คิดอย่างไรกับ กองทุนรวม CPN รีเทล โกรท จะไปจอง กันไหมคะ

[joy]

ชาว TVI คิดอย่างไรกับ กองทุนรวม CPN รีเทล โกรท จะไปจอง กันไหมคะ
(www.tmbam.com)

[jaychou]

ไม่จองครับ กองทุนอสังหาเป็นกองทุนปิด คนไทยไม่ค่อยเล่นหน่วยลงทุน
พวกที่จองเงินเย็นเจี๊ยบและอยากได้ล๊อตใหญ่ๆ รายที่จองแล้วต้องการใช้เงินก้อต้องตัดใจขายลดเหลือถูกๆ ในตลาด ไม่มีสภาพคล่อง

ดังนั้นถ้าอยากได้ปันผล รอซื้อในตลาดก็ได้ เห็นราคาต่ำจองทุกกองทุนเลยนะครับ BOAAPF TFUND BKKCP ลงทุกกองเลย รอๆหน่อยครับ ปัญหาคือคุณทนเห็นราคาหน่วยถูกลงไปได้มากขนาดไหน โดยไม่คิด Cut loss ล่ะครับ

[Viewtiful Investor]

เท่าที่ดูมี 5 กองทุน ที่ต่ำจองก็มี 3 ตัว ที่คุณ jaychou บอก
tif1 เท่าจอง
mipf เหนือจองได้ 40 สตางค์

ก็แปลกดีนะครับ ออกมากี่กองๆก็ร่วงหมด แล้วต่อไปใครจะมาลงทุนละครับ???

เพื่อนนักลงทุนบอกว่า กองทุนพวกนี้เค้าซื้อเก็งกำไรกัน พอไม่ได้ดังใจเลยยอมขายทิ้ง ไปเล่นอย่างอื่น........

ให้มันได้อย่างนี้ซิ

[joy]

ขอบคุณมากๆๆ คะ ดีจังที่มี web thaivi

[ChoNgMinG]

เท่าที่ดูมี 5 กองทุน ที่ต่ำจองก็มี 3 ตัว ที่คุณ jaychou บอก
tif1 เท่าจอง
mipf เหนือจองได้ 40 สตางค์

ก็แปลกดีนะครับ ออกมากี่กองๆก็ร่วงหมด แล้วต่อไปใครจะมาลงทุนละครับ???

เพื่อนนักลงทุนบอกว่า กองทุนพวกนี้เค้าซื้อเก็งกำไรกัน พอไม่ได้ดังใจเลยยอมขายทิ้ง ไปเล่นอย่างอื่น........

ให้มันได้อย่างนี้ซิ

ผมว่าอย่าเข้าใจ concept ของการลงทุนในกองทุนอสังหาผิดก็จะดีนะครับ
เพราะคิดว่าเราลงทุนอสังหา โดยซื้อกองทุนเนี่ย มันมีสภาพคล่องสูงกว่าเราซื้อทรัพย์สินในกองนั้นๆอยู่แล้ว แถมยังซื้อลงทุนได้ทั้งที่ทุนน้อย ฯลฯ

การที่คิดว่าจะมาซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือเอา capital gain ค่อนข้างจะผิดนะครับ พวกสถาบันที่ลงทุนถึงไม่ค่อยเทรดไงครับ แต่ถ้ากองดีจริง ก้จะดักเก็บในตลาดรองเมื่อราคาลง คอยดูไว้ครับลงได้ไม่เยอะหรอกครับ

[Viewtiful Investor]

เอา capital gain ค่อนข้างจะผิดนะครับ พวกสถาบันที่ลงทุนถึงไม่ค่อยเทรดไงครับ แต่ถ้ากองดีจริง ก้จะดักเก็บในตลาดรองเมื่อราคาลง คอยดูไว้ครับลงได้ไม่เยอะหรอกครับ

อันนี้ผมว่าไม่จริงเสมอไปนะ อย่าง BKKCP เคยลงมาถึง 8.3 บาท -17% ไม่เยอะหรือครับ?

