ย้อนยุทธ์ ตอนที่ 4 โปรโมชั่น สนั่นเมือง
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ย้อนยุทธ์ ตอนที่ 4 โปรโมชั่น สนั่นเมือง
โพสต์ที่ 1
ตอนที่ 4 โปรโมชั่น สนั่นเมือง
แจกเงินล้าน.... แจกทอง.... แจกโชค 2 ชั้น
จั่วหัวราวกับเป็น เศรษฐีพันล้าน เปล่าหรอกครับ กูรูขอบสนามไม่มีทรัพย์สินมากถึงเพียงนั้น (สู้เพื่อนๆชาว VI ในนี้ไม่ได้แน่นอน) อย่างมากก็เป็นได้แค่เศษธุลีของเศรษฐี อย่างไรเสียก็อ่านพ้องเสียงหมือนกัน คิดได้อย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นทันที
ย้อนยุทธ์ครั้งนี้มาเล่าประสบการณ์ของโปรโมชั่น สนั่นเมือง ( เรื่องหนึ่งได้รับการถ่ายทอดจากบรรดาเจ้านายผู้ร่วมงาน) หัวใจของการส่งเสริมการขายในยุทธจักรการตลาดอยู่แค่คำ 4 คำเท่านั้นครับ ลด แลก แจก แถม ต่อให้ตั้งชื่อโปรโมชั่นวิลิศมาหราเลิศเลอแค่ไหน วิธีการก็วนเวียนอยู่แถวๆนี้แหละครับ กล่าวกันว่าผู้บริโภคชาวไทยถูกปรนเปรอด้วยโปรโมชั่นจนล้นเกิน ทำให้เกิดพฤติกรรมจับจ่ายซื้อของโดยไม่จำเป็น แต่บางอย่างก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจุกจิกได้เหมือนกัน ถ้าไม่ถือสาหรือเกี่ยงงอนเรื่องสีสันหรือรสนิยม ออกจะอินเทรนด์ตามสมัยใหม่ที่เรียกว่า Mix & Match ด้วยซ้ำ อย่างที่บ้านของกูรูเองก็ใช้จานลายกุหลาบ ชามดอกทานตะวัน ถ้วยน้ำจิ้มทิพย์ระย้า แก้วพวงคราม ช้อนส้อมเถาพฤกษา ดูเป็นสวนเบญพรรณบนโต๊ะ ไม่ต้องออกไปสร้างบรรยากาศที่ไหน ใช้นานวันเข้า เก่าไปหรือแตกร้าวก็ไม่เสียดายครับ
พฤติกรรมติดโปรโมชั่นนี้เอง เป็นเหตุให้ห้างร้านค้าส่ง ค้าปลีก Discount Store จากเมืองนอกถึงกับปวดขมับในระยะแรกๆที่เปิดสาขาในไทย เนื่องจากนโยบายของการดำเนินงานคือขายสินค้าราคาถูกเป็นหลัก ไม่มีรายการโปรโมชั่นใดๆทั้งสิ้น ราคาสินค้าที่ถูกสุดๆน่าจะเป็นแรงจูงใจที่เพียงพอแล้ว แต่อย่างว่าครับ ทฤษฎีฝรั่งมังค่ามาเจอหมัดกระแทกศอกกระทุ้งของพี่ไทยเข้าก็หงายเก๋งไปเยอะ ขืนยังยืนกรานแนวความคิดเดิมก็เชิญเซย์กู้ดบายกลับบ้านไปเลย ท้ายสุด ห้างฝรั่งใหญ่ๆก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีรายการลด แลก แจก แถม แต่เพื่อรักษามาร์จินระหว่างกลาง ก็เก็บเงินค่าใช้จ่ายจากซัพพลายเออร์แทน ซัพพลายเออร์เลยอ่วม ไหนต้องถูกบีบราคาสินค้าสุดๆแล้ว ยังต้องมาร่วมจัดรายการให้กับห้างอีก...เฮอ
นอกจากโปรโมชั่น ณ จุดขายคือในห้างแล้ว ยังมีแคมเปญสารพัดนอกห้างที่เร่งยอดขายให้ถึงเป้า บางแคมเปญก็ประกาศโต้งๆชัดเจนแจกเงินล้าน แจกทองทุกอาทิตย์ สร้างความฮือฮาและเฝ้าลุ้นติดตาม อันนี้ใช้มากในระยะหลังกับกลุ่มเครื่องดื่มที่มีฝา (บริษัทถึงกับผลิตแต่ฝาเครื่องดื่มอย่างเดียวให้บรรดานักล่าฝันเอามาชิงโชค) บางแคมเปญก็มีลูกล่อลูกชนขึ้นมาอีกระดับ กูรูจะขอกล่าวถึงโปรโมชั่นที่กลายเป็น Talk of The Town 2-3 แคมเปญ โดยตัวรายการเองก็มีความแรงระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญก็คือได้ขยายผลหรือสร้างจุดเปลี่ยนไปสู่มิติอื่นๆอย่างน่าสนใจ
รวยเป็นร้าน
