เลยขอแจ้งให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและมิตรรักนักฟังรายการของอาจารย์ทราบ
อาจารย์ประทุมพรหรืออีกนามหนึ่งว่า "ดวงใจ"
ได้กลับคืนสู่อ้อมแขนของพระเจ้าไปแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 นี้เอง
สื่อมวลชนแจ้งข่าวคราวกันในวันที่ 21 คือเมื่อวานนี้
สวดมนต์ตามพิธีคริสตศาสนา 3 วันก่อนจะมอบร่างให้โรงพยาบาลไปประกอบการศึกษา
กูรูเองเลยเขียนเรื่องราวของเธอไว้ในเวปหนึ่ง เพื่อขอกราบลาอาจารย์ดังนี้
รับทราบข่าวเศร้าการลาจากของอาจารย์ประทุมพร วัชรเสถียร
เมื่อเช้านี้ 21 ธันวาคม ด้วยความสลดใจนัก
ดูเถอะ ในวัย 67 ปี ยังเห็นภาพอาจารย์พูดจา คล่องแคล่ว
กระฉับกระเฉง วิเคราะห์ข่าวต่างประเทศอย่างสนุกสนาน
บางครั้งก็พาคนฟังไปเที่ยวไหนต่อไหนราวกับมัคคุเทศก์มืออาชีพ
อาจารย์ประทุมพร วัชรเสถียร ใช้ชีวิตถึงบั้นปลาย
ด้วยหลายบทบาท หน้าที่อันทรงค่า
ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการตำแหน่งรองศาสตราจารย์
ในฐานะอาจารย์สอนภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
นักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศและพิธีกรรายการสนทนาประเด็นสำคัญๆ
เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีของเมืองนอกเมืองนา
ดีเจ รายการวิทยุ
นักเขียนนวนิยาย สารคดีท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่างสนุกสนาน
ทำให้พงศาวดารที่ยืดยาว น่าเบื่อหน่ายกลายเป็นเรื่องสนุกครบอรรถรส
อีกทั้งเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ก็ได้เป็นนักการเมืองแต่งตั้ง
ในบทบาทสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2549
กูรูรู้จักอาจารย์ประทุมพร
เมื่อมาเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะ
และรู้จักผ่านงานวรรณกรรมอีกหลายเรื่องในนามปากกา"ดวงใจ"
"แม่เขียนถึงหนูพุก"
งานเขียนยุคแรกในรูปแบบของจดหมายที่เขียนถึงลูกชายคนเดียว
ขณะอาจารย์กำลังศึกษาอยู่เมืองนอก
และลูกชายยังเด็กตัวกะเปี๊ยก
"จากดวงใจ"
นวนิยายยาวเรื่องแรกที่ว่าด้วยสังคมปัญญาชนในแคมปัสที่เพนสเตท
อันเป็นมหาวิทยาลัยที่อาจารย์ใช้ชีวิตช่วงศึกษาต่อปริญญาโท
ตัวละครจากประเทศต่างๆได้มาใช้ชีวิตช่วงหนึ่งร่วมกัน
เพื่อถกเถียง โต้แย้งในประเด็นปัญหาความสัมพนธ์ระหว่างประเทศ
แล้วบางคู่ก็สานสัมพันธ์กันต่อจริงๆหลังเรียนจบ
ยกเว้น"ปทิ่น" นางเอกของเรื่องที่ต้องกลับไทยด้วยมีพันธะหัวใจอยู่ก่อนแล้ว
"บ่วงกรรม"
นวนิยายเรื่องต่อมาว่าด้วยเรื่องรักต้องห้าม
ตัวละครที่เดินทางติดบ่วงในเรื่อง ก็ไม่ใกล้ไม่ไกล
อยู่ในแวดวงมหาวิทยาลัย คณะรัฐศาสตร์ที่เธอสอนอยู่นั่นเอง
งานนี้ทำเอาตัวตนของผู้ที่ถูกนำมาสะท้อนเป็นพระเอก ผู้ช่วยพระเอก
นางเอก นางรองทั้งหลาย ร้อนๆหนาวๆไปหลายคน
"รัฐมนตรีหญิง"
เรื่องราวล้ำยุคของผู้หญิงในแวดวงการเมือง
ที่ได้รับเกียรติขึ้นมาเป็นถึงรัฐมนตรี(ผู้ช่วย)หญิง
ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ฉีกหน้าประวัติศาสตร์การเมืองขณะนั้น
เพราะไม่เคยปรากฏว่าจะมีสส.หญิงคนใดก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้เลย
"บ้านรมณีย์"
การเริ่มต้นยุคแรก "Guest House"ในฝัน
ละแวกถนนประวัติศาสตร์เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา
ก่อนที่ Guest House ของจริงผุดเต็มตรอกข้าวสาร
ไม่กี่ปีให้หลัง
และอีกหลายๆเรื่องในกาลต่อมา
รวมทั้งเรื่อง"คุณย่า.ดอทคอม"
สังคมบรรดาคุณย่าคุณยายที่ไม่ยอมตกยุคไฮเทค
หันมาสนุกสนานกับการใช้คอมพิวเตอร์กับลูกๆหลานๆ
นอกเหนือจากนิยายเรื่องยาว งานเขียนวิชาการแล้ว
งานเขียนสารคดีก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ "ดวงใจ"ถนัดและทำได้สนุกสนาน
สารคดีแทบทุกเรื่องของเธอ
มักพาให้เราเดินทางไปในสถานที่ที่โปรดปราน
ซึ่งไม่พ้นบรรดาประเทศในแถบยุโรปโดยเฉพาะอังกฤษ
ซึ่งอาจารย์บอกว่าไปมาเกือบยี่สิบครั้งแล้วในชีวิต
ไม่เคยเบื่อเลย และหวังว่าจะไปอีก
เพราะความประทับใจในประเทศอังกฤษนี้เอง
นอกเหนือจากสารคดีท่องเที่ยวบันทึกประสบการณ์
การเดินเท้าของอาจารย์แล้ว
ยังได้เป็นแรงบันดาลใจให้อาจารย์เขียนประวัติศาสตร์เล่มยาว
เรียงร่ายเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศเกาะสุดโปรด
"เบื้องหน้าเบื้องหลังบังลังก์อังกฤษ"
คือผลงานความเรียงเชิงประวัติศาสตร์ในแบบฉบับของ"ดวงใจ"เอง
จากการค้นคว้า สืบสาวราวเรื่อง เทียบเคียง
ผนวกจินตนาการเล็กๆน้อยๆ
ทำให้พงศาวดารเยิ่นเย้อของราชวงศ์อังกฤษนับพันปี
กลายเป็นเรื่องผจญภัย ชวนตื่นเต้น มีมนต์เสน่ห์ลึกล้ำ
จนพาเรากลับไปสู่ยุคสมัยนั้นๆอย่างแนบเนียน
ตัวละครโดยเฉพาะบรรดากษัตริย์ทั้งหลายที่จำชื่อก็แสนยาก
เพราะซ้ำกันไปหมด เทือกเถาเหล่ากอของตระกูลที่โยงพันไปราชวงศ์โน้นนี้
ถูกอาจารย์เอามาจัดวางใหม่ จับย่อประวัติและวีรกรรมสำคัญๆ
จนเห็นตัวตนของกษัตรย์/กษัตริยาองค์นั้นกระโดดออกมาเด่นชัด
พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ซ่อนงำไว้จากประวัติศาสตร์เชิงวิชาการ
อ่านงานเขียนเล่มนี้ของอาจารย์จบ
เป็นการทบทวนประวัติราชวงศ์อังกฤษได้อย่างจำติดจนตาย
ระยะหลังอาจารย์ไม่ค่อยได้เขียนงานอะไร
คงเป็นช่วงที่ต้องรับรักษาตัว
แต่กูรูก็ได้อ่านบทความในคอลัมน์หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
ว่าด้วยเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม
อาจารย์เล่าเรื่องในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่มีนิวาศสถานแถวสีลม
และเผชิญกับการปิดล้อมของเหล่านักเล่นกีฬาสีอีกฝ่าย
อาจารย์และลูกชายได้เข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจ
ด้วยอยากรู้สาเหตุรากเหง้าของการประท้วงนี้จากปากชาวรากหญ้าจริงๆ
น่าเสียดาย อาจารย์คงได้เก็บข้อมูลเหล่านี้สำหรับงานเขียนเรื่องใหม่อีก
ถ้าไม่ใช่เพราะเช้ากลางเดือนธันวาคม ลมเย็นพัดมาวูบใหญ่
ดวงใจ จำจาก จำจร จารไกลแล้ว
ขอกราบคารวะอาจารย์มากับสายลมหนาวนี้ด้วย