จากกระทู้ http://pantip.com/topic/34083442
เป็นเรื่องที่ตอบยากพอตัว
แต่ผมพอจะสรุปได้ถ้าเจตนาสร้างความหลอกลวง อันนี้บาปแน่นอน
วันนี้ถกเรื่องปั่นหุ้นบาปไหม
- peacedev
- Verified User
- โพสต์: 668
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วันนี้ถกเรื่องปั่นหุ้นบาปไหม
โพสต์ที่ 2
ตอบตามหัวข้อนะครับ ถ้าปั่นก็บาปแน่นอนครับ
หนักมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเจตนา
หนักมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเจตนา
http://peacedev.wordpress.com
"The Quant"
"The Quant"
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วันนี้ถกเรื่องปั่นหุ้นบาปไหม
โพสต์ที่ 3
ผมชอบไอเดียนี้ฮะ มาจากห้องลับแล
เป็นของสมาชิกท่านนึงฮะ เอามาแชร์โดยขออนุญาตตรงนี้นะฮะ ถ้าไม่ถูกใจผมขอรับผิดเอง
"1. เรื่องที่ว่าถ้าเรากำไรแปลว่าไปกินเงินคนอื่นหรือไม่
ผมมองว่าจุดสำคัญอยู่ที่เจตนาครับ เวลาผมซื้อหุ้น ผมไม่ได้คิดเลยว่าใครจะกำไรจะขาดทุน คิดแต่ว่าอนาคตของหุ้นตัวนี้จะเป็นยังไง มีความเสี่ยงมากหรือน้อย คุ้มค่าหรือเปล่า ไม่ได้คิดถึงผลได้เสียของคนอื่น
ต่างกับเจ้ามือที่ทำราคาหุ้น แบบนั้นเค้าย่อมรู้อยู่แล้วว่ากำลังสร้างราคาให้เคลื่อนไหวผิดปกติ สร้างสตอรี่ให้คนหลงเข้าใจผิดๆ รู้อยู่แก่ใจว่า ใครก็ตามที่เข้ามารับหุ้นต่อไปที่ราคาสูงเกินจริงย่อมเสียหายในที่สุด หรือแม้แต่ผู้บริหารที่หลอกลวงรายย่อยให้มาเพิ่มทุนเพื่อเอาเงินไปต่อลมหายใจกิจการและจะได้นำไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตน"
"2. เรื่องวีไอทะมิน ช่วงนั้นที่กระแสวีไอแรงมากๆ หุ้นของ Celeb วิ่งยังกับหุ้นปั่น
ตามที่ผมเข้าใจคือตอนนั้นมีพวกรายใหญ่สายเก็งกำไรเค้าเริ่มเห็นกระแสในเว็บไทยวิครับ เค้าก็เลยขนเงินเข้ามาผสมโรง แล้วก็เริ่มใหสัมภาษณ์ตามสื่อว่าเค้าเป็นแนววีไอ จะรายใหญ่คนไหนก็คนที่เดิมเล่นแต่หุ้นเก็งกำไร แต่พอกระแสวีไอมาก็ออกมาประกาศว่าตัวเองเลิกเก็งกำไรแล้วหันมาเป็นวีไอนั่นแหละครับ (ขอไม่เอ่ยนาม เดี๋ยวโดนฟ้องหมิ่นประมาทครับ)"
"3. เรื่องราคาหุ้นยิ่งขึ้น เหตุผลดีๆ ความมั่นใจมากๆ เริ่มตามมา
อันนี้ที่จริงถ้าไม่ได้ทำราคาหุ้นซะเอง ก็คือเข้าข่ายติดกับดักจิตวิทยาแล้วครับ
ผมเคยเห็นนักวิเคราะห์หลายคนชอบมาออกสื่อแบบโชว์พาวว่า เห็นมั้ยครับ หุ้นวิ่งแรงเหม่อนที่ผมมาแนะนำว่าพื้นฐานดีเมื่อสัปดาห์ก่อน
เอ่อ... พี่ครับ ถ้าพี่ไม่ได้บอกให้รายใหญ่เก็บหุ้นก่อน แล้วมาออกสื่อ แล้วให้รายใหญ่ลากราคาจุดพลุเพื่อล่อเม่าเข้ากองไฟ การที่พี่มาเชียร์มันคงไม่ทำให้จู่ๆ ราคาต้องรีบขึ้นมาสะท้อนมูลค่าในเร็ววันทันใจขนาดนั้นหรอกมั้งพี่"
เป็นของสมาชิกท่านนึงฮะ เอามาแชร์โดยขออนุญาตตรงนี้นะฮะ ถ้าไม่ถูกใจผมขอรับผิดเอง
"1. เรื่องที่ว่าถ้าเรากำไรแปลว่าไปกินเงินคนอื่นหรือไม่
ผมมองว่าจุดสำคัญอยู่ที่เจตนาครับ เวลาผมซื้อหุ้น ผมไม่ได้คิดเลยว่าใครจะกำไรจะขาดทุน คิดแต่ว่าอนาคตของหุ้นตัวนี้จะเป็นยังไง มีความเสี่ยงมากหรือน้อย คุ้มค่าหรือเปล่า ไม่ได้คิดถึงผลได้เสียของคนอื่น
ต่างกับเจ้ามือที่ทำราคาหุ้น แบบนั้นเค้าย่อมรู้อยู่แล้วว่ากำลังสร้างราคาให้เคลื่อนไหวผิดปกติ สร้างสตอรี่ให้คนหลงเข้าใจผิดๆ รู้อยู่แก่ใจว่า ใครก็ตามที่เข้ามารับหุ้นต่อไปที่ราคาสูงเกินจริงย่อมเสียหายในที่สุด หรือแม้แต่ผู้บริหารที่หลอกลวงรายย่อยให้มาเพิ่มทุนเพื่อเอาเงินไปต่อลมหายใจกิจการและจะได้นำไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตน"
"2. เรื่องวีไอทะมิน ช่วงนั้นที่กระแสวีไอแรงมากๆ หุ้นของ Celeb วิ่งยังกับหุ้นปั่น
ตามที่ผมเข้าใจคือตอนนั้นมีพวกรายใหญ่สายเก็งกำไรเค้าเริ่มเห็นกระแสในเว็บไทยวิครับ เค้าก็เลยขนเงินเข้ามาผสมโรง แล้วก็เริ่มใหสัมภาษณ์ตามสื่อว่าเค้าเป็นแนววีไอ จะรายใหญ่คนไหนก็คนที่เดิมเล่นแต่หุ้นเก็งกำไร แต่พอกระแสวีไอมาก็ออกมาประกาศว่าตัวเองเลิกเก็งกำไรแล้วหันมาเป็นวีไอนั่นแหละครับ (ขอไม่เอ่ยนาม เดี๋ยวโดนฟ้องหมิ่นประมาทครับ)"
"3. เรื่องราคาหุ้นยิ่งขึ้น เหตุผลดีๆ ความมั่นใจมากๆ เริ่มตามมา
อันนี้ที่จริงถ้าไม่ได้ทำราคาหุ้นซะเอง ก็คือเข้าข่ายติดกับดักจิตวิทยาแล้วครับ
ผมเคยเห็นนักวิเคราะห์หลายคนชอบมาออกสื่อแบบโชว์พาวว่า เห็นมั้ยครับ หุ้นวิ่งแรงเหม่อนที่ผมมาแนะนำว่าพื้นฐานดีเมื่อสัปดาห์ก่อน
เอ่อ... พี่ครับ ถ้าพี่ไม่ได้บอกให้รายใหญ่เก็บหุ้นก่อน แล้วมาออกสื่อ แล้วให้รายใหญ่ลากราคาจุดพลุเพื่อล่อเม่าเข้ากองไฟ การที่พี่มาเชียร์มันคงไม่ทำให้จู่ๆ ราคาต้องรีบขึ้นมาสะท้อนมูลค่าในเร็ววันทันใจขนาดนั้นหรอกมั้งพี่"
samatah