หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 11
นลท.ที่ไม่สะดวกไปซื้อที่ร้าน สามารถสั่งซื้อทางเวปที่ http://thaispecial.com ร้านหนังสือปูทะเลย์
เมื่อคืนผมสั่งซื้อไป 2 เล่ม กุญแจ 5 ดอก กับ ลงทุนอย่างปีเตอร์ ลินซ์
หนังสือใหม่ได้ส่วนลดเล่มละ 15% ค่าจัดส่งครั้งละ 15 บาท โอนเงินผ่านตู้ ATM ได้หลายธนาคาร สะดวกมากและราคายุติธรรม
เมื่อคืนผมสั่งซื้อไป 2 เล่ม กุญแจ 5 ดอก กับ ลงทุนอย่างปีเตอร์ ลินซ์
หนังสือใหม่ได้ส่วนลดเล่มละ 15% ค่าจัดส่งครั้งละ 15 บาท โอนเงินผ่านตู้ ATM ได้หลายธนาคาร สะดวกมากและราคายุติธรรม
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 13
ซื้อมาเรียบร้อยครับ ที่ซีเอ็ดสาขาเซ็นทรัลบางนาครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 14
วันนี้สอยมาเรียบร้อยแล้วครับ ^^ หลังจากอ่าน ลงทุนอย่าง... ปีเตอร์ ลินซ์ สุดยอดมากครับทำให้เห็นภาพการเลือกหุ้น มุมมองการพิจารณาหุ้น เรื่องราวการติดตามหุ้น การยอมรับความผิดพลาด เขียนได้สุดยอดมากครับ ต้องมาสอยกุญแจ 5 ดอกต่อ อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 15
คอลัมน์: VALUE Way: กุญแจ 5 ดอกของการลงทุน
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, May 14, 2012 05:44
54870 XTHAI XGEN IKEY V%NETNEWS P%WKT
วิบูลย์ พึงประเสริฐ
[email protected]
วันนี้ขอแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนที่น่าอ่าน ชื่อเรื่อง “กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” แปลมาจากต้นฉบับชื่อ “5 Keys to Value Investing” เขียนโดย J. Dennis Jean-Jacques ผู้เรียบเรียงคือ คุณพรชัย รัตนนนทชัยสุข
J. Dennis Jean-Jacques เคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์ของ Fidelity Investments สำนักการลงทุนแห่งเดียวกับเซียนหุ้นอย่างปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch) ก่อนที่จะย้ายมาทำงานร่วมกับ ไมเคิล ไพรซ์ (Michael Price) ที่กองทุน Mutual Series Fund ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสุดยอดกองทุนแบบเน้นคุณค่าแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ผู้เขียนเริ่มต้นทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ของกองทุนแห่งนี้ จากนั้นก็ได้เลื่อนมาเป็นผู้จัดการกองทุน หลังจากที่ ไมเคิล ไพรซ์ ได้เกษียณตัวเองจากการบริหาร
การดำเนินงานของ Mutual Series Fund จะเน้นไปที่การหาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินมากๆ หลักการลงทุนของ กองทุนแห่งนี้จะเน้นไปที่การตรวจสอบงบการเงิน โดยเฉพาะตรวจสอบ “งบดุล” เป็นหลัก คล้ายๆ กับการลงทุนของต้นตำรับอย่าง เบนจามิน เกรแฮม
ดังที่ ไมเคิล ไพรซ์ กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า “อย่างแรก..ราคาหุ้นของบริษัทจะต้องอยู่ในระดับที่มีส่วนลดจากมูลค่าทรัพย์สิน อย่างที่สอง..ผู้บริหารต้องถือหุ้นของบริษัท ยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น อย่างสุดท้าย..งบดุลของบริษัทต้องสะอาดหมดจด มีหนี้สินน้อย ซึ่งนั่นจะชี้ว่า ความเสี่ยงทางการเงินของบริษัทอยู่ในระดับต่ำ หากคุณดูทั้งสามสิ่งนี้ คุณจะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ”