แค่ชื่อแคมเปญก็สะดุดหูแล้วครับ ไม่ได้แจกเงิน แจกทอง แต่แจกร้านค้าให้หนึ่งร้าน เป็นแคมเปญจากบริษัทยาสีฟันแบรนด์อันดับหนึ่งในบ้านเรา กติกาก็คือการชิงโชคโดยส่งกล่องยาสีฟันไป ออกมาปีแรกฮือฮามากเพราะของรางวัลที่ไม่เหมือนใคร ตึกแถวหนึ่งห้องตกแต่งเสร็จเรียบร้อยเป็นร้านค้าขายของใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมสินค้าจัดเตรียมให้จำหน่าย โดยไม่คิดมูลค่า ( แน่ละ สินค้าส่วนใหญ่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ในเครืออยู่แล้ว) อย่างไรก็ตามเกิดข้อถกเถียงกันว่า หากผู้ได้รับโชค บริหารร้านค้าไม่เป็นหรือไม่เคยค้าขายมาก่อนจะทำอย่างไรดี คืนของรางวัลกลับแล้วแลกเป็นตัวเงินแทนได้หรือไม่ (ข้อสังเกตอันหลังนี้กูรูไม่แน่ชัด แต่ดูเหมือนจะมีการต่อรองกันได้) แต่อย่างหนึ่งที่บริษัทฯได้รับแน่ๆก็คือ ชื่อเสียงและยอดขายอันเป็นเรื่องกล่าวขวัญทั้งวงการ จนอดใจไม่ไหวขอขยายแคมเปญในปีต่อมา หลังจากนั้นความตื่นเต้นก็ลดลง ประกอบกับผู้ได้รับโชคเปิดร้านได้สักพักก็ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ บริษัทแม่สู้อุตส่าห์ส่งท่อน้ำเลี้ยง เสริมทัพหนุนเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ในการบริหารค้าปลีก การทำบัญชี เงินทุนหมุนเวียน เป็นต้น ในที่สุดก็ต้องขายคืนบริษัทฯไป
หากตำนานของ รวยเป็นร้าน ไม่ได้จบแค่ตรงนั้น หลักการดังกล่าวได้พลิกแปรเป็นกลยุทธ์ของเหล่าบรรดาธุรกิจแฟรนไชส์ Business Model ใหม่ที่ผุดขึ้นภายหลัง เจ้าของแฟรนไชส์ซอร์ ( Franchiser) ทุกสำนักได้นำวิธีคิดแบบเดียวกันไปเพื่อต่อยอดธุรกิจของตัวเองแก่บรรดาแฟรนไชส์ซี (Franchisee) ทั้งหลาย เราจึงเห็นถ้อยคำจูงใจเชื้อเชิญผู้ประกอบการหน้าใหม่มาร่วมวงไพบูลย์ของความ รวยเป็นร้าน อยู่เนืองๆ ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ กู้ดวิลล์ หรือสินค้าจากต้นสังกัดนำไปขายให้ร่ำให้รวยจนเปิดเป็นร้านค้าได้ (ผู้หวังจะ รวยเป็นร้าน ก็ต้องสืบประวัติธุรกิจที่สนใจอยากจะร่วมลงทุนด้วยนะครับว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่ หลายจ้าวเพิ่งพัฒนาสินค้าเสร็จใหม่ๆจากหลังบ้าน ยังไม่เคยทดลองกับตลาดเลยก็เปิดขายหาแฟรนไชส์ซีแล้ว)
รวยเป็นร้าน เลยถูกขยายผลเป็น รวยด้วยร้าน(คนอื่น) ในระบบแฟรนไชส์ไปเรียบร้อยครับ
ขูดสลาก พบโชคทันที
ตำนาน Instant Win ที่ฮือฮาที่สุดของยุค แต่ไหนแต่ไรมาการขูดสลาก เปิดฝาหรือแกะกล่องแล้วพบโชคทันที ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะถือว่าเป็นการพนัน ยกเว้นจะเพื่อประโยชน์ของสาธารณะกุศลเท่านั้น
อะหา...มีช่องว่างเปิดให้เช่นนี้แล้ว ก็เข้าล็อคพอดี กอปรกับนิสัยคนไทยรักการทำบุญอยู่แล้ว ก็ดูซิครับ ซื้อล็อตเตอรี่ไม่ถูกก็มีเรื่องปลอบใจว่าทำบุญให้กับรัฐแล้วกัน
หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งหาทางระดมเงินรูปแบบใหม่เพื่อสร้างโรงพยาบาล จะออกเป็นล็อตเตอรี่รุ่นพิเศษก็ดูธรรมดาและซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการพนันของคนไทย(ที่ถูกต้องตามกฏหมาย) จะระดมเงินผ่านการบริจาคก็คงจะลงได้แค่ฐานราก แล้วก็ทิ้งค้างตัวอาคารอยู่กลางอากาศไป อย่ากระนั้นเลยเอาที่ระดมได้ง่ายและถูกอุปนิสัยคนไทยที่รักการทำบุญ(และพนันไปในตัว)ดีกว่า
