ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 1
พอดี ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดก่อนที่วันหยุดยาวมาถึง
จุดหมายปลายทางของทริปนี้คือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ออกจากบ้านวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2556 ขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองตอน 0900 น. สายการบินที่ใช้คือ นกแอร์
(จุดเด่นของนกแอร์ คือ
1. โหลดของใต้เครื่อง 15 kg ไม่เสียเงินเพิ่ม
2. มีอาหารว่างบนเครื่องเป็นของ แอนด์ตี้แอนด์
แต่เรื่องของอาหารตาอันนี้แล้วแต่สายตาของท่านๆละกัน)
ถึงที่หมายตรงเวลาครับ โดยเส้นทางดอนเมืองถึงเชียงใหม่ใช้เวลา 1 ชั่วโมง คือ ถึง 1000 น.
จับรถสองแถวไปอาเขต ถึงที่นั้นก็ 1100 น. จ่ายค่ารถไป 150 บาทมีคนนั่งไป 5 คน
โดยรถสองแถว (สีแดงที่วิ่งรอบเมือง) ส่งคนที่กาด(ตลาด)ก่อนแล้ววนไปอาเขต
ถึงอาเขต เดินหาวินรถตู้เพื่อเข้าปาย เจอรถตู้ ได้รอบ 1330 น. จริงๆมันมีรอบก่อนหน้านั้น คือ 1230 น. แต่นั่งแถวสุดท้าย (นั่งแถวที่สามปลอดภัยกว่า เพราะได้อ่านเจอะเจอว่า โค้งมหากาฬจริงๆเส้นทางนี้)
ตอนนี้แหละที่พักที่ปายโทรมาบอกว่า Confirm ที่พักหรือเปล่า (เราเองไม่ได้โทรไป confirm แต่เราได้จองไปเลยว่าไปแน่นอน ในวันที่จองที่พักระบุวันไปเลยว่าเราไปช่วงเวลานี้)
และซื้อตั๋วเที่ยวกลับไว้ด้วยเลย เพราะเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่ง
เสียเวลาอยู่ในเชียงใหม่ไม่ได้ทำอะไร ถึง 1330 น. เดินไปทาง Mac ที่ข้างๆ อาเขตเลยละ
ถึงเวลาก็ขึ้นรถตู้ คราวนี้ที่ผมแปลกใจคือ ในรถมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ครึ่งคัน (รถออกรอบนี้สามคัน เพื่อไปปาย)
ตอนนี้เป็น High light ของวันคือ โค้งแล้วโค้งอีก ถ้าหากใครไม่ทานยาแก้เมารถ มีอ้วกครับ (ไม่อ้วกคือไม่ถึงแม่ฮ่องสอน) เส้นทางโหดร้ายมากๆๆ
แวะพักครึ่งทางก็ได้ทานสตอเบอรี่ อร่อยดี พักครึ่งทางเป็นเวลา 20 นาทีแล้วไปต่อ
ถึงปาย ก็ประมาณ 1630 น.
เข้าที่พักวางของ จากนั้นก็ หาทัวร์ว่า พรุ่งนี้ไปไหน และวันมะรืนไปไหนดีหนอ
สุดท้ายสรุปได้ว่า วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2556 (วันถัดมา) ไปปางอุ้ง (แม่ฮ่องสอน ติดกับชายแดนพม่า) เที่ยวทั้งวันออกประมาณ 0300 น. แล้ววันมะรือ (25 ธันวาคม 2556) เที่ยวรอบปาย ครึ่งวันเช้า
จากนั้นก็เดินถนนคนเดิน ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เข้าวัดกลางไปไหว้พระ หาอะไรทานไปเรื่อยๆ
เรื่องของอากาศหรือครับ ไม่ต้องพูดถึง หนาวเอาเรื่องประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียสเท่านั้นครับ
เข้านอนกันตอน 2300 น.
จบแค่นี้ก่อนเดี๋ยวมาต่อวันพรุ่งนี้
ปล.
ผมสังเกตมาสองสามครั้งแล้ว เวลาที่ผมขึ้นเครื่องเจอะเจอปัญหาใหญ่หลวงคือ
ปวดหูด้านซ้ายปวดมากๆๆด้วยละครับ
ใครที่เป็นหมอทางด้านหู คอ จมูก ปาก ขอความอนุเคราะห์เรื่องนี้หน่อยครับ
ว่าควรเตรียมตัวอย่างไงครับ สำหรับปัญหานี้
จุดหมายปลายทางของทริปนี้คือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ออกจากบ้านวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2556 ขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองตอน 0900 น. สายการบินที่ใช้คือ นกแอร์
(จุดเด่นของนกแอร์ คือ
1. โหลดของใต้เครื่อง 15 kg ไม่เสียเงินเพิ่ม
2. มีอาหารว่างบนเครื่องเป็นของ แอนด์ตี้แอนด์
แต่เรื่องของอาหารตาอันนี้แล้วแต่สายตาของท่านๆละกัน)
ถึงที่หมายตรงเวลาครับ โดยเส้นทางดอนเมืองถึงเชียงใหม่ใช้เวลา 1 ชั่วโมง คือ ถึง 1000 น.
