เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 1
สวัสดีคร้าบบบ กลับมาอีกแล้วครับกับเด็กเลี้ยงแกะ ช่วงสองสัปดาห์นี้ถือได้เลยว่า เป็นสัปดาห์แห่งความร้อน ร้อนทั้งเรื่องอากาศ (ร้อนจนแสบไปทุกรูขุมขนเลยทีเดียว ) ร้อนทั้งเรื่องการเมือง เรื่องอากาศร้อนนี้ ทำให้เด็กเลี้ยงแกะคิดถึงตอนเด็กที่ mom เคยแนะนำว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวทะเลมากที่สุด เพราะประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอื่นตรงที่ประเทศอื่นมี 4 ฤดูกาล แต่ไทยมีแค่ 3 คือ 1. ร้อน 2. ร้อนมาก 3. ร้อนโคตรโคตร(เข้าใจว่าเป็นช่วงนี้เอง ) ทำให้เหมาะแกการเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างยิ่งครับ จบเรื่องทะเลหันกลับไปดูเรื่องการเมืองยิ่งร้อนกว่าครับ เพราะเข้มข้นจนกระทบกระทั่งมาถึงตลาดหุ้นบ้างแล้ว วันที่หุ้นลงหนัก 28 จุด ตอนลงแต่ละครั้งสำหรับเด็กเลี้ยงแกะนั้นเหมือนแผ่นดินไหวเลยครับ ทุกทุกสัมผัส ทุกทุกริคเตอร์ เจ็บหัวใจเหมือนโดนสาวบอกเลิกยังไงยังงั้น ยังไงเด็กเลี้ยงแกะขอให้เหตุการณ์จบลงด้วยดีครับ เพราะเด็กเลี้ยงแกะและเพื่อนเพื่อนไทยวีไอ รักทุกฝ่ายและอย่างให้ทุกฝ่ายปรองดอง และให้ความสงบสุขกลับมาสู่ประเทศไทยของเราครับ (เพราะหุ้นจะขึ้นนั่นเอง งุงิ)
จะว่าไปช่วงนี้เซียงเพียงอิ๊วหมดตลาดเพราะนักวิแคะ คงซื้อ มาแจกกันทุกโบรก ช่วงที่หุ้นวืดดดดด ลบแซงหน้าภูมิภาคแบบไม่อายใครไป 3% กว่าๆ นั้น เด็กเลี้ยงแกะจำได้ว่า ก่อนวืดหลายๆโบรก เขียน research ออกมาฟันธงว่าหุ้นไทยนายแน่มาก ไม่กลัวการเมือง ฝรั่งซื้อแบบนี้ พร้อมๆชูจั๊กกะแร้ไป 900 จุด... พื้นฐานประเทศไทยดีเซเว่นแน่นอน ปรากฏว่า หลังหุ้นร่วงกันให้เห็นจะจะแบบไม่ทันข้ามวันรุ่งขึ้น โบรกเดิม ออกมาบอกว่า หาแนวรับไม่เจอแล้น...โอย วันหลังใครอ่านบทวิแคะไม่เก่ง เด็กเลี้ยงแกะแนะนำ
ให้ไปซื้อเซียมซีมาไว้ที่บ้านสักอันน่าจะดีแต๊ๆ.... (ก็บอกแล้วว่า พรกฉุกเฉิน มันเป็นยางงงายยย)
มาถามกันว่า รายใหญ่ทำอะไรกัน เอารายใหญ่แยกราชประสงค์ก่อนดีมะ...เขาบอกว่าหลังๆ เริ่มกลับมาอัดพอร์ตกันบ้างตอนผ่าน 760 แต่ก็เริ่มหวั่นๆตอนเห็นหุ้นร่วงหนักๆ เลยต้องออกมาประเมินสถานการณ์ที่นอกห้างเซ็นทรัลเวิร์ล แล้วบอกว่างานนี้ คงจะยืดเยื้อเรื้อรังแหงมๆ ว่าแล้วก็กลับไปที่โบรกแล้วก็.. ... งุงิ งุงิ.... (อ้าวแล้วจะรู้ไหมว่าขายหรือซื้อล่ะเนี่ย) ไปถามปรมาจารย์เรา เขาบอกว่า ออกกำลังกายเหมือนเดิม
ใครที่ครุ่นคิด ว่า ท่านจะขาย ร้านสะดวกซื้อ เมื่อไหร่ย้ำชัดๆ แล้วจดไว้ จะได้ไม่ลืมว่า... ยังไม่ได้ขายแน่นอนจ้า..ลองไปถามเซียนปักษ์ใต้ ฉายา ปีเตอร์ลิ้นออฟไทยแลนด์..(หลังๆเรียกยาก บางคนเรียก ประเทศ บางคนเรียกรัฐไทย..เวงๆ เผลอเม้าส์การเมืองอีกล่ะ... เดี๋ยวโดนพี่มดมาแบนด์)ท่านปีเตอร์ลิ้นซ์ บอกว่า เงินสด 85% เอ้ย เงินสด 15% ที่เหลือ
ยังคงนอนกอดหุ้นแน่นๆกว่ากอดภรรยาเช่นเคยเพียงแต่ว่า ลดมาร์จิ้นไปหมดแล้ว... แปลความได้ว่าช่วงนี้ ตลาดคลุมเครือ จะว่าแพงงไปก็ยังไม่ใช่.. จะว่าถูกไปก้อยังไม่เชิง... ระวังตัวไว้ก็ดีนะจ๊ะ...งุงิ งุ
จริงจริงปีสองปีนี้ เด็กเลี้ยงแกะพบว่าเป็นปีทองของ หุ้น หวย ที่ดิน และ สาวสาวอย่างแท้จริงครับ ยุดนี้คงเป็นยุคที่เรียกว่าเป็นยุค คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น นายทุนเล่นที่ และ สุภาพสตรีเล่นตัวจริงจริง เพราะทั้งราคาหุ้น ราคาที่ดิน และตัวเลขดัชนีคนเล่นหวย และสาวสาวที่แต่งตัวสวยเอ็กเซ๊กซี่ ในสองปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดครับ ยิ่งในงานสัปดาห์หนังสือ เด็กเลี้ยงแกะก็ไปเดินสามครั้ง ไปบ่อยมาก แต่ไม่ได้ซื้อหนังสือเลยครับ แหะแหะ ไปดูสาวสาวที่มาเลือกซื้อหนังสือนี่เอง ว่ามีสาวสาวที่สนใจลงทุนแนว วีไอบ้างหรือเปล่า เด็กเลี้ยงแกะจะได้อาสาช่วยเหลือครับ แต่ม่ายมีใครสนใจเด็กเลี้ยงแกะเลยครับ สงสัยหน้าตาเด็กเลี้ยงแกะจะดูไม่เกาหลี (ทั้งทั้งที่ก็เกาไปหลายทีแล้ว ) แต่ก็อดดีใจกับอาจารย์ดร.นิเวศน์ไม่ได้ครับ ว่ายังเห็นเด็กรุ่นใหม่เลือกซื้อหนังสือของ ดร. อย่างอุนหนาฝาคั่งครับ สมกับเป็นหนังสือการลงทุนที่ขายดีในตำนานไปเลย อ่อ เร็วเร็วนี้มีหนังสือใหม่ของดร. ชื่อ เล่นหุ้นในปีทอง นะจ๊ะ ใครยังไม่มีจับจองด่วนครับ เข้าใจว่าขายดีม๊ากกก ช้าหมด อดแล้วจะเสียใจเด้อ (คือต้องอย่าลืมนะว่าคนเขียนเค้ารวยน่ะ ดังนั้นยอดสั่งพิมพ์ใหม่ อาจเป็นไปตามความพอใจของผู้เขียน..)
แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ สำหรับเพื่อนเพื่อนท่านใดที่ยังไม่ได้จองในส่วนของงานสัมมนาใหญ่ ไทยวีไอ ประจำวันที่ 1 พ.ค.2553 นี้ คงต้องรีบเร่งโดยด่วนนะครับ เพราะเข้าใจว่าเหลือว่างอีกไม่เกิน 20 ที่เท่านั้น หมดแล้วหมดเลยไม่มีการขยายรอบ อีกนานมากนะครับ กว่าจะมีงานแบบนี้อีกครั้งนึง เบื้องต้นเด็กเลี้ยงแกะขออนุญาต แนะนำตัว สี่ขุนพลอย่างคร่าวคร่าวให้ฟังโดยย่อเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนเลยล่ะ เริ่มต้นด้วยพี่ chatchai เป็นนักลงทุนรุ่นเก่าแก่ แต่ยังไม่แก่ ประสบการณ์นี้เขียนออกมาเป็นหนังสือหลายเล่มก็ไม่จบ โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคการคุ้ยแค่ะแกะเกา งบการเงิน ต้องยอมรับกันเลยที่เดียวว่าเป็นหนึ่งในตองอูอย่างแท้จริง พี่ฉัตรชัยปัจจุบันมีอิสรภาพทางการเงินเรียบร้อย มีหน้าที่รับส่งลูก และ ดูแลครอบครัวน้อยน้อยที่อบอุ่นนั่นเอง เด็กเลี้ยงแกะมักพบเจอพี่ ฉัตรชัยที่แต่งตัวสไตล์ jpop(คือเหมือนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเลย ) อยู่ที่ เซ็นทรัลเวิร์ด ทุกวันเสาร์ เพราะ family man คนนี้จะพาครอบครัวไป กินอาหารนอกบ้าน และ ไปศึกษาหาความรู้ที่ ทีเคพาร์คอยู่เสมอ (เห็นครอบครัวนี้แล้ว เด็กเลี้ยงแกะอดคิดถึง mom กับ dad ที่เมืองนอกไม่ได้ คิดถึงตอนคริสมาสต์ที่ครอบครัวเด็กเลี้ยงแกะจะอยู่หน้าเตาผิง กินไก่งวง และ ดูหิมะเริ่มตกด้วยกัน อิอิ ) นับได้ว่าเป็นตำนานนักลงทุนแนววีไอที่มีชีวิตที่น่าเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งสไตล์การลงทุน และ การใช้ชีวิตอย่างแท้จริงครับ มาที่พี่ท่านที่สองคือ พี่ web ครับ พี่ web เป็นชายร่างใหญ่ หน้าตาคมขำ พูดน้อยต่อยหนัก แต่เรื่องความรู้ในการลงทุนอยู่ในระดับที่หาตัวจับยากจริงจริง โดยพี่ web ยังมีงานอดิเรกในเรื่องของการแปลหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนเน้นคุณค่าอยู่ เสมอ เด็กเลี้ยงแกะไม่เคยเจอหนังสือแปลการลงทุนเน้นคุณค่า ที่เขียนแล้วอ่านเข้าใจง่ายขนาดนี้ อาจเป็นเพราะพี่ web ของเราเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าด้วยนั่นเอง จึง เข้าใจหัวอกหัวใจของคนเขียนเป็นอย่างดี และ พี่ web เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในประเทศที่มีหุ้นของ เบิรก์ไชน์ และ เคยไปประชุม ไปสัมผัส ไปถ่ายรูปกับปู่บัฟเฟต์ตัวจริงเสียงจริงมาแล้ว (คนไหนอยากสัมผัสปู่บัฟ ให้สัมผัสพี่เวปแทนได้ เดี่ยวพี่เวปไปสัมผัสต่อให้ ) อ่อ งาน invester day ครั้งที่จะถึงนี้ พี่ web ของเรามีหนังสือแจกด้วยนะครับ ใครอยากได้ห้ามพลาดเด็ดขาด ของฟรีที่มีคุณค่าแบบนี้ วีไอพลาดไม่ได้ คนที่สามนี่เป็นหนุ่มรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นหม่อมหลวง นามว่า blueblood หนุ่มหล่อท่านนี้ พำนักอยู่ย่าน ศรีย่าน ข้างห้างเอดิสัน ฝีไม้ลายมือไม่เป็นสองรองใคร หน้าตาแล้วไซร์เป็นหนึ่งในตำบล เรียกว่าเป็นที่หลงใหลคลั้งไคล้ของสาวสาว ทั้งในและนอกวงการ วีไอเลยทีเดียว เป็นคนพูดน้อยทำเยอะ ผลตอบแทนเยอะ มีฉายาทางการลงทุนว่า เทพบุตร 900 % ใครอยากรู้ว่าทำไงจะได้หุ้น 900 % ต้องมาฟังโดยเด็ดขาด พลาดไม่ได้ เร็วเร็วนี้เด็กเลี้ยงแกะได้มีโอกาสไปสนามบินก็เพิ่งแอบเห็นหนุ่ม blueblood กำลังเตรียมตัวไปดูบอลถึงประเทศอังกฤษ ช่างน่าอิจฉาจริงจริง สาวสาวท่านใดหากอยากเจอตัวจริงมาดูในงานได้ (แต่พึงควรระวังสาวข้างกายชื่อเป็นผลไม้ต่างประเทศให้ดีด้วย หุหุ ) คนสุดท้ายคือคุณ sai คนนี้เป็นตัวแทนของคนที่มีการศึกษาน้อย เพราะคุณ sai เรียนระดับประถมจากโรงเรียนสองภาษาแห่งหนึ่ง(คือไทย จีนนะ ไม่ใช่ฝรั่ง ) หลังจากนั้นก็เรียนจบแค่ชั้นมัธยมเท่านั้นเอง และ ทำอาชีพต่างต่างมาหลากหลายอย่างจริงจริง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์คำพูดของดร.และปู่บัฟได้เป็นอย่างดีว่า การลงทุนแนววีไอนั้นแค่มีความรู้ระดับมัธยมก็สามารถทำได้แล้ว ขอให้แค่มีความมุ่งมั่นเท่านั้นเอง ปัจจุบันคุณ sai มีลูกสาวหนึ่ง ภรรยา หนึ่ง (อนาคตยังไม่รู้อาจมีเพิ่ม ) เรียกว่าที่เกริ่นมาทั้งหมด ไม่มาไม่ได้จริงจริง ใครยังลังเลอยู่ ตัดสินใจด่วน แล้วเจอเด็กเลี้ยงแกะในงานเด้อ จะนั่งอยู่แถวหน้าเลย บายคร้าบบบบ
ประชาสัมพันธ์ข่าวการลงทุนนะ งุงิ
สัมมนาดีๆ ฟรีๆ ที่ชั้น 3 หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หัวข้อ
จะว่าไปช่วงนี้เซียงเพียงอิ๊วหมดตลาดเพราะนักวิแคะ คงซื้อ มาแจกกันทุกโบรก ช่วงที่หุ้นวืดดดดด ลบแซงหน้าภูมิภาคแบบไม่อายใครไป 3% กว่าๆ นั้น เด็กเลี้ยงแกะจำได้ว่า ก่อนวืดหลายๆโบรก เขียน research ออกมาฟันธงว่าหุ้นไทยนายแน่มาก ไม่กลัวการเมือง ฝรั่งซื้อแบบนี้ พร้อมๆชูจั๊กกะแร้ไป 900 จุด... พื้นฐานประเทศไทยดีเซเว่นแน่นอน ปรากฏว่า หลังหุ้นร่วงกันให้เห็นจะจะแบบไม่ทันข้ามวันรุ่งขึ้น โบรกเดิม ออกมาบอกว่า หาแนวรับไม่เจอแล้น...โอย วันหลังใครอ่านบทวิแคะไม่เก่ง เด็กเลี้ยงแกะแนะนำ
ให้ไปซื้อเซียมซีมาไว้ที่บ้านสักอันน่าจะดีแต๊ๆ.... (ก็บอกแล้วว่า พรกฉุกเฉิน มันเป็นยางงงายยย)
มาถามกันว่า รายใหญ่ทำอะไรกัน เอารายใหญ่แยกราชประสงค์ก่อนดีมะ...เขาบอกว่าหลังๆ เริ่มกลับมาอัดพอร์ตกันบ้างตอนผ่าน 760 แต่ก็เริ่มหวั่นๆตอนเห็นหุ้นร่วงหนักๆ เลยต้องออกมาประเมินสถานการณ์ที่นอกห้างเซ็นทรัลเวิร์ล แล้วบอกว่างานนี้ คงจะยืดเยื้อเรื้อรังแหงมๆ ว่าแล้วก็กลับไปที่โบรกแล้วก็.. ... งุงิ งุงิ.... (อ้าวแล้วจะรู้ไหมว่าขายหรือซื้อล่ะเนี่ย) ไปถามปรมาจารย์เรา เขาบอกว่า ออกกำลังกายเหมือนเดิม
ใครที่ครุ่นคิด ว่า ท่านจะขาย ร้านสะดวกซื้อ เมื่อไหร่ย้ำชัดๆ แล้วจดไว้ จะได้ไม่ลืมว่า... ยังไม่ได้ขายแน่นอนจ้า..ลองไปถามเซียนปักษ์ใต้ ฉายา ปีเตอร์ลิ้นออฟไทยแลนด์..(หลังๆเรียกยาก บางคนเรียก ประเทศ บางคนเรียกรัฐไทย..เวงๆ เผลอเม้าส์การเมืองอีกล่ะ... เดี๋ยวโดนพี่มดมาแบนด์)ท่านปีเตอร์ลิ้นซ์ บอกว่า เงินสด 85% เอ้ย เงินสด 15% ที่เหลือ
ยังคงนอนกอดหุ้นแน่นๆกว่ากอดภรรยาเช่นเคยเพียงแต่ว่า ลดมาร์จิ้นไปหมดแล้ว... แปลความได้ว่าช่วงนี้ ตลาดคลุมเครือ จะว่าแพงงไปก็ยังไม่ใช่.. จะว่าถูกไปก้อยังไม่เชิง... ระวังตัวไว้ก็ดีนะจ๊ะ...งุงิ งุ
จริงจริงปีสองปีนี้ เด็กเลี้ยงแกะพบว่าเป็นปีทองของ หุ้น หวย ที่ดิน และ สาวสาวอย่างแท้จริงครับ ยุดนี้คงเป็นยุคที่เรียกว่าเป็นยุค คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น นายทุนเล่นที่ และ สุภาพสตรีเล่นตัวจริงจริง เพราะทั้งราคาหุ้น ราคาที่ดิน และตัวเลขดัชนีคนเล่นหวย และสาวสาวที่แต่งตัวสวยเอ็กเซ๊กซี่ ในสองปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดครับ ยิ่งในงานสัปดาห์หนังสือ เด็กเลี้ยงแกะก็ไปเดินสามครั้ง ไปบ่อยมาก แต่ไม่ได้ซื้อหนังสือเลยครับ แหะแหะ ไปดูสาวสาวที่มาเลือกซื้อหนังสือนี่เอง ว่ามีสาวสาวที่สนใจลงทุนแนว วีไอบ้างหรือเปล่า เด็กเลี้ยงแกะจะได้อาสาช่วยเหลือครับ แต่ม่ายมีใครสนใจเด็กเลี้ยงแกะเลยครับ สงสัยหน้าตาเด็กเลี้ยงแกะจะดูไม่เกาหลี (ทั้งทั้งที่ก็เกาไปหลายทีแล้ว ) แต่ก็อดดีใจกับอาจารย์ดร.นิเวศน์ไม่ได้ครับ ว่ายังเห็นเด็กรุ่นใหม่เลือกซื้อหนังสือของ ดร. อย่างอุนหนาฝาคั่งครับ สมกับเป็นหนังสือการลงทุนที่ขายดีในตำนานไปเลย อ่อ เร็วเร็วนี้มีหนังสือใหม่ของดร. ชื่อ เล่นหุ้นในปีทอง นะจ๊ะ ใครยังไม่มีจับจองด่วนครับ เข้าใจว่าขายดีม๊ากกก ช้าหมด อดแล้วจะเสียใจเด้อ (คือต้องอย่าลืมนะว่าคนเขียนเค้ารวยน่ะ ดังนั้นยอดสั่งพิมพ์ใหม่ อาจเป็นไปตามความพอใจของผู้เขียน..)
แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ สำหรับเพื่อนเพื่อนท่านใดที่ยังไม่ได้จองในส่วนของงานสัมมนาใหญ่ ไทยวีไอ ประจำวันที่ 1 พ.ค.2553 นี้ คงต้องรีบเร่งโดยด่วนนะครับ เพราะเข้าใจว่าเหลือว่างอีกไม่เกิน 20 ที่เท่านั้น หมดแล้วหมดเลยไม่มีการขยายรอบ อีกนานมากนะครับ กว่าจะมีงานแบบนี้อีกครั้งนึง เบื้องต้นเด็กเลี้ยงแกะขออนุญาต แนะนำตัว สี่ขุนพลอย่างคร่าวคร่าวให้ฟังโดยย่อเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนเลยล่ะ เริ่มต้นด้วยพี่ chatchai เป็นนักลงทุนรุ่นเก่าแก่ แต่ยังไม่แก่ ประสบการณ์นี้เขียนออกมาเป็นหนังสือหลายเล่มก็ไม่จบ โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคการคุ้ยแค่ะแกะเกา งบการเงิน ต้องยอมรับกันเลยที่เดียวว่าเป็นหนึ่งในตองอูอย่างแท้จริง พี่ฉัตรชัยปัจจุบันมีอิสรภาพทางการเงินเรียบร้อย มีหน้าที่รับส่งลูก และ ดูแลครอบครัวน้อยน้อยที่อบอุ่นนั่นเอง เด็กเลี้ยงแกะมักพบเจอพี่ ฉัตรชัยที่แต่งตัวสไตล์ jpop(คือเหมือนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเลย ) อยู่ที่ เซ็นทรัลเวิร์ด ทุกวันเสาร์ เพราะ family man คนนี้จะพาครอบครัวไป กินอาหารนอกบ้าน และ ไปศึกษาหาความรู้ที่ ทีเคพาร์คอยู่เสมอ (เห็นครอบครัวนี้แล้ว เด็กเลี้ยงแกะอดคิดถึง mom กับ dad ที่เมืองนอกไม่ได้ คิดถึงตอนคริสมาสต์ที่ครอบครัวเด็กเลี้ยงแกะจะอยู่หน้าเตาผิง กินไก่งวง และ ดูหิมะเริ่มตกด้วยกัน อิอิ ) นับได้ว่าเป็นตำนานนักลงทุนแนววีไอที่มีชีวิตที่น่าเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งสไตล์การลงทุน และ การใช้ชีวิตอย่างแท้จริงครับ มาที่พี่ท่านที่สองคือ พี่ web ครับ พี่ web เป็นชายร่างใหญ่ หน้าตาคมขำ พูดน้อยต่อยหนัก แต่เรื่องความรู้ในการลงทุนอยู่ในระดับที่หาตัวจับยากจริงจริง โดยพี่ web ยังมีงานอดิเรกในเรื่องของการแปลหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนเน้นคุณค่าอยู่ เสมอ เด็กเลี้ยงแกะไม่เคยเจอหนังสือแปลการลงทุนเน้นคุณค่า ที่เขียนแล้วอ่านเข้าใจง่ายขนาดนี้ อาจเป็นเพราะพี่ web ของเราเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าด้วยนั่นเอง จึง เข้าใจหัวอกหัวใจของคนเขียนเป็นอย่างดี และ พี่ web เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในประเทศที่มีหุ้นของ เบิรก์ไชน์ และ เคยไปประชุม ไปสัมผัส ไปถ่ายรูปกับปู่บัฟเฟต์ตัวจริงเสียงจริงมาแล้ว (คนไหนอยากสัมผัสปู่บัฟ ให้สัมผัสพี่เวปแทนได้ เดี่ยวพี่เวปไปสัมผัสต่อให้ ) อ่อ งาน invester day ครั้งที่จะถึงนี้ พี่ web ของเรามีหนังสือแจกด้วยนะครับ ใครอยากได้ห้ามพลาดเด็ดขาด ของฟรีที่มีคุณค่าแบบนี้ วีไอพลาดไม่ได้ คนที่สามนี่เป็นหนุ่มรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นหม่อมหลวง นามว่า blueblood หนุ่มหล่อท่านนี้ พำนักอยู่ย่าน ศรีย่าน ข้างห้างเอดิสัน ฝีไม้ลายมือไม่เป็นสองรองใคร หน้าตาแล้วไซร์เป็นหนึ่งในตำบล เรียกว่าเป็นที่หลงใหลคลั้งไคล้ของสาวสาว ทั้งในและนอกวงการ วีไอเลยทีเดียว เป็นคนพูดน้อยทำเยอะ ผลตอบแทนเยอะ มีฉายาทางการลงทุนว่า เทพบุตร 900 % ใครอยากรู้ว่าทำไงจะได้หุ้น 900 % ต้องมาฟังโดยเด็ดขาด พลาดไม่ได้ เร็วเร็วนี้เด็กเลี้ยงแกะได้มีโอกาสไปสนามบินก็เพิ่งแอบเห็นหนุ่ม blueblood กำลังเตรียมตัวไปดูบอลถึงประเทศอังกฤษ ช่างน่าอิจฉาจริงจริง สาวสาวท่านใดหากอยากเจอตัวจริงมาดูในงานได้ (แต่พึงควรระวังสาวข้างกายชื่อเป็นผลไม้ต่างประเทศให้ดีด้วย หุหุ ) คนสุดท้ายคือคุณ sai คนนี้เป็นตัวแทนของคนที่มีการศึกษาน้อย เพราะคุณ sai เรียนระดับประถมจากโรงเรียนสองภาษาแห่งหนึ่ง(คือไทย จีนนะ ไม่ใช่ฝรั่ง ) หลังจากนั้นก็เรียนจบแค่ชั้นมัธยมเท่านั้นเอง และ ทำอาชีพต่างต่างมาหลากหลายอย่างจริงจริง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์คำพูดของดร.และปู่บัฟได้เป็นอย่างดีว่า การลงทุนแนววีไอนั้นแค่มีความรู้ระดับมัธยมก็สามารถทำได้แล้ว ขอให้แค่มีความมุ่งมั่นเท่านั้นเอง ปัจจุบันคุณ sai มีลูกสาวหนึ่ง ภรรยา หนึ่ง (อนาคตยังไม่รู้อาจมีเพิ่ม ) เรียกว่าที่เกริ่นมาทั้งหมด ไม่มาไม่ได้จริงจริง ใครยังลังเลอยู่ ตัดสินใจด่วน แล้วเจอเด็กเลี้ยงแกะในงานเด้อ จะนั่งอยู่แถวหน้าเลย บายคร้าบบบบ
ประชาสัมพันธ์ข่าวการลงทุนนะ งุงิ
สัมมนาดีๆ ฟรีๆ ที่ชั้น 3 หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หัวข้อ
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 2
ตามด้วย...
money talk ของพวกเรา..ชาวไทยวิ
เสาร์
money talk ของพวกเรา..ชาวไทยวิ
เสาร์
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 3
สัปดาห์นี้ มีสัมภาษณ์ สุดยอดเซียนอีกท่าน
เด็กเลี้ยงแกะรู้จักเขาครั้งแรก ในนามของเซียนเปลี่ยนม้า... เคยมีคนตั้งถามว่า ในการลงทุนแนววีไอ ให้สำเร็จ ต้องขี่ม้าตัวเดียวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเส้นชัย หรือม้าตัวเดิม เริ่มป่วย หรือเปลี่ยนไปใช้วิชาของเจงกิสข่าน คือ เตรียมม้าไว้หลายๆตัวในการเดินทาง หากม้าตัวไหนดูอ่่อนแรง ก็กระโดดไปขึ้นม้าอีกตัวนึง ปรากฏว่า เจงกิสข่านเดินทางข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็ว จนได้ชัยชนะไปทั่ว
เซียนท่านนี้ นอกจากฝีมือหาตัวจับยาก(ลื่นปรื๊ดๆ) :twisted: ผลตอบแทนการลงทุนไม่ธรรมดา
แล้วเขายังคิดการใหญ่ ในช่วง ต้นพ.ค.นี้อีก
แต่รอบนี้ เอามาเล่ากันฟรีๆ เดี๋ยวจะหาว่า ของไม่ดีจิง
เด็กเลี้ยงแกะ จะลองเรียกมวลชนดูบ้างดีกว่า
พ่อ - แม่ - พี่ - น้อง - แกะ... งุงิ
ใครอยากอ่านสัมภาษณ์แบบเจาะลึก
ขอเสียงหน่อยเร้วววววว
(ว่าแต่ว่า......... ใครเดาออกบ้างว่า เซียนท่านนี้คือใคร)
:roll: :roll:
เด็กเลี้ยงแกะรู้จักเขาครั้งแรก ในนามของเซียนเปลี่ยนม้า... เคยมีคนตั้งถามว่า ในการลงทุนแนววีไอ ให้สำเร็จ ต้องขี่ม้าตัวเดียวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเส้นชัย หรือม้าตัวเดิม เริ่มป่วย หรือเปลี่ยนไปใช้วิชาของเจงกิสข่าน คือ เตรียมม้าไว้หลายๆตัวในการเดินทาง หากม้าตัวไหนดูอ่่อนแรง ก็กระโดดไปขึ้นม้าอีกตัวนึง ปรากฏว่า เจงกิสข่านเดินทางข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็ว จนได้ชัยชนะไปทั่ว
เซียนท่านนี้ นอกจากฝีมือหาตัวจับยาก(ลื่นปรื๊ดๆ) :twisted: ผลตอบแทนการลงทุนไม่ธรรมดา
แล้วเขายังคิดการใหญ่ ในช่วง ต้นพ.ค.นี้อีก
แต่รอบนี้ เอามาเล่ากันฟรีๆ เดี๋ยวจะหาว่า ของไม่ดีจิง
เด็กเลี้ยงแกะ จะลองเรียกมวลชนดูบ้างดีกว่า
พ่อ - แม่ - พี่ - น้อง - แกะ... งุงิ
ใครอยากอ่านสัมภาษณ์แบบเจาะลึก
ขอเสียงหน่อยเร้วววววว
(ว่าแต่ว่า......... ใครเดาออกบ้างว่า เซียนท่านนี้คือใคร)
![Rolling Eyes :roll:](./images/smilies/icon_rolleyes.gif)
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 7
ติดตามอ่านทุกตอนเลยครับ ![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 8
ฝากพี่เด็กเลี้ยงแกะด้วยครับ
สำหรับรายการสัมมนาวันเสาร์ที่ 17 เมย
ซึ่งคงจองกันแล้ว ต้องไปก่อน 1245 น. นะครับ
ไม่งั้นเก้าอ้ีัหาย และยังแจกหนังสือพี่ web อีกคนละเล่มด้วยครับ
บอกมากันลืมครับ...........
กำหนดการ จัดรายการ มันนี่ทอล์ค
ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2553
1300-1500 น. ลงทุนแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
พรชัย รัตตนนทชัยสุข นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือแนวหุ้นคุณค่า
ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์ นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1500-1515 น. พัก
1515-1715 น. วิถีวีไอไทย
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ นักลงทุนหุ้นคุณค่า
นพ.บำรุง ศรีงาน ประธาน THAIVI.COM
มนตรี นิพิฐวิทยา นักลงทุนหุ้นคุณค่า
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
แจกฟรีทุกท่าน
หนังสือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก่อนจะขายกิจการให้ วอร์เรน บัฟเฟตต์
แปลและเรียบเรียงโดย พรชัย รัตนนนทชัยสุข
มูลค่า 250 บาท
สำหรับรายการสัมมนาวันเสาร์ที่ 17 เมย
ซึ่งคงจองกันแล้ว ต้องไปก่อน 1245 น. นะครับ
ไม่งั้นเก้าอ้ีัหาย และยังแจกหนังสือพี่ web อีกคนละเล่มด้วยครับ
บอกมากันลืมครับ...........
กำหนดการ จัดรายการ มันนี่ทอล์ค
ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2553
1300-1500 น. ลงทุนแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
พรชัย รัตตนนทชัยสุข นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือแนวหุ้นคุณค่า
ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์ นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1500-1515 น. พัก
1515-1715 น. วิถีวีไอไทย
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ นักลงทุนหุ้นคุณค่า
นพ.บำรุง ศรีงาน ประธาน THAIVI.COM
มนตรี นิพิฐวิทยา นักลงทุนหุ้นคุณค่า
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
แจกฟรีทุกท่าน
หนังสือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก่อนจะขายกิจการให้ วอร์เรน บัฟเฟตต์
แปลและเรียบเรียงโดย พรชัย รัตนนนทชัยสุข
มูลค่า 250 บาท
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 9
[quote="เด็กใหม่ไฟแรง"]ฝากพี่เด็กเลี้ยงแกะด้วยครับ
สำหรับรายการสัมมนาวันเสาร์ที่ 17 เมย
ซึ่งคงจองกันแล้ว ต้องไปก่อน 1245 น. นะครับ
ไม่งั้นเก้าอ้ีัหาย และยังแจกหนังสือพี่ web อีกคนละเล่มด้วยครับ
บอกมากันลืมครับ...........
กำหนดการ จัดรายการ “มันนี่ทอล์ค”
สำหรับรายการสัมมนาวันเสาร์ที่ 17 เมย
ซึ่งคงจองกันแล้ว ต้องไปก่อน 1245 น. นะครับ
ไม่งั้นเก้าอ้ีัหาย และยังแจกหนังสือพี่ web อีกคนละเล่มด้วยครับ
บอกมากันลืมครับ...........
กำหนดการ จัดรายการ “มันนี่ทอล์ค”
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 10
ไม่ได้จองไปได้ไหมครับ ![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 11
ฟังถ่่ายทอดข้างล่างคับSunShine@Night เขียน:ไม่ได้จองไปได้ไหมครับ
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
- Packky
- Verified User
- โพสต์: 856
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 12
เข้ามารายงานตัวครับ งุงิงุงิ..... :lol: :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 13
:lol:
ชอบมาก "คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น นายทุนเล่นที่ สตรีเล่นตัว"
ชอบมาก "คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น นายทุนเล่นที่ สตรีเล่นตัว"
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- VI Wannabe
- Verified User
- โพสต์: 1013
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 15
อันนี้ เห็นด้วยครับ โลกมานร้อนนนและสาวสาวที่แต่งตัวสวยเอ็กเซ๊กซี่ ในสองปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดครับ
![Cool :8)](./images/smilies/icon_cool.gif)
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 16
[quote="เด็กเลี้ยงแกะ"]สัปดาห์นี้
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 19
ฮิ้วววววววว
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 20
พี่ๆที่ไม่ได้จองและอยากไปร่วมงาน
ไปได้ครับ
ขอให้ไปสัก 1230-1240 น.
อาจจะต้องเข้าคิวหน่อยนึง
แต่พอสัก 1250 คนจองไม่มา หรือมาไม่ถึง
ก็จะให้คนเข้าคิวเข้าไปครับ
เชิญนะครับ
รายการนี้สำหรับ vi โดยเฉพาะครับ
ไปได้ครับ
ขอให้ไปสัก 1230-1240 น.
อาจจะต้องเข้าคิวหน่อยนึง
แต่พอสัก 1250 คนจองไม่มา หรือมาไม่ถึง
ก็จะให้คนเข้าคิวเข้าไปครับ
เชิญนะครับ
รายการนี้สำหรับ vi โดยเฉพาะครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
- SupachaiZ594
- Verified User
- โพสต์: 834
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 21
ตามมาอ่านครับ ![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 22
กำหนดการ จัดรายการ มันนี่ทอล์ค
ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2553
1300-1500 น. ลงทุนแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
พรชัย รัตตนนทชัยสุข นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือแนวหุ้นคุณค่า
ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์ นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1500-1515 น. พัก
1515-1715 น. วิถีวีไอไทย
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ นักลงทุนหุ้นคุณค่า
นพ.บำรุง ศรีงาน ประธาน THAIVI.COM
มนตรี นิพิฐวิทยา นักลงทุนหุ้นคุณค่า
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
แจกฟรีทุกท่าน
หนังสือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก่อนจะขายกิจการให้ วอร์เรน บัฟเฟตต์
แปลและเรียบเรียงโดย พรชัย รัตนนนทชัยสุข
มูลค่า 250 บาท
รายการนี้จะมีการบันทึกเทป มันนี่ทอล์ค
และนำออกอากาศอีกทีครับ ทั้งสองหัวข้อครับ
หัวข้อละ 2 สัปดาห์
ดูกันเต็มๆครับ :lol:
เร่ิมวันที่ 24-25 เมยครับ
มันนี่ทอล์ค ออกอากาศทาง
1. Nation วันเสาร์ 16-17 น.
2. TrueVision8 วันเสาร์และวันอังคาร (ฉายซ้า) 22-23 น.
3. Money channel วันอาทิตย์ 8-9 น............................
ส่วนการ uplink ต้องรอพี่ๆที่นี่ช่วยจัดการครับ
เพราะทีมงานทำไม่เป็นครับ
ฝากพี่เด็กเลี้ยงแกะด้วยนะครับ
ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2553
1300-1500 น. ลงทุนแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
พรชัย รัตตนนทชัยสุข นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือแนวหุ้นคุณค่า
ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์ นักเขียน-เรียบเรียงหนังสือการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1500-1515 น. พัก
1515-1715 น. วิถีวีไอไทย
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ นักลงทุนหุ้นคุณค่า
นพ.บำรุง ศรีงาน ประธาน THAIVI.COM
มนตรี นิพิฐวิทยา นักลงทุนหุ้นคุณค่า
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
แจกฟรีทุกท่าน
หนังสือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก่อนจะขายกิจการให้ วอร์เรน บัฟเฟตต์
แปลและเรียบเรียงโดย พรชัย รัตนนนทชัยสุข
มูลค่า 250 บาท
รายการนี้จะมีการบันทึกเทป มันนี่ทอล์ค
และนำออกอากาศอีกทีครับ ทั้งสองหัวข้อครับ
หัวข้อละ 2 สัปดาห์
ดูกันเต็มๆครับ :lol:
เร่ิมวันที่ 24-25 เมยครับ
มันนี่ทอล์ค ออกอากาศทาง
1. Nation วันเสาร์ 16-17 น.
2. TrueVision8 วันเสาร์และวันอังคาร (ฉายซ้า) 22-23 น.
3. Money channel วันอาทิตย์ 8-9 น............................
ส่วนการ uplink ต้องรอพี่ๆที่นี่ช่วยจัดการครับ
เพราะทีมงานทำไม่เป็นครับ
![Embarassed :oops:](./images/smilies/icon_redface.gif)
ฝากพี่เด็กเลี้ยงแกะด้วยนะครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 24
![Cheers! :cheers:](./images/smilies/cheers.gif)
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว เสาร์ที่ 10 เมษายน 2553
โพสต์ที่ 28
ว๊าา.. ว่าจะรอให้คนมาโพสต์ตอบเยอะๆหน่อย
แต่สงสัยเหตุการณ์บ้านเมืองและตลาดหุ้วนจะไม่ค่อยเป็นใจแฮะ งั้นมารู้จักกับเซียนเปลี่ยนม้า ท่านนี้กันเลยดีกว่างะงับ..
พี่ little boy หนุ่มหล่อเข้มนั่นเอง.... ชะเอิงเงยยย
1. แนะนำตัวสักนิดงับ
เด็กเลี้ยงแกะอุตสาห์ให้เกียรติสัมภาษณ์ทั้งที ขอเล่ายาวเลยดีกว่าครับ 55
ยะลา ดินแดนด้ามขวาน 3 จว.ชายแดนใต้ เป็นที่ๆ ผมเกิด และเติบโตมาจากที่นั่นครับ ด้วยความที่เป็นคนไม่ตั้งใจเรียนเลยในสมัยเด็ก เที่ยวเล่นไปวันๆ อ่านหนังสือน้อยกว่า 8 บรรทัดต่อวันซะอีก เกรดเฉลี่ยออกมาไม่สวยหรู ก็เลยไปร่ำเรียนสายอาชีพตามคำแนะนำของอาจารย์แนะแนวในตอนนั้น ปวส. การบัญชี เป็นคุณวุฒิแรกที่ผมสำเร็จการศึกษามาครับ
หลังจบ ปวส. ชีวิตผมก็ถึงจุดเปลี่ยนใหญ่ๆ การจากไปของหัวหน้าครอบครัว ทำให้ฐานะทางบ้านที่เคยมีลำบากยิ่งกว่าเดิม ผมเลือกที่จะทิ้งการศึกษาไว้เพียงแค่นั้นครับ เพราะไม่อยากเป็นภาระของครอบครัว ระหว่างที่กำลังเหลียวซ้ายแลขวาว่าจะทำงานที่ไหนดี ผมก็โชคดีมีภารกิจภาคบังคับให้ไปฝึกวินัยให้กับชีวิต ทบ.2 คือน้ำเสียงประกาศข้อความบนฉลากที่ผมหยิบมัน ผมได้งานมีเงินเดือนแบบจำใจ ผมต้องไปรับใช้ชาติเป็นทหารกองประจำการอยู่ 2 ปี ณ ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี
ทหาร...ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดจริงๆ หลังจากปลดประจำการด้วยร่างกายครบ 32 ผมมีเงินเดือนที่เหลือเก็บนิดหน่อย พร้อมบัตรทหารผ่านศึกหนึ่งใบ และระเบียบวินัยที่เพิ่มขึ้น ผมเลือกเรียนต่อในสาขาวิชา การจัดการ สถาบันราชภัฎยะลา เพราะไม่มีสาขาบัญชีให้เลือกเรียน ระหว่างที่เรียนนั้นผมก็ทำงาน part-time ไปด้วย ทั้งรับจ้างพิมพ์รายงาน อัดสปอตโฆษณาวิทยุ จัดรายการวิทยุ เฝ้าร้านอินเตอร์เน็ท เขียนหวยใต้ดิน เขียนโพยฟุตบอล ทำทุกอย่างที่ทำได้(ยกเว้นก่อความไม่สงบ) จนกระทั่งจบการศึกษา
“ฉันเคยฝันใฝ่ ว่าจะได้ดี เริ่มชีวีในแดนศิวิไลซ์” เสียงเพลงของพี่ปั่น ไพบูลย์ แว่วมาในห้วงคำนึง ผมนั่งมองรถราและผู้คนอันวุ่นวายบนตึกสูง ด้วยฐานเงินเดือนอันเตี้ยต่ำ การเปลี่ยนงานที่แล้วที่เล่า สามารถเพิ่มตัวเลขรายรับได้บ้าง แต่มันก็ยังห่างไกลกับคำว่ามั่งคั่งร่ำรวยอยู่ดีครับ ผมได้เข้าทำงานในหลากหลายธุรกิจ จนมารู้สึกสนุกและอยู่นานที่สุดกับ บริษัทจัดสัมมนาแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการจัดสัมมนาให้กับธุรกิจ MLM ชื่อดัง มีทั้งสัมมนารายสัปดาห์ รายเดือน ราย 3 เดือน และรายปี จำนวนผู้เข้าสัมมนาก็มีตั้งแต่หลักร้อยคน พันคน ไปจนกระทั่งห้าพันคน นอกจากจัดสัมมนาแล้วที่บริษัทยังมีโปรแกรมที่จะปลูกฝังทัศนคติบวกให้กับคนใน องค์กรของเขา โดยการ ฟังเทป อ่านหนังสือ และที่แห่งนี้เองที่ทำให้ผมได้รู้จักกับหนังสือดีๆ ที่เปลี่ยนทัศนคติของผม ไม่ว่าจะเป็น พ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้าน คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก เงินทองไหลมาเทมาตามท่อ ที่มุ่งเน้นให้ผู้คนหลุดกรอบจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน หลุดจากความคิดแบบเดิมๆ ที่เน้นการทำงานหนัก ใช้เวลาเพื่อแลกเงิน ซึ่งมันไม่ได้เป็นหนทางสู่อิสรภาพที่แท้จริง ผมเคยลองที่จะทำ MLM บ้าง แต่สุดท้ายก็ล้มเลิก เพราะคิดว่านั่นไม่ใช่ตัวตนของผม ผมไม่ได้มีเพื่อนฝูงมากมายที่จะชักชวนมาเป็นเครือขายได้ เฮ้อ..แล้วผมจะมีอิสรภาพได้จากหนทางไหนล่ะ
ผมเก็บเกี่ยวประสบการณ์กว่า 3 ปีจากที่นั่น ออกมาทำธุรกิจออแกไนซ์เล็กๆ เป็นของตัวเอง ล้มลุกคลุกคลานผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ จนกระทั่งเริ่มตั้งตัวได้ และเริ่มที่จะมีเงินเก็บ ผมค้นหาวิธีการที่จะเก็บเงินของผมให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด จนกระทั่งมาเจอหนังสือ ตีแตก ผมอ่านมันไปดีใจไป รำพันกับตัวเองว่า “ผมเจอแล้วหนทางสู่อิสรภาพทางการเงิน มันไม่ได้มีแค่การทำ MLM จริงๆ ด้วย” ผมอ่านมันจบอย่างไว และตามด้วยเล่มต่อๆ ไปที่เกี่ยวกับการลงทุน ความรู้ทางด้านบัญชี และการจัดการที่ร่ำเรียนมา เริ่มถูกนำมาใช้ในการคัดกรองหุ้น แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ ก็เลยไปเรียนต่อ MBA เพื่ออัพเดทความรู้ ติดอาวุธทางปัญญาให้กับตัวเองอีกขั้นหนึ่ง จนกระทั่งผมมาพบกับเว็ปไซด์ ไทยวีไอ ที่ให้ข้อมูลความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเคล็ดลับมากมายจากบรรดาเซียนๆ รุ่นพี่ ขอบคุณสวรรค์จริงๆ นอกจากผมจะผมหนทางสู่อิสรภาพแล้ว ผมยังพบเว็ปไซด์ที่เปรียบประหนึ่งแผนที่ลายแทงขุมทรัพย์เพิ่มเข้ามาอีก
ก้าวย่างการลงทุนของผม อาจจะมีผลตอบแทนที่ไม่ได้เลิศหรูนักหากเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ ทั้งหลายในเว็ป แต่อย่างน้อยผมก็พึงพอใจที่มันสร้างกำไรได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก พอใจในความพอดีของผลตอบแทนตามความรู้ความสามารถ เด็กผู้ชายตัวน้อยๆ คนนี้ ยังคงก้าวเดินต่อไปตามจุดมุ่งหมาย ที่หวังไว้ ณ จุดปลายฝัน ว่าสักวัน..จะสามารถเปล่งพลังแห่งอิสรภาพได้ ประหนึ่งดั่งอานุภาพของระเบิดปรมณู หากคนธรรมดาๆ ในทุกๆ ด้านอย่างผมทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกันครับ
2. ความเป็นมาของงาน tvi meeting
จริงๆ งาน tvi meeting มีมา 2 ครั้งได้แล้วมั้งครับ แต่ผมเองเข้ามาทันร่วมงานแค่ในครั้งที่ผ่านมาตอนประมาณปี 2007 ยังจำได้เลยครับ วันนั้นสมาชิกในกลุ่มผมนี่เทพๆ ทั้งนั้น มีทั้งพี่ธันวา พี่WEB คุณโยโย่ ฯ ผมเองเป็นคนไปพรีเซนต์หุ้นที่กลุ่มนำเสนอหน้าห้องประชุม อาจจะเพราะด้วยความเคยชินกับการเป็นคนเบื้องหลัง มากกว่าอยู่เบื้องหน้า (ไม่ได้หมายความว่าชอบข้างหลังนะครับ) ก็เลยรู้สึกประหม่า พรีเซนต์ไปแบบตะกุกตะกัก ดู DVD ทีไรแล้วรู้สึกเขินตัวเองทุกที แต่อย่างน้อยก็ยังดีนะ ที่หุ้นตัวนั้นขึ้นมา 4 เด้งแล้ว อิอิ ใครที่ถือยาวตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน คงยิ้มร่าเลยละครับ แต่สำหรับผม ขายหมูไปนานแล้วละครับ เสียดายจริงๆ
สำหรับครั้งนี้นั้น ก็ล่วงเลยเวลาจากงานครั้งที่แล้วมา 2 ปี สมาชิกหลายๆ ท่านรวมทั้งผมเองที่เคยร่วมงานในครั้งก่อนก็เลยคิดถึง อยากให้มีการจัดงานสัมมนาขึ้นมาอีก (ใจจริงอยากได้หุ้น 4 เด้งตัวต่อไปด้วยครับ สัญญาคราวนี้จะไม่รีบขาย จริงๆ นะ) กอปรกับท่านประธานเว็ปพี่หมอสามัญชน ก็เห็นด้วยที่จะจัดให้มีงานสัมมนาขึ้น แต่ติดปัญหาตรงที่ทีมงานหลายๆ ท่านยังเหนื่อยจากงานครั้งที่แล้วไม่หาย ผมก็เลยอาสาที่จะเข้ามาช่วยในส่วนงานที่ผมเองพอมีความรู้ความสามารถให้กับ เว็ปบ้าง ก็เลยเกิดเป็นงานในครั้งนี้ขึ้นมาครับ
3. ช่วยเล่าเรื่องงาน meeting ที่จะถึงให้หน่อย ว่ารูปแบบงานเป็นอย่างไร มีอะไรเป็น high light บ้าง
รูปแบบของงานสัมมนาในครั้งนี้นั้นหลักใหญ่ใจความก็คงคล้ายๆ กับงานครั้งก่อนที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ช่วงใหญ่ๆ ได้คือ
1. ช่วงสัมภาษณ์ 4 ขุนพล ช่วงนี้เราจะนำผู้ที่ประสบความสำเร็จ มาบอกเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวในการลงทุน เพื่อเป็นคนต้นแบบ เป็น idol ให้กับคนใหม่ๆ ที่เริ่มต้น ว่าการลงทุนในหุ้น เป็นเส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงินได้ รวมถึงเผยเทคนิค เคล็ดลับ วิธีการส่วนตัวในการคัดเลือกหุ้น ที่ทั้งมือใหม่และมือเก่าสามารถนำกลับไปปรับใช้ให้เหมาะกับตนได้ครับ
2. ช่วงรู้เขารู้เรา เรียนรู้เทคนิคอลเบื้องต้น จากกูรูทางด้านฝ่ายเทคนิค แน่นอนครับว่าเราชาว VI คงไม่ตัดสินใจซื้อหุ้นเพียงเพราะกราฟบอกให้ซื้อโดยไม่คำนึงถึงพื้นฐาน แต่มรรคาบู๊กว้างใหญ่ไพศาล จะดีแค่ไหนหากใช้ลมปราณอันแข็งแกร่งของวีไอ ควบคู่กับท่วงท่าที่กระชับฉับไวของฝ่ายเทคนิค ดินแดนแห่งอิสรภาพมีรึจะไม่มีที่ให้หยัดยืน (เกี่ยวไหมเนี่ยะ)
3. ช่วงระดมสมอง มองหาหุ้นเด่น ช่วงนี้เป็นช่วงที่สมาชิกจะเข้ามาร่วมแชร์ข้อมูล ความรู้ เพื่อค้นหาหุ้นเด่นในรายอุตสาหกรรม (ไม่ได้มีวิทยากรมาให้ข้อมูลนะครับ เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะกล้ามาสอนเซียนๆ ในเว็ปนี้) โดยในครั้งนี้เราแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 อุตสาหกรรมครับ ประกอบไปด้วย อสังหาฯ, อาหารและการเกษตร, ค้าปลีก, พลังงาน และ ยานยนต์ ครับ โดยจะมีทีมงาน mod ที่จะรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นสำหรับอุตสาหกรรมไว้ให้เพื่ออำนวยความสะดวกในการ ค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูล
ภายในห้องประชุมของแต่ละอุตสาหกรรม ท่านที่เข้าร่วมสัมมนา สามารถนำเสนอหุ้นที่ท่านสนใจในอุตฯ นั้นๆ โดยยกข้อดี ข้อเสีย จุดที่น่าสนใจมาบอกเล่าให้กับคนในกลุ่มได้รับฟัง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการถกเถียงกันด้วยเหตุผล จนในที่สุดก็เลือกหุ้นที่คนในกลุ่มสนใจมากที่สุดมา 1-2 ตัว เพื่อนำมาพรีเซนต์ในห้องประชุมรวม โดยบอกถึงเหตุผลที่เลือกหุ้นตัวดังกล่าว ให้ผู้ร่วมสัมมนากลุ่มอื่นๆ ได้รับฟัง
สำหรับมือใหม่ที่กังวลว่าไม่มีความรู้จะไปร่วมแชร์อะไรกับเค้า ก็ไม่ต้องกังวลครับ แต่แนะนำว่าควรจะเตรียมตัวทำการบ้านไว้สักหน่อยบ้าง เพราะเกิดเค้าคุยกันถึงเรื่อง PB PB ROE ROA แล้วไม่มีพื้นฐานเลยอาจจะตามไม่ทันครับ แต่ถ้าอ่านมาแล้ว ตามไม่ทันจริงๆ ก็สามารถยกมือสอบถามผู้ที่กำลังให้ข้อมูลอยู่ได้เลยครับ งานนี้เราระดมสมอง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไม่มีกั๊กอยู่แล้วครับ เรียนรู้ที่จะหาปลา ดีกว่ารอให้คนอื่นหาปลามาให้กินนะครับ
ส่วนมือเก่า มือเซียน งานนี้ก็เปรียบเสมือนการตรวจการบ้าน หลายๆ ครั้งที่เราเลือกหุ้นแล้วรู้สึกเข้าข้างตัวเองมากเกินไป หรือบางครั้งก็รับรู้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดความผิดพลาดในการคัดเลือกหุ้น แต่งานในครั้งนี้คุณจะมีเพื่อนๆ คอเดียวกันช่วยตรวจสอบ ช่วยกันแชร์ข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น อาจได้รับรู้มุมมองใหม่ๆ ทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับหุ้นตัวนั้นๆ และสามารถนำกลับไปปรับใช้ในการกรองหุ้นครั้งต่อไปได้ครับ
4. ช่วงวิจารณ์หุ้นเด็ด โดย ดร.นิเวศน์ ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้ครับ ปรมาจารย์อันดับหนึ่งของวีไอ จะมาให้คำวิจารณ์หุ้นเด็ด ที่แต่ละอุตสาหกรรมได้พรีเซนต์นำเสนอไปว่าท่านมีมุมมองอย่างไรกับหุ้นตัว นั้นๆ เพื่อให้ผู้ร่วมสัมมนานำกลับไปพิจารณา รวมถึงกลเม็ดเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่อาจารย์จะมาเสริมข้อมูลให้พวกเราได้รับรู้กันครับ
4. สี่ขุนพล เป็นใครเหรองับ... แต่ละท่านมีอะไรน่าสนใจบ้าง
ในส่วนของการคัดเลือก 4 ขุนพลนั้น ได้มีการปรึกษากับประธานและทีมงานเว็ป ให้เป็นผู้ร่วมตัดสินใจที่จะคัดเลือก โดยแบ่งเป็นขุนพลมือเก๋า 2 ท่าน และขุนพลนักลงทุนรุ่นใหม่ 2 ท่าน เพื่อให้ครอบคลุมที่จะเป็นต้นแบบ ให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกวัย โดยแต่ละท่านก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้
1. คุณ Chatchai หรือพี่ฉัตร มือหนึ่งด้านงบการเงินแห่งไทยวีไอ งานนี้ใครที่ไม่ค่อยเข้าใจงบ หรือไม่แน่ใจว่าควรจะให้ความสำคัญพิเศษกับตรงจุดไหน กระแสเงินสดบวกเยอะๆ ดียังไง งานนี้พี่ฉัตรจะมาไขข้อข้องใจให้กับทุกท่านแน่นอนภายในงานสัมมนา
2. คุณ WEB หรือที่หลายท่านคุ้นชื่อในนาม พรชัย รัตนนนทชัยสุข หนึ่งไม่มีสองในวงการแปลหนังสือการลงทุนแบบวีไอ
งานนี้แค่ฟังข้อมูลจากพี่พรชัย ก็เหมือนอ่านสรุปหนังสือหลายๆ เล่มแล้วละครับ ส่วนใครจะถามถึงประสบการณ์ที่ไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ก็ไม่ว่ากันครับ
3. คุณ Blueblood นักลงทุนหนุ่มหล่อ ผู้ที่เคยสร้างสถิติกำไรหุ้น 900% มาแล้ว แถมผลตอบแทนทบต้นก็ไม่ธรรมดาเฉลี่ย 70% ติดต่อกัน 7 ปี พร้อมแล้วที่จะมาเผยประสบการณ์คัดกรองหุ้นว่าทำอย่างไรให้กับผู้ร่วมสัมมนา ทุกท่าน งานนี้ถ้ามีบอกใบ้ให้ผมสักตัว ไม่ต้องถึงขั้น 900% แค่ 90% ผมก็ดีใจแล้วววว
4. คุณ sai อีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่ขวนขวายจนก้าวสู่ความสำเร็จทั้งทางด้านธุรกิจ และการลงทุนอย่างรวดเร็ว พร้อมแล้วที่จะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ และหนทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยลีลาการพูดที่คุณอาจเผลอนึกว่ากำลังนั่งดูเดี่ยวไมโครโฟนอยู่
5. เล่าเรื่องส่วนตัวสักนิด ได้ข่าวเป็นเซียนเปลี่ยนม้า ปกติแล้วเห็น VI มักถือหุ้นตัวนั้นนยาวๆๆ จนกว่าจะเจอตัวใหม่ที่น่าสนใจมากกว่า แต่เห็นคุณเคยเปลี่ยนหุ้นหลายๆรอบในเวลาอันสั้น แถมผลตอบแทนก็เหนือชั้นมากๆ ช่วยบอกเคล็ดลับสักนิด
ขอออกตัวก่อนเลยครับว่า อันที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนหุ้นมันบ่อยๆ นะครับ ผมก็ยังคงยึดตามหลักการของวีไอ ที่จะเปลี่ยนหุ้นก็ต่อเมื่อ พื้นฐานเปลี่ยน, ราคาเต็มมูลค่า หรือเจอหุ้นตัวใหม่ที่มีอัพไซด์และน่าสนใจมากกว่า แล้วแต่ว่าเงื่อนไขใดจะมาถึงก่อน ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากวีไอทั่วไปแต่อย่างใด แต่อาจจะด้วยลักษณะการลงทุนของผม ที่มีการแบ่งเป็นการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งเจ้าหุ้นที่ลงทุนระยะสั้นนี่เอง คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ดูเหมือนผมเปลี่ยนหุ้นบ่อยๆ ครับ ส่วนหุ้นตัวไหนจะลงทุนระยะไหน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของหุ้นครับ ว่าผมมองมันเป็นหุ้นประเภทไหน ซึ่งผมจะแบ่งหุ้นที่ลงทุนอยู่เป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ
1. หุ้นปันผล 2. หุ้นแข็งแกร่ง 3. หุ้นฟื้นตัว 4. หุ้นเติบโต โดยหุ้นปันผลและหุ้นแข็งแกร่ง ผมมักจะมองเป็นการลงทุนระยะยาว 3-5 ปีขึ้นไปครับ สัดส่วนการลงทุนก็อาจจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะคิดว่าตัวเองยังอยู่ในวัยที่รับความเสี่ยงได้อยู่ ส่วนหุ้นเติบโต และหุ้นฟื้นตัว ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าหุ้นตัวนั้นควรเป็นการลงทุนระยะกลาง 1-3 ปี หรือระยะสั้นภายใน 1 ปี
อย่าง SGP ซึ่งตอนแรกผมก็มองเป็นหุ้นเติบโต ตั้งใจจะลงทุนระยะกลางในช่วง 1-3 ปี ราคาที่เหมาะสมก็น่าจะประมาณ 9.50 บาท เมื่อราคามันอยู่ที่ 4 บาทกว่าๆ ก็เลยเข้าไปเก็บ ด้วยความโชคดีผสมกับหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเทรนขาขึ้นของหุ้น หรือมีเจ้ามือลากอะไรก็แล้วแต่ ทำให้ราคามันขึ้นมาแถวเป้าหมายของผมอย่างรวดเร็ว ก็เลยขายครับ
ครั้นพอขายแล้ว ผมก็มักจะได้ยินคำพูด “ลงทุนในหุ้นตลอดเวลา” แว่วเข้ามาย้ำเตือนเสมอไม่ให้ถือเงินสด ผมก็เลยเข้าไปซื้อหุ้น CPF ซึ่งมองว่าเป็นหุ้นเติบโตเช่นกันต่อ ถือต้นทุนแถว 6 บาทไม่ทันไร มันก็วิ่งหน้าตั้ง ก็เลยไม่รู้จะอธิบายยังไง นอกจากฟลุ๊คครับผม แต่พอย้อนมองกลับไปยังกลุ่มหุ้นปันผล ที่ผมมองเป็นการลงทุนระยะยาว ผมก็ไม่ได้เปลี่ยนม้าบ่อยนะ ปัจจุบันผมก็ยังถือ PATO อยู่ (มีแอบเชียร์) รับปันผลต่อเนื่องมาก็หลายครั้งแล้วครับ
ดังนั้น “ซื้อเพราะเหตุผลอะไร ขายเพราะเหตุผลนั้นครับ” ผมคงไม่ขายหุ้นปันผล ที่จ่ายผลตอบแทนให้ผมอย่างสม่ำเสมอ เพียงเพราะคนมาบอกว่ากำไรมันนิ่งๆ เติบโตไม่เยอะ และคงไม่ขายหุ้นฟื้นตัว เพียงเพราะคำกล่าวว่ากำไรมันขึ้นลงผันผวน (มันไม่ลงแล้วจะฟื้นกลับยังไง) เฉกเช่นเดียวกัน ผมคงไม่ยอมขายหุ้นเติบโต เพียงเพราะผลตอบแทนเงินปันผลในปีที่ผ่านๆ มาไม่น่าสนใจ
6. ไอดอลในการลงทุน
หลายคนเลยครับ ปีเตอร์ ลินซ์, วอเรน บัฟเฟตต์, ดร.นิเวศน์, พี่หมอสามัญชน, พี่โจลูกอิสาน และอีกหลายๆ ท่านเลยครับ
7. กิจกรรมยามว่าง
กิจกรรมในยามว่างสำหรับผมก็คงเป็นการอ่านหนังสือ เลี้ยงปลาคาร์ฟ และออกกำลังกายครับ โดยปกติผมจะไปฟิตเนตประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เป็นหนึ่งในการลงทุนเพื่อสุขภาพตามคำแนะนำของ ดร.นิเวศน์ครับ เมื่อก่อนผมน้ำหนักเกือบๆ 80 กิโล ตุ้ยนุ้ยเชียว แต่ปัจจุบันนี้ผมน้ำหนักไม่เคยเกิน 68 กิโล มาเกือบ 2 ปีแล้วครับ รู้สึกแข็งแรงขึ้น คล่องตัวขึ้น จีบสาวง่ายขึ้น เอ้ย..ไม่ใช่ มีสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อที่จะได้มีเรี่ยวแรงอยู่ใช้เงินไปนานๆ ครับ
- สิ่งที่อยากฝากบอกเพื่อนๆนักลงทุนครับ
ตอนนี้ผมยังขาดทีมงาน mod ที่จะช่วยดูแลในกลุ่ม พลังงาน และ ยานยนต์อยู่ครับ หากเพื่อนๆ พี่ๆ คนใดที่มีความสามารถและสนใจอยากที่จะช่วยเหลือทางเว็ป ก็สามารถติดต่อเข้ามาช่วยงานได้เลยครับ โดยส่ง pm มาหาผมโดยตรงได้เลยครับ
เป็นไงงับ ขนาดบทสัมภาษณ์ยังขนาดนี้
อยากไปเจอตัวจริงแล้วไหมอ่ะเนี่ย...
เดี๋ยวเด็กเลี้ยงแกะเอาเสื้อแถมลายเซ็นต์ไปให้ในงานนะงุงิ งุงิ
แต่สงสัยเหตุการณ์บ้านเมืองและตลาดหุ้วนจะไม่ค่อยเป็นใจแฮะ งั้นมารู้จักกับเซียนเปลี่ยนม้า ท่านนี้กันเลยดีกว่างะงับ..
พี่ little boy หนุ่มหล่อเข้มนั่นเอง.... ชะเอิงเงยยย
1. แนะนำตัวสักนิดงับ
เด็กเลี้ยงแกะอุตสาห์ให้เกียรติสัมภาษณ์ทั้งที ขอเล่ายาวเลยดีกว่าครับ 55
ยะลา ดินแดนด้ามขวาน 3 จว.ชายแดนใต้ เป็นที่ๆ ผมเกิด และเติบโตมาจากที่นั่นครับ ด้วยความที่เป็นคนไม่ตั้งใจเรียนเลยในสมัยเด็ก เที่ยวเล่นไปวันๆ อ่านหนังสือน้อยกว่า 8 บรรทัดต่อวันซะอีก เกรดเฉลี่ยออกมาไม่สวยหรู ก็เลยไปร่ำเรียนสายอาชีพตามคำแนะนำของอาจารย์แนะแนวในตอนนั้น ปวส. การบัญชี เป็นคุณวุฒิแรกที่ผมสำเร็จการศึกษามาครับ
หลังจบ ปวส. ชีวิตผมก็ถึงจุดเปลี่ยนใหญ่ๆ การจากไปของหัวหน้าครอบครัว ทำให้ฐานะทางบ้านที่เคยมีลำบากยิ่งกว่าเดิม ผมเลือกที่จะทิ้งการศึกษาไว้เพียงแค่นั้นครับ เพราะไม่อยากเป็นภาระของครอบครัว ระหว่างที่กำลังเหลียวซ้ายแลขวาว่าจะทำงานที่ไหนดี ผมก็โชคดีมีภารกิจภาคบังคับให้ไปฝึกวินัยให้กับชีวิต ทบ.2 คือน้ำเสียงประกาศข้อความบนฉลากที่ผมหยิบมัน ผมได้งานมีเงินเดือนแบบจำใจ ผมต้องไปรับใช้ชาติเป็นทหารกองประจำการอยู่ 2 ปี ณ ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี
ทหาร...ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดจริงๆ หลังจากปลดประจำการด้วยร่างกายครบ 32 ผมมีเงินเดือนที่เหลือเก็บนิดหน่อย พร้อมบัตรทหารผ่านศึกหนึ่งใบ และระเบียบวินัยที่เพิ่มขึ้น ผมเลือกเรียนต่อในสาขาวิชา การจัดการ สถาบันราชภัฎยะลา เพราะไม่มีสาขาบัญชีให้เลือกเรียน ระหว่างที่เรียนนั้นผมก็ทำงาน part-time ไปด้วย ทั้งรับจ้างพิมพ์รายงาน อัดสปอตโฆษณาวิทยุ จัดรายการวิทยุ เฝ้าร้านอินเตอร์เน็ท เขียนหวยใต้ดิน เขียนโพยฟุตบอล ทำทุกอย่างที่ทำได้(ยกเว้นก่อความไม่สงบ) จนกระทั่งจบการศึกษา
“ฉันเคยฝันใฝ่ ว่าจะได้ดี เริ่มชีวีในแดนศิวิไลซ์” เสียงเพลงของพี่ปั่น ไพบูลย์ แว่วมาในห้วงคำนึง ผมนั่งมองรถราและผู้คนอันวุ่นวายบนตึกสูง ด้วยฐานเงินเดือนอันเตี้ยต่ำ การเปลี่ยนงานที่แล้วที่เล่า สามารถเพิ่มตัวเลขรายรับได้บ้าง แต่มันก็ยังห่างไกลกับคำว่ามั่งคั่งร่ำรวยอยู่ดีครับ ผมได้เข้าทำงานในหลากหลายธุรกิจ จนมารู้สึกสนุกและอยู่นานที่สุดกับ บริษัทจัดสัมมนาแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการจัดสัมมนาให้กับธุรกิจ MLM ชื่อดัง มีทั้งสัมมนารายสัปดาห์ รายเดือน ราย 3 เดือน และรายปี จำนวนผู้เข้าสัมมนาก็มีตั้งแต่หลักร้อยคน พันคน ไปจนกระทั่งห้าพันคน นอกจากจัดสัมมนาแล้วที่บริษัทยังมีโปรแกรมที่จะปลูกฝังทัศนคติบวกให้กับคนใน องค์กรของเขา โดยการ ฟังเทป อ่านหนังสือ และที่แห่งนี้เองที่ทำให้ผมได้รู้จักกับหนังสือดีๆ ที่เปลี่ยนทัศนคติของผม ไม่ว่าจะเป็น พ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้าน คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก เงินทองไหลมาเทมาตามท่อ ที่มุ่งเน้นให้ผู้คนหลุดกรอบจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน หลุดจากความคิดแบบเดิมๆ ที่เน้นการทำงานหนัก ใช้เวลาเพื่อแลกเงิน ซึ่งมันไม่ได้เป็นหนทางสู่อิสรภาพที่แท้จริง ผมเคยลองที่จะทำ MLM บ้าง แต่สุดท้ายก็ล้มเลิก เพราะคิดว่านั่นไม่ใช่ตัวตนของผม ผมไม่ได้มีเพื่อนฝูงมากมายที่จะชักชวนมาเป็นเครือขายได้ เฮ้อ..แล้วผมจะมีอิสรภาพได้จากหนทางไหนล่ะ
ผมเก็บเกี่ยวประสบการณ์กว่า 3 ปีจากที่นั่น ออกมาทำธุรกิจออแกไนซ์เล็กๆ เป็นของตัวเอง ล้มลุกคลุกคลานผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ จนกระทั่งเริ่มตั้งตัวได้ และเริ่มที่จะมีเงินเก็บ ผมค้นหาวิธีการที่จะเก็บเงินของผมให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด จนกระทั่งมาเจอหนังสือ ตีแตก ผมอ่านมันไปดีใจไป รำพันกับตัวเองว่า “ผมเจอแล้วหนทางสู่อิสรภาพทางการเงิน มันไม่ได้มีแค่การทำ MLM จริงๆ ด้วย” ผมอ่านมันจบอย่างไว และตามด้วยเล่มต่อๆ ไปที่เกี่ยวกับการลงทุน ความรู้ทางด้านบัญชี และการจัดการที่ร่ำเรียนมา เริ่มถูกนำมาใช้ในการคัดกรองหุ้น แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ ก็เลยไปเรียนต่อ MBA เพื่ออัพเดทความรู้ ติดอาวุธทางปัญญาให้กับตัวเองอีกขั้นหนึ่ง จนกระทั่งผมมาพบกับเว็ปไซด์ ไทยวีไอ ที่ให้ข้อมูลความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเคล็ดลับมากมายจากบรรดาเซียนๆ รุ่นพี่ ขอบคุณสวรรค์จริงๆ นอกจากผมจะผมหนทางสู่อิสรภาพแล้ว ผมยังพบเว็ปไซด์ที่เปรียบประหนึ่งแผนที่ลายแทงขุมทรัพย์เพิ่มเข้ามาอีก
ก้าวย่างการลงทุนของผม อาจจะมีผลตอบแทนที่ไม่ได้เลิศหรูนักหากเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ ทั้งหลายในเว็ป แต่อย่างน้อยผมก็พึงพอใจที่มันสร้างกำไรได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก พอใจในความพอดีของผลตอบแทนตามความรู้ความสามารถ เด็กผู้ชายตัวน้อยๆ คนนี้ ยังคงก้าวเดินต่อไปตามจุดมุ่งหมาย ที่หวังไว้ ณ จุดปลายฝัน ว่าสักวัน..จะสามารถเปล่งพลังแห่งอิสรภาพได้ ประหนึ่งดั่งอานุภาพของระเบิดปรมณู หากคนธรรมดาๆ ในทุกๆ ด้านอย่างผมทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกันครับ
2. ความเป็นมาของงาน tvi meeting
จริงๆ งาน tvi meeting มีมา 2 ครั้งได้แล้วมั้งครับ แต่ผมเองเข้ามาทันร่วมงานแค่ในครั้งที่ผ่านมาตอนประมาณปี 2007 ยังจำได้เลยครับ วันนั้นสมาชิกในกลุ่มผมนี่เทพๆ ทั้งนั้น มีทั้งพี่ธันวา พี่WEB คุณโยโย่ ฯ ผมเองเป็นคนไปพรีเซนต์หุ้นที่กลุ่มนำเสนอหน้าห้องประชุม อาจจะเพราะด้วยความเคยชินกับการเป็นคนเบื้องหลัง มากกว่าอยู่เบื้องหน้า (ไม่ได้หมายความว่าชอบข้างหลังนะครับ) ก็เลยรู้สึกประหม่า พรีเซนต์ไปแบบตะกุกตะกัก ดู DVD ทีไรแล้วรู้สึกเขินตัวเองทุกที แต่อย่างน้อยก็ยังดีนะ ที่หุ้นตัวนั้นขึ้นมา 4 เด้งแล้ว อิอิ ใครที่ถือยาวตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน คงยิ้มร่าเลยละครับ แต่สำหรับผม ขายหมูไปนานแล้วละครับ เสียดายจริงๆ
สำหรับครั้งนี้นั้น ก็ล่วงเลยเวลาจากงานครั้งที่แล้วมา 2 ปี สมาชิกหลายๆ ท่านรวมทั้งผมเองที่เคยร่วมงานในครั้งก่อนก็เลยคิดถึง อยากให้มีการจัดงานสัมมนาขึ้นมาอีก (ใจจริงอยากได้หุ้น 4 เด้งตัวต่อไปด้วยครับ สัญญาคราวนี้จะไม่รีบขาย จริงๆ นะ) กอปรกับท่านประธานเว็ปพี่หมอสามัญชน ก็เห็นด้วยที่จะจัดให้มีงานสัมมนาขึ้น แต่ติดปัญหาตรงที่ทีมงานหลายๆ ท่านยังเหนื่อยจากงานครั้งที่แล้วไม่หาย ผมก็เลยอาสาที่จะเข้ามาช่วยในส่วนงานที่ผมเองพอมีความรู้ความสามารถให้กับ เว็ปบ้าง ก็เลยเกิดเป็นงานในครั้งนี้ขึ้นมาครับ
3. ช่วยเล่าเรื่องงาน meeting ที่จะถึงให้หน่อย ว่ารูปแบบงานเป็นอย่างไร มีอะไรเป็น high light บ้าง
รูปแบบของงานสัมมนาในครั้งนี้นั้นหลักใหญ่ใจความก็คงคล้ายๆ กับงานครั้งก่อนที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ช่วงใหญ่ๆ ได้คือ
1. ช่วงสัมภาษณ์ 4 ขุนพล ช่วงนี้เราจะนำผู้ที่ประสบความสำเร็จ มาบอกเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวในการลงทุน เพื่อเป็นคนต้นแบบ เป็น idol ให้กับคนใหม่ๆ ที่เริ่มต้น ว่าการลงทุนในหุ้น เป็นเส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงินได้ รวมถึงเผยเทคนิค เคล็ดลับ วิธีการส่วนตัวในการคัดเลือกหุ้น ที่ทั้งมือใหม่และมือเก่าสามารถนำกลับไปปรับใช้ให้เหมาะกับตนได้ครับ
2. ช่วงรู้เขารู้เรา เรียนรู้เทคนิคอลเบื้องต้น จากกูรูทางด้านฝ่ายเทคนิค แน่นอนครับว่าเราชาว VI คงไม่ตัดสินใจซื้อหุ้นเพียงเพราะกราฟบอกให้ซื้อโดยไม่คำนึงถึงพื้นฐาน แต่มรรคาบู๊กว้างใหญ่ไพศาล จะดีแค่ไหนหากใช้ลมปราณอันแข็งแกร่งของวีไอ ควบคู่กับท่วงท่าที่กระชับฉับไวของฝ่ายเทคนิค ดินแดนแห่งอิสรภาพมีรึจะไม่มีที่ให้หยัดยืน (เกี่ยวไหมเนี่ยะ)
3. ช่วงระดมสมอง มองหาหุ้นเด่น ช่วงนี้เป็นช่วงที่สมาชิกจะเข้ามาร่วมแชร์ข้อมูล ความรู้ เพื่อค้นหาหุ้นเด่นในรายอุตสาหกรรม (ไม่ได้มีวิทยากรมาให้ข้อมูลนะครับ เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะกล้ามาสอนเซียนๆ ในเว็ปนี้) โดยในครั้งนี้เราแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 อุตสาหกรรมครับ ประกอบไปด้วย อสังหาฯ, อาหารและการเกษตร, ค้าปลีก, พลังงาน และ ยานยนต์ ครับ โดยจะมีทีมงาน mod ที่จะรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นสำหรับอุตสาหกรรมไว้ให้เพื่ออำนวยความสะดวกในการ ค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูล
ภายในห้องประชุมของแต่ละอุตสาหกรรม ท่านที่เข้าร่วมสัมมนา สามารถนำเสนอหุ้นที่ท่านสนใจในอุตฯ นั้นๆ โดยยกข้อดี ข้อเสีย จุดที่น่าสนใจมาบอกเล่าให้กับคนในกลุ่มได้รับฟัง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการถกเถียงกันด้วยเหตุผล จนในที่สุดก็เลือกหุ้นที่คนในกลุ่มสนใจมากที่สุดมา 1-2 ตัว เพื่อนำมาพรีเซนต์ในห้องประชุมรวม โดยบอกถึงเหตุผลที่เลือกหุ้นตัวดังกล่าว ให้ผู้ร่วมสัมมนากลุ่มอื่นๆ ได้รับฟัง
สำหรับมือใหม่ที่กังวลว่าไม่มีความรู้จะไปร่วมแชร์อะไรกับเค้า ก็ไม่ต้องกังวลครับ แต่แนะนำว่าควรจะเตรียมตัวทำการบ้านไว้สักหน่อยบ้าง เพราะเกิดเค้าคุยกันถึงเรื่อง PB PB ROE ROA แล้วไม่มีพื้นฐานเลยอาจจะตามไม่ทันครับ แต่ถ้าอ่านมาแล้ว ตามไม่ทันจริงๆ ก็สามารถยกมือสอบถามผู้ที่กำลังให้ข้อมูลอยู่ได้เลยครับ งานนี้เราระดมสมอง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไม่มีกั๊กอยู่แล้วครับ เรียนรู้ที่จะหาปลา ดีกว่ารอให้คนอื่นหาปลามาให้กินนะครับ
ส่วนมือเก่า มือเซียน งานนี้ก็เปรียบเสมือนการตรวจการบ้าน หลายๆ ครั้งที่เราเลือกหุ้นแล้วรู้สึกเข้าข้างตัวเองมากเกินไป หรือบางครั้งก็รับรู้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดความผิดพลาดในการคัดเลือกหุ้น แต่งานในครั้งนี้คุณจะมีเพื่อนๆ คอเดียวกันช่วยตรวจสอบ ช่วยกันแชร์ข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น อาจได้รับรู้มุมมองใหม่ๆ ทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับหุ้นตัวนั้นๆ และสามารถนำกลับไปปรับใช้ในการกรองหุ้นครั้งต่อไปได้ครับ
4. ช่วงวิจารณ์หุ้นเด็ด โดย ดร.นิเวศน์ ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้ครับ ปรมาจารย์อันดับหนึ่งของวีไอ จะมาให้คำวิจารณ์หุ้นเด็ด ที่แต่ละอุตสาหกรรมได้พรีเซนต์นำเสนอไปว่าท่านมีมุมมองอย่างไรกับหุ้นตัว นั้นๆ เพื่อให้ผู้ร่วมสัมมนานำกลับไปพิจารณา รวมถึงกลเม็ดเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่อาจารย์จะมาเสริมข้อมูลให้พวกเราได้รับรู้กันครับ
4. สี่ขุนพล เป็นใครเหรองับ... แต่ละท่านมีอะไรน่าสนใจบ้าง
ในส่วนของการคัดเลือก 4 ขุนพลนั้น ได้มีการปรึกษากับประธานและทีมงานเว็ป ให้เป็นผู้ร่วมตัดสินใจที่จะคัดเลือก โดยแบ่งเป็นขุนพลมือเก๋า 2 ท่าน และขุนพลนักลงทุนรุ่นใหม่ 2 ท่าน เพื่อให้ครอบคลุมที่จะเป็นต้นแบบ ให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกวัย โดยแต่ละท่านก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้
1. คุณ Chatchai หรือพี่ฉัตร มือหนึ่งด้านงบการเงินแห่งไทยวีไอ งานนี้ใครที่ไม่ค่อยเข้าใจงบ หรือไม่แน่ใจว่าควรจะให้ความสำคัญพิเศษกับตรงจุดไหน กระแสเงินสดบวกเยอะๆ ดียังไง งานนี้พี่ฉัตรจะมาไขข้อข้องใจให้กับทุกท่านแน่นอนภายในงานสัมมนา
2. คุณ WEB หรือที่หลายท่านคุ้นชื่อในนาม พรชัย รัตนนนทชัยสุข หนึ่งไม่มีสองในวงการแปลหนังสือการลงทุนแบบวีไอ
งานนี้แค่ฟังข้อมูลจากพี่พรชัย ก็เหมือนอ่านสรุปหนังสือหลายๆ เล่มแล้วละครับ ส่วนใครจะถามถึงประสบการณ์ที่ไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ก็ไม่ว่ากันครับ
3. คุณ Blueblood นักลงทุนหนุ่มหล่อ ผู้ที่เคยสร้างสถิติกำไรหุ้น 900% มาแล้ว แถมผลตอบแทนทบต้นก็ไม่ธรรมดาเฉลี่ย 70% ติดต่อกัน 7 ปี พร้อมแล้วที่จะมาเผยประสบการณ์คัดกรองหุ้นว่าทำอย่างไรให้กับผู้ร่วมสัมมนา ทุกท่าน งานนี้ถ้ามีบอกใบ้ให้ผมสักตัว ไม่ต้องถึงขั้น 900% แค่ 90% ผมก็ดีใจแล้วววว
4. คุณ sai อีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่ขวนขวายจนก้าวสู่ความสำเร็จทั้งทางด้านธุรกิจ และการลงทุนอย่างรวดเร็ว พร้อมแล้วที่จะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ และหนทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยลีลาการพูดที่คุณอาจเผลอนึกว่ากำลังนั่งดูเดี่ยวไมโครโฟนอยู่
5. เล่าเรื่องส่วนตัวสักนิด ได้ข่าวเป็นเซียนเปลี่ยนม้า ปกติแล้วเห็น VI มักถือหุ้นตัวนั้นนยาวๆๆ จนกว่าจะเจอตัวใหม่ที่น่าสนใจมากกว่า แต่เห็นคุณเคยเปลี่ยนหุ้นหลายๆรอบในเวลาอันสั้น แถมผลตอบแทนก็เหนือชั้นมากๆ ช่วยบอกเคล็ดลับสักนิด
ขอออกตัวก่อนเลยครับว่า อันที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนหุ้นมันบ่อยๆ นะครับ ผมก็ยังคงยึดตามหลักการของวีไอ ที่จะเปลี่ยนหุ้นก็ต่อเมื่อ พื้นฐานเปลี่ยน, ราคาเต็มมูลค่า หรือเจอหุ้นตัวใหม่ที่มีอัพไซด์และน่าสนใจมากกว่า แล้วแต่ว่าเงื่อนไขใดจะมาถึงก่อน ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากวีไอทั่วไปแต่อย่างใด แต่อาจจะด้วยลักษณะการลงทุนของผม ที่มีการแบ่งเป็นการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งเจ้าหุ้นที่ลงทุนระยะสั้นนี่เอง คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ดูเหมือนผมเปลี่ยนหุ้นบ่อยๆ ครับ ส่วนหุ้นตัวไหนจะลงทุนระยะไหน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของหุ้นครับ ว่าผมมองมันเป็นหุ้นประเภทไหน ซึ่งผมจะแบ่งหุ้นที่ลงทุนอยู่เป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ
1. หุ้นปันผล 2. หุ้นแข็งแกร่ง 3. หุ้นฟื้นตัว 4. หุ้นเติบโต โดยหุ้นปันผลและหุ้นแข็งแกร่ง ผมมักจะมองเป็นการลงทุนระยะยาว 3-5 ปีขึ้นไปครับ สัดส่วนการลงทุนก็อาจจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะคิดว่าตัวเองยังอยู่ในวัยที่รับความเสี่ยงได้อยู่ ส่วนหุ้นเติบโต และหุ้นฟื้นตัว ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าหุ้นตัวนั้นควรเป็นการลงทุนระยะกลาง 1-3 ปี หรือระยะสั้นภายใน 1 ปี
อย่าง SGP ซึ่งตอนแรกผมก็มองเป็นหุ้นเติบโต ตั้งใจจะลงทุนระยะกลางในช่วง 1-3 ปี ราคาที่เหมาะสมก็น่าจะประมาณ 9.50 บาท เมื่อราคามันอยู่ที่ 4 บาทกว่าๆ ก็เลยเข้าไปเก็บ ด้วยความโชคดีผสมกับหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเทรนขาขึ้นของหุ้น หรือมีเจ้ามือลากอะไรก็แล้วแต่ ทำให้ราคามันขึ้นมาแถวเป้าหมายของผมอย่างรวดเร็ว ก็เลยขายครับ
ครั้นพอขายแล้ว ผมก็มักจะได้ยินคำพูด “ลงทุนในหุ้นตลอดเวลา” แว่วเข้ามาย้ำเตือนเสมอไม่ให้ถือเงินสด ผมก็เลยเข้าไปซื้อหุ้น CPF ซึ่งมองว่าเป็นหุ้นเติบโตเช่นกันต่อ ถือต้นทุนแถว 6 บาทไม่ทันไร มันก็วิ่งหน้าตั้ง ก็เลยไม่รู้จะอธิบายยังไง นอกจากฟลุ๊คครับผม แต่พอย้อนมองกลับไปยังกลุ่มหุ้นปันผล ที่ผมมองเป็นการลงทุนระยะยาว ผมก็ไม่ได้เปลี่ยนม้าบ่อยนะ ปัจจุบันผมก็ยังถือ PATO อยู่ (มีแอบเชียร์) รับปันผลต่อเนื่องมาก็หลายครั้งแล้วครับ
ดังนั้น “ซื้อเพราะเหตุผลอะไร ขายเพราะเหตุผลนั้นครับ” ผมคงไม่ขายหุ้นปันผล ที่จ่ายผลตอบแทนให้ผมอย่างสม่ำเสมอ เพียงเพราะคนมาบอกว่ากำไรมันนิ่งๆ เติบโตไม่เยอะ และคงไม่ขายหุ้นฟื้นตัว เพียงเพราะคำกล่าวว่ากำไรมันขึ้นลงผันผวน (มันไม่ลงแล้วจะฟื้นกลับยังไง) เฉกเช่นเดียวกัน ผมคงไม่ยอมขายหุ้นเติบโต เพียงเพราะผลตอบแทนเงินปันผลในปีที่ผ่านๆ มาไม่น่าสนใจ
6. ไอดอลในการลงทุน
หลายคนเลยครับ ปีเตอร์ ลินซ์, วอเรน บัฟเฟตต์, ดร.นิเวศน์, พี่หมอสามัญชน, พี่โจลูกอิสาน และอีกหลายๆ ท่านเลยครับ
7. กิจกรรมยามว่าง
กิจกรรมในยามว่างสำหรับผมก็คงเป็นการอ่านหนังสือ เลี้ยงปลาคาร์ฟ และออกกำลังกายครับ โดยปกติผมจะไปฟิตเนตประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เป็นหนึ่งในการลงทุนเพื่อสุขภาพตามคำแนะนำของ ดร.นิเวศน์ครับ เมื่อก่อนผมน้ำหนักเกือบๆ 80 กิโล ตุ้ยนุ้ยเชียว แต่ปัจจุบันนี้ผมน้ำหนักไม่เคยเกิน 68 กิโล มาเกือบ 2 ปีแล้วครับ รู้สึกแข็งแรงขึ้น คล่องตัวขึ้น จีบสาวง่ายขึ้น เอ้ย..ไม่ใช่ มีสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อที่จะได้มีเรี่ยวแรงอยู่ใช้เงินไปนานๆ ครับ
- สิ่งที่อยากฝากบอกเพื่อนๆนักลงทุนครับ
ตอนนี้ผมยังขาดทีมงาน mod ที่จะช่วยดูแลในกลุ่ม พลังงาน และ ยานยนต์อยู่ครับ หากเพื่อนๆ พี่ๆ คนใดที่มีความสามารถและสนใจอยากที่จะช่วยเหลือทางเว็ป ก็สามารถติดต่อเข้ามาช่วยงานได้เลยครับ โดยส่ง pm มาหาผมโดยตรงได้เลยครับ
เป็นไงงับ ขนาดบทสัมภาษณ์ยังขนาดนี้
อยากไปเจอตัวจริงแล้วไหมอ่ะเนี่ย...
เดี๋ยวเด็กเลี้ยงแกะเอาเสื้อแถมลายเซ็นต์ไปให้ในงานนะงุงิ งุงิ