สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 1
ตอนที่ยื่นใหม่ไม่ทราบว่าจะได้ออกอากาศหรือเปล่า
(แล้วผมก็ยังไม่ทราบว่า...กระทู้นี้จะถูกลบหรือเปล่า)
[youtube]LyvvrnSwRj8[/youtube]
คำชี้แจงกรณี รายการ คนค้นฅน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง
ไม่ได้ออกอากาศในวันเสารที่ 28 กย. นี้ ตามที่รายการ คนค้นฅน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง
ไม่ได้ออกอากาศในวันเสาร์ที่ 28 กย. 2556 นั้น เนื่องจากทางฝ่ายพิจารณาเทปออกอากาศ
ได้แจ้งมายังรายการฯ ว่า อยากให้นำเนื้อหาไปปรับแก้ ให้มีความสมดุลทั้ง 2 ฝ่าย
คือมีทั้งข้อมูล และบทสัมภาษณ์จากฝ่ายสนับสนุนการสร้างเขื่อน และฝ่ายคัดค้าน
รวมทั้งให้ตัดทอนเนื้อหาส่วนที่พิจารณาว่า จะทำให้เกิดการยั่วยุ ขัดแย้ง ออก
ซึ่งทางรายการ " คนค้นฅน " ได้นำความเห็นนั้น กลับมาพิจารณาอย่างจริงจัง
และได้ปรับแก้เนื้อหาบางส่วนตามที่ทางสถานีฯ ห่วงใย บนพื้นฐานที่ไม่ให้เสียจุดยืนและรูปแบบของรายการ
ที่เป็นสารคดีชีวิต ไม่ใช่สารคดีเชิงข่าว นอกจากนั้น รายการ ฯ ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านรายการ ฯ ว่า
พร้อมที่จะนำเสนอข้อมูลของฝ่ายที่สนับสนุนการสร้างเขื่อนในโอกาสต่อไป และได้ส่งเทปกลับไปยังสถานีฯ
เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลการพิจารณาก็เป็นไปตามที่ปรากฎในข่าวสาร
ดังนั้นเพื่อความเข้าใจร่วมกันของสังคม ทางรายการ คนค้นฅ
น จึงขอนำเทปรายการ ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง
ที่ผ่านการปรับแก้บนพื้นฐานที่รายการฯ พิจารณาแล้วว่า เหมาะสม
และไม่เสียเจตนารมณ์ของรายการ มาเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์
เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมกันพิจารณา
ทั้งนี้รายการฯ ขอชี้แจงว่า ไม่มีวัตถุประสงค์ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง
แบ่งฝักแบ่งฝ่าย โจมตีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องการนำเสนอข้อมูล
เพื่อให้สังคมได้พิจารณาร่วมกันในการหาทางออกอย่างสันติและเป็นธรรม
รายการคนค้นฅน
ทีวีบูรพา จำกัด
(แล้วผมก็ยังไม่ทราบว่า...กระทู้นี้จะถูกลบหรือเปล่า)
[youtube]LyvvrnSwRj8[/youtube]
คำชี้แจงกรณี รายการ คนค้นฅน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง
ไม่ได้ออกอากาศในวันเสารที่ 28 กย. นี้ ตามที่รายการ คนค้นฅน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง
ไม่ได้ออกอากาศในวันเสาร์ที่ 28 กย. 2556 นั้น เนื่องจากทางฝ่ายพิจารณาเทปออกอากาศ
ได้แจ้งมายังรายการฯ ว่า อยากให้นำเนื้อหาไปปรับแก้ ให้มีความสมดุลทั้ง 2 ฝ่าย
คือมีทั้งข้อมูล และบทสัมภาษณ์จากฝ่ายสนับสนุนการสร้างเขื่อน และฝ่ายคัดค้าน
รวมทั้งให้ตัดทอนเนื้อหาส่วนที่พิจารณาว่า จะทำให้เกิดการยั่วยุ ขัดแย้ง ออก
ซึ่งทางรายการ " คนค้นฅน " ได้นำความเห็นนั้น กลับมาพิจารณาอย่างจริงจัง
และได้ปรับแก้เนื้อหาบางส่วนตามที่ทางสถานีฯ ห่วงใย บนพื้นฐานที่ไม่ให้เสียจุดยืนและรูปแบบของรายการ
ที่เป็นสารคดีชีวิต ไม่ใช่สารคดีเชิงข่าว นอกจากนั้น รายการ ฯ ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านรายการ ฯ ว่า
พร้อมที่จะนำเสนอข้อมูลของฝ่ายที่สนับสนุนการสร้างเขื่อนในโอกาสต่อไป และได้ส่งเทปกลับไปยังสถานีฯ
เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลการพิจารณาก็เป็นไปตามที่ปรากฎในข่าวสาร
ดังนั้นเพื่อความเข้าใจร่วมกันของสังคม ทางรายการ คนค้นฅ
น จึงขอนำเทปรายการ ตอน ศศิน เฉลิมลาภ 388 กม. จากป่าสู่เมือง
ที่ผ่านการปรับแก้บนพื้นฐานที่รายการฯ พิจารณาแล้วว่า เหมาะสม
และไม่เสียเจตนารมณ์ของรายการ มาเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์
เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมกันพิจารณา
ทั้งนี้รายการฯ ขอชี้แจงว่า ไม่มีวัตถุประสงค์ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง
แบ่งฝักแบ่งฝ่าย โจมตีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องการนำเสนอข้อมูล
เพื่อให้สังคมได้พิจารณาร่วมกันในการหาทางออกอย่างสันติและเป็นธรรม
รายการคนค้นฅน
ทีวีบูรพา จำกัด
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 2
ขอความกรุณาอย่าลบกระทู้นี้เลยครับ
ไม่มีป่า
ไม่มีธรรมชาติ
ก็ไม่มีคน
ไม่มีการลงทุน
ไม่มีหุ้น
ไม่มีอะไรให้พูดคุย
ขอความกรุณาด้วยนะครับ
ไม่มีป่า
ไม่มีธรรมชาติ
ก็ไม่มีคน
ไม่มีการลงทุน
ไม่มีหุ้น
ไม่มีอะไรให้พูดคุย
ขอความกรุณาด้วยนะครับ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 4
การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ทัศนะคติของคน
เป็นสิ่งที่กระทบกับทุกคน
นักการเมือง ที่มีอำนาจ เป็นคนเลือกว่า
การศึกษาแบบไหน ศาสนาแบบไหน วัฒนธรรมแบบไหน เศรษฐกิจแบบไหน
สิ่งแวดล้อมแบบไหน ทัศนะคติแบบไหน เหมาะกับคนไทย
ทุกเรื่องที่มันใหญ่ และมีผลกระทบในมุมกว้าง
มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของนักการเมืองแน่ๆ
มันก็จะกลายเป็นเรื่องการเมืองในความคิดของคนที่คุมห้องนี้ทันที
สรุปทุกเรื่องที่มันใหญ่ ผลกระทบมาก คือการเมือง
ทุกเรื่องที่เล็ก ผลกระทบน้อย ไม่ใช่การเมือง
เป็นสิ่งที่กระทบกับทุกคน
นักการเมือง ที่มีอำนาจ เป็นคนเลือกว่า
การศึกษาแบบไหน ศาสนาแบบไหน วัฒนธรรมแบบไหน เศรษฐกิจแบบไหน
สิ่งแวดล้อมแบบไหน ทัศนะคติแบบไหน เหมาะกับคนไทย
ทุกเรื่องที่มันใหญ่ และมีผลกระทบในมุมกว้าง
มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของนักการเมืองแน่ๆ
มันก็จะกลายเป็นเรื่องการเมืองในความคิดของคนที่คุมห้องนี้ทันที
สรุปทุกเรื่องที่มันใหญ่ ผลกระทบมาก คือการเมือง
ทุกเรื่องที่เล็ก ผลกระทบน้อย ไม่ใช่การเมือง
-
- Verified User
- โพสต์: 66
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 5
ผมพึ่งดูเทปตัวเต็มที่ลงยูทูป ครับ ในใจก็สนับสนุนพี่ๆ ผมคิดเห็นว่า การสร้างเขื่อนไม่คุ้มหรือมาทดแทน ป่าไม้ที่สมบูรณ์ สัตว์ป่า พืช ต่างๆ อาหารจากแหล่งธรรมชาติ ระบบนิเวศ ไม่ได้ ทุกวันนี้ประเทศไทยเหลือ ป่าไม้น้อยเต็มทีอยู่แล้ว เท่าที่ฟังปัญหาที่เจ้าบ้านบอกก็คือ อยากได้น้ำไว้ทำนา ดังนั้น ควรมีการศึกษาว่าการทำนามันใช้น้ำปริมาณมากขนาดนั้นจริงหรือ หรือทำเพราะทำตามกันมา แต่ที่นาที่ผมมีนั้นเป็นนาภาคอีสาน ส่วนใหญ่เขาทำนาปี ดังนั้น ต่อไปผมจะทดลองทำนาแบบใช้น้ำน้อย และไม่ใช้สารเคมี หรือปุ๋ยเคมี ผลจะเป็นอย่างไรก็จะมาบอกเล่าให้พี่ๆฟังกันครับ
ดนตรีนั้นคือชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 6
นักลงทุนนักเก็งกำไรสนใจแต่เพียงว่า 2ล้านล้านจะผ่านหรือไม่ 3.5แสนล้านจะทำได้หรือไม่ (เพราะคนพื้นถิ่นไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย) หากผ่านได้SETก็ขึ้นแน่ ตลาดกลับมาอยู่ในแดนบวก โดยไม่สนใจถูกผิดใดๆทั้งสิ้น ใครจะโกงจะกินจะคอร์รัปชั่นไม่สนใจขอแค่SETขึ้นคือเราได้ผลประโยชน์ ถ้างั้นก็คงไม่แตกต่างกับชาวนาที่ได้ราคาข้าว15000บ.ต่อตัน ถึงแม้บทสรุปโครงการนี้ขาดทุน2แสนล้านก็ตาม เพราะตนเองได้ผลประโยช์ และท้ายที่สุดต่างชาติก็จะมองเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังทำอะไร กำลังจะเกิดอะไรขึ้น ความเชื่อมั่นจากต่างชาติก็จะไม่มี แล้วก็จะถึงการล่มสลายของตลาดเงินตลาดทุนไทยอีกครั้ง SETน่าจะแตะ300-400จุด...มีฝรั่งหัวดำทำนายนายว่า น่าจะเกิดใน2-3 ปีข้างหน้านี้ ส่นตัวผมก็คิดว่าเมื่อถึงเวลานั้นฝรั่งหัวดำคนนั้นกับพวกพ้องก็จะขนเงินที่ขนไปจากประเทศไทย ขนเข้ามากว้านซื้อระบบเศรษฐกิจไทยตามสูตรซื้อของยามของถูก...เขื่อนแม่วงศ์ และอีก21 เขื่อน จะถูกสร้างขึ้นด้วยเหตุผลป้องกันน้ำท่วม แล้วพวกเราท่านๆทั้งหลายคิดว่ามันป้องกันได้จริงหรือไม่ หากคนสร้างบอกว่าป้องกันได้ 100%จะให้สร้างหรือไม่ ป้องกันได้50%ล่ะจะให้สร้างหรือไม่ คงไม่ต้องพูดถึง1-10%นะครับ ทีนี้เราลองมาดูภาพถ่ายทางอากาศว่าพื้นที่ป่าของไทยที่เป็นป่าทึบอันที่อยู่ของสัตว์ป่ามีเหลืออยู่เท่าไร...แล้วคนเราคงยังจะเห็นแก่ตัวกันอยูอีกหรือไม่ ?
