วันนั้นผมอยู่ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่บูท se-ed ผมถ่อมาในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวต้นเดือนมษา วันสุดท้ายของงาน เพื่อมาจับจองหนังสือในตำนาน สุดยอดหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดในโลก “ดิ อินเทลลิเจนท์ อินเวสเตอร์” (ของเขาดีจริงนะ ขอเอาชื่อคุณปู่เป็นเดิมพันเลยเอ้า 555)
“แวะชมหนังสือก่อนครับ เรื่องราวของผมเอง เรื่องราวของการโบกรถท่องเที่ยวทั่วประเทศครับ” แว่วเสียงโฆษณาขายหนังสืออันแปลกหู ลอยมาจากที่ไหนซักแห่ง ผมวาง ดิ อินเทลลิเจนท์ อินเวสเตอร์ ลงพร้อมกับชะโงกมองไปรอบๆ พลันสายตาไปสะดุดเข้ากับชายคนนึง
อะแฮ่ม แก้ใหม่นิดนึงสายตาผมไปสะดุดเข้ากับรถวีลแชร์ของเขาต่างหาก
ชายคนนี้มาขายหนังสือครับ หนังสือของเขาเอง หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวธรรมดาๆ ที่แสนมหัศจรรย์
ผมแทรกตัวไปตามทางเดินอันเต็มไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่าน พาตัวเองไปยังต้นตอของเรื่องราว
ชายผิวคล้ำ กร้านแดด รูปร่างล่ำสัน อายุประมาณสามสิบเศษๆ บนรถวีลแชร์ กำลังนั่งพูดคุยแฟนๆ หนังสือ อย่างออกรส (!?!)
“ไปโดนอะไรมาล่ะ...” “ลำบากไหม…” “แล้วเที่ยวได้ไง...” “น่าสงสารจัง...”
สารพันคำถามจากมิตรรักแฟนเพลงระดมเข้ามา ผมยืนมองอยู่ห่างๆ เฝ้ามองชายคนนั้นยิ้มแย้มด้วยอัธยาศัย ค่อยๆ ตอบคำถามของแฟนๆ อย่างใจเย็น
“…ก็อุบัติเหตุตอนไปแม่สะเรียงน่ะครับ…” “..ก็นิดหน่อยครับ แต่คนโน้นคนนี้เค้าก็ช่วย...” “…ผมโบกรถเที่ยวครับ ไม่ใช้เงิน ความฝันผมคือ อยากพาแม่ไปเที่ยวด้วยกันทั่วประเทศเลย...” “...ผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่พิการ...”
“ผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่พิการ” เฮ้ย! เอาจิงดิ วันๆ หมอนี่ต้องตอบคำถามพรรคนี้วันละกี่รอบเนี่ย นี่ตอบจากใจจริงเลยเหรอฟะ
ชักอยากรู้เรื่องด้วยแฮะ ลองสืบดูซักหน่อยคงไม่เสียเวลามาก
คิดได้ดังนั้น ผมจึงลอบเข้าไปข้างหลังรถวีลแชร์แอบหยิบหนังสือเล่มที่ว่ามาพลิกผ่านๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“...ชีวิตไม่ธรรมดาบนเส้นทางหลายพันกิโลเมตร ที่เปิดโลกใหม่ให้ผู้ที่ไม่ยอมแพ้…”
(เปิดตัวเท่มาก)
“...อะไรที่เคยทำได้ก่อนพิการ หลังพิการแล้วผมต้องทำได้...”
(ใจสู้สุดๆ)
“...คิดดูซิครับว่าถ้าผมเกิดรถล้มแล้วลงไปนอนเล่นอยู่ที่พื้นมันคงจะเป็นภาพที่ดูไม่ค่อยจะดี ไอ้เรื่องเจ็บตัวนั่นคงไม่เท่าไร แต่ไอ้เรื่องเสียหน้านี่สิอันนี้ยอมไม่ได้...”
(มันร้ายแฮะ)
“…แต่สำหรับคนพิการอย่างผม การเก็บสบู่ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องยากอีกเช่นกัน...ผมระเบิดหัวเราะอย่างสะใจในความพ่ายแพ้ของพระเจ้าที่ต้องการจะกลั่นแกล้งผม 55555555 แล้วคอลเกตก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวัง...”
(อาบน้ำด้วยยาสีฟัน…)
“…กาแฟสดพร้อมผลไม้ถูกยกมาบริการให้แขกอย่างผมโดยไม่คิดมูลค่าใดๆ...รู้สึกเหมือนเป็นพวก 18 มงกุฏยังไงไม่รู้ หลอกกินฟรีเขาไปทั่ว 555555...”
(โห! ไอ้...)
“…ผมกล่าวราตรีสวัสดิ์และยิ้มให้กับตนเอง ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอย่างอิ่มสุข เผลอส่งยิ้มให้กับดวงดาว เพื่อนที่แสนดีในค่ำคืนนี้...”
(โคตรอาร์ทครับเพ่ เท่โคตรๆ)
(ภาพ) ผาแต้ม
(ไปได้ไงเนี่ย)
(ภาพ) สะพานมอญแห่งสังขละบุรี
(นึกถึงวันเวลาดีๆ)
(ภาพ) สี่แยกปายหนาวอันโด่งดัง
(โอ๊ย! คิดถึง)
อืม... พอเข้าใจเรื่องราวคร่าวๆ แล้ว ดูเหมือนว่าหมอนี่จะชอบเที่ยวเอามากๆ ทั้งที่ร่างกายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ไม่สามารถเดินได้ แต่ยังคงมีหัวใจแห่งการผจญภัยอยู่เต็มเปี่ยม เขาเป็นนักเดินทางตัวยง ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันและการมองโลกในแง่ดี ชื่นชอบการโบกรถเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ รักที่จะมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ และรอยยิ้มของผู้คน นอกจากนั้นยังฟอร์มจัด และดูเหมือนจะมีฝีมือในการถ่ายภาพอยู่พอตัวเลยทีเดียว
ผลงานภาพถ่ายของเขาหลายภาพดูคุ้นตา ไม่ใช่ว่าไปลอกใครมาหรอกนะ แต่เพราะผมเองก็เคยไปมาหลายที่แล้วเหมือนกัน เพียงเปิดดูผ่านๆ ผมก็ได้รู้สึกถึงบางอย่างที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน วิญญาณแห่งการแสวงหาและผจญภัย กำลังร่ำร้องถึงวันเก่าๆ ของชีวิตนักเดินทาง ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ สบตากับพี่เขาพอดี
ยิ้มสยาม... ผมอ่านเพลินจนลืมตัว
“ชอบไปเที่ยวเหนือเหรอครับ” ผมถามแก้เก้อ
“ผมไปมาทั่วแหละครับ 30 กว่าจังหวัด แต่ในนี้จะเป็น 9 ทริปล่าสุดครับ”
“แล้วพี่ไปโดนอะไรมาครับ”
“ผมประสบอุบัติเหตุตอนนั่งรถไปทำบุญที่แม่สะเรียง เขาบอกด้วยนะว่าดีที่ไม่ตาย ก็ไปกัน 6 คน อีก 5 คนไม่มีแม้รอยขีดข่วน มีผมซวยอยู่คนเดียวนี่ครับ 555”
แกมองโลกในแง่ดีซะจนผมยังอดขำไปด้วยไม่ได้ มาคิดได้เอาทีหลังว่า บาปมั้ยเนี่ยกรู...
“แล้วก่อนอุบัติเหตุนี่พี่ทำอะไรเหรอครับ”
“เมื่อก่อนครอบครัวผมทำพวกธุรกิจขนส่ง แต่โดนพิษเศรษฐกิจ เจ๊งไปแล้ว” เขาพูดหน้าตาเฉย
ผมอึ้งนิดนิง “โห... ผ่านอะไรมาเยอะนะเนี่ย”
เราคุยกันต่ออีกพักหนึ่งถึงเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของเขา (ไปอ่านเอาเองนะ สปอยมากไม่ดี เดี๋ยวเสียอรรถรส) เขาเล่าให้ฟังว่าเป็นคนชอบเดินทางมาก แล้วชอบถ่ายภาพคนยิ้ม ชอบเก็บภาพความสุข มารู้ทีหลังว่าแกเคยทำหนังสั้นเสียด้วย ได้รับรางวัลจาก Disability Film Award 2008 ชื่อเรื่องว่า “เก็บยิ้ม” นอกจากนั้นเขากำลังทำรายการทีวีที่มีชื่อว่า “ล้อเล่นโลก” ซึ่งจะออนแอร์ในช่องทีวีไทยช่วงเดือนกรกฎาคม (ถ้าจำไม่ผิดนะ) เรียกว่าเป็นศิลปินดังคนหนึ่งเลยทีเดียว
หลังจากคุยสัพเพเหระกันพักหนึ่งตามประสาคนเดินทางผมก็ตัดสินใจอุดหนุนหนังสือเขาเสีย 1 เล่ม
“พี่มี motto ไหมครับ”
“อะไรนะ”
“คติประจำใจอะครับ”
“อ๋อ! ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก”
“เขียนให้หน่อยแล้วกันพี่ ไม่ต้องสวย ไม่ต้องเท่อะไรมาก ขอแบบดิบๆ อะ ดิบๆ อาร์ทๆ”
พี่แกอึ้งไปพักนึง
สุดท้ายผมได้ลายเซ็นพร้อม motto สุดเท่ดังนี้ครับ
ขอให้มีความสุขกับการได้มีชีวิต และมีศรัทธากับการได้มีลมหายใจ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ช่วยให้ผมมีแรงเดินต่อ
โสภณ ฉิมจินดา
ผมกลับบ้านพร้อมกับสุดยอดหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดในโลก สุดยอดหนังสือจากชายที่เท่ที่สุดในโลก และพบว่าหัวใจแห่งนักเดินทางที่หลับใหลกำลังเรียกร้องให้ออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ อีกครั้ง
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... re&group=1
บล็อกของเขา แต่เจ้าตัวอ้างว่ามัวแต่เที่ยว นานๆ อัพที
Media, Clip Video แกบอกว่าให้หาในกูเกิ้ลเอาเองครับ Search ชื่อแกได้เลย
(อย่าแปลกใจหากท่านรู้จักชายคนนี้ดีแต่ผมกลับไม่รู้จัก ผมไม่ค่อยได้ดูทีวีครับ)
ปล.
สำหรับท่านที่ไม่ชอบเรื่องเศร้า อ่านแล้วยิ้มแน่นอนครับ ผมเอาพอร์ตเป็นประกัน
สำหรับท่านที่รู้สึกว่าเขาน่าสงสาร ถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้ หรือได้คุยกับเขาสักครั้ง คุณจะรู้สึกอิจฉา หรืออาจจะรู้สึกหมั่นไส้หมอนี่นิดๆ เลยเหอะ ผมเอาพอร์ตด๊อกเตอร์เป็นประกันเลยเอ้า
เดินด้วยใจไปกับ มนุษย์ล้อมหัศจรรย์
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
เดินด้วยใจไปกับ มนุษย์ล้อมหัศจรรย์
โพสต์ที่ 1
อย่ายอมแพ้