จีน...ขยับเข้าใกล้อีกนิด อารยธรรมจะมากขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
จีน...ขยับเข้าใกล้อีกนิด อารยธรรมจะมากขึ้น
โพสต์ที่ 1
ใครที่คิดว่าห้องน้ำเมืองจีนสกปรกที่สุดในโลก แล้วปฏิญาณตนว่าจะ
ไม่ไปเมืองจีนนั้น กรุณาคิดใหม่นะครับ
เพราะผมเพิ่งกลับจากเซี่ยงไฮ้และหางโจวมา
และอยากจะบอกว่าเปรียบเทียบระหว่างกรุงเทพกับเซี่ยงไฮ้แล้ว สรุป
ได้ว่าทั้งความสะอาด ความสดวก ความเป็นระบบ ความเป็นระเบียบ ของทั้ง
ผู้คนและบ้านเมืองนั้น
เซี่ยงไฮ้ ดีกว่า ทุกด้าน !!!
เขาโกอินเตอร์ ไประดับโลกแล้วครับ !!!
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผมไปเมืองจีนครั้งแรก ยังหัวเยาะเราะเขาอยู่เลย โดย
เฉพาะเรื่องห้องน้ำ ทั้งห้องน้ำกลางแจ้ง ห้องน้ำแบบกั้นคอก ห้องน้ำแบบไม่
มีประตู แบบมีประตูแต่ไม่ปิด หรือแบบปิดแล้วแต่ไม่ยอมราด
คนไทยเรานี่กลัวห้องน้ำจีนมาก เพราะมากันหมดอายตนะ๕ ทั้ง รูป
รส กลิ่น เสียง สัมผัส มากันพร้อมเพรียง ผมรู้ว่ากลิ่นมันมีขาก็ที่เมืองจีน
นี่แหละครับ
เพราะมันตั้งใจ...เตะอย่างจังเข้าที่จมูกจุกจนถึงปอด !!!
ป้าคนนึงแกรู้สรรพคุณห้องน้ำจีนโดยเฉพาะแบบไม่มีประตู เลยเตรียม
อุปกรณ์ไปป้องกัน นั่นก็คือร่ม กะเอาไว้บังแทนประตู
ทำธุระเสร็จสรรพ ไกด์ทัวร์สังเกตุว่าคุณป้าแกก็ยังทำสีหน้าไม่เสบย ก็เลย
ถามคุณป้าว่า มีร่มคอยป้องกันแล้ว ยังไม่ดีอีกเหรอ
คุณป้าแกทำหน้าหมดอาลัยตอบว่า... “มันจะดียังไงล่ะคุณไกด์ ใครมา
ก็เปิดร่มดูกันทุกคน !!!”
ผมลองไปค้นๆดูว่า ทำไมห้องน้ำเมืองจีนถึงได้ทำมะช๊าด ธรรมชาติ
ซะขนาดนั้นถึงขนาดอุตส่าห์พัฒนาจากกั้นคอกเป็นห้อง แล้วทำไมยังไม่ยอม
มีประตู
บางคนบอกว่า สมัยฮ่องเต้นามจูหยวน เสด็จเข้าห้องน้ำแล้วถูกลอบ
ทำร้าย เลยเป็นที่มาของห้องน้ำไม่มีประตู บ้างก็ว่าสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรม
มีคนมือบอนมาเขียนด่าท่านประธานเหมา เซ ตุง รัฐบาลเลยประกาศห้องน้ำ
ห้ามมีประตู อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือหลอก
แต่สำหรับผมเอง ผมคิดว่าเรื่อง “ห้องน้ำ” เป็นเรื่องของ “วัฒนธรรม”
และ “ความเคยชิน”
หรือเขียนให้ชัดๆว่า เรื่อง “อึ” เป็นเรื่องของ “วัฒนธรรม” และ ความ
“เคยๆ”
ผมมองว่า คนจีนเขาเห็นว่า เรื่อง “อึ” เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่อง
สกปรกหรือน่าอาย เขาจึงเปิดเผย ผิดกับคนไทยที่มองว่า เรื่อง “อึ”เป็นเรื่อง
เหม็น ต้องหลบซ่อนเร้นมิให้เห็นกาย
แต่ความ “เคยๆ” ทำให้เราลืมดูตัวเราเองไป
เอาง่ายๆ เมืองไทยเรามีฝักบัวชำระ ทีนี้ลองคิดดูดีๆ ลองนึกดูดีๆ ลองมอง
ในมุมของคนต่างชาติที่เขาไม่สัมผัส “อึ”
อืมมม ทำไมคนไทยว่าห้องน้ำเมืองจีนสกปรก แต่ของเรากลับเอามือ
สะอาดๆไปสัมผัส”อึ”ให้มันสกปรกเล่นซะงั้นแหละ
จริงไหมเอ่ย ?
และไม่ใช่เฉพาะ “อึ” เท่านั้น เรื่องของ “ร่างกาย” ก็รวมอยู่ด้วย คนจีน
และอีกหลายๆชาติเขามองว่า “ร่างกาย”เป็นของธรรมชาติ เวลาจะ อึ เวลา
จะอาบ เขาก็แก้กันโทงๆ ไม่ต้องปิด ไม่ต้องบัง ให้วุ่นวาย
ห้องน้ำแบบกั้นคอกเตี้ยๆนั้น ผมเดินผ่าน บังเอิญมองไปที่เขาทำธุระอยู่
อาตี๋ อากง แกยังยิ้มให้ผมเฉยเลย
ที่เมืองจีนนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาขึ้นมาเร็วมาก เขาเอาจริงเอาจัง
ในทุกๆเรื่อง รนณรงค์ในทุกๆด้าน อย่างที่ผมเกริ่นเป็นหัวข้อบทความนั่น
ก็สำหรับใช้บอกบรรดาคุณผู้ชายที่คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่ยืนยาวนั้น ขอความ
กรุณาขยับใกล้โถฉี่อีกนิด...แล้วอารยธรรมจะมากขึ้น!!!
เซี่ยงไฮ้ที่ผมไปมานั้น ถนนหนทาง ตรอกซอกซอยสะอาดสะอ้าน
มีความทันสมัยในทุกๆด้าน เรียกว่าทัดเทียมอเมริกาและยุโรป
หรือแม้กระทั่งหางโจวเมืองเล็กกว่า ก็ยังพัฒนาไปอย่างมาก สิ่งที่
ผมทึ่งเมื่อเดินทางในหางโจวก็คือ ที่นั่นออกกฎหมายบังคับให้รถมอร์
เตอร์ไซค์ต้องเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม
บ้านเรือนจำนวนมากมีระบบโซล่าร์เซล การเกษตรมีการปลูกพืช
ในโรงเรือน หรือการอนุรักษ์ก็ควบคู่ไปกับการพัฒนาได้เป็นอย่างดี
อย่างเช่น ตำนานนางพญางูขาว เรื่องราวของนางพญางูที่แปลงร่างมารัก
ชอบพอกับมนุษย์จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม มีการเอามาทำเป็นภาพยนต์
จนโด่งดัง ในพื้นที่เขาก็ยังรักษาเศษหินเศษวัตถุที่เป็นเจดีย์ในสมัย
พันปีเอาไว้ แล้วสร้างเจดีย์ใหม่สูงแปด-เก้าชั้นครอบ แต่ละชั้นก็แสดง
ประวัติความเป็นมา พร้อมศิลปะต่างๆมากมาย ได้ทั้งอนุรักษ์และพัฒนา
จีนครับ จีนทำได้ทุกอย่าง
แต่ยังแพ้ผมครับ
ผมฟังน้องหมวยประชาสัมพันธ์เล่าตำนานนาง
พญางูขาวอย่างน่าตื่นเต้นและโศรกเศร้ารันทด สุดท้ายน้องหมวยถามว่า
มีคำถามอะไรไหม ผมเลยถามออกไปว่า
“นางพญางูขาวที่เป็นงูน่ะ เป็นงูอะไร งูเห่า งูจงอาง หรืองูอะไร?
อาหมวยจีนเจอคำถามนี้เข้าไป อ้าปากหวอ ตอบไม่ถูก บอกว่าเกิดมาไม่
เคยเจอคำถามนี้เลย
ยังต้องพัฒนาอีกนะครับ จีน....ฮ่า
แต่ในการพัฒนาของจีนนั้น ก็หนีไม่พ้นผลกระทบที่ตามมาเช่น
กัน เป็นต้นว่าเราจะเห็นคนจีนที่มีอันจะกินเห่อ แฟชั่น รถยนต์ ของฟุ่ม
เฟือยแบรนด์ดังๆจากยุโรป อเมริกา
รวมไปถึงกระแสการเห่อวัฒนธรรม j-pop จากญี่ปุ่น และ
k-pop จากเกาหลี เหมือนบ้านเราเหมือนกัน
แต่เรื่องหลังนี้ จีนเขามีวิธีสกัดจุด หยุดยั้ง และโดยไม่คาดคิด
ประเทศไทยของเราพลอยมีผลได้จากการสกัดจุดนี้ด้วย
จีนเขาเอา หนังไทย ลครไทย เพลงไทย ไปสกัดเกาหลี ไปบี้ญี่
ปุ่นครับ และก็ได้ผลซะด้วยซี ตอนนี้ t-pop มาแรงแซงทางโค้งไป
เรียบร้อย
ละครไทยเรื่องแรกที่ไปดังระเบิดระเบ้อในจีนก็คือ เรื่อง “สง
ครามนางฟ้า” แล้วก็ตามไปกันอีกหลายต่อหลายเรื่อง ดาราเช่น บี้ เดอะ
สตาร์ ป้อง ณวัฒน์ ติ๊กเจษฏาภรณ์ เคน ธีรเดช มาริโอ้ เป็นดารายอด
นิยมของคนจีนไปแล้ว หนังไทยเรื่อง “รักแห่งสยาม” ทำให้วงดนตรี
August band ที่มีบทในหนังเป็นที่ชื่นชอบของหมวยตี๋แฟนคลับ
จนต้องออกเพลงเป็นภาษาจีน
ฮ่า...ฮ่า ถึงเวลา t-pop โกอินเตอร์
และเดี๋ยวนี้เยาวชนไทยรุ่นใหม่ก็ไม่น้อยหน้าเหล่าดารา
พากันพัฒนาศักยภาพกันยกใหญ่ เพื่อนำพาประเทศไทยโก-อินเตอร์
เมื่อเร็วๆนี้เอง น้องหนูอายุสิบสี่ สิบห้า ก็เลยโก-สีลม
ขึ้นไปแก้ผ้าขย่มบนหลังคารถให้.....สาธารณชม....แบบธรรมชาติ
ธรรมชาติ...เต็มๆ
เฮ้อ !!!
ไม่ไปเมืองจีนนั้น กรุณาคิดใหม่นะครับ
เพราะผมเพิ่งกลับจากเซี่ยงไฮ้และหางโจวมา
และอยากจะบอกว่าเปรียบเทียบระหว่างกรุงเทพกับเซี่ยงไฮ้แล้ว สรุป
ได้ว่าทั้งความสะอาด ความสดวก ความเป็นระบบ ความเป็นระเบียบ ของทั้ง
ผู้คนและบ้านเมืองนั้น
เซี่ยงไฮ้ ดีกว่า ทุกด้าน !!!
เขาโกอินเตอร์ ไประดับโลกแล้วครับ !!!
