ช่วยกันเตือนภัย-ข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ล่าสุด9 ม.ค. 55

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
imerlot
Verified User
โพสต์: 2686
ผู้ติดตาม: 0

ช่วยกันเตือนภัย-ข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ล่าสุด9 ม.ค. 55

โพสต์ที่ 1

โพสต์


9 ม.ค. 55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีหญิงสูงอายุ ไม่ขอเปิดเผยชื่อ-นามสกุล เดินทางมาติดต่อขอพบ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการป.ป.ง. เพื่อขอรับเงินคืน จำนวน 30 ล้านบาท โดยนำหลักฐานเป็นสลิปรายการถอนและโอนเงินจากธนาคารแห่งหนึ่งมาแสดง และเมื่อเจ้าหน้าที่ ปปง.สอบถามได้ข้อมูลว่า หญิงคนดังกล่าวถูกกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหาโดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ ปปง.และให้โอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของ พ.ต.อ.สีหนาท เพื่อให้ ปปง.ตรวจ สอบการทำธุรกรรม พร้อมทั้งกำชับไม่ให้โทรศัพท์ไปติดต่อสอบถามกับหน่วยราชการใด เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกดำเนินคดี และเมื่อหญิงคนดังกล่าวหลงเชื่อ จึงไปถอนเงินจากบัญชีเงินฝากวันละ 2 ล้าน ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2554 ถึงมกราคม 2555 และโอนให้มิจฉาชีพจนหมดเกลี้ยงบัญชีรวมเป็นเงิน 30 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หญิงสูงวัยคนดังกล่าวแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อโอนจนไม่เหลือเงินอยู่ในบัญชีแล้ว จึงได้นำหลักฐานมาขอเงินคืนจาก พ.ต.อ.สีหนาท เพราะเชื่อว่า ได้พิสูจน์ความสุจริตของตัวเองต่อทางราชการแล้ว เนื่องจากได้ส่งเงินให้ภาครัฐตรวจสอบจนครบ 30 ล้านบาทแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อ ปปง. ได้ขอหมายเลขโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้ติดต่อไปยังผู้เสียหายไปทำการตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่หมายเลขโทรศัพท์ของ ปปง. และในวันที่ 10 มกราคมนี้ พ.ต.อ.สีหนาท จะแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวเพื่อเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพ รวมทั้งจะติดต่อสอบถามไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีเงินฝากว่าเหตุใดจึงไม่แจ้ง เตือนลูกค้าทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางปปง.ได้ทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อตรวจสอบการ โอนเงินที่เข้าข่ายว่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพ และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียเงินจำนวนมากครั้งใหญ่ที่สุด
http://www.komchadluek.net/detail/20120 ... B8%99.html

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 09:57:02 น.

Share



พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงกรณีแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงว่าให้โอนเงินให้ ปปง.ตรวจสอบ ว่า กรณีดังกล่าวต้องเห็นใจเป็นคนอายุมากเกือบ 70 ปี คนร้ายอาศัยความอ่อนแอของคนสูงอายุเลยโอนเงินให้ ขณะนี้ได้สอบถามไปยังธนาคาร และแจ้งความร้องทุกข์แล้ว โดยเงิน 30 ล้านที่ถอนออกไปนั้นเป็นการถอนออกจากบัญชีของตัวเองหลายบัญชี ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้โอนครั้งเดียว เรื่องนี้เราต้องตรวจสอบว่าเหตุใดไม่รายงานธุรกรรมแบบนี้มาให้ หากเรารู้แต่แรกเขาจะไม่เสียหายขนาดนี้ เป็นที่น่าเสียดาย เรื่องแแบบนี้สถาบันการเงินต้องตระหนักให้มาก


ส่วนเรื่องการเยียวยานนั้นเบื้องต้นนั้น พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวว่า น่าจะทราบผลในช่วงสายๆ วันนี้ แต่ไม่ทราบว่าจะยับยั้งทันแค่ไหน ทั้งนี้ บัญชีของคนร้ายที่รับโอนเป็นบัญชีจากธนาคารเดียว และขณะนี้รู้ว่าเครือข่ายของคนร้ายเป็นใคร เราทำงานเร็วเพราะมีกรรมการธุรกรรม ส่วนการตามตัวคนร้ายคงทำให้ได้ในเร็วๆ นี้