แล้วก็เป็นที่มาของ สลาก คุ้มเกล้า ขูดรับโชคทันที โดยมีธิดาคุ้มเกล้า คุณอาภาพร กรทิพย์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผลลัพธ์หรือครับ ถล่มทะลาย ทำเอาหน่วยงานสลากถึงกับค้อนขวับ ไม่เกรงใจกันเลยนะพี่
จากความสำเร็จท่วมท้นของสลากขูดโชค คุ้มเกล้า ได้กลายเป็นต้นแบบของ Instant Win ที่ค่ายบริษัทผู้ผลิต-จำหน่ายสินค้าต่างๆตาร้อนผ่าวอยากจะดำเนินการได้บ้าง เพราะเห็นผลชัดเจน รวดเร็วและสนุกตื่นเต้น ทันใจ หลังจากเฝ้าเพียรขออนุญาตมานาน ในที่สุดทางการก็ยอมอนุโลมให้กับบรรดาเครื่องดื่มเสริมพลังเป็นจ้าวแรกๆ หลังจากนั้นก็กระจายไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อย่างเสรี
ถึงวันนี้ เมื่อใครพูดถึงสลาก คุ้มเกล้า ภาพที่ลอยมาข้างหน้าก็คือ แถบสีเงินบนสลากที่ถูกเหรียญบาทขูดออก แล้วปรากฏถ้อยคำหลังสลากทำนอง ยังไม่มีโชคนะจ๊ะ ขอบคุณจ้ะที่ร่วมทำบุญ คราวหน้าลองดูอีกทีนะจ้ะ ฯลฯ ไม่เคยเจอรางวัลใดๆเลย
สติ๊กเกอร์ 4 สี แลกรถในฝัน "Vauxhall Viva"
อันนี้ไม่เล่าไม่ได้ครับ ถือเป็นบทเรียนชั้นครูเลยสำหรับโปรโมชั่น สนั่นเมืองในบ้านเรา บริษัทฯที่รังสรรค์แคมเปญนี้คือบริษัทเดียวกับ รวยเป็นร้าน แต่ระยะเวลาของการเริ่มต้นแคมเปญถอยกลับไปอีก บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องป่านนี้คงเป็นอากง อาแป๊ะกันหมดแล้วครับ
ย้อนกลับไปหลายสิบปี ที่บรรดาเพื่อนๆ VI ยังเล็กกะเปี๊ยก และหลายคนยังไม่ทราบว่าอยู่หนใด บริษัทคอนซูเมอร์โปรดักท์รายใหญ่ เริ่มเห็นแนวโน้มยอดขายผงซักฟอกที่ชะลอลง จึงระดมสมองสรรหาโปรโมชั่นที่สามารถสส่งเสียงดังได้สนั่นเมือง นั่นก็เป็นที่มาของตำนานสติ๊กเกอร์ 4 สี โดยมีกติกาว่า บริษัทฯจะใส่แผ่นสติ๊กเกอร์เล็กๆ 1 ชิ้นลงไปในกล่องผงซักฟอก ผู้ซื้อต้องสะสมสติ๊กเกอร์ให้ได้ทั้ง 4 สีคือ สีแดง สีเหลือง สีฟ้า และสีเขียว จนครบนำมาแลกรถยอดนิยมแห่งยุดคือ Vauxhall Viva ( ถ้าอยากเห็นหน้าตารถเป็นอย่างไร เชิญเปิดดูเวปไซค์ได้นะครับ ยังมีข้อมูลรถรุ่นนี้หลงเหลืออยู่) ทันทีที่ประกาศแคมเปญออกไป มหกรรมมะรุมมะตุ้มก็เกิดขึ้น ทั้งรุมเกาะเคาะประตูร้านค้าเพื่อหาซื้อผงซักฟอก วิ่งแห่ตามซื้อจากรถขนส่งของบริษัทที่แล่นมาขายถึงชุมชน เลยพลอยให้สินค้าอีกตัวขายดีตามไปด้วย นึกออกมั้ยครับ ....โอ่งหรือตุ่มพร้อมฝาปิดไงล่ะครับ ( ถ้า VI จะซื้อหุ้นตอนนั้น ก็ต้องหาบริษัทที่ผลิตโอ่งหรือตุ่มรายใหญ่ ) บรรดาแม่บ้าน พ่อบ้าน จะซื้อมาเพื่อเทผงซักฟอกใส่ลงไป หลังควานพบสติ๊กเกอร์ที่ซ่อนอยู่ในกล่องเสร็จ ปรากฏบางบ้านมีตุ่มใส่ผงซักฟอกอวดแขกเต็มไปหมด ไม่ต้องเดานะครับว่ายอดขายของบริษัทเป็นอย่างไร ทุกคนที่เกี่ยวข้องมองเห็นโบนัสลอยมาเป็นฟ่องๆ ด้วยความแรงสุดๆของแคมเปญ แทนที่โปรโมชั่นจะหยุดเพียงระยะเวลาที่กำหนดแต่แรกก็ต่ออายุออกไปอีก ..อันนี้แหละครับ จุดเริ่มต้นของหายนะ
ในด้านของผู้บริโภคหลังจากหมดเงินไปเยอะกับการซื้อผงซักฟอกมาเทใส่ตุ่มแล้ว (ไม่นับผื่นที่นิ้วมือเนื่องจากควานหาสติ๊กเกอร์ในกล่องทุกวันๆ) ก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากล แทบทุกคนสะสมครบ 3 สี ขาดเพียง สีแดงเท่านั้น ควานหากี่กล่องๆก็ไม่เจอ มิหนำซ้ำยังจะต่อระยะเวลาแคมเปญอีก จนดูเหมือน(เพิ่งคิดได้)ว่าจะถูกเอาเปรียบมากไปเสียแล้ว กระแสมะรุมมะตุ้มถดถอยลงจนบริษัทฯเริ่มเห็นกราฟขาลงของแคมเปญนี้ หลังจากขยายโปรโมชั่นจนได้ยอดทะลุเป้าก็ตกลงใจใส่สติ๊กเกอร์สีแดงมีตราประทับลงไป 4 กล่อง กระจายไปกับรถขายกล่องละ 1 ภาค ในที่สุดก็ได้ผู้สะสมครบ 4 สีมาแลกรถ
