โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
-
- Verified User
- โพสต์: 96
- ผู้ติดตาม: 0
โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 1
ที่ A.R.E.A.09/238/54
26 กันยายน 2554
เรื่อง โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
เรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
และคณะรัฐมนตรี
อ้างถึง หนังสือเลขที่ A.R.E.A.09/215/54 ลว. 7 กันยายน 2554
เรื่อง นโยบาย-มาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล
ตามที่รัฐบาลได้ออกนโยบาย ‘บ้านหลังแรก’ และมีรายงานข่าวว่ากระทรวงการคลังกำลังให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทบทวนเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่ง กระผมในนามของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 และสำรวจภาคสนามโดยมีฐานข้อมูลที่กว้างขวางที่สุดในประเทศไทย จึงทำหนังสือนี้มาเรียนเสนอข้อคิดเห็นอย่างเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการบริหารราชการของรัฐบาล
การให้สถาบันการเงินจัดทำนโยบาย ก็ย่อมมีโอกาสออกมาเป็นการสนับสนุนการอำนวยสินเชื่อ แต่ในขณะนี้การอำนวยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในตลาดมีการแข่งขันกันอย่างมาก จนอาจถึงขีดอันตรายเช่นเมื่อปี พ.ศ.2540 แล้ว กล่าวคือ มีการอำนวยสินเชื่อกันถึงเกือบ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินจริง ทั้งที่ควรอยู่ ณ ระดับ 80% ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย หากเศรษฐกิจของประเทศเสียหายเช่นในอดีต
สถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ รัฐบาลสามารถชี้แจงกับประชาชนได้ว่า ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการสนับสนุนการซื้อบ้านหลังแรกแต่อย่างใด เพราะ
1. ครัวเรือนของไทย 82.4% มีบ้านของตนเอง โดยเป็นในเขตเทศบาล 62.7% (สัมมโนประชากรและเคหะ 2543) การส่งเสริมที่อยู่อาศัยในยุโรปเกิดขึ้นเพราะสัดส่วนครัวเรือนที่มีที่อยู่อาศัยเองยังต่ำมาก
2. กลไกตลาดสามารถทำงานได้ด้วยตนเอง จำนวนที่อยู่อาศัย 135,598 หน่วยทั้งหมดในตลาดจะสามารถขายได้หมด ในเวลา 16 เดือน ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องสูญเสียงบประมาณสนับสนุนใด ๆ
3. ผลการประกอบการของบริษัทพัฒนาที่ดินทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ต่างมีผลประกอบการที่ดี ไม่อยู่ในภาวะน่าห่วง
4. ในขณะนี้ไม่มีปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย
รัฐบาลควรให้สัญญากับประชาชนได้ว่า หากเกิดวิกฤติ รัฐบาลจะสนับสนุนโดยการลดอัตราดอกเบี้ยให้เท่ากับศูนย์เปอร์เซ็นต์เป็นเวลา 3 ปีจนกว่าจะพ้นวิกฤติโดยรัฐบาลเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ย แต่ในระหว่างนี้รัฐบาลจะได้ระดมกำลังไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศ เช่น ปัญหาน้ำท่วม และอื่น ๆ ก่อน
ในระหว่างนี้หากรัฐบาลสามารถสร้างความมั่นใจในการซื้อที่อยู่อาศัยด้วยการกำหนดให้บริษัทพัฒนาที่ดินทุกรายและผู้บริโภคปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา พ.ศ.2551 ที่กำหนดการคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้บริโภค ก็จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์และมาซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยรัฐบาลไม่ต้องเสียงบประมาณกระตุ้นการซื้อแต่อย่างใด