นอกเหนือจากนั้น ไมเคิล ไพรซ์ ยังกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างการลงทุนของเขา กับการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ อีกว่า
“วิธีการไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือแนวคิด บัฟเฟตต์จะเด่นในเรื่องการเสาะหาธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน เราไม่เก่งในเรื่องนั้น เราจะมองหาคุณค่า”
การลงทุนของ Mutual Series Fund ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของ ไมเคิล ไพรซ์อย่างมาก โดยเฉพาะที่ผ่านมาการตัดสินใจการลงทุนทั้งหมดจะมาจาก ไมเคิล ไพรซ์ เพียงคนเดียว และกองทุนแห่งนี้ก็ได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาว
ในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้กล่าวถึงคำถาม 5 ข้อที่นักลงทุนควรจะพิจารณาเพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนของตน กฎเกณท์เหล่านี้ เรียกว่า “กุญแจ 5 ดอก” ซึ่งนักลงทุนสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์การลงทุนของตนเองได้เป็นอย่างดี
กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า สามารถสรุปคร่าวๆ ได้ดังต่อไปนี้
กุญแจดอกที่หนึ่ง : บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดีหรือไม่
กุญแจดอกที่สอง : มูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทนี้อยู่ที่เท่าไหร่
กุญแจดอกที่สาม : ราคาหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าสนใจหรือไม่
กุญแจดอกที่สี่ : ตัวเร่ง (Catalyst) ที่มีประสิทธิภาพมีโอกาสเกิดขึ้นแค่ไหน
กุญแจดอกที่ห้า : ราคาที่ซื้อให้ส่วนเผื่อความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน
ผู้เขียนยังได้ยกตัวอย่างการลงทุนจริงๆ ของกองทุนเป็นกรณีศึกษา เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า ในสถานการณ์จริงๆ นั้น การตัดสินใจในการลงทุนจำเป็นจะต้องนำเหตุการณ์และข้อมูลต่างๆ มาประกอบด้วย แทนที่จะยึดติดอยู่กับการคำนวณและการหามูลค่าหุ้นด้วยวิธีต่างๆ เพียงอย่างเดียว
กุญแจทั้ง 5 ดอก จากหนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้นักลงทุนมีความเข้าใจใน “การลงทุนแบบเน้นคุณค่า” มากขึ้น รวมทั้งสามารถนำวิธีการดังกล่าวไปปฏิบัติได้จริงๆ อ่านได้ง่ายแม้กับผู้ที่ไม่เคยลงทุนในตลาดหุ้นมาก่อน หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ แทนที่จะเสียเงินซื้อประสบการณ์จากการขาดทุนเป็นแสนเป็นล้านบาทในตลาดหุ้น ยอมเสียเงิน “ซื้อหนังสือ” ราคาไม่กี่ร้อยบาทเพื่อหาความรู้ก่อนเข้าตลาดจะดีกว่า--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, May 14, 2012 05:44
54870 XTHAI XGEN IKEY V%NETNEWS P%WKT
วิบูลย์ พึงประเสริฐ
[email protected]
วันนี้ขอแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนที่น่าอ่าน ชื่อเรื่อง “กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” แปลมาจากต้นฉบับชื่อ “5 Keys to Value Investing” เขียนโดย J. Dennis Jean-Jacques ผู้เรียบเรียงคือ คุณพรชัย รัตนนนทชัยสุข
