เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 1
ผมไปเจอน้าคนหนึ่ง บนรถไฟฟรีเพื่อประชาชน
บ่นว่า รัฐบาล บริหารประเทศไม่ดี
(คงจะเหมาๆ ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา)
ทำให้เด็กจบ ป ตรี มาไม่มีมีงานทำ ต้องตกงานกันเป็นเบือ
ผมคิดว่า แต่ไม่กล้าพูดนะ
ว่า มันอยู่ที่ มาตรฐานมหาวิทยาลัย และ ความสามารถของเด็ก
ผมเคยไปเป็น ที่ปรึกษา โรงงาน แถว บางบ่อ
สมัครคนงาน 50 คน มีคนมาสมัคร 20 คน
แต่ รับเสมียนคนเดียว ป ตรี ยื่นสมัครมา 20 คน
บางคน จบ ป ตรี ภาษาอังกฤษ ไม่รู้เรื่องเลย
ทำไมเราต้องมีค่านิยมให้เด็กเรียน ป ตรี จนเยอะเกินไปด้วย
มหาวิทยาลัย แห่กัน เปิด หลักสูตร ผลิต บัณฑิต แต่ละปีๆ มากๆ
แต่ จบมาทำอะไรไม่เป็น ต้องมาตกงาน
เสียดายเงินพ่อแม่ บางคน ขายไร่ ขายนา หรือ ยอมเป็นหนี้กู้เงินมาส่งลูกเรียน
มหาวิทยาลัย รวยขึ้น สร้างตึกสวยๆ ด้วย ค่าหน่วยกิต ค่าบำรุงพิเศษ
พร้อมที่จะขยายจำนวนรับเพิ่มไปอีก
พ่อแม่ ผู้ปกครอง ก็พร้อมยอมจ่าย เพื่อ ให้ ลูกได้เรียน ป ตรี
พอจบมามาก เกินความต้องการ หรือ ไม่ได้มาตรฐานตามที่นายจ้างต้องการ
ต้องตกงาน รัฐบาลโดนด่า อีก
หรือจะให้ รัฐบาล เปิดหน่วยงานสาธารณกุศล รับคนเข้าทำงานเป็นการแก้ปัญหา
บ่นว่า รัฐบาล บริหารประเทศไม่ดี
(คงจะเหมาๆ ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา)
ทำให้เด็กจบ ป ตรี มาไม่มีมีงานทำ ต้องตกงานกันเป็นเบือ
ผมคิดว่า แต่ไม่กล้าพูดนะ
ว่า มันอยู่ที่ มาตรฐานมหาวิทยาลัย และ ความสามารถของเด็ก
ผมเคยไปเป็น ที่ปรึกษา โรงงาน แถว บางบ่อ
สมัครคนงาน 50 คน มีคนมาสมัคร 20 คน
แต่ รับเสมียนคนเดียว ป ตรี ยื่นสมัครมา 20 คน
บางคน จบ ป ตรี ภาษาอังกฤษ ไม่รู้เรื่องเลย
ทำไมเราต้องมีค่านิยมให้เด็กเรียน ป ตรี จนเยอะเกินไปด้วย
มหาวิทยาลัย แห่กัน เปิด หลักสูตร ผลิต บัณฑิต แต่ละปีๆ มากๆ
แต่ จบมาทำอะไรไม่เป็น ต้องมาตกงาน
เสียดายเงินพ่อแม่ บางคน ขายไร่ ขายนา หรือ ยอมเป็นหนี้กู้เงินมาส่งลูกเรียน
มหาวิทยาลัย รวยขึ้น สร้างตึกสวยๆ ด้วย ค่าหน่วยกิต ค่าบำรุงพิเศษ
พร้อมที่จะขยายจำนวนรับเพิ่มไปอีก
พ่อแม่ ผู้ปกครอง ก็พร้อมยอมจ่าย เพื่อ ให้ ลูกได้เรียน ป ตรี
พอจบมามาก เกินความต้องการ หรือ ไม่ได้มาตรฐานตามที่นายจ้างต้องการ
ต้องตกงาน รัฐบาลโดนด่า อีก
หรือจะให้ รัฐบาล เปิดหน่วยงานสาธารณกุศล รับคนเข้าทำงานเป็นการแก้ปัญหา
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 2
เยอะไม่ว่า แต่คุณภาพคนที่จบมานี่ซิน่าปวดหัว
เข้าใจว่าที่ดีมันก็มี ที่แย่ก็เยอะ ... แต่หลังๆเจอที่แย่เยอะกว่า :lol:
เอาง่ายๆ ส่งFax กะ ถ่ายเอกสาร ยังทำให้ป่วนไปทั้งบริษัท
ถึงว่าในใบสมัครงานตรงช่องความสามารถพิเศษ
ต้องกรอกด้วยว่า ส่งFax + ถ่ายเอกสารได้
มีคนมาตั้งกระทู้คล้ายๆพี่ตี๋ด้วยครับ
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/ ... 26129.html
เดี๋ยวผมก็จะเข้าไปบ่นซะหน่อย อิอิ
เข้าใจว่าที่ดีมันก็มี ที่แย่ก็เยอะ ... แต่หลังๆเจอที่แย่เยอะกว่า :lol:
เอาง่ายๆ ส่งFax กะ ถ่ายเอกสาร ยังทำให้ป่วนไปทั้งบริษัท
ถึงว่าในใบสมัครงานตรงช่องความสามารถพิเศษ
ต้องกรอกด้วยว่า ส่งFax + ถ่ายเอกสารได้
มีคนมาตั้งกระทู้คล้ายๆพี่ตี๋ด้วยครับ
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/ ... 26129.html
เดี๋ยวผมก็จะเข้าไปบ่นซะหน่อย อิอิ
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 3
[quote="Basketman"]เยอะไม่ว่า แต่คุณภาพคนที่จบมานี่ซิน่าปวดหัว
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- Sorgios
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 4
ฟังมาครับว่าที่ อเมริกาตอนนี้ นักเรียนที่จบไฮสกูล
ไม่เรียนต่อ ป.ตรี มากขึ้น แต่หันมาทำธุรกิจเลยครับ
ส่วนตัวคิดว่า ป.ตรี เป็นพื้นฐานสำหรับอนาคต แต่ไม่ใช่รับประกันอนาคต
อยากให้เด็กรุ่นใหม่ๆเลือกเรียนสิ่งที่ตัวเองสนใจและรักมากกว่าตามกระแสครับ
สอครับ
ไม่เรียนต่อ ป.ตรี มากขึ้น แต่หันมาทำธุรกิจเลยครับ
ส่วนตัวคิดว่า ป.ตรี เป็นพื้นฐานสำหรับอนาคต แต่ไม่ใช่รับประกันอนาคต
อยากให้เด็กรุ่นใหม่ๆเลือกเรียนสิ่งที่ตัวเองสนใจและรักมากกว่าตามกระแสครับ
สอครับ

CHIN UP, Do not give up !!!
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 6
เป็นเพราะหลักสูตรที่เค้าสอน มันไม่ match กับโลกความเป็นจริงก้อนหิน เขียน:มันเป็นที่วุฒิ ป ตรี หรือ เป็นเด็กที่จบมาไม่ตั้งใจเรียนแล้วทำให้ไม่มีคุณภาพอะครับ
เป็นเพราะ อาจารย์สอนแค่ทำตามหน้าที่ให้จบไปวันนึง
เป็นเพราะ เด็กไม่สนใจทำกิจกรรม ไม่หางานที่ต้องทำกับคน ช่วงปิดเทอม
เป็นเพราะ เด็กเรียนตามหน้าที่อย่างเดียว ขาดแรงจูงใจที่จะหาความรู้เพิ่ม
เป็นเพราะ เด็กชอบคิดว่า เรียนจบแล้ว ค่อยคิดเรื่องอนาคตการงาน
สรุปคือ โลกแคบ ไม่ค่อยรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
- Diablo
- Verified User
- โพสต์: 822
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 7
ผมว่ามันสืบเนื่องมาตั้งแต่การศึกษาก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก
พ่อแม่ทำงานๆ ส่งลูกเรียน ไม่มีเวลาให้ ส่งลูกเข้ากวดวิชาเพื่อให้ได้คะแนนสูงๆ
ขอยืมคำพูดมาพูดครับ คำพูดของใครไม่รู้ครับจำไม่ได้ - -"
"ถ้าโรงเรียนธรรมดาสอนให้เด็กมีความรู้ไม่ได้ ก็น่าจะปิดไปซะให้หมด เหลือไว้แต่โรงเรียนกวดวิชา"
พ่อแม่ทำงานๆ ส่งลูกเรียน ไม่มีเวลาให้ ส่งลูกเข้ากวดวิชาเพื่อให้ได้คะแนนสูงๆ
ขอยืมคำพูดมาพูดครับ คำพูดของใครไม่รู้ครับจำไม่ได้ - -"
"ถ้าโรงเรียนธรรมดาสอนให้เด็กมีความรู้ไม่ได้ ก็น่าจะปิดไปซะให้หมด เหลือไว้แต่โรงเรียนกวดวิชา"

-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 8
เรื่องเรียนจบ ป.ตรี แล้วคุณภาพต่างกันนี่
ผมว่าเป็นเรื่องปกติอะครับ
เพราะแม้แต่เด็กจบเกรดเฉลี่ยเท่ากัน
ความศักยภาพในการทำงานก็ไม่ได้เท่ากัน
และที่ทำให้ศักยภาพในการทำงานแตกต่างกันชัดเจน
ผมว่าเป็นเรื่องของ 'ทัศนะคติ' มากกว่า
ปล.