ส่วนเรื่อง  Cap Gain ลองคิดดูว่าถ้าในอนาคตมีกองทุนอสังหาที่ สามารถปันผลได้ 1 บาท/ปี  ราคาคงไม่ยืนอยู่ที่ 10 บาท แน่ๆครับ เช่นกันถ้าเกิดกองทุนหนึ่งปันผลได้น้อยกว่ากองทุนอื่นๆราคาตลาดก็ควรจะน้อยกว่า

ดังนั้นจะลงทุนต้องเลือกให้ดี ไม่ใช่คิดว่า เป็น Property Fund แล้ว ไม่ต้องกลัวขาดทุนนะครับ

มันมีสภาพคล่องสูงกว่าเราซื้อทรัพย์สินในกองนั้นๆอยู่แล้ว

อันนี้จริงครับ แต่ว่า เวลากู้เงิน ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถเอา Property Fund มาลงเป็น Collateral ได้ ในขณะที่ อสังหาของจริงทำได้ นี่อาจจะเป็น Downside ของกองทุนแบบนี้เมื่อเทียบกับการลงทุนในอสังหาโดยตรง
แต่ถ้าได้ฝากบอกผมด้วยนะว่า bank ไหนให้มั่ง

[ChoNgMinG]

อันนี้ผมว่าไม่จริงเสมอไปนะ อย่าง BKKCP เคยลงมาถึง 8.3 บาท -17% ไม่เยอะหรือครับ?

ส่วนเรื่อง

[tummeng]

ของผมนี่อาทิตย์ที่แล้วตั้งซื้อ TFUND ไว้เล่นๆๆ 9.90 บาท
มีคนโยนมาให้เฉย หุ้นก็ยังไม่เริ่มปันผลเลย เลยขอเก็บไว้ลงทุนซักหน่อยน่ะครับ

คิดง่ายๆๆ ว่าพวกกองทุน หรือ คนอื่นทั้งหลายซื้อกัน 10 บาท แต่เราซื้อที่ลดกว่าหน่อย แถมมาซื้อเอาตอนเดือน 8 ซึ่งปันผลครั้งแรกจะเริ่มวันที่ 12 กันยายน 2548

ก็น่านะโอเคน่ะครับ เพราะ ตอนแรกตั้งใจจะซื้ออยู่แล้วด้วยน่ะครับ

[สุมาอี้]

pre-tax expected return
-พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี = 4.97%
-หู้นกู้ ฺฺฺBBB = 7.7%
-หุ้นไทย = 11.22% (1/pe, ปีหน้าคาดว่ากำไรบจ.ประมาณเท่าเดิม)

CPNRF มีสัญญาเช่า 1 ปีข้างหน้าหักด้วยค่าใช้จ่ายแล้วให้ expected return 7% แต่ตอนนี้ราคาตลาด 11 บาท แสดงว่า expected return = 6.3% เท่านั้น(6.3*10/11) แสดงว่าที่ราคานี้ CPNRF มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นกู้ investment grade อีก

ราคาแพงไปแล้วหรือเปล่า?

[jaychou]

แล้วไม่คิดไถ่ถอนเหรอครับพี่สุมาอี้ ? CPNRF มีไถ่ถอนหน่วยลงทุนหรือเปล่า
ถ้าไม่มีรับประกันเงินต้นคืน จะคิดเหมือนหุ้นกู้ไม่ได้นา

[สุมาอี้]

CPNRF เป็นกองทุนปิด redeem ไม่ได้ แต่เนื่องจากถูกนำไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงสามารถขายทิ้งในตลาดได้ เป็นการเปลี่ยนมือครับ

ตามทฤษฏีการเงิน หุ้นกู้ที่เป็น investment grade ต้องมี expected return ต่ำกว่า  CPNRF หรือ หุ้นทุกตัวในตลาด เพราะให้ผลตอบแทนที่แน่นอนไม่หวาดเสียว แต่ตอนนี้ดูเหมือน CPNRF จะต่ำกว่าแล้ว ซึ่งเป็นไปได้สองอย่าง

1. ตลาดคิดว่า CPNRF เสี่ยงน้อยกว่าหุ้นกู้
2. CPNRF กำลัง overvalued

แต่คิดว่าน่าจะเป็นข้อ 2 มากกว่า

[Viewtiful Investor]

-หู้นกู้ ฺฺฺBBB = 7.7%

คนทั่วไปจะซื้อได้ยังไงครับ ผมเห็นส่วนใหญ่พวกกองทุนก็เอาไปกินหมด ผมก็ต้องไปซื้อ กองทุนอีกที เสียค่าต่างๆ ~1% (ถ้าจำไม่ผิด)  :evil:

แล้วรายได้จากดอกเบี้ยก็ต้องเสียภาษีด้วย แต่ปันผลของ Property Fund คนทั่วไปจ่ายแค่ 10% แล้วไม่ต้องนำมาคิดเป็นรายได้

ถ้าจะให้เลือกระหว่าง หุ้นกู้ กับ Property Fund ผมว่าอย่างหลังจะเหมาะกับรายย่อยมากกว่านะครับ