J. Dennis Jean-Jacques เคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์ของ Fidelity Investments สำนักการลงทุนแห่งเดียวกับเซียนหุ้นอย่างปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch) ก่อนที่จะย้ายมาทำงานร่วมกับ ไมเคิล ไพรซ์ (Michael Price) ที่กองทุน Mutual Series Fund ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสุดยอดกองทุนแบบเน้นคุณค่าแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ผู้เขียนเริ่มต้นทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ของกองทุนแห่งนี้ จากนั้นก็ได้เลื่อนมาเป็นผู้จัดการกองทุน หลังจากที่ ไมเคิล ไพรซ์ ได้เกษียณตัวเองจากการบริหาร
การดำเนินงานของ Mutual Series Fund จะเน้นไปที่การหาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินมากๆ หลักการลงทุนของ กองทุนแห่งนี้จะเน้นไปที่การตรวจสอบงบการเงิน โดยเฉพาะตรวจสอบ “งบดุล” เป็นหลัก คล้ายๆ กับการลงทุนของต้นตำรับอย่าง เบนจามิน เกรแฮม
ดังที่ ไมเคิล ไพรซ์ กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า “อย่างแรก..ราคาหุ้นของบริษัทจะต้องอยู่ในระดับที่มีส่วนลดจากมูลค่าทรัพย์สิน อย่างที่สอง..ผู้บริหารต้องถือหุ้นของบริษัท ยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น อย่างสุดท้าย..งบดุลของบริษัทต้องสะอาดหมดจด มีหนี้สินน้อย ซึ่งนั่นจะชี้ว่า ความเสี่ยงทางการเงินของบริษัทอยู่ในระดับต่ำ หากคุณดูทั้งสามสิ่งนี้ คุณจะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ”
นอกเหนือจากนั้น ไมเคิล ไพรซ์ ยังกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างการลงทุนของเขา กับการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ อีกว่า
“วิธีการไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือแนวคิด บัฟเฟตต์จะเด่นในเรื่องการเสาะหาธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน เราไม่เก่งในเรื่องนั้น เราจะมองหาคุณค่า”
การลงทุนของ Mutual Series Fund ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของ ไมเคิล ไพรซ์อย่างมาก โดยเฉพาะที่ผ่านมาการตัดสินใจการลงทุนทั้งหมดจะมาจาก ไมเคิล ไพรซ์ เพียงคนเดียว และกองทุนแห่งนี้ก็ได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาว
ในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้กล่าวถึงคำถาม 5 ข้อที่นักลงทุนควรจะพิจารณาเพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนของตน กฎเกณท์เหล่านี้ เรียกว่า “กุญแจ 5 ดอก” ซึ่งนักลงทุนสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์การลงทุนของตนเองได้เป็นอย่างดี
กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า สามารถสรุปคร่าวๆ ได้ดังต่อไปนี้
กุญแจดอกที่หนึ่ง : บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดีหรือไม่
กุญแจดอกที่สอง : มูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทนี้อยู่ที่เท่าไหร่