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะมีคนไปฟ้องกรมตำรวจในข้อหาการหลอกลวงผู้บริโภค ร้อนถึงกรมตำรวจต้องออกกฏระเบียบเกี่ยวกับการชิงโชคเป็นครั้งแรกและถือเป็นบรรทัดฐานของแคมเปญชิงโชคทุกประเภท เช่น ต้องขออนุญาตกับกรมตำรวจทุกครั้งก่อนออกแคมเปญ กำหนดเริ่มต้นหรือสิ้นสุดช่วงโปรโมชั่นแน่นอน การจับสลากต้องทำต่อหน้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ผลการจับรางวัลจะต้องถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
หากผลกระทบที่แรงกว่านั้นก็คือ ยอดขายของผงซักฟอกที่ตกหวบลงทันทีเมื่อแคมเปญสิ้นสุด (เพราะทุกบ้านมีผงซักฟอกเต็มตุ่มอีกอยู่แล้ว)ดิ่งลึกลงไปในปีต่อมาและเรื้อรังไปอีกหลายปี (ด้วยแรงแอนตี้ระคนแค้นขอเอาคืนของผู้บริโภค) หายนะครั้งนี้จึงกลายเป็นโอกาสให้ผงซักฟอกจากค่ายคู่แข่งแจ้งเกิดขึ้นมาและขยายปีกแกร่งกล้ามาต่อกรด้วยในภายหลัง
ทุกวันนี้เมื่อพูดถึงการสะสมสติ๊กเกอร์แลกของสมนาคุณ บรรดาคนรุ่นเก่าก่อนต้องอดนึกถึงสติ๊กเกอร์ 4 สีแลกรถในฝัน Vauxhall Viva ไม่ได้ ไม่เชื่อลองถามผู้ใหญ่ที่บ้านของท่านดูก็ได้ครับ สวัสดีครับ
แจกเงินล้าน.... แจกทอง.... แจกโชค 2 ชั้น
จั่วหัวราวกับเป็น เศรษฐีพันล้าน เปล่าหรอกครับ กูรูขอบสนามไม่มีทรัพย์สินมากถึงเพียงนั้น (สู้เพื่อนๆชาว VI ในนี้ไม่ได้แน่นอน) อย่างมากก็เป็นได้แค่เศษธุลีของเศรษฐี อย่างไรเสียก็อ่านพ้องเสียงหมือนกัน คิดได้อย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นทันที
ย้อนยุทธ์ครั้งนี้มาเล่าประสบการณ์ของโปรโมชั่น สนั่นเมือง ( เรื่องหนึ่งได้รับการถ่ายทอดจากบรรดาเจ้านายผู้ร่วมงาน) หัวใจของการส่งเสริมการขายในยุทธจักรการตลาดอยู่แค่คำ 4 คำเท่านั้นครับ ลด แลก แจก แถม ต่อให้ตั้งชื่อโปรโมชั่นวิลิศมาหราเลิศเลอแค่ไหน วิธีการก็วนเวียนอยู่แถวๆนี้แหละครับ กล่าวกันว่าผู้บริโภคชาวไทยถูกปรนเปรอด้วยโปรโมชั่นจนล้นเกิน ทำให้เกิดพฤติกรรมจับจ่ายซื้อของโดยไม่จำเป็น แต่บางอย่างก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจุกจิกได้เหมือนกัน ถ้าไม่ถือสาหรือเกี่ยงงอนเรื่องสีสันหรือรสนิยม ออกจะอินเทรนด์ตามสมัยใหม่ที่เรียกว่า Mix & Match ด้วยซ้ำ อย่างที่บ้านของกูรูเองก็ใช้จานลายกุหลาบ ชามดอกทานตะวัน ถ้วยน้ำจิ้มทิพย์ระย้า แก้วพวงคราม ช้อนส้อมเถาพฤกษา ดูเป็นสวนเบญพรรณบนโต๊ะ ไม่ต้องออกไปสร้างบรรยากาศที่ไหน ใช้นานวันเข้า เก่าไปหรือแตกร้าวก็ไม่เสียดายครับ
พฤติกรรมติดโปรโมชั่นนี้เอง เป็นเหตุให้ห้างร้านค้าส่ง ค้าปลีก Discount Store จากเมืองนอกถึงกับปวดขมับในระยะแรกๆที่เปิดสาขาในไทย เนื่องจากนโยบายของการดำเนินงานคือขายสินค้าราคาถูกเป็นหลัก ไม่มีรายการโปรโมชั่นใดๆทั้งสิ้น ราคาสินค้าที่ถูกสุดๆน่าจะเป็นแรงจูงใจที่เพียงพอแล้ว แต่อย่างว่าครับ ทฤษฎีฝรั่งมังค่ามาเจอหมัดกระแทกศอกกระทุ้งของพี่ไทยเข้าก็หงายเก๋งไปเยอะ ขืนยังยืนกรานแนวความคิดเดิมก็เชิญเซย์กู้ดบายกลับบ้านไปเลย ท้ายสุด ห้างฝรั่งใหญ่ๆก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีรายการลด แลก แจก แถม แต่เพื่อรักษามาร์จินระหว่างกลาง ก็เก็บเงินค่าใช้จ่ายจากซัพพลายเออร์แทน ซัพพลายเออร์เลยอ่วม ไหนต้องถูกบีบราคาสินค้าสุดๆแล้ว ยังต้องมาร่วมจัดรายการให้กับห้างอีก...เฮอ