จับรถสองแถวไปอาเขต ถึงที่นั้นก็ 1100 น. จ่ายค่ารถไป 150 บาทมีคนนั่งไป 5 คน
โดยรถสองแถว (สีแดงที่วิ่งรอบเมือง) ส่งคนที่กาด(ตลาด)ก่อนแล้ววนไปอาเขต
ถึงอาเขต เดินหาวินรถตู้เพื่อเข้าปาย เจอรถตู้ ได้รอบ 1330 น. จริงๆมันมีรอบก่อนหน้านั้น คือ 1230 น. แต่นั่งแถวสุดท้าย (นั่งแถวที่สามปลอดภัยกว่า เพราะได้อ่านเจอะเจอว่า โค้งมหากาฬจริงๆเส้นทางนี้)
ตอนนี้แหละที่พักที่ปายโทรมาบอกว่า Confirm ที่พักหรือเปล่า (เราเองไม่ได้โทรไป confirm แต่เราได้จองไปเลยว่าไปแน่นอน ในวันที่จองที่พักระบุวันไปเลยว่าเราไปช่วงเวลานี้)
และซื้อตั๋วเที่ยวกลับไว้ด้วยเลย เพราะเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่ง
เสียเวลาอยู่ในเชียงใหม่ไม่ได้ทำอะไร ถึง 1330 น. เดินไปทาง Mac ที่ข้างๆ อาเขตเลยละ
ถึงเวลาก็ขึ้นรถตู้ คราวนี้ที่ผมแปลกใจคือ ในรถมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ครึ่งคัน (รถออกรอบนี้สามคัน เพื่อไปปาย)
ตอนนี้เป็น High light ของวันคือ โค้งแล้วโค้งอีก ถ้าหากใครไม่ทานยาแก้เมารถ มีอ้วกครับ (ไม่อ้วกคือไม่ถึงแม่ฮ่องสอน) เส้นทางโหดร้ายมากๆๆ
แวะพักครึ่งทางก็ได้ทานสตอเบอรี่ อร่อยดี พักครึ่งทางเป็นเวลา 20 นาทีแล้วไปต่อ
ถึงปาย ก็ประมาณ 1630 น.
เข้าที่พักวางของ จากนั้นก็ หาทัวร์ว่า พรุ่งนี้ไปไหน และวันมะรืนไปไหนดีหนอ
สุดท้ายสรุปได้ว่า วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2556 (วันถัดมา) ไปปางอุ้ง (แม่ฮ่องสอน ติดกับชายแดนพม่า) เที่ยวทั้งวันออกประมาณ 0300 น. แล้ววันมะรือ (25 ธันวาคม 2556) เที่ยวรอบปาย ครึ่งวันเช้า
จากนั้นก็เดินถนนคนเดิน ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เข้าวัดกลางไปไหว้พระ หาอะไรทานไปเรื่อยๆ
เรื่องของอากาศหรือครับ ไม่ต้องพูดถึง หนาวเอาเรื่องประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียสเท่านั้นครับ
เข้านอนกันตอน 2300 น.
จบแค่นี้ก่อนเดี๋ยวมาต่อวันพรุ่งนี้
ปล.
ผมสังเกตมาสองสามครั้งแล้ว เวลาที่ผมขึ้นเครื่องเจอะเจอปัญหาใหญ่หลวงคือ
ปวดหูด้านซ้ายปวดมากๆๆด้วยละครับ
ใครที่เป็นหมอทางด้านหู คอ จมูก ปาก ขอความอนุเคราะห์เรื่องนี้หน่อยครับ
ว่าควรเตรียมตัวอย่างไงครับ สำหรับปัญหานี้
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1281
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 2
จะขึ้นเชียงใหม่หลังปีใหม่เหมือนกันครับ
4-12 มค 57 แต่ขับรถไปเอง แวะไปเรื่อย อิอิ
คืนแรกนอนที่เขื่อนภูมิพล จ ตากก่อน
อาทิตย์ค่อยถึงเชียงใหม่นอนแถวถนนคนเดินท่าแพ
จันทร์ขึ้นดอยสุเทพ ปุย ดูนางพญาเสือโคร่งแล้วมานอนที่ขุนช่างเคี่ยน
อังคารไปดูนางพญาเสือโคร่งอีกที่แม่จอนหลวง
พุธ มานอนที่โครงการหลวงขุนวาง ในเทือกอินทนนท์
พฤหัสไปนอนดูดอยเชียงดาวที่ะเบียงดาวโฮมสเตย์
ศุกร์กลับมานอนแถวๆม่อนแจ่ม ดูทะเลหมอก
เสาร์เข้าเมืองเชียงใหม่ ช๊อปถนนคนเดินวัวลาย เดินถนนนิมมาน
อาทิตย์กลับ แวะมาเรื่อยๆชิวๆ อิอิ
ถ้ามีภาพสวยๆจะเอามาฝากนะครับ
ขึ้นเครื่องแล้วปวดหู ผมก็เป็นนะครับ
ใช้วิธี กินกระเทียมอัดเม็ดแบบเข้มข้นก่อนเครื่องขึ้นครึ่งชั่วโมงครับ
สบายหูเลยทีเดียว อิอิ
4-12 มค 57 แต่ขับรถไปเอง แวะไปเรื่อย อิอิ
คืนแรกนอนที่เขื่อนภูมิพล จ ตากก่อน
อาทิตย์ค่อยถึงเชียงใหม่นอนแถวถนนคนเดินท่าแพ
จันทร์ขึ้นดอยสุเทพ ปุย ดูนางพญาเสือโคร่งแล้วมานอนที่ขุนช่างเคี่ยน
อังคารไปดูนางพญาเสือโคร่งอีกที่แม่จอนหลวง
พุธ มานอนที่โครงการหลวงขุนวาง ในเทือกอินทนนท์
