มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 1
เห็น facebook เค้ามีอะไรแปลกๆ ลองเอามาเล่นมั่ง
มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน อยากรวยเหมือนบัฟเฟต แต่ไม่ได้ทำเหมือนบัฟเฟต
มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน อยากรวยเหมือนบัฟเฟต แต่ไม่ได้ทำเหมือนบัฟเฟต
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 2
เรื่องแรกเลยก็น่าจะเป็นเรื่องการจัดสรรสินทรัพย์
การลงทุนในหุ้นในทัศนะคนไทยเป็นเรื่องของการพนันและความเสี่ยงสูงสุด เรียกว่าหมดตัวก็ต้องโดดตึกกันตามข่าวในอดีต การสะสมความมั่งคั่งไว้ในหุ้นนั้นน้อยมาก ในขณะเดียวกัน ก็ฝากเงินไว้ในธนาคารเป็นส่วนมาก ทั้งที่ได้ผลตอบแทนต่ำเหลือเกิน การจัดพอร์ตของทั้งสองฝ่ายจะคล้ายๆแบบนี้ครับ
บัฟเฟต
หุ้น (มาก)
เงินสดฝากธนาคาร (ไม่มาก)
คนไทยส่วนมาก
หุ้น+กองทุน (ไม่มาก)
เงินสดฝากธนาคาร (มาก)
การลงทุนในหุ้นในทัศนะคนไทยเป็นเรื่องของการพนันและความเสี่ยงสูงสุด เรียกว่าหมดตัวก็ต้องโดดตึกกันตามข่าวในอดีต การสะสมความมั่งคั่งไว้ในหุ้นนั้นน้อยมาก ในขณะเดียวกัน ก็ฝากเงินไว้ในธนาคารเป็นส่วนมาก ทั้งที่ได้ผลตอบแทนต่ำเหลือเกิน การจัดพอร์ตของทั้งสองฝ่ายจะคล้ายๆแบบนี้ครับ
บัฟเฟต
หุ้น (มาก)
เงินสดฝากธนาคาร (ไม่มาก)
คนไทยส่วนมาก
หุ้น+กองทุน (ไม่มาก)
เงินสดฝากธนาคาร (มาก)
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 3
เห็นด้วยครับ อาจเป็นเพราะคนไทยได้รับความรู้ที่ไม่ค่อยถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องของการใช้สินทรัพย์ และการหาสินทรัพย์ เช่น หุ้น คือการพนัน อสังหาริมทรัพย์ ถ้าไม่รู้จะถูกหลอกได้ การทำธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเจ้ง อาจเนื่องมาจากประเทศไทยอยู่กับระบบ ระเบียบของเจ้าขุนมูลนายมามาก ต่างกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่ส่วนนี้จะน้อยลงไปมาก การที่อยู่ในระบบ ระเบียบมากนี่เองทำให้ความคิดจะอยู่ในกรอบ ไม่ค่อยนอกกรอบเท่าไร
ส่วนทางแก้ผมคิดว่า การศึกษาควรให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่อง การจัดสรรสินทรัพย์ ซึ่งตอนนี้ผมเห็นว่าทางตลาดหลักทรัพย์ก็พยายามอยู่ แต่ก็จำกัดแค่ช่อง money channel แต่คนไทยทั้งประเทศส่วนใหญ่ตอนนี้ยังดู free TV อยู่ อาจไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารทางด้านนี้ ส่วนช่องที่ให้ความรู้ที่พัฒนาขึ้นมาผมก็เห็นว่าทางช่อง 9 ก็มีอยู่เรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังเคยได้ยินว่าโรงเรียนในกรุงเทพฯ บางแห่งก็บรรจุเรื่องพวกนี้เข้าไปในหลักสูตรแล้ว ซึ่งผมคิดว่าถ้าการพัฒนาอะไรก็ตามเช่น การพัฒนาประเทศ ระบบระเบียบของคน ต้องพัฒนาจากโรงเรียน หรือระบบการศึกษาก่อนครับ เช่นเวียดนามที่ให้ความสำคัญด้านการศึกษา แต่ประเทศไทยผมคิดว่า อยากให้รัฐพยายามมากกว่านี้ ตอนนี้เหมือนกับบางประเทศที่โรงแรมหรูตั้งอยู่หน้าสลัม ผมเปรียบเทียบอย่างนี้เพราะว่า บางโรงเรียนในต่างจังหวัดยังมุงจากอยู่เลยครับ
ส่วนทางแก้ผมคิดว่า การศึกษาควรให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่อง การจัดสรรสินทรัพย์ ซึ่งตอนนี้ผมเห็นว่าทางตลาดหลักทรัพย์ก็พยายามอยู่ แต่ก็จำกัดแค่ช่อง money channel แต่คนไทยทั้งประเทศส่วนใหญ่ตอนนี้ยังดู free TV อยู่ อาจไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารทางด้านนี้ ส่วนช่องที่ให้ความรู้ที่พัฒนาขึ้นมาผมก็เห็นว่าทางช่อง 9 ก็มีอยู่เรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังเคยได้ยินว่าโรงเรียนในกรุงเทพฯ บางแห่งก็บรรจุเรื่องพวกนี้เข้าไปในหลักสูตรแล้ว ซึ่งผมคิดว่าถ้าการพัฒนาอะไรก็ตามเช่น การพัฒนาประเทศ ระบบระเบียบของคน ต้องพัฒนาจากโรงเรียน หรือระบบการศึกษาก่อนครับ เช่นเวียดนามที่ให้ความสำคัญด้านการศึกษา แต่ประเทศไทยผมคิดว่า อยากให้รัฐพยายามมากกว่านี้ ตอนนี้เหมือนกับบางประเทศที่โรงแรมหรูตั้งอยู่หน้าสลัม ผมเปรียบเทียบอย่างนี้เพราะว่า บางโรงเรียนในต่างจังหวัดยังมุงจากอยู่เลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 4
ท่านใดช่วยเขียน ช่วยเพิ่มเติมก็ยินดีครับ
เรื่องที่สอง การสะสมทุน
คงเป็นที่ทราบกันดีว่าบัฟเฟตนั้นเรียกได้ว่าขี้เหนียวมากสำหรับตนเอง เมื่อเทียบกับความมั่งคั่งที่มีอยู่
บัฟเฟตบอกว่าไม่มีบ้านหลังไหนจะทำให้เค้ามีความสุขได้เท่าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน บัฟเฟตเป็นคนที่กินง่ายอยู่ง่าย ไม่เคร่งครัดเรื่องสุขภาพ และความทันสมัย ดังนั้นจึงมีต้นทุนในการครองชีพน้อยมาก และส่งผลต่อการสะสมทุนและการลงทุนตั้งแต่เล็กๆจนมาถึงปัจจุบัน
สิ่งที่บัฟเฟตสะสมทุนอีกอย่างคือการอ่าน หนังสืออย่าง Security Analysis หรือ Intelligent Investor ถือว่าหนาและหนักมากสำหรับคนไทย แต่บัฟเฟตนั้น"ผ่าน" ตั้งแต่อายุยังน้อย ถือว่าเป็นต้นทุนที่สำคัญต่อผลงานการลงทุนของท่าน
เรื่องที่สอง การสะสมทุน
คงเป็นที่ทราบกันดีว่าบัฟเฟตนั้นเรียกได้ว่าขี้เหนียวมากสำหรับตนเอง เมื่อเทียบกับความมั่งคั่งที่มีอยู่
บัฟเฟตบอกว่าไม่มีบ้านหลังไหนจะทำให้เค้ามีความสุขได้เท่าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน บัฟเฟตเป็นคนที่กินง่ายอยู่ง่าย ไม่เคร่งครัดเรื่องสุขภาพ และความทันสมัย ดังนั้นจึงมีต้นทุนในการครองชีพน้อยมาก และส่งผลต่อการสะสมทุนและการลงทุนตั้งแต่เล็กๆจนมาถึงปัจจุบัน
สิ่งที่บัฟเฟตสะสมทุนอีกอย่างคือการอ่าน หนังสืออย่าง Security Analysis หรือ Intelligent Investor ถือว่าหนาและหนักมากสำหรับคนไทย แต่บัฟเฟตนั้น"ผ่าน" ตั้งแต่อายุยังน้อย ถือว่าเป็นต้นทุนที่สำคัญต่อผลงานการลงทุนของท่าน
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 5
ต้องสอนการออมตั้งแต่ประถมครับ
หรือบวกลบเลขได้ ก็ควรสอนเรื่องการออมได้แล้ว
ไม่ต้องกลัวว่า ยังไกลตัว หรือกลัวเด็กยังรับไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ปกครอง
และต้องสอดแทรกเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ทุกระดับชั้น ไม่ใช่ จบประถม ก็จบหลักสูตร
พอมามัธยม ก็ไม่มีการสอน ไม่ใส่ใจเรื่องนี้
แต่ดี ที่ตลาดหลักทรัพย์ มีหลักสูตรเงินทองของมีค่า เงินทองต้องใส่ใจ
ที่มาเสริมให้ในแต่ละโรงเรียน ครอบคลุมตั้งแต่ประถม ถึงมหาวิทยาลัย แต่...
ส่วนใหญ่ ก็จะอยู่ในกรุงเทพ
หรือบวกลบเลขได้ ก็ควรสอนเรื่องการออมได้แล้ว
ไม่ต้องกลัวว่า ยังไกลตัว หรือกลัวเด็กยังรับไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ปกครอง
และต้องสอดแทรกเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ทุกระดับชั้น ไม่ใช่ จบประถม ก็จบหลักสูตร
พอมามัธยม ก็ไม่มีการสอน ไม่ใส่ใจเรื่องนี้
แต่ดี ที่ตลาดหลักทรัพย์ มีหลักสูตรเงินทองของมีค่า เงินทองต้องใส่ใจ
ที่มาเสริมให้ในแต่ละโรงเรียน ครอบคลุมตั้งแต่ประถม ถึงมหาวิทยาลัย แต่...
ส่วนใหญ่ ก็จะอยู่ในกรุงเทพ
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 6
ตอนนี้ผมก็อยู่ในคนกว่า 1 ล้านคนนั้นครับ :lovl: :lovl:
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 7
ผมไม่เข้าข่ายครับ
เพราะผมอยากรวยกว่าบัฟเฟต
เพราะผมอยากรวยกว่าบัฟเฟต
เราจะพอเพียง แค่เราเพียงพอ
เราจะมีพอ แม้เราพอมี
เราจะดีพอ แค่เราพอดี
เราจะพอใจ แค่ใจเราพอ
เราจะมีพอ แม้เราพอมี
เราจะดีพอ แค่เราพอดี
เราจะพอใจ แค่ใจเราพอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน......
โพสต์ที่ 10
ตอนผมอยู่ประถม1 ผมได้รับค่าขนมไปโรงเรียนเป็นธนบัตรวันละ10บาท
ซึ่งตอนนั้น น้ำโค้กขวดละ5บาท ขนมมาม่าช้างน้อยห่อละ2บาท
ผมจะเหลือเงิน3บาทกลับบ้านมาคืนผู้ปกครอง
คุณตาของผมก็เอากระปุกออมสินรูปแมว(ทำจากเซรามิก)มาให้ผม แล้วบอกว่า
"เหลือเท่าไรก็หยอดเก็บไว้"
เป็นการออมเเบบเด็กๆที่ถึงแม้จะผิดวิธี แต่ก็เป็นการเริ่มต้นของผม
นอกจากนี้ผมยังเคยได้ค่าจ้างจากการนวดคุณตานี่แหละครับ
ครั้งละห้าบาทสิบบาท ซึ่งผมก็จะถูกสั่งว่าให้หยอดกระปุกเป็นประจำ...
น่าเสียดายที่เวลาผ่านไปไม่นาน เจ้าแมวเซรามิกตัวนั้นก็ถูกฆ่าตายโดยนำเอาไส้พุงไปให้ธนาคารออมสิน
ผมไม่ได้เก็บศพของมันไว้เป็นอนุสรณ์ ว่านี่คือกระปุกออมสินอันแรกของผม เสียดายมากๆครับ
ซึ่งตอนนั้น น้ำโค้กขวดละ5บาท ขนมมาม่าช้างน้อยห่อละ2บาท
ผมจะเหลือเงิน3บาทกลับบ้านมาคืนผู้ปกครอง
คุณตาของผมก็เอากระปุกออมสินรูปแมว(ทำจากเซรามิก)มาให้ผม แล้วบอกว่า
"เหลือเท่าไรก็หยอดเก็บไว้"
เป็นการออมเเบบเด็กๆที่ถึงแม้จะผิดวิธี แต่ก็เป็นการเริ่มต้นของผม
นอกจากนี้ผมยังเคยได้ค่าจ้างจากการนวดคุณตานี่แหละครับ
ครั้งละห้าบาทสิบบาท ซึ่งผมก็จะถูกสั่งว่าให้หยอดกระปุกเป็นประจำ...
น่าเสียดายที่เวลาผ่านไปไม่นาน เจ้าแมวเซรามิกตัวนั้นก็ถูกฆ่าตายโดยนำเอาไส้พุงไปให้ธนาคารออมสิน
ผมไม่ได้เก็บศพของมันไว้เป็นอนุสรณ์ ว่านี่คือกระปุกออมสินอันแรกของผม เสียดายมากๆครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.