รัฐบาลพึงเตรียมการรับวิกฤติเศรษฐกิจอันจะเกิดจากความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโลกและภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยนัยนี้ การส่งเสริมการซื้อบ้านอาจกลายเป็นการเร่งอุปสงค์เกินจำเป็นจนกลายเป็นการส่งเสริมการเก็งกำไร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส คาดว่าในช่วงปี 2553-2555 จะมีอุปทานที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ถึง 330,000 หน่วย ซึ่งอาจก่อให้เกิดการล้นตลาดในปี 2556 ได้ ยิ่งกว่านั้นการขาดการควบคุมการอำนวยสินเชื่อที่ปล่อยกันเกือบ 100% ของมูลค่าทรัพย์สิน อาจเป็นภัยต่อตลาดที่อยู่อาศัยในอนาคต ดังนั้นรัฐบาลจึงควรทบทวนนโยบายใด ๆ ที่ส่งเสริมการเร่งซื้อ-ขายบ้านและการอำนวยสินเชื่อที่สุ่มเสี่ยงเช่นทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยังประสงค์จะดำเนินการตามนโยบายบ้านหลังแรก กระผมขอเสนอให้ส่งเสริมการซื้อบ้านทั้งมือหนึ่งและมือสองเฉพาะที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่ายังมีรอขายอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลถึง 22,130 หน่วย แยกเป็น บ้านเดี่ยว 267 หน่วย บ้านแฝด 46 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 7,837 หน่วย ห้องชุด 13,750 และที่ดินจัดสรร 230 หน่วย ยิ่งหากนับรวมที่อยู่อาศัยมือสองก็คงมีรวมประมาณ 50,000 หน่วย และทั่วประเทศคงมีอีกนับแสนหน่วย ในการนี้รัฐบาลควรกำหนดรายได้ของผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือไม่เกิน 20,000-25,000 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และชดเชยดอกเบี้ยให้ตามระยะเวลาที่กำหนด
ยิ่งกว่านั้นรัฐบาลควรสนับสนุนการจัดหาที่อยู่อาศัยหรือที่พักพิงแก่ผู้ไร้บ้านในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น สนามหลวง และพื้นที่อื่น เพื่อการจัดสวัสดิการสังคมแก่ผู้ยากไร้ที่แท้จริงเหล่านี้ และเป็นการสร้างสวัสดิภาพที่ดีทั้งต่อผู้ไร้บ้านและผู้อยู่อาศัยในเขตเมืองอีกด้วย
อนึ่งหากมีเงื่อนไขที่คาดว่าก่อให้เกิดวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตที่จะกระทบกระเทือนต่อธุรกิจ บริษัทผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน ตลอดจนประชาชนผู้ซื้อที่อยู่อาศัย กระผมในนามของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ซึ่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดตัวใหม่รายเดือน และสำรวจภาวะการขายของโครงการที่เปิดขายในทุกรอบไตรมาส จะได้นำเสนอข้อมูลแก่รัฐบาลเพื่อการแก้ไขปัญหาต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
(ดร.โสภณ พรโชคชัย)
ประธานกรรมการบริหาร
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
26 กันยายน 2554
เรื่อง โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
เรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
และคณะรัฐมนตรี
อ้างถึง หนังสือเลขที่ A.R.E.A.09/215/54 ลว. 7 กันยายน 2554
เรื่อง นโยบาย-มาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล
ตามที่รัฐบาลได้ออกนโยบาย ‘บ้านหลังแรก’ และมีรายงานข่าวว่ากระทรวงการคลังกำลังให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทบทวนเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่ง กระผมในนามของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 และสำรวจภาคสนามโดยมีฐานข้อมูลที่กว้างขวางที่สุดในประเทศไทย จึงทำหนังสือนี้มาเรียนเสนอข้อคิดเห็นอย่างเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการบริหารราชการของรัฐบาล
การให้สถาบันการเงินจัดทำนโยบาย ก็ย่อมมีโอกาสออกมาเป็นการสนับสนุนการอำนวยสินเชื่อ แต่ในขณะนี้การอำนวยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในตลาดมีการแข่งขันกันอย่างมาก จนอาจถึงขีดอันตรายเช่นเมื่อปี พ.ศ.2540 แล้ว กล่าวคือ มีการอำนวยสินเชื่อกันถึงเกือบ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินจริง ทั้งที่ควรอยู่ ณ ระดับ 80% ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย หากเศรษฐกิจของประเทศเสียหายเช่นในอดีต
สถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ รัฐบาลสามารถชี้แจงกับประชาชนได้ว่า ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการสนับสนุนการซื้อบ้านหลังแรกแต่อย่างใด เพราะ
1. ครัวเรือนของไทย 82.4% มีบ้านของตนเอง โดยเป็นในเขตเทศบาล 62.7% (สัมมโนประชากรและเคหะ 2543) การส่งเสริมที่อยู่อาศัยในยุโรปเกิดขึ้นเพราะสัดส่วนครัวเรือนที่มีที่อยู่อาศัยเองยังต่ำมาก
2. กลไกตลาดสามารถทำงานได้ด้วยตนเอง จำนวนที่อยู่อาศัย 135,598 หน่วยทั้งหมดในตลาดจะสามารถขายได้หมด ในเวลา 16 เดือน ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องสูญเสียงบประมาณสนับสนุนใด ๆ
3. ผลการประกอบการของบริษัทพัฒนาที่ดินทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ต่างมีผลประกอบการที่ดี ไม่อยู่ในภาวะน่าห่วง
4. ในขณะนี้ไม่มีปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย
รัฐบาลควรให้สัญญากับประชาชนได้ว่า หากเกิดวิกฤติ รัฐบาลจะสนับสนุนโดยการลดอัตราดอกเบี้ยให้เท่ากับศูนย์เปอร์เซ็นต์เป็นเวลา 3 ปีจนกว่าจะพ้นวิกฤติโดยรัฐบาลเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ย แต่ในระหว่างนี้รัฐบาลจะได้ระดมกำลังไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศ เช่น ปัญหาน้ำท่วม และอื่น ๆ ก่อน
ในระหว่างนี้หากรัฐบาลสามารถสร้างความมั่นใจในการซื้อที่อยู่อาศัยด้วยการกำหนดให้บริษัทพัฒนาที่ดินทุกรายและผู้บริโภคปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา พ.ศ.2551 ที่กำหนดการคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้บริโภค ก็จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์และมาซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยรัฐบาลไม่ต้องเสียงบประมาณกระตุ้นการซื้อแต่อย่างใด
รัฐบาลพึงเตรียมการรับวิกฤติเศรษฐกิจอันจะเกิดจากความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโลกและภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยนัยนี้ การส่งเสริมการซื้อบ้านอาจกลายเป็นการเร่งอุปสงค์เกินจำเป็นจนกลายเป็นการส่งเสริมการเก็งกำไร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส คาดว่าในช่วงปี 2553-2555 จะมีอุปทานที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ถึง 330,000 หน่วย ซึ่งอาจก่อให้เกิดการล้นตลาดในปี 2556 ได้ ยิ่งกว่านั้นการขาดการควบคุมการอำนวยสินเชื่อที่ปล่อยกันเกือบ 100% ของมูลค่าทรัพย์สิน อาจเป็นภัยต่อตลาดที่อยู่อาศัยในอนาคต ดังนั้นรัฐบาลจึงควรทบทวนนโยบายใด ๆ ที่ส่งเสริมการเร่งซื้อ-ขายบ้านและการอำนวยสินเชื่อที่สุ่มเสี่ยงเช่นทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยังประสงค์จะดำเนินการตามนโยบายบ้านหลังแรก กระผมขอเสนอให้ส่งเสริมการซื้อบ้านทั้งมือหนึ่งและมือสองเฉพาะที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่ายังมีรอขายอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลถึง 22,130 หน่วย แยกเป็น บ้านเดี่ยว 267 หน่วย บ้านแฝด 46 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 7,837 หน่วย ห้องชุด 13,750 และที่ดินจัดสรร 230 หน่วย ยิ่งหากนับรวมที่อยู่อาศัยมือสองก็คงมีรวมประมาณ 50,000 หน่วย และทั่วประเทศคงมีอีกนับแสนหน่วย ในการนี้รัฐบาลควรกำหนดรายได้ของผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือไม่เกิน 20,000-25,000 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และชดเชยดอกเบี้ยให้ตามระยะเวลาที่กำหนด
