1 25000 25000
2 25000 23809.52381
3 25000 22675.73696
4 25000 21595.93996
5 25000 20567.56187
6 25000 19588.15416
7 25000 18655.38492
8 25000 17767.03325
9 25000 16920.98405
10 25000 16115.22291
11 25000 15347.83134
12 25000 14616.98223
13 25000 13920.93545
14 25000 13258.03377
15 25000 12626.69882
16 25000 12025.42745
17 25000 11452.78805
18 25000 10907.41719
19 25000 10388.01637
20 25000 9893.348925
21 25000 9422.237072
22 25000 8973.559116
23 25000 8546.246777
24 25000 8139.282645
25 25000 7751.697757
26 25000 7382.569292
27 25000 7031.018374
28 25000 6696.207975
29 25000 6377.340929
30 25000 6073.658027
31 25000 5784.436216
32 25000 5508.986873
33 25000 5246.654165
34 25000 4996.81349
35 25000 4758.869991
36 25000 4532.257134
37 25000 4316.435366
38 25000 4110.890824
39 25000 3915.134118
40 25000 3728.69916
41 25000 3551.142058
42 25000 3382.040055
43 25000 3220.990528
44 25000 3067.610027
45 25000 2921.533359
46 25000 2782.412723
47 25000 2649.916879
48 25000 2523.730361
49 25000 2403.552725
50 25000 2289.097833
ค่ารวมมูลค่าปัจจุบัน 479218.0433
( คิดค่า k ที่ 0.05 )
แต่ว่าพอได้เงินไปประมาณห้าแสนบาทดังกล่าว ในปีแรกเค้าก็เอาเงินไปฝากธนาคารแค่ 91654 บาท แล้วจะได้เงินในปีสุดท้ายเป็น หนึ่งล้าน บาทโดยปริยาย
แสดงว่าจริงๆแล้วผมขาดทุนไปตั้ง แปดสิบเปอร์เซนต์ แหนะ ถึงว่า ว่าทำไมบริษัท่ประกันถึงได้รวยได้รวยเอา
รู้สึกดีๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 2
ผมก็คำนวณให้ที่บ้านผม ดูบ่อยๆนะ แต่เขาไม่รู้เรื่องกัน
เลยได้มีประกันเต็มไปหมด รู้สึกเสียดายเงิน
นับได้ว่าเป็นบริษัทที่เป็นตัวบ่อนทำลาย
เงินฝากเงินสะสมของสถาบันครอบครัวจริงๆ
เสื่อมยิ่งกว่าพวกของฟุ่มเฟือยอีก
เลยได้มีประกันเต็มไปหมด รู้สึกเสียดายเงิน
นับได้ว่าเป็นบริษัทที่เป็นตัวบ่อนทำลาย
เงินฝากเงินสะสมของสถาบันครอบครัวจริงๆ
เสื่อมยิ่งกว่าพวกของฟุ่มเฟือยอีก
bid please!!
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 3
ไม่ได้ขายประกันนะคะ
แต่ถามนิดนึง ถ้าเราทำประกันแล้วตายไปปีที่สาม ปีที่สี่ หรือแม้แต่ปีที่สิบ บริษัทประกันจ่ายให้เราเท่าไหร่คะ
มันเหมือนกับเป็นการลดความเสี่ยงหรือเปล่าถ้าเรามีอันเป็นไปก่อนเวลาอันควร
แต่ถามนิดนึง ถ้าเราทำประกันแล้วตายไปปีที่สาม ปีที่สี่ หรือแม้แต่ปีที่สิบ บริษัทประกันจ่ายให้เราเท่าไหร่คะ
มันเหมือนกับเป็นการลดความเสี่ยงหรือเปล่าถ้าเรามีอันเป็นไปก่อนเวลาอันควร
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 421
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 4
ง่า ว่าที่จริงผมก็ทำประกันอยู่แหละนะ ตั้งสองกรมธรรม์แหละ แต่สรุปว่าคิดเป็นต้นทุนที่แพงดีจริงๆเลย ก็สรุปว่า อย่างน้อยก็เอาไว้ลดหย่อนภาษี กับไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินในชีวิตแหละครับ ก็ยังถือว่าเป็นความจำเป็นแหละครับ เพียงแต่ว่าคงใส่จำนวนเงินไปแค่พอสมควรก็พอนะครับ
รู้สึกดีๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 5
ใช่เลยครับ ถ้าเราไปมองเป็นเรื่องการออมการลงทุน ยังไงก็ไม่คุ้มครับ เงินที่บริษัทประกันเอาไปเค้าก็ไปลงทุนอย่างที่เราลงๆกันนี่แหล่ะครับ ถ้าเราต้องการผลตอบแทนเหมือนลงทุนปกติแล้วบริษัทประกันจะเอากำไรจากไหนล่ะครับba_2l เขียน:ประกันก็คือประกันครับไม่ใช่การออมที่ดี
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 674
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 8
สำหรับคนไม่มีวินัยในการออม
ประกันก็ถือเป็นการออมที่ดี
หลายคนถ้าไม่ทำประกันไม่มีทางเก็บเงินอยู่หรอกครับ
ถ้านับเฉพาะในส่วนของกรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก ไม่รวม ความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง และ อื่น ๆ ที่ขายพ่วงมากับกรมธรรม์หลัก
ผลตอบแทนเมื่อรวมกับค่าลดหย่อยน่าจะอยู่ที่ 3-5% นะครับ
แต่สำหรับคนที่มีวินัยทางการออมและการลุงทุนที่ดี
ประกันคือต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สูงมากเลยทีเดียว
ประกันก็ถือเป็นการออมที่ดี
หลายคนถ้าไม่ทำประกันไม่มีทางเก็บเงินอยู่หรอกครับ
ถ้านับเฉพาะในส่วนของกรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก ไม่รวม ความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง และ อื่น ๆ ที่ขายพ่วงมากับกรมธรรม์หลัก
ผลตอบแทนเมื่อรวมกับค่าลดหย่อยน่าจะอยู่ที่ 3-5% นะครับ
แต่สำหรับคนที่มีวินัยทางการออมและการลุงทุนที่ดี
ประกันคือต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สูงมากเลยทีเดียว
- NinjaTurtle
- Verified User
- โพสต์: 506
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 9
อย่าไปมองว่า ประกันชีวิตคือการออมนะครับ มันคือการป้องกันความเสี่ยง
ซื้อประกันแล้วได้ผลตอบแทน ถ้าเทียบกับเงินเฟ้อแล้วไม่ลดไปมากก็ดีแล้ว
(ผมเองก็เคยคิดว่ามันเป็นการออมนะครับ หลงซื้อไปเยอะแยะ เพราะไม่เข้าใจเรื่องค่าของเงินกับเวลา )
ซื้อประกันแล้วได้ผลตอบแทน ถ้าเทียบกับเงินเฟ้อแล้วไม่ลดไปมากก็ดีแล้ว
(ผมเองก็เคยคิดว่ามันเป็นการออมนะครับ หลงซื้อไปเยอะแยะ เพราะไม่เข้าใจเรื่องค่าของเงินกับเวลา )
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 10
ตอนเรียนผมเรียนยังไงก็ไม่เคยเข้าใจ เพิ่งจะมาเข้าใจก็ตอนนี้เอง แหะๆ
อีก 50 ปีข้างหน้าจะได้เงินคือมา 1,000,000 บาท ถ้าสมมุติว่าเจอเงินเฟ้อกินอีกปีละ 3% นี่เงินล้านบาทจะเหลือมูลค่าแค่ สองแสนกว่าบาทเองนะเนี่ย
แต่ประกันนี่ ถ้าไม่ทำเลยก็คงไม่ดีเท่าไร :roll:
อีก 50 ปีข้างหน้าจะได้เงินคือมา 1,000,000 บาท ถ้าสมมุติว่าเจอเงินเฟ้อกินอีกปีละ 3% นี่เงินล้านบาทจะเหลือมูลค่าแค่ สองแสนกว่าบาทเองนะเนี่ย
แต่ประกันนี่ ถ้าไม่ทำเลยก็คงไม่ดีเท่าไร :roll:
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 11
อย่างที่บอกกันครับ ประกันก็คือการป้องกันความเสี่ยง ครับไม่ใช่การออม
ดังนั้นอย่าเอามาเทียบกันมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่คุณจะได้ทั้งการป้องกันความเสี่ยงและผลตอบแทน ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่ดีก็ต้องไปทำอย่างอื่นอยู่แล้ว
ดังนั้นอย่าเอามาเทียบกันมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่คุณจะได้ทั้งการป้องกันความเสี่ยงและผลตอบแทน ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่ดีก็ต้องไปทำอย่างอื่นอยู่แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 12
แยกให้ออกครับว่าทำประกันชีวิตหรือประกันภัยสุขภาพ
ถ้าตัวประกันชีวิต จะมีค่าจิปาถะของตัวบริษัท รวมกับค่ามรณะ และค่าอื่นๆ
ซึ่งต้องไปเปิดตารางมรณะประกอบครับ ว่าอายุของคนที่ทำประกันชีวิตมีผลอย่างมาก
ส่วนใหญ่ที่ยอดที่ส่งประกันภัยแล้วบ่นกันยอดทำไมแพงมากๆ เพราะตัวประกันภัยสุขภาพนี้ล่ะครับ จะขายพ่วงไปด้วย
ต้องรู้ไว้ครับ ทำประกันชีวิต ถือว่าลดความเสี่ยงให้แก่คนข้างหลังครับ
จะบอกว่า การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาก่อนการลงทุน
คำนี้ใช้ได้ทุกวงการครับ
แล้ววันนี้คุณศีกษาเรื่องการประกันชีวิตก่อนแล้วคุณค่อยทำประกันชีวิตหรือไม่ครับ
ถ้าตัวประกันชีวิต จะมีค่าจิปาถะของตัวบริษัท รวมกับค่ามรณะ และค่าอื่นๆ
ซึ่งต้องไปเปิดตารางมรณะประกอบครับ ว่าอายุของคนที่ทำประกันชีวิตมีผลอย่างมาก
ส่วนใหญ่ที่ยอดที่ส่งประกันภัยแล้วบ่นกันยอดทำไมแพงมากๆ เพราะตัวประกันภัยสุขภาพนี้ล่ะครับ จะขายพ่วงไปด้วย
ต้องรู้ไว้ครับ ทำประกันชีวิต ถือว่าลดความเสี่ยงให้แก่คนข้างหลังครับ
จะบอกว่า การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาก่อนการลงทุน
คำนี้ใช้ได้ทุกวงการครับ
แล้ววันนี้คุณศีกษาเรื่องการประกันชีวิตก่อนแล้วคุณค่อยทำประกันชีวิตหรือไม่ครับ
- tummeng
- Verified User
- โพสต์: 3665
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 13
ของผม นี่ มีทำประกันชีวิต บวก กับประกันสุขภาพ
ให้กับลูกสาว เพราะป่วยบ่อย
เลยฝากเป็นแบบสิบปี พ่วงสุขภาพ
เคยคิดตัวเลขออกมา เมื่อครบสิบปี
ได้เงินต้นบวกดอกเบี้ย กลับมาไม่เท่าไหร่น่ะครับ
เพราะมาโดนตรงเบี้ยประกันสุขภาพนี่ล่ะครับ
แต่ดีตรงที่เวลาลูกสาวเข้า โรงพยาบาลเมื่อไหร่ ก็ได้เงินประกันสุขภาพ มาช่วยนี่ล่ะครับ
ให้กับลูกสาว เพราะป่วยบ่อย
เลยฝากเป็นแบบสิบปี พ่วงสุขภาพ
เคยคิดตัวเลขออกมา เมื่อครบสิบปี
ได้เงินต้นบวกดอกเบี้ย กลับมาไม่เท่าไหร่น่ะครับ
เพราะมาโดนตรงเบี้ยประกันสุขภาพนี่ล่ะครับ
แต่ดีตรงที่เวลาลูกสาวเข้า โรงพยาบาลเมื่อไหร่ ก็ได้เงินประกันสุขภาพ มาช่วยนี่ล่ะครับ
- krittapon_r
- Verified User
- โพสต์: 156
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 14
ประกันควรซื้อเมือจะใช้...และใช้เมื่อมีความเสี่ยง
ผมเซ็งกับเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายตอนนี้มาก
ลูกเมียก็ไม่มี...พ่อแม่ก็เงินบำนาญเหลือใช้
ไม่มีหนี้...ไม่มีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถ
งงกับตัวเอง ไม่มีความเสี่ยงแท้ๆ...กลับหลงซื้อเข้าไปได้ยังไง
เอาแต่งงานแล้วค่อยซื้อยังซะดีกว่า
ผมเซ็งกับเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายตอนนี้มาก
ลูกเมียก็ไม่มี...พ่อแม่ก็เงินบำนาญเหลือใช้
ไม่มีหนี้...ไม่มีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถ
งงกับตัวเอง ไม่มีความเสี่ยงแท้ๆ...กลับหลงซื้อเข้าไปได้ยังไง
เอาแต่งงานแล้วค่อยซื้อยังซะดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 15
ขอเขียนหน่อยค่ะ
คนที่ไม่เหมาะกับการซื้อประกันทั้งประกันหลัก และประกันสุขภาพ น่าจะมีคุณสมบัติคล้ายๆ แบบนี้ค่ะ
1. อายุยืนมาก กำไรต่อเนื่องส่วนใหญ่ในทุกการลงทุน ไม่เคยขาดทุนสุทธิตอนปลายชีวิตเลย
2. อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีห่วงให้กังวลเวลาจากไปแบบไม่คาดฝัน
3. สุขภาพดียอดเยี่ยมตลอดอายุขัย ไม่มีอุบัติเหตุ มะเร็งเรื้อรัง ค่ารักษาตอนป่วยไข้แทบไม่มี หรือถูกมากๆๆ
4. ไม่สนใจการลดหย่อนภาษี จิ๊บๆ แค่เครดิตภาษีจากหุ้น LTF RMF ผ่อนบ้าน ลูกกตัญญ ลูกสองคน บริจาค ทางอื่นๆ ก็เพียบแล้ว
5. ไม่ชอบซื้อประกันภัยชั้น 1 ไม่ว่าจะรถยนต์ ไฟไหม้ โจรกรรม เพราะจ่ายทิ้ง เหมือนประกันสุขภาพ money machine (ตัวของคุณๆ) ที่จ่ายทิ้งเหมือนกัน
ยังไง ถ้าโชคร้ายเจออุบัติเหตุหมดสติ ในกระเป๋าตังค์โดนมือดีจิ๊กเงินไปหมด
มีบัตรประกันสุขภาพ คงได้รับการต้อนรับจากรพ ได้รวดเร็วหน่อยค่ะ
มีติดๆ ไว้บ้างอย่างที่คุณลูกไม่ท้อ มี ก็น่าจะดีนะคะ
คนที่ไม่เหมาะกับการซื้อประกันทั้งประกันหลัก และประกันสุขภาพ น่าจะมีคุณสมบัติคล้ายๆ แบบนี้ค่ะ
1. อายุยืนมาก กำไรต่อเนื่องส่วนใหญ่ในทุกการลงทุน ไม่เคยขาดทุนสุทธิตอนปลายชีวิตเลย
2. อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีห่วงให้กังวลเวลาจากไปแบบไม่คาดฝัน
3. สุขภาพดียอดเยี่ยมตลอดอายุขัย ไม่มีอุบัติเหตุ มะเร็งเรื้อรัง ค่ารักษาตอนป่วยไข้แทบไม่มี หรือถูกมากๆๆ
4. ไม่สนใจการลดหย่อนภาษี จิ๊บๆ แค่เครดิตภาษีจากหุ้น LTF RMF ผ่อนบ้าน ลูกกตัญญ ลูกสองคน บริจาค ทางอื่นๆ ก็เพียบแล้ว
5. ไม่ชอบซื้อประกันภัยชั้น 1 ไม่ว่าจะรถยนต์ ไฟไหม้ โจรกรรม เพราะจ่ายทิ้ง เหมือนประกันสุขภาพ money machine (ตัวของคุณๆ) ที่จ่ายทิ้งเหมือนกัน
ยังไง ถ้าโชคร้ายเจออุบัติเหตุหมดสติ ในกระเป๋าตังค์โดนมือดีจิ๊กเงินไปหมด
มีบัตรประกันสุขภาพ คงได้รับการต้อนรับจากรพ ได้รวดเร็วหน่อยค่ะ
มีติดๆ ไว้บ้างอย่างที่คุณลูกไม่ท้อ มี ก็น่าจะดีนะคะ
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
-
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 16
ประกันชีวิตแบ่งเป็น2ส่วนครับ
คือประกันชีวิต กับประกันสุขภาพ
ประกันชีวิตคล้ายๆกับการออมเงิน
คือส่งไปเท่าไหร่เมื่อครบกำหนดหรือเสียชีวิต
จะได้เงินตามเป้าหมาย
แต่ประกันสุขภาพคือเบิกค่ารักษาพยบาลเวลาเจ็บป่วย
เสียเป็นรายปีถ้าปีไหนไม่ป่วยก็หมดไปคล้ายๆประกันรถ
เวลาเค้าคิดเบี้ยประกันจะเอาสองส่วนมารวมกัน
ถ้าทำส่วนรักษาพยาบาลมาก(เบิกค่าห้องค่าชดเชยสูง)
เวลาคิดผลประโยชน์ที่ได้ตอนครบกำหนดเลยแลดูขาดทุน
คือประกันชีวิต กับประกันสุขภาพ
ประกันชีวิตคล้ายๆกับการออมเงิน
คือส่งไปเท่าไหร่เมื่อครบกำหนดหรือเสียชีวิต
จะได้เงินตามเป้าหมาย
แต่ประกันสุขภาพคือเบิกค่ารักษาพยบาลเวลาเจ็บป่วย
เสียเป็นรายปีถ้าปีไหนไม่ป่วยก็หมดไปคล้ายๆประกันรถ
เวลาเค้าคิดเบี้ยประกันจะเอาสองส่วนมารวมกัน
ถ้าทำส่วนรักษาพยาบาลมาก(เบิกค่าห้องค่าชดเชยสูง)
เวลาคิดผลประโยชน์ที่ได้ตอนครบกำหนดเลยแลดูขาดทุน
หนักแน่นในแนวทางviพันธ์แท้
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 17
ถ้าไม่ค่อยมีเงินเก็บ ก็ควรทำประกันครับ เกิดตายขึ้นมาครอบครัวจะได้เดือดร้อนน้อยหน่อย
ความตายเป็นความเสี่ยงของทุกคนครับ ไม่เชื่อลองทำนายว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่ แล้วตอนตายจริงมาดูว่าถูกต้องหรือเปล่า (แต่จะดูไงหว่า? คงต้องฝากเพื่อน web นี้ดูให้แล้วเอามา post อ่ะนะ -_-')
ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการออม จำได้ว่ามีสูตรคำนวณอยู่ว่า ถ้าเรามีเงินเก็บถึงจุดๆหนึ่งก็จะไม่ต้องซื้อประกันชีวิตอีกต่อไป เพราะต่อให้ตาย เงินก้อนนั้นก็จะให้ ลูกเมียพ่อแม่ ใช้ได้ประมาณ 5 ปี ซึ่ง 5 ปีน่าจะพอสำหรับคนใกล้ชิดที่จะปรับตัว หารายได้จากทางอื่นแล้ว
ดังนั้นคนที่มีเงินเก็บไม่มาก ควรทำประกัน แต่ถ้ารวยแล้วก็ไม่จำเป็นเงินมาเล่นหุ้นดีกว่า
ความตายเป็นความเสี่ยงของทุกคนครับ ไม่เชื่อลองทำนายว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่ แล้วตอนตายจริงมาดูว่าถูกต้องหรือเปล่า (แต่จะดูไงหว่า? คงต้องฝากเพื่อน web นี้ดูให้แล้วเอามา post อ่ะนะ -_-')
ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการออม จำได้ว่ามีสูตรคำนวณอยู่ว่า ถ้าเรามีเงินเก็บถึงจุดๆหนึ่งก็จะไม่ต้องซื้อประกันชีวิตอีกต่อไป เพราะต่อให้ตาย เงินก้อนนั้นก็จะให้ ลูกเมียพ่อแม่ ใช้ได้ประมาณ 5 ปี ซึ่ง 5 ปีน่าจะพอสำหรับคนใกล้ชิดที่จะปรับตัว หารายได้จากทางอื่นแล้ว
ดังนั้นคนที่มีเงินเก็บไม่มาก ควรทำประกัน แต่ถ้ารวยแล้วก็ไม่จำเป็นเงินมาเล่นหุ้นดีกว่า
I do not sleep. I dream.
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 19
มันง่ายไปกระมั้งครับวิธีคิดลูกไม่ท้อ เขียน:ผมว่าสิ่งที่คนทำประกันไม่เคยคิดก็คือการคิดย้อนหามูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบันนะ ทำให้โดนตัวเลขหลอกว่าเราขาดทุนไม่มากเท่าไหร่
มีตัวแทนประกันคนหนึ่งมาคุยกับผมว่า ให้ผมจ่ายเงินไป 25000 บาททุกปี แล้วในอีกห้าสิบปีข้างหน้าผมจะได้เงินกลับคืนมาเท่ากับ 1,000,000 บาท
ถ้าเอา 25,000 คูณ ห้าสิบ เลยก็ได้ 1,250,000 บาท ดูเหมือนว่าขาดทุนไปแค่ สองแสนห้าหมืน ถือไปซะว่า สองแสนห้าหมื่นนี้เป็นค่าสำหรับประกันเรื่องสุขภาพ และ ประกันชีวิตให้เรา ก็แสดงว่าตกปีละ ห้าพันบาทเอง
คนขายประกัน บอกไม่หมดครับ
ทุก5ปี ทางบริษัทก็ยังเก็บเพิ่ม
ที่บ้านผมก็ทำประกัน 11 ฉบับ
คำว่าขาดทุนนั่นขาดทุนแน่ เพราะแลกกับการคุ้มครอง
ส่วนซื้อประกันสุขภาพนั้น ก็กินขาดทุนปี ไม่ได้ผูกพันคืนให้สิ้นสุดสัญญา
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 21
ไม่รู้คุณ beammy มีครอบครัวหรือยัง ถ้ามีความคิดก็จะเปลี่ยนไปเอง
ทำธุรกิจก็ต้องป้องกันความเสี่ยง
ครอบครัวก็ต้องป้องกันความเสี่ยง อย่ามองประกันในแง่ลบอย่างเดียว
คนขายประกันบ้านเรามักจะพูดแต่เรื่องการออม จริงๆสาระของการทำประกัน
คือป้องกันความเสี่ยง ที่ทุกคนควรทำ ยกเว้น คนรวย ที่เกิดอะไรขึ้นก็มีกินอยู่แล้ว
ทำธุรกิจก็ต้องป้องกันความเสี่ยง
ครอบครัวก็ต้องป้องกันความเสี่ยง อย่ามองประกันในแง่ลบอย่างเดียว
คนขายประกันบ้านเรามักจะพูดแต่เรื่องการออม จริงๆสาระของการทำประกัน
คือป้องกันความเสี่ยง ที่ทุกคนควรทำ ยกเว้น คนรวย ที่เกิดอะไรขึ้นก็มีกินอยู่แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 22
ประเด็นของผมtt เขียน:ไม่รู้คุณ beammy มีครอบครัวหรือยัง ถ้ามีความคิดก็จะเปลี่ยนไปเอง
ทำธุรกิจก็ต้องป้องกันความเสี่ยง
ครอบครัวก็ต้องป้องกันความเสี่ยง อย่ามองประกันในแง่ลบอย่างเดียว
คนขายประกันบ้านเรามักจะพูดแต่เรื่องการออม จริงๆสาระของการทำประกัน
คือป้องกันความเสี่ยง ที่ทุกคนควรทำ ยกเว้น คนรวย ที่เกิดอะไรขึ้นก็มีกินอยู่แล้ว
ก้อคือ "อยากเป็นคนรวย" นี่แหละครับพี่
ป.ล. อีก 13 ปี ผมถึงจะมีครอบครัวเอง ครับ 8) ...
- chaiyos
- Verified User
- โพสต์: 177
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 23
"ความตาย" ไม่ใช่ความเสี่ยง แต่เป็นความแน่แท้
แต่เป็นความแน่แท้ ที่คนส่วนมากกลัว
ห่วงว่าจะสูญเสีย ทรัพย์สินคิดว่าเป็นของตนไป
ห่วงว่าคนที่ตนรักและผูกพัน จะลำบาก
ความตายเป็นของแน่แท้ แก้ไขไม่ได้
ความกลัวนั้นไม่แน่แท้ แก้ไขได้ด้วยปัญญา
มิใช่ด้วยเงินตรา
^.^
แต่เป็นความแน่แท้ ที่คนส่วนมากกลัว
ห่วงว่าจะสูญเสีย ทรัพย์สินคิดว่าเป็นของตนไป
ห่วงว่าคนที่ตนรักและผูกพัน จะลำบาก
ความตายเป็นของแน่แท้ แก้ไขไม่ได้
ความกลัวนั้นไม่แน่แท้ แก้ไขได้ด้วยปัญญา
มิใช่ด้วยเงินตรา
^.^
^.^
Tick...Tick...Tick...Tick...Tick
Tick...Tick...Tick...Tick...Tick
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 24
อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจครับ
ผมคิดว่า น่าจะคิดความคุ้มค่าได้ 2 วิธีหลักๆคือ
1. Present Value
1.1 โดย Discount เงิน 1 ล้านบาท ใน 50 ปีข้างหน้ามาเป็นมูลค่าปัจจุบัน (PV)
1.2 Discount งวดผ่อนส่ง 25,000 ในแต่ละงวดจากนั้นนำมารวมกัน
จากนั้นเปรียบเทียบระหว่าง 1.1 กับ 1.2
2. Future Value
หา FV ของงวดผ่อนส่ง 25,000 ทุกงวดไปเป็นมูลค่าในอนาคต (ปีที่ 50)
จากนั้นนำไปเทียบกับเงิน 1 ล้านบาท
ปล. Discount rate อาจจะใช้ Risk Free Rate ได้
(ถ้าเราไม่เอาเงินมาซื้อกรรมธรรม์ เราสามารถนำเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทนเท่ากับ Risk Free Rate)
และควรนำสิทธิทางภาษีที่เราได้ตลอดอายุกรรธรรม์มาคำนวณร่วมด้วย
นำวิธีการดังกล่าว ข้างต้นไปเปรียบเทียบระหว่างแต่ละบริษัทได้ครับ
ว่าบริษัทไหน เงื่อนไขดีที่สุด
แต่ผมก็ไม่เคยทำหรอกครับ ...
ผมซื้อกรรธรรมม์แรกเพราะคนขายน่ารัก
กรมธรรม์ที่สองเพราะพ่วงมากับการขอกู้ซื้อคอนโด ถ้าไม่ทำกลัวกู้ไม่ผ่าน... :lol:
ผมคิดว่า น่าจะคิดความคุ้มค่าได้ 2 วิธีหลักๆคือ
1. Present Value
1.1 โดย Discount เงิน 1 ล้านบาท ใน 50 ปีข้างหน้ามาเป็นมูลค่าปัจจุบัน (PV)
1.2 Discount งวดผ่อนส่ง 25,000 ในแต่ละงวดจากนั้นนำมารวมกัน
จากนั้นเปรียบเทียบระหว่าง 1.1 กับ 1.2
2. Future Value
หา FV ของงวดผ่อนส่ง 25,000 ทุกงวดไปเป็นมูลค่าในอนาคต (ปีที่ 50)
จากนั้นนำไปเทียบกับเงิน 1 ล้านบาท
ปล. Discount rate อาจจะใช้ Risk Free Rate ได้
(ถ้าเราไม่เอาเงินมาซื้อกรรมธรรม์ เราสามารถนำเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทนเท่ากับ Risk Free Rate)
และควรนำสิทธิทางภาษีที่เราได้ตลอดอายุกรรธรรม์มาคำนวณร่วมด้วย
นำวิธีการดังกล่าว ข้างต้นไปเปรียบเทียบระหว่างแต่ละบริษัทได้ครับ
ว่าบริษัทไหน เงื่อนไขดีที่สุด
แต่ผมก็ไม่เคยทำหรอกครับ ...
ผมซื้อกรรธรรมม์แรกเพราะคนขายน่ารัก
กรมธรรม์ที่สองเพราะพ่วงมากับการขอกู้ซื้อคอนโด ถ้าไม่ทำกลัวกู้ไม่ผ่าน... :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 25
[quote="ลูกไม่ท้อ"]ผมว่าสิ่งที่คนทำประกันไม่เคยคิดก็คือการคิดย้อนหามูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบันนะ ทำให้โดนตัวเลขหลอกว่าเราขาดทุนไม่มากเท่าไหร่
มีตัวแทนประกันคนหนึ่งมาคุยกับผมว่า ให้ผมจ่ายเงินไป 25000 บาททุกปี แล้วในอีกห้าสิบปีข้างหน้าผมจะได้เงินกลับคืนมาเท่ากับ 1,000,000 บาท
ถ้าเอา 25,000 คูณ ห้าสิบ เลยก็ได้ 1,250,000 บาท ดูเหมือนว่าขาดทุนไปแค่ สองแสนห้าหมืน ถือไปซะว่า สองแสนห้าหมื่นนี้เป็นค่าสำหรับประกันเรื่องสุขภาพ และ ประกันชีวิตให้เรา ก็แสดงว่าตกปีละ ห้าพันบาทเอง
หารู้ไม่ว่า ถ้าเอามาคิดในแบบค่าเงินปัจจุบัน
จะได้ตามตารางนี้
1 25000 25000
2 25000 23809.52381
3 25000 22675.73696
4 25000 21595.93996
5 25000 20567.56187
6 25000 19588.15416
7 25000 18655.38492
8 25000 17767.03325
9 25000 16920.98405
10 25000 16115.22291
11 25000 15347.83134
12 25000 14616.98223
13 25000 13920.93545
14 25000 13258.03377
15 25000 12626.69882
16 25000 12025.42745
17 25000 11452.78805
18 25000 10907.41719
19 25000 10388.01637
20 25000 9893.348925
21 25000 9422.237072
22 25000 8973.559116
23 25000 8546.246777
24 25000 8139.282645
25 25000 7751.697757
26 25000 7382.569292
27 25000 7031.018374
28 25000 6696.207975
29 25000 6377.340929
30 25000 6073.658027
31 25000 5784.436216
32 25000 5508.986873
33 25000 5246.654165
34 25000 4996.81349
35 25000 4758.869991
36 25000 4532.257134
37 25000 4316.435366
38 25000 4110.890824
39 25000 3915.134118
40 25000 3728.69916
41 25000 3551.142058
42 25000 3382.040055
43 25000 3220.990528
44 25000 3067.610027
45 25000 2921.533359
46 25000 2782.412723
47 25000 2649.916879
48 25000 2523.730361
49 25000 2403.552725
50 25000 2289.097833
ค่ารวมมูลค่าปัจจุบัน 479218.0433
( คิดค่า k ที่ 0.05 )
แต่ว่าพอได้เงินไปประมาณห้าแสนบาทดังกล่าว ในปีแรกเค้าก็เอาเงินไปฝากธนาคารแค่
มีตัวแทนประกันคนหนึ่งมาคุยกับผมว่า ให้ผมจ่ายเงินไป 25000 บาททุกปี แล้วในอีกห้าสิบปีข้างหน้าผมจะได้เงินกลับคืนมาเท่ากับ 1,000,000 บาท
ถ้าเอา 25,000 คูณ ห้าสิบ เลยก็ได้ 1,250,000 บาท ดูเหมือนว่าขาดทุนไปแค่ สองแสนห้าหมืน ถือไปซะว่า สองแสนห้าหมื่นนี้เป็นค่าสำหรับประกันเรื่องสุขภาพ และ ประกันชีวิตให้เรา ก็แสดงว่าตกปีละ ห้าพันบาทเอง
หารู้ไม่ว่า ถ้าเอามาคิดในแบบค่าเงินปัจจุบัน
จะได้ตามตารางนี้
1 25000 25000
2 25000 23809.52381
3 25000 22675.73696
4 25000 21595.93996
5 25000 20567.56187
6 25000 19588.15416
7 25000 18655.38492
8 25000 17767.03325
9 25000 16920.98405
10 25000 16115.22291
11 25000 15347.83134
12 25000 14616.98223
13 25000 13920.93545
14 25000 13258.03377
15 25000 12626.69882
16 25000 12025.42745
17 25000 11452.78805
18 25000 10907.41719
19 25000 10388.01637
20 25000 9893.348925
21 25000 9422.237072
22 25000 8973.559116
23 25000 8546.246777
24 25000 8139.282645
25 25000 7751.697757
26 25000 7382.569292
27 25000 7031.018374
28 25000 6696.207975
29 25000 6377.340929
30 25000 6073.658027
31 25000 5784.436216
32 25000 5508.986873
33 25000 5246.654165
34 25000 4996.81349
35 25000 4758.869991
36 25000 4532.257134
37 25000 4316.435366
38 25000 4110.890824
39 25000 3915.134118
