Invert, always invert

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
iceberg
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0

Invert, always invert

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอบคุณ คุณ humdrum สำหรับแรงบันดาลใจ

ผมมั่นใจว่าส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินประโยคว่า Invert, always invert ว่ามันคืออะไร มีความหมายอย่างไร
และมันเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเราอย่างไร

คนที่คิดประโยคนี้คือ Carl Gustav Jacob Jacobi เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ซึ่งเค้าเชื่อว่าการแก้ปัญหายากๆ บางครั้งต้องคิดแบบ invert

สมัยผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 อาจารย์สอนวิชาการแก้สมการเชิงเส้นหลายตัวแปร ซึ่งการแก้สมการต้องคิดแบบ invert จึงจะแก้ได้ วิธีพื้นฐานที่ใช้ คือ Jacobi iteration ซึ่งในตอนที่เรียน ผมไม่ได้ตระหนักถึงการประยุกต์หลักการของมันมาใช้ในชีวิตประจำวัน

จนผมได้อ่านบทความของ ชาร์ลีมังเกอร์ ซึ่งเป็น partner กับ วอร์เรน บัพเฟต พูดถึงการประยุกต์ใช้ประโยคดังกล่าว อย่างเช่น "ถ้าผมรู้ว่าจะต้องไปตายที่ไหน ผมจะไม่ไปที่นั่น" , "ผมไม่เคยคิดที่จะซื้อหุ้นที่ผมคิดจะขาย" ผมคิดว่าชาร์ลีพูดถูกต้องที่สุด

ทุกวันนี้ผมพยายามมองปัญหาและพฤติกรรมต่างๆ แบบ invert เท่าที่ทำได้ เช่น ในการซื้อหุ้น ผมจะคิดว่าผมจะขาดทุนได้เท่าไรแทนที่จะคิดว่าจะกำไรเท่าไร, ทำอย่างไรน้ำจึงจะเข้าท่วมบ้านแทนที่จะป้องกันน้ำเข้าบ้าน เป็นต้น ซึ่งวิธีคิดดังกล่าว ช่วยใหัผมมองปัญหาได้รอบด้านมากขึ้น แทนที่ิเราจะมองแบบ forward เราต้องมองแบบ backward ด้วยจึงจะรอบด้านครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมมั่นใจว่าส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินประโยคว่า Invert, always invert ว่ามันคืออะไร มีความหมายอย่างไรและมันเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเราอย่างไร
เป็นผม ผมไม่มั่นใจครับ ต้อง invert ความคิดด้วย ในกรณีนี้ พอได้เขียนสิ่งที่คิดออกมาแล้ว ต้อง invert ในลักษณะนี้ เรื่อง invert นั้นสอนให้ผมยอมรับความไม่แน่นอน และ อย่ามั่นใจในสิ่งต่างๆ

เรือง invert สอนให้ผมยอมรับว่าขาวเป็นต้นกำเนิดของดำและกลับกันไปมาเป็นวงกลม ซึ่งตรงกับทางเซนใช่ไหมครับ ซึ่งมังเกอร์ก็แนะนำให้คนอเมริกันศึกษาเรื่องเซนนี้ให้มากขึ้น

ผมไม่มั่นใจว่าผมรู็น้อยที่สุดเกี่ยวกับเรื่องการ invert ต้องมีคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจดีกว่าผมอีกเยอะ ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใครทราบช่วยอธิบายให้ฟังทีครับ

การเขียนไปในทาง invert สิ่งที่ผมอยากเขียนอย่างนี้ จะทำให้ผมได้คำอธิบายที่คนอื่นเข้าใจแต่ผมอาจยังไม่เข้าใจเลย บางทีอาจมีคนอื่นที่บว่าเข้าใจเรื่องนี้มากกว่าผม แต่อาจไม่พูด บางท่านอาจจะคิดว่าเรื่อง invert ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องเดี่ยวกับ expected value นั่นละ

.........................................

สำหรับทางพุทธแล้วครับ เรื่อง invert ไม่ใช่เรืองใหม่เลย

ยึดติด แล้ว invert เป็น ไม่ยึดติด

.....................

