

หลังจากผมอายุ ย่างเข้าสู่อายุ42ปี สุขภาพก็ถดถอย หลายส่วนของอาวัยวะเริ่มเสื่อม
วันหนึ่งในเดือนตุลาคม2545 ขณะที่ผมกำลังขับรถจากเมืองเลยเพื่อกลับบ้าน
ผมก็ได้ยินเสียงจั๊กจั่น-เรไร-จิ้งหรีด ร้องดังระงมในรถที่ผมกำลังขับมา
ผมจอดรถ แล้วลงไปยืนข้างรถพยายามหาต้นเสียงอยู่นาน แต่ไม่พบตัวอะไรที่ในรถเลย ผมจึงขับรถกลับมาจนถึงบ้านที่ตัวจังหวัดขอนแก่น
ช่วงเย็นวันนั้น ผมได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ ที่คลีนิกนายแพทย์สมศักดิ์
แพทย์เฉพาะทาง หู-ตา-คอ-จมูก เล่าอาการให้ฟัง คุณหมอก็ทดสอบการรับฟัง เสียงทางหู ให้เข้าห้องฟังและพูดตาม และตรวจด้วยคอมพิวเตอร์ทำเป็นกร๊าฟออกมา สรุปได้ว่าคนเรามีหูชั้นนอก-ชั้นกลาง-ชั้นใน และลงความเห็นว่าผมเป็น..
โรคปลายประสาทหูชั้นในเสื่อม หูคนเราชั้นในจะมีเหมือนขนเงาะ เซลบางส่วนได้ชำรุดไปแล้ว คุณหมอบอกว่า เท่าที่ดูสถิติประชากร1พันคน มีโอกาสเป็น2คน รักษาไม่หาย และจ่ายยามาให้ผมทาน มียานอนหลับ ยาแก้ภูมิแพ้ ยากันบ้านหมุน ยาแก้หูดัง
หลังจากทานยาได้ 1 เดือน ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น
ผมเลยเปลี่ยนหมอรักษา จากนายแพทย์สมศักดิ์
มาเป็น นายแพทย์ชูเกียรติ ท่านตรวจเสร็จท่านก็บอกว่าไม่หาย ทำใจได้เลย
แล้วก็จ่ายยา เหมือนคุณหมอคนแรกมาให้ทาน ผมทานยาวันละ4เวลา 13เม็ด/วัน
หลังจากทานยามาได้ 1 เดือน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
ผมเลยตัดสินใจว่า ต้องเดินทางไปรับการตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลหู-ตา-คอ-จมูก
ที่ย่านปิ่นเกล้า ผมอุตส่าห์ขับรถไกลถึง5ร้อยกว่ากิโลเพื่อไปตรวจรักษา
ทำบัตร เข้าคิว พบแพทย์ เล่าอาการให้ฟัง หลังจากการตรวจด้วยเครื่องมือต่างๆ
คุณหมอก็บอกว่า เสียเวลามาเปล่า รักษาที่ขอนแก่นก็ได้ เพราะจะรับการรักษาที่ไหนก็ไม่หาย ที่หูดังคุณก็ดังคนเดียว ไม่มีเครื่องฟังได้ มีเพียงการตรวจเท่านั้น
แล้วจ่ายยามาให้ทาน1เดือน ยาหมดผมก็ไปหาอีกเป็นครั้งที่2 และครั้งที่3
จนผมเริ่มถอดใจ หมดหวัง
ในเมื่อการรักษาทาง วิทยาศาสตร์ มันไม่ดีขึ้น
ก็ต้องลองเปลี่ยน แนวทางการรักษาไปสู่ทางไสยศาสตร์ดูบ้าง
ผมขับรถมุ่งหน้าไปยัง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เลาะลำน้ำโขงเพื่อหาสวนอาหารไผ่หวาน เพื่อไปหาร่างทรง แม่นางรุน
หลังจากเข้าทรง เขาขอวัน,เดือน,ปี,เกิด ทำนายชีวิตเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผมนั่งฟังอย่างเดียว ในใจยอมรับถูกกว่า80% สุดท้ายเขาแนะนำให้ไปหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ นำน้ำมาหยอดหูจะมีโอกาสหาย
ผมจึงทำตามคำแนะนำ ขับรถกะบะมุ่งหน้าสู่นครนาคา
ที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
ที่ไปคือ...บ้านคำชะโนด
