โดย : พญ.สุลัคณา น้อยประเสริฐ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ภาวะเลือดคั่งโดยทั่วไปเข้าใจว่าเป็นภาวะที่มีหลอดเลือดแตก ทำให้เลือดไหลออกมาคั่งอยู่บริเวณหรืออวัยวะนั้นๆ ภาวะเลือดคั่งโดย ทั่วไปเข้าใจว่าเป็นภาวะที่มีหลอดเลือดแตก ทำให้เลือดไหลออกมาคั่งอยู่บริเวณหรืออวัยวะนั้นๆ เช่น เลือดคั่งในสมอง เลือดคั่งตามใต้ผิวหนัง
แต่ในทัศนะแพทย์แผนจีนความหมายของคำว่า "เลือดคั่ง" หมายถึงภาวะเลือดคั่งที่เกิดจากหลอดเลือดแตกและภาวะหลอดเลือด อุดตัน หลอดเลือดหดเกร็งตัว ภาวะเลือดหนืด จากไขมันในเส้นเลือดสูง
ซึ่งภาวะเหล่านี้ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดไม่สะดวกและก่อให้เกิดโรคตามมา เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ หลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดสมองตีบ ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ ชาตามปลายมือปลายเท้า ภาวะเลือดออกผิดปกติ ภาวะเลือดแข็งตัวเร็วกว่าปกติ ความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีภาวะเลือดคั่งมักจะมีปัจจัยเสริม เช่น ไขมันในเส้นเลือดสูง
เส้นเลือดขอดที่ เราเห็นนั้นก็เป็นผลมาจากเลือดคั่ง ที่เกิดจากการนั่งทำงานนาน ๆ ขาดการออกกำลังกายขยับขา หรือการนุ่งกระโปรง กางเกงรัดบริเวณเอวมากเกินไปก็มีผลต่อการไหลเวียนของเลือดที่มาจากขา ทำให้เลือดไหลกลับหัวใจลำบาก เกิดเส้นเลือดขอดที่ขาได้
สาเหตุการเกิดเลือดคั่งหลักๆ คือ ขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นหัวใจ ซึ่งมีหน้าที่ในการสูบฉีดโลหิตไปทั่วร่างกาย ได้ทำงานดีขึ้น เมื่อหัวใจสูบฉีดเลือดได้ดี โอกาสที่จะเกิดเลือดคั่งก็น้อย นอกจากนั้นการออกกำลังกายยังกระตุ้นให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว ทำให้เลือดที่ไหลเวียนอยู่บริเวณกล้ามเนื้อนั้นไหลเวียนได้ดี เช่นนี้แหละผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจึงไม่ค่อยป่วย
สาเหตุรองลงมาเกี่ยวกับวิถีชีวิตประจำวัน เช่น คนที่ทำงานอยู่แต่ในออฟฟิศ โดยเฉพาะงานที่นั่งนาน หรือผู้ที่ขับรถนาน ๆ ส่งผลให้เส้นเลือดบริเวณขาและบั้นเอวไหลเวียนไม่ดี จึงมักปวดหลัง หรือปวดหลังร้าวลงขา
นอกจากนี้การผ่าตัดทุกชนิดเช่นผ่าตัดคลอดลูก ผ่าตัดมดลูก ผ่าตัดรังไข่ ผ่าตัดอวัยวะภายในต่าง ๆ การผ่าตัดนั้นไม่น้อยก็มากต้องมีการบาดเจ็บต่อเส้นเลือดส่งผลให้บริเวณนั้น เกิดเลือดคั่ง หรือบางครั้งหลังผ่าตัดอาจส่งผลให้เกิดเลือดคั่งทั้งร่างกาย
ผู้หญิงหลายคนหลังตัดมดลูกหรือรังไข่ เกิดเป็นเส้นเลือดขอดตาม ขา อีกกรณีหลังจากมีบาดแผลหรือกระดูกหักจากอุบัติเหตุ แม้หลังจากบาดแผลหายดีแล้ว ยังคงทิ้งรอยแผลเป็น ทำให้มีผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด และที่พบได้บ่อยอีกอย่างคือจากความเย็น ความเย็นทำให้เลือดหมุนเวียนช้าและเกิดเลือดคั่งตามมาได้ ความเย็นยังมีผลต่อการระบายเหงื่อ เหงื่อมีประโยชน์ช่วยในการขับของเสียออกจากเลือด ทำให้เลือดไม่ข้นหนืด
ถ้าร่างกายกระทบความเย็นมากไประบายเหงื่อออกไม่ได้ โอกาสที่เลือดจะคั่งได้ จะสังเกตเห็นว่าโรคบางโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจตีบ มักเกิดในช่วงฤดูหนาวหรือตอนใกล้สว่างช่วงที่อากาศเย็น
การที่ผู้หญิงนิยมสวมชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไป สวมแหวน สวมนาฬิกา เครื่องประดับ หรือแม้แต่ที่คาดผม ทำให้เลือดหมุนเวียนไม่สะดวกเกิดเลือดคั่งค้างได้ การใช้ยาคุมกำเนิดก็มีผลทำให้เลือดคั่งเพราะยาคุมกำเนิดมีผลต่อประจำเดือน วิธีคุมกำเนิดบางอย่างทำให้ประจำเดือนไม่มา หรือมาน้อยกว่าปกติ เชื่อว่าทำให้เกิดเลือดเสียคั่งค้าง
อีกสาเหตุที่จะลืมเขียนถึงไม่ได้ คือเรื่องของอารมณ์เครียด ความเครียดทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งตัว รวมทั้งหลอดเลือดก็หดเกร็งตัวไปด้วย สิ่งที่ตามมาคือเลือดหมุนเวียนได้ไม่ดี เกิดเลือดคั่งได้ง่ายเช่นกัน
วิถีชีวิตสมัยใหม่ทำให้เราสะสมความเครียดโดยไม่รู้ตัว เราควรจะรู้ให้เท่าทันความเครียด ซึ่งมักจะมากับทั้งการงาน การเรียน การสอบ ครอบครัวญาติพี่น้อง สามีภรรยาทะเลาะกัน ผู้ปกครองห่วงใยลูกหลานมากเกินไป เรื่องเงินทองรายได้ไม่พอกับรายจ่าย รวมทั้งที่เผชิญอยู่ขณะนี้คือเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา หลายคนเครียด แต่อาจไม่รู้ตัว ซึ่งมักมาตรวจด้วยอาการอื่นๆ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ นอนไม่หลับ ระบบย่อยอาหารผิดปกติ จริงๆ แล้ว ร่างกายกับจิตใจสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น ไม่สามารถแยกจากกันได้
โรคบางโรครักษาเท่าไรก็ไม่ดีขึ้น พอทำจิตใจให้ผ่อนคลาย อาการเจ็บป่วยก็เบาลง และนั่นเป็นเหตุให้แนวทางการรักษาของแพทย์ทางเลือก จำเป็นจะต้องรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวมดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ
การป้องกันและรักษาภาวะเลือดคั่ง ขั้นตอนนี้ควรทำก่อนที่จะป่วยเป็นโรค เช่น การบริจาคเลือดก็อาจเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะนี้ได้ การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นโยคะ รำไทเก๊ก การฝึกอารมณ์ให้ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิ การเข้าสปานวดผ่อนคลาย การอบสมุนไพร การแช่น้ำแร่ การให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย การฝังเข็ม การครอบแก้วสุญญากาศ ล้วนแต่ช่วยไม่ให้ภาวะเลือดคั่งมาก่อกวน