กุญแจดอกที่สาม : ราคาหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าสนใจหรือไม่
กุญแจดอกที่สี่ : ตัวเร่ง (Catalyst) ที่มีประสิทธิภาพมีโอกาสเกิดขึ้นแค่ไหน
กุญแจดอกที่ห้า : ราคาที่ซื้อให้ส่วนเผื่อความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน
ผู้เขียนยังได้ยกตัวอย่างการลงทุนจริงๆ ของกองทุนเป็นกรณีศึกษา เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า ในสถานการณ์จริงๆ นั้น การตัดสินใจในการลงทุนจำเป็นจะต้องนำเหตุการณ์และข้อมูลต่างๆ มาประกอบด้วย แทนที่จะยึดติดอยู่กับการคำนวณและการหามูลค่าหุ้นด้วยวิธีต่างๆ เพียงอย่างเดียว
กุญแจทั้ง 5 ดอก จากหนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้นักลงทุนมีความเข้าใจใน “การลงทุนแบบเน้นคุณค่า” มากขึ้น รวมทั้งสามารถนำวิธีการดังกล่าวไปปฏิบัติได้จริงๆ อ่านได้ง่ายแม้กับผู้ที่ไม่เคยลงทุนในตลาดหุ้นมาก่อน หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ แทนที่จะเสียเงินซื้อประสบการณ์จากการขาดทุนเป็นแสนเป็นล้านบาทในตลาดหุ้น ยอมเสียเงิน “ซื้อหนังสือ” ราคาไม่กี่ร้อยบาทเพื่อหาความรู้ก่อนเข้าตลาดจะดีกว่า--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 18
พี่ kabu เขียนสรุป เป็น ภาพ อ่านเข้าใจง่ายดีครับ
ตาม link นี้เลยครับ
http://kabuvi.wordpress.com/2012/07/20/ ... investing/
ตาม link นี้เลยครับ
http://kabuvi.wordpress.com/2012/07/20/ ... investing/
-
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 19
[quote="kongkiti"]พี่ kabu เขียนสรุป เป็น ภาพ อ่านเข้าใจง่ายดีครับ
ตาม link นี้เลยครับ
http://kabuvi.wordpress.com/2012/07/20/ ... investing/[/quote]
Blog ของคุณ kongkiti ก้อดีมากๆ เลยครับ โดยเฉพาะหนังสือ Super Stocks
:-)
ตาม link นี้เลยครับ
http://kabuvi.wordpress.com/2012/07/20/ ... investing/[/quote]
Blog ของคุณ kongkiti ก้อดีมากๆ เลยครับ โดยเฉพาะหนังสือ Super Stocks
:-)
-
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 23
หนังสือเล่มนี้เคยพิมพ์แล้วเมื่อปี 2547 พิมพ์ครั้งนี้ทำไมยังลงว่าพิมพ์ครั้งที่ 1 อีก ไม่เข้าใจระบบครับ
หนังสือของคุณพรชัย สนพ วิสดอมฯ ทุกเล่มที่นำมาพิมพ์ซ้ำ แต่จะลงว่าพิมพ์ครั้งที่ 1 ทุกเล่ม มันทำให้สับสนคิดว่าเนื้อหาไม่เหมือนกัน (น่าจะลงว่าพิมพ์ครั้งที่ 2 จะดีกว่า)
รบกวนช่วยชี้แจงวิธีการนับครั้งที่พิมพ์ด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
หนังสือของคุณพรชัย สนพ วิสดอมฯ ทุกเล่มที่นำมาพิมพ์ซ้ำ แต่จะลงว่าพิมพ์ครั้งที่ 1 ทุกเล่ม มันทำให้สับสนคิดว่าเนื้อหาไม่เหมือนกัน (น่าจะลงว่าพิมพ์ครั้งที่ 2 จะดีกว่า)
รบกวนช่วยชี้แจงวิธีการนับครั้งที่พิมพ์ด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 24
ทาง se-ed แจ้งผมว่า ต้องการให้ทำปกใหม่ และต้องขอเลข isbn ใหม่
ซึ่งพอเป็นเลข isbn ใหม่ มันก็เลยต้องเป็นพิมพ์ครั้งที่ 1 ครับ
โปรดดูชื่อหนังสือเป็นหลักครับ ถ้าชื่อเดิมเนื้อหาจะเหมือนเดิมครับ
ผมไม่ต้องการให้คนซื้อซ้ำครับ
จริงๆแล้ว ในระบบหนังสือ การพิมพ์กี่ครั้งไม่ใช่ตัวที่ทำให้เนื้อหาเปลี่ยน
ถ้าเนื้อหาเปลี่ยน เค้าจะใช้คำว่า edition ซึ่งถ้าไม่ใช่ textboook แล้ว
มักจะมีเนื้อหาเดียวเท่านั้น (ยกเว้นไม่กี่เล่ม)
ซึ่งพอเป็นเลข isbn ใหม่ มันก็เลยต้องเป็นพิมพ์ครั้งที่ 1 ครับ
โปรดดูชื่อหนังสือเป็นหลักครับ ถ้าชื่อเดิมเนื้อหาจะเหมือนเดิมครับ
ผมไม่ต้องการให้คนซื้อซ้ำครับ
จริงๆแล้ว ในระบบหนังสือ การพิมพ์กี่ครั้งไม่ใช่ตัวที่ทำให้เนื้อหาเปลี่ยน
ถ้าเนื้อหาเปลี่ยน เค้าจะใช้คำว่า edition ซึ่งถ้าไม่ใช่ textboook แล้ว
มักจะมีเนื้อหาเดียวเท่านั้น (ยกเว้นไม่กี่เล่ม)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 25
อีกอย่าง การพิมพ์กี่ครั้ง มันบอกอะไรเราชัดๆไม่ได้หรอกครับ
อย่างหนังสือขายดีบางเล่ม เดือนเดียวพิมพ์ห้าหกครั้ง
ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เพราะของที่สั่งยังไม่ทันมาก็สั่งพิมพ์ใหม่อีกแล้ว
และการสั่งพิมพ์เยอะๆจะถูกกว่ามาก
นอกจากนี้ การพิมพ์ครั้งหนึ่งของแต่ละเจ้าก็ไม่มีมาตรฐาน
บางคนพิมพ์ 1000 เล่ม บางคนพิมพ์ 5000 เล่ม
บางเจ้าถึงขนาดระบุว่าพิมพ์ครั้งที่ 1, 2, 3 ในเดือนมกรา กุมภา มีนา
ไว้ล่วงหน้าเลยทั้งๆที่หนังสือเพิ่งออกในเดือนมกรา
อย่างหนังสือขายดีบางเล่ม เดือนเดียวพิมพ์ห้าหกครั้ง
ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เพราะของที่สั่งยังไม่ทันมาก็สั่งพิมพ์ใหม่อีกแล้ว
และการสั่งพิมพ์เยอะๆจะถูกกว่ามาก
นอกจากนี้ การพิมพ์ครั้งหนึ่งของแต่ละเจ้าก็ไม่มีมาตรฐาน
บางคนพิมพ์ 1000 เล่ม บางคนพิมพ์ 5000 เล่ม
บางเจ้าถึงขนาดระบุว่าพิมพ์ครั้งที่ 1, 2, 3 ในเดือนมกรา กุมภา มีนา
ไว้ล่วงหน้าเลยทั้งๆที่หนังสือเพิ่งออกในเดือนมกรา
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 26
เพิ่งได้หนังสือมาเมื่อวาน
อ่านได้ไปนิดเดียวเองครับหลับ 555
เนื้อหาแน่นมาก....
แต่คุณพรชัยแปลได้ดีมาเลยครับ
ขนาดเนื้อหาเยอะแบบนี้ยังอ่านเข้าใจง่าย
ปล. ผมมาทำงานอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนกุมภา กว่าจะกลับก็กุมภาปีหน้า
แต่เห็นหนังสือแล้วอดใจไม่ไหวเลยให้ที่บ้านซื้อส่งมาให้...
อ่านได้ไปนิดเดียวเองครับหลับ 555
เนื้อหาแน่นมาก....
แต่คุณพรชัยแปลได้ดีมาเลยครับ
ขนาดเนื้อหาเยอะแบบนี้ยังอ่านเข้าใจง่าย
ปล. ผมมาทำงานอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนกุมภา กว่าจะกลับก็กุมภาปีหน้า
แต่เห็นหนังสือแล้วอดใจไม่ไหวเลยให้ที่บ้านซื้อส่งมาให้...
-
- Verified User
- โพสต์: 28
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หนังสือกุญแจ5ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 28
[quote="charonp"]รบกวนถามพี่เวบ หรือผู้รู้หน่อยครับ
เกี่ยวกับการประเมินมูลค่าในหน้า 131
การประเมินด้วย PE = 1870
การประเมินด้วย DCF = 2550
ตัวเลขทั้งสองตัวนี้ คำนวณออกมายังไงครับ
ขอบคุณครับ[/quote]
มีแหล่งค้นคว้าเพิ่มเติมไหมครับ.. วิธีการประเมิน
เกี่ยวกับการประเมินมูลค่าในหน้า 131
การประเมินด้วย PE = 1870
การประเมินด้วย DCF = 2550
ตัวเลขทั้งสองตัวนี้ คำนวณออกมายังไงครับ
ขอบคุณครับ[/quote]
มีแหล่งค้นคว้าเพิ่มเติมไหมครับ.. วิธีการประเมิน