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผมไปเมืองจีนครั้งแรก ยังหัวเยาะเราะเขาอยู่เลย โดย
เฉพาะเรื่องห้องน้ำ ทั้งห้องน้ำกลางแจ้ง ห้องน้ำแบบกั้นคอก ห้องน้ำแบบไม่
มีประตู แบบมีประตูแต่ไม่ปิด หรือแบบปิดแล้วแต่ไม่ยอมราด
คนไทยเรานี่กลัวห้องน้ำจีนมาก เพราะมากันหมดอายตนะ๕ ทั้ง รูป
รส กลิ่น เสียง สัมผัส มากันพร้อมเพรียง ผมรู้ว่ากลิ่นมันมีขาก็ที่เมืองจีน
นี่แหละครับ
เพราะมันตั้งใจ...เตะอย่างจังเข้าที่จมูกจุกจนถึงปอด !!!
ป้าคนนึงแกรู้สรรพคุณห้องน้ำจีนโดยเฉพาะแบบไม่มีประตู เลยเตรียม
อุปกรณ์ไปป้องกัน นั่นก็คือร่ม กะเอาไว้บังแทนประตู
ทำธุระเสร็จสรรพ ไกด์ทัวร์สังเกตุว่าคุณป้าแกก็ยังทำสีหน้าไม่เสบย ก็เลย
ถามคุณป้าว่า มีร่มคอยป้องกันแล้ว ยังไม่ดีอีกเหรอ
คุณป้าแกทำหน้าหมดอาลัยตอบว่า... “มันจะดียังไงล่ะคุณไกด์ ใครมา
ก็เปิดร่มดูกันทุกคน !!!”
ผมลองไปค้นๆดูว่า ทำไมห้องน้ำเมืองจีนถึงได้ทำมะช๊าด ธรรมชาติ
ซะขนาดนั้นถึงขนาดอุตส่าห์พัฒนาจากกั้นคอกเป็นห้อง แล้วทำไมยังไม่ยอม
มีประตู
บางคนบอกว่า สมัยฮ่องเต้นามจูหยวน เสด็จเข้าห้องน้ำแล้วถูกลอบ
ทำร้าย เลยเป็นที่มาของห้องน้ำไม่มีประตู บ้างก็ว่าสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรม
มีคนมือบอนมาเขียนด่าท่านประธานเหมา เซ ตุง รัฐบาลเลยประกาศห้องน้ำ
ห้ามมีประตู อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือหลอก
แต่สำหรับผมเอง ผมคิดว่าเรื่อง “ห้องน้ำ” เป็นเรื่องของ “วัฒนธรรม”
และ “ความเคยชิน”
หรือเขียนให้ชัดๆว่า เรื่อง “อึ” เป็นเรื่องของ “วัฒนธรรม” และ ความ
“เคยๆ”
ผมมองว่า คนจีนเขาเห็นว่า เรื่อง “อึ” เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่อง
สกปรกหรือน่าอาย เขาจึงเปิดเผย ผิดกับคนไทยที่มองว่า เรื่อง “อึ”เป็นเรื่อง
เหม็น ต้องหลบซ่อนเร้นมิให้เห็นกาย
แต่ความ “เคยๆ” ทำให้เราลืมดูตัวเราเองไป
เอาง่ายๆ เมืองไทยเรามีฝักบัวชำระ ทีนี้ลองคิดดูดีๆ ลองนึกดูดีๆ ลองมอง
ในมุมของคนต่างชาติที่เขาไม่สัมผัส “อึ”
อืมมม ทำไมคนไทยว่าห้องน้ำเมืองจีนสกปรก แต่ของเรากลับเอามือ
สะอาดๆไปสัมผัส”อึ”ให้มันสกปรกเล่นซะงั้นแหละ
จริงไหมเอ่ย ?
