โพสต์
ไม่งั้นพ่อมดอาจเดือดร้อน :lol:
แต่เป็นนักกลยุทธ์คนดังที่เพิ่งชีวิตไปตอนสงกรานต์นี้เอง
ข่าวคราวของเขาแทบจะเงียบหายไปกับความคุกรุ่นของบ้านเมืองเรา
ทั้งที่ในเมืองนอกมีการจัดลำดับความสำคัญพอๆกับการเสียชีวิตของกูรูปีเตอร์ ดรักเกอร์เลย
(ปีเตอร์ ดรักเกอร์คือใคร เคยเขียนเล่าไว้บ้างแล้วใน
"เข้าชั้นเรียนกับ Drucker" มีลูกศิษย์หลายคนในเวปนี้ก็เข้าไปเรียนด้วยกันสนุกสนาน)
Dr. Coimbatore Krishnarao Prahalad (August 8, 1941 April 16, 2010)
เป็นใคร มาจาก ไหน สำคัญอย่างไรกับคนรากหญ้า
ชื่อยาวๆของเขาเราอาจไม่คุ้นหู
แต่ถ้าพูดถึง C.K.Prahalad คนในแวดวงนักวิชาการต้องร้องอ๋อ
โดยเฉพาะนักกลยุทธ์องค์กรทั้งหลาย
เพราะเขาเป็นทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษา คนเขียนหนังสือร่วม(ศิลปินคู่)และเขียนเดี่ยว
เห็นหน้าแขกๆเยี่ยงนี้ เดาไม่ผิดเลยว่าเขาเป็นคนเชื้อชาติอะไร
Ptrahalad เป็นบุตรหนึ่งในเก้าคนของครอบครัวตระกูลพราหมณ์ชาวอินเดีย
มีบิดาเป็นอาจารย์สอนภาษาสันสกฤตและผู้พิพากษาในเมืองเชนไน
จบปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์ที่ Loloya College ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย Madras
หลังจากนั้นก็เข้าทำงานที่บริษัทยูเนียน คาร์ไบด์
ทำอยู่ 4 ปี แล้วต่อปริญญาโทที่ Indian Institute Management Ahmedabad
ด้วยเบนเข็มอยากเป็นนักวิชาการเต็มตัว จึงต่อระดับด็อกเตอร์ที่ Harvard Business School
ผลงานของ C.K.Prahalad ที่สร้างชื่อเสียง
และกลายเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาในนักศึกษา MBA มีอยู่หลายเล่มด้วยกัน
เล่มหนึ่งได้กลายเป็นทฤษฎีกลยุทธ์องค์กรสืบทอดกันต่อมาก็คือ
The Core Competence of the Corporation
ซึ่งเป็นการศึกษาค้นคว้ากับ Gary Hamel ในเรื่อง Core Competency
เป็นการขยายจุดแกร่งบริษัทและการรักษาให้ยั่งยืน
กลายเป็นแม่แบบของบริษัทใหญ่น้อยทั่วโลก
ที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจแกร็นๆวันต่อวันไปเรื่อยๆ
ต้องค้นหา พัฒนา Core Cmpetency เพื่อแข่งขันในตลาดให้ได้
นอกจากนี้ก็ยังมี Competing for the Future (เขียนร่วมกับ Gary Hamel)
The Future of Competition ( เขียนร่วมกับ Venkat Ramaswamy)
the New Age of Innovation (เขียนร่วมกับ M.S. Krisnan)
หากเล่มที่บรรเลงเดี่ยว สร้างชื่อเสียงให้กับเจ้าตัวมากที่สุดก็คือ
the Fortune at the Bottom of Pyramid: Eradicating Poverty through Profits.
หรือแปลเป็นไทยง่ายๆก็คือ การตลาดสำหรับคนรากหญ้า
( ในหนังสือเรียกสั้นๆว่า BOP คนชั้นล่างสุดของปิระมิด)
หน้าตาหนังสือเป็นอย่างนี้
ข้อมูลในหนังสือเล่มดังขวัญใจผู้ที่จะทำธุรกิจกับรากหญ้า
C.K.Prahalad สลัดสาหรี่ชาวอินเดียระดับฐานล่าง
เพื่อเข้าไปดูว่าพวกเขาใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร
และพบว่า จะยากดีมีตนแค่ไหน คนเราก็ต้องจับจ่ายใช้สอย
เพราะนั้นสินค้า ห้างร้านบริษัท จะต้องเข้าใจ พฤติกรรม
ตลอดจนข้อจำกัดของกระเป็าสตังค์คนรากหญ้าว่าเป็นอย่างไร
จึงจะเข้าไปอยู่ในใจของเธอเหล่านั้นได้
( ส่วนใหญ่แม่บ้านชาวอินเดียจะเป็นคนกุมกระเป๋าสตังค์)
ทัศนะคติทางการตลาดเดิมๆที่ว่า "คนจนไม่ใช่เป้าหมายทางธุรกิจของเรา"
จึงปรับเปลี่ยนไปนับแต่นั้น
ด้วยความเข้าใจเช่นนี้เอง แม้แต่ยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดี อย่างยูนิลีเวอร์อินเดีย (Hindustan Lever)
ก็ยังต้องปรับกลยุทธฺ์จับหัวใจชาวรากหญ้าให้อยู่หมัดจนประสบความสำเร็จได้ท้ายสุด
หลังจากหกคะเมนตีลังกามาหลายรอบกว่าจะคว้าชายสาหรี่ของพวกเธอได้
นอกจากอินเดียแล้ว C.K. Prahalad ยังบุกทะลวงคนรากหญ้าในละตินอเมริกา
ทั้งเปรู เม็กซิโก บราซิลและเวเนซูเอล่า
(เสียดายไม่ได้มาถลกผ้าถุงในเมืองไทย)
ซึ่งก็พบว่า พฤติกรรมคนรากหญ้าทั้งสากลไม่ได้มีความแตกต่างกันเลยในหลักการใหญ่
หัวใจทำการตลาดสำหรับกลุ่มล่างสุดของปิระมิดมีอยู่ไม่กี่ข้อ
คือ สร้างความเชื่อใจ ให้การศึกษา (เสนอผลิตภัณฑ์) แก้ไขปัญหา ผูกมิตรตลอดไป
"The Fortune at the Bottom of Pyramid "
ได้รับการยกย่องจากบรรดานักธุรกิจชั้นนำ อย่าง Bill Gates แห่ง Microsoft ว่าเป็น
อาวุธเล่มสำคัญที่อ่านใจชาวโลกด้อยพัฒนาว่าต้องการอะไร
His compelling new book offers an intriguing blueprint for how to fight poverty with profitability
และไม่นานจากนั้น ไมโครซอฟ ก็ไปปักหลักทำมาหากินในอินเดียเป็นเรื่องเป็นราว หึหึ
C.K. Prahalad ตายเมื่อวันศุกร์ที่ 16 เมษายน อาทิตย์ที่แล้วเอง
ด้วยอาการป่วยกะทันหัน ที่ซานดิเอโก อายุ 69 ปี
การตายของเขาได้รับสดุดีแซ่ซ้องจากแวดวงวิชาการชาวภารตะ
ถึงกับกล่าวว่า ถ้าอินเดียมีรางวัลโนเบลแขนงธุรกิจ
C.K. Prahalad สมควรจะได้เป็นที่สุด
เห็นหนังสือ The Fortune at the Bottom of Pyramid อยู่ข้างหน้า
คงต้องอ่านทบทวนอีกทีเพื่อขอคารวะ
บันทึกไม่สำเร็จ