พฤหัสไปนอนดูดอยเชียงดาวที่ะเบียงดาวโฮมสเตย์
ศุกร์กลับมานอนแถวๆม่อนแจ่ม ดูทะเลหมอก
เสาร์เข้าเมืองเชียงใหม่ ช๊อปถนนคนเดินวัวลาย เดินถนนนิมมาน
อาทิตย์กลับ แวะมาเรื่อยๆชิวๆ อิอิ
ถ้ามีภาพสวยๆจะเอามาฝากนะครับ
ขึ้นเครื่องแล้วปวดหู ผมก็เป็นนะครับ
ใช้วิธี กินกระเทียมอัดเม็ดแบบเข้มข้นก่อนเครื่องขึ้นครึ่งชั่วโมงครับ
สบายหูเลยทีเดียว อิอิ
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 3
จากนั้นก็เดินถนนคนเดิน ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เข้าวัดกลางไปไหว้พระ หาอะไรทานไปเรื่อยๆ
เรื่องของอากาศหรือครับ ไม่ต้องพูดถึง หนาวเอาเรื่องประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียสเท่านั้นครับ
แบ่งปันรูป ให้ดูหน่อยครับ
ส่วนตัวเป็นโรคภูมิแพ้ อากาศเย็นจะจามตลอด
เรื่องเที่ยวเขา นอนดอย คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้ไป(ไม่อยากทรมานตัวเอง)
เรื่องของอากาศหรือครับ ไม่ต้องพูดถึง หนาวเอาเรื่องประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียสเท่านั้นครับ
แบ่งปันรูป ให้ดูหน่อยครับ
ส่วนตัวเป็นโรคภูมิแพ้ อากาศเย็นจะจามตลอด
เรื่องเที่ยวเขา นอนดอย คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้ไป(ไม่อยากทรมานตัวเอง)
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณครับสำหรับเรื่ืองปวดหูครับ
by the way
วันที่สองที่อยู่ที่ปาย
คืนแรกที่นอนเจอปัญหาสำคัญคือ ผ้าห่มบนเตียงนอนเอาไม่อยู่ หนาวมากๆๆ ขนาดเปิด แอร์ด้วยเพื่อให้แอร์ช่วย
ไม่ช่วยอะไรเลย แต่ก็ยังหนาว แถมตื่นนอนตอนตีสาม เพราะซื้อทัวร์ไปเที่ยวปางอุ้ง(ขอบอกว่าสวยมากๆๆ)
ล้อรถเคลื่อนออกจากปายตีสี่กว่าๆ ก่อนขึ้นรถก็ทานยาแก้เมารถ และ ก็ถ่ายรูปถนนที่ว่างเปล่าในปายก่อน
ออกเดินทางไปเจอปัญหาที่สำคัญคือ อ้วกของผู้ที่ไปด้วย โดยเป็นแม่ลูกอ่อน เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ
เส้นทางที่ไปจากปายถึงปางอุ้ง เส้นทางนี้โหดร้ายมากกว่าตอนที่มาจากเชียงใหม่เข้าปายเสียอีก
คนขับรถตู้ขับแบบเข้าโค้งแบบเลนข้างๆ เพื่อให้มีแรงส่งตลอดทาง เรานั่งข้างหน้้ายังจะอ้วกเลย เนื่องจากดูเส้นถนน
วิธีการแก้ไขคือ นอนอย่างเดียว หรือ หลับตาแล้วสวดมนต์ หรือ ตั้งในฐานกาย (ขนาดทางยาแล้วเมาได้อีก ถ้าไม่ทานจะขนาดไหนหนอ)
ถึงปางอุ้ง 0730 น. หนาวแบบว่ารองเท้าเดินป่า เย็นถึงขนาดในได้ ใส่สามชั้นยังหนาวละกัน หรือกางเกงใส่ลอนจอนและกางเกงยีนส์เอาไม่อยู่ (เลขตัวเดียวสำหรับอากาศ) แต่ความหนาวก็หายไป คือ วิวที่สวยงามมากๆๆ หมอกบนเขื่อน ที่ลอยบนน้ำ วิวสวยจริงๆๆครับ ชมเสร็จแล้วก็หาร้านชาทานซักหน่อยละ
ชาที่นี้อร่อยดี มีครบคือ ชาดำ ชาเหลือง ชาเขียว และ ชาขาวเลย ลองชิมละครับ
ออกจากปางอุ้ง ไปทานอาหารที่บ้านรักไทย ทานข้าว ร้านที่ไปทานวิวสวยงามมากๆครับ
ทานเสร็จก็ถ่ายรูปนิดหน่อย แต่ไกด์ผ่านทัวร์ไปถ่ายที่เขื่อนที่บ้านรักไทยด้วย วิวจุดนี้สวยเหมือนกันครับ
จากนั้นไปน้ำตกผาเสื่อ ลงรถตู้ พบเจอรถฮอนด้าซิติ้ มีควันขึ้นที่รถด้านหน้า อาการนี้เบรกไหม้ครับ
ไปตกมิได้ละ งานเข้าคนที่มาด้วยกับรถคันนี้จำนวน 3-4 ท่าน ลงมาแบบหน้าเสีย
ถ้าหากใครขับรถขึ้นเขาแล้วเหยียบเบรกค้างตกทางลง ก็เจออาการเบรกไหม้
ถ้าไม่ต้องการให้เบรกไหม้ ต้องเหยียบแล้วปล่อยตลอด เหมือนที่รถเมล์สายเปรตทำเสมอๆๆ
น้ำตกผาเสื่อไม่ต้องซื้ออาหารปลาที่ทางเข้าละกัน ไม่ค่อยมีปลาที่น้ำตกนี้ ความสวยในสายตาก็พอใช้ได้ละครับ