40 25000 3728.69916
41 25000 3551.142058
42 25000 3382.040055
43 25000 3220.990528
44 25000 3067.610027
45 25000 2921.533359
46 25000 2782.412723
47 25000 2649.916879
48 25000 2523.730361
49 25000 2403.552725
50 25000 2289.097833
ค่ารวมมูลค่าปัจจุบัน 479218.0433
( คิดค่า k ที่ 0.05 )
แต่ว่าพอได้เงินไปประมาณห้าแสนบาทดังกล่าว ในปีแรกเค้าก็เอาเงินไปฝากธนาคารแค่
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 857
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 26
ประกันเราสามารถแยกออกเป็นสามส่วนนะครับ
1. ประกันชีวิต -> พื้นฐานของระบบประกันจริง ๆ คือ แชร์ความเสี่ยงเวลาเกิดอุบัติเหตุจนพิการหรือตาย
2. ประกันสุขภาพ -> ประกันว่าเวลาไม่สบายมีคนจ่ายแทน
3. ออมทรัพย์ -> อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยว แต่บริษัทประกันนิยมเอามารวมไปมาก เริ่มฮิตเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่สมัยดอกเบี้ยลดฮวบ ๆ AIA ออกประกันแนวนี้ออกมาโฆษณาว่าผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ย ซึ่งที่จริงมันไม่ได้ดีกว่า แต่คนขายประกันเองส่วนใหญ่ก็เชื่อตามนั้นเพราะถูกสอนตัวเลขง่าย ๆ มา คนมีเงินเก็บเลยนิยมทำกันมากเพราะเชื่อคนขาย
ข้อ 1. อันนี้ผมคิดว่าควรทำเป็นอย่างยิ่ง แต่คนขายประกันจะค้อนเอา เพราะเบี้ยประกันในส่วนนี้จะน้อยมาก ๆ ถ้าไม่ใช่คนขายที่จรรยาบรรณดีมั่ก ๆ มักจะหลีกเลี่ยงไม่ยอมขายประเภทนี้ให้ -> ผมซื้อแต่แบบนี้เป็นหลักแบบสองนิดหน่อย
ข้อ 2 ถ้ามีสวัสดิการไม่ว่าจะจากรัฐหรือบริษัทจะไม่ค่อยจำเป็น ยกเว้นแต่คุณอยากเข้า BH, BGH, .... ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ก็ควรทำ
ข้อ 3 ที่จริงค่อนข้างคล้ายกับฝากประจำ ถ้าตัวเราไม่ค่อยมีวินัยก็ช่วยได้ แต่ต้องแยกให้ออกจาก 1,2 ต้องรู้ตัวว่ายอดฝากจริงเท่าไหร่ประกันเท่าไหร่ สำหรับนักลงทุนแล้วข้อนี้ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะมีอะไรอย่างอื่นให้ลงทุนได้ผลตอบแทนดีกว่า
1. ประกันชีวิต -> พื้นฐานของระบบประกันจริง ๆ คือ แชร์ความเสี่ยงเวลาเกิดอุบัติเหตุจนพิการหรือตาย
2. ประกันสุขภาพ -> ประกันว่าเวลาไม่สบายมีคนจ่ายแทน
3. ออมทรัพย์ -> อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยว แต่บริษัทประกันนิยมเอามารวมไปมาก เริ่มฮิตเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่สมัยดอกเบี้ยลดฮวบ ๆ AIA ออกประกันแนวนี้ออกมาโฆษณาว่าผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ย ซึ่งที่จริงมันไม่ได้ดีกว่า แต่คนขายประกันเองส่วนใหญ่ก็เชื่อตามนั้นเพราะถูกสอนตัวเลขง่าย ๆ มา คนมีเงินเก็บเลยนิยมทำกันมากเพราะเชื่อคนขาย
ข้อ 1. อันนี้ผมคิดว่าควรทำเป็นอย่างยิ่ง แต่คนขายประกันจะค้อนเอา เพราะเบี้ยประกันในส่วนนี้จะน้อยมาก ๆ ถ้าไม่ใช่คนขายที่จรรยาบรรณดีมั่ก ๆ มักจะหลีกเลี่ยงไม่ยอมขายประเภทนี้ให้ -> ผมซื้อแต่แบบนี้เป็นหลักแบบสองนิดหน่อย
ข้อ 2 ถ้ามีสวัสดิการไม่ว่าจะจากรัฐหรือบริษัทจะไม่ค่อยจำเป็น ยกเว้นแต่คุณอยากเข้า BH, BGH, .... ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ก็ควรทำ
ข้อ 3 ที่จริงค่อนข้างคล้ายกับฝากประจำ ถ้าตัวเราไม่ค่อยมีวินัยก็ช่วยได้ แต่ต้องแยกให้ออกจาก 1,2 ต้องรู้ตัวว่ายอดฝากจริงเท่าไหร่ประกันเท่าไหร่ สำหรับนักลงทุนแล้วข้อนี้ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะมีอะไรอย่างอื่นให้ลงทุนได้ผลตอบแทนดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
ฉ้อโกงของตัวแทน
โพสต์ที่ 27
ตัวแทนประกันชีวิต ชื่อนี้กันหรือเปล่า
นางจิดาภา หรือ จิฎามาศ กิติสิน และนายปิติพจน์ กิติสิน