ส่วนเรื่อง CPNRF ผมมองว่า กองทุนอสังหาฯที่ยังไม่เริ่มปันผล แต่มาขายที่ราคา premium ราคาคงลอยอยู่บนความคาดหวังซะมากกว่า

ส่วนคนที่จองได้คง Happy สุดๆ ดีใจด้วยคร้าบ  :cheers:

[สุมาอี้]

คือไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่า Property Fund ไม่น่าลงทุนอ่ะครับ แค่เสนอประเด็นว่าราคาของ CPNRF ตอนนี้ถูกหรือแพง

Property Fund ตัวอื่น ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง เพราะผมไม่มีข้อมูลว่าอีก 12 เดือนข้างหน้ามี expected return ประมาณเท่าไร บังเอิญ CPNRF มีข้อมูลตรงนี้อยู่ก็เลยเอามาวิเคราะห์อ่ะครับ

[Viewtiful Investor]

คือไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่า Property Fund ไม่น่าลงทุนอ่ะครับ

ผมก็ไม่ได้ว่าอย่างนั้น....แต่ผมอยากรู้ว่าถ้ารายย่อยไม่ลงทุนในหุ้นแล้วจะลงทุนในตารสารหนี้ โดยตรงจะทำได้ยังไง

แล้วผมมองว่า Property Fund สามารถช่วยเติมเต็ม ส่วนที่ขาดไปได้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากองทุนไหนจะสร้างผลตอบแทนน่าประทับใจจนคนหันมาสนใจการลงทุนทางเลือกนี้ แต่การที่เราเริ่มศึกษาอะไรก่อนคนอื่นมันเป็นข้อได้เปรียบนะครับ เลยอยากให้ vi ทั้งหลาย (โดยเฉพาะคนที่เล่นหุ้นแล้วไม่ประสบความสำเร็จ) ลองมองทางเลือกอื่นดูบ้างง่ะ

[TNK]

คุณสุมาอี้ครับ

ผมคิดว่าการเปรียบเทียบ cpnrf กับ หุ้นกู้นั้นทำได้ยากครับ จากเหตุผลข้างล่างนี้

1. cpnrf จะหมดค่าทันที่เมื่อหมดสัญญาเซ้ง (ในกรณียาวนานถึง 90 ปี) แต่มีความเสี่ยงเรื่องการต่ออายุสัญญาทุกๆ 30 ปี ส่วนหุ้นกู้เมื่อครบอายุจะยังเหลือเงินต้นอยู่

2. รายได้จากหุ้นกู้คือ ดอกเบี้ยคือ 7.7% ของเงินต้นทุกๆ ปี เป็นอย่างนี้เรื่อยไป ไม่ว่าเงินเฟ้อมากหรือน้อยก็ตาม เช่น ได้ 7700 บาท ก็จะได้แค่นี้ทุกปีแน่นอน (เทียบกับข้าวแกงจานละ 30 บาท) แต่ cpnrf ให้ผลตอบแทนเป็นค่าเช่า ซึ่ง 7% ในที่นี้จะมีค่าเทียบกับเงิน 7000 บาทที่ราคาข้าวแกงจานละ 30 บาท หาก10 ปีข้างหน้า แนวโน้มข้าวแกงหรือค่าเช่าก็ขึ้นไปเรื่อย ๆ ผลตอบแทนก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 8500 บาทเป็นต้น แต่มีความเสี่ยงในการหาผู้เช่าในพื้นที่ห้าง

หากต้องการเปรียบเทียบหุ้นกู้กับกองทุนรวมอสังหาฯ คงต้องเทียบกับของแสนสิริครับ จะใกล้เคียงกันมากกว่า ส่วน cpnrf ผมคิดว่าคล้ายๆ กับการซื้อ franchise ครับ

[สุมาอี้]

เทียบกันได้แต่ไม่ได้เทียบว่าต้องได้เท่ากัน อันไหนเสี่ยงกว่าควรได้ผลตอบแทนมากกว่า

ถ้าหุ้นกู้สามารถซื้อได้ที่ yield 7.7% ทั้งที่เสี่ยงน้อยกว่า cpnrf ดังนั้น rational investor ควรเอาเงินไปซื้อหุ้นกู้มากกว่า อันนี้ไม่ต้องตอบคำถามเลยด้วยซ้ำว่า risk premium ควรเป็นเท่าไร เพราะ 7% น้อยกว่า 7.7% แน่นอน แต่ถ้า cpnrf เกิดได้ 8% อันนี้ฟันธงไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่า เพราะประเมินได้ยากว่า risk premium 1% นี่มันมากหรือน้อยเกินไปเมื่อเที่ยบกับความเสี่ยงที่มากขึ้น

ประมาณนี้อ่ะครับ