และไม่ใช่เฉพาะ “อึ” เท่านั้น เรื่องของ “ร่างกาย” ก็รวมอยู่ด้วย คนจีน
และอีกหลายๆชาติเขามองว่า “ร่างกาย”เป็นของธรรมชาติ เวลาจะ อึ เวลา
จะอาบ เขาก็แก้กันโทงๆ ไม่ต้องปิด ไม่ต้องบัง ให้วุ่นวาย
ห้องน้ำแบบกั้นคอกเตี้ยๆนั้น ผมเดินผ่าน บังเอิญมองไปที่เขาทำธุระอยู่
อาตี๋ อากง แกยังยิ้มให้ผมเฉยเลย
ที่เมืองจีนนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาขึ้นมาเร็วมาก เขาเอาจริงเอาจัง
ในทุกๆเรื่อง รนณรงค์ในทุกๆด้าน อย่างที่ผมเกริ่นเป็นหัวข้อบทความนั่น
ก็สำหรับใช้บอกบรรดาคุณผู้ชายที่คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่ยืนยาวนั้น ขอความ
กรุณาขยับใกล้โถฉี่อีกนิด...แล้วอารยธรรมจะมากขึ้น!!!
เซี่ยงไฮ้ที่ผมไปมานั้น ถนนหนทาง ตรอกซอกซอยสะอาดสะอ้าน
มีความทันสมัยในทุกๆด้าน เรียกว่าทัดเทียมอเมริกาและยุโรป
หรือแม้กระทั่งหางโจวเมืองเล็กกว่า ก็ยังพัฒนาไปอย่างมาก สิ่งที่
ผมทึ่งเมื่อเดินทางในหางโจวก็คือ ที่นั่นออกกฎหมายบังคับให้รถมอร์
เตอร์ไซค์ต้องเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม
บ้านเรือนจำนวนมากมีระบบโซล่าร์เซล การเกษตรมีการปลูกพืช
ในโรงเรือน หรือการอนุรักษ์ก็ควบคู่ไปกับการพัฒนาได้เป็นอย่างดี
อย่างเช่น ตำนานนางพญางูขาว เรื่องราวของนางพญางูที่แปลงร่างมารัก
ชอบพอกับมนุษย์จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม มีการเอามาทำเป็นภาพยนต์
จนโด่งดัง ในพื้นที่เขาก็ยังรักษาเศษหินเศษวัตถุที่เป็นเจดีย์ในสมัย
พันปีเอาไว้ แล้วสร้างเจดีย์ใหม่สูงแปด-เก้าชั้นครอบ แต่ละชั้นก็แสดง
ประวัติความเป็นมา พร้อมศิลปะต่างๆมากมาย ได้ทั้งอนุรักษ์และพัฒนา
จีนครับ จีนทำได้ทุกอย่าง
แต่ยังแพ้ผมครับ
ผมฟังน้องหมวยประชาสัมพันธ์เล่าตำนานนาง
พญางูขาวอย่างน่าตื่นเต้นและโศรกเศร้ารันทด สุดท้ายน้องหมวยถามว่า
มีคำถามอะไรไหม ผมเลยถามออกไปว่า
“นางพญางูขาวที่เป็นงูน่ะ เป็นงูอะไร งูเห่า งูจงอาง หรืองูอะไร?
อาหมวยจีนเจอคำถามนี้เข้าไป อ้าปากหวอ ตอบไม่ถูก บอกว่าเกิดมาไม่
เคยเจอคำถามนี้เลย
ยังต้องพัฒนาอีกนะครับ จีน....ฮ่า
แต่ในการพัฒนาของจีนนั้น ก็หนีไม่พ้นผลกระทบที่ตามมาเช่น
กัน เป็นต้นว่าเราจะเห็นคนจีนที่มีอันจะกินเห่อ แฟชั่น รถยนต์ ของฟุ่ม
เฟือยแบรนด์ดังๆจากยุโรป อเมริกา
รวมไปถึงกระแสการเห่อวัฒนธรรม j-pop จากญี่ปุ่น และ
k-pop จากเกาหลี เหมือนบ้านเราเหมือนกัน
แต่เรื่องหลังนี้ จีนเขามีวิธีสกัดจุด หยุดยั้ง และโดยไม่คาดคิด
ประเทศไทยของเราพลอยมีผลได้จากการสกัดจุดนี้ด้วย
จีนเขาเอา หนังไทย ลครไทย เพลงไทย ไปสกัดเกาหลี ไปบี้ญี่
ปุ่นครับ และก็ได้ผลซะด้วยซี ตอนนี้ t-pop มาแรงแซงทางโค้งไป
เรียบร้อย
ละครไทยเรื่องแรกที่ไปดังระเบิดระเบ้อในจีนก็คือ เรื่อง “สง
ครามนางฟ้า” แล้วก็ตามไปกันอีกหลายต่อหลายเรื่อง ดาราเช่น บี้ เดอะ
สตาร์ ป้อง ณวัฒน์ ติ๊กเจษฏาภรณ์ เคน ธีรเดช มาริโอ้ เป็นดารายอด
นิยมของคนจีนไปแล้ว หนังไทยเรื่อง “รักแห่งสยาม” ทำให้วงดนตรี
August band ที่มีบทในหนังเป็นที่ชื่นชอบของหมวยตี๋แฟนคลับ
จนต้องออกเพลงเป็นภาษาจีน
ฮ่า...ฮ่า ถึงเวลา t-pop โกอินเตอร์
และเดี๋ยวนี้เยาวชนไทยรุ่นใหม่ก็ไม่น้อยหน้าเหล่าดารา
พากันพัฒนาศักยภาพกันยกใหญ่ เพื่อนำพาประเทศไทยโก-อินเตอร์
เมื่อเร็วๆนี้เอง น้องหนูอายุสิบสี่ สิบห้า ก็เลยโก-สีลม
ขึ้นไปแก้ผ้าขย่มบนหลังคารถให้.....สาธารณชม....แบบธรรมชาติ
ธรรมชาติ...เต็มๆ
เฮ้อ !!!
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จีน...ขยับเข้าใกล้อีกนิด อารยธรรมจะมากขึ้น
โพสต์ที่ 2
หุ้นที่เมืองจีน ใช้สีไม่เหมือนเมืองไทยนะครับ
หุ้นขึ้น สีแดง
หุ้นลง สีเขียว
หุ้นขึ้น สีแดง
หุ้นลง สีเขียว
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จีน...ขยับเข้าใกล้อีกนิด อารยธรรมจะมากขึ้น
โพสต์ที่ 3
สนุกมากเลยคับพี่สถาปนิก ตามอ่านทุกตอนเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จีน...ขยับเข้าใกล้อีกนิด อารยธรรมจะมากขึ้น
โพสต์ที่ 5
ผมได้จากหมอมากกว่าครับ...เพราะแอบอ่านจากบล็อกที่หมอให้ความรู้reiter เขียน:สนุกมากเลยคับพี่สถาปนิก ตามอ่านทุกตอนเลย
เขียนไปเรื่อยๆนะครับ ห้ามหยุด
ขอถามหน่อยว่า
ทำไมอะวาตาร์เป็นรูป"หนู"ครับ
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จีน...ขยับเข้าใกล้อีกนิด อารยธรรมจะมากขึ้น
โพสต์ที่ 6
เจ้าตัวนี้คือหนูเรมี่จากการ์ตูนของ pixar เรื่อง ratatouille คับสถาปนิกต่างดาว เขียน:ผมได้จากหมอมากกว่าครับ...เพราะแอบอ่านจากบล็อกที่หมอให้ความรู้reiter เขียน:สนุกมากเลยคับพี่สถาปนิก ตามอ่านทุกตอนเลย
เขียนไปเรื่อยๆนะครับ ห้ามหยุด
ขอถามหน่อยว่า
ทำไมอะวาตาร์เป็นรูป"หนู"ครับ
รูปแบบอาจเป็นการ์ตูน แต่เนื้อหานั้นแก่เกินกว่ารูปแบบมาก หนังเล่าถึงเรื่องความหวัง ความใฝ่ฝัน คุณค่าของการมีชีวิต และยังแฝงนัยยะทางการเมืองเรื่อง"ชนชั้น" อยู่มาก
เป็นหนังในใจอันดับต้นๆของผมเลยครับ