ออกจากน้ำตกผาเสื่อ เข้าสู่การแช่เท้า พอกโคลนที่ภูโคลน แต่น่าเสียดายที่ไมไ่ด้ถ่ายรูปของภูโคลนมา
จุดนี้เราไปนอนแช่น้ำแร่ประมาณครึ่งชั่วโมงเอาแบบจุใจเลยล่ะกัน
ไปต่อที่ร้านอาหารทางข้าวก่อน แล้วไปที่หมู่บ้านกะเหรียงคอยาว เข้าไปลึกมากๆๆ ทางนี้ผ่านฝ่านน้ำล้น ประมาณ 4-5 ครั้ง กว่าถึงหมู่บ้าน ถ้าเป็นในหน้าฝน ก็รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นถึงเข้าได้ จุดนี้อุดหนุนสินค้าของกะเหรี่ยงคอยาวหน่อยละกัน ต่อจากจุดนี้ไปไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นจุดชมวิวที่สวยงามเหมือนกันละครับ ลองถ่ายภาพพาโรนาม่าดูล่ะ
แล้วไปดูปลาที่ถ้ำปลา จุดนี้ปลาเพียบเลย แถมตัวใหญ่มากๆๆ สิ่งที่ได้จากจุดนี้คือเรื่องแสงแดดที่สวยงามมากๆ
แล้วไปต่อที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิวลุกข้าวหลาม (แวะเข้าห้องน้ำด้วย) แต่จุดที่เป็น high light คือ จุดชมวิวกิ่วลม เรามาึุึถึงจุดนี้พระอาทิตย์ตกไปแล้วแต่ยังเหลือแสงทอง ถ่ายรูปต้องใช้แฟลตช่วย ไม่งั้นไม่สวยงาม
หมดจากจุดนี้ ไกด์โดนโทรตามว่าทำไมกลับถึงปายเกินทุ่มหนึ่ง ก็เป็นเพราะว่า อ้วก และ ช้านิดหน่อยตลอดเส้นทาง
กลับเข้าเมืองเก็บข้าวแล้ว shopping ตลาดคนเดิน คืนนี้นอนดึกครับ ก็ ห้าทุ่มกว่าๆครับ
พรุ่งนี้ได้เที่ยวรอบตัวเมืองปาย และ ก็ออกจากปายกลับละครับ
ปล
ผู้ร่วมทริปวันนี้ มาเป็นครอบครัวสี่ท่าน คู่รัก 2 คู่และเหล่าเพื่อน 3 ท่าน
โดยครอบครัวมาเป็นขบวนรถส่วนตัว 4-5 คัน ตอนเข้ามาที่ปาย คันที่ครอบครัวนี้นำมาคือ
นาวารา เกิดอาการเบรกไหม้ เสียค่าเปลี่ยนเบรกไป 2,000 บาทรวมค่าแรง
ถ้าใครไปพื้นที่ป่าเขา ควรที่พกผ้าเบรกไปอย่างน้อย 1 ชุดเพราะเบรกของรถท่านสำคัญอย่างมากๆๆ
ครอบครัวนี้คนขับคือคนเป็นพ่อคนนั้นขับมาทุกจังหวัดในประเทศไทย แต่พอมาปายเท่านั้นแหละเบรกไหม้
เพราะว่า ขับจี้ตามมากัน พอเบรกไหม้ เขาเชนเกียร์และใช้เบรกมือช่วยในการควบคุมทิศทางของรถแทนเลย
ดังนั้น ขาออกจากปายตัวใครตัวมันละกัน ไม่ขับจี้กันดีที่สุด
ขนาดคนขับรถตู้ยังมีประสบการณ์เปลี่ยนเบรก 1,700 บาทรวมค่าแรง
"รถตู้เป็นสิงห์ทางตรง เป็นเต่าทางขึ้นเขา
ส่วนรถปิกอัพ เป็นเสือทางขึ้นเขา"
by the way
วันที่สองที่อยู่ที่ปาย
คืนแรกที่นอนเจอปัญหาสำคัญคือ ผ้าห่มบนเตียงนอนเอาไม่อยู่ หนาวมากๆๆ ขนาดเปิด แอร์ด้วยเพื่อให้แอร์ช่วย
ไม่ช่วยอะไรเลย แต่ก็ยังหนาว แถมตื่นนอนตอนตีสาม เพราะซื้อทัวร์ไปเที่ยวปางอุ้ง(ขอบอกว่าสวยมากๆๆ)
ล้อรถเคลื่อนออกจากปายตีสี่กว่าๆ ก่อนขึ้นรถก็ทานยาแก้เมารถ และ ก็ถ่ายรูปถนนที่ว่างเปล่าในปายก่อน
ออกเดินทางไปเจอปัญหาที่สำคัญคือ อ้วกของผู้ที่ไปด้วย โดยเป็นแม่ลูกอ่อน เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ
เส้นทางที่ไปจากปายถึงปางอุ้ง เส้นทางนี้โหดร้ายมากกว่าตอนที่มาจากเชียงใหม่เข้าปายเสียอีก
คนขับรถตู้ขับแบบเข้าโค้งแบบเลนข้างๆ เพื่อให้มีแรงส่งตลอดทาง เรานั่งข้างหน้้ายังจะอ้วกเลย เนื่องจากดูเส้นถนน
วิธีการแก้ไขคือ นอนอย่างเดียว หรือ หลับตาแล้วสวดมนต์ หรือ ตั้งในฐานกาย (ขนาดทางยาแล้วเมาได้อีก ถ้าไม่ทานจะขนาดไหนหนอ)
ถึงปางอุ้ง 0730 น. หนาวแบบว่ารองเท้าเดินป่า เย็นถึงขนาดในได้ ใส่สามชั้นยังหนาวละกัน หรือกางเกงใส่ลอนจอนและกางเกงยีนส์เอาไม่อยู่ (เลขตัวเดียวสำหรับอากาศ) แต่ความหนาวก็หายไป คือ วิวที่สวยงามมากๆๆ หมอกบนเขื่อน ที่ลอยบนน้ำ วิวสวยจริงๆๆครับ ชมเสร็จแล้วก็หาร้านชาทานซักหน่อยละ
ชาที่นี้อร่อยดี มีครบคือ ชาดำ ชาเหลือง ชาเขียว และ ชาขาวเลย ลองชิมละครับ
ออกจากปางอุ้ง ไปทานอาหารที่บ้านรักไทย ทานข้าว ร้านที่ไปทานวิวสวยงามมากๆครับ
ทานเสร็จก็ถ่ายรูปนิดหน่อย แต่ไกด์ผ่านทัวร์ไปถ่ายที่เขื่อนที่บ้านรักไทยด้วย วิวจุดนี้สวยเหมือนกันครับ
จากนั้นไปน้ำตกผาเสื่อ ลงรถตู้ พบเจอรถฮอนด้าซิติ้ มีควันขึ้นที่รถด้านหน้า อาการนี้เบรกไหม้ครับ
ไปตกมิได้ละ งานเข้าคนที่มาด้วยกับรถคันนี้จำนวน 3-4 ท่าน ลงมาแบบหน้าเสีย
ถ้าหากใครขับรถขึ้นเขาแล้วเหยียบเบรกค้างตกทางลง ก็เจออาการเบรกไหม้
ถ้าไม่ต้องการให้เบรกไหม้ ต้องเหยียบแล้วปล่อยตลอด เหมือนที่รถเมล์สายเปรตทำเสมอๆๆ
น้ำตกผาเสื่อไม่ต้องซื้ออาหารปลาที่ทางเข้าละกัน ไม่ค่อยมีปลาที่น้ำตกนี้ ความสวยในสายตาก็พอใช้ได้ละครับ
ออกจากน้ำตกผาเสื่อ เข้าสู่การแช่เท้า พอกโคลนที่ภูโคลน แต่น่าเสียดายที่ไมไ่ด้ถ่ายรูปของภูโคลนมา
จุดนี้เราไปนอนแช่น้ำแร่ประมาณครึ่งชั่วโมงเอาแบบจุใจเลยล่ะกัน
ไปต่อที่ร้านอาหารทางข้าวก่อน แล้วไปที่หมู่บ้านกะเหรียงคอยาว เข้าไปลึกมากๆๆ ทางนี้ผ่านฝ่านน้ำล้น ประมาณ 4-5 ครั้ง กว่าถึงหมู่บ้าน ถ้าเป็นในหน้าฝน ก็รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นถึงเข้าได้ จุดนี้อุดหนุนสินค้าของกะเหรี่ยงคอยาวหน่อยละกัน ต่อจากจุดนี้ไปไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นจุดชมวิวที่สวยงามเหมือนกันละครับ ลองถ่ายภาพพาโรนาม่าดูล่ะ
แล้วไปดูปลาที่ถ้ำปลา จุดนี้ปลาเพียบเลย แถมตัวใหญ่มากๆๆ สิ่งที่ได้จากจุดนี้คือเรื่องแสงแดดที่สวยงามมากๆ
แล้วไปต่อที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิวลุกข้าวหลาม (แวะเข้าห้องน้ำด้วย) แต่จุดที่เป็น high light คือ จุดชมวิวกิ่วลม เรามาึุึถึงจุดนี้พระอาทิตย์ตกไปแล้วแต่ยังเหลือแสงทอง ถ่ายรูปต้องใช้แฟลตช่วย ไม่งั้นไม่สวยงาม
หมดจากจุดนี้ ไกด์โดนโทรตามว่าทำไมกลับถึงปายเกินทุ่มหนึ่ง ก็เป็นเพราะว่า อ้วก และ ช้านิดหน่อยตลอดเส้นทาง
กลับเข้าเมืองเก็บข้าวแล้ว shopping ตลาดคนเดิน คืนนี้นอนดึกครับ ก็ ห้าทุ่มกว่าๆครับ
พรุ่งนี้ได้เที่ยวรอบตัวเมืองปาย และ ก็ออกจากปายกลับละครับ
ปล
ผู้ร่วมทริปวันนี้ มาเป็นครอบครัวสี่ท่าน คู่รัก 2 คู่และเหล่าเพื่อน 3 ท่าน
โดยครอบครัวมาเป็นขบวนรถส่วนตัว 4-5 คัน ตอนเข้ามาที่ปาย คันที่ครอบครัวนี้นำมาคือ
นาวารา เกิดอาการเบรกไหม้ เสียค่าเปลี่ยนเบรกไป 2,000 บาทรวมค่าแรง
ถ้าใครไปพื้นที่ป่าเขา ควรที่พกผ้าเบรกไปอย่างน้อย 1 ชุดเพราะเบรกของรถท่านสำคัญอย่างมากๆๆ
ครอบครัวนี้คนขับคือคนเป็นพ่อคนนั้นขับมาทุกจังหวัดในประเทศไทย แต่พอมาปายเท่านั้นแหละเบรกไหม้
เพราะว่า ขับจี้ตามมากัน พอเบรกไหม้ เขาเชนเกียร์และใช้เบรกมือช่วยในการควบคุมทิศทางของรถแทนเลย
ดังนั้น ขาออกจากปายตัวใครตัวมันละกัน ไม่ขับจี้กันดีที่สุด
ขนาดคนขับรถตู้ยังมีประสบการณ์เปลี่ยนเบรก 1,700 บาทรวมค่าแรง
"รถตู้เป็นสิงห์ทางตรง เป็นเต่าทางขึ้นเขา
ส่วนรถปิกอัพ เป็นเสือทางขึ้นเขา"
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 6
รอดูรูปน้องมิ จำได้ว่าน้องมิ ถ่ายรูปสวยมากๆ
เรื่องหู เวลาขึ้นเครื่องบินนี่ ถ้าเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกอยู่แล้วมันจะแน่นขึ้น ผมเองก็เคยเป็นปวดกันน้ำหูน้ำตาไหลเลยครับ หาวก็แล้ว อะไรก็แล้ว เคี้ยวหมากฝรั่งสารพัด
สรุปก็คือ ถ้ามีน้ำมูกอยู่แล้ว อาจต้องกินยาพวกลดน้ำมูกจำพวก cpm ดักคอไว้ก่อนครับ