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 7
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 8
ทั้งนี้ ทั้งนั้น.....
พวกเราทุกคน ทุกครอบครัว
สามารถช่วยชลอการทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้
โดยการอุปโภค บริโภค อย่างพอดี
reuse และ ลดการ reduce และ สนับสนุนการ recycle
reuse ช่วยลดการ redue ได้
- ใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า
- ลองตั้งใจใช้ปากกา หรือดินสอจนหมดเกลี้ยง ด้วยมือของเรา
ที่เหลือจะได้แจกจ่ายให้ผู้อื่นได้
(ทำงานราชการมักจะได้รับแจกปากกาดินสอ)
- ใช้ถุงผ้าเท่าที่สามารถใช้ได้
- ถ้าต้องรับถุงก๊อบแก๊บมาที่เราได้มาจากการซื้อของ
พิจารณาเลือกขนาดของถุงให้เหมาะกับขยะที่เราจะใส่+ทิ้งในแต่ละครั้ง
ถ้าขยะน้อยๆ ก็เลือกใช้ถุงใบเล็กๆ ก็พอ
- ยางหนังสติ๊กที่ได้มา รวบรวมไว้ใช้ซ้ำ
ถ้าสะสมไว้ได้มาก และคิดว่าเกินจำเป็น รวบรวมไปให้ร้านค้าเล็กๆ ได้
(อย่าเก็บสะสมไว้นาน มันจะเปื่อยหรือเสียความยืดหยุ่นเสียก่อน
- ยุ่งยากขึ้นอีกหน่อยแต่ถ้าทำได้จะดี เอาปิ่นโตหรือภาชนะไปใส่
เวลาไปซื้ออาหาร ลดการใช้ถุงพลาสติดลงได้
- กวาดใบไม้แห้งทิ้งไม่ต้องหมดเกลี้ยง ทิ้งไว้ให้ใส้เดือนกินบ้าง
ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้
- ใครมีโอกาสอยู่ในภาคเกษตรอาจรณรงค์เรื่องการไม่เผาตอซัง
ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซค์ และลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้
- เลือกเสื้อผ้าให้โทนสีเข้ากันได้ หรือแบบรองเท้ากระเป๋าเข้าได้กับชุดส่วนใหญ่
จะได้ไม่ต้องหาซื้อเสื้อผ้า กระเป๋ารองเท้า มารองรับการแต่งตัวมากเกินไป
- ดูแลรักษาเครื่องใช้ ของใช้ทุกชิ้นอย่างรู้คุณค่า ให้มีอายุการใช้งานได้นาน
- ซื้อน้ำยาต่างๆ ชนิดเติม ลำบากตัวเอง แต่ลดการต้องผลิตขวดลง
(แต่ก็ประหยัดเงินได้นะคะ)
- ฯลฯ
การใช้พลังงานอย่างประหยัด
- ปิดไฟทุกดวง พัดลมทุกตัว ที่ไม่ใช้ หรือแม้แต่ทีวีเมื่อไม่ได้สนใจดูจริงจัง
- ปลูกต้นไม้เพิ่มออกซิเจน และบังแดดให้ผนังบ้าน ลดการใช้แอร์
- ไม่เปิดตู้เย็นค้างไว้นานๆ และไม่นำของร้อนใส่ตู้เย็น
- ขับรถด้วยความเร็วคงที่ประหยัดน้ำมันได้
- ออกแบบเส้นทางการเดินทางเวลาไปทำธุระใดๆ ก็ตาม ให้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา
- ทยอยเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED
- ฯลฯ
recycle
- คัดแยกขยะอย่างจริงจัง จะเอาไปขาย หรือเพื่อให้กับคนเก็บขยะก็แล้วแต่
ใครนึกวิธีใดได้มาช่วยกันเติมค่ะ
เผื่อมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่แวะมาอ่าน
และถ้าสะดวกเอาไปใช้กันได้จริง
ครอบครัวของพวกเราจะเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรได้ค่ะ
พวกเราทุกคน ทุกครอบครัว
สามารถช่วยชลอการทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้
โดยการอุปโภค บริโภค อย่างพอดี
reuse และ ลดการ reduce และ สนับสนุนการ recycle
reuse ช่วยลดการ redue ได้
- ใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า
- ลองตั้งใจใช้ปากกา หรือดินสอจนหมดเกลี้ยง ด้วยมือของเรา
ที่เหลือจะได้แจกจ่ายให้ผู้อื่นได้
(ทำงานราชการมักจะได้รับแจกปากกาดินสอ)
- ใช้ถุงผ้าเท่าที่สามารถใช้ได้
- ถ้าต้องรับถุงก๊อบแก๊บมาที่เราได้มาจากการซื้อของ
พิจารณาเลือกขนาดของถุงให้เหมาะกับขยะที่เราจะใส่+ทิ้งในแต่ละครั้ง
ถ้าขยะน้อยๆ ก็เลือกใช้ถุงใบเล็กๆ ก็พอ
- ยางหนังสติ๊กที่ได้มา รวบรวมไว้ใช้ซ้ำ
ถ้าสะสมไว้ได้มาก และคิดว่าเกินจำเป็น รวบรวมไปให้ร้านค้าเล็กๆ ได้
(อย่าเก็บสะสมไว้นาน มันจะเปื่อยหรือเสียความยืดหยุ่นเสียก่อน
- ยุ่งยากขึ้นอีกหน่อยแต่ถ้าทำได้จะดี เอาปิ่นโตหรือภาชนะไปใส่
เวลาไปซื้ออาหาร ลดการใช้ถุงพลาสติดลงได้
- กวาดใบไม้แห้งทิ้งไม่ต้องหมดเกลี้ยง ทิ้งไว้ให้ใส้เดือนกินบ้าง
ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้
- ใครมีโอกาสอยู่ในภาคเกษตรอาจรณรงค์เรื่องการไม่เผาตอซัง
ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซค์ และลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้
- เลือกเสื้อผ้าให้โทนสีเข้ากันได้ หรือแบบรองเท้ากระเป๋าเข้าได้กับชุดส่วนใหญ่
จะได้ไม่ต้องหาซื้อเสื้อผ้า กระเป๋ารองเท้า มารองรับการแต่งตัวมากเกินไป
- ดูแลรักษาเครื่องใช้ ของใช้ทุกชิ้นอย่างรู้คุณค่า ให้มีอายุการใช้งานได้นาน
- ซื้อน้ำยาต่างๆ ชนิดเติม ลำบากตัวเอง แต่ลดการต้องผลิตขวดลง
(แต่ก็ประหยัดเงินได้นะคะ)
- ฯลฯ
การใช้พลังงานอย่างประหยัด
- ปิดไฟทุกดวง พัดลมทุกตัว ที่ไม่ใช้ หรือแม้แต่ทีวีเมื่อไม่ได้สนใจดูจริงจัง
- ปลูกต้นไม้เพิ่มออกซิเจน และบังแดดให้ผนังบ้าน ลดการใช้แอร์
- ไม่เปิดตู้เย็นค้างไว้นานๆ และไม่นำของร้อนใส่ตู้เย็น
- ขับรถด้วยความเร็วคงที่ประหยัดน้ำมันได้
- ออกแบบเส้นทางการเดินทางเวลาไปทำธุระใดๆ ก็ตาม ให้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา
- ทยอยเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED
- ฯลฯ
recycle
- คัดแยกขยะอย่างจริงจัง จะเอาไปขาย หรือเพื่อให้กับคนเก็บขยะก็แล้วแต่
ใครนึกวิธีใดได้มาช่วยกันเติมค่ะ
เผื่อมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่แวะมาอ่าน
และถ้าสะดวกเอาไปใช้กันได้จริง
ครอบครัวของพวกเราจะเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรได้ค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 9
เพิ่มเติมอีกค่ะ....เพิ่งนึกได้เพิ่ม
- ถ้าซื้อของที่ต้องมีช้อนแถม ถ้าเราจะเอามาทานที่บ้านอยู่แล้ว
ไม่ต้องรับช้อนมาแต่ต้น เอามาทิ้งเสียเปล่าๆ
- เครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวถ้าไม่ใช้ไม่ต้องรับมาแต่ต้น คืนแม่ค้าไปเลยค่ะ
หรือถ้ารับมาแต่ใช้ไม่หมด เช่น พริกป่น กับน้ำตาล หลังๆ มา
มีการบรรจุแบบที่ติดมาด้วยกัน ถ้าเราใช้แต่พริกป่น
ด้านที่เป็นน้ำตาลอย่าทิ้งค่ะ...เอามาเทรวมใส่ภาชนะไว้ใช้ได้
จริงอยู่มันเล็กน้อยมากของแค่นี้...เรามีเงินซื้ออยู่แล้ว
แต่อยากให้นึกถึง ตอนที่มันถูกผลิตมาค่ะ...เราจะทิ้งมันไม่ลงเลยหละ
- เวลาไปเที่ยวพกถุงขยะดำและไม้จิ้มไปด้วย ถือโอกาสเก็บขยะมันเสียเลย
พกไปเยอะๆ ได้ค่ะ เวลามีคนเห็นเราทำ หลายคนอยากช่วยเลยหละ
โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ เค้าเห็นแล้วเค้าอยากทำมั่ง ถ้าเรามีแบ่งให้
จะได้คนช่วยกันเก็บเพิ่มค่ะ...ขอบอกว่าเจอประจำค่ะ
- ถ้าซื้อของที่ต้องมีช้อนแถม ถ้าเราจะเอามาทานที่บ้านอยู่แล้ว
ไม่ต้องรับช้อนมาแต่ต้น เอามาทิ้งเสียเปล่าๆ
- เครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวถ้าไม่ใช้ไม่ต้องรับมาแต่ต้น คืนแม่ค้าไปเลยค่ะ
หรือถ้ารับมาแต่ใช้ไม่หมด เช่น พริกป่น กับน้ำตาล หลังๆ มา
มีการบรรจุแบบที่ติดมาด้วยกัน ถ้าเราใช้แต่พริกป่น
ด้านที่เป็นน้ำตาลอย่าทิ้งค่ะ...เอามาเทรวมใส่ภาชนะไว้ใช้ได้
จริงอยู่มันเล็กน้อยมากของแค่นี้...เรามีเงินซื้ออยู่แล้ว
แต่อยากให้นึกถึง ตอนที่มันถูกผลิตมาค่ะ...เราจะทิ้งมันไม่ลงเลยหละ
- เวลาไปเที่ยวพกถุงขยะดำและไม้จิ้มไปด้วย ถือโอกาสเก็บขยะมันเสียเลย
พกไปเยอะๆ ได้ค่ะ เวลามีคนเห็นเราทำ หลายคนอยากช่วยเลยหละ
โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ เค้าเห็นแล้วเค้าอยากทำมั่ง ถ้าเรามีแบ่งให้
จะได้คนช่วยกันเก็บเพิ่มค่ะ...ขอบอกว่าเจอประจำค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 11
ผมสนับสนุนการแสดงออกนี้นะครับ