ตอนเช้าผมไปซื้อส้ม ถามแม่ค้า ว่าเปรี้ยวไหม ส่วนใหญ่จะตอบว่า ไม่เปรี้ยว
อย่างนี้ก็ไม่ซื้อ เพราะว่าผมชอบกินเปรี้ยว
แม่ค้าบางท่านก็จะบอกว่า อันนี้เปรี่ยวนิดหนึ่ง ไม่ค่อยหวานมาก
หลักการ invert ใช้กับแม่ค้าขายต้มมะระได้เหมือนกันครับ
แต่ทุกอย่างมีข้อเสียเสมอ ระวังแม่ค้าด่าเอานะครับ
อย่าลืมหัวเราะเบรก "ความกลัวที่ถูกจับผิด" ของแม่ค้า
เวลาติดต่อกับคนที่เต็มไปด้วยอคติ พวกเขาอาจไมได้คุยกับผมด้วยเหตุและผล
แต่กำลังใช้อารมณ์ในการทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ
นั่นคือหลักการ invert ที่สำคัญ

............
invert สอนผมเรื่อง
อย่าติเตียนคนอื่น ถึงแม้เขาจะผิด
เอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น
ถ้าผมอยู๋ในสถานการณ์เดียวกับเขา ผมอาจทำผิดมากกว่าเขาก้ได้
ผมจะพูดถึงข้อดีของอื่น และ พูดถึงข้อเสียของตนเอง
คนที่สอนผมเรื่องนี้คือ Benjamin Franklin
ฮี่โร่ของ Chalie Munger นั่นเองครับ

.....................................................

ในเมื่องไทยนั้น คนที่เก่งเรื่อง invert เห็นจะมีท่านกรณ์คนหนึี่ง
ผมอ่านประวัติของเขา
ตอนสมัครงาน มีหลายบริษัทรับเขาทำงาน
ส่วนใหญ่ก็พุดกับคุณกรณ์ดีครับ
แต่บริษัทหนึ่ง พูดกับเขาไม่ค่อยดี
คุณกรณ์เลือกบริษัทนั้น
ด้วยเหตผลว่า เวลาลาออกจะได้ไม่ทำให้เขาผิดหวัง

ช่วงตอนสอบเข้า Oxford นั้น
ผมกรณ์คะแนนไม่สูงพอขนาดทางมหาลัยจะสนใจได้
เขาก็ใช้วิธี buff โดยการสอบเทียบครับ
ซึ่งคุณกรณ์ก็ทำได้ครับ

ในตอนซื้อที่นั้น
คุณกรณ์ไปซื้อที่สระบุรี ราคาที่ดินถูกกว่าเขาใหญ่ถึงสองเท่า
และยังไม่มีคนสนใจมากนัก


ในตอนซื้อ seat โบรกเกอร์นั้น
ลูกน้องเตรียมจัดแถลงข่าวดี
เพราะทุกคนมั่นใจมากได้แน่
แต่คุณกรณ์ให้เตรียมแถลงข่าวร้ายด้วย
ผลออกมา ไมได้ครับ
แต่คุณกรณ์เตรียมแถลงข่าวไว้แล้ว


คุณกรร์ชอบหลักการลงทุนของ Buffett
Buffett ก็เป็นอาร์ทตัวพ่อของการ invert ไงครับ
...................

คนที่สอนมังเกอร์เล่นไพ่ Bridge
คนนี้เป้นเซียน Bridge ครับ
เขาบอกว่า สมัยหน่มๆ ผมใช้เทคติคเยอะ
พอแก่ตัวลงไปก็เริ่มอ่านใจคู่หูของเรา
คิดถึงตัวเองน้อย

........................

คนที่สิบดั้งเคนโดคนสุดท้าย
ผมฝึกเคนโดถึงอายุ 50
พอร่างกายเริ่มไม่ไหว
นั่นคือการฝึกที่แท้จริง
ผมเริ้มอ่านใจตัวเอง
เรียนรู้ที่จะควบคลุมใจตัวเอง
พออายุร่างกายถึง 70
ผมเริ่มฝึกที่จะ "ไม่ใช้" ใจตัวเอง
พออายุ 80 ผมเริ่มฝึกที่จะใช้ใจคนอื่น
ใจของผมกลายเป้นกระจกสะท้อนใจคนอื่น

.........................

ชาร์ล ชวาบ
บอกว่า ใครที่คิดถึงแต่คนอื่น อนาคตของเขาไม่น่าเป็นห่วงเลย
ช่วงน้ำท่วมอย่างนี้
การเข้าใจคนอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา เป้นสิ่งสำคัญที่สุด
บางท่านเลือกที่จะออกไปช่วยคนอื่น
แทนที่จะหนีไปต่างจังหวัด หรือ ก่ออิฐป้กป้องบ้านของตัวเอง
นั่นคือสิ่งที่ invert สอนผมที่สำคัญที่สุด
การคิดถึงตัวเองน้อยๆ แล้วคิดถึงคนอื่นให้มากขึ้นครับ

.................