เป็นเกาะแผ่นดินลอยอยู่กลางทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่หลายร้อยไร่
มีประวัติความเป็นมาคู่บ้านคู่เมืองและนิยายประรำประราคู่บ้านคู่เมือง
ตำนานของ...........ผาแดง-นางอ่าย
หรือเมื่อ2ปีก่อนคนเขาจะรู้จักในนาม ผีจ้างหนังมาฉาย
และเคยทำให้คนรู้จัก เปรตกู้ พระบิณฑบาตรกับต้นไม้
ผมไปถึงได้เดินข้ามสะพานสู่เกาะกลางน้ำแห่งนั้น
มองดูต้นไม้ที่ขึ้นบนเกาะกลางน้ำแห่งนั้น
ได้เห็นว่าเป็นต้นไม้โบราณ ที่ไม่มีขึ้นที่ไหนบนโลกนี้นอกจากที่นี่
ต้นไม้แต่ละต้นสูงจนต้องแหงนหน้ามอง
แต่ละต้นน่าจะสูงกว่า30เมตรโดยประมาณ ต้นคล้ายต้นมะพร้าว
ลำต้นเล็กแต่สูงชะรูด ใบคล้ายใบตาลที่หล่นอยู่เกลื่อน
ดอกออกเป็นยวงๆเป็นพวงๆตกอยู่เกลื่อน
ไม่มีเม็ดแบบลูกตาลหรือลูกมะพร้าว
อย่างนี้คงนำเอาไปปลูกที่อื่นไม่ได้เลยมีที่เดียวที่นี่
ชาวบ้านที่นี่เขาเรียกว่า....ต้นคำชะโนด
ที่กลางเกาะแห่งนี้มีบ่อน้ำอยู่กลางเกาะ มีน้ำไหลขึ้นมาจากบ่อตลอดเวลา น้ำไสสะอาดไหลออกมาล้นปากบ่อลงยังเกาะและไหลลงไปยังทะเลสาบ ดูมหัศจรรย์
มีผู้คนมากมายมาขัดต้นคำชะโนดหาเลข บางคนก็มาเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งผมด้วย
ผมตักน้ำใส่ขวดมา1ขวด ทำบุญใส่ตู้บริจาค แล้วกลับบ้าน นำน้ำมาหยอดล้างหูอยู่1อาทิตย์วันละครั้ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหายเลย
ผมเลยต้องหาทางออกให้ชีวิตต้องดิ้นรนต่อไป
และได้พบญาติภรรยา แนะนำและพาผมไป หาพระเขมร
คือ หลวงปู่หงส์ วัดเพชรบุรี สุสานบ้านทุ่งหนองมน
อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ห่างประเทศเขมร10กว่ากิโลเมตร
หลังจากหลวงปู่นั่งทางในตรวจดูดวงชะตา แล้วก็บอกว่า..ผีปู่ย่าตายายบรรพชนมาอาศัยอยู่ด้วย หากอยากให้เสียงในหูหายดัง ต้องทำพิธีแก้
ต้องใช้หัวหมูบายสี 4 ต้น ไก่-ไข่เป็ด ปลาช่อนนึ่ง ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว
ขนมหวาน22อย่าง ดอกไม้7สี เทียนขาวตามอายุ พระพุทธรูปเล็กเท่าอายุ
นางละคร ช้าง ม้า ผ้าขาว1ผืน สังฆทาน4ชุด ธูปเทียนเท่าอายุ
และต้องอาบน้ำมนต์ กลางป่าช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
ผมเลยตกลงให้มัคทายกวัดเป็นผู้จัดหาของให้ทั้งหมด เสียค่าใช้จ่าย5,800บาท
คืนนั้นขณะกำลังรออาบน้ำมนต์ ช่วงหลังเที่ยงคืนได้มีชายคนหนึ่งและญาติขับรถเบ๊นซ์รุ่น500L ทะเบียน กทม. มาจากกรุงเทพฯเพื่อเข้าพิธีอาบน้ำมนต์ ผมสนใจเลยคุยกับญาติเขาก่อนถึงเวลาอาบน้ำมนต์ ได้ความว่า...ผู้ที่มาอาบน้ำมนต์เป็นเจ้าของโรงงานSME เมื่อแรกทำโรงงานเป่าฟิมล์หดที่ใช้แพ็คของ ทำแล้วขาดทุน เปลี่ยนไปทำหมูส่งตามห้างก็ขาดทุน หมดเงินไปหลายล้านแล้วแต่ไม่เคยทำมาค้าขายได้ดีมีกำไรเลย มาดูดวงแล้วเลยอยากจะสะเดาะเคราะห์อาจทำให้ชีวิตดีขึ้น
จึงหันมาพึ่งพระ
และได้มีหญิง3คนขับรถจิ๊ปรุ่น2ล้านกว่าบาท ทะเบียนชลบุรี มาเข้าพิธีอีกคน
ถามญาติเขาว่ามาหาเรื่องอะไร ญาติเขาเล่าให้ฟังว่า น้องสาวพึ่งแต่งงานได้แค่2เดือน ก็มีปัญหาครอบครัว ตัวสามีไปติดเมียน้อย สงสัยโดนคุณไสเลยมาดูดวงกับหลวงปู่ เลยคิดว่าจะทำการอาบน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลและแก้เคล็ด
ถึงเวลาตี4ใกล้สว่าง หลวงปู่หงส์ ก็ลงมาทำพิธีพร้อมพระสงฆ์รวมกัน4รูป
เขาให้ทุกคนนอนหงายบนเสื่อที่ปูไว้ แล้วให้เอามือพนมเหนืออกเอาดอกไม้ธูปเทียนมาให้พนมเหนืออกเหมือนคนที่ตายแล้ว และเอาผ้าขาวมาคลุมตลอดตัว พระทั้ง4ก็เริ่มสวด เขาให้....ท่อง นะ-เม-ติ ตลอดการทำพิธี
พระทั้งหมดกำลังสวดบังสกุลคนเป็น
สวดเสร็จแล้ว ก็อาบน้ำมนต์
จากนั้นก็รับน้ำมนต์มาคนละขวดแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
อาบน้ำมนต์กินน้ำมนต์อยู่1เดือน อาการหูดัง ก็ยังไม่มีวี่แววจะหาย
มีคนมาแนะนำว่าให้ผมไปหาหมอยา ที่บางแก้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา
ผมก็เดินทางไปหาหมอคนที่ว่านี้โดยมีคนพาไป บ้านหมอยาโบราณตั้งอยู่หลังบริษัทจัดสรรทรัพยากรน้ำอีสวอเตอร์ หลังจากเล่าอาการให้ฟังเสร็จ หมอก็เลยหยิบยาลูกกรที่ปั้นเป็นเม็ดๆมาให้ ค่ายาแล้วแต่จะให้ ผมได้ยาแล้วก็เดินทางกลับ ภรรยาเห็นแล้วบอกว่าอย่ากินเลย ยาพวกนี้มีสะเตย์รอยล์ เสียเวลา เปล่าๆ
จนถึงต้นปี2546นี้
ผมก็ได้คำแนะนำ ให้ไปหาหมอจีนที่เป็นหมอแม๊ะเพื่อสุขภาพ
หมอชื่อหงส์ทอง
ที่อยู่ของหมอคนนี้ อยู่หลังองค์พระปฐมเจดีย์ หลังองค์พระข้ามทางรถไฟอยู่ในซอย ผมเดินทางไปถึงที่นั่นก็ต้องถามสามล้อหลังองค์พระปฐมฯ เช้าวันนั้นผมไปรับบัตรเข้าคิวได้เป็นคนที่46 ได้เข้าตรวจเอาบ่าย1โมงแล้ว หมอจับข้อมือเหมือนจับชีพจร แล้วนับในใจไปเรื่อยๆ
ชื่อ-นามสกุล-วัน-เดือน-ปีเกิด-บ้านอยู่ไหนก็ไม่ถาม
ไม่ถามเราว่าเป็นโรคอะไร แปลกดีแฮะ พอแม๊ะเสร็จหมอก็พูดจีน ผมฟังไม่รู้เรื่องเลยมีคนมาแปลให้ฟังว่า เลือดลมของผมเดินผิดทาง จะรู้สึกวิงเวียนศรีษะ หูมีเสียงดังทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่ตื่นรู้สึกตัวดังไปจนกว่าจะนอนหลับ ถ้าต้องการหายต้องต้มยากิน ผมฟังแล้วคิดว่าเออถ้าจะเก่งจริงนะนี่ แค่จับมือก็รู้ถึงว่าเป็นอะไรปานหมอเทวดา ผมตกลงเจียดยาเพื่อนำมาต้มกิน หมอเขียนใบสั่งยาให้เป็นภาษาจีน ให้ไปเจียดยาที่ในตลาดเป็นร้านขายยาโบราณยาจีน ผมได้ยามา8เทียบคือ8ห่อ
คนขายยาอธิบายว่า ใส่น้ำ3ถ้วย/ยา1ห่อต้มให้เหลือ1ถ้วยแล้วกิน และใส่น้ำลงไป2ถ้วยต้มให้เหลือครึ่งถ้วยแล้วกิน ต้มกินวันละ1ห่อ ผมนำเอายามาต้มกินจนครบ8ชุดนั้น ถ่ายท้องด้วยยาจีนที่กินเข้าไปทั้ง8วัน ทนเอาอยากหาย พอกินยาชุดสุดท้ายหมด ผมเลยแกะห่อผ้าที่ใช้ห่อยาออกดู
พบว่าตัวยาที่กินเข้าไปนั้น ถึงกับอึ้ง
อึ้งกิมกี่.... ตัวยาเท่าที่แกะออกมาได้เห็นมี......
ตะขาบ2ตัว แมลงป่องขาว7ตัว แมลงป่องดำ7ตัว
แมลงสาปอีก ชิ้นส่วนมันหลุดแล้วเลยไม่รู้ว่ากี่ตัวกับไม้ต้นยาเป็นท่อนๆ
อาการเสียงดังในหูของผมก็ยังไม่หาย ผมเลยเดินทางกลับไปหาหมอแม๊ะคนเดิมอีก รับการตรวจเหมือนเดิม และจ่ายยามาให้ไปซื้อที่เดิมอีก ผมเลยไปเจียดยาบอกว่าเอาอย่างละ1ชุด เป็นรวม2ชุด
ผมถามเขาว่า ..มีส่วนผสมอะไรบ้าง
เขาถามผมว่า....กินเองหรือเปล่า
ผมบอกเขาว่า......เพื่อนฝากมาซื้อ
เขาบอกผมว่า......ชุดแรกเป็นสมองแมวกับเครื่องยาจีนเอาไปตุ๋น
........................ชุดที่สอง เป็นชุดแมลง
ผมถามเขาว่า.......เอาพวกแมลงมาจากไหนเยอะแยะ เห็นคนเดินเข้ามารอคิวซื้อหลายคน
เจ้าของร้านบอกว่า...เป็นแมลงเลี้ยงมีคนเลี้ยงแล้วตากแห้งแล้วนำมาขายให้ทางร้าน ไม่ใช่แมลงตามท่อน้ำทิ้งหรือตามธรรมชาติ
ผมจ่ายค่ายา ขับรถกลับมาแกะห่อผ้าดู เป็นเหมือนชุดที่เรากินรอบก่อนเลย
ตัดสินใจ
ไม่กินแล้วยาแบบนี้
เดือนก่อนมีเพื่อน...มาเสนอขายอาหารเสริมและน้ำลูกยอ วิตามิน มันแก้โรคได้สารพัด ที่หมอรักษาไม่หายกินอาหารเสริมแล้วจะดีขึ้นและหายไปในที่สุด
ผมเลยว่า....ถ้ามั่นใจอย่างที่บอก เอาอย่างนี้ไหม?
ให้ผมลองกิน ถ้ากินแล้วหายผมจ่ายให้10เท่า แต่ถ้าไม่หายไม่จ่ายเงินเลยOK
คนที่มาขายเก็บของกลับไปอย่างผิดหวัง นี่ล่ะมั่งเขาเรียกว่า...อาชีพขายตรง
แอบคิดมาตลอด เกิดมาชาตินี้ก็ไม่เคยโกงใคร ไม่เคยทำร้ายใคร สร้างสมคุณงามความดี ทำบุญเข้าวัด ซื้อโรงศพบริจาคให้ศพไร้ญาติ เคยบวชเรียนมา1พรรษา
เป็นคนดีของครอบครัว บุหรี่ไม่สูบ เหล้าไม่กิน ชา-กาแฟไม่ดื่ม ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยหยิยยืมเงินใครนอกจากกู้ธนาคาร โลกนี้ไม่ยุติธรรมกับชีวิตนี้เลย
ทุกวันนี้หูผมก็ยังดังเหมือน มีจั๊กกะจั่น-หรีดหริ่ง-เรไร
เข้าไปร้องระงมในหูทั้งหัว ตลอดเวลาที่ยังตื่นและรู้สึกตัวมันทรมาน
หลับเท่านั้นที่ไม่ได้ยินเพราะไม่รู้สึกตัว
เสียงเหล่านี้คงเป็นเพื่อนผมไปตลอดการ หากวันไหนไม่ได้ยิน
วันนั้นคงเป็นวันที่........................วิญญาณผมจากร่างไปแล้ว
หากมีเพื่อนคนไหนได้ผ่านมาอ่าน
มีหมอหรือคำแนะนำที่ดี
กรุณาชี้แนะแก่ผมด้วย
.....