เคยได้ยินว่า ทัศนะคติ ที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคน
จะถูกปลูกฝั่งที่ช่วงอายุประมาณ 10 ปีครับ
ถ้าหลังจากนั้น จะดัดยาก
!!
ผมว่าเป็นเรื่องปกติอะครับ

เพราะแม้แต่เด็กจบเกรดเฉลี่ยเท่ากัน
ความศักยภาพในการทำงานก็ไม่ได้เท่ากัน
และที่ทำให้ศักยภาพในการทำงานแตกต่างกันชัดเจน
ผมว่าเป็นเรื่องของ 'ทัศนะคติ' มากกว่า
ปล.
เคยได้ยินว่า ทัศนะคติ ที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคน
จะถูกปลูกฝั่งที่ช่วงอายุประมาณ 10 ปีครับ
ถ้าหลังจากนั้น จะดัดยาก

-
- Verified User
- โพสต์: 525
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 9
เนื่องจากเป็นประสบการณ์ที่ผมผ่านมาแล้ว ก็คิดว่า คงให้ความเห็นได้
มหาลัยไม่ได้บอกนะครับ ว่าจบมาแล้ว คุณภาพเชิงลึกจะต้องดีเยี่ยม เค้าแค่บอกว่า ตามหลักสูตรนั้น คุณได้ผ่านแล้ว ถ้าคุณต้องไปทำอะไรตามวิชาชีพนั้นๆ คุณมีสิทธิ์ที่จะสำเร็จอยู่มาก
คนสองคน จบสาขาเดียวกัน อาจารย์ที่ปรึกษาเดียวกัน เกรดก็เท่ากัน เมเจอร์ ไม่เนอร์ ลงที่เดียวกันทุกตัว แต่ความคิด ความรับผิดชอบในสถานะการณ์ต่างๆ ที่ไม่ใช่ในขอบรั้วมหาลัย ไม่สามารถวัดกันได้หรอกครับ มันไม่มีทางเท่ากัน
ของแบบนี้ มีอะไรมาเกี่ยวข้่องอีกมาก สังคม สิ่งแวดล้อม ครอบครัว ประสบการณ์
ที่ผมพูดแบบนี้เพราะไม่อยากให้ตัดสินว่า อะไรดีไม่ดี จากระดับของการศึกษา แต่คนเราน่าจะมองที่ตัวของคน คนนั้นมากกว่าครับ
ผมมีเพื่อนอยู่ทุกมหาลัย และยืนยันได้ว่า ทุกที่การศึกษานั้น สร้างคนดีได้ และก็มีคนจำนวนนึง ที่สามารถทำงานได้ดีอีกด้วยครับ
มหาลัยไม่ได้บอกนะครับ ว่าจบมาแล้ว คุณภาพเชิงลึกจะต้องดีเยี่ยม เค้าแค่บอกว่า ตามหลักสูตรนั้น คุณได้ผ่านแล้ว ถ้าคุณต้องไปทำอะไรตามวิชาชีพนั้นๆ คุณมีสิทธิ์ที่จะสำเร็จอยู่มาก
คนสองคน จบสาขาเดียวกัน อาจารย์ที่ปรึกษาเดียวกัน เกรดก็เท่ากัน เมเจอร์ ไม่เนอร์ ลงที่เดียวกันทุกตัว แต่ความคิด ความรับผิดชอบในสถานะการณ์ต่างๆ ที่ไม่ใช่ในขอบรั้วมหาลัย ไม่สามารถวัดกันได้หรอกครับ มันไม่มีทางเท่ากัน
ของแบบนี้ มีอะไรมาเกี่ยวข้่องอีกมาก สังคม สิ่งแวดล้อม ครอบครัว ประสบการณ์
ที่ผมพูดแบบนี้เพราะไม่อยากให้ตัดสินว่า อะไรดีไม่ดี จากระดับของการศึกษา แต่คนเราน่าจะมองที่ตัวของคน คนนั้นมากกว่าครับ
ผมมีเพื่อนอยู่ทุกมหาลัย และยืนยันได้ว่า ทุกที่การศึกษานั้น สร้างคนดีได้ และก็มีคนจำนวนนึง ที่สามารถทำงานได้ดีอีกด้วยครับ
Commodity อย่ายึดติดกับราคา อย่าคิดว่าราคาปัจจุบันขึ้นมาจากเท่าไหร่ ให้มองว่า บริษัทที่ตนเองลงทุน มีพื้นฐาน demand และราคาของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างไร


-
- Verified User
- โพสต์: 112
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 10
เคยลองคิดเล่นว่า พวกเราน่าจะเริ่มทำงานตั้งแต่ อายุ 18 ไปเลย (ซึ่งหมายความว่าควรเรียนวิชาชีพให้เเสร็จก่อน 18
ส่วนปริญญาตรี ก็สำคัญ แต่ว่าใช้วิธี เรียนด้วย ทำงานด้วย เช่น เรียน 8 ปีจบ
แต่งงานตั้งแต่อายุ 18 เลย
ส่วนปริญญาตรี ก็สำคัญ แต่ว่าใช้วิธี เรียนด้วย ทำงานด้วย เช่น เรียน 8 ปีจบ
แต่งงานตั้งแต่อายุ 18 เลย
ด้วยความเคารพ
suriya
suriya
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 11
เมื่อเทียบย้อนหลังไป 40 ปีโครงสร้างสังคม และประชากรเปลี่ยนไปมากนะครับ
เดี๋ยวนี้แรงงานหาง่าย แรงงาน จช ตรีหาง่าย โท ยังหาไม่ยากเลย
เดี๋ยวนี้คนแย่งกันทำงาน หรือว่า ทำมาหากิน เพียบเลย
จบมาคุ้มป่าวกับค่าเรียนที่เรียนมา
ผู้ใหญ่ที่ทำการค้ามาหลายคนบอกว่าเมื่อก่อนทำมาหากินง่าย ค้าขายอะไรก็ได้ เดี๋ยวนี้ยาก คิดไม่ออก
สังคมเปลี่ยนไป อยากจะรอดต้องปรับตัวได้ครับ
กฎของใครหนอที่ว่า
ผู้ที่จะรอด ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงที่สุด ไม่ใช่ผู้ที่ฉลาดที่สุด แต่เป็นผู้ที่ปรับตัวได้ดีที่สุด
เดี๋ยวนี้แรงงานหาง่าย แรงงาน จช ตรีหาง่าย โท ยังหาไม่ยากเลย
เดี๋ยวนี้คนแย่งกันทำงาน หรือว่า ทำมาหากิน เพียบเลย
จบมาคุ้มป่าวกับค่าเรียนที่เรียนมา
ผู้ใหญ่ที่ทำการค้ามาหลายคนบอกว่าเมื่อก่อนทำมาหากินง่าย ค้าขายอะไรก็ได้ เดี๋ยวนี้ยาก คิดไม่ออก
สังคมเปลี่ยนไป อยากจะรอดต้องปรับตัวได้ครับ
กฎของใครหนอที่ว่า
ผู้ที่จะรอด ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงที่สุด ไม่ใช่ผู้ที่ฉลาดที่สุด แต่เป็นผู้ที่ปรับตัวได้ดีที่สุด
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 12
ความรู้มันไม่ใช่อยู่แต่ในกรอบของห้องเรียน
อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
คนที่ทำงานผมจบจากที่เดียวกันคณะเดียวกันสาขาเดียวกัน
คนหนึ่งให้งานไป เมื่อเกิดปัญหา ไม่แก้ไขปัญหา ยอมแพ้ กลับไปทำงานแบบเดิม
อีกคนหนึ่ง เจอปัญหา ก็ทำปัญหาเป็นสิ่งที่ท้าทาย หาทุกอย่างทำให้แก้ไขปัญหานั้นๆ จนปัญหานั้นไม่เกิดขึ้นอีก แถมได้ิสิ่งใหม่อีกต่างหาก
แบบนี้บอกได้ไหมว่า ป.ตรีไม่มีความสามารถ
เอาอีก CASE หนึ่ง
คนหนึ่งจบจาก ม.รัฐที่โดดเด่น
อีกคนจบจาก ม.เอกชน ชื่อยังไม่ค่อยรู้จัก
คุณว่า สังคมคาดหวังใครมากกว่ากัน
สิ่งนี้หรือเปล่าเป็นแรงกดดันทำให้เกิดความเครียดแก่บุคคล

อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
คนที่ทำงานผมจบจากที่เดียวกันคณะเดียวกันสาขาเดียวกัน
คนหนึ่งให้งานไป เมื่อเกิดปัญหา ไม่แก้ไขปัญหา ยอมแพ้ กลับไปทำงานแบบเดิม
อีกคนหนึ่ง เจอปัญหา ก็ทำปัญหาเป็นสิ่งที่ท้าทาย หาทุกอย่างทำให้แก้ไขปัญหานั้นๆ จนปัญหานั้นไม่เกิดขึ้นอีก แถมได้ิสิ่งใหม่อีกต่างหาก
แบบนี้บอกได้ไหมว่า ป.ตรีไม่มีความสามารถ
เอาอีก CASE หนึ่ง
คนหนึ่งจบจาก ม.รัฐที่โดดเด่น
อีกคนจบจาก ม.เอกชน ชื่อยังไม่ค่อยรู้จัก
คุณว่า สังคมคาดหวังใครมากกว่ากัน
สิ่งนี้หรือเปล่าเป็นแรงกดดันทำให้เกิดความเครียดแก่บุคคล


-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 13
เคยได้ยินมาพักนึงครับ
ว่าประเทศไทย การศึกษาขั้นต่ำ ระดับปริญญา นั้นยังต่ำกว่า หลายประเทศ
ประกอบกับเด็กเอ็นทรานซ์ ช่วงก่อนหน้านี้ ฮิตมาก เรื่องไม่ติดแล้ว ฆ่าตัวตาย
แนวทางแก้ไข ที่เห็นชัดๆ คือ
ปรับ ราชภัฏ วิลัยครู ให้มีวุฒิ เป็นปริญญาตรี
ปรับ เทคโน ให้เป็น มหาวิทยาลัยเทคโนราชมงคง
ปรับการสอบ ให้เป็น โอเน็ต เอเน็ต วุ่นวาย
มีมหาวิทยาลัย เอกชนรองรับ เยอะมากขึ้น
ระดับคนจบ ปริญญาตรีเยอะมากขึ้นแก้ปัญหาได้ตรงจุด แต่ คุณภาพ ไม่ได้เรื่องเลย ครับ
มันไม่ได้อยู่ที่คนครับ คนต้องปรับเข้าหาระบบ แต่ระบบที่เปลี่ยนไปมันทำให้คุณภาพ อ่อนลงมาก
ถ้าระบบแข็ง คนที่จบออกมา ต่อให้เป็น ปวส.ก็เป็น ปวส.ที่มีคุณภาพ ครับ
ผมว่าระบบมันต้องแข็งไว้ก่อน ไม่ใช่ ปรับการศักษาขั้นต่ำ แบบนี้
ว่าประเทศไทย การศึกษาขั้นต่ำ ระดับปริญญา นั้นยังต่ำกว่า หลายประเทศ
ประกอบกับเด็กเอ็นทรานซ์ ช่วงก่อนหน้านี้ ฮิตมาก เรื่องไม่ติดแล้ว ฆ่าตัวตาย
แนวทางแก้ไข ที่เห็นชัดๆ คือ
ปรับ ราชภัฏ วิลัยครู ให้มีวุฒิ เป็นปริญญาตรี
ปรับ เทคโน ให้เป็น มหาวิทยาลัยเทคโนราชมงคง
ปรับการสอบ ให้เป็น โอเน็ต เอเน็ต วุ่นวาย
มีมหาวิทยาลัย เอกชนรองรับ เยอะมากขึ้น
ระดับคนจบ ปริญญาตรีเยอะมากขึ้นแก้ปัญหาได้ตรงจุด แต่ คุณภาพ ไม่ได้เรื่องเลย ครับ
มันไม่ได้อยู่ที่คนครับ คนต้องปรับเข้าหาระบบ แต่ระบบที่เปลี่ยนไปมันทำให้คุณภาพ อ่อนลงมาก
ถ้าระบบแข็ง คนที่จบออกมา ต่อให้เป็น ปวส.ก็เป็น ปวส.ที่มีคุณภาพ ครับ
ผมว่าระบบมันต้องแข็งไว้ก่อน ไม่ใช่ ปรับการศักษาขั้นต่ำ แบบนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 883
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 14
miracle เขียน:ความรู้มันไม่ใช่อยู่แต่ในกรอบของห้องเรียน
อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
โอ้ เห็นด้วยครับ
คนที่ทำงานผมจบจากที่เดียวกันคณะเดียวกันสาขาเดียวกัน
คนหนึ่งให้งานไป เมื่อเกิดปัญหา ไม่แก้ไขปัญหา ยอมแพ้ กลับไปทำงานแบบเดิม
อีกคนหนึ่ง เจอปัญหา ก็ทำปัญหาเป็นสิ่งที่ท้าทาย หาทุกอย่างทำให้แก้ไขปัญหานั้นๆ จนปัญหานั้นไม่เกิดขึ้นอีก แถมได้ิสิ่งใหม่อีกต่างหาก
แบบนี้บอกได้ไหมว่า ป.ตรีไม่มีความสามารถ
เอาอีก CASE หนึ่ง
คนหนึ่งจบจาก ม.รัฐที่โดดเด่น
อีกคนจบจาก ม.เอกชน ชื่อยังไม่ค่อยรู้จัก
คุณว่า สังคมคาดหวังใครมากกว่ากัน
สิ่งนี้หรือเปล่าเป็นแรงกดดันทำให้เกิดความเครียดแก่บุคคล
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วย ชีวิตรันทด ของนักศึกษาปริญญาเอก
โพสต์ที่ 15
ตอนนี้กำลังมึนๆ งงๆ กับตัวเอง
มาเรียนดร.จะได้อะไรกลับไปมั้ย ก็อยู่ที่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเนี่ยแหละ
กำลังนั่ง Design ระบบ คิดไปคิดว่า ขัดแย้งในตัวเองบ้าง บางทีก็คิดว่ามันใหม่ชัวร์ แต่สักพัก...เอ...มันน่าจะมีคนทำแล้ว ค้นๆๆ หาๆๆ ใครทำอะไรกันไว้แล้วบ้างนะในโลกนี้
ที่กำลังลนลานอยู่นี้ เพราะกำลังจะต้อง Present กำลังจะต้องเขียนโปรแกรม ฮืม...แค่คิดก็เครียดลงกระเพาะซะแล้ว
พักงานไว้ชั่วคราว เข้ามานั่งอ่าน G2K วันนี้ G2K ค่อยเร็วขึ้นค่อย หลายวันมานี่อืดอาดมาก คงจากที่เรื่องของ JavaScript ต่างประเทศ เรื่องของการบล๊อค...
นักเรียนปริญญาเอกที่นี่เค้าคิดอะไรกันนะ
ไปตามสอบถาม...และสัมภาษณ์ในเชิงทัศนคติ ได้ความว่า
มาเรียนต่อ เพราะเรียนจบโทมาแล้วต้องต่อให้จบเอก จะได้เสร็จเรื่อง เพื่อนชาวเกาหลีแสดงความเห็น
มาเรียนต่อ เพื่อจะได้กลับไปทำงานในหน้าที่การงานดีๆ เพื่อนชาวไต้หวันกล่าว
เรียนให้จบๆ แล้วจะได้กลับไปทำงานใช้ทุน เพื่อนชาวไทยเพิ่งมีลูกกล่าว
ไม่ได้สิ ผลงานของเราที่ทำ มันต้องใหม่ ต้องให้โลกรู้จักคนไทย เพื่อนชาวไทยในอเมริกากล่าว ทุกวันนี้ก็ลด spec ของงานตัวเองลงมาแล้ว กลัวจะต้องสร้างโลกด้วยสองมือข้า
หลายคนก่อนมาเรียน มีพลังกายและใจเกิน 200 วันเวลาผ่านไป ชักหนึดๆ ฮืม 90 ถึงอยู่มั้ยนะ
อุปสรรคต่างๆ บางครั้งเกิดจากสิ่งรอบข้าง (อุปสรรคที่ตัวเอง ต้องแก้เองอยู่แล้ว)
Supervisor ย้ายมหาวิทยาลัย ย้ายประเทศก็มี เพื่อนฮ่องกงย้ายตามซุปมาจาก UK อยู่ออสเตรเลียกล่าว ด้วยอาการจำใจ
ซุปของใครหลายๆ คนที่นี่ ย้ายไปโน้นไปนี่ เด็กก็มีตามมั่งไม่ตามมั่ง
หัวข้อที่คิดจะทำ เปลี่ยนไปนิดๆ หน่อยๆ จนถึงมากๆ ก็ว่ากันไป
แต่ยังไง ชีวิตนักศึกษาปริญญาเอก ที่ได้แน่ๆ คือวิชาเอาตัว(ให้)รอด (รึเปล่านะ)
http://gotoknow.org/blog/tigger/85383
มาเรียนดร.จะได้อะไรกลับไปมั้ย ก็อยู่ที่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเนี่ยแหละ
กำลังนั่ง Design ระบบ คิดไปคิดว่า ขัดแย้งในตัวเองบ้าง บางทีก็คิดว่ามันใหม่ชัวร์ แต่สักพัก...เอ...มันน่าจะมีคนทำแล้ว ค้นๆๆ หาๆๆ ใครทำอะไรกันไว้แล้วบ้างนะในโลกนี้
ที่กำลังลนลานอยู่นี้ เพราะกำลังจะต้อง Present กำลังจะต้องเขียนโปรแกรม ฮืม...แค่คิดก็เครียดลงกระเพาะซะแล้ว
พักงานไว้ชั่วคราว เข้ามานั่งอ่าน G2K วันนี้ G2K ค่อยเร็วขึ้นค่อย หลายวันมานี่อืดอาดมาก คงจากที่เรื่องของ JavaScript ต่างประเทศ เรื่องของการบล๊อค...
นักเรียนปริญญาเอกที่นี่เค้าคิดอะไรกันนะ
ไปตามสอบถาม...และสัมภาษณ์ในเชิงทัศนคติ ได้ความว่า
มาเรียนต่อ เพราะเรียนจบโทมาแล้วต้องต่อให้จบเอก จะได้เสร็จเรื่อง เพื่อนชาวเกาหลีแสดงความเห็น
มาเรียนต่อ เพื่อจะได้กลับไปทำงานในหน้าที่การงานดีๆ เพื่อนชาวไต้หวันกล่าว
เรียนให้จบๆ แล้วจะได้กลับไปทำงานใช้ทุน เพื่อนชาวไทยเพิ่งมีลูกกล่าว
ไม่ได้สิ ผลงานของเราที่ทำ มันต้องใหม่ ต้องให้โลกรู้จักคนไทย เพื่อนชาวไทยในอเมริกากล่าว ทุกวันนี้ก็ลด spec ของงานตัวเองลงมาแล้ว กลัวจะต้องสร้างโลกด้วยสองมือข้า
หลายคนก่อนมาเรียน มีพลังกายและใจเกิน 200 วันเวลาผ่านไป ชักหนึดๆ ฮืม 90 ถึงอยู่มั้ยนะ
อุปสรรคต่างๆ บางครั้งเกิดจากสิ่งรอบข้าง (อุปสรรคที่ตัวเอง ต้องแก้เองอยู่แล้ว)
Supervisor ย้ายมหาวิทยาลัย ย้ายประเทศก็มี เพื่อนฮ่องกงย้ายตามซุปมาจาก UK อยู่ออสเตรเลียกล่าว ด้วยอาการจำใจ
ซุปของใครหลายๆ คนที่นี่ ย้ายไปโน้นไปนี่ เด็กก็มีตามมั่งไม่ตามมั่ง
หัวข้อที่คิดจะทำ เปลี่ยนไปนิดๆ หน่อยๆ จนถึงมากๆ ก็ว่ากันไป
แต่ยังไง ชีวิตนักศึกษาปริญญาเอก ที่ได้แน่ๆ คือวิชาเอาตัว(ให้)รอด (รึเปล่านะ)
http://gotoknow.org/blog/tigger/85383
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 17
ชอบประโยคนี้มากคับ : ))san เขียน:ผู้ที่จะรอด ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงที่สุด ไม่ใช่ผู้ที่ฉลาดที่สุด แต่เป็นผู้ที่ปรับตัวได้ดีที่สุด
เห็นด้วยอย่างยิ่งคับ มันมีปัจจัยกำหนดเยอะมากๆsoraroz เขียน:คนสองคน จบสาขาเดียวกัน อาจารย์ที่ปรึกษาเดียวกัน เกรดก็เท่ากัน เมเจอร์ ไม่เนอร์ ลงที่เดียวกันทุกตัว แต่ความคิด ความรับผิดชอบในสถานะการณ์ต่างๆ ที่ไม่ใช่ในขอบรั้วมหาลัย ไม่สามารถวัดกันได้หรอกครับ มันไม่มีทางเท่ากัน
ของแบบนี้ มีอะไรมาเกี่ยวข้่องอีกมาก สังคม สิ่งแวดล้อม ครอบครัว ประสบการณ์
จริงๆแล้วผมค่อนข้างให้น้ำหนักกับตัวบุคคลนะครับteetotal เขียน: มันอยู่ที่ มาตรฐานมหาวิทยาลัย และ ความสามารถของเด็ก
ผมเคยไปเป็น ที่ปรึกษา โรงงาน แถว บางบ่อ
สมัครคนงาน 50 คน มีคนมาสมัคร 20 คน
แต่ รับเสมียนคนเดียว ป ตรี ยื่นสมัครมา 20 คน
บางคน จบ ป ตรี ภาษาอังกฤษ ไม่รู้เรื่องเลย
คนจะดีจะไม่ดี จะเก่งจะไม่เก่ง อยู่ที่คนคนนั้น 80-90%
แต่บางครั้ง ผมคิดว่าสถาบันการศึกษาก็ปล่อยให้เด็กจบง่ายเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการทดสอบ เพื่อจะวัดว่าเด็กมีความสามารถจริงไหม
ถ้าเด็กไม่มีความสามารถ และไม่ผ่านการทดสอบ ก็ควรจะมีการสอนเพิ่มเติม
ให้เด็กมีความรู้ความสามารถมากขึ้นจนสามารถนำไปใช้ได้จริง
มากกว่าปล่อยผ่าน โดยการให้ซ่อม ให้แก้ ซึ่งเด็กอาจจะสอบผ่าน
ได้คะแนนเกินเกณฑ์ แต่ก็ผ่านแบบไม่มีความรู้ทีจะเอาไปใช้ได้ ...
นอกจากนั้นค่านิยมในเรื่องการทำเกรดเฉลี่ยให้ได้สูงๆ
ก็ส่งผลให้เด็กบางคน ให้ความสำคัญกับคะแนนมากกว่าความรู้ที่ได้
เห็นได้จาก เวลาสอบ จะทำสอบได้คะแนนดี แต่พอออกจากห้องสอบ
เด็กก็จะลืม และทิ้งความรู้เกือบทั้งหมดที่ได้เรียนได้สอบ
จะกลับไปทบทวนอีกครั้งก็ต่อเมื่อมีการสอบครั้งหน้า
หรือต้องเอาไปใช้ทำงานจริงๆหลังเรียนจบเท่านั้น
เพราะเป้าหมายไม่ใช่การมีความรู้(ที่แตกฉานและประยุกต์ได้)ติดตัว
แต่เป็นการทำ GPA ให้ได้สูงๆ
เพื่อให้ได้เกียรตินิยม การนับน่าถือตาจากสังคม คำชมเชย ฯลฯ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 18
เป็นเพราะหลักสูตรที่เค้าสอน มันไม่ match กับโลกความเป็นจริงVoldtrest เขียน:
เป็นเพราะ อาจารย์สอนแค่ทำตามหน้าที่ให้จบไปวันนึง
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 19
เห็นด้วยครับSorgios เขียน:ฟังมาครับว่าที่ อเมริกาตอนนี้ นักเรียนที่จบไฮสกูล
ไม่เรียนต่อ ป.ตรี มากขึ้น แต่หันมาทำธุรกิจเลยครับ
ส่วนตัวคิดว่า ป.ตรี เป็นพื้นฐานสำหรับอนาคต แต่ไม่ใช่รับประกันอนาคต
อยากให้เด็กรุ่นใหม่ๆเลือกเรียนสิ่งที่ตัวเองสนใจและรักมากกว่าตามกระแสครับ
สอครับ
เพราะถ้าจบมาแล้วไม่มีคุณภาพ
เสียเวลา4ปีไปทำไมครับ
สมมติว่าค่าเทอมปีละแสน
4ปี
นำมาลงทุนด้วยผลตอบแทนทบต้น10%
100000*4.641=464100
แถมไม่ต้องมานั่งทำโปรเจ็ก
โดนแอดไวเซอร์ด่าเช้ากลางวันเย็นก่อนนอน
จบมาก็ทำอะไรไม่เป็น
จริงมั้ยครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 20
chowbe76 เขียน:แถมไม่ต้องมานั่งทำโปรเจ็ก โดนแอดไวเซอร์ด่าเช้ากลางวันเย็นก่อนนอนจบมาก็ทำอะไรไม่เป็นจริงมั้ยครับ
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
จริงครึ่งเดียวครับ
ด้านดีของมันก็มีนะครับ ทักษะที่ได้จากการทำโปรเจค ทำให้เราขายไอเดียได้น่าเชื่อถือกว่าความเป็นจริง ผมได้งานที่เงินเดือนสูงขึ้นก็เพราะสิ่งนี้ครับ
ส่วนเรื่องโขกสับ รีดแรงงานของ นศ. ให้ทำงานวิจัยของตนให้ออกมางามๆ
ซึ่งผลงานที่ได้สามารถนำไปขอขึ้นตำแหน่งทางวิชาการ เพิ่มเงินเดือนได้ทางอ้อม แต่โดยรวม Adviser ของผม ก็ดีกับผมมาก เคยให้เป็น co-adviser ช่วยสอนนักศึกษาทำแลป ได้เงินเดือน 7,630 บาทในช่วงที่จบใหม่ๆแล้วว่างงาน
ปล. ช่วงก่อนรับปริญญา ท่านให้ธนบัตร 50$ สหรัฐมาใบนึง พร้อมกับการ์ด
อวยพรใส่ซองมา เป็นปลื้มเลยครับ ความเหนื่อยหายไปชั่วขณะเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 21
ผมว่าสมัยนี้มีเกลื่อนจริงๆนะแหละครับ
ไม่ต้องพูดถึง ป.ตรี
เอาแค่ MBA ก็เดินชนไหล่กันแล้ว
มันเป็นค่านิยม ที่ฝังไปในวิถีชีวิตแล้วแหละครับ
การเรียนขบได้ปริญญาเนี่ย
แต่คุณภาพของบัณฑิตนั้นก็อีกเรื่องนึง
เพราะว่านักศึกษา หรือ เด็กส่วนใหญ่ น้อยคนครับที่จะรู้ว่าตัวเองชอบอะไรก่อนเข้ามหาลัย
เข้าไปเรียนก่อนแล้วค่อยรู้ทั้งนั้น
แต่ส่วนใหญ่ก็มีมารู้ว่าตัวเองชอบอะไรตอนทำงานแล้ว
เวลาผ่านเลยไปก็กล้ำกลืนฝืนทนทำงาน
งานก็เลยออกมาไม่ดี
ทำแบบไปวันๆ เซ็งชีวิต
ยกตัวอย่างกลุ่มเพื่อนผมเลยก็ได้
ตอนเข้าปี 1 อาจารย์คณะเชียร์เด็กให้เรียนบัญชีมาก ( ไม่รู้เป็นอะไร )
พวกกลุ่มผมก็เรียนบัญชีตัวแรกตอนปี 1 เทอมหนึ่ง
ปรากฏว่าคะแนนออกมาดีมาก
ก็คิดว่าบัญชีมันหมู
ก็เฮโลกันไปลงบัญชีเป็นวิชาเอก
( เฮโล effect ตาม fi.ว่าไว้นั่นแหละครับ )
กลายเป้นว่าลงเรียนไปก็เจอเลยครับ
ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปี 4 ทำงบแทบไม่เคยลงตัว
บางคนก็บ่น กูน่าจะไปเรียน การจัดการ
กูน่าจะไปเรียนไฟแนนซ์ , การตลาด
กูน่าจะไปเรียน 'ถาปัตย์
ไม่น่ามาเรียนบัญชีเล๊ย
ทั้งกลุ่มสิบกว่าคน จบออกมาไม่มีใครทำงานสายบัญชีสักคน
ก็ยังดีนะครับที่รู้ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วเบนสายตัวเองมาทำงานอื่นได้ทัน
ไม่งั้นประเทศไทยก็คงมีนักบัญชีห่วยๆเพิ่มหลายคน
ส่วนเรื่องคุณภาพคน
จากทัศนคติก็ส่วนหนึ่งครับ
เท่าที่ดูเพื่อนร่วมงานรุ่นราวคราวเดียวกันหรือรุ่นน้อง
ก็พบว่าแก้ปัญหาไม่เป็น
ไม่ยอมใช้ความคิดครับ
บางทีผมเจอก็รมณ์เสียเหมือนกัน
ไม่คิด คิดไม่ได้ หรือไม่ยอมใช้ความคิด
คือเราชินกับการแก้โจทย์ตายตัว
พอมาเจอปัญหาในชีวิจการทำงานจริงมัน ดิ้นได้ครับ
ทำงานกับคน ปัญหามันมาเรื่อยๆแหละครับ
แต่พวกนี้จะติดตรงที่หากอะไรพลิกไป จะตันทำอะไรไม่ถูกทันที
เพราะงั้นส่วนใหญ่ก็เลยได้แค่ถ่ายเอกสาร ส่งแฟ็กซ์ ชงกาแฟ
ไม่ต้องพูดถึง ป.ตรี
เอาแค่ MBA ก็เดินชนไหล่กันแล้ว
มันเป็นค่านิยม ที่ฝังไปในวิถีชีวิตแล้วแหละครับ
การเรียนขบได้ปริญญาเนี่ย
แต่คุณภาพของบัณฑิตนั้นก็อีกเรื่องนึง
เพราะว่านักศึกษา หรือ เด็กส่วนใหญ่ น้อยคนครับที่จะรู้ว่าตัวเองชอบอะไรก่อนเข้ามหาลัย
เข้าไปเรียนก่อนแล้วค่อยรู้ทั้งนั้น
แต่ส่วนใหญ่ก็มีมารู้ว่าตัวเองชอบอะไรตอนทำงานแล้ว
เวลาผ่านเลยไปก็กล้ำกลืนฝืนทนทำงาน
งานก็เลยออกมาไม่ดี
ทำแบบไปวันๆ เซ็งชีวิต
ยกตัวอย่างกลุ่มเพื่อนผมเลยก็ได้
ตอนเข้าปี 1 อาจารย์คณะเชียร์เด็กให้เรียนบัญชีมาก ( ไม่รู้เป็นอะไร )
พวกกลุ่มผมก็เรียนบัญชีตัวแรกตอนปี 1 เทอมหนึ่ง
ปรากฏว่าคะแนนออกมาดีมาก
ก็คิดว่าบัญชีมันหมู
ก็เฮโลกันไปลงบัญชีเป็นวิชาเอก
( เฮโล effect ตาม fi.ว่าไว้นั่นแหละครับ )
กลายเป้นว่าลงเรียนไปก็เจอเลยครับ
ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปี 4 ทำงบแทบไม่เคยลงตัว
บางคนก็บ่น กูน่าจะไปเรียน การจัดการ
กูน่าจะไปเรียนไฟแนนซ์ , การตลาด
กูน่าจะไปเรียน 'ถาปัตย์
ไม่น่ามาเรียนบัญชีเล๊ย
ทั้งกลุ่มสิบกว่าคน จบออกมาไม่มีใครทำงานสายบัญชีสักคน
ก็ยังดีนะครับที่รู้ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วเบนสายตัวเองมาทำงานอื่นได้ทัน
ไม่งั้นประเทศไทยก็คงมีนักบัญชีห่วยๆเพิ่มหลายคน
ส่วนเรื่องคุณภาพคน
จากทัศนคติก็ส่วนหนึ่งครับ
เท่าที่ดูเพื่อนร่วมงานรุ่นราวคราวเดียวกันหรือรุ่นน้อง
ก็พบว่าแก้ปัญหาไม่เป็น
ไม่ยอมใช้ความคิดครับ
บางทีผมเจอก็รมณ์เสียเหมือนกัน
ไม่คิด คิดไม่ได้ หรือไม่ยอมใช้ความคิด
คือเราชินกับการแก้โจทย์ตายตัว
พอมาเจอปัญหาในชีวิจการทำงานจริงมัน ดิ้นได้ครับ
ทำงานกับคน ปัญหามันมาเรื่อยๆแหละครับ
แต่พวกนี้จะติดตรงที่หากอะไรพลิกไป จะตันทำอะไรไม่ถูกทันที
เพราะงั้นส่วนใหญ่ก็เลยได้แค่ถ่ายเอกสาร ส่งแฟ็กซ์ ชงกาแฟ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 22
แปลกจังครับ
ทำไมคนรุ่นจบก่อนนี้ซัก 40 ปี คือคนที่จบปี ประมาณ 2510 ก็จะบ่นคนจบรุ่น 2520 หรือ 2530 ว่า ห่วยลงทุกวันเมื่อเทียบกับรุ่นของตัวเอง
พอตอนนี้ปี 2553 คนรุ่นที่จบประมาณ 2520 หรือ 2530 หรือ 2540 ก็จะมาบ่นว่าคนรุ่น 2550 มันห่วย
ตกลงประเทศเราพัฒนาลงใช่ป่าวครับ อิอิอิ
จะได้ส่งลูกไปเรียนที่โลกพระจันทร์
เพราะว่า 2510 ดีกว่า 2530
แล้ว 2530 ดีกว่า 2550
โลกนี่เป็นอะไรกันเนี่ย
มนุษย์ แปลว่าอะไรหว่า
เด็กจบราม ยังสอบวัดผลวิชาทางกฏหมายได้ไม่แพ้คนจบจุฬาเลย ราม จุฬา ธรรมศาสตร์ ผลัดกันชนะไปมา
หรือว่า น่าจะมีสถาบันกลางสอบวัดผลอีกที หลังจากจบ เหมือนทางกฏหมาย เนอะ
จะได้ไม่โดนทัศนะคติของชุมชน วิจารณ์โดยที่ ความเป็นจริงเป็นอย่างไร แน่ใจ เหรอ ว่าคนอื่นหวย
ลูกน้องเก่าผม ตอนนี้เขาใกล้ 40 แล้ว
จบ ปวช เอกชน
ปวส เอกชน
ป ตรี เอกชน ในประเทศ
จบทางสายวิศวกรรม
ตอนนี้มีใบ certificate ของการทำงาน ของ หน่วยงานระหว่างประเทศ
ลูกน้องเก่า คนนี่ ตอนนี้ เงินเดือนเขาหลายแสน
มาฟังตอนที่เขา วิจารณ์ เด็กจบ มหาลัย top 1 ของไทย แบบน้ำลายออกเป็นฟอง ท่าทางเขาสนุกปาก ทุกที
ฟังแล้วส่ายหัว รู้แต่ว่า ถ้าแต่ละคนเอาตัวเองเป็นฐาน แล้ววิจารณ์คนอื่นสนุกทุกที
โลกเราก็เท่านี้
ทำไมคนรุ่นจบก่อนนี้ซัก 40 ปี คือคนที่จบปี ประมาณ 2510 ก็จะบ่นคนจบรุ่น 2520 หรือ 2530 ว่า ห่วยลงทุกวันเมื่อเทียบกับรุ่นของตัวเอง
พอตอนนี้ปี 2553 คนรุ่นที่จบประมาณ 2520 หรือ 2530 หรือ 2540 ก็จะมาบ่นว่าคนรุ่น 2550 มันห่วย
ตกลงประเทศเราพัฒนาลงใช่ป่าวครับ อิอิอิ
จะได้ส่งลูกไปเรียนที่โลกพระจันทร์
เพราะว่า 2510 ดีกว่า 2530
แล้ว 2530 ดีกว่า 2550
โลกนี่เป็นอะไรกันเนี่ย
มนุษย์ แปลว่าอะไรหว่า
เด็กจบราม ยังสอบวัดผลวิชาทางกฏหมายได้ไม่แพ้คนจบจุฬาเลย ราม จุฬา ธรรมศาสตร์ ผลัดกันชนะไปมา
หรือว่า น่าจะมีสถาบันกลางสอบวัดผลอีกที หลังจากจบ เหมือนทางกฏหมาย เนอะ
จะได้ไม่โดนทัศนะคติของชุมชน วิจารณ์โดยที่ ความเป็นจริงเป็นอย่างไร แน่ใจ เหรอ ว่าคนอื่นหวย
ลูกน้องเก่าผม ตอนนี้เขาใกล้ 40 แล้ว
จบ ปวช เอกชน
ปวส เอกชน
ป ตรี เอกชน ในประเทศ
จบทางสายวิศวกรรม
ตอนนี้มีใบ certificate ของการทำงาน ของ หน่วยงานระหว่างประเทศ
ลูกน้องเก่า คนนี่ ตอนนี้ เงินเดือนเขาหลายแสน
มาฟังตอนที่เขา วิจารณ์ เด็กจบ มหาลัย top 1 ของไทย แบบน้ำลายออกเป็นฟอง ท่าทางเขาสนุกปาก ทุกที
ฟังแล้วส่ายหัว รู้แต่ว่า ถ้าแต่ละคนเอาตัวเองเป็นฐาน แล้ววิจารณ์คนอื่นสนุกทุกที
โลกเราก็เท่านี้
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 23
มีคนจบ ป ตรี เยอะๆสิ ดีแล้วครับ
โดยรวมแล้ว มันมีค่าของมันเองอยู่ในตัว
ญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ตามสถิติ จากไหน จำไม่ได้ครับ
บอกว่า จำนวนคนของเขาที่จบ ม ปลาย เกิน 90 % ของจำนวนประชากร
ความรู้ การศึกษา ในระบบ ยิ่งมีมาก ยิ่งดีนี่นา
ส่วนใครเก่งกว่า อันนี้ไม่รู้ครับ
เอาพวก top 5 ในชั้น มาวิจารณ์พวก อันดับ 20 ยังไง อันดับ 20 ก็ห่วยกว่า
แต่ว่า ถ้าอันดับ 20 มันผ่านเกณท์ ก็คือ....ผ่าน
แต่ถ้าบอกว่าเกณท์ห่วยอีก งั้นก็ไปแก้....เกณท์
โดยรวมแล้ว มันมีค่าของมันเองอยู่ในตัว
ญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ตามสถิติ จากไหน จำไม่ได้ครับ
บอกว่า จำนวนคนของเขาที่จบ ม ปลาย เกิน 90 % ของจำนวนประชากร
ความรู้ การศึกษา ในระบบ ยิ่งมีมาก ยิ่งดีนี่นา
ส่วนใครเก่งกว่า อันนี้ไม่รู้ครับ
เอาพวก top 5 ในชั้น มาวิจารณ์พวก อันดับ 20 ยังไง อันดับ 20 ก็ห่วยกว่า
แต่ว่า ถ้าอันดับ 20 มันผ่านเกณท์ ก็คือ....ผ่าน
แต่ถ้าบอกว่าเกณท์ห่วยอีก งั้นก็ไปแก้....เกณท์
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 24
ที่แน่ๆ คือว่า คนสมัยนี้ อดทนครับ
การหางาน แย่งกันน่าดู
พวกเจ้าของกิจการ ยิ้มลูกเดียว เพราะว่ามีคนมาให้เลือกเยอะแย่ะครับ
สังเกตมั๊ยครับ ว่า เงินเดือนของแต่ละสายงาน เมื่อ ปี 30 35 40 45 50 53 ได้กันคนล่ะเท่าไร
เพิ่มเท่าไรเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ หรือว่า ค่าข้าว 1 จาน
ไม่แน่นะ อีก 30-50 ปี ข้างหน้า เมื่อปริมาณหมอมีมากพอ ถึงตอนนั้น อาชีพนี้ก็จะเหมือนกับอาชีพอื่นที่....คนจบมามาก อุปทานทางด้านแรงงานมาก ก็จะได้เงินเดือน หรือว่า มีรายได้ที่ลดลงจนไม่เด่น แตกต่าง เท่าปัจจุบัน ผมหมายถึงค่าเฉลี่ยนะครับ ไม่ใช่พวกที่เก่งสุดขั้วหรือว่า เป็น specialist
สังคมกำลังก้าวไปข้างหน้า เปิดให้ทุกคนมีโอกาส คนส่วนใหญ่ นอกเมืองใหญ่ จำนวนมาก ขาดโอกาส
เมื่อมีราชภัฎ ราชมงคล เกิดขึ้น ช่วยกันยินดีกันดีกว่าครับ ว่า ประชากรส่วนที่ยากจน หรือว่า ขาดโอกาส ของประเทศกำลังได้รับโอกาสเพิ่มขึ้น หลายคนยิ้มแย้ม ที่ได้เรียน แม้ว่า จบมาแล้วจะเจอปัญหาของ คนล้นงาน แต่เขาก็ได้พัฒนาศักยภาพตัวตนผ่านระบบการศึกษา
ส่วนที่ว่าคุณภาพของคนที่จบมา ดีหรือไม่ดีนั้น ก็ต้องถามต่อว่า คนที่เป็นพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ในสถาบันเหล่านี้ จบที่ไหนมา ก็จบจากที่ดีๆมาทั้งนั้น
แล้ว...สอน แล้ว เกิดสภาพอย่างที่คิดว่าเป็น ได้อย่างไร หรือว่า พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ ไม่ดี ทั้งๆที่จบจากสถาบันที่ดี
พูดไปพูดมา วกวน งูกินหางครับ นอนดีกว่าครับ
อิอิอิ
อิอิอิ
การหางาน แย่งกันน่าดู
พวกเจ้าของกิจการ ยิ้มลูกเดียว เพราะว่ามีคนมาให้เลือกเยอะแย่ะครับ
สังเกตมั๊ยครับ ว่า เงินเดือนของแต่ละสายงาน เมื่อ ปี 30 35 40 45 50 53 ได้กันคนล่ะเท่าไร
เพิ่มเท่าไรเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ หรือว่า ค่าข้าว 1 จาน
ไม่แน่นะ อีก 30-50 ปี ข้างหน้า เมื่อปริมาณหมอมีมากพอ ถึงตอนนั้น อาชีพนี้ก็จะเหมือนกับอาชีพอื่นที่....คนจบมามาก อุปทานทางด้านแรงงานมาก ก็จะได้เงินเดือน หรือว่า มีรายได้ที่ลดลงจนไม่เด่น แตกต่าง เท่าปัจจุบัน ผมหมายถึงค่าเฉลี่ยนะครับ ไม่ใช่พวกที่เก่งสุดขั้วหรือว่า เป็น specialist
สังคมกำลังก้าวไปข้างหน้า เปิดให้ทุกคนมีโอกาส คนส่วนใหญ่ นอกเมืองใหญ่ จำนวนมาก ขาดโอกาส
เมื่อมีราชภัฎ ราชมงคล เกิดขึ้น ช่วยกันยินดีกันดีกว่าครับ ว่า ประชากรส่วนที่ยากจน หรือว่า ขาดโอกาส ของประเทศกำลังได้รับโอกาสเพิ่มขึ้น หลายคนยิ้มแย้ม ที่ได้เรียน แม้ว่า จบมาแล้วจะเจอปัญหาของ คนล้นงาน แต่เขาก็ได้พัฒนาศักยภาพตัวตนผ่านระบบการศึกษา
ส่วนที่ว่าคุณภาพของคนที่จบมา ดีหรือไม่ดีนั้น ก็ต้องถามต่อว่า คนที่เป็นพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ในสถาบันเหล่านี้ จบที่ไหนมา ก็จบจากที่ดีๆมาทั้งนั้น
แล้ว...สอน แล้ว เกิดสภาพอย่างที่คิดว่าเป็น ได้อย่างไร หรือว่า พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ ไม่ดี ทั้งๆที่จบจากสถาบันที่ดี
พูดไปพูดมา วกวน งูกินหางครับ นอนดีกว่าครับ
อิอิอิ
อิอิอิ
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 25
หลายปีที่ผ่านมา
ที่บริษัท ได้รับ เด็กนักศึกษามาฝึกงานสายวิศวกรรม
ขออนุญาตเอ่ยถึงสถาบัน แบบกว้างๆ ดีกว่านะครับ ตามนี้
ภาคใต้ 1 คน
กทม สีหัวใจ 1 คน
กทม ลูกพ่อ 1 คน
ใน 1 รุ่นนี้ ทางเรามีโอกาสได้เห็นความเป็นจริงหลายอย่าง
ใน 3 คนนี้ มี
เด็ก เกรด 3.5 1 คน
เด็กเกรด 2.0-2.5 2 คน
ใน 3 คนนี้ มี ช 2 ญ 1
ผลจากการทำงานในห้อง ไม่มีการฝึกภาคสนาม คือ
เด็ก 2 คน เก่งมากๆ เท่าๆกัน แม้ว่าเกรดจะต่างกันมาก ทักษะในด้านวิชาการกลับต่างกันไม่มากเลย โดยที่เก่งทั้งคู่ด้วย ขึ้นกับว่า ใครกล้าตอบเสียงดังฟังชัด บางคนไม่กล้าตอบเสียงดัง แต่งึมงัมที่ริมฝีปาก แต่ก็รู้
ส่วนอีก 1 คน ค่อนไปทางตก สเปค เลย มานั่งดูที่มาและที่ไป มีเหตุผลอยู่ คือ คณะนั้นพึ่งตั้งขึ้นมาได้ไม่กี่ปี ความพร้อมทางการเรียน การสอน แน่นอน ย่อมมีไม่มาก สงสารก็แต่เด็ก ที่ดูเหมือนจะรู้ตัวเอง ว่า โดน.....แบบทิ้งฝุ่น
ถัดจากนั้น ไม่เคยรับเด็กมาฝึกงานอีกเลย
ที่บริษัท ได้รับ เด็กนักศึกษามาฝึกงานสายวิศวกรรม
ขออนุญาตเอ่ยถึงสถาบัน แบบกว้างๆ ดีกว่านะครับ ตามนี้
ภาคใต้ 1 คน
กทม สีหัวใจ 1 คน
กทม ลูกพ่อ 1 คน
ใน 1 รุ่นนี้ ทางเรามีโอกาสได้เห็นความเป็นจริงหลายอย่าง
ใน 3 คนนี้ มี
เด็ก เกรด 3.5 1 คน
เด็กเกรด 2.0-2.5 2 คน
ใน 3 คนนี้ มี ช 2 ญ 1
ผลจากการทำงานในห้อง ไม่มีการฝึกภาคสนาม คือ
เด็ก 2 คน เก่งมากๆ เท่าๆกัน แม้ว่าเกรดจะต่างกันมาก ทักษะในด้านวิชาการกลับต่างกันไม่มากเลย โดยที่เก่งทั้งคู่ด้วย ขึ้นกับว่า ใครกล้าตอบเสียงดังฟังชัด บางคนไม่กล้าตอบเสียงดัง แต่งึมงัมที่ริมฝีปาก แต่ก็รู้
ส่วนอีก 1 คน ค่อนไปทางตก สเปค เลย มานั่งดูที่มาและที่ไป มีเหตุผลอยู่ คือ คณะนั้นพึ่งตั้งขึ้นมาได้ไม่กี่ปี ความพร้อมทางการเรียน การสอน แน่นอน ย่อมมีไม่มาก สงสารก็แต่เด็ก ที่ดูเหมือนจะรู้ตัวเอง ว่า โดน.....แบบทิ้งฝุ่น
ถัดจากนั้น ไม่เคยรับเด็กมาฝึกงานอีกเลย
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 26
ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ป.ตรีนะครับ
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 28
ผมมองว่ามันเป็นปรากฏการณ์ด้านการเเข่งขัน
มันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ...
แนวคิดนี้ผมก็ได้มาจากรุ่นพี่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่บล.ภัทร
เขาสอนผมมาว่า ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปตามกลไกของสังคม
ตอนนี้เด็กจบป.ตรีมีเยอะจริงครับ
แต่ถ้าบางคนความสามารถไม่ถึง ไม่สามารถไปแข่งขันกันในระบบการจ้างงานได้
ก็จะต้องFadeตัวเองแล้วมาดิ้นรนอย่างอื่นแทน
เช่น
ชื่อสถาบันไม่ได้การันตีความสามารถ
ตัวผม อยากเป็นนักเขียน เป็นศิลปิน แบบเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างๆเพื่อให้อิ่มเอมกับชีวิต
โดนเบรกโดยครอบครัวครับ
ตอนนี้เป็นข้าราชการที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้าในหน่วยงานของตัวเองเท่าที่ควรเรียบร้อยแล้วครับ
มันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ...
แนวคิดนี้ผมก็ได้มาจากรุ่นพี่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่บล.ภัทร
เขาสอนผมมาว่า ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปตามกลไกของสังคม
ตอนนี้เด็กจบป.ตรีมีเยอะจริงครับ
แต่ถ้าบางคนความสามารถไม่ถึง ไม่สามารถไปแข่งขันกันในระบบการจ้างงานได้
ก็จะต้องFadeตัวเองแล้วมาดิ้นรนอย่างอื่นแทน
เช่น
หมอก็ต้องรู้จักที่จะSpecializeตัวเอง ถูกไหมครับไม่แน่นะ อีก 30-50 ปี ข้างหน้า เมื่อปริมาณหมอมีมากพอ ถึงตอนนั้น อาชีพนี้ก็จะเหมือนกับอาชีพอื่นที่....คนจบมามาก อุปทานทางด้านแรงงานมาก ก็จะได้เงินเดือน หรือว่า มีรายได้ที่ลดลงจนไม่เด่น แตกต่าง เท่าปัจจุบัน ผมหมายถึงค่าเฉลี่ยนะครับ ไม่ใช่พวกที่เก่งสุดขั้วหรือว่า เป็น specialist
ไม่เกี่ยวกับจบที่ไหน จริงมั้ยครับเด็กจบราม ยังสอบวัดผลวิชาทางกฏหมายได้ไม่แพ้คนจบจุฬาเลย ราม จุฬา ธรรมศาสตร์ ผลัดกันชนะไปมา
ชื่อสถาบันไม่ได้การันตีความสามารถ
วิชาชีพเฉพาะ เช่น หมอ วิศวะ นักบิน พยาบาล กฏหมาย ก็มีแล้วนะครับ ถ้าไม่ผ่านก็ประกอบอาชีพไม่ได้ จริงมั้ยครับหรือว่า น่าจะมีสถาบันกลางสอบวัดผลอีกที หลังจากจบ เหมือนทางกฏหมาย เนอะ
จะได้ไม่โดนทัศนะคติของชุมชน วิจารณ์โดยที่ ความเป็นจริงเป็นอย่างไร แน่ใจ เหรอ ว่าคนอื่นหวย
เพราะงั้นพวกเราในที่นี้จึงมองหาอิสรภาพทางการงานกันอยู่ไงครับพฤติกรรมหมู่นอกตลาดหุ้นที่ส่งผลเสียอย่างชัดเจน ก็มักจะเป็นเรื่องของการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่นี่แหละ แห่ตามกันไปเรื่อย ไม่สนใจปัจจัยพื้นฐานของลูกตัวเอง สังเกตได้ครับว่าหลายคนเรียนจบ ทำงานไปตั้งหลายปี ก็ยังรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันไม่ใช่ บางคนกล้าค้นหาตัวเองก็แล้วไป บางคนไม่กล้า ก็ต้องดักดานกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบไปทั้งชีวิต เพื่อจะได้มาบอกลูกหลานในบั้นปลายชีวิตว่า ชีวิตเลือกไม่ได้
ตัวผม อยากเป็นนักเขียน เป็นศิลปิน แบบเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างๆเพื่อให้อิ่มเอมกับชีวิต
โดนเบรกโดยครอบครัวครับ
ตอนนี้เป็นข้าราชการที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้าในหน่วยงานของตัวเองเท่าที่ควรเรียบร้อยแล้วครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 29
ตามความคิดของผม เด็กยุคนี้เก่งกว่าเด็กยุคก่อนแน่นอน
ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองไม่เจริญขึ้น อย่าคิดเข้าของตนเอง
ถ้าให้ผมสอบเข้ามหาลัยในยุคปัจจุบันนี้ ผมว่าผมสอบ
เข้าไม่ได้แน่นอน ดังนั้น ป.ตรียุคนี้ต้องเก่งกว่า ป.ตรี
ยุคก่อน
ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองไม่เจริญขึ้น อย่าคิดเข้าของตนเอง
ถ้าให้ผมสอบเข้ามหาลัยในยุคปัจจุบันนี้ ผมว่าผมสอบ
เข้าไม่ได้แน่นอน ดังนั้น ป.ตรียุคนี้ต้องเก่งกว่า ป.ตรี
ยุคก่อน
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
เด็ก จบ ป ตรี เยอะเกินไปไหม
โพสต์ที่ 30
อ่า... เป็นกำลังใจให้ครับ คุณ chowbe76 อย่างน้อยขอให้มีความสุขกับการลงทุนนะครับchowbe76 เขียน: เพราะงั้นพวกเราในที่นี้จึงมองหาอิสรภาพทางการงานกันอยู่ไงครับ
ตัวผม อยากเป็นนักเขียน เป็นศิลปิน แบบเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างๆเพื่อให้อิ่มเอมกับชีวิต
โดนเบรกโดยครอบครัวครับ
ตอนนี้เป็นข้าราชการที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้าในหน่วยงานของตัวเองเท่าที่ควรเรียบร้อยแล้วครับ
มาว่าเรื่องเดิมต่อ ถ้าไม่นับเรื่องการตามกระแสไม่เข้าเรื่องแล้ว ผมเชื่อว่าคนเราต้องปรับตัวครับ ซัพพลายล้นตลาด อาจทำให้เด็กจบใหม่หางานยากขึ้น แต่ก็เป็นการให้โอกาสคนอื่นๆ อีกมากมายเช่นกัน
เช่นเดียวกับภาคธุรกิจครับ การแข่งขันสมบูรณ์ให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภค (ในที่นี้คือนายจ้าง) แน่นอน เด็ก ป. ตรี ก็มีทางเลือกเช่นกันคือ
1. กดค่าแรงตัวเองแข่งกับ candidate อื่นๆ เพื่อให้พังกันทั้งหมด และเป็นประโยชน์กับนายจ้างอย่างสมบูรณ์
2. สร้าง DCA ให้กับตัวเองที่ candidate คนอื่นไม่อาจเข้ามาแย่งงานได้โดยง่าย เรียนรู้งานให้มาก ทำให้เราเป็นคนที่องค์กรขาดไม่ได้ ขยาย circle of competance (การประจบหัวหน้าก็เป็น DCA ได้นะเด็กๆ)
3. ถ้าข้อ 2 มันยากไป เห็นว่าสนามนี้เราสู้ไม่ได้แน่ๆ ก็ควรไปหาสังเวียนอื่นที่จะสามารถเป็นผู้ชนะได้ อย่าปิดกั้นตัวเอง การเลือกรั้้ว 1 ฟุตที่เราจะสามารถกระโดดข้ามได้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง (Buffet ยังทำเลย)
สำหรับเรื่องสถาบันที่ชอบเถียงกันนั้นผมมีความเห็นว่าแท้จริงแล้วถ้าเราลองวิเคราะห์ 5 force ของเด็ก ป.ตรี อยากให้ยอมรับความจริงกันว่าสถาบันนั้นมีผลต่อการได้งานในองค์กรหนึ่งๆ จริง คืออำนาจต่อรองของเด็ก ป.ตรี ต่อลูกค้า (ในที่นี้หมายถึงนายจ้าง) อย่ามองโลกให้มันสวยหรูนัก
แต่ในทางกลับกันแล้วกำแพงสถาบัน (รวมถึงเครือญาติและเด็กเส้นทุกประเภท) สามารถถูกทลายได้ง่ายในองค์กรที่ต้องพึ่งพาความสามารถส่วนบุคคลของพนักงานสูง มีการเติบโตสูง หรือต้องการความสามารถในการแข่งขัน (ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ราชการ หรือบริษัทใหญ่อิ่มตัวที่ไม่ค่อยโตแล้ว) นี่เป็นสังเวียนที่ความสามารถจะชนะสถาบันได้อย่างแน่นอน
อยากให้น้องๆ ที่จบใหม่ลองวิเคราะห์ตัวเอง และยอมรับความจริงให้ถ่องแท้ก่อนว่า เรารักอะไร เราเกลียดอะไร เรามีข้อดีอะไร ข้อเสียอะไร และสังเวียนไหนที่เราจะเป็นผู้ชนะได้ การเลือกสังเวียนให้เหมาะกับตัวเองก็เป็นความอัจฉริยภาพอย่างหนึ่งเช่นกัน กุนซือไร้พ่ายนั้นกลายเป็นตำนานได้เพราะจะไม่รบหากไม่ชนะครับ
เราลองมาวิเคราะห์วงการยอดนิยมกันคือวงการเพลงสากลของไทย
• นักร้องสมัยก่อนต้องหล่อสวย ร้องเพลงไม่ต้องดีมากก็ออกเทปได้
• ยุคต่อมานักร้องที่หน้าตายังกะปลาบู่โด่งดังกันเต็มไปหมดด้วยความสามารถด้านดนตรี และพลังเสียงอันเหลือล้ำ หน้าตาไว้ทีหลังได้
• ยุคต่อมานักร้องที่หน้าตายังกะปลาบู่และความสามารถด้านดนตรีไม่เท่าไรก็โ่ด่งดังได้ ด้วยไอเดียพิศดารในการแต่งเพลง บางคนประสบความสำเร็จแค่เพราะแสดงสดได้สนุกกว่าชาวบ้านด้วยซ้ำไป
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่คงไม่ได้จบปริญญามามาเพื่อเลือกไม่ได้ใช่ไหมครับ
อย่ายอมแพ้