เห็นข่าวใน Bangkok Post บอกว่า โกงเงินลูกค้า
แถบบางบอน หนองแขม กระทุ่มแบน ไป 47 ล้านบาท
มีวิธีโกงอยู่แบบหนึ่ง คือ เอาเบี้ยที่ได้จากลูกค้ามาเข้ากระเป๋าตัว
แล้วอ้างกับบ.ประกันว่า ลูกค้าจะไม่จ่ายเบี้ยแล้ว
แต่จะต่ออายุกรมธรรม์ โดยกู้จากเงินเดิมที่ฝากไว้กับบริษัท
(อันนี้ก็แปลก ไม่ได้รับใบเสร็จตัวจริง แต่ไม่ยอมโวยกัน อืมม )
บางวิธีก็ไปยกเลิกกรมธรรม์ลูกค้าดื้อๆ แล้วรับเช็คมาเอง
แต่จะหว่านล้อมให้ลูกค้าฝากเงินต่อกับธนาคาร
แล้วก็อาศัยความไว้ใจ ขอลายเซ็นต์ในใบฝากถอนเงิน
และเก็บ Book Bank ของลูกค้าไว้เลย
(ทำไมเค้ายอมเซ็นต์ให้นะ :shock: )
ตอนนี้อยู่ในคุกแล้วค่ะ
AACP จะจ่ายคืนแค่ 30 ล้านเฉพาะกับที่เค้ามีหลักฐาน
หรือใบเสร็จชั่วคราวเท่านั้น ที่เหลือ คงต้องไปฟ้องกันเอาเอง
ข่าวค่อนข้างเงียบนะ เห็นแค่ที่นี่ที่เดียวเอง
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=th ... cat_id=600
นางจิดาภา หรือ จิฎามาศ กิติสิน และนายปิติพจน์ กิติสิน
เห็นข่าวใน Bangkok Post บอกว่า โกงเงินลูกค้า
แถบบางบอน หนองแขม กระทุ่มแบน ไป 47 ล้านบาท
มีวิธีโกงอยู่แบบหนึ่ง คือ เอาเบี้ยที่ได้จากลูกค้ามาเข้ากระเป๋าตัว
แล้วอ้างกับบ.ประกันว่า ลูกค้าจะไม่จ่ายเบี้ยแล้ว
แต่จะต่ออายุกรมธรรม์ โดยกู้จากเงินเดิมที่ฝากไว้กับบริษัท
(อันนี้ก็แปลก ไม่ได้รับใบเสร็จตัวจริง แต่ไม่ยอมโวยกัน อืมม )
บางวิธีก็ไปยกเลิกกรมธรรม์ลูกค้าดื้อๆ แล้วรับเช็คมาเอง
แต่จะหว่านล้อมให้ลูกค้าฝากเงินต่อกับธนาคาร
แล้วก็อาศัยความไว้ใจ ขอลายเซ็นต์ในใบฝากถอนเงิน
และเก็บ Book Bank ของลูกค้าไว้เลย
(ทำไมเค้ายอมเซ็นต์ให้นะ :shock: )
ตอนนี้อยู่ในคุกแล้วค่ะ
AACP จะจ่ายคืนแค่ 30 ล้านเฉพาะกับที่เค้ามีหลักฐาน
หรือใบเสร็จชั่วคราวเท่านั้น ที่เหลือ คงต้องไปฟ้องกันเอาเอง
ข่าวค่อนข้างเงียบนะ เห็นแค่ที่นี่ที่เดียวเอง
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=th ... cat_id=600
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 28
ผมอ่านเจอว่า
ประกันคือการลดความเสี่ยง ดังนั้นคือการจ่ายซื้อความสบายใจ ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น จะเสียหายน้อยลง หรือกรณีตาย หรือด้วนจนทำมาหากินไม่ได้ ก็จะได้เงินชดเชย แต่ถ้าเราปกติดี ก็ต้องจ่ายกันต่อไป
หากคิดว่าการทำประกันแล้ว หวังเงินเติบโต มันไม่ใช่แน่นอน อย่าเอามาหลงรวมกัน
แล้วมีบอกว่า ควรทำประกันเมื่อต้องใช้ การทำประกันต้องทำก่อนใช้ครับ ถ้าป่วยแล้วทำประกัน โรคที่ป่วยอยู่ประกันไม่จ่ายให้ครับ ต้องทำก่อนป่วย ทำก่อนตาย ถึงจะได้เงินตามที่ตกลง
ประกันคือการลดความเสี่ยง ดังนั้นคือการจ่ายซื้อความสบายใจ ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น จะเสียหายน้อยลง หรือกรณีตาย หรือด้วนจนทำมาหากินไม่ได้ ก็จะได้เงินชดเชย แต่ถ้าเราปกติดี ก็ต้องจ่ายกันต่อไป
หากคิดว่าการทำประกันแล้ว หวังเงินเติบโต มันไม่ใช่แน่นอน อย่าเอามาหลงรวมกัน
แล้วมีบอกว่า ควรทำประกันเมื่อต้องใช้ การทำประกันต้องทำก่อนใช้ครับ ถ้าป่วยแล้วทำประกัน โรคที่ป่วยอยู่ประกันไม่จ่ายให้ครับ ต้องทำก่อนป่วย ทำก่อนตาย ถึงจะได้เงินตามที่ตกลง
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทประกันเอาเงินผมไปห้าแสนแต่จ่ายคือเก้าหมื่น
โพสต์ที่ 29
ผมเคย ลากเพื่อนที่จะมาขายประกัน
คิดแบบนี้ให้มันดูครับ
มันเลิกคิดขายผมเลย
ทีแรก บอกว่า ไม่ขาดทุน
ผมทำให้มันเห็นว่า ผมขาดทุน
มันเลยบอกว่า บ ประกัน ไม่ใช่องค์กรการกุศล
กวนไหม
คิดแบบนี้ให้มันดูครับ
มันเลิกคิดขายผมเลย
ทีแรก บอกว่า ไม่ขาดทุน
ผมทำให้มันเห็นว่า ผมขาดทุน
มันเลยบอกว่า บ ประกัน ไม่ใช่องค์กรการกุศล
กวนไหม
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com