..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 1

โพสต์


http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 6.html#100


http://www.thaicycling.com/board/viewto ... f=7&t=6138


FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง

Tuesday, May 18, 2010 1:29 AM

สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง


                                                                         
กระเป๋าของฉัน ชีวิตของฉัน                                                      
                                                                         



      นักธุรกิจสาวรายหนึ่งเล่าเรื่องที่เกิดกับเธอไว้เป็นอุทาหรณ์
      เรื่องร้ายเกิดขึ้นเมื่อ...

      เธอกับลูกสาวมาร่วมงานแต่งงานของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง
      งานเลิกราวสามทุ่มเศษ เธอพาลูก สาวกลับมายังรถที่จอดไว้ข้างถนนใกล้โรงแรม
      ขณะที่เดินอยู่ เธอก็ถูกวัยรุ่นชายสองคน สวมหมวกบังหน้า ไม่สวมหมวกกันน็อค
      ขี่รถจักรยานยนต์ปรี่เข้ามา แล้วกระชากกระเป๋ากุชชี่ที่เธอถืออยู่

ด้วยความเสียดายกระเป๋าแบรนด์เนม
เธอลงทุนยื้อยึดกับคนร้ายเพื่อปกป้องกระเป๋า สุดหวง
แรงกระชากทำให้นัก ธุรกิจสาวถึงกับเสียหลักล้มลง
ร่างกายครูดไปตามพื้นถนนจนถลอกปอกเปิก
แต่เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยกระเป๋า

จนเมื่อลูกสาวร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ
เธอตัดสินใจปล่อยมือ ปล่อยคนร้ายให้ได้กระเป๋าไปอย่างลอยนวล
เพราะนึกถึงความปลอดภัยของสิ่งที่เธอรัก มากกว่า นั่นคือลูกสาว
แม้ว่า จะเสียดายทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป แต่เงินสด โทรศัพท์มือถือ
แว่นตาแบรนด์เนม และกระเป๋าใบนั้น คงไม่มีความหมาย
ถ้าคนร้าย โมโหและใช้มีดหรือปืนทำร้ายเธอและลูกสาวสุดที่รัก

อย่าพกอะไรที่ต้องเสียใจเมื่อมันถูกฉก
เทกระเป๋าของคุณออกมา
ตรวจสอบว่ามีอะไรที่คุณจะต้องเสียใจไปอีกนาน
ถ้ามันหายไปพร้อมกระเป๋า หยิบมันออกมา
แล้วเก็บไว้ใน ที่ปลอดภัยเสียเดี๋ยวนี้


กระเป๋า ไม่ใช่ตู้นิรภัย
สิ่งที่ควรมีคือ ของไม่มีค่า แต่ จำเป็น ต่อชีวิตประจำวันของคุณ
อย่าใส่ของมีค่า ที่คุณต้องร้องไห้ด้วยความเสียดายไว้ในกระเป๋าเป็นอันขาด
วิธ ดีที่สุดที่จะทำให้คุณร้องไห้น้อยที่สุดเมื่อเสียมันไป
คือการทำให้มัน น่าเสียดาย น้อยที่สุด

      1) อย่าเลือกใช้กระเป๋า กระเป๋าแบรนด์เนม
หากถูกกรีด หรือกระชาก จะสร้างความเจ็บใจ
ให้คุณมากขึ้นและยอมสู้จนได้รับบาดเจ็บเพื่อมัน
เลือกใช้กระเป๋าที่ถ้าจำเป็นจริงๆ
คุณจะสามารถตัดใจทิ้งมันได้เพื่อรักษาชีวิต

      2) ฝึกนิสัยพกเงินสดแค่จำนวนที่จะใช้ในแต่ละวันเท่านั้น
พกบัตรเงินสดหรือบัตรเครดิตให้น้อยใบที่สุด

      3) ถ้ามีบัตรเอทีเอ็มมากกว่าหนึ่งใบ ควรพกไว้แค่ใบเดียว
เป็นใบที่มีเงินในบัญชีเล็กน้อย ส่วนใบอื่นที่มีเงินในบัญชีมากกว่า
ควรเก็บไว้ที่อื่นที่ปลอดภัย เช่น ในบ้าน ในกรณีที่บัตรใบแรกหาย
บัตรสำรองจะ ลดความกังวลไปได้มาก

     4) บัตรสำคัญต่างๆ ในกระเป๋าให้นำมาเรียงกันบนกระดาษ A4
แล้วถ่ายเอกสารเก็บไว้รวมกัน เมื่อกระเป๋าสตางค์หาย
คุณจะรู้ว่า มีเอกสารสำคัญหายไปบ้าง

     5) จดเบอร์สำหรับอายัดบัตรสำคัญต่างๆ
เก็บไว้ที่ที่ทำงาน ที่บ้าน หรือในรถ
หรือเมมโมรี่ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ พร้อมอายัดได้เสมอ

      6) ถ้าคุณขับรถ ควรติดกระเป๋าช้อปปิ้งไว้ในรถหนึ่งใบ
เมื่อจะลงไปซื้อของ หยิบเฉพาะเงินสดที่จะใช้
บัตรเครดิต หนึ่งใบใส่กระเป๋าช้อปปิ้ง แค่นั้นพอ

      7) อย่าใส่กุญแจบ้านหรือรถไว้ในกระเป๋าสะพาย
คล้องกุญแจไว้ที่กระเป๋ากางเกงหรือเข็มขัดเสมอ


เทคนิคเดินถนนอย่างคนฉลาด
วันไหนที่รู้ ตัวว่าต้องสัญจรด้วยการเดิน
วางแผนเส้นทางก่อน เสมอ
เลือกเส้นทางที่โล่ง มีคนเดินมากๆ ไม่มีพุ่มไม้หนาทึบ
ยอมเดินไกลในถนนใหญ่ ดีกว่าเข้าซอยทางลัดที่ย่นระยะทางแต่เปลี่ยวคน
หัดเปลี่ยนเส้นทาง อย่าใช้เส้นทางเดิมทุกวัน
อย่าถือข้าวของพะรุงพะรัง
ถ้าทำได้ให้รวบของถือด้วย หนึ่งมือ ให้มีอีกมือว่างไว้เสมอ

สามอวัยวะในตัวของคุณที่ต้องทำให้ว่างไว้ รับสถานการณ์
คือ หู ตา และมือ
ถ้าอวัยวะใดไม่ว่าง ทำมันให้ว่างในบัดดล

อย่ายืนรอรถเมล์หรือรถไฟฟ้าแบบตามสบาย
ผู้หญิง ที่ยืนพิงเสา เม้าท์มือถือ เพลินเสียงเพลง คิดถึงแฟน
ท้าวแขน ล้วงกระเป๋า เอาแต่เหม่อ คนร้ายจะชอบมาก
ให้ยืนตัวตรงทิ้งน้ำหนักลงทั้งสองขา สังเกตเหตุการณ์รอบตัวเป็นระยะๆ
มั่นใจว่ากระเป๋าปิดเรียบร้อย รูดซิปปิดทุกช่อง
ความหละหลวมไม่ใส่ใจของ ผู้หญิงมักสะดุดตาโจร
ฝึกนิสัยจับกระเป๋าสะพายให้กระชัตัวเสมอ
หันด้านปากกระเป๋าเข้าตัว อย่าเดินแกว่งกระเป๋าตามสบาย

ถ้ามีรถยนต์แล่น ปราดเข้ามาจอดตรงหน้า
ถอยออกมาให้ห่างทันที ถ้าเขาจอดเพื่อถามทาง
อย่าเข้าไปบอกจนชิดประตูรถ จนเขาดึงขึ้นรถไปง่ายๆ
ทิ้งระยะให้ไกล แต่บอกด้วยเสียงดังขึ้นจะดีกว่า

สอดส่ายสายตาหา เซฟเฮ้าส์ ระหว่างทางไว้เสมอ
ที่ซึ่งคุณจะสามารถผลุบเข้า ไปซ่อนได้ถ้าเกิดเหตุร้าย
เช่น ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านปากซอย
เซฟเฮ้าส์เหล่านี้มีประโยชน์ มากในหลายสถานการณ์

เช่น ถ้าคุณสงสัยว่าถูกสะกดรอย แทนที่จะเดินไปเรื่อยๆ
ด้วยความหวาดกลัว คุณสามารถเลี้ยวผลุบเข้าไป ยังเซฟเฮ้าส์เหล่านี้
แล้วแอบสังเกตการณ์ว่า คนที่เดินตามคุณผ่านหน้าร้านไปหรือเปล่า
คุณอาจรีบออกมาแล้ววิ่งสวนกลับไปยังทิศตรงกันข้าม

หมั่นฝึกซ้อมความ คิดไว้ตลอดเวลา
สมมุติว่าถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้น คุณจะแก้ไขอย่างไร
การฝึกซ้อมความคิดจะทำให้ คุณรู้ว่า คุณ ต้องการอะไร
ใน ยามคับขัน และ สามารถตระเตรียมรับมือมันได้อย่างรอบคอบ
อย่าให้มันเลือกคุณเป็นเหยื่อ

การวางตัวสร้าง ระยะห่าง อาจช่วยผลักคนร้ายออกไปจากชีวิตคุณได้
อวัจนภาษา คือการใช้ภาษาร่างกายสื่อสาร
จงใช้มัน ขู่ คนร้ายไว้เสมอ   เริ่มตั้งแต่มันยังไม่ประชิดตัวคุณ

เทคนิคการ ขู่ คนร้ายไม่ให้เลือกคุณเป็นเหยื่อ

     1) คุณรู้สึกว่าผู้ชายคนหนึ่งมองคุณอยู่
แทนที่จะบอกมันว่าคุณเป็นเหยื่อด้วยการหลบตาเมินไปทางอื่น
อย่าทำอย่างนั้น มองตรงไปที่มัน ม่ต้องถึงกับจ้องเขม็งอย่างประสงค์ร้าย
แต่อย่าหลบตา อย่าทำเป็นไม่เห็น มองหน้ามันไว้
จง ขู่ มันด้วยสายตาว่า
ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไร อย่าเข้ามาเชียว

    2) ถ้ามันเดินเข้ามาใกล้ตัวคุณ
อย่ารอให้มัน ถึงตัว ถอยหลังทันทีแล้วปรามมันด้วยคำพูดว่า ขอโทษค่ะ
ผู้ชายที่ดี จะถอยหลังจากคุณและขอโทษ
แต่ผู้ชายสวะอาจยังหน้าด้าน ถ้ามันยังล่วงล้ำเข้ามาถึงตัว
เช่น ทำท่าจะฉวยมือคุณ จง เข้ม ใส่มันด้วยการพูดออกมาดังๆ ว่า
ขอโทษค่ะ คุณจะทำอะไรคะ

    3) ถ้าเจ้าสวะ แบล็คเมล์ คุณกลางสาธารณชน
ด้วยการโพล่งว่า ยายนี่ประสาทหรือเปล่! า
หรือ อะไรกันวะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย โวยวายไปได้
จงอย่าตกหลุ ม พรางของความอายที่มันขุดล่อ
จง เตือน มันด้วยการถอยหลัง ยกมือขึ้นกั้นไว้ แล้วสั่งว่า
หยุด! อย่ามาใกล้ฉัน หรือ ไป ให้พ้น
ประเด็นสำคัญ!   อย่ากลัวที่จะดูเป็น ยายประสาท
ในสายตาของคนเดินถนนที่ผ่านมา

เชื่อเถอะว่า เจ้าสวะจำนวนมาก อาจถึงครึ่งต่อครึ่ง
จะเลือกเลิกล้มแผนชั่วเมื่อ เจอยายประสาทที่ฉลาดกว่ามัน


ร้องบอกโลกด้วยนกหวีด
ผู้ชายที่ ประทุษร้ายผู้หญิงจนต้องรับกรรมในห้องขังคนหนึ่ง
สารภาพว่า เขาจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ถือร่ม นกหวีด
หรืออะไรก็ตามที่สามารถใช้ เป็นอาวุธในการต่อสู้ได้
ดังนั้น ถ้าคุณต้องเดินคนเดียวในที่เปลี่ยว อย่าเดินมือเปล่า
ถืออะไรบางอย่างติดมือไว้ ถ้ามีรม จับไว้ให้มั่น
มีนกหวีด ห้อยคอไว้พร้อมเป่าเสมอ
นกหวีดช่วยชีวิตคนมามากแล้วในหลาย สถานการณ์
เช่น เมื่อหลงทางหรือติดอยู่ในสถานที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ
แม้แต่โรสยังรอดตายจากเรือ ไตตานิคล่ม
เพราะนกหวีดบอกให้คนอื่นรู้ ว่าเธอยังมีชีวิต

ดังนั้น หยิบสร้อยนกหวีดขึ้นมาคล้องคอไว้แทนทุกครั้ง
เมื่อคุณออกจากที่ทำงาน ลงจากรถเมล์ ไปช้อปปิ้ง เดินทาง
หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ
เมื่อเกิดเหตุไม่น่าไว้ใจ เป่านกหวีดไว้ก่อน
เสียง นกหวีดจะทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้ว่าคุณกำลังตกอยู่อันตราย
เสียงนกหวีดจะทำให้ยามหรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจสนใจ
ถ้าต้องวิ่งหนี วิ่งไปพร้อมกับเป่านกหวีดไปด้วย
เพื่อเรียกร้องความ สนใจให้มากที่สุด

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 2

โพสต์

Half Man - Half Price Store

Sunday, May 16, 2010 7:15 AM


ชีวิตต้องสู้  ชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้ ชีวิตที่เห็นค่าของตัวเอง แล้วคุณหล่ะคิดอย่างไรกับชีวิตของคุณ?

Half Man - Half Price Store....ร้านครึ่งคนครึ่งราคา

ใครที่รู้สึกตำต้อย ท้อแท้ สิ้นหวัง If ou feel desperate, open this mail.

ถ้าฉันบอกคุณคุณจะ เชื่อหรือไม่ว่าคุณเป็นคนโชคดี
WOULD YOU BELIEVE ME ,IF I TELL YOU THAT YOU ARE SO LUCKY
         

"Half Man - Half Price Store"

ร้านครึ่งคนครึ่งราคา

The Story of Peng Shuilin  

เรื่องราวของ เป็ง ชุ่ยหลิน


In life we keep complaining about what is or why we don't have.
ตลอดชีวิตคนเรามักจะพร่ำบ่น "อะไรนี่?" หรือ "ทำไมเราไม่ได้?"

Half the time we seem dissatisfied, though full-bodied and free to choose. Fat people say,"I want to be slim." Skinny people say,"I want to be fatter."
ครึ่งชีวิตเรามักพบความไม่พอใจ ถึงแม้ว่าเราจะมีร่างกายที่สมบูรณ์และอิสสระ ในการเลือก  คนอ้วน "ฉันอยากผอม" คนผอม "ฉันอยาอ้วนกว่านี้"

เป็ง ชุ่ยหลิน สูงแค่ 78 ซม. เขาเกิดที่จังหวัดหูหนาน ประเทศจีน


In 1995, in Shenzhen, a freight truck sliced his body in half.

ปี 1995 ที่ เซินเจิ้น  รถบรรทุกได้หั่นร่างของเขาไปครึ่งหนึ่ง


His lower body and legs were beyond repair.

ร่างกายส่วนล่างและท่อนขาทั้งสองเกินกว่าจะซ่อมแซมได้

Surgeons sewed up his torso.

ศัลยแพทย์เย็บลำตัวที่เหลือของเขาเข้าด้วยกัน

Peng Shuilin, 37, spent nearly two years in hospital in Shenzhen, southern China,

เป็ง ชุ่ยหลิน อายุ 37 ใช้เวลาเกือบสองปี นอนในโรงพยาบาลที่เซินเจิ้น ประเทศจีน

undergoing a series of operations to re-route nearly every major organ or system inside his body.

ผ่านการผ่าตัดใหญ่หลายรอบ เพื่อทำการจัดอวัยวะที่สำคัญ และระบบภายในของร่างกาย

Peng kept exercising his arms, building up strength, washing his face and brushing his teeth.

เป็ง พยายามออกกำลังกายแขนทั้งสอง เพื่อสร้างพลัง ล้างหน้าแปรงฟัน

He survived against all  odds.

เขาผ่านพ้นความท้าทายทุกอย่าง

Now Peng Shulin has astounded doctors by learning to walk again after a decade.

ตอนนี้ เป็ง ได้สร้างความตลึงแก่บรรดาแพทย์โดยเขาเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นเดินหลังจาก 10 ปี

Considering Peng's plight, doctors at the China Rehabilitation Research Centre in Beijing

ความเห็นใจในโชคชตาของ เป็ง  คณะแพทย์แห่งศูนย์วิจัยการฟื้นฟูสมรถภาพ แห่งกรุงปักกิ่ง


devised an ingenious way to allow him to walk on his own,

ได้ประดิษฐ์วิธีการอันมหัศจรรย์เพื่อให้เขาได้เดินได้ด้วยตนเอง

creating a sophisticated egg cup-like casing to hold his body, with two bionic legs attached.

ได้สร้างแม่พิมพ์ห่อหุ้มร่างของเขาเหมือนเปลือกไข่ และติดตั้งขาเทียมสองข้าง

It took careful consideration, skilled meaasurement and technical expertize.

พวกเขาได้ใช้ความพยายาม, ความชำนาญ และเทคนิคอย่างมาก


Peng has been walking the corridors of Beijing Rehabilitation Centre

เป็งได้เริ่มหัดเดินรอบๆระเบียงของศุูนย์ฯที่ปักกิ่ง

with the aid of his specially adapted legs and a resized walking frame.

ด้วยช่วยของขาเทียมที่ปรับปรุงและปรับขนาดหลายครั้ง

RGO is a recipicating gait orthosis, attached to a prosthetic socket bucket.

There is a cable attached to both legs so when one goes forward, the other goes backwards.

Rock to the side, add a bit of a twist and the leg without the weight on it advances,

while the other one stays still, giving a highly inefficent way of ambulation.

Oh so satisfying to 'walk' again after ten years with half a body!

ด้วยอุปกรณ์ที่คณะแพทย์ได้วิจัยและสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการเดินของเขา

เป็ง ก็สามารถเริ่มเดินได้อีกครั้งหลัง 10 ปีที่มีร่างกายเพียงครึ่งท่อน

Hospital vice-president Lin Liu said: "We've just given him a checkup; he is fitter than most men his age."

รองประธาน รพ. หลินหลิว "เราเพิ่งตรวจสภาพร่างกาย  เขามีความแข็งแรงสูงกว่าชายในวัยเดียวกับเขา"



Peng Shuilin has opened his own bargain supermarket,

เป็ง ชุ่ยหลิน ได้เปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตราคาถูกของเขาเอง



called the Half Man-Half Price Store.

เขาตั้งชื่อร้านว่า "ครึ่งคน ครึ่งราคา"



The inspirational 37-year-old has become a businessman

ชายวัย 37ผู้เต็มไปด้วยความบันดาลใจได้กลายเป็นนักธุรกิจ



and is used as a role model for other amputees.

และได้เป็นแบบอย่างแก่คนทุพพลภาพอื่นๆ



At just 2ft 7ins tall, he moves around in a wheelchair giving lectures on recovery from disability.

ด้วยความสูงเพียง 2 ฟุต 7 นิ้ว เขาเดินทางไปด้วยรถเข็นไปเพื่อบรรยายให้กับผู้ทุพพลภาพที่กำลังพักฟื้น



His attitude is amazing, he doesn't complain.

ทัศนคติที่น่าทึ่ง  เขาไม่บ่น

"He had good care, but his secret is cheerfulness. Nothing ever gets him down."


"เขาได้รับการดูแลที่ดี แต่เคล็ดลับของเขาคือความสุขความหวัง ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาสิ้นหวังได้"

You have a whole body. You have feet.
คุณมีร่างกายที่สมบูรณ์  มีขาทั้งสองข้าง

Now you have met a man who has no feet.
ตอนนี้คุณได้พบกับชายไร้ขาทั้งสอง  

His life is a feat of endurance, a triumph of the human spirit in overcoming extreme adversity.
ชีวิตของเขาคือความทุกข์ทรมาน  แต่ความมุ่งมั่นแห่งจิตวิญญาณมนุษย์ทำให้เขาก้าวข้ามทุกสิ่ง

Next time you want to complain about something trivial, don't.  
คราวหน้า หากคุณจะบ่นไม่ว่าเรื่องใหญ่โตหรือเล็กน้อย   โปรดหยุดก่อน

Remember Peng Shulin instead.
นึกถึง เป็ง  แทน


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อยากให้อ่านทุกคน ...anus

Sunday, May 16, 2010 6:56 AM

เงิน 20 บาท มีค่ามากสำหรับคนบางคน

ในขณะที่ใครหลายๆ คนกินอิ่ม นอนหลับอยู่ในบ้านที่แสนสบาย ใช้เงินฟุ่มเฟือยเต็มสูบไม่มีจำกัด อยากได้อะไรซื้อ อยากกินอะไรกิน ทิ้งๆ ขว้างๆ บ้างตามประสาคนเหลือกินเหลือใช้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง...กลับมีคนที่ยอมเดินด้วยเท้า จากจังหวัดอุบลราชธานี ไปยังจังหวัดอยุธยา ด้วยระยะทางไกลมากว่า 600 กิโลเมตร เพียงเพื่อเงินวันละ 20 บาท

   เรื่องที่ทางทีมงานจะขอนำเสนอต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เพื่อนสมาชิกเว็บไซต์ พันธ์ทิพย์ดอทคอม ประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง และอยากนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟัง ซึ่งเขาก็เล่าว่า ... ผมและครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวจังหวัดอยุธยา ระหว่างทางก่อนที่จะถึงจุดหมาย ผมได้มองไปข้างทางและเห็นชายแก่คนหนึ่งใส่เสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน กำลังเดินอยู่ข้างทางแบกถุงปุ๋ย พร้อมห่อผ้าขาวม้า 1 ห่อ เดินกลางแดดกลางวันร้อนๆ ยามบ่าย ผมจึงให้แฟนจอดรถและลงไปถามชายชราคนนั้นว่า

ผม : ตาจะไปไหน ทำไมมาเดินตากแดดแบบนี้เล่า

ตา : (ยิ้ม) จะไปอยุธยา

ผม : ตาจะไปทำไมที่อยุธยา ไปหาใครเหรอ

ตา : ไปรับจ้างเลี้ยงวัว มีคนเขาบอกว่าที่อยุธยา มีคนเขาหาคนเลี้ยงวัว

ผม : เขาจ้างวันละเท่าไหร่ ตารู้จักเขาเหรอ

ตา : เขาจ้างวันละ 20 บาท มีที่พักให้ด้วย (ตาหมายถึงนอนกับวัวเลย) ตาไม่รู้จักเขาหรอก ที่ไปนี้ก็ต้องไปถามเขาอีกทีว่าใครจะ

    จ้างตาเลี้ยงวัวบ้าง

ผม : แล้วใครบอกตาว่าที่อยุธยาเขาหาคนเลี้ยงวัว

ตา : คนแถวบ้านตาบอก เขาพูดกันว่าที่อยุธยามีคนเขาหาคนเลี้ยงวัวเยอะ

ผม : ตามาจากไหนละ มาคนเดียวเหรอ แล้วยายไปไหนล่ะ

ตา : ตามาจากอุบลฯ ตามาคนเดียว เพราะยายตายแล้ว

ผม : ลูกๆ ไม่มีเหรอตา

ตา : มีลูก 2 คน ชายคน หญิงคน มีครอบครัวกันหมดแล้ว ไม่เคยเห็นหน้ามาหลายปีแล้ว ยายตายนี่พวกมันยังไม่รู้เลย

ผม : แล้วทำไมตาไม่อยู่บ้าน หางานแถวบ้านทำล่ะ

ตา : ตาไม่มีบ้าน พอยายตาย พี่น้องยายเขาก็ไม่ให้อยู่ในที่ของเขา งานแถวบ้านมี แต่เขาไม่จ้างตาทำ เขาบอกว่าตาแก่แล้ว ทำ

    อะไรช้าไม่ทัน เขาก็ไม่จ้างตา

ผม : แล้วตามาถึงที่นี่ได้อย่างไง

ตา : ตาเดินมาเรื่อยๆ

ผม : เดินมาจากอุบลฯ นะเหรอตา ทำไมไม่นั่งรถเมล์มาล่ะ

ตา : (ยิ้ม) ตาไม่มีตังค์ (ควักเงินออกมาให้ดู ซึ่งในมือตามีเงิน 15 บาท เหรียญ 5 บาท 1 เหรียญ ที่เหลือเป็นเหรียญบาทเก่าๆ

     สีเขียว)

ผม : แล้วตาออกจากอุบลฯ มาวันไหน

ตา : หลังสงกรานต์ 2 วัน (ยิ้ม)

ผม : แล้วตาเอาอะไรมาด้วย นี่ห่ออะไรที่ตาถือมา

ตา : อ๋อ ห่อกระดูกยาย กับถุงเสื้อผ้าตา

ผม : แล้วตากินอะไรอยู่

ตา : เดินผ่านร้านที่เขาขายมันต้ม แม่ค้าเขาเลยให้ตามากินฟรีๆ ไม่เอาตังค์ตาด้วย

ผม : (สายตาของผมมองไปที่เท้าของตา เห็นรองเท้าของตามีกระดาษติดที่ส้น) กระดาษติดที่เท้าตานะ ระวังหกล้ม

ตา : (ยิ้ม) อ๋อ ตาเอามันมารองที่เท้าตาเอง เพราะส้นรองเท้ามันขาดแล้ว เวลาเดินมันร้อนส้นเท้า

ผม : แล้วนั่นน้ำอะไรจ๊ะตา (เห็นน้ำสีน้ำตาลในขวดสีขาวขุ่นมากๆ วางอยู่ข้างๆ ตา)

ตา : น้ำกินตาเอง

   หลังจากนั่งคุยกับตาแกไปเรื่อยๆ ก็ได้รู้ว่า ตา อายุ 76 ปีแล้ว แต่ผมดันลืมถามชื่อแกมา รู้แต่ว่าสิ่งที่ได้สังเกตเห็นตลอดเวลาคือ เนื้อตัวค่อนข้างเลอะ มีรอยยุงกัดตามตัวเยอะมาก เพราะแกบอกว่าอาศัยนอนข้างถนน นอนศาลา และดวงตาของแกฝ้ามัวมาก เหมือนมีเส้นใยบางๆ ในดวงตา และอีกสิ่งหนึ่งที่เห็นก็คือ "รอยยิ้ม" ที่เห็นฟัน 1 ซี่ ของแกมีมาให้ตลอดเวลาระหว่างที่สนทนากัน ทำให้ผมรู้สึกว่าตาเป็นคนอารมณ์ดี จากนั้นผมจึงได้ส่งร่มในมือที่ถือก่อนลงจากรถให้แกไว้ใช้ พร้อมเงินอีก 190 บาท (เพราะมีอยู่แค่นั้น) ซึ่งตอนที่แกได้ร่ม ตาแกดีใจมาก ยิ้มตลอดเวลา ในใจแกคงคิดว่าต่อไปนี้แกคงไม่ต้องเดินร้อนแล้วล่ะ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมตาแกไม่ไปบวช หรือขอข้าววัดกิน เรื่องนี้พวกเราคุยกันว่า ตาแกยังคงอยากทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ไม่อยากจะขออาศัยวัดกิน มีมือมีเท้าก็อยากทำให้เกิดประโยชน์บ้าง

...และนี่คือตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีคนอีกจำนวนมากต้องปาดกัดตีนถีบเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง รู้แบบนี้แล้วทำไมไม่ลองมองย้อนมาดูตัวเอง ว่าวันนี้คุณ "พอเพียง" แค่ไหนกัน ? ทั้งนี้ผู้เล่าประสบการณ์ คิดได้ว่า เขาโชคดีเหลือเกินที่มีกินมีใช้ เกิดมาไม่ลำบาก มีพ่อแม่ มีเงินให้ใช้ แต่หลังจากเจอตาแล้วทำให้เขาคิดได้ว่า ต่อไปนี้เขาต้องรู้จักใช้เงิน รู้คุณค่าของเงินมากขึ้น เผื่อวันหน้าจะได้ไม่ลำบาก

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 4

โพสต์


เทคนิคการเติมน้ำมัน...ดีมากๆ แต่ ปตท. ไม่ชอบ

Sunday, May 16, 2010 6:33 AM

น้ำมันแพง ..............ต้องฉลาดเติม
( ภาคพิสดาร)




ไม่ทราบว่าเหล่าผู้ชายเช่นคุณควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าน้ำมันกันยังไง
แต่ที่ California
ผู้ใช้รถก็จ่ายไม่เบา
จนมีผู้รู้สอนเคล็ดลับการเติมน้ำมัน
เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถจ่ายเงินอย่างคุ้มค่า



ผู้รู้ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการน้ำมันกว่า 31 ปี
เล่าว่า
เขาทำงานที่คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใน
San Jose , CA
ซึ่งมีคลังเก็บ 34 คลัง


ขนาดบรรจุรวม 16,800,000 แกลลอน ณ
ที่นั่นแต่ละวันจะจ่ายน้ำมัน
ประมาณ 4 ล้านแกลลอน ตลอด 24 ชม.
โดยวันหนึ่งจ่ายน้ำมันดีเซล
อีกวันหนึ่งจ่ายน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันรถยนต์เกรดต่างๆ
สลับกันเขาบอกว่า

1.
จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะที่อุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่

อย่าลืมว่าปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝั่งอยู่ใต้ดิน
เมื่อพื้นดินยิ่งเย็น

น้ำมันยิ่งควบแน่น
เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น
น้ำมันก็จะขยายตัวตาม

ดังนั้น หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น
คุณจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอน

แต่ได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ธุรกิจค้าน้ำมัน
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันสำหรับเครื่องบิน

เอทานอล หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ
อุณหภูมิและความถ่วงจำเพาะ

มีบทบาทสำคัญ
อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา
หมายถึง.........เงินมหาศาลในธุรกิจนี้  
แต่ปั๊มน้ำมันไม่มีการชดเชยอุณหภูมิให้ลูกค้า



2.   ขณะเติมน้ำมัน
อย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว

( ในอเมริกาเจ้าของรถต้องลงมือเติมเอง)


หากคุณสังเกต จะเห็นว่ากลไกเหนี่ยวมี
3 ระดับ คือ
low, middle, และ high
เมื่อตั้งในระดับไหลช้า
จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุด

หากตั้งในระดับไหลเร็ว
น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหย

และถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใ้ต้ดิน
นั่นหมายถึงคุณจ่ายเงินมากกว่าที่ควร

3.เคล็ดลับอีกอย่างคือ
ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง

( แหล่งข้อมูลบางแห่งแนะนำว่า เติมน้ำมันแค่ครึ่งถังก็พอ
จะได้ลดน้ำหนักบรรทุกและประหยัดน้ำมัน
ทั้งนี้และทั้งนั้น
ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองก็แล้วกัน ― หมายเหตุผู้แปล)
 
เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อย
เพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่คุณคาดคิด
ในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดาน
ลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน
ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศ
ลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด
รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมัน
จึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ


4.
ข้อเตือนใจอีกข้อหนึ่ง  

ขณะที่คุณขับรถเข้าปั๊มถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดิน
จงอย่ารีบร้อนเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น
เพราะตอน
"ลงของ" สิ่งแปลกปลอม  
ซึ่งปกติตกตะกอนอยู่ใต้ถัง จะถูกปั่นป่วนจนลอยตัว

หากคุณเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น
อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รถคุณได้


โปรดแบ่งปันเคล็ดลับเหล่านี้ให้ทั่วถึงเพื่อทำให้เกิดอิทธิพลขึ้น
เราจำต้องส่งข้อมูลเหล่านี้ให้เข้าถึงผู้ใช้น้ำมันจำนวนนับล้าน
ซึ่งก็ไม่ยาก
ผู้เป็นต้นคิดส่งให้เพื่อนฝูง 30 ราย
หากแต่ละรายส่งต่ออีก 10 คน

( 30 x 10 = 300)...300 คนส่งต่ออีก 10 คน
( 300 x 10 = 3,000)
.. ทำเช่นนี้เป็นลูกโซ่ต่อเนื่อง
พอถึงลูกโซ่ข้อที่ 6
ข้อมูลก็จะถึงมือผู้ใช้น้ำมัน
3 ล้านคน
หาก 3 ล้านคนนั้นตื่นตัวพร้อมกัน
ต่างส่งต่ออีก 10 คน ก็จะมี
30 ล้านคนรับรู้ข้อมูลนี้
จากจุดนี้ก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
ลองทายดูว่าจะเป็นเท่าไร  300 ล้านแน่ะ
ฉะนั้น

โปรดเริ่มลงมือส่งให้ญาติมิตร 10 คน   คงเสียเวลาไม่มากใช่ไหม ?


(**ปล. เขาส่งมา เราส่งต่อ เป็นฟอร์เวิร์คเมล์ จริงแท้เป็นอย่างไร ไม่ทราบค่ะเพราะไม่มีรถจะให้เติม ไม่มีเงินซื้อรถ เพราะเงินละลายอยู่ในตลาดลักทรัพย์หมดแล้วอิอิ..**)
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 5

โพสต์


FW: ดูให้ได้ครับ....ผู้หญิงคนนี้สุดยอดมากๆ..

Tuesday, May 11, 2010 9:51 PM

ดูแล้วขอบอกว่าสุดยอดจริงๆครับ...เก่งจริงๆ
ไม่เปิดดูอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้เห็นแบบนี้ก็ได้คับ

คลิกดูที่นี่เลย....สุดยอดจริง

http://www.youtube.com/watch_popup?v=vOhf3OvRXKg

(..ปล.ดูจบ ก็สามารถกดดูภาพอื่นๆได้นะคะ สุดยอดจริงๆขอบอก..อิอิ)
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 6

โพสต์


FW: เกียร์ออโตหลุด ดับเครื่องทันที!!

Saturday, May 1, 2010 6:27 AM

ประสบการณ์จริง จากรถเกียร์ออโต้ อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด !

คงเคยอ่านข่าว รถจอดอยู่แล้วไหลชนเจ้าของบ้าน หรือตกคลองกันบ้าง เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้

เหตุเกิดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา นี้เอง หลังจากที่ได้นำรถออกจากอู่ตอนบ่าย กับรถ BENZ 300 E เอารถไปเข้าอู่เพื่อดูแลตามปกติ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง. น้ำมันเกียร์เข็คโน่นเช็คนี่ตามเลขที่กิโลตามกำหนด ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลย แต่วันนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันจนได้

เคยได้ยินไหม ' เกียร์หลุด ' ไม่ใช่หลุดออกมา ไม่ใช่เข้าเกียร์ไม่ได้ แต่มันหลุดไปอยู่ที่เกียร์ถอย R
อาการเป็นอย่างไร ไม่ว่าคุณจะเข้าเกียร์อะไรก็ควบคุมรถไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ P, D, 3 หรือ 2
ทุกเกียร์รถจะถูกสั่งให้ถอยหลังทั้งหมด ยิ่งคุณพยามยามจะเดินหน้า โดยผลักไปที่ D แล้วเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะถูกเร่งให้ถอยหลังแรงขึ้น ยกเว้นคุณจะเหยียบเบรคอยู่อย่างนั้น อย่าหวังพึ่งเบรคมือ จะมีประสิทธิภาพเมื่อรถจอด ป้องกันไม่ให้ไหลเท่านั้น

เย็นวันนั้นหลังเลิกงาน แวะ Shopping ที่ห้างเดอะมอล์ ผ่านจากจุดรับบัตรตรงทางเข้า ไปเล็กน้อยก็เห็นที่มีที่จอดรถว่างอยู่ เป็นทางลาดเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ) ก็เลยเปิดไฟกระพริบ เปลี่ยนเป็นเกียร์ R เพื่อถอยหลังเข้าที่จอด ถอยไปได้ครึ่งคัน เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ ก็เปลี่ยนเป็น D เพื่อให้รถเดินหน้าจะได้ตั้งลำถอยใหม่

ตอนนี้เองรถไม่ยอมเดินหน้า ถอยหลังซะงั้น ก็เริ่มแปลกใจ หันมามองหน้ากัน เกิดอะไรขึ้น
รีบเหยียบเบรค เข้าเกียร์ D ใหม่เหยียบคันเร่งเบา ๆ รถกลับถอยหลังแรงขึ้นไปอีก ก็เหยียบเบรคอีก แต่กำลังของรถมันคอยจะถอยอย่างเดียว เครื่อง ดังหึ่ง ๆ จะถอยลูกเดียว ทีนี้คิดว่าจะทำอย่างไรดีไม่เคยเจอ ก็เลยให้อีกคนเปิดประตูลงมามองหาว่ามันมีที่กั้นล้อด้านหลังไหม จะได้กั้นรถไว้ได้ เพราะด้านหลังเป็นท่อแก๊ส และท่อน้ำขนาดใหญ่ของห้าง ถ้าถอยไปชน จะเกิดอะไรขึ้น ? พอลงไปดูเห็นมีที่กั้นค่อยโล่งใจหน่อย ก็เลยตะโกนบอกมีที่กั้น จอดเลยไม่ต้องถอยแล้ว คนขับก็เหยีบเบรค และเลื่อนเกียร์มาที่เกียร์ว่าง N ห่างจากจุดที่กั้นเป็นปูนประมาณ 2 คืบได้ แล้วก็ปล่อยเบรค เพื่อจะดับเครื่องจอด ทันใดนั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ รถกระโดดข้ามไปอยู่บนที่ กั้นด้วยความเร็วและแรงมากในชั่วนาทีเดียว วินาทีเดียวจริง ๆ ซึ่งคนที่ยืนดูท้ายอยู่ อยู่ห่างจากตัวรถทางด้านข้างไม่ถึงฝ่ามือ ยืนตะลึง แรงของรถ กระแทกท่อแก๊สกับท่อน้ำอย่างแรง กันชนแตกเละ โครมเบ้อเริ่ม สิ่งที่ทำตอนนั้นคือ ตะโกน ดับเครื่อง ดับเครื่อง ดับเครื่อง หลายคนคงสงสัยแล้วแล้วจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ ก็ค่อยๆ มองซ้ายมองขวาช่วยกันเข็นรถที่มันคาอยู่บนขอบปูน และกำลัง เบียดท่อแก๊สกับท่อน้ำ ออกหนะสิ โชคดีมาก ๆ ท่อเป็นเหล็กหนามาก ไม่อย่างนั้น คนที่ดูหลังอยู่ด้านท้าย คงไม่มีโอกาสมาเล่าให้ฟัง คงจะแบนไปกับท่อแก๊สไปแล้ว

สิ่งที่อยากจะฝากเตือนทุกคนก็คือ

1.    เมื่อเกิดเหตุควบคุมรถไม่ได้เพราะเกียร์หลุด ต้องดับเครื่องยนต์ทันที ( คำแนะนำของช่าง) เพราะรถที่เกียร์หลุด จะไม่สามารถควบคุมได้เด็ดขาด ยกเว้นหลุดไปเป็นเกียร์ว่าง

2.    เวลาจะถอยหลัง หรือออกรถ ระวังอย่าให้มีคนยืนอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่ เวลาถอยรถ เรามักมีคนไปด้วยช่วยลงไปดู เพราะไม่แน่ใจหรือคอยระวังรถคันอื่น

3.    รถที่เพิ่งออกจากอู่ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีข้อผิดพลาด

4.    สติของคนขับ สำคัญมาก แม้ประสบการณ์หลายสิบปี ก็อาจควบคุมไม่ได้

ด้วยความปรารถนาดี เพื่อเป็นประสบการณ์หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Warning>>" ไม่อยากให้ไฟไหม้บ้าน..ต้องอ่าน"

Thursday, April 29, 2010 7:35 AM

อ่านเมล์นี้แล้ว ก็อยากเล่าเรื่องที่เคยเห็นมากับตาก็คือ ไม้ตียุง ครับ ญาติ  ๆ ไปซื้อมา เมื่อสักเกือบสองปีทีแล้ว สมัยนั้น ห้างขายแบบ ซื้อ 1 แถม 1 ด้วย พอซื้อกลับมาใช้สักพักก็เอามาชาร์ทกับไฟบ้าน ชาร์ทไปได้ประมาณสัก 10-15 นาที ก็มีเสียงปัง ดังขึ้น แล้วก็มีประกายไฟออกมาด้วย

ญาติเล่าให้ฟังว่า อันแรกก็อาการอย่างเดียวกันนี้ นี่เป็นอันที่สองแล้ว ก็ฝากเตือน  ๆ ทุก ๆ ท่านด้วยครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ ไม่ควรเสียบทิ้งไว้เด็ดขาด จริง ๆ ไม่ควรซื้อมาใช้เลยดีที่สุด

ไม่อยากไฟไหม้บ้านต้องอ่าน!!!!!



     ผมเป็นคนชอบไฟฉายมากๆ และตามท้องตลาดเดี๋ยวนี้ก็มีไฟฉายที่ผลิตมาจากจีนมากมาย  โดยเฉพาะชนิดที่ชาร์ทแบตเตอรี่กับไฟบ้านได้นั่นแหละผมชอบซื้อมาใช้จริงๆ ราคาก็ประมาณกระบอกละ 100-150 บาท

     เช้าวันนั้นประมาณกลางเดือนตุลาคม 2552 นี้ที่ผ่านมา ผมตื่นขึ้นมาก็เอาไฟฉายไปเสียบชาร์ทแบตกับปลั๊กแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวแล้วก็กินกาแฟ  สักพักก็ได้กลิ่นไหม้โชยมาพร้อมกับเขม่าสีดำ  ในใจก็นึกไปว่า...คงเป็นการเผาขยะจากข้างบ้านเพราะเค้ามักจะเผาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยิ่งแปลกใจเพราะว่าทำไม่มันกลิ่นแรงและมีเขม่าเข้ามามากอย่างนี้  และดูเหมือนเขม่าจะออกมาจากจุดที่ผมชาร์ไฟฉายเอาไว้ ผมเลยรีบเดินมาดูตรงจุดที่ชาร์ทไฟฉายเอาไว้ ...ปรากฏว่าเปลวไปกำลุกติดปลั๊ก ลามมาติดชั้นลิ้นชักพลาสติกอย่างน่ากลัว   ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากแต่ก็พยายามคุมสติ แล้วก็รีบวิ่งไปเอาหม้อที่แขวนไว้ตักน้ำจากถังมาดับได้ทันที

หากผมเห็นช้ากว่านี้แค่ไม่กี่นาที ป่านนี้ผมคงไม่มีบ้านอยู่แล้ว เพราะจุดที่ผมชาร์ทไฟฉายมีทั้งลิ้นชักพลาสติก หนังสือ กระดาษต่างๆและเสื้อผ้าที่ล้วนแต่เป็นเชื้อไฟอย่างดี

     ผมจึงอยากขอเตือนเพื่อนๆทุกคนที่ซื้อสินค้าจากจีน  ชนิดที่ชาร์ทแบตเตอี่กับไฟบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟฉาย.ไม้ตียุง.โคมไฟหรือแม้กระทั่งแบตฯมือถือ   ของพวกนี้มีอันตรายอย่างคาดไม่ถึง อาจทำให้ไฟไหม้บ้านง่ายๆ  ทางที่ดีอย่าไปซื้อมาใช้เลย หรือถ้าใครซื้อมาใช้แล้วถ้าจะชาร์ทไฟก็ขอให้นำมาชาร์ทตรงที่โล่ง ไม่มีสิ่งใดติดไปได้ และที่พลาดไม่ได้คือ......ต้องนั่งเฝ้า อย่าให้คลาดสายตาในขณะที่เสียบชาร์ทไฟ   แบตฯพวกนี้ชาร์ทประมาณ30นาทีก็เต็มแล้วเพราะเป็นแบตฯคุณภาพต่ำมากๆ

     ช่วยfowordเมล์นี้ไปบอกเตือนเพื่อนๆให้ได้มากที่สุดนะครับ อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้บ้านเพื่อนๆและยังได้บุญกุศลด้วยครับ

     ขอบคุณครับ



สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 8

โพสต์


FW: ส่งต่อ: กรุณาเปิดดูเพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรัก ><

Tuesday, April 27, 2010 2:23 AM

ตำรวจชาวออสเตรเลียได้เขียนสิ่งนี้ขึ้นเพื่อผู้หญิงทุกคน

นั่นเป็นเพราะว่าการลักพาตัวครั้งล่าสุดเกิดขึ้นกลางวันแสกๆ

ตั้งสติให้ดีก่อนจะทำการอะไรหากคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข้อความนี้สำหรับตัวของคุณเองและเพื่อให้คุณได้แบ่งปันให้กับภรรยา ลูก หรือทุกๆ คนที่คุณรู้จัก


หลังจากที่คุณได้อ่านคำแนะนำที่สำคัญเหล่านี้ .. คุณอาจต้องการที่จะเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รับรู้ โปรดส่งต่อให้กับคนที่คุณรักและเป็นห่วง

การระมัดระวังล่วงหน้าไม่ต้องแลกกับความสูญเสีย เพราะฉะนั้นปลอดภัยไว้ดีที่สุด

1.    เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด้

ข้อศอกเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายของมนุษย์

หากคุณอยู่ใกล้คนร้ายในระยะที่จะใช้มันได้....จงใช้มันซะ!

2.    เคล็ดลับจากสมุดแนะนำนักท่องเที่ยว

ถ้าคนร้ายต้องการกระเป๋าเงินหรือของมีค่าของคุณ

อย่ายื่นให้กับเขา

จงโยนกระเป๋าเงินของคุณไปให้ไกลจากตัวเอง..

โอกาสที่คนร้ายจะสนใจกระเป๋าเงินของคุณนั้นมีมากกว่าที่จะสนใจคุณ

และนั่นจะทำให้เขาต้องไปหยิบกระเป๋าเงินที่อยู่ห่างจากตัวคุณ

ตอนนี้แหละ จงวิ่งไปอีกทิศทางหนึ่งให้เร็วที่สุด ><

3.    ถ้าคุณเกิดถูกลากหรือโยนเข้าไปในท้ายรถของคนร้าย

สิ่งที่คุณควรทำคือให้ถีบไฟท้ายจนหลุดออกมา

ยื่นแขนของคุณออกมาจากช่อง แล้วเริ่มโบกมืออย่างบ้าคลั่ง

คนขับไม่เห็นสิ่งที่คุณทำ แต่คนอื่นจะเห็น

วิธีนี้ได้ช่วยหลายต่อหลายชีวิตมาแล้ว..

4.    คุณผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะนั่งอยู่บนรถเฉยๆ หลังจากช้อปปิ้ง เที่ยว กิน หรือ ทำงานเพื่อจะแต่งหน้า เปิดผ่านหนังสือ เช็คโทรศัพท์ ฯลฯ

ห้ามทำเป็นอันขาด!

คนร้ายจะคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของคุณ และสิ่งที่คุณทำเป็น

การเปิดโอกาสอันเหมาะสมเพื่อให้เขาเข้ามาทางที่นั่งข้างคนขับ

และเอาปืนจ่อหัวคุณเพื่อจะให้คุณขับไปตามทางที่เขาต้องการ

เพราะฉะนั้น....ทันทีที่คุณขึ้นรถ


จงล็อคประตู และรีบออกรถซะ........

แต่ถ้าเกิด....

คนร้ายอยู่บนรถกับคุณ

และเอาปืนจ่อขมับคุณไว้

อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก

ย้ำ:

อย่าขับรถออกไปตามที่เขาบอก

สิ่งที่คุณควรทำคือ

เหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุด

ขับพุ่งใส่กำแพงหรือสิ่งกีดขวางในละแวกนั้น

ถุงลมนิรภัยฝั่งคุณจะช่วยชีวิตคุณไว้

(เช่นเดียวกับฝั่งคนร้ายหากคนร้ายนั่งเบาะหน้า)

(หากคนร้ายนั่งอยู่เบาะหลัง เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส)

แต่ทันใดที่รถของคุณชน ให้รีบถอนตัวออกมา(จากถุงลมนิรภัย)

แล้ววิ่งออกจากรถสุดแรงเกิด

วิธีนี้จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตรงที่คุณสามารถวิ่ง

เข้าหากลุ่มคนเพื่อขอความช่วยเหลือได้

หากคุณออกรถไปที่ไกลๆ ตามเส้นทาง/สถานที่ที่คนร้ายบอก

จะทำให้คนร้ายตามตัวคุณได้ง่าย เพราะคุณไม่รู้จักสถานที่นั้นดีเท่าเขา

5.    ข้อแนะนำสำหรับการเดินไปที่รถของคุณ


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 9

โพสต์


ในลาน/โรงจอดรถ

ก.) จงระวัง:

มองไปรอบๆ ตัวของคุณ

มองเข้าไปในรถของคุณ

มองลอดไปบนพื้นฝั่งที่นั่งข้างคนขับ

และเบาะหลัง

ข.) ถ้ารถของคุณมีรถตู้จอดอยู่ข้างๆ

ให้ขึ้นรถทางฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับ

คนร้ายจะจู่โจมเหยื่อของมันโดยการฉุด

ขึ้นรถตู้ในขณะที่เหยื่อกำลังจะเปิดประตูขึ้นรถ

เพราะฉะนั้นรถตู้น่าสงสัยเหล่านี้จึงมักที่จะจอดอยู่ฝั่งคนขับ

ค.) ให้มองไปที่รถที่จอดอยู่ข้างๆ คุณทั้งสองข้างของรถ

ถ้าเจอผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวในฝั่งที่อยู่ใกล้รถของคุณมากที่สุด

สิ่งที่คุณควรทำคือเดินกลับเข้าไปในห้าง

หรือออฟฟิตเพื่อขอให้ยาม รปภ. หรือตำรวจเดินมากับคุณ

เพื่อส่งคุณขึ้นรถ

ไม่ต้องไปคิดมากกว่าคนอื่นหรือตำรวจจะมองคุณโรคจิตหรือเปล่า

เพราะการระมัดระวังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์อันน่าสงสัยนั้น

จงตระหนักอยู่เสมอว่า ปลอดภัยไว้ก่อน...

6.    จง ใช้ลิฟต์ตลอดแทนที่จะใช้บันใด

เพราะบันใดเป็นสถานที่ที่แย่ที่สุดที่ผู้หญิงจะอยู่คนเดียว

มันเป็นที่ๆ เพอร์เฟคสำหรับคนร้าย

และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งในยามวิกาล


7.    ถ้าคนร้ายมีปืน...

แต่คุณไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

จงวิ่ง!!

เพราะโอกาสที่คนร้ายจะยิงถูกคุณมีเพียง

4 ครั้งใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าวิ่ง)

และเป็นไปได้สูง ว่าจะไม่โดนอวัยวะสำคัญ

วิ่งงงงงงง!! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...การวิ่งซิกแซก

8.    จุดอ่อนของผู้หญิงส่วนใหญ่คือ

ขี้สงสาร ขี้เห็นใจ

จงหยุดซะ

เท็ด บันดี้ เป็นฆาตรกรหน้าตาดี และการศึกษาสูง

เขาใช้จุดอ่อนข้อนี้ของผู้หญิงเพื่อลวงมาฆ่าเสมอ

เพราะฉะนั้นจงมีเหตุมีผล ดูสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง

จงช่างสังเกต หากพบข้อสงสัยแม้เพียงข้อเดียว

ก็ควรจะลีกเลี่ยงบุคคลนั้นๆ ให้เร็วที่สุด

9.    เรื่องที่ควรตระหนักอีกข้อ:

เพิ่งจะมีคนมาเล่าให้ฉันฟังว่า เพื่อนสาวของได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กตอนกลางคืน และเธอก็คาดว่าเสียงนั่นดังมาจากระเบียงบ้านของเธอ เธอเลือกที่จะโทรแจ้งตำรวจแทนที่จะออกไปดูด้วยตัวเอง นั่นเป็นเพราะว่าเธอมีลางสังหรณ์ว่านั่นอาจจะเป็นกลลวง และตำรวจก็สั่งกับเธอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด

เธอจึงเล่าให้ตำรวจฟังอีกว่าเสียงนั่นฟังดูเหมือนว่าเด็กนี่ได้คลานมาใกล้หน้าต่างของและเธอก็เป็นกังวลว่าถ้าหากเด็กคนนี้คลานออกไปถึงถนนก็จะถูกรถชน

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ตำรวจจึงสั่งเธอว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทางไปบ้านเธอแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ห้ามเปิดประตูเด็ดขาดไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น ตำรวจย้ำถึงสามรอบ

ตำรวจเล่าให้เธอฟังต่อว่าพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นฆาตรกรที่ใช้วิธีเปิดเทปเสียงเด็กร้องไห้เพื่อจะหลอกหล่อให้ผู้หญิงออกจากบ้านมาดู โดยที่ฆาตรกรหวังใช้จุดอ่อนของผู้หญิงคือ ความขี้เห็นใจ ขี้สงสาร นั่นเอง แต่ทางตำรวจก็ยังจับตัวฆาตรกรกลุ่มนี้ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีการโทรมาแจ้งและได้เล่าเรื่องเดียวกัน คือได้ยินเสียงเด็กมาจากนอกบ้าน หน้าต่าง หน้าประตู เวลากลางคืน และทุกสายที่โทรมาแจ้งล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่อยู่บ้านคนเดียวทั้งสิ้น

10. ถ้าคุณตื่นขึ้นมากลางดึกและได้ยินเสียงเหมือนว่าก๊อกน้ำถูกเปิดอยู่หรือท่อน้ำของคุณแตกนอกบ้าน ห้ามออกไปเดินสำรวจเด็ดขาด! เพราะมีคนกลุ่มนึงจะเข้าไปเปิดก๊อกน้ำบ้านคุณให้สุดเพื่อให้คุณได้ยินและออกมานอกบ้าน นั่นคือเวลาที่พวกเขาจะโจมตีคุณ

จงมีสติอยู่ตลอดเวลา, อยู่อย่างระมัดระวัง, ตรวจสอบความปลอดภัย, และอย่าลืมดูแลกันเองระหว่างคุณกับเพื่อนบ้านด้วย!

กรุณาส่งอีเมลฉบับนี้..เพื่อเผยแพร่มัน

เพราะ ในอีเมลนี้

เรื่องเทปเสียงเด็กร้องไห้  ได้ถูกกล่าวว่ากลุ่มฆาตรกรหกลุ่มนี้เป็นที่ต้องการอันดับหนึ่งของตำรวจในสหรัฐอเมริกา

ฉันอยากให้คุณส่งมันให้กับคนอื่นๆ ด้วย

เพราะมันอาจช่วยชีวิตคนได้อย่างแน่นอน. แสงไฟจากเทียนไขเล่มหนึ่งจะไม่มีวันมืดลงหากมีเทียนเล่มอื่นๆ มาสานแสงไฟจากเทียนเล่มนั้นต่อ

ฉันคิดว่าจะส่งอีเมลนี้ให้กับผู้หญิงเพียงอย่างเดียว,

แต่จริงๆ แล้ว.. ผู้ชายทั้งหลาย... ถ้าคุณรักแม่ของคุณ ภรรยา พี่สาวน้องสาว ลูกสาว ฯลฯ

คุณอาจจะอยากส่งมันเหมือนกัน

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 11

โพสต์


ขอถุงห้าง ต้องจ่ายใบละ 1 บาท เริ่ม 6 มิ.ย.53 ทุกห้าง กทม.

Wednesday, April 28, 2010 12:21 AM

มิ.ย.53 ทุกห้าง กทม.                                                                
     
   ซื้อของห้างสรรพสินค้าทั่ว กทม. 25 บริษัท อาทิ โลตัส คาร์ฟูร์ บิ๊กซี เซเว่น อีเลฟเว่น ฯลฯ
   ถ้าใส่ถุง คิดถุงละ 1 บาท เริ่ม 6 มิ.ย.53
   ขอความร่วมมือห้างร้านเข้าร่วมโครงการ เมื่อไปซื้อของ ต้องเตรียมถุงผ้าไปเอง
   เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติกในพื้นที่ กทม. ประหยัดพลังงานและลดโลกร้อน

   ข่าวจาก นสพ.เดลิพิวส์ 19 เม.ย.53

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ข้างๆของความรัก

Sunday, April 18, 2010 9:23 AM

ข้างๆของความรัก
มีเพื่อนต่างเพศอยู่คู่หนึ่ง เป็นเพื่อนที่รักกันมาก ที่โรงเรียน

ฝ่ายชายจะเดินไปส่งฝ่ายหญิงที่บ้านเสมอทุกวัน

เวลาผ่านไป จนทั้งสองอยู่ มหาวิทยาลัย
ฝ่ายหญิงเริ่มไปแอบชอบผู้ชายคนนึง และถามฝ่ายชายว่า

"นี่ เธอว่า เค้าเหมาะกับเราไหม"
"เค้าก้อหล่อดีนะ นิสัยดีด้วย "
"หรอ อืม อยากให้เค้ามาอยู่ข้างๆเราจังเลยเนอะ"

ต่อมาหญิงสาวก็ได้เป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นจิงๆ
วันนึงหญิงสาวบอกกับเพื่อนสนิทของตนว่า

"นี่ เธอไม่ต้องมาส่งเราทุกวันแล้วแหละ ตอนนี้เค้าจะมาส่งเราแล้ว
เราไม่อยากให้เค้าเข้าใจผิด"
"อืม" ฝ่ายชายตอบรับ และไม่ไปส่งหญิงสาวอีก

ต่อมาหญิงสาวทะเลาะกับแฟนของตน จึงมาปรึกษาเพื่อนชายว่า
"เธอ เด๋วนี้เขาไม่ค่อยสนใจเราเลยแหละ เธอว่า เราจะทำอย่างไรดีหล่ะ"
"ก้อ เธอยังรักเค้าอยู่หรือป่าวหล่ะ" ฝ่ายชายตอบ
"รักสิ รักมากด้วย"
"ถ้าอย่างนั้น ก็มอบความรักให้เขาต่อไปสิ ก้อเธอรักเค้านี่น่า"
"อืมม"

หญิงสาวทำตามคำแนะนำของฝ่ายชาย

หลังจากนั้น วันหนึ่ง ระหว่างที่เพื่อนชายหนุ่มเดินกลับบ้าน
เค้าเห็นหญิงสาวนั่งร้องไห้อยู่ข้างทาง

"เธอ เป็นอะไรหน่ะ ให้เราช่วยไหม"
"เค้าไม่รักเราเลยหล่ะ เขาเปลี่ยนไป เด๋วนี้เขาไม่เคยมาส่งเราที่บ้านเลย"
"แล้วเราจะช่วยอะไรเธอได้บ้างหล่ะ"
"ช่วยอยู่กับเราซักพักได้ไหม"หญิงสาวร้องขอ

ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันโดยไม่พูดอะไรเลย
ในที่สุดหญิงสาวก็เอ่ยขึ้น

"เราควรจะทำอย่างไรดี เธอจะช่วยเราได้ไหม ว่าเราควรจะทำอย่างไรดี"
"เธอยังรักเขาอยู่หรือป่าวหล่ะ"
"รักสิ เรารักเค้ามากเลย"
"ถ้าอย่างนั้นก้อรักเค้าต่อไปสิ"
"แต่เค้าไม่รักเราเลยนี่น่า" หญิงสาวร้องไห้โฮ
"แต่เธอก็รักเขาไม่ใช่หรอ"
และชายหนุ่มก็ส่งหญิงสาวที่บ้านอย่างที่เคยทำมาแต่ก่อน
"ถ้าเมื่อไหร่ที่เธออยากให้เรามาส่งเธอที่บ้าน อย่าลืมเรียกเรานะ"
"อืม" และหญิงสาวก็เดินขึ้นบ้านไป



ต่อมาวันหนึ่งชายหนุ่มได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาว

"เราไม่ไหวแล้ว ช่วยมารับเราที"

เสียงของหญิงสาวดูช่างอ่อนล้า และหมดกำลัง
เธอกำลังร้องไห้อย่างฟูมฟายอยู่
ชายหนุ่มไปหาเธอและไปรับเธอมาส่งบ้าน
เธอยังคงถามชายหนุ่มนั้นเมื่อที่เคยถามมา

"เราจะทำอย่างไรต่อไปดี"
"เธอเลิกรักเค้าแล้วหรอ"
"ป่าว เรายังรักเค้ามาก เรายังรักเขาอยู่"
"งั้นก็เหมือนที่เราเคยพูดไว้ รักเขาต่อไป
เพราะมันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะรักเธอไหม แต่ถ้าเธอยังรักเขา
เธอก็คงทำได้แค่รักเขาให้มากขึ้น ให้เขารู้ว่าเธอรักเขา"

วันที่เธอเรียนจบ เพื่อนชายหนุ่มของเธอมาแสดงความยินดีกับเธอ
เธอแปลกใจมากที่เพื่อนชายหนุ่มของเธอยังเรียนไม่จบ เธอถามเขาว่าทำไม
ชายหนุ่มตอบว่า เขาขี้เกียจไปหน่อย
ทำให้เขาต้องเรียนซ้ำวิชาหนึ่งจึงยังเรียนไม่จบ
หญิงสาวแปลกใจ เพราะตลอดมา ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนขยัน

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 13

โพสต์


ต่อมาแฟนหญิงสาวได้แต่งงานกับหญิงสาว
เนื่องด้วยเห็นถึงความรักที่หญิงสาวมีให้มากมาย
หญิงสาวได้ชวนเพื่อนของตนมางานแต่งของเธอ
"เราไม่ว่างจริงๆ
เราติดธุระหน่ะขอโทษนะ"เพื่อนชายตอบเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
หญิงสาวโกรธและเสียใจที่ชายหนุ่มไม่มางานแต่งจึงวางหูใส่
แต่หญิงสาวก็ต้องประหลาดใจเมื่อวันที่เธอแต่งงาน
ชายหนุ่มได้มาก่อนที่งานแต่งจะจบ

"ยินดีด้วยนะ เรามาแล้วนะ"

หญิงสาวดีใจมากที่เพื่อนของเธอมา ถึงจะเพียงชั่วเวลาสั้นๆ


ต่อมาหญิงสาวก็มีความสุขกับชีวิตแต่งงานจนไม่ได้ติดต่อกับชายหน ุ่ม
จนวันหนึ่งหญิงสาวได้ทะเลาะกับสามีของตน
หญิงสาวไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงนึกถึงชายหนุ่มขึ้นมา
แต่แม้ว่าหญิงสาวจะโทรไปเท่าไหร่
ก็ไม่สามารถติดต่อกับชายหนุ่มคนนั้นได้เลย

เขาจึงโทรหาเพื่อนของชายหนุ่มคนนั้น
เพื่อนของชายหนุ่มเล่าว่า ชายหนุ่มเป็นโรคร้าย เขาไม่สามารถไปไหนได้
ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาร่วมหลายเดือน
หญิงสาวตกใจมากถามว่าเป็นอะไร
เพื่อนชายหนุ่มบอกว่า อาการกำเริ่มเพราะวันที่ชายหนุ่มต้องมาผ่าตัด
ชายหนุ่มดันหายตัวไป
และเพื่อนชายยังบอกอีกว่า

"เป็นนิสัยเสียของมันหน่ะ มันชอบหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ในช่วงเวลาสำคัญๆ
คราวที่แล้วสอบไล่ ก็หายตัวไปจากห้องสอบ"

หญิงสาวตกใจมาก เลยขอที่อยู่ของโรงพยาบาลที่ชายหนุ่มรักษาตัว

หญิงสาวไปเยี่ยมชายหนุ่มที่โรงพยาบาล เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็ต้องตกใจ
ชายหนุ่มที่เคยดูแข็งแรง กับผอมซูบ ไม่มีแรง
เมื่อชายหนุ่มเห็นเธอก็ดีใจทักทายเธอเป็นการใหญ่

"เป็นอย่างไรมั้ง ไม่เจอกันตั้งนาน"

หญิงสาวนิ่งเงียบซักพักน้ำตาหญิงสาวก็ออกมา

"อ้าวร้องไห้ทำไมหล่ะ เธอหน่ะ ไปทะเลาะกับแฟนมาอีกแล้วหรอ
จะให้เราช่วยอะไรไหม แต่เราก็คงจะแนะนำเหมือนเดิมหน่ะ"

หญิงสาวเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วบอกกับชายหนุ่มว่า

"วันที่เธอมารับเราเป็นวันสอบไล่ใช่ไหม"
ชายหนุ่มทำหน้าตกใจและไม่กล้าพูดอะไรทั้งสิ้นกลับนิ่งเงียบไป
หญิงสาวจึงพูดต่อ

"และวันที่เธอต้องผ่าตัดใหญ่ เธอกลับมางานแต่งงานของฉันใช่ไหม"
ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว กลับนิ่งเงียบกว่าเดิม
หญิงสาวเข้าไปกอดชายหนุ่มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่น

"ตลอดเวลา เรารักแต่คนอื่น มองแต่คนอื่น
เรากลับไม่รู้เลยว่าเธอรักเรามากแค่ไหน
เรารู้สึกเสียใจจริงๆที่ไม่ได้รักเธอมากกว่านี้"
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ชายหนุ่มยิ้มขึ้นแล้วบอกกับหญิงสาวด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า

"เราบอกแล้วไง ถ้าเรารักใครซักคน เราก็ต้องรักเขาให้มากๆ
ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะรักเราหรือไม่หน่ะ
มันสำคัญแค่เพียงว่าเรายังรักเธออยู่หรือเปล่า แค่เราสามารถช่วยเธอได้
นั่นก็เป็นความสุขของเราแล้ว"

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 15

โพสต์

หญิงสาวรู้สึกเสียใจมาก นั่งร้องไห้โห่อยู่ที่ตักของชายหนุ่ม
ชายหนุ่มจึงพูดขึ้นว่า
"ถ้าเราหายเมื่อไหร่ เราจะไปส่งเธอที่บ้านอีกนะ"

อ่องอ๋า
Verified User
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ขอบคุณค่ะ
คุณแม่เพิ่งโดนกระชากกระเป๋าไป ตอนไปงานแต่งงานเหมือนในเรื่องเลย
แต่ไม่ได้ดึงแย่งกับคนร้าย เพราะเกิดเร็วมา คุณพ่อที่เดินอยู่ข้าง ๆ ยังไม่รู้เลย่ว่ากระเป๋าโดนกระชากไปแล้ว  :?
อีหนูตีแตก
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 17

โพสต์

อ่ะ ลิ้งค์นี้หรือค่ะคุณฉัตร

Mora รถพับจากสเปนครับ พับได้เจ๋งดีครับ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 3&t=187147
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 18

โพสต์

สวัสดีคุณ อ่องอ๋า ค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านกระทู้ค่ะ
คุณแม่ปลอดภัยก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ
ท่านคงตกใจและเสียขวัญนะคะ
ต้องพยายามปลอบใจในช่วงต้นๆ
ให้ท่านคลายกังวล ทำใจให้สบาย
เรื่องนี้เป้นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
ต่อไปจะต้องระมัดระวังมากขึ้น
อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน ปลอดภัยไว้ก่อน

ขอให้มีสติทุกครั้งขณะเดินทางนะคะ
ขอบคุณค่ะ
พอดีร้านเขาจะปิดร้านแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

..**..FW: ด้วยความเป็นห่วง สำคัญ!.. สำหรับผู้หญิง..**..

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอบคุณครับ เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ แค่ ผู้หญิืงครับ

ผู้ชาย ก็ได้ประโยชน์ ครับ

เวลา เกิดเหตุร้าย มันเกิดได้กับทุกคน
โพสต์โพสต์