Hedge Fund Managers
ถ้าจะต่างจากคนอื่นบ้าง ผมคิดว่าน่าจะเป้นเรื่อง
การยอมรับความไม่แน่นอนในชีวิตของพวกเขาและละความยึดติดในอารมณ์ของตัวเองออกจากการตัดสินใจซื้อ/ขาย มากทีเดียวครับ
...................


ความไม่เที่ยงในชีวิตก็เหมือนกันกับการ invert อยากให้ชีวิตมีแต่ความแน่นอน
ไม่ว่าเรื่องไหนก็ล้วนวิ่งตรงเข้าหาเรื่องความไม่เที่ยงของพระพุทธเจ้า

....................

ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ อย่างนี้ครับ
แต่บางที คนอื่นอาจจะคิดว่ามันไม่ดีก็ได้นะครับ

ผมมีคำถามครับ
1.คุณ iceberg เอาชื่อนี้มาตั้งเพราะอะไรครับ
2. ที่มหาลัยสอนอย่างไรครับเกี่ยวกับ Jacobbi เป้นตัวอย่างทางคณิตศาสตร์ให้ดูได้ไหมครับ

......................
ภาพประจำตัวสมาชิก
kotaro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1495
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ

Invert,alway invert ผมได้ยินครั้งแรกก็น่าจะมาจากพี่ humdrum ครับ
ได้แง่คิดดีครับ สาระน่าจะอยู่ทีว่า ให้คิดกลับไปกลับมา จะทำให้ความคิดรอบคอบและสุขุมขึ้นครับ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ดูเซียนตลาดหุ้นท่านหนึ่งป้องกันบ้านน้ำท่วมเมื่อวาน
ท่านมีกตัญญูมากนะครับ
ตอนพูดถึงว่ามีข้อดีในข้อเสียตรงนั้น
ผมก็คิดถึงพ่อเลย

เออ.....,มีตอนหนึ่งครับท่านพูดเกี่ยวกับการ invert
ประมาณว่า
พอ อบต บอกว่า คันกันน้าเอาอยู๋ เซียนท่านก็ซื้อแผ่นคอนกรีตมาเตรียมเลยครับ
ซื้อตอนนั้น คนอื่นยังไมได้ซื้อ
แต่มันผิดพลาดขึ้นมา มันไปซื้อไม่ทันแล้ว
เพราะคนฝากความหวังอาไว้มาก
พอผิดหวังแล้วมันก็เกิดโกลาหล
นั่่นคือหลักการ invert อย่างหนึ่งเช่นเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับ expected value mindset

ผมว่านะ ท่าน ice
ใครเป้นเซียนนะครับ สังเกตอย่าง
วิธีการลงทุนของเซียนก็สะท้อนในการใช้ชีวิตของท่าน
ปรัชญาการลงทุนของท่านกับปรัชญาชีวิตหลอมรวมกันเป้นอันเดียวกัน

ตามนั้นครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
simpleBE
Verified User
โพสต์: 2333
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เป็นแนวคิดที่น่าสนใจครับ
มีหนังสือแนะนำแนวคิดนี้มั้ยครับ จะไปลองหาอ่านดู
:mrgreen:
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เล่มที่ดีที่สุด ผมว่าไม่มี
มีแต่เล่มไหน เหมาะกับสถานการณ์ไหน
มีแต่ว่าเล่มไหน เหมาะกับนิสัยของคนอ่านหรือไม่
ช่วงอย่างนี้ สำหรับผม ก็ต้องเล่มนี้ครับ

รูปภาพ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 7

โพสต์




ถ้าน้ำไม่ท่วม คงไม่ได้เห้นเซียนท่านนี้บ่อยนักนะครับ
เหมือนกับที่โบราณจีนว่า มีข้อดีในข้อเสีย
วิธีคิด invert จากชีวิตของเซียนท่านนี้สอนผมได้เยอะจริง ๆครับ
อ่านหนังสือมาเยอะยังไม่เท่าดูจากประสบการณ์จริงๆ ครับ
iceberg
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 8

โพสต์

humdrum เขียน: เป็นผม ผมไม่มั่นใจครับ ต้อง invert ความคิดด้วย ในกรณีนี้ พอได้เขียนสิ่งที่คิดออกมาแล้ว ต้อง invert ในลักษณะนี้ เรื่อง invert นั้นสอนให้ผมยอมรับความไม่แน่นอน และ อย่ามั่นใจในสิ่งต่างๆ
ขอบคุณครับ ผมลืมเรื่อง over confident ไป แต่ผมยังเชื่อแบบนั้นอยู่ครับ ถ้าเป็นภาษา poker ก็ขอ "all in" กับ
ความเชื่อนั่นครับ
เรื่อง invert นี้ ผมยังใหม่และความรู้ผมน้อยมากครับ คุณ humdrum รู้มากกว่าผมอยู่แล้วครับ
humdrum เขียน: invert สอนผมเรื่อง
อย่าติเตียนคนอื่น ถึงแม้เขาจะผิด
เอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น
ถ้าผมอยู๋ในสถานการณ์เดียวกับเขา ผมอาจทำผิดมากกว่าเขาก็ได้
ผมจะพูดถึงข้อดีของอื่น และ พูดถึงข้อเสียของตนเอง
คนที่สอนผมเรื่องนี้คือ Benjamin Franklin
ฮี่โร่ของ Chalie Munger นั่นเองครับ
ขอเพิ่มอีกคนหนึ่งที่ไม่เคยตำหนิใครเลย ที่ผมเคยอ่านชีวประวัติ คือ Abraham lincoln ครับ
humdrum เขียน: ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ อย่างนี้ครับ
แต่บางที คนอื่นอาจจะคิดว่ามันไม่ดีก็ได้นะครับ
ขอบคุณครับที่ชอบ ส่วนมันจะดีหรือไม่ดี ก็เป็นอย่างนี้ตลอดอยู่แล้วครับ
humdrum เขียน: 1.คุณ iceberg เอาชื่อนี้มาตั้งเพราะอะไรครับ
ไม่มีเหตุผลนะครับ มันเข้ามาในหัวเอง
humdrum เขียน:2. ที่มหาลัยสอนอย่างไรครับเกี่ยวกับ Jacobbi เป็นตัวอย่างทางคณิตศาสตร์ให้ดูได้ไหมครับ
อธิบายยาวนะครับ หาในกูเกิลก็ได้ครับพี่ humdrum
เวลานั้นผมรู้ว่าต้องทำตามวิธีนี้ มันจะได้คำตอบออกมา
แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไม (Why) ต้องทำแบบนี้

ชาร์ลี กล่าวไว้ว่า วิธีที่จะทำให้เราฉลาดขึ้น คือ "Why,why,why"
แม้จะเป็นปัญหาที่เรารู้แจ้งอยู่แล้ว ผมก็เชื่อแบบนั้นครับ.
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 9

โพสต์



8-)
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมใช้การอินเวิดในการแก้ปัญหาจนติดเป็นนิสัย
บางคนก็ว่าผมคิดแปลกถึงแปลกประหลาด
แต่ผลที่ได้มันซ่อนความคุ้มค่าที่คนอื่นมองไม่เห็นเอาไว้
ตัวอยางช่วงหลังน้ำท่วม
ตอนนี้จำนวนคนหายไปมากทีเดียวจนขาดตลาด
หาคนงานต่างดาวมาทำงานบ้านหรือช่วยทำงานที่โรงงานยากกว่าปกติ
ยิ่งคนงานที่พูดไทยได้จะมีความต้องการมากกว่าคนงานที่โนสปีคไทย
บางที่ที่เถ้าแก่ยอมสู้ราคา ราคาค่าแรงรายเดือนกระโดดไปถึงหนึ่งหมื่นบามต่อเดือน จากราคาปกติที่หกถึงแปดพัน ต้นทุนค่าแรงในบางเขตพื้นที่การค้าที่เพิ่มขึ้นกว่ายี่สิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์นี้จะมีผลกระทบหลายด้านทีเดียวครับ แต่นั่นไม่ใช่หัวข้อหลักที่ผมจะพูดในนี้ ขอข่้ามไปถึงวิธีการหาคนงานโดยใช้วิธีอินเวิดแบบผมครับ

ตอนนี้พูดไทยได้ผมไม่เอาครับ ผมหาแต่พูดไทยไม่ได้ ไม่มีเหตุผลครับ แต่อย่างน้อยเด็กที่พูดไทยไม่ได้ ไม่มีใครแย่ง และเงินเดือนเริ่มต้นก็ไม่สูงกว่าความสามารถที่แท้จริง เริ่มต้นที่สี่พัน ไม่เกินสี่พันห้า ราคาไม่เฟ้อบานจนน่าเกลียด

แล้วจะสื่อสารอย่างไร
ก็อินเวิดไงครับ ผทไปหาหนังสือภาษาเขมรมาอ่าน
ผมไม่ทราบว่ามผมเรียนภาษาเขมรได้เร็วกว่าน้องเขาเรียนไทยไหม
แต่การเรียนเขมรของผมมีแต่ได้กับได้
มันเพิ่มความยึดหยุ่นให้กับผมในการรับคนงาน
ผมในขณะที่ผมเรียนเขมรจากหนังสือ
ผมเอาไปใช้ได้ทันทีกับเจ้าของภาษาที่ถูบ้านหรือล้างจานอยู่
พูดผิดบ้าง พูดถูกบ้างทุกวัน
ไม่สำคัญเท่าได้ทดสอบความอดทนและทักษะในการทำสิ่งใหม่ของตนเองดูบ้าง
การอินเวิดในครั้งนี้ ทำให้ผมเกิดใหม่เป็นเด็กอีกครั้ง
แต่ที่สำคัญมากกว่า ทักษะการอินเวิดนั้นเปิดกว้างไม่ยึดติดกับความเชื่อเดิมของคนส่วนใหญ่ ผมคิดว่านั่นเป็นทักษะที่จำเป็นที่จะทำให้ใครบางคนเกิดได้ในอาชีพนักลงทุนครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 11

โพสต์

โอกาสทางการค้า

แถวลาดพร้าวกระเทือบเข้าไปในหมู่บ้านที่ผมสิงอยู่ แต่ลักษณะเป็นหมู่บ้านเปิด / ไม่ปิด รถเข้าออกทะลุจากหน้าไปหลัง / จากหลังไปหน้าตลอดทั้งวัน การจราจรคับคั่งเหมือนถนนสุขุมวิทมากกว่าถนนหมู่บ้าน มีตึกแถวหลังสี่ชั้นหลังหนึ่งครับ สิบปีก่อนทำเป็นคาราโอเกะตามแฟชั่นสมัยนั้น สามชั้นข้างบนแบ่งเป็นห้องย่อยทั้งหมดเจ๊ดห้อง ห้องน้ำแยกออกต่างหากแต่ละชั้น ทางขึ้นลง / ข้างบนอยู่ด้านข้างของตึก สะดวก/อันตราย ไม่ต้องผ่านชั้นล่าง

ตอนทำโอเกะ น้องท่านหนึ่งที่ทำงานเป้นเด็กนั่งดิ้งผูกคอตาย อีกสิบปีต่อมา คนเช่าเข้า/ออก ทั้งหมดสิบสองราย ตึกหลังนี้เล่าขานในคนละแวกนี้เป็นตึกปราบเซียนด้วยคอมเม้นสั้นๆ ว่า "แรง"

ผมไปเช่าครับ เป็นรายที่สิบสามพอดี

ร้อยทั้งร้อยห้ามผมทุกรายครับ ด้วยเหตุผล "แรง" รายสุดท้ายเช่าทำอู่แท็กซี่เมื่อปีก่อน หลังจากนั้นตั้งแต่มกราถึงตอนนี้ไม่มีคนเช่าอีกเลย

เคสนี้เข้าทางเล่นกับความไม่คาดหวังของคนเขาทางหลัก หรือ ไม่มีหลัก การอินเวิด จัดอินเวิดใส่เข้าไปทันทีครับ

ค่าเช่าทั้งหลังเดิม 25000 ต่อรองจนได้ 15000 ครับ ไม่มีใครแย่งนี่ครับ "มันแรง"

ทำอะไรละครับ

ที่จอดหน้า ข้าง หลัง และบริเวณรัศมีตึกยี่สิบเมตรเหนือใต้ออกตกในถนนหมู่บ้านวัดได้ห้าสิบคันอัฟ ผมทำเป็นตลาด critical mass ตามที่ผมถนัดที่สุดได้

ทำอะไรละ

งานนี้เอาโมเดลเจ้จงทำตลาดแมสมาทำครับ ขายใคร ตลาดล่างแต่มีคุณธรรม ไม่ทราบใครแบ่งชนชั้น ตลาดบน/ล่าง ไม่เห็นมีศัพท์อังกฤษมีแต่ upstream down.... หรือมันมี ผมไม่ทราบครับ หาซัพพลายข้าวและ ราคาโอ รสโดน ราคา ตามสภาพจิตวิทยาฝูงชนที่ไม่ว่างหลังน้ำท่วมในตอนนี้ ตลาดที่ผมขายเป็นคนจิตไม่ว่าง พวกจิตว่างผมขายไมได้ ด้วยเหตุคนขายก็จิตไม่ว่างเหมือนกัน คุนกันรู้เรื่อง กดราคา 22 บาทสำ บ ได้กี่บาท โห ทำเป็นการกุศลเลยดีกว่า ขาดเหลือจบที่ 8 บาทคาดเคลือนไมมีความแน่นอนตามธรรมชาติของกำไรแต่กำไรอาจบานได้เท่าไหร่เปิดหน้าไม่มีลิมิต ขณะที่ขาดทุนใส่กรอบขังกรงคำนวณได้อย่างแม่นยำ อ้าวก็จับผิดตัวเองไงครับ กรูผิดเสมอ อย่างนี้เล่นกับความไม่แน่นอนก็เข้าทางที่ผมถนัดครับ

งานนี้คิดทางเจ๊ง ท่าทำได้แล้วเกิดผมคงเป็นเทพเพราะไม่มีใครคาดหวังว่าทำได้ครับ แต่ถ้าเจ็ง ผมเสมอตัวตามที่คนคาดหวังครับ

งานนีี้ไปอย่างไรผมไม่ทราบครับ ทำด้วยความตั้งใจ เอาเมตตา เป็นตัวหลักตัวตั้งเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่เบี่ยงเบนความตั้งใจที่จะช่วยคนให้มีของกินที่อร่อยและถูกในยุคข้าวยากหมากแพง ผมจะไม่เบี่ยงเบนความตั้งใจที่จะช่วยที่สิ่งที่ไม่ใช่คนให้พ้นทุกข์ คลายความยึดมั่น และไปเกิดในภพภูมิที่เขาปราถนาจะไปเกิด

งานนี้ยากตรงที่ ต้องมีวินัยอย่างมาก และห้ามเอาอารมณ์ส่วนตัวเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด นั่นคือสิ่งที่ผมเตือนตัวเองตลอดเวลาครับ ไม่อย่างนั้นแล้วตึกหลังนี้มันจะ "แรง" อย่างที่คนในละแวกนี้เชื่อกัน แต่สำหรับผมความแรงนี้ ไม่ใช่เจ้าที่แรง แต่เป็น"แรงกรรม" ของคนที่มาเช่า "ตึกอาถรรย์" หลังนี้ครับ

การเอาชนะตัวเองเรื่องความกลัว โดยเฉพาะความกลัวตาย เป็นงานที่ผมซาดิสชอบอินเวิดเป็นชีวิตจิตใจ ถ้าโชคดีคงได้มาโม้ให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างครับ ผมอาจโชคร้ายก้ได้นะครับ อย่าคาดหวังละครับ เดี๋ยวมันจะ "แรง" แต่เป็น "แรงกรรม" ของท่านนะครับ หนีพ้นมันไหมละครับ 55555
sakkaphan
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1111
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ชื่นชมทัศนคติในการคิดครับ
การใช้ตรรกะเช่นนี้ผมรู้สึกเห็นด้วยในหลายๆสถาณการณ์ อย่างเช่นการลงทุน เนื่องจากทำให้เรามองเห็นโอกาสในขณะที่คนอื่นยังมองไม่เห็น เป็นการลงทุนในของดี ที่ราคายังถูก เข้าหลักการVIเป๊ะ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
kotaro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1495
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 13

โพสต์

พอติดตามการอ่านของ ชาร์ลีมังเจอร์ มากขึ้น
รู้สึกว่าแนวความคิดในเรื่อง invert นี่มีความสำคัญมากในการลงทุนมากเลยครับ

ผมชอบแนวความคิดที่ว่า ก่อนจะลงทุน แทนที่เราจะมอง upside ก็บอกให้เรามอง downside ก่อน

ก่อนจะลงทุนในบริษัทฯ ที่เราว่าดี ก็ให้ลองดูว่ามีบริษัทฯ ไหนในอุตสาหกรรมเดียวกันนั้นที่ย่ำแย่บ้าง

ตอนที่ดูว่ากำไรจะเป็นเท่าไหร่ ก็ให้ดูว่าจะขาดทุนยังไง

ตอนที่เราคิดว่าเราอยากจะประสพความสำเร็จในการลงทุน ก็ให้คิดว่ามีวิธีไหนที่เราจะล้มเหลว

โชคดีในการลงทุนครับ
(แต่อย่าลืมเตรียมรับมือกับโชคร้ายที่เราต้องเจอแน่ๆ)
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 14

โพสต์

มีคนสนใจมังเกอร์เพิ่มมาอีกหนึ่งแล้ว :B
ต้องขอบคุณท่าน ice จขกทเป็นคนริเริ่ม

วันนี้ผมได้ใช้การอินเวิด ขอเรียกว่า IV สั้น ๆครับ
พอดีมันกลันกันกับ Vi ด้วย ก็พอลงตัวได้บ้างครับ
ผมใช้ IV แก้ปัญหาสายยางในสวนพันกันเวลาดึงครับ
สายยางนี้ปลายข้างหนึ่งต่อกับก๊อกน้ำตรงจุด A
อีกปลายข้างหนึ่งไว้รดน้ำต้นไม้คือจุด B
จาก A---------------------B = 20 เมตร
เวลาเก็บผมจะจับปลาย B แล้วค่อยๆ รวบสายยางม้วนเป็นก้อนเขยิบจนใกล้ถึงจุด A
พอตอนเช้าวันใหม่ ผมจับปลาย B แล้วเริ่มดึงก้อนสายยางเพื่อรดน้ำ
สายยางจะมีปัญหาในการพันเสมอ

วันนี้ลอง IV ตอนเก็บสายยางแทนที่จะรวบจาก B
ผมเดินย้อนกลับไปที่ก๊อกน้ำ แล้วเริ่มดึงจากแถวปลาย A เข้าหาตัวเรื่อย ๆ
แล้วกองเอาไว้เป็นก้อนกลมๆ เหมือนเดิมครับ
ตอนเช้าดึงจากปลาย B สายยางไม่หยักพันติดกันเหมือนเดิมแล้ว

สิ่งประดิษฐ์และอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย
ช่วยแก้ปัญหาและสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์
แต่ปัญหามันไม่ได้หายไป เพราะมันไม่ได้แก้ปัญหาที่ตัวคนที่ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นด้วย
นิสัยเดิมๆ ครับ นั่นคือปัญหาที่แท้จริง
ความเชื่อที่ทำให้มนุษย์แก้ปัญหาไมได้ยังคงอยู่ในตัวเสมอ
และเปลี่ยนแปลงพวกมันยากซะด้วย
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: Invert, always invert

โพสต์ที่ 15

โพสต์

การอินเวิดที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือการอินเวิดชีวิต

ผมมองแต่ทุกข์ ผมไม่เคยมองสุขเลย
ความสุขนั้นจัดการกับมันง่ายมาก
ความทุกข์ต่างหากที่รับมือกับมันยากกว่า

ความคิดนี้ข้างบ้านผมเคยบอกว่าผมเป็นคนคิดลบ
แต่ความคิดเขาเปลี่ยนหลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมบ้าน
ผมไม่ทราบเปลี่ยนไปทางใดครับ

ผมและข้างบ้านอยู๋บ้านตลอดไม่เคยย้ายออกตอนน้ำท่วมบ้าน
เป้นเวลานานกว่า 22 วันครับที่อยู๋กับน้ำสูงกว่าสี่สิบห้าสิบเซ็น
ผมโตมากับคลอง เลยชิน
ช่วงน้ำท่วม รถทหารวิ่งเข้าออกเกืดคลื่นสูงทุกครั้งกระแทกเข้าบ้าน
บ้านผมไม่กั้นอะไรเลย ทุกครั้งรถผ่่าน ประตูรั้วสั่นไหวทุกครั้ง
ข้างบ้านกั้นอิฐสูงสองก้อน แต่คลื่นยังกะฉอกข้ามกำแพงอิฐล้นเข้าบ้านบางครั้งจนได้

เขาบ่นทุกครั้งเวลาคลื่นมา
และติดป้ายหน้าบ้านว่า "ขับรถช้าเป็นคน"

เวลาคลื่นมา เขาอยากให้คลื่นน้อย
ผมอยากให้คลื่นเยอะ นิสัยไม่ดี ไปอินเวิดความคาดหวังของคนอื่นอีกแล้ว
ผมเอาฝาถังน้ำแข็งขนาดยาวเมตรกว้างแปดสิบเซนไปเล่นกระดานโต้คลื่น
เวลารถมา ผมวิ่งออกไปรอมือขวาถือกระดาน
คลื่นมา ผมก็หันหลังให้คลื่น ทิ้งกระดาน ไถลไปกับคลื่นและสายน้ำ
พฤติกรรรมนี้สร้างรอยยิ้มให้คนไม่น้อย
แต่ข้างบ้านผม ไม่โปรดเท่าใดนัก

การจัดการกับความสุขนั้นง่ายมาก จนผมไม่สนใจเลย
การจัดการกับความทุกข์ สำคัญกว่ามากมาย

ถ้าน้ำไม่เข้าบ้าน เพื่อนบ้านผมคงโอเค
พอน้ำเข้าบ้านแบบไม่คาดหวัง เลยยึดติดกับความทุกข์อย่างเหนียวแน่น
และปล่อยมันไปไมได้ด้วย
หมอดูล้วนหากินกับจุดอ่อนของคนสิ่งนี้
โชคชะตาดวงดาววันเดือนปีเกิดจะทำอะไรคนได้
ถ้าคนสามารถปล่อยวางในความทุกข์ได้

ผมมักจะพูดกับลูกเสมอว่า เวลามีความสุขไม่ต้องมาหาพ่อ
มีความทุกข์เมื่อใด มาหาพ่อทันที
เพราะพ่อเป้นผู้เชี่ยวชาญในการรับมื่อกับความทุกข์
ทำไมละพ่อ
ผมอธิบายเป้นตัวเลข ถ้าพ่อเจอเงินแบงพันตกบนพื้น พ่อคงดีใจ
แต่ให้มันแค่ 1/10 คะแนน กลับกันถ้าพ่อทำเงินพันหาย คงเซ็งเป็ดไม่น้อย
และให้คะแนนติดลบห้า
เวลาออกไปไหน ผมจึงเฝ้าระวังเรื่องการกวักวินเงินเข้าออก
เอาเงินใส่ถุงพลาสติกแล้วใส่ก้อนหินเข้าไปด้วย
เวลามันตกมันจะมันมีเสียง

ผมจะคิดว่าทำอย่างไรให่้เงินหาย
ส่วนทำอย่างไรให้เงินไม่หาย ผมจะไม่เคยคิดเลย
ความทุกข์สำคัญกว่าความสุขมาก
ผมไม่ทราบครับ
ความคิดผมอย่างนี้สร้างความรำคาญให้กับคนในหมู๋บ้านอย่างมาก
เวลามีคนถามว่า น้ำจะม่วมไหมปีหน้า
ผมจะตอบว่า ผมไม่รู็ครับ
แล้วเขาจะหันไปถามคนอื่นทันที
ร้อยทั้งร้อยจะตอบกันว่า ท่วม หรือ ไม่ท่วม พร้อมเหตุผลสนับสุนนความคิดตัวเอง

ท่วมไหมครับปีหน้า
ไม่ทราบครับ
ผมรู้แต่ว่า เวลามันท่วมผมจะทำอย่างไร
ผมจะรับมือและทำใจอยู่กับมันอย่างไร
นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่าเวลาน้ำไม่ท่วม

ความคิดนี้ถูกถ่ายทอดลงไปในการลงทุนในตลาดหุ้น
นั่นเป้นเหตุผลทีผมไม่ถนัดเวลามีข่าวดีกระทบจิตวิทยาของตลาดเลย
แต่เวลาข้าวร้าย ผมจะไฮเปอร์เป็นพิเศษ
ใช่แล้วครับ ผมถนัด short มากกว่า long
ความไม่แน่นอนนั่นสำคัญกว่าความแน่นอนอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
คนชอบหาความแน่นอน และไม่ยอมรับความไม่แน่นอน
คนชอบมองแต่สุข และไม่ยอมรับความทุกข์
หนีอย่างไรก็ไม่พ้นความทุกข์
เหมือนท่านพุทธทาสบอก
ปลาเกิด แก่ เจ็บ ตายอยู๋ในน้ำ แต่ไม่เห็นน้ำ
คนเกิด แก่ เจ็บ ตายอยู๋ในความทกข์ แต่ไม่เห็นทุกข์
โอ้ย ผมปวดแขนจังเลย ไม่หายมาเป้นเดือนแล้ว ไปหาหมอดีกว่า
เผื่อเป็นอะไรขึ้นมา
ว่ายอยู๋ในความไม่แน่นอนแล้วยังทำเฉยไม่ยอมรับมันอีก
ร่างกายมันก็ฟ้องอยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน

นักลงทุนว่ายอยู๋ในความขาดทุน แต่ยังไม่เห้นขาดทุน
ว่ายอยู๋ในความเสี่ยงแล้วยังไม่ยอมรับ
การจัดการกับกำไรนั้นไม่สำคัญมากเท่าการจัดการกับขาดทุนเลย
วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุนครับ 555555
โพสต์โพสต์