"เราคุยกับธนาคารมาโดยตลอด และกรณีนี้ต้องดูว่าธนาคารต้นทางและปลายทางทำไมจึงไม่รายงานธุรกรรมต้อง สงสัย ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติมาก แต่เราก็ดำเนินการทันทีเพื่อระงับความเสียหาย หากเรื่องแบบนี้เขาบอกเลยเราก็สกัดยับยั้งได้ เสียดายที่เรารู้ช้า" พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว


พ.ต.อ.สีหนาทยังเปิดเผยด้วยขณะนี้มีแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ที่อ้าง ปปง.เป็นจำนวนมากโดยขณะนี้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาแล้วกว่า 200 ราย รวมค่าเสียหายประมาณ 80 ล้าน

http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... &subcatid=
imerlot
Verified User
โพสต์: 2686
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยกันเตือนภัย-ข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ล่าสุด9 ม.ค. 55

โพสต์ที่ 2

โพสต์

วันอังคาร ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

www.krobkruakao.com


แก๊ง คอลเซ็นเตอร์ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง. หลอกตุ๋นเงิน 30 ล้านบาท จากเหยื่อโดยให้โอนผ่านตู้เอทีเอ็ม. จำนวน 30 ล้านบาท โดยทำเป็นขบวนการ ล่าสุด ปปง.ทราบข้อมูลของแก๊งนี้แล้ว เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

พัน ตำรวจเอกสีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.พร้อมเหยื่อที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินกว่า 30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมปี 54 เปิดเผยว่า มีแก๊งคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย ว่าตนเองมียอดหนี้บัตรเครดิต 3 หมื่นบาท จากการรูดใช้ 2 ครั้ง ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 3 ซึ่งเหยื่อยืนยันว่าไม่เคยไปใช้บริการที่ศูนย์การค้าดังกล่าว จากนั้นมีชายอ้างเป็นตำรวจ แจ้งว่าเหยื่อมีรายชื่อเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาเสพติดภาคเหนือ และพบบัญชีธนาคารที่จังหวัดเชียงราย มีเงินหมุนเวียนหลายแสนบาท โดยตำรวจจับอดีตพนักงานธนาคารกสิกรไทย ที่นำข้อมูลของธนาคารออกไปใช้ ทำให้ตำรวจต้องออกหมายจับเหยื่อฐานร่วมกันกระทำผิด ทำให้เหยื่อตกใจกลัว แต่ถ้าจะให้ช่วยต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ ระหว่างนี้คนร้ายยังแอบอ้างชื่อบุคคลต่าง ๆ อีกหลายคน รวมถึง พันตำรวจเอกสีหนาท จนเหยื่อยอมถอนเงิน และกู้ยืมเงินอีก 2 ล้านกว่าบาท โอนเข้าบัญชีคนร้าย 66 บัญชี จำนวน 221 ครั้ง ซึ่งขณะนี้ทาง ปปง.ทราบข้อมูลของแก๊งคนร้ายแล้ว และอายัดเงินได้จำนวนหนึ่ง โดยจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี


http://www.krobkruakao.com/player/player.swf

http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0 ... B8%97.html
imerlot
Verified User
โพสต์: 2686
ผู้ติดตาม: 0

Re: ช่วยกันเตือนภัย-ข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ล่าสุด9 ม.ค. 55

โพสต์ที่ 3

โพสต์

http://news.mthai.com/general-news/148830.html
เผยกลลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นเงินหนักสุดเกือบ 30 ล้าน!
ข่าว » ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน » เผยกลลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นเงินหนักสุดเกือบ 30 ล้าน!
เขียนโดย nattawat_86 โพสต์เมื่อ วันพุธที่ 11 มกราคม 2555 เนื้อหานี้อยู่ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน

เผยกลลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นเงินหนักสุด เกือบ 30 ล้าน!