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อน อย่างไหนดีกว่ากัน
ผมคิดว่าเราแค่ศึกษาให้ได้แนวโน้มเท่านั้น
แต่ที่ผมสนับสนุนการแสดงออกอันนี้ก็เพราะว่า การแสดงออกนี้ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนให้กับผู้อื่นมากเกินไป
ผมรับไม่ได้จริงๆกับการประท้วงด้วยการปิดถนน การปิดถนนคือการบังคับให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย
ต้องมารับรู้ปัญหาของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น พวกคุณอยากให้คนอื่นมาสนใจว่าพวกคุณเดือนร้อน
แต่พวกคุณกลับไม่สนใจว่ากำลังทำให้คนอื่นเดือนร้อนเช่นกัน เอาแต่ได้
อ่าว ไหงเลยเถิดมาถึงเรื่องนี้ได้ ฮาๆๆๆ
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อน อย่างไหนดีกว่ากัน
ผมคิดว่าเราแค่ศึกษาให้ได้แนวโน้มเท่านั้น
แต่ที่ผมสนับสนุนการแสดงออกอันนี้ก็เพราะว่า การแสดงออกนี้ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนให้กับผู้อื่นมากเกินไป
ผมรับไม่ได้จริงๆกับการประท้วงด้วยการปิดถนน การปิดถนนคือการบังคับให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย
ต้องมารับรู้ปัญหาของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น พวกคุณอยากให้คนอื่นมาสนใจว่าพวกคุณเดือนร้อน
แต่พวกคุณกลับไม่สนใจว่ากำลังทำให้คนอื่นเดือนร้อนเช่นกัน เอาแต่ได้
อ่าว ไหงเลยเถิดมาถึงเรื่องนี้ได้ ฮาๆๆๆ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 12
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 13
อยากกดไลค์ให้คุณ prawnpeace มากกว่า 1
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 14
ขออนุญาตออกความเห็นนะครับ
มนุษย์เองไม่ใช่หรือ ที่เบียดบัง ธรรมชาติ
ไม่ได้มีแต่ มนุษย์ ที่อาศัย ธรรมชาติ
มนุษย์ส่วนใหญ่ หาประโยชน์จาก ธรรมชาติ
แล้วธรรมชาติ หาประโยชน์อันใดจาก มนุษย์
"มนุษย์" ต้องการอาศัยแม่น้ำ จึงเข้าไปตั้งถิ่นที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ
ฝนตกบนพื้นที่รับน้ำ (catchment area) น้ำจึงไหลรวมกันเป็นร่องน้ำ
จากร่องน้ำไหลรวมกันลงสู่ "แม่น้ำ"
เมื่อมีฝนตกมาก แม่น้ำระบายปริมาณน้ำฝนได้ไม่ทัน
น้ำจึงหลากไปทางด้านข้าง เกิดน้ำท่วม
"มนุษย์" โทษธรรมชาติ
ทำไม "มนุษย์" ไม่โทษตัวเอง
คิดใหม่ทำใหม่เถอะครับเจ้านาย มันอายเขา
ผู้ที่จะอยู่รอด ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่กลับเป็นผู้ที่ ปรับตัวได้ดีที่สุด
กฏการคัดสรรของ "ธรรมชาติ"
มนุษย์เองไม่ใช่หรือ ที่เบียดบัง ธรรมชาติ
ไม่ได้มีแต่ มนุษย์ ที่อาศัย ธรรมชาติ
มนุษย์ส่วนใหญ่ หาประโยชน์จาก ธรรมชาติ
แล้วธรรมชาติ หาประโยชน์อันใดจาก มนุษย์
"มนุษย์" ต้องการอาศัยแม่น้ำ จึงเข้าไปตั้งถิ่นที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ
ฝนตกบนพื้นที่รับน้ำ (catchment area) น้ำจึงไหลรวมกันเป็นร่องน้ำ
จากร่องน้ำไหลรวมกันลงสู่ "แม่น้ำ"
เมื่อมีฝนตกมาก แม่น้ำระบายปริมาณน้ำฝนได้ไม่ทัน
น้ำจึงหลากไปทางด้านข้าง เกิดน้ำท่วม
"มนุษย์" โทษธรรมชาติ
ทำไม "มนุษย์" ไม่โทษตัวเอง
คิดใหม่ทำใหม่เถอะครับเจ้านาย มันอายเขา
ผู้ที่จะอยู่รอด ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่กลับเป็นผู้ที่ ปรับตัวได้ดีที่สุด
กฏการคัดสรรของ "ธรรมชาติ"
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 15
ขออ้างถึง ความเห็นของ คุณ yoko และ คุณ ekkachai22
"บ้านของผมถูกน้ำท่วมปี54ครับ
ถ้าการสร้างเขื่อนแล้วป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมได้แบบตรงจุดและน้ำยังช่วยเกษตรกรช่วงแล้งได้อีก
ผมคิดว่าน่าทำครับ"
"ผมสนับสนุนการแสดงออกนี้นะครับ
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อน อย่างไหนดีกว่ากัน
ผมคิดว่าเราแค่ศึกษาให้ได้แนวโน้มเท่านั้น "
เพื่อนและคนที่ผมรู้จักหลายคนคิดแบบนี้ คือ
1.ถ้าสิ่งที่ รัฐบาลทำและแก้ปัญหาได้ ก็ควรทำ
2.เราไม่รู้หรอกว่าจริงๆเป็นยังงัย
ทั้ง 2 นี้ คิดดีๆแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน คือถ้าหาข้อมูลจริงๆ เราก็จะรู้ว่าเชื่อนแก้ปัญหาได้ไม๊ ได้ประมาณกี่เปอร์เซนต์
ปัญหาของประเทศไทย ที่มีปัญหาทุกวันนี้ เพราะคน 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่รู้เรื่องดี หรือ คิดว่าตัวเองรู้ดี กลุ่มนี้ แบ่งเป็น 2ข้าง คือ ชอบรัฐบาลนี้ กับเกียดรัฐบาลนี้
ความเห็นทุกเรื่องจะเด่นชัด คือ คิดว่าอะไรถูก อะไรผิด ประมาณ คร่าวๆ ทั้งคนที่รักและเกียด รัฐบาลนี้ รวมแล้วไม่เกิน 20%
พร้อมที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูก ขนาดที่เรียกว่า บางคนยอมตาย ยอมเจ็บ ยอมเจ้ง
2.กลุ่มไม่รู้เรื่องอะไร ไม่พยายามจะรู้ สื่อกระแสหลักก็ไม่อยากให้รู้ รวมแล้วพวกนี้อยู่ที่ประมาณ 80%
กลุ่มนี้ อาจจะคิดว่า พวกกลุ่มแรกที่ทะเลาะกัน เป็นเรื่องไร้สาระ พวกดื้อ ดันทุรัง หมกมุ่นปัญหา มืดบอด พร้อมที่จะทำลายกัน
คุณ yoko และ คุณ ekkachai22 อยู่ในกลุ่มที่ 2 และนักลงทุน ส่วนมากอยู่ในกลุ่มที่ 2
ก็เหมือนกับ คนอาชีพอื่น คือมีประมาณ 80%
ผมอยากจะบอกให้คนกลุ่มที่ 2 รู้ว่า เรื่องที่คนกลุ่มที่ 1 ทะเลาะกนัันใหญ่มาก และมีผลกระทบอย่างรุนแรงมาก
ต่อคนทุกคนในประเทศนี้ ต่ออนาคตของคนในประเทศนี้ ก็คือลูกหลานของคนทุกคน
ปัญหาของประเทศไทย คือ มีคนกลุ่มที่ 2 มากเกินไป การศึกษาการเมืองของประเทศไทยไม่ยากหรอก ง่ายกว่าการเป็น VI อีก
ถ้าศึกษาแล้ว ก็จะเปลี่ยไปเป็นคนกลุ่มที่1 อาจจะเห็นด้วยกับรัฐบาลนี้ หรือ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนี้
ศึกษาเป็นเรื่องๆก็ได้ ว่าเรื่องไหนเห็นด้วยเรื่องไหนไม่เห็นด้วย
เหตุผล ที่ กลุ่มที่ 1 ทะเลาะกันและไม่เลิก เพราะ ต่างคนต่างเชื่อว่าตัวเองถูก และเห็นว่า อีกฝ่ายมีคนนิดเดียว
เมื่อไร ที่คนกลุ่มที่ 2 บอกว่าสิงไหนถูกสิ่งไหนผิด ทุกอย่างจบ เพราะ คนกลุ่มนี้มีมาก
"บ้านของผมถูกน้ำท่วมปี54ครับ
ถ้าการสร้างเขื่อนแล้วป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมได้แบบตรงจุดและน้ำยังช่วยเกษตรกรช่วงแล้งได้อีก
ผมคิดว่าน่าทำครับ"
"ผมสนับสนุนการแสดงออกนี้นะครับ
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อน อย่างไหนดีกว่ากัน
ผมคิดว่าเราแค่ศึกษาให้ได้แนวโน้มเท่านั้น "
เพื่อนและคนที่ผมรู้จักหลายคนคิดแบบนี้ คือ
1.ถ้าสิ่งที่ รัฐบาลทำและแก้ปัญหาได้ ก็ควรทำ
2.เราไม่รู้หรอกว่าจริงๆเป็นยังงัย
ทั้ง 2 นี้ คิดดีๆแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน คือถ้าหาข้อมูลจริงๆ เราก็จะรู้ว่าเชื่อนแก้ปัญหาได้ไม๊ ได้ประมาณกี่เปอร์เซนต์
ปัญหาของประเทศไทย ที่มีปัญหาทุกวันนี้ เพราะคน 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่รู้เรื่องดี หรือ คิดว่าตัวเองรู้ดี กลุ่มนี้ แบ่งเป็น 2ข้าง คือ ชอบรัฐบาลนี้ กับเกียดรัฐบาลนี้
ความเห็นทุกเรื่องจะเด่นชัด คือ คิดว่าอะไรถูก อะไรผิด ประมาณ คร่าวๆ ทั้งคนที่รักและเกียด รัฐบาลนี้ รวมแล้วไม่เกิน 20%
พร้อมที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูก ขนาดที่เรียกว่า บางคนยอมตาย ยอมเจ็บ ยอมเจ้ง
2.กลุ่มไม่รู้เรื่องอะไร ไม่พยายามจะรู้ สื่อกระแสหลักก็ไม่อยากให้รู้ รวมแล้วพวกนี้อยู่ที่ประมาณ 80%
กลุ่มนี้ อาจจะคิดว่า พวกกลุ่มแรกที่ทะเลาะกัน เป็นเรื่องไร้สาระ พวกดื้อ ดันทุรัง หมกมุ่นปัญหา มืดบอด พร้อมที่จะทำลายกัน
คุณ yoko และ คุณ ekkachai22 อยู่ในกลุ่มที่ 2 และนักลงทุน ส่วนมากอยู่ในกลุ่มที่ 2
ก็เหมือนกับ คนอาชีพอื่น คือมีประมาณ 80%
ผมอยากจะบอกให้คนกลุ่มที่ 2 รู้ว่า เรื่องที่คนกลุ่มที่ 1 ทะเลาะกนัันใหญ่มาก และมีผลกระทบอย่างรุนแรงมาก
ต่อคนทุกคนในประเทศนี้ ต่ออนาคตของคนในประเทศนี้ ก็คือลูกหลานของคนทุกคน
ปัญหาของประเทศไทย คือ มีคนกลุ่มที่ 2 มากเกินไป การศึกษาการเมืองของประเทศไทยไม่ยากหรอก ง่ายกว่าการเป็น VI อีก
ถ้าศึกษาแล้ว ก็จะเปลี่ยไปเป็นคนกลุ่มที่1 อาจจะเห็นด้วยกับรัฐบาลนี้ หรือ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนี้
ศึกษาเป็นเรื่องๆก็ได้ ว่าเรื่องไหนเห็นด้วยเรื่องไหนไม่เห็นด้วย
เหตุผล ที่ กลุ่มที่ 1 ทะเลาะกันและไม่เลิก เพราะ ต่างคนต่างเชื่อว่าตัวเองถูก และเห็นว่า อีกฝ่ายมีคนนิดเดียว
เมื่อไร ที่คนกลุ่มที่ 2 บอกว่าสิงไหนถูกสิ่งไหนผิด ทุกอย่างจบ เพราะ คนกลุ่มนี้มีมาก
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 16
"นักลงทุน" เป็นแบบที่คุณคิดหรือครับ ก็แฟร์ดีครับ เขียนเอามันส์หรืออะไรเป็นที่ตั้ง เราไม่ว่ากัน แต่นักลงทุนที่รักประเทศไทย และมองการณ์ไกลน่าจะมีอยู่ไม่น้อยครับprawnpeace เขียน:นักลงทุนนักเก็งกำไรสนใจแต่เพียงว่า 2ล้านล้านจะผ่านหรือไม่ 3.5แสนล้านจะทำได้หรือไม่ (เพราะคนพื้นถิ่นไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย) หากผ่านได้SETก็ขึ้นแน่ ตลาดกลับมาอยู่ในแดนบวก โดยไม่สนใจถูกผิดใดๆทั้งสิ้น ใครจะโกงจะกินจะคอร์รัปชั่นไม่สนใจขอแค่SETขึ้นคือเราได้ผลประโยชน์ ถ้างั้นก็คงไม่แตกต่างกับชาวนาที่ได้ราคาข้าว15000บ.ต่อตัน ถึงแม้บทสรุปโครงการนี้ขาดทุน2แสนล้านก็ตาม เพราะตนเองได้ผลประโยช์
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 17
เห็นด้วยกับ คุณ prawnpeace
สังคมไทยต้องเรียนรู้อีกมาก
สังคมไทยแยกไม่ออกว่าอะไรถูกอะไรผิด
เรายังชอบที่จะทำทานโดยการปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยหอย
ให้อาหารนกพิราบ ให้อาหารนก
ให้อาหารหมาจรจัด แมวจรจัด ให้อาหารสัตว์ป่า
สร้างโบสถ์ ทำบุญมากกับวัดดังๆ
สังคมไทยต้องเรียนรู้อีกมาก
สังคมไทยแยกไม่ออกว่าอะไรถูกอะไรผิด
เรายังชอบที่จะทำทานโดยการปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยหอย
ให้อาหารนกพิราบ ให้อาหารนก
ให้อาหารหมาจรจัด แมวจรจัด ให้อาหารสัตว์ป่า
สร้างโบสถ์ ทำบุญมากกับวัดดังๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 4337
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 18
ความจริงนักข่าวน่าจะให้ท่านผู้เกี่ยวข้องอธิบายเหตุผลเช่น
ท่านปมมกทำไมเมื่อก่อนสนับสนุนให้สร้างเขื่อนแต่ตอนนี้กลับมาคัดค้าน
ท่านรมตปปสทำไมเมื่อก่อนคัดค้านไม่ให้สร้างเขื่อนแต่ตอนนี้กลับมาสนับสนุน
ท่านศฉลทำไมไม่คัดค้านเร็วๆ มัวรอให้โครงการสามแสนล้านผ่านสภาแล้วมาค้าน มันไม่สายไปหน่อยหรือ
หรือที่กล่าวมามีข่าวแล้วแต่ผมตกข่าว555
ท่านปมมกทำไมเมื่อก่อนสนับสนุนให้สร้างเขื่อนแต่ตอนนี้กลับมาคัดค้าน
ท่านรมตปปสทำไมเมื่อก่อนคัดค้านไม่ให้สร้างเขื่อนแต่ตอนนี้กลับมาสนับสนุน
ท่านศฉลทำไมไม่คัดค้านเร็วๆ มัวรอให้โครงการสามแสนล้านผ่านสภาแล้วมาค้าน มันไม่สายไปหน่อยหรือ
หรือที่กล่าวมามีข่าวแล้วแต่ผมตกข่าว555
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 19
การต่อสู้ มีมายาวนานตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิสืบนาคเสถียร
แต่ไม่ได้รับความสนใจมากนัก มาครั้งนี้การเดินเท้า388กม.คนเริ่มให้ความสนใจ
เพราะต้องเดินหลายวัน ข่าวออกมาต่อเนื่อง
http://www.youtube.com/results?search_q ... 11.youtube.
[youtube]JAVRxTXdiKw[/youtube]
แต่ไม่ได้รับความสนใจมากนัก มาครั้งนี้การเดินเท้า388กม.คนเริ่มให้ความสนใจ
เพราะต้องเดินหลายวัน ข่าวออกมาต่อเนื่อง
http://www.youtube.com/results?search_q ... 11.youtube.
[youtube]JAVRxTXdiKw[/youtube]
-
- Verified User
- โพสต์: 4337
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 21
ที่บ้านโดนน้ำท่วม หลังน้ำลดต้นมะม่วงไม่ตายเพราะผมปลูกแบบใช้เมล็ด
เป็นไปได้ไหมที่เราจะสร้างเขื่อนแบบเปิดปิดประตูน้ำ
พอน้ำมามากๆ เราก็ปิดประตูเขื่อน
พอน้ำด้านล่างลดและเริ่มปลอดภัยก็เปิดประตูเขื่อน
ไม่ต้องมีการกักน้ำ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ป่าก็น่าจะยังอยู่
เกษตรกรก็ทำไปเหมือนเดิม
เป็นไปได้ไหมที่เราจะสร้างเขื่อนแบบเปิดปิดประตูน้ำ
พอน้ำมามากๆ เราก็ปิดประตูเขื่อน
พอน้ำด้านล่างลดและเริ่มปลอดภัยก็เปิดประตูเขื่อน
ไม่ต้องมีการกักน้ำ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ป่าก็น่าจะยังอยู่
เกษตรกรก็ทำไปเหมือนเดิม
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 22
CARPENTER เขียน:ขออ้างถึง ความเห็นของ คุณ yoko และ คุณ ekkachai22
"บ้านของผมถูกน้ำท่วมปี54ครับ
ถ้าการสร้างเขื่อนแล้วป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมได้แบบตรงจุดและน้ำยังช่วยเกษตรกรช่วงแล้งได้อีก
ผมคิดว่าน่าทำครับ"
"ผมสนับสนุนการแสดงออกนี้นะครับ
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อน อย่างไหนดีกว่ากัน
ผมคิดว่าเราแค่ศึกษาให้ได้แนวโน้มเท่านั้น "
เพื่อนและคนที่ผมรู้จักหลายคนคิดแบบนี้ คือ
1.ถ้าสิ่งที่ รัฐบาลทำและแก้ปัญหาได้ ก็ควรทำ
2.เราไม่รู้หรอกว่าจริงๆเป็นยังงัย
ทั้ง 2 นี้ คิดดีๆแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน คือถ้าหาข้อมูลจริงๆ เราก็จะรู้ว่าเชื่อนแก้ปัญหาได้ไม๊ ได้ประมาณกี่เปอร์เซนต์
ปัญหาของประเทศไทย ที่มีปัญหาทุกวันนี้ เพราะคน 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่รู้เรื่องดี หรือ คิดว่าตัวเองรู้ดี กลุ่มนี้ แบ่งเป็น 2ข้าง คือ ชอบรัฐบาลนี้ กับเกียดรัฐบาลนี้
ความเห็นทุกเรื่องจะเด่นชัด คือ คิดว่าอะไรถูก อะไรผิด ประมาณ คร่าวๆ ทั้งคนที่รักและเกียด รัฐบาลนี้ รวมแล้วไม่เกิน 20%
พร้อมที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูก ขนาดที่เรียกว่า บางคนยอมตาย ยอมเจ็บ ยอมเจ้ง
2.กลุ่มไม่รู้เรื่องอะไร ไม่พยายามจะรู้ สื่อกระแสหลักก็ไม่อยากให้รู้ รวมแล้วพวกนี้อยู่ที่ประมาณ 80%
กลุ่มนี้ อาจจะคิดว่า พวกกลุ่มแรกที่ทะเลาะกัน เป็นเรื่องไร้สาระ พวกดื้อ ดันทุรัง หมกมุ่นปัญหา มืดบอด พร้อมที่จะทำลายกัน
คุณ yoko และ คุณ ekkachai22 อยู่ในกลุ่มที่ 2 และนักลงทุน ส่วนมากอยู่ในกลุ่มที่ 2
ก็เหมือนกับ คนอาชีพอื่น คือมีประมาณ 80%
ผมอยากจะบอกให้คนกลุ่มที่ 2 รู้ว่า เรื่องที่คนกลุ่มที่ 1 ทะเลาะกนัันใหญ่มาก และมีผลกระทบอย่างรุนแรงมาก
ต่อคนทุกคนในประเทศนี้ ต่ออนาคตของคนในประเทศนี้ ก็คือลูกหลานของคนทุกคน
ปัญหาของประเทศไทย คือ มีคนกลุ่มที่ 2 มากเกินไป การศึกษาการเมืองของประเทศไทยไม่ยากหรอก ง่ายกว่าการเป็น VI อีก
ถ้าศึกษาแล้ว ก็จะเปลี่ยไปเป็นคนกลุ่มที่1 อาจจะเห็นด้วยกับรัฐบาลนี้ หรือ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนี้
ศึกษาเป็นเรื่องๆก็ได้ ว่าเรื่องไหนเห็นด้วยเรื่องไหนไม่เห็นด้วย
เหตุผล ที่ กลุ่มที่ 1 ทะเลาะกันและไม่เลิก เพราะ ต่างคนต่างเชื่อว่าตัวเองถูก และเห็นว่า อีกฝ่ายมีคนนิดเดียว
เมื่อไร ที่คนกลุ่มที่ 2 บอกว่าสิงไหนถูกสิ่งไหนผิด ทุกอย่างจบ เพราะ คนกลุ่มนี้มีมาก
^_^
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 23
ตายสิบ เกิดแสน
[youtube]0yGNV6hd9uw[/youtube]
[youtube]0yGNV6hd9uw[/youtube]
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 24
[youtube]HWmxiYvQBNM[/youtube]
-
- Verified User
- โพสต์: 152
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 25
แหม ท่าน carpenter ขวัญใจผมนี่จัดเต็มทุกครั้งเลยนะครับ
ท่าน carpenter มั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่คิดว่าเค้ารู้เรื่อง รู้ลึก รู้จริง จริงๆแล้วรู้ขนาดนั้นจริงๆ
ท่าน ekkachai22 พูดถูกเรื่องที่ว่า
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อน อย่างไหนดีกว่ากัน
ในกระทู้นี้ ผมเห็นความเห็นเดียวที่แสดงออกถึงการตั้งใจจะรักษ์โลก คือ ความเห็นท่าน theenuch
ผมเองก็ไม่มีความรู้เรื่องเขื่อน เรื่องน้ำ มากมายพอที่จะไปตัดสินได้ว่าอันไหนดีไม่ดี
ไม่มีความรู้ว่าโครงสร้างภาษีประเทศไทยมีความยุติธรรมหรือไม่อย่างไร
กฏหมายหลายๆข้อมันเอื้อประโยชน์คนกลุ่มไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า
ไม่แน่ใจว่าการปล่อยให้ 7 โลตัส บิ๊กซี ขยายสาขาแบบไม่ยั้งมันทำให้ปากท้องคนไทยนับวันยิ่งผูกขาดกับกลุ่มทุนหรือไม่
มีมากมายหลายเรื่องที่เราอาจรู้เรื่องดี ถึงขั้นรู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร
แต่บางเรื่อง ที่เราๆท่านๆมาออกความคิดเห็น ผมว่าเอาแค่พอหอมปากหอมคอ
อย่าไปจริงจังมากนัก เพราะผมดูๆแล้ว เราๆท่านๆก็ไม่น่าจะรู้อะไรดีมากไปกว่าที่เสพจากสื่อต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายก็พยายามโน้มน้าวให้คนเห็นด้วยกับฝ่ายของตน
บ้านผมก็โดนน้ำท่วมเหมือนท่าน yoko
แล้วถ้าคนในพื้นที่อยากได้เขื่อนนี้จริง (ตามที่ฝ่ายสนับสนุนออกมาอ้าง)
เราจะทำอย่างไรครับ
ตอนน้ำท่วมก็แบบนี้ คนเก่งเยอะ คำแนะนำแยะ
อีรุงตุงนัง พอคำแนะนำตัวเองไม่ได้รับการสนใจ ก็ออกมาโจมตีทันที
ท่านปรัชญาเอามาโพส เราๆท่านๆก็ออกความเห็นพอประมาณ
อย่าใส่อารมณ์กันมาก ที่นี่เป็นบอร์ดการลงทุน
ถึงจะมีห้องให้คุยเรื่องอื่นได้ แต่อย่าทำให้เสียบรรยากาศครับ
เพราะเรื่องที่ถกเถียง ผมว่าเราๆท่านๆที่นี่ไม่ได้เป็นผู้รู้จริง
ผมยินดีกับการถกเถียงกันเรื่องเศรษฐกิจ บริษัทต่างๆ นโยบายทางเศรษฐกิจ
นโยบายดอกเบี้ย นโยบายการเงิน
ส่วนใครที่ว่าคนที่นี่สนใจแต่เรื่องเงินๆทองๆ ไม่สนใจธรรมชาติ
ผมว่า ทำให้ได้อย่างท่าน theenuch โพสก่อน แล้วก็เอาหลักฐานมาแสดงให้ดูด้วยว่าทำได้ตามนั้น
อย่าเที่ยวไปว่าคนอื่นพร่ำเพรื่อ
ผงในตาคนอื่นเห็นเท่าภูเขาหิมาลัย
ไม้ซุงท่อนเบอเร้อในตาเรากลับไม่เห็น
ท่าน carpenter มั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่คิดว่าเค้ารู้เรื่อง รู้ลึก รู้จริง จริงๆแล้วรู้ขนาดนั้นจริงๆ
ท่าน ekkachai22 พูดถูกเรื่องที่ว่า
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อน อย่างไหนดีกว่ากัน
ในกระทู้นี้ ผมเห็นความเห็นเดียวที่แสดงออกถึงการตั้งใจจะรักษ์โลก คือ ความเห็นท่าน theenuch
ผมเองก็ไม่มีความรู้เรื่องเขื่อน เรื่องน้ำ มากมายพอที่จะไปตัดสินได้ว่าอันไหนดีไม่ดี
ไม่มีความรู้ว่าโครงสร้างภาษีประเทศไทยมีความยุติธรรมหรือไม่อย่างไร
กฏหมายหลายๆข้อมันเอื้อประโยชน์คนกลุ่มไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า
ไม่แน่ใจว่าการปล่อยให้ 7 โลตัส บิ๊กซี ขยายสาขาแบบไม่ยั้งมันทำให้ปากท้องคนไทยนับวันยิ่งผูกขาดกับกลุ่มทุนหรือไม่
มีมากมายหลายเรื่องที่เราอาจรู้เรื่องดี ถึงขั้นรู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร
แต่บางเรื่อง ที่เราๆท่านๆมาออกความคิดเห็น ผมว่าเอาแค่พอหอมปากหอมคอ
อย่าไปจริงจังมากนัก เพราะผมดูๆแล้ว เราๆท่านๆก็ไม่น่าจะรู้อะไรดีมากไปกว่าที่เสพจากสื่อต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายก็พยายามโน้มน้าวให้คนเห็นด้วยกับฝ่ายของตน
บ้านผมก็โดนน้ำท่วมเหมือนท่าน yoko
แล้วถ้าคนในพื้นที่อยากได้เขื่อนนี้จริง (ตามที่ฝ่ายสนับสนุนออกมาอ้าง)
เราจะทำอย่างไรครับ
ตอนน้ำท่วมก็แบบนี้ คนเก่งเยอะ คำแนะนำแยะ
อีรุงตุงนัง พอคำแนะนำตัวเองไม่ได้รับการสนใจ ก็ออกมาโจมตีทันที
ท่านปรัชญาเอามาโพส เราๆท่านๆก็ออกความเห็นพอประมาณ
อย่าใส่อารมณ์กันมาก ที่นี่เป็นบอร์ดการลงทุน
ถึงจะมีห้องให้คุยเรื่องอื่นได้ แต่อย่าทำให้เสียบรรยากาศครับ
เพราะเรื่องที่ถกเถียง ผมว่าเราๆท่านๆที่นี่ไม่ได้เป็นผู้รู้จริง
ผมยินดีกับการถกเถียงกันเรื่องเศรษฐกิจ บริษัทต่างๆ นโยบายทางเศรษฐกิจ
นโยบายดอกเบี้ย นโยบายการเงิน
ส่วนใครที่ว่าคนที่นี่สนใจแต่เรื่องเงินๆทองๆ ไม่สนใจธรรมชาติ
ผมว่า ทำให้ได้อย่างท่าน theenuch โพสก่อน แล้วก็เอาหลักฐานมาแสดงให้ดูด้วยว่าทำได้ตามนั้น
อย่าเที่ยวไปว่าคนอื่นพร่ำเพรื่อ
ผงในตาคนอื่นเห็นเท่าภูเขาหิมาลัย
ไม้ซุงท่อนเบอเร้อในตาเรากลับไม่เห็น
เราจะรวยแร้วววววววววว
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 26
มูลค่าแท้จริงเขื่อนแม่วงศ์...http://www.youtube.com/watch?feature=pl ... IvTdkq319k
[youtube]EIvTdkq319k[/youtube]
[youtube]EIvTdkq319k[/youtube]
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 27
คุณ sorawitch
เอาเฉพาะเรื่องเขื่อน แล้วกัน
เริ่มแรก คุณดู คนค้นคน ให้ จบ
ดูการให้คำสัมภาษณ์ ของคุณ ศศินที่ให้สัมภาษณ์
ดูขนาดการบรรจุน้ำในเขื่อนแม่วงศ์ที่จะสร้าง
ดูปริมาณน้ำของที่ลาบลุ่มภาคกลาง
ใช้สามัญสำนึก
ดูการให้สัมภาษณ์ ของปลอดประสพ
ที่บอกว่า แม้เขื่อนที่จะสร้างมีผลแค่ 1% ก็จะสร้าง
จริงๆแล้ว ทุกอย่างจะง่ายมากในสังคมนี้ ถ้า เปิดให้
คนเอาเขื่อน กับคนไม่เอาเขื่อน มาดีเบตกัน
แต่รัฐบาลไม่กล้า แต่ใช้วิธี โฆษณาชวนเชื่อปิดข่าว แม้ แต่รายการคนค้นคน ก็ไม่อยากให้ออก
คุณ sorawitch กรุณาอย่าแบนผม
เอาเฉพาะเรื่องเขื่อน แล้วกัน
เริ่มแรก คุณดู คนค้นคน ให้ จบ
ดูการให้คำสัมภาษณ์ ของคุณ ศศินที่ให้สัมภาษณ์
ดูขนาดการบรรจุน้ำในเขื่อนแม่วงศ์ที่จะสร้าง
ดูปริมาณน้ำของที่ลาบลุ่มภาคกลาง
ใช้สามัญสำนึก
ดูการให้สัมภาษณ์ ของปลอดประสพ
ที่บอกว่า แม้เขื่อนที่จะสร้างมีผลแค่ 1% ก็จะสร้าง
จริงๆแล้ว ทุกอย่างจะง่ายมากในสังคมนี้ ถ้า เปิดให้
คนเอาเขื่อน กับคนไม่เอาเขื่อน มาดีเบตกัน
แต่รัฐบาลไม่กล้า แต่ใช้วิธี โฆษณาชวนเชื่อปิดข่าว แม้ แต่รายการคนค้นคน ก็ไม่อยากให้ออก
คุณ sorawitch กรุณาอย่าแบนผม
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 28
ความจุของเขื่อนแม่วงก์ = 250 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 1 % ของปริมาณน้ำที่ท่วมในปี 54 แต่ก็อยากให้ตระหนักว่า น้ำที่เต็มแก้วแล้ว เติมไปอีกเพียง 1 หยด มันก็ล้นได้ สำหรับประชาชนที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมตั้งแต่นครสวรรค์ อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี กทม. คงไม่ยินดีที่จะรับน้ำส่วนเกินนี้แม้เพียง 1%
พื้นที่ที่ใช้สร้างเขื่อน = 12000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ทางอุทยานเรียกคืนจากประชาชนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จึงไม่ใช่ป่าดงดิบ และชาวบ้านก็รับปากพร้อมเชิญชวนนักอนุรักษ์ทุกท่านมาร่วมกันปลูกป่าทดแทน
ส่วนเรื่องเสือ 200 ตัว ก็ยังมีผืนป่าภาคตะวันตก ให้เป็นที่อยู่ได้อีกกว่าล้านไร่
การป้องกันน้ำท่วม คงต้องผสมผสานกันหลายวิธี คงไม่มีวิธีใดเพียงวิธีเดียวที่จะทำได้ผลครอบคลุมทั้งหมด และเขื่อนแม่วงก์ ก็เป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งเท่านั้น
ถ้าจะให้ชั่งน้ำหนัก ระหว่างความเดือดร้อนและความเสียหาย( บวกกับมีน้ำไว้ทำกินในหน้าแล้งแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม )อีกนับสิบนับร้อยปี เทียบกับ เงินลงทุนที่ต้องลงทุน ผมขอสนับสนุนการสร้างเขื่อนครับ.
พื้นที่ที่ใช้สร้างเขื่อน = 12000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ทางอุทยานเรียกคืนจากประชาชนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จึงไม่ใช่ป่าดงดิบ และชาวบ้านก็รับปากพร้อมเชิญชวนนักอนุรักษ์ทุกท่านมาร่วมกันปลูกป่าทดแทน
ส่วนเรื่องเสือ 200 ตัว ก็ยังมีผืนป่าภาคตะวันตก ให้เป็นที่อยู่ได้อีกกว่าล้านไร่
การป้องกันน้ำท่วม คงต้องผสมผสานกันหลายวิธี คงไม่มีวิธีใดเพียงวิธีเดียวที่จะทำได้ผลครอบคลุมทั้งหมด และเขื่อนแม่วงก์ ก็เป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งเท่านั้น
ถ้าจะให้ชั่งน้ำหนัก ระหว่างความเดือดร้อนและความเสียหาย( บวกกับมีน้ำไว้ทำกินในหน้าแล้งแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม )อีกนับสิบนับร้อยปี เทียบกับ เงินลงทุนที่ต้องลงทุน ผมขอสนับสนุนการสร้างเขื่อนครับ.
-
- Verified User
- โพสต์: 277
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 29
ผมไม่มีข้อมูลเชิงลึกหรือข้อมูลเชิงวิชาการใดๆทั้งสิ้น
สิ่งที่ผมรู้ตื้นๆก็คือ
ทุกวันนี้พื้นที่ป่าและสัตว์ป่าในโลกมันลดลงทุกปี
เป็นเวลาต่อเนื่องหลายๆสิบปี
พื้นที่ป่า ณ ปัจจุบันก็นับว่าเหลือน้อยเต็มที
แค่นี้ ก็เพียงพอสำหรับผมแล้วกับคำว่า
"ไม่เอาเขื่อน"
เลิกเอาเปรียบเบียดเบียนธรรมชาติเถอะครับ
ช่วยๆกันนะครับ
สิ่งที่ผมรู้ตื้นๆก็คือ
ทุกวันนี้พื้นที่ป่าและสัตว์ป่าในโลกมันลดลงทุกปี
เป็นเวลาต่อเนื่องหลายๆสิบปี
พื้นที่ป่า ณ ปัจจุบันก็นับว่าเหลือน้อยเต็มที
แค่นี้ ก็เพียงพอสำหรับผมแล้วกับคำว่า
"ไม่เอาเขื่อน"
เลิกเอาเปรียบเบียดเบียนธรรมชาติเถอะครับ
ช่วยๆกันนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 4337
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สำหรับผู้สนใจ เขื่อนแม่วงก์
โพสต์ที่ 30
Matichon Group :
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556
เขื่อนแม่วงก์และเขื่อนแม่ยม โดย วีรพงษ์ รามางกูร
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21:44:49 น.
แม่วงก์เป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งในลุ่มน้ำสะแกกรัง วงก์เป็นคำสันสกฤตและคำบาลีด้วย ถ้าเป็นคำนามแปลว่า เบ็ด ถ้าเป็นคำวิเศษณ์ หรือคุณศัพท์ แปลว่า คดโค้ง ลดเลี้ยวไปมา ฟังชื่อก็เดาเอาได้ว่าคงจะเป็นแม่น้ำที่คดเคี้ยว เลี้ยวไปเลี้ยวมาตามซอกหรือหุบเขา อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์
เมื่อน้ำท่วมใหญ่ หรือเมื่อมหาอุทกภัยในปลายปี 2554 คณะทำงานที่จะวางแผนป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืน มีความเห็นว่าจะต้องสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำยม เพื่อป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก ที่จังหวัดสุโขทัย และเขื่อนแม่วงก์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้เป็นระบบที่จะสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างครบวงจรของแม่น้ำเจ้าพระยา
ทันทีที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะก่อสร้างเขื่อนก็จะมีเอ็นจีโอออกมาประท้วงคัดค้าน สมัยก่อนก็จะมีแต่เสียงคัดค้านจากเอ็นจีโอในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ ส่วนชาวบ้านที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมในหน้าฝนก็ดี ภาวะภัยแล้งในฤดูแล้งก็ดี จะเงียบไม่มีปากเสียง ส่วนชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดินก็จะร่วมกับเอ็นจีโอคัดค้าน
สื่อมวลชนก็จะไปสัมภาษณ์ฝ่ายที่คัดค้าน ลงข่าวฝ่ายคัดค้าน อีกทั้งนักข่าวสายสิ่งแวดล้อมส่วนมากนานๆ จะมีข่าวให้เล่นเสียที จึงมีทัศนคติเอนเอียงไปในทางฝ่ายอนุรักษ์และเอ็นจีโอ โครงการสร้างเขื่อนหลายๆ โครงการ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนผามอง เขื่อนน้ำโจน และเขื่อนอื่นๆ จึงต้องพับไป
แต่เมื่อเกิดมหาอุทกภัยครั้งหลังนี้ ปรากฏว่าจะมีการสร้างเขื่อนกันอีก กรณีเขื่อนแม่ยมและเขื่อนแม่วงก์มีชาวบ้านที่จะได้รับประโยชน์จากภัยน้ำท่วมและฝนแล้งออกมารวมตัว สนับสนุนโครงการทั้ง 2 โครงการ กลายเป็นมี 2 พวก พวกที่คัดค้านและพวกที่สนับสนุน
เท่าที่ติดตามข่าวทางสื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จะเห็นได้ชัดว่าฝ่ายอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นคนในกรุงและเมืองใหญ่ คัดค้านด้วยอุดมคติของนักอนุรักษ์ที่เป็นนามธรรม เหมือนๆ กับคนในประเทศตะวันตกที่เจริญมั่งคั่งแล้ว ประเทศเหล่านั้นทั้งในยุโรปหรืออเมริกาได้สร้างเขื่อน สร้างโครงการพื้นฐานต่างๆ อย่างเต็มที่แล้ว แม่น้ำทุกสายไม่ว่าใหญ่หรือเล็กได้ทำการสร้างเขื่อนหรือฝายเพื่อการผลิตไฟฟ้า หรือการชลประทานเต็มไปหมด
แม่น้ำดานูบก็ดี แม่น้ำสายอื่นๆ ก็ดี ล้วนแต่มีการก่อสร้างเขื่อนหรือฝาย เพื่อการชลประทานและผลิตไฟฟ้าตลอดทั้งสาย มลรัฐนิวยอร์ก เกาะแมนฮัตตันทั้งเกาะ ก็ใช้ไฟจากเขื่อนและฝายจากน้ำตกไนแอการา เทือกเขาร็อกกี้ทั้งสายมีทั้งเขื่อน ทั้งฝาย ทั้งท่อ ทำกาลักน้ำตลอดทั้งแนว ทั้งนี้เพราะทั้งทวีปยุโรปและอเมริกาพัฒนาก่อนเอเชีย เขาก้าวข้ามพ้นเรื่องผลผลิตทางการเกษตรและไฟฟ้าสะอาดราคาถูกแล้ว สังคมของเขาจึงมาคิดเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องอุดมคติ เรื่องคุณภาพชีวิต เรื่องโลกร้อน เรื่องป่าธรรมชาติ เพราะบ้านเขาที่ยุโรปล้วนแต่เป็นป่าปลูก ป่าที่เป็นป่าธรรมชาติหมดไปนานแล้ว จะตัดโค่นก็ไม่คุ้มเพราะค่าแรงแพง ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน เคยปลูกป่าสมัยเมจิเพื่อเอาไม้แต่ปรากฏว่าค่าแรงแพงขึ้น จึงสงวนไม้เอาไว้แล้วนำเข้ามาดีกว่า
แต่สำหรับเอเชียรวมทั้งบ้านเรา ปัญหาเรื่องการผลิต ปัญหาเรื่องน้ำท่วมฝนแล้ง ยังเป็นปัญหาสำคัญ สำคัญกว่าจะคิดถึงเรื่องสัตว์ป่า ซึ่งก็ยังอยู่ได้ เพราะในกรณีอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ พื้นที่ที่จะถูกน้ำท่วมนั้นเป็นพื้นที่เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 2 เปอร์เซ็นต์ ของป่าทั้งหมด พื้นที่ที่อยู่เหนือเขื่อนน้ำท่วมเพียงหมื่นไร่เมื่อเทียบกับพื้นที่ล้านไร่ของอุทยาน
ที่เกรงว่าเสือก็ดี กวางก็ดี นกชนิดต่างๆ ก็ดี จะถูกน้ำท่วมตาย ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่สำคัญ สัตว์ต่างๆ เหล่านั้นหลายคนก็ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำไป เคยเห็นแต่รอยตีนสัตว์ในพื้นที่ที่ห่างออกไป ที่สำคัญเป็นพื้นที่หุบเขา ไม่ต้องเวนคืน ไม่ต้องอพยพผู้คนให้เป็นที่เดือดร้อน จะเดือดร้อนก็แค่ขัดกับอุดมการณ์ ขัดกับความรู้สึก ซึ่งเป็นนามธรรม เหตุผลในรูปธรรมจึงเป็นเรื่องที่จริงบ้างเท็จบ้าง แต่ก็เร้าอารมณ์ของสื่อมวลชนและคนในเมืองได้ดี
ส่วนเหตุผลของชาวบ้านที่ออกมาสนับสนุนนั้น เท่าที่อ่านและฟัง เป็นเหตุผล เป็นรูปธรรมจับต้องได้ เพราะกระทรวงเกษตรฯทำการศึกษาทุกแง่มุม ตามที่่ฝ่ายคัดค้านรุ่นก่อนๆ เรียกร้อง เพราะโครงการนี้ได้ริเริ่มมากว่า 30 ปีแล้ว จะมีปัญหาบ้างก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ อาจจะต้องยอมเสียบ้าง เพราะโครงการพัฒนาทุกโครงการจะมีแต่ประโยชน์ฝ่ายเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้ ส่วนเสียก็ต้องมี เช่น จะต้องเสียต้นไม้จำนวนมากในพื้นที่น้ำท่วมกว่าหมื่นไร่ แต่ก็จะได้น้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ป้องกันน้ำท่วมในหน้าน้ำ สัตว์ป่าที่อยู่ในแถบนั้นอาจต้องอพยพไปที่อื่นที่กว้างใหญ่ไพศาล ปลาที่จะว่ายทวนน้ำไปวางไข่เหนือเขื่อนก็น่าจะแก้ไขปัญหาได้ถ้ามี ซึ่งก็คงจะมีไม่มากก็น้อย ฝ่ายคัดค้านไม่ได้ทำการศึกษาและบอกอย่างแจ้งชัด
การถกเถียงกันจึงไม่มีทางจะตกลงกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีจุดหมายแตกต่างกัน ขืนมานั่งประชุมเถียงกันก็มีหวังตีกันตาย เรื่องความขัดแย้งกันสำหรับโครงการพัฒนานี้ เป็นหัวข้อสำคัญในวิชาเศรษฐศาสตร์การคลังหรือ Public Finance เพราะเป็นวิชาที่คาบเกี่ยวกันระหว่างวิชาเศรษฐศาสตร์และวิชารัฐศาสตร์ จะว่าเหตุผลทางเศรษฐกิจสำคัญอย่างเดียวก็ไม่ได้ จะว่าเหตุผลทางรัฐศาสตร์อย่างเดียวก็ไม่ได้ มิฉะนั้นโครงการพัฒนาต่างๆ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลเพราะเสนอทฤษฎีทางด้านนี้ก็มี เช่น ดร.บูแคนัน
ถ้าเป็นโครงการสาธารณะอื่นๆ เช่น การสร้างถนนหนทาง ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ถ้าสามารถชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการตามทฤษฎี Second Best Theory เช่น การจ่ายค่าเวนคืน จ่ายค่าผลกระทบอย่างอื่น เช่น เสียงรบกวน ถึงสายลม แสงแดด หลังจากที่ได้ดำเนินการในขบวนการประชาธิปไตยทั้งในรัฐสภา โดยมติ ครม.ผ่านทางการอนุมัติงบประมาณควบคุมรัฐบาล และนอกรัฐสภาผ่านทางประชาพิจารณ์ และได้นำข้อท้วงติงไปแก้ไขปรับปรุง แม้จะไม่ได้ผลตอบแทนทางวัตถุหรือทางเศรษฐกิจที่ดีที่สุดก็ตาม ข้อสำคัญต้องผ่านขบวนการประชาธิปไตยในการตัดสินใจ ซึ่งฝ่ายอนุรักษ์และฝ่ายเอ็นจีโอมักจะไม่ยอมรับ และตนเองก็ไม่เชื่อการตัดสินใจผ่านขบวนการประชาธิปไตย แม้จะมีการจัดตั้งพรรคการเมืองที่เรียกว่าพรรคสันติเขียวหรือ Green Peace ก็ไม่แพร่หลายมีคะแนนนิยมมากนัก ในเมืองไทยพรรคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็ไม่เข้มแข็ง ส่วนใหญ่ "รัฐ" ต้องทำการศึกษาเอง แต่ก็ถูกโจมตีว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือ conflict of interest ผลการศึกษาฝ่ายอนุรักษ์และเอ็นจีโอจึงไม่ยอมรับฟัง แต่ก็ไม่มีผลงานการศึกษาของตน เพียงแต่เหตุผลทางจิตใจที่วัดออกมาเป็นมูลค่าไม่ได้ ส่วนผลประโยชน์มักจะไม่มีการพูดถึง แต่ก็บอกว่าไม่คุ้มเพราะสัตว์ป่าจะไม่มีที่อยู่
ในอนาคตความขัดแย้งดังกล่าวย่อมจะมีมากขึ้นสำหรับประเทศกึ่งพัฒนา ที่ยังต้องการเพิ่มผลผลิตต่อหัว ต้องการเพิ่มรายได้จากภาษีอากร ต้องการพัฒนาการขยายตัวที่สูงกว่าร้อยละ 5 ต่อปี ขณะเดียวกันก็ต้องการบรรลุความรู้สึกทางจิตใจว่า มีระดับความรับผิดชอบในมาตรฐานสากล ตามความเห็นของนักอนุรักษนิยมและกลุ่มเอ็นจีโอสากลด้วย
กลไกประชาธิปไตยที่กลั่นกรองเพื่อหา "second best solution" ที่ทางการเมืองรับได้ กล่าวคือผลประโยชน์ของส่วนรวมที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในท้องถิ่นรับได้ หรือผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นที่ประชาชนส่วนรวมรับได้ กลไกดังกล่าวไม่มีทางอื่นนอกจากขบวนการตัดสินใจในระบอบประชาธิปไตยในความหมายอย่างกว้าง ถ้าใช้การเดินขบวนประท้วงหรือขบวนการสร้างกระแสผ่านทางสื่อมวลชน ซึ่งมักจะเป็นวิธีคิดแบบ "อัตวิสัย" ไม่ใช่แบบ "ภาววิสัย"
การตัดสินใจที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างนี้ จะมีต้นทุนต่อสังคมส่วนรวมอย่างมหาศาล ทั้งต้นทุนโดยตรงคือน้ำท่วมฝนแล้งและต้นทุนของการเสียโอกาส
การทำให้ขบวนการตัดสินใจผ่านทางระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่การศึกษาตรวจสอบของหน่วยงานเจ้าของโครงการ การตรวจสอบระดับคณะรัฐมนตรี ขบวนการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร ไปจนถึงขบวนการนอกรัฐสภา เช่น การประชาพิจารณ์ การถามประชามติ และอื่นๆ แทนการเดินขบวนประท้วงปิดถนนหรือการใช้กำลัง ต้องเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา เปิดเผยและเชื่อถือได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ข้อสำคัญคือความเชื่อถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องสร้างให้ได้
(ที่มา:มติชนรายวัน 10 ต.ค.2556)
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556
เขื่อนแม่วงก์และเขื่อนแม่ยม โดย วีรพงษ์ รามางกูร
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21:44:49 น.
แม่วงก์เป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งในลุ่มน้ำสะแกกรัง วงก์เป็นคำสันสกฤตและคำบาลีด้วย ถ้าเป็นคำนามแปลว่า เบ็ด ถ้าเป็นคำวิเศษณ์ หรือคุณศัพท์ แปลว่า คดโค้ง ลดเลี้ยวไปมา ฟังชื่อก็เดาเอาได้ว่าคงจะเป็นแม่น้ำที่คดเคี้ยว เลี้ยวไปเลี้ยวมาตามซอกหรือหุบเขา อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์
เมื่อน้ำท่วมใหญ่ หรือเมื่อมหาอุทกภัยในปลายปี 2554 คณะทำงานที่จะวางแผนป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืน มีความเห็นว่าจะต้องสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำยม เพื่อป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก ที่จังหวัดสุโขทัย และเขื่อนแม่วงก์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้เป็นระบบที่จะสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างครบวงจรของแม่น้ำเจ้าพระยา
ทันทีที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะก่อสร้างเขื่อนก็จะมีเอ็นจีโอออกมาประท้วงคัดค้าน สมัยก่อนก็จะมีแต่เสียงคัดค้านจากเอ็นจีโอในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ ส่วนชาวบ้านที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมในหน้าฝนก็ดี ภาวะภัยแล้งในฤดูแล้งก็ดี จะเงียบไม่มีปากเสียง ส่วนชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดินก็จะร่วมกับเอ็นจีโอคัดค้าน
สื่อมวลชนก็จะไปสัมภาษณ์ฝ่ายที่คัดค้าน ลงข่าวฝ่ายคัดค้าน อีกทั้งนักข่าวสายสิ่งแวดล้อมส่วนมากนานๆ จะมีข่าวให้เล่นเสียที จึงมีทัศนคติเอนเอียงไปในทางฝ่ายอนุรักษ์และเอ็นจีโอ โครงการสร้างเขื่อนหลายๆ โครงการ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนผามอง เขื่อนน้ำโจน และเขื่อนอื่นๆ จึงต้องพับไป
แต่เมื่อเกิดมหาอุทกภัยครั้งหลังนี้ ปรากฏว่าจะมีการสร้างเขื่อนกันอีก กรณีเขื่อนแม่ยมและเขื่อนแม่วงก์มีชาวบ้านที่จะได้รับประโยชน์จากภัยน้ำท่วมและฝนแล้งออกมารวมตัว สนับสนุนโครงการทั้ง 2 โครงการ กลายเป็นมี 2 พวก พวกที่คัดค้านและพวกที่สนับสนุน
เท่าที่ติดตามข่าวทางสื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จะเห็นได้ชัดว่าฝ่ายอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นคนในกรุงและเมืองใหญ่ คัดค้านด้วยอุดมคติของนักอนุรักษ์ที่เป็นนามธรรม เหมือนๆ กับคนในประเทศตะวันตกที่เจริญมั่งคั่งแล้ว ประเทศเหล่านั้นทั้งในยุโรปหรืออเมริกาได้สร้างเขื่อน สร้างโครงการพื้นฐานต่างๆ อย่างเต็มที่แล้ว แม่น้ำทุกสายไม่ว่าใหญ่หรือเล็กได้ทำการสร้างเขื่อนหรือฝายเพื่อการผลิตไฟฟ้า หรือการชลประทานเต็มไปหมด
แม่น้ำดานูบก็ดี แม่น้ำสายอื่นๆ ก็ดี ล้วนแต่มีการก่อสร้างเขื่อนหรือฝาย เพื่อการชลประทานและผลิตไฟฟ้าตลอดทั้งสาย มลรัฐนิวยอร์ก เกาะแมนฮัตตันทั้งเกาะ ก็ใช้ไฟจากเขื่อนและฝายจากน้ำตกไนแอการา เทือกเขาร็อกกี้ทั้งสายมีทั้งเขื่อน ทั้งฝาย ทั้งท่อ ทำกาลักน้ำตลอดทั้งแนว ทั้งนี้เพราะทั้งทวีปยุโรปและอเมริกาพัฒนาก่อนเอเชีย เขาก้าวข้ามพ้นเรื่องผลผลิตทางการเกษตรและไฟฟ้าสะอาดราคาถูกแล้ว สังคมของเขาจึงมาคิดเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องอุดมคติ เรื่องคุณภาพชีวิต เรื่องโลกร้อน เรื่องป่าธรรมชาติ เพราะบ้านเขาที่ยุโรปล้วนแต่เป็นป่าปลูก ป่าที่เป็นป่าธรรมชาติหมดไปนานแล้ว จะตัดโค่นก็ไม่คุ้มเพราะค่าแรงแพง ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน เคยปลูกป่าสมัยเมจิเพื่อเอาไม้แต่ปรากฏว่าค่าแรงแพงขึ้น จึงสงวนไม้เอาไว้แล้วนำเข้ามาดีกว่า
แต่สำหรับเอเชียรวมทั้งบ้านเรา ปัญหาเรื่องการผลิต ปัญหาเรื่องน้ำท่วมฝนแล้ง ยังเป็นปัญหาสำคัญ สำคัญกว่าจะคิดถึงเรื่องสัตว์ป่า ซึ่งก็ยังอยู่ได้ เพราะในกรณีอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ พื้นที่ที่จะถูกน้ำท่วมนั้นเป็นพื้นที่เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 2 เปอร์เซ็นต์ ของป่าทั้งหมด พื้นที่ที่อยู่เหนือเขื่อนน้ำท่วมเพียงหมื่นไร่เมื่อเทียบกับพื้นที่ล้านไร่ของอุทยาน
ที่เกรงว่าเสือก็ดี กวางก็ดี นกชนิดต่างๆ ก็ดี จะถูกน้ำท่วมตาย ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่สำคัญ สัตว์ต่างๆ เหล่านั้นหลายคนก็ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำไป เคยเห็นแต่รอยตีนสัตว์ในพื้นที่ที่ห่างออกไป ที่สำคัญเป็นพื้นที่หุบเขา ไม่ต้องเวนคืน ไม่ต้องอพยพผู้คนให้เป็นที่เดือดร้อน จะเดือดร้อนก็แค่ขัดกับอุดมการณ์ ขัดกับความรู้สึก ซึ่งเป็นนามธรรม เหตุผลในรูปธรรมจึงเป็นเรื่องที่จริงบ้างเท็จบ้าง แต่ก็เร้าอารมณ์ของสื่อมวลชนและคนในเมืองได้ดี
ส่วนเหตุผลของชาวบ้านที่ออกมาสนับสนุนนั้น เท่าที่อ่านและฟัง เป็นเหตุผล เป็นรูปธรรมจับต้องได้ เพราะกระทรวงเกษตรฯทำการศึกษาทุกแง่มุม ตามที่่ฝ่ายคัดค้านรุ่นก่อนๆ เรียกร้อง เพราะโครงการนี้ได้ริเริ่มมากว่า 30 ปีแล้ว จะมีปัญหาบ้างก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ อาจจะต้องยอมเสียบ้าง เพราะโครงการพัฒนาทุกโครงการจะมีแต่ประโยชน์ฝ่ายเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้ ส่วนเสียก็ต้องมี เช่น จะต้องเสียต้นไม้จำนวนมากในพื้นที่น้ำท่วมกว่าหมื่นไร่ แต่ก็จะได้น้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ป้องกันน้ำท่วมในหน้าน้ำ สัตว์ป่าที่อยู่ในแถบนั้นอาจต้องอพยพไปที่อื่นที่กว้างใหญ่ไพศาล ปลาที่จะว่ายทวนน้ำไปวางไข่เหนือเขื่อนก็น่าจะแก้ไขปัญหาได้ถ้ามี ซึ่งก็คงจะมีไม่มากก็น้อย ฝ่ายคัดค้านไม่ได้ทำการศึกษาและบอกอย่างแจ้งชัด
การถกเถียงกันจึงไม่มีทางจะตกลงกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีจุดหมายแตกต่างกัน ขืนมานั่งประชุมเถียงกันก็มีหวังตีกันตาย เรื่องความขัดแย้งกันสำหรับโครงการพัฒนานี้ เป็นหัวข้อสำคัญในวิชาเศรษฐศาสตร์การคลังหรือ Public Finance เพราะเป็นวิชาที่คาบเกี่ยวกันระหว่างวิชาเศรษฐศาสตร์และวิชารัฐศาสตร์ จะว่าเหตุผลทางเศรษฐกิจสำคัญอย่างเดียวก็ไม่ได้ จะว่าเหตุผลทางรัฐศาสตร์อย่างเดียวก็ไม่ได้ มิฉะนั้นโครงการพัฒนาต่างๆ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลเพราะเสนอทฤษฎีทางด้านนี้ก็มี เช่น ดร.บูแคนัน
ถ้าเป็นโครงการสาธารณะอื่นๆ เช่น การสร้างถนนหนทาง ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ถ้าสามารถชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการตามทฤษฎี Second Best Theory เช่น การจ่ายค่าเวนคืน จ่ายค่าผลกระทบอย่างอื่น เช่น เสียงรบกวน ถึงสายลม แสงแดด หลังจากที่ได้ดำเนินการในขบวนการประชาธิปไตยทั้งในรัฐสภา โดยมติ ครม.ผ่านทางการอนุมัติงบประมาณควบคุมรัฐบาล และนอกรัฐสภาผ่านทางประชาพิจารณ์ และได้นำข้อท้วงติงไปแก้ไขปรับปรุง แม้จะไม่ได้ผลตอบแทนทางวัตถุหรือทางเศรษฐกิจที่ดีที่สุดก็ตาม ข้อสำคัญต้องผ่านขบวนการประชาธิปไตยในการตัดสินใจ ซึ่งฝ่ายอนุรักษ์และฝ่ายเอ็นจีโอมักจะไม่ยอมรับ และตนเองก็ไม่เชื่อการตัดสินใจผ่านขบวนการประชาธิปไตย แม้จะมีการจัดตั้งพรรคการเมืองที่เรียกว่าพรรคสันติเขียวหรือ Green Peace ก็ไม่แพร่หลายมีคะแนนนิยมมากนัก ในเมืองไทยพรรคอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็ไม่เข้มแข็ง ส่วนใหญ่ "รัฐ" ต้องทำการศึกษาเอง แต่ก็ถูกโจมตีว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือ conflict of interest ผลการศึกษาฝ่ายอนุรักษ์และเอ็นจีโอจึงไม่ยอมรับฟัง แต่ก็ไม่มีผลงานการศึกษาของตน เพียงแต่เหตุผลทางจิตใจที่วัดออกมาเป็นมูลค่าไม่ได้ ส่วนผลประโยชน์มักจะไม่มีการพูดถึง แต่ก็บอกว่าไม่คุ้มเพราะสัตว์ป่าจะไม่มีที่อยู่
ในอนาคตความขัดแย้งดังกล่าวย่อมจะมีมากขึ้นสำหรับประเทศกึ่งพัฒนา ที่ยังต้องการเพิ่มผลผลิตต่อหัว ต้องการเพิ่มรายได้จากภาษีอากร ต้องการพัฒนาการขยายตัวที่สูงกว่าร้อยละ 5 ต่อปี ขณะเดียวกันก็ต้องการบรรลุความรู้สึกทางจิตใจว่า มีระดับความรับผิดชอบในมาตรฐานสากล ตามความเห็นของนักอนุรักษนิยมและกลุ่มเอ็นจีโอสากลด้วย
กลไกประชาธิปไตยที่กลั่นกรองเพื่อหา "second best solution" ที่ทางการเมืองรับได้ กล่าวคือผลประโยชน์ของส่วนรวมที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในท้องถิ่นรับได้ หรือผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นที่ประชาชนส่วนรวมรับได้ กลไกดังกล่าวไม่มีทางอื่นนอกจากขบวนการตัดสินใจในระบอบประชาธิปไตยในความหมายอย่างกว้าง ถ้าใช้การเดินขบวนประท้วงหรือขบวนการสร้างกระแสผ่านทางสื่อมวลชน ซึ่งมักจะเป็นวิธีคิดแบบ "อัตวิสัย" ไม่ใช่แบบ "ภาววิสัย"
การตัดสินใจที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างนี้ จะมีต้นทุนต่อสังคมส่วนรวมอย่างมหาศาล ทั้งต้นทุนโดยตรงคือน้ำท่วมฝนแล้งและต้นทุนของการเสียโอกาส
การทำให้ขบวนการตัดสินใจผ่านทางระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่การศึกษาตรวจสอบของหน่วยงานเจ้าของโครงการ การตรวจสอบระดับคณะรัฐมนตรี ขบวนการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร ไปจนถึงขบวนการนอกรัฐสภา เช่น การประชาพิจารณ์ การถามประชามติ และอื่นๆ แทนการเดินขบวนประท้วงปิดถนนหรือการใช้กำลัง ต้องเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา เปิดเผยและเชื่อถือได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ข้อสำคัญคือความเชื่อถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องสร้างให้ได้
(ที่มา:มติชนรายวัน 10 ต.ค.2556)
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline