thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 1
เจนวายคืออะไร
โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
ลูกศิษย์คนหนึ่งเข้ามาหาผู้เขียนพร้อมหัวข้อบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งชื่อ "ทำอย่างไรเจนวายจึงจะรู้จักตัวเอง" แล้วถามว่า
"เจนวายคืออะไรครับ? เดี๋ยวนี้ผมอ่านหนังสือพิมพ์ไม่รู้เรื่องเข้าทุกวันแล้ว!"
ผู้ เขียนจึงปลอบใจไปว่า ตัวผู้เขียนเองก็อ่านหนังสือพิมพ์กีฬาฟุตบอลที่ผู้เขียนริบมาจากนิสิตที่เอา มาอ่านในชั้นเรียนไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แล้วจึงเริ่มอธิบายว่า
เรื่อง "เจนวาย" คำนี้มาจากวิชาประชากรศาสตร์ (Population) ซึ่งเป็นแขนงของวิชาสังคมวิทยา (Sociology) ที่อยู่ในสาขาของวิชาสังคมศาสตร์ ซึ่งตัวนิสิตผู้มาถามเรื่องเจนวายนี้เป็นนิสิตรัฐศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาในสาขา สังคมศาสตร์เช่นกันดังนั้นก็ควรจะรู้ไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน
อย่างไรก็ ตาม เรื่องเจนวายนี้เริ่มมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาแต่มีลักษณะเป็นสากลทั่วโลก เพราะเจนวายนี้ถือเป็นกลุ่มคนที่โตมากับเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคที่มี อินเตอร์เน็ตแพร่หลายแล้วคือบรรดาคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2523-2543
เรื่องอินเตอร์เน็ตนี่สำคัญมากนะเพราะคนรุ่นผู้เขียน (55-75 ปี) ส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตกันไม่ค่อยเป็นหรอก
ดัง นั้นตรงนี้สำคัญ ต้องจำเอาไว้ให้ดีเป็นหลักเลย พวกเจนวายนี้ได้เข้าสู่ตลาดแรงงานมาได้สักพักหนึ่งแล้วทางวิชาประชากรศาสตร์ เขาใช้เกณฑ์ช่วงอายุ (Generation) เป็นตัวกำหนดการแบ่งคนออกเป็นกลุ่มๆ เพราะคนต่างช่วงอายุกันนี่ความต้องการในชีวิตนี่ต่างกันมากนะ ดังนั้นบรรดาผู้ที่ทำงานในฝ่ายบุคคลก็จำเป็นต้องรู้ลักษณะทั่วไปของกลุ่มคน ที่ทำงานในองค์กรของตน
และเหล่านักการตลาดทั้งหลายที่มีความจำเป็น ที่จะต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายจึงต้องเอาความรู้ตรงนี้ไปใช้มาก ทีเดียว อาทิ การผลิตเสื้อผ้าออกมาขายจะผลิต ขนาดรูปร่างไหน สีอะไร สไตล์ยังไง นี่สำหรับคนหนุ่มสาวกับคนแก่นั้นมันคนละเรื่องกันเลย
จะให้รู้เรื่องเจนวายจริงๆ ต้องศึกษาย้อนกลับไปถึงช่วงอายุ (Generation) อื่นๆ ด้วย
1. เจนบี (Baby Boom Generation-Generation B) คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2489-2507 อายุ 45-63 ปี บรรดาคนพวกนี้เกิดมาภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง ที่เรียกคนพวกนี้ว่าเจนบีเพราะว่าในระหว่างสงครามบรรดาผู้ชายต้องถูกเกณฑ์ไป เป็นทหาร ครั้นสงครามสงบลงก็เลยกลับมาแต่งงานแล้วรีบมีลูกกันยกใหญ่แบบว่าอั้นไว้นาน
คน ที่เป็นเจนบีนี้เยอะมาก เรียกว่าบูม! คือเด็กเกิดกันแบบระเบิดเลยละ พ่อแม่ของคนพวกนี้ประสบความลำบากยากแค้นมาตลอดชีวิต จากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลกเมื่อ พ.ศ.2472 ที่ส่งผลให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สองในที่สุด (การเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2475 ก็มีผลโดยตรงจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำปี พ.ศ.2472 เหมือนกัน)
คนเจนบี เติบโตขึ้นมาด้วยการรับรู้ความยากลำบากของพ่อแม่ จึงเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทนให้ความสำคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว มีความทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก ให้ความสำคัญของครอบครัวรองลงมาจากงาน
คนกลุ่มนี้จะไม่เปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจากมีความจงรักภักดีกับองค์กรสูง
2. เจนเอ็กซ์ (Generation X) คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2508-2522 อายุ 30-44 ปี คนกลุ่มนี้ก็คือลูกหลานของพวกเจนบีนั่นเองซึ่งช่วง พ.ศ.2508-2522 นี้เป็นช่วงของสันติภาพ ความมั่งคั่งขยายไปทั่วโลก และแนวความคิดคุมกำเนิดพร้อมทั้งยาคุมกำเนิดเกิดมีขึ้นมากมาย จำนวนการเกิดของเด็กช่วงนี้จึงลดลงมาก บางทีก็เรียกพวกนี้ว่า Baby Bust Generation (Bust นี่ตรงกันข้ามกับบูม)
บรรดาเด็กที่เกิดในช่วงนี้ เติบโตขึ้นมาได้เห็นการดำเนินชีวิตของพ่อแม่ ซึ่งเด็กพวกนี้ไม่เห็นด้วย ทำให้คนที่เติบโตมาในช่วงนี้มีลักษณะพฤติกรรมชอบอะไรง่ายๆ ไม่ต้องเป็นทางการ ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work-life Balance)
พูดง่ายๆ คือไม่บ้างาน พยายามที่จะมีเวลากับครอบครัว มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพัง ไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง เรียกกลุ่มนี้อีกอย่างว่าพวกยัปปี้-Yuppie (Young Urban Professionals)
ว่ากันว่าบรรดาคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีบารัค โอบามา นั้นส่วนใหญ่เป็นคนเจนเอ็กซ์
3. เจนวาย (Generation Y) คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2523-2543 อายุ 9-29 ปี เป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีไอที
พวก นี้เป็นลูกของพวกเจนเอ็กซ์ ที่ได้ชื่อว่าเจนวายก็เนื่องจากเห็นพ่อแม่กับ ปู่ ย่า ตา ยายทะเลาะเถียงกันในค่านิยมที่แตกต่างกันและเมื่อทะเลาะกันมากเข้าเรื่องก็ มาลงที่เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร
พวกเจนวายนี้เริ่มจากการบ่นกันเองอย่างรำคาญที่ผู้ใหญ่ทะเลาะกันแล้วมาลงที่เด็ก Why me?
พวก เจนวายเป็นวัยที่จัดว่าเพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข
คน กลุ่มนี้ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่า สิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อหน่วยงานอย่างไร อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกันแบบว่าชอบส่งอี-เมลมากกว่าพูดกันต่อหน้า
ทำนองว่าไม่ชอบทะเลาะว่ายังงั้นเถอะ ทำให้พวกผู้ใหญ่ไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก
เกณฑ์การจัดแบ่งกลุ่มคนเป็นกลุ่มช่วงอายุนี้เราใช้เกณฑ์ของอเมริกันนะ
หาก จะเอามาใช้ในเมืองไทยคงต้องปรับกันบ้างพอสมควรเนื่องจากเมืองไทยบ้านเรานั้น การวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีนั้นช้ากว่าสหรัฐอเมริกามากหากจะยึดหลัก อเมริกันมาใช้ในเมืองไทยเลยอาจมีปัญหา
แต่ทุกวันนี้เห็นทางธุรกิจในบ้านเรา เขาเอามาใช้กันเกร่อไปเลย
แหล่งที่มา : http://www.matichon.co.th/matichon/view ... 2009-06-17
โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
ลูกศิษย์คนหนึ่งเข้ามาหาผู้เขียนพร้อมหัวข้อบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งชื่อ "ทำอย่างไรเจนวายจึงจะรู้จักตัวเอง" แล้วถามว่า
"เจนวายคืออะไรครับ? เดี๋ยวนี้ผมอ่านหนังสือพิมพ์ไม่รู้เรื่องเข้าทุกวันแล้ว!"
ผู้ เขียนจึงปลอบใจไปว่า ตัวผู้เขียนเองก็อ่านหนังสือพิมพ์กีฬาฟุตบอลที่ผู้เขียนริบมาจากนิสิตที่เอา มาอ่านในชั้นเรียนไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แล้วจึงเริ่มอธิบายว่า
เรื่อง "เจนวาย" คำนี้มาจากวิชาประชากรศาสตร์ (Population) ซึ่งเป็นแขนงของวิชาสังคมวิทยา (Sociology) ที่อยู่ในสาขาของวิชาสังคมศาสตร์ ซึ่งตัวนิสิตผู้มาถามเรื่องเจนวายนี้เป็นนิสิตรัฐศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาในสาขา สังคมศาสตร์เช่นกันดังนั้นก็ควรจะรู้ไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน
อย่างไรก็ ตาม เรื่องเจนวายนี้เริ่มมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาแต่มีลักษณะเป็นสากลทั่วโลก เพราะเจนวายนี้ถือเป็นกลุ่มคนที่โตมากับเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคที่มี อินเตอร์เน็ตแพร่หลายแล้วคือบรรดาคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2523-2543
เรื่องอินเตอร์เน็ตนี่สำคัญมากนะเพราะคนรุ่นผู้เขียน (55-75 ปี) ส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตกันไม่ค่อยเป็นหรอก
ดัง นั้นตรงนี้สำคัญ ต้องจำเอาไว้ให้ดีเป็นหลักเลย พวกเจนวายนี้ได้เข้าสู่ตลาดแรงงานมาได้สักพักหนึ่งแล้วทางวิชาประชากรศาสตร์ เขาใช้เกณฑ์ช่วงอายุ (Generation) เป็นตัวกำหนดการแบ่งคนออกเป็นกลุ่มๆ เพราะคนต่างช่วงอายุกันนี่ความต้องการในชีวิตนี่ต่างกันมากนะ ดังนั้นบรรดาผู้ที่ทำงานในฝ่ายบุคคลก็จำเป็นต้องรู้ลักษณะทั่วไปของกลุ่มคน ที่ทำงานในองค์กรของตน
และเหล่านักการตลาดทั้งหลายที่มีความจำเป็น ที่จะต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายจึงต้องเอาความรู้ตรงนี้ไปใช้มาก ทีเดียว อาทิ การผลิตเสื้อผ้าออกมาขายจะผลิต ขนาดรูปร่างไหน สีอะไร สไตล์ยังไง นี่สำหรับคนหนุ่มสาวกับคนแก่นั้นมันคนละเรื่องกันเลย
จะให้รู้เรื่องเจนวายจริงๆ ต้องศึกษาย้อนกลับไปถึงช่วงอายุ (Generation) อื่นๆ ด้วย
1. เจนบี (Baby Boom Generation-Generation B) คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2489-2507 อายุ 45-63 ปี บรรดาคนพวกนี้เกิดมาภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง ที่เรียกคนพวกนี้ว่าเจนบีเพราะว่าในระหว่างสงครามบรรดาผู้ชายต้องถูกเกณฑ์ไป เป็นทหาร ครั้นสงครามสงบลงก็เลยกลับมาแต่งงานแล้วรีบมีลูกกันยกใหญ่แบบว่าอั้นไว้นาน
คน ที่เป็นเจนบีนี้เยอะมาก เรียกว่าบูม! คือเด็กเกิดกันแบบระเบิดเลยละ พ่อแม่ของคนพวกนี้ประสบความลำบากยากแค้นมาตลอดชีวิต จากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลกเมื่อ พ.ศ.2472 ที่ส่งผลให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สองในที่สุด (การเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2475 ก็มีผลโดยตรงจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำปี พ.ศ.2472 เหมือนกัน)
คนเจนบี เติบโตขึ้นมาด้วยการรับรู้ความยากลำบากของพ่อแม่ จึงเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทนให้ความสำคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว มีความทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก ให้ความสำคัญของครอบครัวรองลงมาจากงาน
คนกลุ่มนี้จะไม่เปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจากมีความจงรักภักดีกับองค์กรสูง
2. เจนเอ็กซ์ (Generation X) คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2508-2522 อายุ 30-44 ปี คนกลุ่มนี้ก็คือลูกหลานของพวกเจนบีนั่นเองซึ่งช่วง พ.ศ.2508-2522 นี้เป็นช่วงของสันติภาพ ความมั่งคั่งขยายไปทั่วโลก และแนวความคิดคุมกำเนิดพร้อมทั้งยาคุมกำเนิดเกิดมีขึ้นมากมาย จำนวนการเกิดของเด็กช่วงนี้จึงลดลงมาก บางทีก็เรียกพวกนี้ว่า Baby Bust Generation (Bust นี่ตรงกันข้ามกับบูม)
บรรดาเด็กที่เกิดในช่วงนี้ เติบโตขึ้นมาได้เห็นการดำเนินชีวิตของพ่อแม่ ซึ่งเด็กพวกนี้ไม่เห็นด้วย ทำให้คนที่เติบโตมาในช่วงนี้มีลักษณะพฤติกรรมชอบอะไรง่ายๆ ไม่ต้องเป็นทางการ ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work-life Balance)
พูดง่ายๆ คือไม่บ้างาน พยายามที่จะมีเวลากับครอบครัว มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพัง ไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง เรียกกลุ่มนี้อีกอย่างว่าพวกยัปปี้-Yuppie (Young Urban Professionals)
ว่ากันว่าบรรดาคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีบารัค โอบามา นั้นส่วนใหญ่เป็นคนเจนเอ็กซ์
3. เจนวาย (Generation Y) คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2523-2543 อายุ 9-29 ปี เป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีไอที
พวก นี้เป็นลูกของพวกเจนเอ็กซ์ ที่ได้ชื่อว่าเจนวายก็เนื่องจากเห็นพ่อแม่กับ ปู่ ย่า ตา ยายทะเลาะเถียงกันในค่านิยมที่แตกต่างกันและเมื่อทะเลาะกันมากเข้าเรื่องก็ มาลงที่เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร
พวกเจนวายนี้เริ่มจากการบ่นกันเองอย่างรำคาญที่ผู้ใหญ่ทะเลาะกันแล้วมาลงที่เด็ก Why me?
พวก เจนวายเป็นวัยที่จัดว่าเพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข
คน กลุ่มนี้ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่า สิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อหน่วยงานอย่างไร อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกันแบบว่าชอบส่งอี-เมลมากกว่าพูดกันต่อหน้า
ทำนองว่าไม่ชอบทะเลาะว่ายังงั้นเถอะ ทำให้พวกผู้ใหญ่ไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก
เกณฑ์การจัดแบ่งกลุ่มคนเป็นกลุ่มช่วงอายุนี้เราใช้เกณฑ์ของอเมริกันนะ
หาก จะเอามาใช้ในเมืองไทยคงต้องปรับกันบ้างพอสมควรเนื่องจากเมืองไทยบ้านเรานั้น การวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีนั้นช้ากว่าสหรัฐอเมริกามากหากจะยึดหลัก อเมริกันมาใช้ในเมืองไทยเลยอาจมีปัญหา
แต่ทุกวันนี้เห็นทางธุรกิจในบ้านเรา เขาเอามาใช้กันเกร่อไปเลย
แหล่งที่มา : http://www.matichon.co.th/matichon/view ... 2009-06-17
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 5
วายครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 155
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 6
ผม gen X ครับ แล้วลูกผมล่ะ gen อะไร เกิด 46 ตอนนี้ 7 ขวบ
เกิดมาพร้อมกับพวก device ที่เป็น touch screen เค้าใช้จนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว พร้อม internet broadband ที่available 24 ชม. ไม่ต้องคอยมาต่อ modem ดูหนัง online ผ่าน youtube เล่นเกมแบบไม่ต้องใช้แผ่น
เกิดมาพร้อมกับพวก device ที่เป็น touch screen เค้าใช้จนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว พร้อม internet broadband ที่available 24 ชม. ไม่ต้องคอยมาต่อ modem ดูหนัง online ผ่าน youtube เล่นเกมแบบไม่ต้องใช้แผ่น
- green/30/10/08
- Verified User
- โพสต์: 217
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 7
ผมเกิด17 gen X ครับ แล้วลูกผมล่ะ gen อะไร เกิด 46 ตอนนี้ 7 ขวบ
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 9
ง่ายนิดเดียว Gen Z ไงครับQuantum of Solace เขียน:ผม gen X ครับ แล้วลูกผมล่ะ gen อะไร เกิด 46 ตอนนี้ 7 ขวบ
เกิดมาพร้อมกับพวก device ที่เป็น touch screen เค้าใช้จนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว พร้อม internet broadband ที่available 24 ชม. ไม่ต้องคอยมาต่อ modem ดูหนัง online ผ่าน youtube เล่นเกมแบบไม่ต้องใช้แผ่น
http://en.wikipedia.org/wiki/Generation_Z
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 12
ผมก็เจ็นวายครับ
ซื้อตามทีไร ตลาดวายทู๊กที
ซื้อตามทีไร ตลาดวายทู๊กที
- green/30/10/08
- Verified User
- โพสต์: 217
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 13
อิอิ :D เหมือนกันกล้วยไม้ขาว เขียน:
ซื้อตามทีไร ตลาดวายทู๊กที
- simpleBE
- Verified User
- โพสต์: 2333
- ผู้ติดตาม: 0
-
- Verified User
- โพสต์: 355
- ผู้ติดตาม: 0
thaivi ส่วนใหญ่เป็น gen ไหนครับ
โพสต์ที่ 18
ผม gen y ครับ
ตอน present senior project โดนอาจารย์ด่าว่า gen y ด้วย
ตอบอะไรไม่ได้ก็ google
ฮาาา
ตอน present senior project โดนอาจารย์ด่าว่า gen y ด้วย
ตอบอะไรไม่ได้ก็ google
ฮาาา
It's not how good you are, it's how good you want to be.