ยิ่งกว่านั้นรัฐบาลควรสนับสนุนการจัดหาที่อยู่อาศัยหรือที่พักพิงแก่ผู้ไร้บ้านในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น สนามหลวง และพื้นที่อื่น เพื่อการจัดสวัสดิการสังคมแก่ผู้ยากไร้ที่แท้จริงเหล่านี้ และเป็นการสร้างสวัสดิภาพที่ดีทั้งต่อผู้ไร้บ้านและผู้อยู่อาศัยในเขตเมืองอีกด้วย
อนึ่งหากมีเงื่อนไขที่คาดว่าก่อให้เกิดวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตที่จะกระทบกระเทือนต่อธุรกิจ บริษัทผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน ตลอดจนประชาชนผู้ซื้อที่อยู่อาศัย กระผมในนามของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ซึ่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดตัวใหม่รายเดือน และสำรวจภาวะการขายของโครงการที่เปิดขายในทุกรอบไตรมาส จะได้นำเสนอข้อมูลแก่รัฐบาลเพื่อการแก้ไขปัญหาต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
(ดร.โสภณ พรโชคชัย)
ประธานกรรมการบริหาร
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 2
ผมคิดว่านโยบายของรัฐบาลชุดนี้มีแนวทางที่ชัดเจนครับ
ในอนาคตอันใกล้ สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปมีปัญหาแน่นอน ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบพอสมควรต่อการส่งออก ดังนั้นรัฐบาลจึงพยายามที่จะกระตุ้นความจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศให้มากขึ้นมาชดเชย
ส่วนหนึ่งก็เป็นการเพิ่มกำลังซื้อ ซึ่งก็คือ ประกันราคาข้าว ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี
อีกส่วนหนึ่งก็คือ ลดค่าใช้จ่าย เช่น ลดราคาน้ำมัน ลดภาษีรถยนต์คันแรก และรวมถึงลดภาษีบ้านหลังแรก
ส่วนเรื่องทางด้านสังคม ผมคิดว่าเป็นผลพลอยได้มากกว่า
อุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงวิกฤต Sub Prime ทำให้ต้องลดกำลังการผลิตลง พนักงานก็มีรายได้ลดลง
อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยก็ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกมากมาย ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่องอีกมาก เกิดการจ้างงานมาก
ถ้าเราสนับสนุนบ้านมือสอง ก็ไม่ช่วยอุตสาหกรรมก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง ยาแนว สุขภัณฑ์ กระจก วงกบ ประตู หน้าต่าง ผ้าม่าน ฝ้า ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา สี และอื่นๆอีกมาก ไม่ช่วยการจ้างงาน เหมือนบ้านหลังแรก เพราะสร้างเสร็จแล้ว
ในอนาคตอันใกล้ สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปมีปัญหาแน่นอน ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบพอสมควรต่อการส่งออก ดังนั้นรัฐบาลจึงพยายามที่จะกระตุ้นความจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศให้มากขึ้นมาชดเชย
ส่วนหนึ่งก็เป็นการเพิ่มกำลังซื้อ ซึ่งก็คือ ประกันราคาข้าว ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี
อีกส่วนหนึ่งก็คือ ลดค่าใช้จ่าย เช่น ลดราคาน้ำมัน ลดภาษีรถยนต์คันแรก และรวมถึงลดภาษีบ้านหลังแรก
ส่วนเรื่องทางด้านสังคม ผมคิดว่าเป็นผลพลอยได้มากกว่า
อุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงวิกฤต Sub Prime ทำให้ต้องลดกำลังการผลิตลง พนักงานก็มีรายได้ลดลง
อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยก็ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกมากมาย ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่องอีกมาก เกิดการจ้างงานมาก
ถ้าเราสนับสนุนบ้านมือสอง ก็ไม่ช่วยอุตสาหกรรมก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง ยาแนว สุขภัณฑ์ กระจก วงกบ ประตู หน้าต่าง ผ้าม่าน ฝ้า ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา สี และอื่นๆอีกมาก ไม่ช่วยการจ้างงาน เหมือนบ้านหลังแรก เพราะสร้างเสร็จแล้ว
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 4
ผมว่าเราเริ่มออกจะให้ความเห็นไปทางการเมือง ซึ่งกติกาเวบห้ามไว้
ยังไงก็อยากให้วิจารณ์ผลกระทบเชิงพื้นฐานดีกว่านะครับ
อย่าไปต่อว่าใคร (แม้คันปากมาก ผมก็ต้องข่มตัวเองเหมือนกัน) ไม่งั๊นเดี๋ยวพวกเราก็ได้ทะเลาะกันเอง โดยไม่มีการตัดสิน ทิ้งไว้แต่ความร้าวฉาน และไม่เกิดประโยชน์อันใด
ยังไงก็อยากให้วิจารณ์ผลกระทบเชิงพื้นฐานดีกว่านะครับ
อย่าไปต่อว่าใคร (แม้คันปากมาก ผมก็ต้องข่มตัวเองเหมือนกัน) ไม่งั๊นเดี๋ยวพวกเราก็ได้ทะเลาะกันเอง โดยไม่มีการตัดสิน ทิ้งไว้แต่ความร้าวฉาน และไม่เกิดประโยชน์อันใด
-
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 5
ถ้าการใช้เงินลงไปทุ่มแล้วกระตุ้นเศรษฐกิจก็ไม่เห็นเสียหายอะไรถึงแม้จะสูญเงินเยอะ เพราะมันทำให้เกิดการจ้างงานเกิดรายได้คนในประเทศ ยังดีกว่าการซื้อของที่ ซื้อมาใช้ไม่ได้เช่น GT200ตัวละล้านกว่า
อีกข้อที่ไม่เห็นด้วยค่าแรงทุกวันนี้ต่ำไป ถ้าบอกว่า300บาทแล้วเจ๊งหมด ต้องมองด้วยค่าครองชีพทุกวันนี้เท่าไหร่ ข้าวอาหารจานนึงปาไป35บาท40บาท45บาท*3มื้อแค่กิน100กว่าบาทแล้ว ค่าใช้จ่ายต่อคนมีอีกจิปาถะ ถ้าบอก300มากไปทุกวันนี้ คุณแน่ใจแล้วหรือคุณอยู่ไม่เกิน300หรือ9000บาทต่อเดือน หรือต้องกดให้คนลำบากเพื่อตัวเองสบาย ใจเขาใจเราครับเรื่องนี้
อีกข้อที่ไม่เห็นด้วยค่าแรงทุกวันนี้ต่ำไป ถ้าบอกว่า300บาทแล้วเจ๊งหมด ต้องมองด้วยค่าครองชีพทุกวันนี้เท่าไหร่ ข้าวอาหารจานนึงปาไป35บาท40บาท45บาท*3มื้อแค่กิน100กว่าบาทแล้ว ค่าใช้จ่ายต่อคนมีอีกจิปาถะ ถ้าบอก300มากไปทุกวันนี้ คุณแน่ใจแล้วหรือคุณอยู่ไม่เกิน300หรือ9000บาทต่อเดือน หรือต้องกดให้คนลำบากเพื่อตัวเองสบาย ใจเขาใจเราครับเรื่องนี้
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 6
ผมว่าข้อมูลที่ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เสนอมามันแปลก ๆ เช่น ครัวเรือนไทย 82% มีบ้านเป็นของตัวเอง มันน่าจะมีความผิดพลาดอะไรสักอย่าง และการส่งเสริมนโยบายบ้านหลังแรก ซึ่งเป็นบ้านสำหรับอยู่อาศัยจริง โอกาสที่จะเป็นฟองสบู่นั้นน้อย ไม่เหมือนกับการซื้อขายบ้านเพื่อเก็งกำไร แต่ก็ดีที่มาช่วยกันทักท้วงรัฐบาล จะได้ออกนโยบายออกมาให้รัดกุมและส่งผลดีกับ การหมุนของเศรษฐกิจไทย
แชทบอทสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.chathoon.com/
https://www.chathoon.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 7
ลูกค้าสนับสนบ้านหลังแรก ฉุดอสังหาฯ ไตรมาสสี่ทรุด [ นสพ.เดลินิวส์, 30 ก.ย. 54 ]
นายธำรงค์ ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด
ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า ผลจากการลงพื้นที่
สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่เข้ามาชมงานวันแรกพบว่า ผู้บริโภคส่วนหใญ่เกิดความสับสนกับมาตรการ