นอกจากโปรโมชั่น ณ จุดขายคือในห้างแล้ว ยังมีแคมเปญสารพัดนอกห้างที่เร่งยอดขายให้ถึงเป้า บางแคมเปญก็ประกาศโต้งๆชัดเจนแจกเงินล้าน แจกทองทุกอาทิตย์ สร้างความฮือฮาและเฝ้าลุ้นติดตาม อันนี้ใช้มากในระยะหลังกับกลุ่มเครื่องดื่มที่มีฝา (บริษัทถึงกับผลิตแต่ฝาเครื่องดื่มอย่างเดียวให้บรรดานักล่าฝันเอามาชิงโชค) บางแคมเปญก็มีลูกล่อลูกชนขึ้นมาอีกระดับ กูรูจะขอกล่าวถึงโปรโมชั่นที่กลายเป็น Talk of The Town 2-3 แคมเปญ โดยตัวรายการเองก็มีความแรงระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญก็คือได้ขยายผลหรือสร้างจุดเปลี่ยนไปสู่มิติอื่นๆอย่างน่าสนใจ
รวยเป็นร้าน
แค่ชื่อแคมเปญก็สะดุดหูแล้วครับ ไม่ได้แจกเงิน แจกทอง แต่แจกร้านค้าให้หนึ่งร้าน เป็นแคมเปญจากบริษัทยาสีฟันแบรนด์อันดับหนึ่งในบ้านเรา กติกาก็คือการชิงโชคโดยส่งกล่องยาสีฟันไป ออกมาปีแรกฮือฮามากเพราะของรางวัลที่ไม่เหมือนใคร ตึกแถวหนึ่งห้องตกแต่งเสร็จเรียบร้อยเป็นร้านค้าขายของใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมสินค้าจัดเตรียมให้จำหน่าย โดยไม่คิดมูลค่า ( แน่ละ สินค้าส่วนใหญ่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ในเครืออยู่แล้ว) อย่างไรก็ตามเกิดข้อถกเถียงกันว่า หากผู้ได้รับโชค บริหารร้านค้าไม่เป็นหรือไม่เคยค้าขายมาก่อนจะทำอย่างไรดี คืนของรางวัลกลับแล้วแลกเป็นตัวเงินแทนได้หรือไม่ (ข้อสังเกตอันหลังนี้กูรูไม่แน่ชัด แต่ดูเหมือนจะมีการต่อรองกันได้) แต่อย่างหนึ่งที่บริษัทฯได้รับแน่ๆก็คือ ชื่อเสียงและยอดขายอันเป็นเรื่องกล่าวขวัญทั้งวงการ จนอดใจไม่ไหวขอขยายแคมเปญในปีต่อมา หลังจากนั้นความตื่นเต้นก็ลดลง ประกอบกับผู้ได้รับโชคเปิดร้านได้สักพักก็ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ บริษัทแม่สู้อุตส่าห์ส่งท่อน้ำเลี้ยง เสริมทัพหนุนเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ในการบริหารค้าปลีก การทำบัญชี เงินทุนหมุนเวียน เป็นต้น ในที่สุดก็ต้องขายคืนบริษัทฯไป
หากตำนานของ รวยเป็นร้าน ไม่ได้จบแค่ตรงนั้น หลักการดังกล่าวได้พลิกแปรเป็นกลยุทธ์ของเหล่าบรรดาธุรกิจแฟรนไชส์ Business Model ใหม่ที่ผุดขึ้นภายหลัง เจ้าของแฟรนไชส์ซอร์ ( Franchiser) ทุกสำนักได้นำวิธีคิดแบบเดียวกันไปเพื่อต่อยอดธุรกิจของตัวเองแก่บรรดาแฟรนไชส์ซี (Franchisee) ทั้งหลาย เราจึงเห็นถ้อยคำจูงใจเชื้อเชิญผู้ประกอบการหน้าใหม่มาร่วมวงไพบูลย์ของความ รวยเป็นร้าน อยู่เนืองๆ ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ กู้ดวิลล์ หรือสินค้าจากต้นสังกัดนำไปขายให้ร่ำให้รวยจนเปิดเป็นร้านค้าได้ (ผู้หวังจะ รวยเป็นร้าน ก็ต้องสืบประวัติธุรกิจที่สนใจอยากจะร่วมลงทุนด้วยนะครับว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่ หลายจ้าวเพิ่งพัฒนาสินค้าเสร็จใหม่ๆจากหลังบ้าน ยังไม่เคยทดลองกับตลาดเลยก็เปิดขายหาแฟรนไชส์ซีแล้ว)
รวยเป็นร้าน เลยถูกขยายผลเป็น รวยด้วยร้าน(คนอื่น) ในระบบแฟรนไชส์ไปเรียบร้อยครับ
ขูดสลาก พบโชคทันที
ตำนาน Instant Win ที่ฮือฮาที่สุดของยุค แต่ไหนแต่ไรมาการขูดสลาก เปิดฝาหรือแกะกล่องแล้วพบโชคทันที ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะถือว่าเป็นการพนัน ยกเว้นจะเพื่อประโยชน์ของสาธารณะกุศลเท่านั้น
อะหา...มีช่องว่างเปิดให้เช่นนี้แล้ว ก็เข้าล็อคพอดี กอปรกับนิสัยคนไทยรักการทำบุญอยู่แล้ว ก็ดูซิครับ ซื้อล็อตเตอรี่ไม่ถูกก็มีเรื่องปลอบใจว่าทำบุญให้กับรัฐแล้วกัน
หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งหาทางระดมเงินรูปแบบใหม่เพื่อสร้างโรงพยาบาล จะออกเป็นล็อตเตอรี่รุ่นพิเศษก็ดูธรรมดาและซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการพนันของคนไทย(ที่ถูกต้องตามกฏหมาย) จะระดมเงินผ่านการบริจาคก็คงจะลงได้แค่ฐานราก แล้วก็ทิ้งค้างตัวอาคารอยู่กลางอากาศไป อย่ากระนั้นเลยเอาที่ระดมได้ง่ายและถูกอุปนิสัยคนไทยที่รักการทำบุญ(และพนันไปในตัว)ดีกว่า
แล้วก็เป็นที่มาของ สลาก คุ้มเกล้า ขูดรับโชคทันที โดยมีธิดาคุ้มเกล้า คุณอาภาพร กรทิพย์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผลลัพธ์หรือครับ ถล่มทะลาย ทำเอาหน่วยงานสลากถึงกับค้อนขวับ ไม่เกรงใจกันเลยนะพี่
จากความสำเร็จท่วมท้นของสลากขูดโชค คุ้มเกล้า ได้กลายเป็นต้นแบบของ Instant Win ที่ค่ายบริษัทผู้ผลิต-จำหน่ายสินค้าต่างๆตาร้อนผ่าวอยากจะดำเนินการได้บ้าง เพราะเห็นผลชัดเจน รวดเร็วและสนุกตื่นเต้น ทันใจ หลังจากเฝ้าเพียรขออนุญาตมานาน ในที่สุดทางการก็ยอมอนุโลมให้กับบรรดาเครื่องดื่มเสริมพลังเป็นจ้าวแรกๆ หลังจากนั้นก็กระจายไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อย่างเสรี
ถึงวันนี้ เมื่อใครพูดถึงสลาก คุ้มเกล้า ภาพที่ลอยมาข้างหน้าก็คือ แถบสีเงินบนสลากที่ถูกเหรียญบาทขูดออก แล้วปรากฏถ้อยคำหลังสลากทำนอง ยังไม่มีโชคนะจ๊ะ ขอบคุณจ้ะที่ร่วมทำบุญ คราวหน้าลองดูอีกทีนะจ้ะ ฯลฯ ไม่เคยเจอรางวัลใดๆเลย
สติ๊กเกอร์ 4 สี แลกรถในฝัน "Vauxhall Viva"
อันนี้ไม่เล่าไม่ได้ครับ ถือเป็นบทเรียนชั้นครูเลยสำหรับโปรโมชั่น สนั่นเมืองในบ้านเรา บริษัทฯที่รังสรรค์แคมเปญนี้คือบริษัทเดียวกับ รวยเป็นร้าน แต่ระยะเวลาของการเริ่มต้นแคมเปญถอยกลับไปอีก บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องป่านนี้คงเป็นอากง อาแป๊ะกันหมดแล้วครับ
ย้อนกลับไปหลายสิบปี ที่บรรดาเพื่อนๆ VI ยังเล็กกะเปี๊ยก และหลายคนยังไม่ทราบว่าอยู่หนใด บริษัทคอนซูเมอร์โปรดักท์รายใหญ่ เริ่มเห็นแนวโน้มยอดขายผงซักฟอกที่ชะลอลง จึงระดมสมองสรรหาโปรโมชั่นที่สามารถสส่งเสียงดังได้สนั่นเมือง นั่นก็เป็นที่มาของตำนานสติ๊กเกอร์ 4 สี โดยมีกติกาว่า บริษัทฯจะใส่แผ่นสติ๊กเกอร์เล็กๆ 1 ชิ้นลงไปในกล่องผงซักฟอก ผู้ซื้อต้องสะสมสติ๊กเกอร์ให้ได้ทั้ง 4 สีคือ สีแดง สีเหลือง สีฟ้า และสีเขียว จนครบนำมาแลกรถยอดนิยมแห่งยุดคือ Vauxhall Viva ( ถ้าอยากเห็นหน้าตารถเป็นอย่างไร เชิญเปิดดูเวปไซค์ได้นะครับ ยังมีข้อมูลรถรุ่นนี้หลงเหลืออยู่) ทันทีที่ประกาศแคมเปญออกไป มหกรรมมะรุมมะตุ้มก็เกิดขึ้น ทั้งรุมเกาะเคาะประตูร้านค้าเพื่อหาซื้อผงซักฟอก วิ่งแห่ตามซื้อจากรถขนส่งของบริษัทที่แล่นมาขายถึงชุมชน เลยพลอยให้สินค้าอีกตัวขายดีตามไปด้วย นึกออกมั้ยครับ ....โอ่งหรือตุ่มพร้อมฝาปิดไงล่ะครับ ( ถ้า VI จะซื้อหุ้นตอนนั้น ก็ต้องหาบริษัทที่ผลิตโอ่งหรือตุ่มรายใหญ่ ) บรรดาแม่บ้าน พ่อบ้าน จะซื้อมาเพื่อเทผงซักฟอกใส่ลงไป หลังควานพบสติ๊กเกอร์ที่ซ่อนอยู่ในกล่องเสร็จ ปรากฏบางบ้านมีตุ่มใส่ผงซักฟอกอวดแขกเต็มไปหมด ไม่ต้องเดานะครับว่ายอดขายของบริษัทเป็นอย่างไร ทุกคนที่เกี่ยวข้องมองเห็นโบนัสลอยมาเป็นฟ่องๆ ด้วยความแรงสุดๆของแคมเปญ แทนที่โปรโมชั่นจะหยุดเพียงระยะเวลาที่กำหนดแต่แรกก็ต่ออายุออกไปอีก ..อันนี้แหละครับ จุดเริ่มต้นของหายนะ
ในด้านของผู้บริโภคหลังจากหมดเงินไปเยอะกับการซื้อผงซักฟอกมาเทใส่ตุ่มแล้ว (ไม่นับผื่นที่นิ้วมือเนื่องจากควานหาสติ๊กเกอร์ในกล่องทุกวันๆ) ก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากล แทบทุกคนสะสมครบ 3 สี ขาดเพียง สีแดงเท่านั้น ควานหากี่กล่องๆก็ไม่เจอ มิหนำซ้ำยังจะต่อระยะเวลาแคมเปญอีก จนดูเหมือน(เพิ่งคิดได้)ว่าจะถูกเอาเปรียบมากไปเสียแล้ว กระแสมะรุมมะตุ้มถดถอยลงจนบริษัทฯเริ่มเห็นกราฟขาลงของแคมเปญนี้ หลังจากขยายโปรโมชั่นจนได้ยอดทะลุเป้าก็ตกลงใจใส่สติ๊กเกอร์สีแดงมีตราประทับลงไป 4 กล่อง กระจายไปกับรถขายกล่องละ 1 ภาค ในที่สุดก็ได้ผู้สะสมครบ 4 สีมาแลกรถ
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะมีคนไปฟ้องกรมตำรวจในข้อหาการหลอกลวงผู้บริโภค ร้อนถึงกรมตำรวจต้องออกกฏระเบียบเกี่ยวกับการชิงโชคเป็นครั้งแรกและถือเป็นบรรทัดฐานของแคมเปญชิงโชคทุกประเภท เช่น ต้องขออนุญาตกับกรมตำรวจทุกครั้งก่อนออกแคมเปญ กำหนดเริ่มต้นหรือสิ้นสุดช่วงโปรโมชั่นแน่นอน การจับสลากต้องทำต่อหน้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ผลการจับรางวัลจะต้องถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
หากผลกระทบที่แรงกว่านั้นก็คือ ยอดขายของผงซักฟอกที่ตกหวบลงทันทีเมื่อแคมเปญสิ้นสุด (เพราะทุกบ้านมีผงซักฟอกเต็มตุ่มอีกอยู่แล้ว)ดิ่งลึกลงไปในปีต่อมาและเรื้อรังไปอีกหลายปี (ด้วยแรงแอนตี้ระคนแค้นขอเอาคืนของผู้บริโภค) หายนะครั้งนี้จึงกลายเป็นโอกาสให้ผงซักฟอกจากค่ายคู่แข่งแจ้งเกิดขึ้นมาและขยายปีกแกร่งกล้ามาต่อกรด้วยในภายหลัง
ทุกวันนี้เมื่อพูดถึงการสะสมสติ๊กเกอร์แลกของสมนาคุณ บรรดาคนรุ่นเก่าก่อนต้องอดนึกถึงสติ๊กเกอร์ 4 สีแลกรถในฝัน Vauxhall Viva ไม่ได้ ไม่เชื่อลองถามผู้ใหญ่ที่บ้านของท่านดูก็ได้ครับ สวัสดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ย้อนยุทธ์ ตอนที่ 4 โปรโมชั่น สนั่นเมือง
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับคุณ Woody เข้ามาอ่านประจำเลย
ขอแก้บางคำดังนี้
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะมีคนไปฟ้องกรมตำรวจในข้อหาการหลอกลวงผู้บริโภค ร้อนถึงกรมตำรวจต้องออกกฏระเบียบเกี่ยวกับการชิงโชคเป็นครั้งแรกและถือเป็นบรรทัดฐานของแคมเปญชิงโชคทุกประเภท เช่น ต้องขออนุญาตกับกรมตำรวจทุกครั้งก่อนออกแคมเปญ กำหนดเริ่มต้นหรือสิ้นสุดช่วงโปรโมชั่นแน่นอน การจับสลากต้องทำต่อหน้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ผลการจับรางวัลจะต้องถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
เป็น
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะมีคนไปฟ้องกรมตำรวจในข้อหาการหลอกลวงผู้บริโภค ร้อนถึงกรมตำรวจต้องออกกฏระเบียบเกี่ยวกับการชิงโชคเป็นครั้งแรกและถือเป็นบรรทัดฐานของแคมเปญชิงโชคทุกประเภท เช่น ต้องขออนุญาตกับกรมตำรวจทุกครั้งก่อนออกแคมเปญ กำหนดเริ่มต้นและสิ้นสุดช่วงโปรโมชั่นแน่นอน การจับสลากต้องทำต่อหน้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ผลการจับรางวัลจะต้องถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
ขอแก้บางคำดังนี้
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะมีคนไปฟ้องกรมตำรวจในข้อหาการหลอกลวงผู้บริโภค ร้อนถึงกรมตำรวจต้องออกกฏระเบียบเกี่ยวกับการชิงโชคเป็นครั้งแรกและถือเป็นบรรทัดฐานของแคมเปญชิงโชคทุกประเภท เช่น ต้องขออนุญาตกับกรมตำรวจทุกครั้งก่อนออกแคมเปญ กำหนดเริ่มต้นหรือสิ้นสุดช่วงโปรโมชั่นแน่นอน การจับสลากต้องทำต่อหน้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ผลการจับรางวัลจะต้องถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
เป็น
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะมีคนไปฟ้องกรมตำรวจในข้อหาการหลอกลวงผู้บริโภค ร้อนถึงกรมตำรวจต้องออกกฏระเบียบเกี่ยวกับการชิงโชคเป็นครั้งแรกและถือเป็นบรรทัดฐานของแคมเปญชิงโชคทุกประเภท เช่น ต้องขออนุญาตกับกรมตำรวจทุกครั้งก่อนออกแคมเปญ กำหนดเริ่มต้นและสิ้นสุดช่วงโปรโมชั่นแน่นอน การจับสลากต้องทำต่อหน้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ผลการจับรางวัลจะต้องถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
ย้อนยุทธ์ ตอนที่ 4 โปรโมชั่น สนั่นเมือง
โพสต์ที่ 4
พึ่งเห็นผงซักฟอกยี่ห้อนั้น ทำตลาดใหม่แล้วนิครับ
ไม่รู้เป็นไงบ้าง
คุ้นๆว่า พึ่งเปลี่ยนมือเจ้าของแบรนด์ด้วยนะครับ
ดังขนาดชื่อตราสินค้า เป็นชื่อที่เรียกขานสินค้าชนิดนี้ ยังล้มได้
กลับมาใหม่อีกครับ ผมว่าก็คงได้แค่ตามห่างๆนะครับอาจารย์
ไม่รู้เป็นไงบ้าง
คุ้นๆว่า พึ่งเปลี่ยนมือเจ้าของแบรนด์ด้วยนะครับ
ดังขนาดชื่อตราสินค้า เป็นชื่อที่เรียกขานสินค้าชนิดนี้ ยังล้มได้
กลับมาใหม่อีกครับ ผมว่าก็คงได้แค่ตามห่างๆนะครับอาจารย์
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ย้อนยุทธ์ ตอนที่ 4 โปรโมชั่น สนั่นเมือง
โพสต์ที่ 5
วงการกำลังจับตามองยักษ์ใหญ่รายนี้ไม่กะพริบCopyWriter เขียน:พึ่งเห็นผงซักฟอกยี่ห้อนั้น ทำตลาดใหม่แล้วนิครับ
ไม่รู้เป็นไงบ้าง
คุ้นๆว่า พึ่งเปลี่ยนมือเจ้าของแบรนด์ด้วยนะครับ
ดังขนาดชื่อตราสินค้า เป็นชื่อที่เรียกขานสินค้าชนิดนี้ ยังล้มได้
กลับมาใหม่อีกครับ ผมว่าก็คงได้แค่ตามห่างๆนะครับอาจารย์
หลังจากซื้อแบรนด์ผงซักฟอกเก่าแก่จากจ้าวเดิม
(ซึ่งขอจำกัดพื้นที่ยุ่งเกี่ยวแค่สุขภาพของช่องปากกับฟันพอ)
เมื่อต้นปีก็เพิ่งวางตลาด น้ำยาปรับผ้านุ่ม ชื่อดัง
เป็นการจับวางสินค้าตัวใหม่ในรอบหลายๆปี
และเป็นการจับวางสินค้าในหมวดหมู่ซักล้างซึ่งบริษัทฯไม่เคยทำตลาดเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อน
หลายๆคนคาดการณ์ ตลาดซักล้าง ( Laundry Category) ปีนี้จะสนุกแน่ๆ :lol: