เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 1
คับคั่งไปด้วย
- กัมปานีวิสิท HTECH
- ประชาสัมพันธ์ Thai investor day
- เลือกใส่เสื้ออินเทรนด์อย่างไรให้รวย
- คำเตือนไปยัง vi สาวๆ (20+) "เมื่อสาวถูกเพื่อนชายล้วงในโรงหนัง"
- จิบเบียร์เชียร์เด็ก เอ๊ย เชียร์หุ้น
- คอลัมน์ คุยกับนักโพสต์มือทอง "พี่ BeSmile"
หมายเหตุ เหตุขัดข้องเล็กน้อยเกี่ยวกับ เด็กแว๊นท์กับกราฟเทคนิคอล แก้ไขเรียบร้อยเมื่อไหร่ จะรีบนำมาลงทันทีงับ....
- กัมปานีวิสิท HTECH
- ประชาสัมพันธ์ Thai investor day
- เลือกใส่เสื้ออินเทรนด์อย่างไรให้รวย
- คำเตือนไปยัง vi สาวๆ (20+) "เมื่อสาวถูกเพื่อนชายล้วงในโรงหนัง"
- จิบเบียร์เชียร์เด็ก เอ๊ย เชียร์หุ้น
- คอลัมน์ คุยกับนักโพสต์มือทอง "พี่ BeSmile"
หมายเหตุ เหตุขัดข้องเล็กน้อยเกี่ยวกับ เด็กแว๊นท์กับกราฟเทคนิคอล แก้ไขเรียบร้อยเมื่อไหร่ จะรีบนำมาลงทันทีงับ....
ให้หุ้น = แช่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 2
ฉบับนี้ late ไปนิดนะงับ
แก้ไขล่าสุดโดย เด็กเลี้ยงแกะ เมื่อ อังคาร ส.ค. 10, 2010 1:29 am, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
ให้หุ้น = แช่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 3
-
แก้ไขล่าสุดโดย เด็กเลี้ยงแกะ เมื่อ อังคาร ส.ค. 10, 2010 1:36 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ให้หุ้น = แช่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 4
ประชาสัมพันธ์ Thai investor day
กำหนดการ จัดรายการ “มันนี่ทอล์ค”
ณ ห้องประชุมธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2553
1300-1445 น. “ฟันธงหุ้นเด่น”
ภรณี ทองเย็น บล.เอเซียพลัส
วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย บล.ทรินีตี้
พิชัย เลิศสุพงษ์กิจ บล.ธนชาต
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1445-1500 น. พัก
1500-1730 น. “จิตวิทยาพฤตกรรมลงทุนและกลยุทธ์หุ้น”
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ
ทพ.สม สุจีรา นักเขียนนักจิตวิทยา
พรชัย รัตนนนทชัยสุข นักลงทุนหุ้นคุณค่า
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
สำรองที่นั่งฟรี 02-359-1196
หรือทางอินเตอร์เนต http://www.thaiinvestors.com/index.php? ... =539136334
กำหนดการ จัดรายการ “มันนี่ทอล์ค”
ณ ห้องประชุมธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2553
1300-1445 น. “ฟันธงหุ้นเด่น”
ภรณี ทองเย็น บล.เอเซียพลัส
วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย บล.ทรินีตี้
พิชัย เลิศสุพงษ์กิจ บล.ธนชาต
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1445-1500 น. พัก
1500-1730 น. “จิตวิทยาพฤตกรรมลงทุนและกลยุทธ์หุ้น”
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ
ทพ.สม สุจีรา นักเขียนนักจิตวิทยา
พรชัย รัตนนนทชัยสุข นักลงทุนหุ้นคุณค่า
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
สำรองที่นั่งฟรี 02-359-1196
หรือทางอินเตอร์เนต http://www.thaiinvestors.com/index.php? ... =539136334
แก้ไขล่าสุดโดย เด็กเลี้ยงแกะ เมื่อ อังคาร ส.ค. 10, 2010 1:30 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ให้หุ้น = แช่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 5
คุยกับนักโพสต์มือทอง พี่ BeSmile
1. พี่ลงทุนนานหรือยังครับ
ผมเริ่มลงทุนครั้งแรกก่อนด้วยประสบการณืที่ดีครับ ซื้อของขึ้นห้าง Hi (price) So (sad) :doi: ตอน 1700 จุด ช่วงปี 40, เข้าไป 2เดือนมูลค่า port หายไป 50% :vm: เลยเลิก กลับมาทำงานเก็บเงินดีกว่า พอดีผมทำ software ทางด้านการเงินพวก private fund mutual fund เลยติดตามศึกษาข้อมูลการลงทุนมาเรื่อยๆ กลับมาลงทุนอีกครั้งตอนปี 48 ตอนนั้นผมศึกษาการลงทุนหลายแบบ ทั้ง Technical DSM และVI กะว่าความรู้แน่นแล้ว แต่ … :vm: :vm: จนถึงปี 51 ที่เกิด subprime ก็ได้พักร้อนอีกครั้ง
สิ่งที่ได้มาคือ ประสบการณ์ กับ ความรู้จากการลงทุนที่ได้ศึกษามา โชคดีที่อ่านหนังสือเยอะ หนังสือลงทุนอะไรที่อยู่บนหิ้ง (ตำราดูดาว ตำราดูเทียน หนังสือดร.นิเวศน์ทุกเล่มเลยครับ รวมไปถึง FHM Maxim ..) ซื้อหมดครับ ช่วงนั้นมีสั่งหนังสือ Buffet กับ Lynch จาก Amazon มาอ่านด้วยนะครับ การลงทุนในความรู้สำคัญมากครับ
พอดีปลายปี 51 มีเพือนใน THAIVI (ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร ใน ThaiVI นะครับ) โทรมาหา ให้ดู Money Channel เพราะท่านพี่ออก TV พร้อมกับให้หุ้น มาศึกษา อยู่ตัวหนึ่ง คือ น้อง สเต็ปปี้ ดันมาให้ช่วงเจ๊งหุ้นพอดี :lol:
ผมก็เลยตามเข้ามาดูใน ThaiVI อ่านไป 3 เดือน ถึงได้รู้ว่าเป็น คุณหมอเหินฟ้า หลังจากที่ได้ศึกษาแล้ว ผมจึงค่อยได้ซื้อตามได้กำไรมานิดหน่อย แต่สิ่งที่ได้คือแนวคิดการวิเคราะห์หุ้นแบบ VI มากขึ้น :8) (ถ้าเป็นตอนนี้ บอกให้ซื้ออะไร ก็ซื้อแล้วคร้าบ แต่ก็ขอศึกษาด้วยครับ)
ระหว่างนั้นก็ได้ลงทุนและศึกษาการลงทุนแบบ VI มากขึ้น และก็ปรับปรุงวิธีการลงทุนของตัวเองไปด้วย มาโชคดีมากได้อ่านกระทู้ Don Jo Corleone (คุณโจ) นี่แหละครับ ที่ทำให้กระบวนการคิดและแนวการลงทุนเริ่มลงตัว ลงทุนแล้วโอกาศกำไรมากกว่าขาดทุน ถึงขาดทุนก็ไม่มาก บวกกับ ปี 52 เป็นปีทอง ถึงได้รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
2. สไตล์การลงทุน
ชอบหาหุ้นตามแนวโน้มธุรกิจ โดยที่มีราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าจริง และต้องมีความเชื่อในสิ่งที่ทำครับบนความรู้ที่ต้องตรวจสอบได้ครับ ตอนนี้ port ยังเล็กอยู่การลงทุนเลยต้อง Focus ครับ ประมาณ 2-3 ตัวที่ได้ศึกษาอย่างดีแล้ว อย่าง JAS ช่วงต้น ๆ ที่ศึกษานี่ผมอ่าน 56-1 เป็นสิบรอบเลยครับ งบการเงินก็ดูครับแต่ยังไม่แม่นเท่าไหร่ กำลังศึกษาเพิ่มเติม รวมไปถึงหาข้อมูลอื่นประกอบด้วยครับ
3. พี่พบหุ้น jas ได้อย่างไร เมื่อไหร่ครับ
กลางปี 52 ผมได้กำไรจากการ Arbitage Warrant หุ้นตัวนี้ มานิดหน่อยจาก โครงการซื้อหุ้นคืนก็เลยคิดว่าน่าจะดีที่บริษัทซื้อหุ้นคืนและเริ่มศึกษาจริง ๆ ตอน 52 Q2 โดยแนวโน้มธุรกิจมีกำไร โดยมีคนสมัครสมาชิก Broadband เพิ่มแบบก้าวกระโดด โดยมีอัตราการเติบโตแซง TOT และ TRUE
พอ 52 Q3 ผมประเมินว่าต่ำกว่ามูลค่ามากผมก็เริ่มซื้อ มาจุกตอน 52 Q4 กำไรเป็นไปตามที่คำนวณแต่โดยด้อยค่า TT&T (คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต) แต่ยังดีมีวิชา ระฆังทองคุ้มครองกาย (มี MOS เยอะ) +และคำนวณ Forward PE ดูแล้วว่ายังดี เลยสวนซื้อเพิ่ม ซื้อไป ซื้อมา ทั้ง Port มี JAS ตัวเดียว แต่ก็คอยดู Upside ตัวอื่นด้วยครับ ย้ายไปกิ๊กตัวอื่นเป็นระยะ ๆ ลดความกดดันครับ โชคดีตอนปลายเดือน 6 มีสัญญาณบางอย่าง ผมก็กลับมาซื้อ JAS ทั้ง Port คืน
4. เหตุผลดีๆ ที่ หุ้น jas น่าสนใจ สัก 4-5 ข้อครับ
และ ความเสี่ยงที่น่าระวัง
(เอาเป็นหลักการคิดและวิเคราะห์ครับ เรื่องเป้าหมาย สองบาทไม่เอานะครับ
เพราะว่ามีอยู่เหมือนกัน อิอิ) บ
JAS เป็น Holding Company ที่ทำธุรกิจทางด้าน สื่อสาร โทรคมนาคม ผมคงกล่างถึงบริษัทที่เป็น Hi Light ที่น่าจะมีแนวโน้มที่ดีดังนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
1. 3BB ทำธุรกิจทางด้าน Broadband ลูกค้าตอนนี้ 650,000 สิ้นปีนี้ 750,000 โตเร็วมากครับจากปี 51 ที่มีแค่ 368,000 จำนวนผู้ใช้ Broadband ของไทยในปัจจุบันโดยมีผู้ใช้ประมาณ 2.5 ล้าน คาดว่าจะโตปีล่ะประมาณ 0.6-0.8 ล้านคน โดย เดา ๆ ว่าขนาดของประเทศไทยน่าจะมีผู้ใช้ Broadband ประมาณ 4-5 ล้าน
3BB market share 25-30% ดังนั้นการโตของรายได้และกำไร เป็นเลข 2 หลักแน่นอนในอีก 2-3 ปีข้างหน้าและรายได้หลักของ JAS มาจาก 3BB ประมาณ 40% และอัตราส่วนนี้ก็จะโตขึ้นไปเรื่อย ๆ
2. JASTEL ทำ gateway ของการใช้ Internet ไปต่างประเทศ Broadband WiMax 3G 4G 5G ใครไปต่างประเทศต้องผ่านท่อ ของ JASTEL คู่แข่งคือ TOT กับ CAT, TRUE ก็ขอ License แล้วแต่ไม่รู้มีเงินมาทำหรือเปล่า ตลาดปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 4-5 พันล้านบาท JASTEL เป้าปีนี้ 1.2 พันล้านบาท รายได้โตเกือบ 4 เท่าจากที่เริ่มทำปี 51 เป็นดาวดวงใหม่ของ JAS ครับ
3. JTS ไม้ตายที่จะทำให้ JAS กลายเป็นบริษัทที่มีรายได้หมื่นล้านบาท เป็น Break Event สำคัญครับ จะทำให้ทุกคนเริ่มหันมามอง JAS มากขึ้น ผมเดาว่า ผู้บริหารจะทำได้ในปีนี้
JTS เป็นบริษัทรับงาน turn key เทียบมวยได้กับ AIT ทั้ง connection และการเมือง เแต่ทำไป ทำมา แพ้ AIT ทุกปีในเรื่องผลประกอบการ, AIT NPM ประมาณ 8-10% JTS ทำเลขได้อันดับดีกว่าคือ 2-3% (ตัวเลข 2 ปีหลัง) ถ้ายอมเพิ่มอันดับเลข NPM ลงมาหน่อยสัก 6-7% กำไรจะขึ้นอีกเยอะเลยครับ JAS ถือหุ้น 75%
4. Mr P. ผู้บริหารเก่งมากครับ วันแรก ๆ ทีเริ่มบริหารบอกว่าจะเปลี่ยนจากรายได้จากงานสัมปทาน
มาทำธุรกิจ Broadband ผมก็ว่าเก่งมากแล้วนะครับที่มี Vision เพราะงานสัมปทานนั้นก็รอวันตายแต่ตอน Implement แล้วมีปัญหากับ 3T นั้นสุดยอดกว่า ทั้งการเข้าซื้อหุ้น 3T เพื่อการบริหารแผนฟื้นฟู สู้กับเจ้าหนี้ แม้จะแพ้ในการเข้าบริหารแผนฟื้นฟู 3T แต่ระหว่างนั้นก็สร้าง 3BB มารับไม้ต่อได้ นับว่าเป็นผู้บริหารที่เก่งมากคนหนึ่งครับ
ส่วนความเสี่ยงคือ1. แผนฟื้นฟู 3T ไม่รู้จะออกมาแบบไหน หนี้จะได้คืนมั้ยหนอ 22 สิงหา รู้ซะที รอมานาน
2. กองทุน ฝรั่งที่มาซื้อ JAS ตอนปี 52 จะทำยังไงกับหุ้นที่ถือ ขอให้ท่านถือกินปันผลไปนะครับ ความเสี่ยงตัวนี้จะลดลงถ้า JAS ทำกำไรได้ดี
3. เทคโนโลยี่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เช่นมือถือ มาแทนโทรศัทย์บ้าน ทำให้ 3T เจ็งใน 2-3 ปี
WiMax หรือ 3G จะมาแย่ง Broadband ไปแค่ไหนก็ต้องคอยตามดูครับ
5. ประสบการณ์ผิดพลาดในการลงทุน
ตอนที่ผมโดนหนักที่สุดคือเล่นเก็งกำไร ถือ Warrant ทั้ง Port ครับเพราะเชือในความสามารถในการ Trade ของตัวเอง เวลามันขึ้นลงแต่ละที เสียววูบเลยครับ
เป็นสมการ ความโง่(ไม่รู้) * โลภ = หายนะครับ :lol:
สรุปได้ว่าอย่าโลภเกินความรู้ที่มีครับ ไม่งั้นอาจวูบไปเลย ยังโชคดีที่ไม่ใช้ Margin ไม่งั้นคงไม่มีโอกาศกลับมาแล้วครับ
6. งานอดิเรกครับ
อ่านหนังสือ ดู DVD ได้ทุกประเภทครับ และชอบว่ายน้ำครับ
7. ฝากคำชี้แนะไปยังเพื่อนๆครับ
ความไม่รู้คือความเสี่ยงครับ ดังนั้นถ้าเรารู้ในสิ่งที่ทำมากเท่าไหร่ความเสี่ยงก็จะยิ่งลดลงครับ
และที่สำคัญคือ อย่าประมาท โอกาศและวิกฤต มักจะมาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวเสมอ ดังนั้น การมีสติจะช่วยให้เรา คว้าวิกฤต และ หลบโอกาศ ได้ บ้างล่ะครับ
ยังไงก็แล้วแต่
1. พี่ลงทุนนานหรือยังครับ
ผมเริ่มลงทุนครั้งแรกก่อนด้วยประสบการณืที่ดีครับ ซื้อของขึ้นห้าง Hi (price) So (sad) :doi: ตอน 1700 จุด ช่วงปี 40, เข้าไป 2เดือนมูลค่า port หายไป 50% :vm: เลยเลิก กลับมาทำงานเก็บเงินดีกว่า พอดีผมทำ software ทางด้านการเงินพวก private fund mutual fund เลยติดตามศึกษาข้อมูลการลงทุนมาเรื่อยๆ กลับมาลงทุนอีกครั้งตอนปี 48 ตอนนั้นผมศึกษาการลงทุนหลายแบบ ทั้ง Technical DSM และVI กะว่าความรู้แน่นแล้ว แต่ … :vm: :vm: จนถึงปี 51 ที่เกิด subprime ก็ได้พักร้อนอีกครั้ง
สิ่งที่ได้มาคือ ประสบการณ์ กับ ความรู้จากการลงทุนที่ได้ศึกษามา โชคดีที่อ่านหนังสือเยอะ หนังสือลงทุนอะไรที่อยู่บนหิ้ง (ตำราดูดาว ตำราดูเทียน หนังสือดร.นิเวศน์ทุกเล่มเลยครับ รวมไปถึง FHM Maxim ..) ซื้อหมดครับ ช่วงนั้นมีสั่งหนังสือ Buffet กับ Lynch จาก Amazon มาอ่านด้วยนะครับ การลงทุนในความรู้สำคัญมากครับ
พอดีปลายปี 51 มีเพือนใน THAIVI (ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร ใน ThaiVI นะครับ) โทรมาหา ให้ดู Money Channel เพราะท่านพี่ออก TV พร้อมกับให้หุ้น มาศึกษา อยู่ตัวหนึ่ง คือ น้อง สเต็ปปี้ ดันมาให้ช่วงเจ๊งหุ้นพอดี :lol:
ผมก็เลยตามเข้ามาดูใน ThaiVI อ่านไป 3 เดือน ถึงได้รู้ว่าเป็น คุณหมอเหินฟ้า หลังจากที่ได้ศึกษาแล้ว ผมจึงค่อยได้ซื้อตามได้กำไรมานิดหน่อย แต่สิ่งที่ได้คือแนวคิดการวิเคราะห์หุ้นแบบ VI มากขึ้น :8) (ถ้าเป็นตอนนี้ บอกให้ซื้ออะไร ก็ซื้อแล้วคร้าบ แต่ก็ขอศึกษาด้วยครับ)
ระหว่างนั้นก็ได้ลงทุนและศึกษาการลงทุนแบบ VI มากขึ้น และก็ปรับปรุงวิธีการลงทุนของตัวเองไปด้วย มาโชคดีมากได้อ่านกระทู้ Don Jo Corleone (คุณโจ) นี่แหละครับ ที่ทำให้กระบวนการคิดและแนวการลงทุนเริ่มลงตัว ลงทุนแล้วโอกาศกำไรมากกว่าขาดทุน ถึงขาดทุนก็ไม่มาก บวกกับ ปี 52 เป็นปีทอง ถึงได้รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
2. สไตล์การลงทุน
ชอบหาหุ้นตามแนวโน้มธุรกิจ โดยที่มีราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าจริง และต้องมีความเชื่อในสิ่งที่ทำครับบนความรู้ที่ต้องตรวจสอบได้ครับ ตอนนี้ port ยังเล็กอยู่การลงทุนเลยต้อง Focus ครับ ประมาณ 2-3 ตัวที่ได้ศึกษาอย่างดีแล้ว อย่าง JAS ช่วงต้น ๆ ที่ศึกษานี่ผมอ่าน 56-1 เป็นสิบรอบเลยครับ งบการเงินก็ดูครับแต่ยังไม่แม่นเท่าไหร่ กำลังศึกษาเพิ่มเติม รวมไปถึงหาข้อมูลอื่นประกอบด้วยครับ
3. พี่พบหุ้น jas ได้อย่างไร เมื่อไหร่ครับ
กลางปี 52 ผมได้กำไรจากการ Arbitage Warrant หุ้นตัวนี้ มานิดหน่อยจาก โครงการซื้อหุ้นคืนก็เลยคิดว่าน่าจะดีที่บริษัทซื้อหุ้นคืนและเริ่มศึกษาจริง ๆ ตอน 52 Q2 โดยแนวโน้มธุรกิจมีกำไร โดยมีคนสมัครสมาชิก Broadband เพิ่มแบบก้าวกระโดด โดยมีอัตราการเติบโตแซง TOT และ TRUE
พอ 52 Q3 ผมประเมินว่าต่ำกว่ามูลค่ามากผมก็เริ่มซื้อ มาจุกตอน 52 Q4 กำไรเป็นไปตามที่คำนวณแต่โดยด้อยค่า TT&T (คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต) แต่ยังดีมีวิชา ระฆังทองคุ้มครองกาย (มี MOS เยอะ) +และคำนวณ Forward PE ดูแล้วว่ายังดี เลยสวนซื้อเพิ่ม ซื้อไป ซื้อมา ทั้ง Port มี JAS ตัวเดียว แต่ก็คอยดู Upside ตัวอื่นด้วยครับ ย้ายไปกิ๊กตัวอื่นเป็นระยะ ๆ ลดความกดดันครับ โชคดีตอนปลายเดือน 6 มีสัญญาณบางอย่าง ผมก็กลับมาซื้อ JAS ทั้ง Port คืน
4. เหตุผลดีๆ ที่ หุ้น jas น่าสนใจ สัก 4-5 ข้อครับ
และ ความเสี่ยงที่น่าระวัง
(เอาเป็นหลักการคิดและวิเคราะห์ครับ เรื่องเป้าหมาย สองบาทไม่เอานะครับ
เพราะว่ามีอยู่เหมือนกัน อิอิ) บ
JAS เป็น Holding Company ที่ทำธุรกิจทางด้าน สื่อสาร โทรคมนาคม ผมคงกล่างถึงบริษัทที่เป็น Hi Light ที่น่าจะมีแนวโน้มที่ดีดังนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
1. 3BB ทำธุรกิจทางด้าน Broadband ลูกค้าตอนนี้ 650,000 สิ้นปีนี้ 750,000 โตเร็วมากครับจากปี 51 ที่มีแค่ 368,000 จำนวนผู้ใช้ Broadband ของไทยในปัจจุบันโดยมีผู้ใช้ประมาณ 2.5 ล้าน คาดว่าจะโตปีล่ะประมาณ 0.6-0.8 ล้านคน โดย เดา ๆ ว่าขนาดของประเทศไทยน่าจะมีผู้ใช้ Broadband ประมาณ 4-5 ล้าน
3BB market share 25-30% ดังนั้นการโตของรายได้และกำไร เป็นเลข 2 หลักแน่นอนในอีก 2-3 ปีข้างหน้าและรายได้หลักของ JAS มาจาก 3BB ประมาณ 40% และอัตราส่วนนี้ก็จะโตขึ้นไปเรื่อย ๆ
2. JASTEL ทำ gateway ของการใช้ Internet ไปต่างประเทศ Broadband WiMax 3G 4G 5G ใครไปต่างประเทศต้องผ่านท่อ ของ JASTEL คู่แข่งคือ TOT กับ CAT, TRUE ก็ขอ License แล้วแต่ไม่รู้มีเงินมาทำหรือเปล่า ตลาดปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 4-5 พันล้านบาท JASTEL เป้าปีนี้ 1.2 พันล้านบาท รายได้โตเกือบ 4 เท่าจากที่เริ่มทำปี 51 เป็นดาวดวงใหม่ของ JAS ครับ
3. JTS ไม้ตายที่จะทำให้ JAS กลายเป็นบริษัทที่มีรายได้หมื่นล้านบาท เป็น Break Event สำคัญครับ จะทำให้ทุกคนเริ่มหันมามอง JAS มากขึ้น ผมเดาว่า ผู้บริหารจะทำได้ในปีนี้
JTS เป็นบริษัทรับงาน turn key เทียบมวยได้กับ AIT ทั้ง connection และการเมือง เแต่ทำไป ทำมา แพ้ AIT ทุกปีในเรื่องผลประกอบการ, AIT NPM ประมาณ 8-10% JTS ทำเลขได้อันดับดีกว่าคือ 2-3% (ตัวเลข 2 ปีหลัง) ถ้ายอมเพิ่มอันดับเลข NPM ลงมาหน่อยสัก 6-7% กำไรจะขึ้นอีกเยอะเลยครับ JAS ถือหุ้น 75%
4. Mr P. ผู้บริหารเก่งมากครับ วันแรก ๆ ทีเริ่มบริหารบอกว่าจะเปลี่ยนจากรายได้จากงานสัมปทาน
มาทำธุรกิจ Broadband ผมก็ว่าเก่งมากแล้วนะครับที่มี Vision เพราะงานสัมปทานนั้นก็รอวันตายแต่ตอน Implement แล้วมีปัญหากับ 3T นั้นสุดยอดกว่า ทั้งการเข้าซื้อหุ้น 3T เพื่อการบริหารแผนฟื้นฟู สู้กับเจ้าหนี้ แม้จะแพ้ในการเข้าบริหารแผนฟื้นฟู 3T แต่ระหว่างนั้นก็สร้าง 3BB มารับไม้ต่อได้ นับว่าเป็นผู้บริหารที่เก่งมากคนหนึ่งครับ
ส่วนความเสี่ยงคือ1. แผนฟื้นฟู 3T ไม่รู้จะออกมาแบบไหน หนี้จะได้คืนมั้ยหนอ 22 สิงหา รู้ซะที รอมานาน
2. กองทุน ฝรั่งที่มาซื้อ JAS ตอนปี 52 จะทำยังไงกับหุ้นที่ถือ ขอให้ท่านถือกินปันผลไปนะครับ ความเสี่ยงตัวนี้จะลดลงถ้า JAS ทำกำไรได้ดี
3. เทคโนโลยี่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เช่นมือถือ มาแทนโทรศัทย์บ้าน ทำให้ 3T เจ็งใน 2-3 ปี
WiMax หรือ 3G จะมาแย่ง Broadband ไปแค่ไหนก็ต้องคอยตามดูครับ
5. ประสบการณ์ผิดพลาดในการลงทุน
ตอนที่ผมโดนหนักที่สุดคือเล่นเก็งกำไร ถือ Warrant ทั้ง Port ครับเพราะเชือในความสามารถในการ Trade ของตัวเอง เวลามันขึ้นลงแต่ละที เสียววูบเลยครับ
เป็นสมการ ความโง่(ไม่รู้) * โลภ = หายนะครับ :lol:
สรุปได้ว่าอย่าโลภเกินความรู้ที่มีครับ ไม่งั้นอาจวูบไปเลย ยังโชคดีที่ไม่ใช้ Margin ไม่งั้นคงไม่มีโอกาศกลับมาแล้วครับ
6. งานอดิเรกครับ
อ่านหนังสือ ดู DVD ได้ทุกประเภทครับ และชอบว่ายน้ำครับ
7. ฝากคำชี้แนะไปยังเพื่อนๆครับ
ความไม่รู้คือความเสี่ยงครับ ดังนั้นถ้าเรารู้ในสิ่งที่ทำมากเท่าไหร่ความเสี่ยงก็จะยิ่งลดลงครับ
และที่สำคัญคือ อย่าประมาท โอกาศและวิกฤต มักจะมาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวเสมอ ดังนั้น การมีสติจะช่วยให้เรา คว้าวิกฤต และ หลบโอกาศ ได้ บ้างล่ะครับ
ยังไงก็แล้วแต่
แก้ไขล่าสุดโดย เด็กเลี้ยงแกะ เมื่อ อังคาร ส.ค. 10, 2010 3:36 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
ให้หุ้น = แช่ง
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 6
ปูเสื่อรออ่านครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 163
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 7
:cheers: :cheers:
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 8
นึกว่าจะไม่มาแล้ว รอเหงือกแห้ง :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 983
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 9
:lol: :lol: :lol:
เริ่มนับหนึ่ง...
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 11
งานinvestor day ช่วงบ่าย มันปิดรับการลงทะเบียนแล้วนิ
http://www.thaiinvestors.com/index.php? ... 67&Ntype=1
ส่วนเรื่องเลือกเบอร์เสื้อ T_T ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ไงก็รออ่านของคุณ Besmile นะครับ :B
http://www.thaiinvestors.com/index.php? ... 67&Ntype=1
ส่วนเรื่องเลือกเบอร์เสื้อ T_T ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ไงก็รออ่านของคุณ Besmile นะครับ :B
You only live once, but if you do it right, once is enough.
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 19
จินตนาการ อย่าง เมามัน....แต่เฮ้ย..ไม่ใช่อย่างที่คิด :lol:
รอมาฟังคุณยิ้มครับ
รอมาฟังคุณยิ้มครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 60
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 20
รอฟังด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 28
3 บัวลอยไข่หวาน
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว (๗ส.ค.๒๕๕๓) ภาค ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
โพสต์ที่ 29
4 พายแอปเปิ้ล
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.