นอนไม่หลับ เป็นโรคจิตไหม

[END]

ผมมีอาการนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วโดยเฉพาะช่วงใกล้สอบ

ผมพยายามนอนอย่างไงก็นอนไม่หลับ เหมือนกับสมองมันบอกเราว่าต้องอ่านหนังสือตลอดเวลานะ  

ปกติตารางที่ผมวางไว้ผมจะนอนประมาณ เที่ยงคืน - ตี2 แต่หลังๆผมนอนไม่หลับทั้งคืนต้องลุกเอาหนังสือมาอ่าน

หรือไม่ก็เข้า tvi แก้เซ็ง ผมพยายามจะอ่านหนังสือเรียนเพื่อให้ง่วงนอนแต่ก็ไม่เป็นผล จะง่วงอีกทีก็ประมาณ 8โมงเช้า

ซึ่งมันมีผลกระทบกับกิจวัตรประจำวันผมมาก เพราะผมต้องไปเรียนพิเศษตอนบ่าย มีวันนึงผมตื่นตอน 4 โมงเย็นเลยไม่ได้เรียนพิเศษเลย

แม่ผมให้กินยานอนหลับมา 2 คืนแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลไม่รู้สึกง่วงเลย ผมควรจะไปพบจิตแพทย์ดีไหมครับ

เพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้วถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงส่งผลกระทบต่อการเรียนของผมแน่ พยายามจะนอน ตาผมปิดแต่สมองไม่ปิด

ผมนั่งทำสมาธิก็แล้ว พยายามกินเยอะๆให้ง่วงก็แล้ว ยานอนหลับก็แล้วแต่ไม่ได้ผล

รบกวนด้วยนะครับ พอจะมีสูตรไหนที่ทำให้นอนหลับได้บ้าง ขอบคุณครับ

[NoiSNC]

ถ้าหากนั่งสมาธิแล้วไม่หลับ แนะนำให้ใช้ท่านอนครับ

๑. นอนราบ (นอนหงาย)
๒. คิด และทำใจว่า ความตายเป็นของแน่นอน เรากำลังจะตายลงตอนนี้แล้ว อะไรที่เราทำค้างไว้ หรือยังไม่ได้ทำ ตอนนี้เราช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ทำมันไม่ได้แล้ว เท่ากับว่าหมดภาระของเราแล้ว ต้องปล่อยให้คนอื่นช่วยทำมันต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างมีทางดำเนินไปของมัน เราไม่ต้องห่วงกังวล ขาดเราไปโลกก็ไม่แตกสลาย เราพร้อมที่จะตายในตอนนี้แล้ว
๓. เอาสติไปกำหนดรู้ร่างกายทีละส่วนให้ผ่อนคลาย ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ค่อย ๆ ดูไปว่าตรงไหนมันยังไม่ผ่อนคลายจริง ๆ บ้าง แล้วก็ผ่อนคลายมันซะ
๔. หายใจเข้าช้า ๆ ลึก ๆ หายใจออกช้า ๆ ยาว ๆ ลองกำหนดตามลมหายใจจากศีรษะ ผ่านสะดือ ลงไปถึงปลายเท้า และจากปลายเท้าออกศีรษะ ห้าครั้ง แล้วหายใจเข้าออกตามปกติ กำหนดสติไว้ที่อาการพอง-ยุบของท้องโดยไม่ต้องกำหนดคำภาวนาอะไร
๕. หากมีสมาธิมากไป อาจทำให้นอนไม่หลับ ให้ผ่อนการกำหนดลง เอาสติมาจับที่ลูกกระเดือกโดยไม่ต้องกำหนดคำภาวนาใดใด

โชคดีครับ :)

ป.ล. ลืมบอกไปว่า หากมีอาการง่วงระหว่างวัน ห้ามงีบหลับเด็ดขาด ออกกำลังกายบ้างให้เหงื่อออก ดื่มนมวัวอุ่น ๆ ก่อนนอนเล็กน้อย และขอให้หลับฝันดีครับ ;)

[MO101]

นั่งสมาธิช่วยได้ แต่คงไม่ทันกลาล
ลองไปหาหมอดีกว่า คงได้ยามากินสัก 1 กำมือ

[END]

ขอบคุณครับ

คืนนี้ผมคงต้องสู้กับไอ้เวย์ดู
ดูซิว่าผมจะสู้มันได้ไหม ผมจะหลับ
ให้ได้ครับคืนนี้ วันนี้ไม่ได้ไปเรียน
พิเศษเลย จะสอบตรงแล้วด้วย
เพราะตื่นอีกทีก็ บ่าย 4 ตกใจเลยครับ

วันนี้ต้องนอนให้หลับให้ได้
ถ้าไม่ได้จริงๆ สัปดาห์หน้าคง
ต้องหยุดเรียนพิเศษแล้วไปสวน
โมกละครับ

[NoiSNC]

อย่าไปตั้งใจมากนะครับ มันจะเครียด ทำให้นอนไม่หลับ ค่อย ๆ ผ่อน ค่อย ๆ คลายไปเรื่อย ๆ หายใจช้า ๆ ลึก ๆ ยาว ๆ ให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าไปมาก ๆ เพราะถึงแม้จะไม่หลับแต่เมื่อร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ก็สามารถช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย และสมองปลอดโปร่งได้ครับ ;)

[กล้วยทอด]

ยึดติดแค่พอประมาณค่ะ
อย่าแบกหินก้อนยักษ์ที่เป็นความหวังของคนอื่นมากเกินไปนักด้วยค่ะ
หลุดกรอบพิธีบ้าง ปล่อยร่างกายตามใจตัวเองบ้าง มองโลกแง่บวกร่วมด้วย
และชีวิตต้องมีความหวังเสมอค่ะ  :D

เป็นคนปกตินอนหลับง่ายมากเลยค่ะ เพียงแต่ไม่ชอบนอนเร็ว
ยกเว้นเหนื่อย หรือป่วย  

เอา email มาแปะไว้สิคะ จะส่งข้อมูลสมุนไพร กับอาหาร
ที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย หลับง่าย ลดไมเกรน ให้ค่ะ

[Eucalyptus]

ขอเปลี่ยน login หน่อยดีกว่า
เพิ่งทำงานเสร็จค่ะ เลยลองมาหาข้อมูลโรคๆ หนึ่ง
โรคอารมณ์แปรปรวน หรือ ชื่อโรคไบโพล่าร์

วันนี้แฟนของเพื่อนโทรศัพท์ คุยกันบอกว่า
รับสภาพกับความขึ้นๆ ลงๆ ของอีกฝ่ายไม่ไหว
แต่น้องเค้าฝากให้บอกเพื่อนๆ ว่า ให้ช่วยงดติดต่อกับที่บ้านไปสักระยะ
เพราะถ้าไปคุยไม่ถูกหู หลังจากวางสายไปแล้ว
จะมี effect หงุดหงิดกับคนรอบข้าง
เค้าขอให้ที่บ้านอยู่กับโลกส่วนตัวสักระยะ
แต่คิดว่าภาวะนี้คงไม่อยากรับฟังคำแนะนำอะไร
ปิดหู ปิดตา จมูก ปาก น่าจะเครียดอะไรสักอย่าง
อืม...
------------------------------------

อาการที่สังเกตุได้ระยะหลังคือ ซึมเศร้ามาก มองโลกไม่โสภา
ที่สำคัญใช้เงินเก่งมากค่ะ ตัดสินใจซื้อของง่ายมาก
ซื้อของแพงแบบต่อเนื่องด้วย อารมณ์ไม่ดีก็เยอะ  
บทจะอารมณ์ดี ก็ดีผิดปกติ อืมม... ลองเช็คอาการขั้นต้นแล้ว
ดิชั้นเป็นห่วงจัง  ขออนุญาตรวมข้อมูลไว้ที่นี่นะคะ
จะได้ไม่หาลำบากภายหลัง

--------------------------------------
http://www.thailabonline.com/mental-mooddisorder.htm
การดำเนินโรค  
โรคอารมณ์แปรปรวนโดยเฉพาะชนิด bipolar เป็นโรคที่มีอาการเกิดขึ้นเป็นระยะๆ มีระยะที่โรคสงบ
หรือหายเป็นปกติ และมีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีก โรคนี้สามารถหายเป็นปกติและทำงานได้เป็นส่วนใหญ่
บางรายป่วยเป็นครั้งเดียวแล้วหายขาด เช่น Mania หรือโรคซึมเศร้า มีบางรายในกลุ่ม bipolar หรือ
โรคซึมเศร้าเท่านั้นที่เป็นเรื้อรัง

อันตรายที่ร้ายแรงที่สุดในโรคอารมณ์แปรปรวนคือ การฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในระยะซึมเศร้า
การป้องกันการฆ่าตัวตายสามารถทำได้ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาทันท่วงที เพราะผู้ป่วยมักมีความคิด
และเตรียมการมาก่อน มิใช่ทำไปด้วยอามณ์ชั่ววูบ

ส่วนอันตรายของผู้ป่วย Mania คือความรุนแรง ซึ่งอาจเกิดเพราะอารมณ์ของผู้ป่วย ที่ครื้นเครงมากจน
คลุ้มคลั่ง และทำอะไรโดยไม่สามารถควบคุม หรือฉุนเฉียวและก้าวร้าวมาก จนทำอะไรรุนแรงโดยขาดสติ

โรคอารมณ์แปรปรวนเป็นโรคที่รักษาได้ แต่ถ้าผู้ป่วยเกิดมีตำแหน่งใหญ่โต มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง
หรือเป็นนักวิชาการที่ชี้นำคนในสังคม เห็นจะเกิดความปั่นป่วนไปทั้งประเทศแน่

----------------------------------
เคสคุณคนนี้มีหลายหัวข้อที่สังเกตุแล้วเหมือน

ขอแชร์ประสบการณ์ค่ะ แม่เราก็เป็นโรคอารมณ์แปรปรวนค่ะ ชื่อโรคไบโพล่าร์ อาการของโรค ก็คือ
วันดีคืนดี ก็ซืมเศร้า อยากตาย สิ้นหวังในชีวิต อยากนอนตลอดเวลา ฯลฯ พักใหญ่ ๆ
แล้วจู่ ๆวันดีคืนดี ก็ active ไม่หลับไม่นอน ใช้เงินเปลืองสุด ๆ ซื้อทุกอย่าง ไม่สนใจว่า ฐานะทางบ้านจะเป็นหนี้อย่างไร
ก้าวร้าว ไม่กลัวใคร คิดว่า ตัวเองเจ๋งสุด ๆ ซึ่งอาการที่เป็นทั้งหมด ไม่ใช่ตัวแม่เลย ถ้าใครไม่มีความรู้ในโรคนี้
ก็คงคิดว่า คงโดนผีเข้าแหง ๆ โชคดีที่เราเรียนมาทาง จิตวิทยาพอดี และก็เพิ่งผ่านบทเรียน ว่าด้วยโรคอารมณ์แปรปรวน
ก็เลยพาแม่ไปพบจิตแพทย์ รักษาด้วยยานานเหมือนกัน เพราะโรคนี้ เกิดจาก ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง
ที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ จำเป็นจะต้องใช้ยาปรับสมดุลสารเคมีดังกล่าว พร้อมกับที่ ผู้ใกล้ชิด ครอบครัว
จะต้องพยายามช่วย ๆ กันค่ะ พยายาม สร้างสิ่งแวดล้อมให้ผู้ป่วย รู้สึกปลอดภัย ไม่เครียด หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
ที่จะทำให้ผู้ป่วยเครียด เพราะ ยาอย่างเดียวก็อาจไม่ได้ผลนัก ถ้าหาก ผู้ป่วยยังต้องอยู่กับสิ่งที่ทำให้เค้าเครียด
อย่างแม่ของเราตอนนี้ อาการปกติแล้วค่ะ กลับมาเป็นคนเดิมทุกประการ เพียงแต่ยังคงกินยาต่อเนื่องไป
ซึ่งอาจจะต้องกินไปตลอดชีวิต เพราะอายุเยอะแล้ว บวกกับ เป็นซ้ำหลายรอบ แต่ถ้า ผู้ป่วยของคุณ
เพิ่งเริ่มเป็นครั้งแรก แนะนำว่า ให้รีบไปพบจิตแพทย์เพื่อรับยามารักษา และคนรอบข้างก็ต้องพยายาม ช่วย ๆ กันค่ะ
ถ้าเป็นครั้งแรก ๆ และไม่เป็นซ้ำ หมอก็จะให้กินยาต่อเนื่องไม่นาน ก็จะพิจารณาหยุดยาได้ค่ะ แต่
อย่าหยุดกินยาเองนะค่ะ เพราะจะทำให้ผู้ป่วย ดื้อยาได้ การเป็นโรคทางจิตเวช อาจะทำให้ผู้ดูแล เบื่อหน่ายได้ค่ะ
เพราะ ผู้ป่วยจะพูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่อยู่ในโลกความเป็นจริง ไม่เข้าใจเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น สนใจแต่ความต้องการของตัวเอง
ถ้าหากคุณเป็นผู้ดูแลก็อย่าไปโกรธเค้าเลยค่ะ ให้พยายามปลอบใจตัวเองไปว่า นั่นไม่ใช่ตัวเค้าจริง ๆ
เค้ากำลังป่วยอยู่ ถ้าเราเข้าใจ เราก็จะไม่ท้อ ที่จะดูแลให้ผู้ป่วยกลับมาหายเป็นปกติ ย้ำนะค่ะ
ต้องกินยาให้ครบตามหมอสั่ง (อันนี้ สำคัญมาก ๆ เพราะ การรักษาโรคประเภทนี้ ใช้ยาเป็นหลัก ถ้าไม่กิน
ก็จะไม่มีทางหายขาดได้เลย และถ้ากิน ๆ เลิก ๆ ก็ทำให้ดื้อยา จะทำให้รักษายากมาก ๆ เข้าไปอีก
หนำซ้ำอาการของโรคจะเพิ่มมากขึ้น อย่างเคสแม่ของเรา อาการที่เลวร้ายที่สุด คือ หลงผิดอย่างรุนแรง
และหวาดระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย จนเกือบทำร้ายลูก ) หลีกเลี่ยง สิ่งที่กระตุ้นความเครียด
และเข้าใจผู้ป่วยเยอะ ๆ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอให้ผู้ป่วยของคุณหายไว ๆ นะค่ะ

------------------------

อันนี้ก็เตือนใจดีค่ะ
http://www.srbr.in.th/Health/HealthNews6.htm

------------------------

จริงๆ แล้วสติ กับปล่อยวางค่อนข้างสำคัญมากนะคะ อืมม...

[Eucalyptus]

ในยุคแห่งการสื่อสาร เชื่อว่าน้อยคนที่จะไม่เคยได้ยินคำว่าไบโพลาร์ และคงมีหลายคนที่รู้จักโรคนี้ดีพอควร

ไบโพลาร์ มาจากคำว่า "bi" แปลว่าสอง และ "polar" ที่แปลว่า ขั้ว รวมแล้วแปลว่าโรคสองขั้ว สิ่งที่ถูกแบ่งเป็นสองขั้วคือ อารมณ์ คำที่ใช้เป็นทางการในภาษาไทยคือ "โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว" ฟังแล้วให้ความรู้สึกว่าคนที่เป็นนี้มีอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้าย

น.พ.โกวิทย์ นพพร จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไบโพลาร์ โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า คำว่า อารมณ์ เราหมายถึงพื้นอารมณ์ซึ่งมีอยู่สองแบบคือ สุขารมณ์ และทุกขารมณ์ สุขารมณ์ ได้แก่ อารมณ์สดชื่น รู้สึกสุข มองโลกในแง่ดี ซึ่งตรงข้ามกับทุกขารมณ์ โดยปกติพื้นอารมณ์เราไม่ได้ราบเรียบเหมือนแผ่นกระจก แต่มันกระเพื่อมขึ้นลงเหมือนระลอกคลื่นบนผิวน้ำ เราจึงรู้สึกสุขบ้างทุกข์บ้างตามภาวะแวดล้อม แต่การขึ้นลงของอารมณ์มีพิกัดที่เรายอมรับว่าเป็นพิกัดปกติอยู่

คนที่เป็นโรค คือคนที่อารมณ์ขึ้นลงเกินพิกัดปกติมาก และนานเกินกว่าจะอธิบายด้วยเหตุจากสภาวะที่มากระทบ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าอาการที่สำคัญของโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วคือ มีความรู้สึกสุขมาก หรือทุกข์มากเกินไป นานเกินไป เช่น นานเป็นสัปดาห์ๆ หรือเป็นเดือนๆ โดยไม่มีเหตุผลจนมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของคนๆ นั้น หรือบุคคลรอบข้าง



อารมณ์สุขถึงขั้นที่เราเรียกว่า "คึก" หรือทุกข์ขั้นที่เรียกว่า "เศร้า" นั้น อาจเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนละช่วงเวลากัน คนที่เป็นโรคจะมี อาการคึก อาการเศร้า และช่วงเวลาที่มีอารมณ์ปกติสลับกันไปมา ถ้ามีช่วงปกติสั้นก็แปลว่าคน คนนั้นมีการกำเริบของโรคถี่กว่าคนที่มีอารมณ์ปกติอยู่ได้นาน

น.พ.โกวิทย์กล่าวต่อไปว่า ในระยะคึก ผู้ป่วยมีอารมณ์ดีมาก พูดเก่ง คุยเก่ง แต่มักคุยไม่จบเรื่องเพราะความคิดวิ่งเร็วเกินไป มักคิดว่าตนเองมีความสามารถเหนือคนอื่น อารมณ์ที่ดีก็กลายเป็นฉุนเฉียว ก้าวร้าว เพราะถูกขัดใจ ผู้ป่วยหลายคนใช้เงินเก่ง ช็อปกระหน่ำ เล่นการพนัน หรือแม้แต่การหาเรื่องชกต่อย บ้าพลัง ซึ่งอาจจะถูกทำร้ายร่างกาย พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแต่นำความวิบัติมาสู่ชีวิตได้

ในทางกลับกัน ระยะเศร้าจะมีลักษณะต่างๆ ตรงข้ามกับระยะคึก ผู้ป่วยรู้สึกไม่สดชื่น เศร้า ท้อแท้ ความคิดไม่แล่น ไม่อยากทำอะไร บางครั้งฉุนเฉียวหงุดหงิด เพราะมีแต่ความรู้สึกลบกับชีวิต หนักๆ เข้าก็คิดอยากตาย จนถึงขั้นฆ่าตัวตาย แต่สิ่งที่เหมือนกันระหว่างคึกกับเศร้า คือ นอนไม่หลับอย่างมาก มักเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์ หรือติดยาเสพติดในเวลาต่อมา

โดยพื้นฐานแล้วอารมณ์ของคนปกติทั่วไปจะมีอาการเศร้าเนื่องจากได้รับผลกระทบทางจิตใจ หรือการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก โดยปกติแล้วจะมีระยะเวลา 1-6 เดือน ถ้าหากเกินกว่านั้นถือว่าเข้าข่ายผิดปกติ บุคคลรอบข้างหรือใกล้ชิดควรหมั่นสังเกตอาการของคนในครอบครัว

สำหรับสาเหตุของโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วไม่มีอาการชัดๆ แบบนี้ทุกคน และยังไม่มีการทดสอบห้องปฏิบัติการมาช่วย บางครั้งจึงทำให้วินิจฉัยยากมาก

สาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากความผิดปกติทางสมองเนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยสารเคมีที่เป็นตัวควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของอารมณ์มีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจถ่ายทอดได้จากพันธุกรรม ส่วนเรื่องปัจจัยภายนอกด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ นั้นจะเป็นตัวเร่งทำให้ภาวะของโรคเกิดและเห็นได้เร็วขึ้น เช่น ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง เพราะทำให้เกิดความเครียด ทำให้อาการของโรคปรากฏออกมา ปัจจุบันรักษาให้หายขาดได้ เพราะต้นตอของโรครู้ได้ชัดว่าเกิดจากปัจจัยทางชีววิทยาทางด้านสารเคมีในสมอง เมื่อทราบว่าสารเคมีตัวไหนขาดหรือมีมากเกินไปแพทย์จะแก้ไขตรงจุดโดยให้ยาไปควบคุมสารเคมีตัวนั้นกับผู้ป่วย รวมถึงการอาศัยวิธีการรักษาด้วยการใช้กิจกรรมบำบัด

ทั้งนี้ควรหมั่นสำรวจตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่ามีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือไม่ ถ้าเกิดไม่แน่ใจว่าบุคคลในครอบครัว ญาติ เพื่อนร่วมงาน คนใกล้ชิด หรือตัวเราเองมีความผิดปกติที่จะเข้าข่ายเป็นโรคไบโพลาร์หรือไม่ เข้ารับฟังการบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ "อารมณ์สองขั้ว รู้ก่อนแก้ไขได้" โดย น.พ.โกวิทย์ นพพร จิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคไบโพลาร์ ในวันที่ 21 ก.พ. เวลา 08.30-12.00 น. ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลมนารมย์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามโทร. 0-2725-9595


ที่มา นสพ ข่าวสด

จริงๆ ก็ไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไรนะคะ สำหรับคนที่มีอาการแบบนี้
รู้เท่าทันตัวเอง ก็พอแล้ว
คนรัก คนรอบข้างเค้าเข้าใจธรรมชาติ ก็ไม่เป็นไรมัง

[มะลิ]

เผื่อใครที่ตอนนี้นอนไม่ค่อยหลับมาอ่าน
ขอแนะนำให้ทาน melatonin ซัก 3 มิลลิกรัมก่อนเข้านอนซักชั่วโมงนึงนะคะ
ใครที่ไม่ทราบว่าเมลาโทนินคืออะไร มีผลดีผลเสียกับร่างกายยังไง
ลองเซิร์ซหาในกูเกิลดูนะคะ ดีกว่าทานยานอนหลับเป็นไหนๆ

[chatchai]

ปัญหาของผู้ที่ป่วยทางจิต ที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย เพราะอาการป่วยไม่เด่นชัดว่าป่วยทางกาย สารเคมีในสมองมีส่วนสำคัญ

กลัวที่จะต้องกินยาไปนานๆ หรือตลอดชีวิต กลัวที่จะมีผลข้างเคียง

แล้วจะรักษาอย่างไร

[กล้วยทอด]

ปัญหาของผู้ที่ป่วยทางจิต ที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย เพราะอาการป่วยไม่เด่นชัดว่าป่วยทางกาย สารเคมีในสมองมีส่วนสำคัญ

กลัวที่จะต้องกินยาไปนานๆ หรือตลอดชีวิต กลัวที่จะมีผลข้างเคียง

แล้วจะรักษาอย่างไร

เคยเจอเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งออกตัวว่า ถ้าพรุ่งนี้คุณหมอไม่บอกว่า
พรุ่งนี้คุณจะตาย เค้าจะไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเดิมที่เคยชินเด็ดขาด
แปลกใจเหมือนกันนะคะ ทำไมต้องไปยืนตรงปากเหวขนาดนั้น
วิงเวียนนิดหน่อย ก็ล้มแล้วนะนั่น

ถ้าเจอแรงใจที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงได้ อย่าปล่อยให้มันผ่านไปค่ะ
ต้องรีบคว้าไว้ก่อน ไม่ใช่เพื่อคนอื่น แต่เพื่อตัวเราเอง

[mhootoon]

แนะนำการออกกำลังกายครับ แบบแอโรบิค สัก 45-60 ให้เหงื่อชุ่ม ครับ
มีเพื่อนผมคนหนึ่งก็มีอาการแบบนี้ครับ สุดท้ายแก้ได้โดยวิธีออกกำลังการครับ

[VIT.ZERO]

ยึดติดแค่พอประมาณค่ะ
อย่าแบกหินก้อนยักษ์ที่เป็นความหวังของคนอื่นมากเกินไปนักด้วยค่ะ
หลุดกรอบพิธีบ้าง ปล่อยร่างกายตามใจตัวเองบ้าง มองโลกแง่บวกร่วมด้วย
และชีวิตต้องมีความหวังเสมอค่ะ  :D

เป็นคนปกตินอนหลับง่ายมากเลยค่ะ เพียงแต่ไม่ชอบนอนเร็ว
ยกเว้นเหนื่อย หรือป่วย  

เอา email มาแปะไว้สิคะ จะส่งข้อมูลสมุนไพร กับอาหาร
ที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย หลับง่าย ลดไมเกรน ให้ค่ะ

เอา email มาแปะไว้สิคะ จะส่งข้อมูลสมุนไพร กับอาหาร
ที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย หลับง่าย ลดไมเกรน ให้ค่ะ=น่าสนใจ สิ่งที่กินบ่อเกิดแห่งโรคและรักษาโรค

[ogctrd]

ฝีกหฐโยคะสิคะ เป็นการฝึกท่าทางโดยให้สัมพันธ์กับการหายใจ จะทำให้เกิดความสมดุลย์ระหว่างกายและใจ ทำให้หลับลึกและยาวมากขึ้นค่ะ ถามเพิ่มเติมที่ 0813497197

[Gobkung]

นอนไม่หลับไม่ใช่โรคจิตครับ เป็นเรื่องของความวิตกกังวลมากกว่า (Initial insomnia - Anxiety)

สร้างสุขอนามัยที่ดีในการนอนเดี๋ยวก็ดีเองครับ ถ้าไม่ไหวจริงๆการใช้ยานอนหลับเป็นบางครั้งก็ช่วยได้ แต่แก้ที่สาเหตุคือลดความกังวลดีกว่าครับ