Mthainew: รายการเจาะข่าวเด่น นำเสนอเรื่องราวของเหยื่อแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ รายใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากมีการให้โอนเงินกว่า 269 ครั้ง ใน 10 วัน 75 บัญชีธนาคารที่ถูกโอนเข้าไป ยอดเงินประมาณ 26,750,000 ซึ่งเหยื่อรายนี้ได้เดินทางไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพราะเข้าใจว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่ช่วยเหลือราชการ ในการปราบปรามเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากที่ถูกคนร้ายโทรศัพท์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปปง. ตอนแรกขู่ว่าอาจจะไปพัวพันกับขบวนการคนร้าย ซึ่งอ้างว่าทางการกำลังตรวจสอบอยู่ แล้วปลอมเป็นเลขาธิการปปง. พ.ต.อ.สีหนาถ ประยูรรัตน์ สุดท้ายเหยื่อหลงกลโอนเงินเข้าไป ตามจำนวนข้างต้น

พ.ต.อ. สีหนาถ ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการปปง. กล่าวว่า เหยื่อเป็นสุภาพสตรีอายุเกือบ 70 ปี โดยเดินทางมาขออัพบุ๊ค ที่ปปง.ในวันที่ 9 ม.ค. เนื่องจากมีการโอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อโอนไปหมดแล้วคนร้ายที่แจ้งมาบอกว่าต้องไปที่ปปง.เอาสมุดบัญชีไปอัพบุ้ค ตามที่โอนไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังบอกให้เหยื่อไปกู้เงินอีก 2 ล้านกว่าบาทเพื่อโอนไปให้คนร้าย ซึ่งคนร้ายได้กู้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และโอนไปให้คนร้าย รวมเงินล่าสุดทั้งสิ้น ประมาณกว่า 29 ล้านบาท จาก 85 บัญชี ภายใน 10 วัน

ใน วันที่เหยื่อเดินทางมาที่ ปปง.ก็ยังไม่รู้ว่าถูกหลอก เพราะคนร้ายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ต่างๆหลายหน่วยงาน รวมทั้งปลอมเป็นพ.ต.อ.สีหนาถ ด้วย เมื่อคุณป้า ซึ่งเป็นเหยื่อได้พบเจอตัวจริง ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเสียงที่เคยคุยในโทรศัพท์ไม่ใช่เสียงตัวจริงที่ได้พบเห็น จนกระทั่งพ.ต.อ.สีหนาถ ขอข้อมูลเรียกเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำ บันทึกข้อมูลทันที

พ.ต.อ.สีหนาถ ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการปปง.

ตอน แรกผมนึกว่าเงินไม่กี่แสน แต่คุยไปคุยมาแกควักสลิปออกมาเป็นปึก ดีนะที่แกไม่เชื่อคนร้ายที่บอกให้ฉีก แต่แกไม่ฉีก จึงเก็บไว้เพื่อติดตามร่องรอย และประสานกับกองปราบปราม ดำเนินการแจ้งความทันที และปปง.รีบดำเนินการอายัดเงินทันทีโชคดีที่ยังทัน เหลือเงินอยู่ 1 ล้านกว่าบาทที่คนร้ายยังถอนไม่ทัน เพราะเหตุเกิดวันที่ 21 ธันวาคม จนคนร้ายถอนทุกวันๆ 280 กว่าครั้ง

“เรา ได้ยินว่ามีชื่ออยู่ในบัญชีฟอกเงิน เราก็ตกใจมากๆ แล้วเขาก็บอกว่าจะมีคนช่วย ให้วางสายแล้วจะมีคนติดต่อมา ซึ่งคนที่ติดต่อมาคนแรกใช้ชื่อของท่าน พ.ต.อ.สีหนาถ มีคนติดต่อมาเป็นระยะๆ แล้วเขาก็พูดว่า คุณต้องให้ความร่วมมือนะ โชคดีที่คุณรู้ก่อน จะได้ช่วยคุณได้เร็วขึ้น จากนั้นจึงถามว่า คุณมีบัญชีเงินฝากธนาคารไหนบ้าง ก็บอกเขาไปหมด เพราะเราก็กลัวรายงานเท็จด้วยหากเป็นเจ้าหน้าที่จริง ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.-วันที่ 4 ม.ค.2555 ทยอยโอนมาเรื่อยๆ บางคนไม่ได้คิดว่ามิจฉาชีพมันจะก้าวไกลขนาดนี้ ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ใช้จิตวิทยาสูง จนเราเชื่อ เพราะเขาพูดจาดีมาก”

พ.ต.อ. สีหนาถ เล่ารายละเอียดตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.ครั้งแรกมีเทปเข้ามาระบุว่า คุณเป็นหนี้ธนาคารกสิกรไทย 3 หมื่นบาท หากต้องการตอดต่อพนักงานกด 0 เป็นลักษณะเทป คุณป้าก็กด 0 จึงได้รับเสียงตอบรับว่าเป็นศูนย์บริการ คุณป้าจึงเล่ารายละเอียด เมื่อเหยื่อถูกหลอกว่ามีคนเอาเงินไปกด จึงเริ่มตกใจว่ารู้ข้อมูลได้อย่างไร คนร้ายยังบอกด้วยว่าขณะนี้มีพนักงานธนาคารซึ่งลาออกไปแล้ว ถูกจับคดีค้ายายาเสพติด เอาข้อมูลธนาคารไปให้คนร้ายยาเสพติด ขณะนี้คุณป้าอยู่ในกลุ่มของคนร้ายและมีการนำไปเปิดบัญชี อาจถูกดำเนินคดี

คุณ ป้าเริ่มตกใจ แล้วมีคนร้ายหลายคนที่ทำเป็นขั้นตอนโทรเข้ามาตามแผน แถมยังเอาข้อมูลการจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ที่เคยถูกจับมาเล่าว่า แก๊งนี้เป็นอย่างไรๆ เหมือนกับเงินของคุณป้ากำลังจะอยู่ในกระบวนการฟอกเงิน และกำลังจะถูกจับ คุณป้าจะต้องไปถอนเงินเพื่อเคลียร์แล้วให้รัฐบาลตรวจสอบว่า เงินเราบริสุทธิ์

จุดหนึ่งที่คุณป้าเชื่อเลยก็คือ มีเงินในบัญชีบำนาญอยู่ คนร้ายรู้ได้อย่างไร ทำให้เชื่อโดยสนิทใจ แม้ว่าคนร้ายอาจจะรู้หรือไม่รู้ว่ามีจริง แต่บังเอิญว่าคุณป้ามีเงืนบำนาญอยู่ จึงเชื่อแล้วบอกข้อมูลเพิ่มเติมให้กับคนร้าย เป็นระยะๆ จนสุดท้ายให้ไปถอนเงินแล้วโอนไปให้กับบัญชีธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้เคลียร์ตัวเองมิเช่นนั้นเงินจะถูกอายัด

คุณ ป้าซึ่งเป็นเหยื่อจึงโอนไปให้เพื่อความปลอดภัย คุณป้าทยอยถอนเป็นเงินสด บางทีก็เป็นเชคจากสหกรณ์ แล้วไปขึ้นเงินกับธนาคาร หอบเงินสดเป็นก้อนๆ มาฝากเครื่องฝากอัตโนมัติเข้าบัญชีของคนร้ายเรื่อยๆ 287 ครั้ง รวมทั้งหมด 10 วัน ยกเว้นวันหยุดราชการตามที่คนร้ายบอก คนร้ายโทรมาเรื่อยๆ เพื่อรายงานว่าจัดการให้เรียบร้อย ไม่ให้เกิดความเอะใจ

เหตุ ที่คุณป้าไม่ได้โทรหาใคร เนื่องจากโทรหาใครแล้วหลุด ติดต่อไม่ได้ คนร้ายก็ยังโทรกระหน่ำเข้ามาระหว่างที่โอน แม้กระทั่งเบอร์บ้านก็ยังโทร เพื่อตรวจสอบว่าคุณป้าอยู่คนเดียวหรือไม่ เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ 85 บัญขี 85 คน ซื่อไม่ซ้ำกัน ซึ่งต้องมีการดำเนินคดี ดำเนินการความเกี่ยวพันกับคนร้าย

เท่าที่ตรวจสอบมีถอนในไต้หวันด้วย คงต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าเหตุใดธนาคารจึงไม่เอะใจกับกระแสการไหลของเงิน หากรู้ช่วงนั้นธนาคารมีการมาบอกตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจจะรีบดำเนินการได้เร็วกว่านี้ เพราะปริมาณการเข้าและออกทันทีของเงินในต่างประเทศ ต้องมีรายงานการทำธุรกรรมซึ่งมีเหตุข้อสงสัย ซึ่งขณะนี้กำลังรอรายงานอยู่ว่า เหตุใดจึงไม่รายงานให้ทราบ จนเสียหายขนาดนี้

อย่าง ไรก็ตาม สำหรับประชาชนทั่วไป ปปง.ก็มีการแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบ ตอนนี้ปปง.มีกรรมการทำธุรกรรม ดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อเฝ้าจับตาในขบวนการเหล่านี้

Mthai News
โพสต์โพสต์