เพราะถ้าจมูกบวม มันจะไปอุดท่อ Eustachian ครับ ทำให้อากาศที่หู ที่ขยายตัวตอนขึ้นเครื่องไม่สามารถระบายออกมาได้ครับ ดูตามรูปครับ น้องมิ
ส่วนพี่ dino นี่ ดูทริปแล้วชิลมากเลยนะครับ
เรื่องหู เวลาขึ้นเครื่องบินนี่ ถ้าเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกอยู่แล้วมันจะแน่นขึ้น ผมเองก็เคยเป็นปวดกันน้ำหูน้ำตาไหลเลยครับ หาวก็แล้ว อะไรก็แล้ว เคี้ยวหมากฝรั่งสารพัด
สรุปก็คือ ถ้ามีน้ำมูกอยู่แล้ว อาจต้องกินยาพวกลดน้ำมูกจำพวก cpm ดักคอไว้ก่อนครับ
เพราะถ้าจมูกบวม มันจะไปอุดท่อ Eustachian ครับ ทำให้อากาศที่หู ที่ขยายตัวตอนขึ้นเครื่องไม่สามารถระบายออกมาได้ครับ ดูตามรูปครับ น้องมิ
ส่วนพี่ dino นี่ ดูทริปแล้วชิลมากเลยนะครับ
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 7
พยากรณ์อากาศวันนี้ครับ อ่านแล้ว ฟินเลย นับถอยหลังไปเที่ยวละครับ เย็นๆนี่ชอบที่ซู้ด
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศ ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (27 ธ.ค. 56) ทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไปมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย
อนึ่ง ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องจนถึงช่วงปีใหม่
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 11-13 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-27 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-7 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-6 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณพี่หมอทุกท่านที่ให้ความรู้ครับ
อาการของผมเป็นข้างเดียวครับคือหูด้านซ้าย
หูด้านขวาแค่กลืนน้ำลายก็หายแล้ว แต่หูด้านซ้ายนี้ ทำทุกวิธีทางก็เอาไม่อยู่ครับ
ไล่ตั้งแต่กลืนน้ำลาย หาวก็แล้ว จนต้องรอเวลาประมาณ 10-15 นาทีหลังเครื่องลงจอด
หูถึงกลับมาจากสภาพหูดับเป็นหูปกติครับ
อาการปวดมากๆๆครับ บริเวณหลังหู
เป็นทุกเที่ยวบินเลย จะเป็นน้อยหรือเป็นมากแล้วแต่ครับ
อาการของผมเป็นข้างเดียวครับคือหูด้านซ้าย
หูด้านขวาแค่กลืนน้ำลายก็หายแล้ว แต่หูด้านซ้ายนี้ ทำทุกวิธีทางก็เอาไม่อยู่ครับ
ไล่ตั้งแต่กลืนน้ำลาย หาวก็แล้ว จนต้องรอเวลาประมาณ 10-15 นาทีหลังเครื่องลงจอด
หูถึงกลับมาจากสภาพหูดับเป็นหูปกติครับ
อาการปวดมากๆๆครับ บริเวณหลังหู
เป็นทุกเที่ยวบินเลย จะเป็นน้อยหรือเป็นมากแล้วแต่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 9
หูอื้อเที่ยวนี้ผมเป็นไปสามวันหลังลงเครื่อง ไม่รู้เพราะแก่ลงเยอะมั้ย
โดนลมหนาวราวเจ็ดองศากลางแดดเปรี้ยง น้ำมูกย้อยเหมือนในการ์ตูนเป๊ะ(เข้าใจการ์ตูนตอนนี้เอง)
เรื่องรถขึ้นเขา ถ้าเป็นดีเซลสเวิร์ลแชมเบอร์รุ่นเก่าราวฮีโร่ รึแอล200 กระบะช่วงสั้นกะโซ่พันล้อเนี่ย
สมัยก่อนเค้าเรียกเฟอรารี่ม้งดีๆนี่เอง ไดเรคอินเจคชั่นของอีสุก็ขึ้นเขาสู้ไม่ได้ ยิ่งคอมม่อนเรลใหม่ๆนี่ไม่ได้ฟีลเลย
ผ้าเบรค ตั้งแต่ใช้มาครึ่งล้านกิโล เคยเปลี่ยนครั้งเดียว
เพราะเบรคติดจากไปลุยน้ำท่วมตอนไปดูสุริยุปราคาเต็มดวงเกือบยี่สิบปีที่แล้ว
คือเกียร์ธรรมดานี่ ขึ้นเขาเกียร์ไหน ลงเขาเกียร์นั้น ใช้เอนจ้ินเบรคแทบไม่ต้องแตะเบรค
แม้บางครั้งตอนลงชันๆเกียร์สอง ความชันจะลากเครื่องขึ้นไปขีดแดงให้เสียวบ้าง
ไม่เหมือนเกียร์ออโต้
P(park) N(night) D(day) L(left) R(right)
มีปัญหากลางคืน รถไม่เคลื่อน และตอนจะเลี้ยวขวา รถดันถอยหลัง กว่าจะรู้ก็พักนึง(ผมล้อเล่นนะฮะ แฮ่..)
ว่าแต่ว่า"ไปปาย ไปให้ถึง"
"ถึง"ปายแล้วยังครับ ท่านmiracle
โดนลมหนาวราวเจ็ดองศากลางแดดเปรี้ยง น้ำมูกย้อยเหมือนในการ์ตูนเป๊ะ(เข้าใจการ์ตูนตอนนี้เอง)
เรื่องรถขึ้นเขา ถ้าเป็นดีเซลสเวิร์ลแชมเบอร์รุ่นเก่าราวฮีโร่ รึแอล200 กระบะช่วงสั้นกะโซ่พันล้อเนี่ย
สมัยก่อนเค้าเรียกเฟอรารี่ม้งดีๆนี่เอง ไดเรคอินเจคชั่นของอีสุก็ขึ้นเขาสู้ไม่ได้ ยิ่งคอมม่อนเรลใหม่ๆนี่ไม่ได้ฟีลเลย
ผ้าเบรค ตั้งแต่ใช้มาครึ่งล้านกิโล เคยเปลี่ยนครั้งเดียว
เพราะเบรคติดจากไปลุยน้ำท่วมตอนไปดูสุริยุปราคาเต็มดวงเกือบยี่สิบปีที่แล้ว
คือเกียร์ธรรมดานี่ ขึ้นเขาเกียร์ไหน ลงเขาเกียร์นั้น ใช้เอนจ้ินเบรคแทบไม่ต้องแตะเบรค
แม้บางครั้งตอนลงชันๆเกียร์สอง ความชันจะลากเครื่องขึ้นไปขีดแดงให้เสียวบ้าง
ไม่เหมือนเกียร์ออโต้
P(park) N(night) D(day) L(left) R(right)
มีปัญหากลางคืน รถไม่เคลื่อน และตอนจะเลี้ยวขวา รถดันถอยหลัง กว่าจะรู้ก็พักนึง(ผมล้อเล่นนะฮะ แฮ่..)
ว่าแต่ว่า"ไปปาย ไปให้ถึง"
"ถึง"ปายแล้วยังครับ ท่านmiracle
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ท่องเที่ยวปาย(นอกเรื่อง)
โพสต์ที่ 11
วันสุดท้ายที่เที่ยวในปาย
ตื่นมาตอนเจ็ดโมง อาบน้ำจัดข้าวของ แล้ว Check out
กินข้าวเช้าที่โรงแรม ลิลู (ใกล้ถนนคนเดิน)
โดยทางโรงแรม มีข้าวต้มหมู และ อาหารเช้าแบบตะวันตกให้ทาน
ไกด์ที่พาเราเที่ยวมารอตอน 0800 น. ที่ซื้อ ทัวร์แบบ Private ไว้
ราคา 1500 บาท ถ้า join trip ก็ 300 บาท แต่เริ่ม 0900 ถึง 1500 น.
ซึ่งเราต้องออกจากปายประมาณ 1300 น. เลยตัดใจซื้อ Private trip เลย
หากถ้าใครที่ขับแมงกะไซด์ หรือเอารถมาปาย ก็ขับเองได้ครับ เส้นทางไม่โหดร้ายมากมายอะไรในปาย
งานนี้เรานั่ง โตโยต้า แบบมี Cap ลุยเลยอ่ะ
ที่แรกที่ไปคือ หมู่บ้านจีน สันติชล เป็นหมู่บ้านของชาวจีน แบบยูหนาน
สถานที่เหมาะแก่การถ่ายรูปอย่างมากๆๆ ทำสวยงามๆครับ (ถ่ายรูปอย่างเดียว เลยเวลาที่ไกด์ให้)
ออกจากนั้นมาไหว้พระที่วัดน้ำฮู เป็นสถานที่ที่ตั้งของเจดีย์ของพระสุพรรณกัลยา และที่สำคัญ
พระพุทธรูปในโบส์ถ นั้นเป็นพระสำคัญในการทำน้ำมนต์ มีน้ำไหลออกจากเศียรพระเป็นประจำ
ไปต่อที่ คอฟฟี่อินเลิฟ (coffee in love) สถานที่อยู่บนเนินเขา เป็นจุด High light ในการถ่ายรูปสวยๆๆ
เก็บบรรยายและนั่งจิบกาแฟ
ต่อจากนี้เข้าไปดูน้ำตกหมอแปง และต่อด้วยสวยสตอเบอรี่ ซึ่งเป็นที่ถ่ายรูปที่สวยงามอีกแห่ง
จากนั้นไปต่อที่กองแลน เป็นสถานที่หินทรายโดนน้ำกัดเซาะ แต่ที่ยืนโพสท่าทางน่ากลัวมากๆๆ เป็นหน้าผาเลยไม่ได้ยืนถ่ายรูปครับ ถ้าใครใจกล้าเชิญครับ ออกจากกองแลนแล้วไปต่อที่สะพานประวัติศาสตร์ เดินจากต้นสะพานไปยังท้ายสะพาน ถ่ายแต่รูป อย่างเดียว แล้วไปต่อที่โป่งน้ำร้อนท่าปาย ซึ่งเป็นน้ำร้อนออกมาจากผิวดิน ซึ่งต้มไข่สุกได้ ที่นี้มีกลิ่นของกำมะถันอยู่ด้วย ออกจากที่นี้ไปที่สุดท้ายคือ วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นวัดอยู่บนภูเขา เห็นตัวเมืองปายเต็มๆๆครับ
ได้ไปถึงปาย ก็เพราะขึ้นไปบนวัดพระธาตุแม่เย็นแล้วไปอ้วก (ไปอ้วกที่สูง และที่สุดท้ายเลยล่ะเนี่ย)
ที่อ้วกเพราะ
1. ทานข้าวเช้ามากไป
2. ไม่ได้ทานยาเมารถ
3. นั่ง Cap
4. ใส่เสื้อไม่สบายตัว คับมากๆๆ
5. ทานกาแฟที่ Coffee in love
นี้คือสาเหตุที่ทำให้ถึงปาย
จากนั้นก็เข้าตัวเมือง ระหว่างทางถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้สีเหลือง ต้นไม้ที่ใช้เป็นตัวปรับหน้าผิวดินแต่มันสวยงามมากๆๆ ถ้าหากปลูกมากกละ ถึงท่ารถก็ทานอะไรนิดหน่อย นั่งรถตู้กลับเข้าเชียงใหม่ เวลานี้ทานยาแล้วนั่งลุ้นเลยว่าจะอ้วกอีกหรือไม่ แต่ผลคือรอด แต่ลุ้นว่าไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ทันหรือเปล่าแทน
แต่สุดท้ายมานั่งรอเครื่องบิน เป็นเวลาประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง
วันที่กลับคนใช้บริการสนามบินแน่นมากๆ เนื่องจากเป็นช่วงวัน X-mas แล้วล่ะ
จบทริป ค่าเที่ยวถูกกว่าราคาหุ้นที่ร่วงไป
แต่เที่ยวสนุกในอีกอารมณ์เนื่องจากลุ้นแล้วลุ้นอีก
และเหนื่อยมากๆมายๆ งานนี้รู้ตัวว่าแก่มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเลยล่ะเนี่ย
ตื่นมาตอนเจ็ดโมง อาบน้ำจัดข้าวของ แล้ว Check out
กินข้าวเช้าที่โรงแรม ลิลู (ใกล้ถนนคนเดิน)
โดยทางโรงแรม มีข้าวต้มหมู และ อาหารเช้าแบบตะวันตกให้ทาน
ไกด์ที่พาเราเที่ยวมารอตอน 0800 น. ที่ซื้อ ทัวร์แบบ Private ไว้
ราคา 1500 บาท ถ้า join trip ก็ 300 บาท แต่เริ่ม 0900 ถึง 1500 น.
ซึ่งเราต้องออกจากปายประมาณ 1300 น. เลยตัดใจซื้อ Private trip เลย
หากถ้าใครที่ขับแมงกะไซด์ หรือเอารถมาปาย ก็ขับเองได้ครับ เส้นทางไม่โหดร้ายมากมายอะไรในปาย
งานนี้เรานั่ง โตโยต้า แบบมี Cap ลุยเลยอ่ะ
ที่แรกที่ไปคือ หมู่บ้านจีน สันติชล เป็นหมู่บ้านของชาวจีน แบบยูหนาน
สถานที่เหมาะแก่การถ่ายรูปอย่างมากๆๆ ทำสวยงามๆครับ (ถ่ายรูปอย่างเดียว เลยเวลาที่ไกด์ให้)
ออกจากนั้นมาไหว้พระที่วัดน้ำฮู เป็นสถานที่ที่ตั้งของเจดีย์ของพระสุพรรณกัลยา และที่สำคัญ
พระพุทธรูปในโบส์ถ นั้นเป็นพระสำคัญในการทำน้ำมนต์ มีน้ำไหลออกจากเศียรพระเป็นประจำ
ไปต่อที่ คอฟฟี่อินเลิฟ (coffee in love) สถานที่อยู่บนเนินเขา เป็นจุด High light ในการถ่ายรูปสวยๆๆ
เก็บบรรยายและนั่งจิบกาแฟ
ต่อจากนี้เข้าไปดูน้ำตกหมอแปง และต่อด้วยสวยสตอเบอรี่ ซึ่งเป็นที่ถ่ายรูปที่สวยงามอีกแห่ง
จากนั้นไปต่อที่กองแลน เป็นสถานที่หินทรายโดนน้ำกัดเซาะ แต่ที่ยืนโพสท่าทางน่ากลัวมากๆๆ เป็นหน้าผาเลยไม่ได้ยืนถ่ายรูปครับ ถ้าใครใจกล้าเชิญครับ ออกจากกองแลนแล้วไปต่อที่สะพานประวัติศาสตร์ เดินจากต้นสะพานไปยังท้ายสะพาน ถ่ายแต่รูป อย่างเดียว แล้วไปต่อที่โป่งน้ำร้อนท่าปาย ซึ่งเป็นน้ำร้อนออกมาจากผิวดิน ซึ่งต้มไข่สุกได้ ที่นี้มีกลิ่นของกำมะถันอยู่ด้วย ออกจากที่นี้ไปที่สุดท้ายคือ วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นวัดอยู่บนภูเขา เห็นตัวเมืองปายเต็มๆๆครับ
ได้ไปถึงปาย ก็เพราะขึ้นไปบนวัดพระธาตุแม่เย็นแล้วไปอ้วก (ไปอ้วกที่สูง และที่สุดท้ายเลยล่ะเนี่ย)
ที่อ้วกเพราะ
1. ทานข้าวเช้ามากไป
2. ไม่ได้ทานยาเมารถ
3. นั่ง Cap
4. ใส่เสื้อไม่สบายตัว คับมากๆๆ
5. ทานกาแฟที่ Coffee in love
นี้คือสาเหตุที่ทำให้ถึงปาย
จากนั้นก็เข้าตัวเมือง ระหว่างทางถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้สีเหลือง ต้นไม้ที่ใช้เป็นตัวปรับหน้าผิวดินแต่มันสวยงามมากๆๆ ถ้าหากปลูกมากกละ ถึงท่ารถก็ทานอะไรนิดหน่อย นั่งรถตู้กลับเข้าเชียงใหม่ เวลานี้ทานยาแล้วนั่งลุ้นเลยว่าจะอ้วกอีกหรือไม่ แต่ผลคือรอด แต่ลุ้นว่าไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ทันหรือเปล่าแทน
แต่สุดท้ายมานั่งรอเครื่องบิน เป็นเวลาประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง
วันที่กลับคนใช้บริการสนามบินแน่นมากๆ เนื่องจากเป็นช่วงวัน X-mas แล้วล่ะ
จบทริป ค่าเที่ยวถูกกว่าราคาหุ้นที่ร่วงไป
แต่เที่ยวสนุกในอีกอารมณ์เนื่องจากลุ้นแล้วลุ้นอีก
และเหนื่อยมากๆมายๆ งานนี้รู้ตัวว่าแก่มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเลยล่ะเนี่ย