บ้านหลังแรกของรัฐบาลที่ออกมามาก เห็นได้จากบางคนเข้าใจผิดถึงขนาดที่ว่าเมื่อซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท
จะต้องได้รับเงินคืน 300,000 บาท เหมือนกับกรณีการซื้อบ้านที่มีราคา 5 ล้านบาท ที่จะได้รับเงินคืน
500,000 บาท โดยต้องไปขอคืนจากผู้ประกอบการ ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมาก จึงคาดว่าจะทำให้
ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสสุดท้ายนี้ชะลอตัวลง
นายธำรงค์ ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด
ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า ผลจากการลงพื้นที่
สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่เข้ามาชมงานวันแรกพบว่า ผู้บริโภคส่วนหใญ่เกิดความสับสนกับมาตรการ
บ้านหลังแรกของรัฐบาลที่ออกมามาก เห็นได้จากบางคนเข้าใจผิดถึงขนาดที่ว่าเมื่อซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท
จะต้องได้รับเงินคืน 300,000 บาท เหมือนกับกรณีการซื้อบ้านที่มีราคา 5 ล้านบาท ที่จะได้รับเงินคืน
500,000 บาท โดยต้องไปขอคืนจากผู้ประกอบการ ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมาก จึงคาดว่าจะทำให้
ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสสุดท้ายนี้ชะลอตัวลง
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 8
ผมไม่เห็นด้วยกับ นโยบายรถคันเเรก เพราะทีมีอยู่ก็เต็มถนน เเล้วเอาไป
ทำขนส่งมวลชน รถไฟฟ้าเพิ่มดีกว่า
ไม่เห็นด้วยกับจำนำข้าวเพราะสุดท้ายก็จะขาดทุน
เห็นด้วยกับบ้านหลังเเรก เเต่ลดหย่อนน้อยไป ควรจะให้มากกว่านี้
ทำขนส่งมวลชน รถไฟฟ้าเพิ่มดีกว่า
ไม่เห็นด้วยกับจำนำข้าวเพราะสุดท้ายก็จะขาดทุน
เห็นด้วยกับบ้านหลังเเรก เเต่ลดหย่อนน้อยไป ควรจะให้มากกว่านี้
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 9
ผมกิน 25 บาท เอง ข้าวราดกับ 2 อย่าง อร่อยด้วย อิ่มด้วยkoon007 เขียน:ถ้าการใช้เงินลงไปทุ่มแล้วกระตุ้นเศรษฐกิจก็ไม่เห็นเสียหายอะไรถึงแม้จะสูญเงินเยอะ เพราะมันทำให้เกิดการจ้างงานเกิดรายได้คนในประเทศ ยังดีกว่าการซื้อของที่ ซื้อมาใช้ไม่ได้เช่น GT200ตัวละล้านกว่า
อีกข้อที่ไม่เห็นด้วยค่าแรงทุกวันนี้ต่ำไป ถ้าบอกว่า300บาทแล้วเจ๊งหมด ต้องมองด้วยค่าครองชีพทุกวันนี้เท่าไหร่ ข้าวอาหารจานนึงปาไป35บาท40บาท45บาท*3มื้อแค่กิน100กว่าบาทแล้ว ค่าใช้จ่ายต่อคนมีอีกจิปาถะ ถ้าบอก300มากไปทุกวันนี้ คุณแน่ใจแล้วหรือคุณอยู่ไม่เกิน300หรือ9000บาทต่อเดือน หรือต้องกดให้คนลำบากเพื่อตัวเองสบาย ใจเขาใจเราครับเรื่องนี้
ไปซื้ออะไรตั้ง 35 40 45 หล่ะคู๊ณณณณณณ
ก็ถ้าเลือกราคาอย่างนั้น มันจะเหลืออะไรหล่ะ
อ่อ ผมซื้อตามตลาดนี่แหล่ะครับ ไม่ได้กินในหน่วยงานหลวง ที่ราคาถูกๆนะครับ
ท่านแน่ใจหรือว่า คนอื่นกินเหมือนท่าน
ร้านอาหารที่ไม่แพง มีอยู่ทั่วไป ไม่หาหล่ะครับ
เลือกสิ การเลือกมีผลครับ
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โปรดอย่าส่งเสริมการซื้อบ้านหลังแรก
โพสต์ที่ 10
เรื่องข้าวแกงมันก็แล้วแต่ทำเลครับ
บางแห่งก็แพงจริงๆ นะ
หาร้านถูกๆ แบบชาวบ้านกิน
20-30 บาทแล้วท้องอิ่มไม่ได้เลย
บางย่านนานๆ ไปที คงไม่เป็นไร
แต่ถ้าเป็นที่ทำงาน ผมว่าหิ้วปิ่นโต
ไปทานที่ทำงานก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะครับ
บางแห่งก็แพงจริงๆ นะ
หาร้านถูกๆ แบบชาวบ้านกิน
20-30 บาทแล้วท้องอิ่มไม่ได้เลย
บางย่านนานๆ ไปที คงไม่เป็นไร
แต่ถ้าเป็นที่ทำงาน ผมว่าหิ้วปิ่นโต
ไปทานที่ทำงานก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะครับ