วิธีปลดล็อคความเร็วเน็ต
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
วิธีปลดล็อคความเร็วเน็ต
โพสต์ที่ 5
อันแรกนี่ ไม่น่ามีผลครับ
โดยทฤษฎี ซอฟท์แวร์ที่เป็นพวกมีความสำคัญมาก อย่าง VoIP จะขอสิทธิใช้ bandwidth ที่สำรองไว้ แต่ถ้าไม่มี software พวกนี้ใช้งานอยู่ เครื่องก็จะใช้เด็ม 100%
โดยรวมคือ Windows จะสำรอง bandwidth 20% ถ้าหากมี QoS aware application ขอ ถ้าไม่มีการขอก็ไม่มีการสำรอง ใช้เต็มร้อย
วิธีที่แนะนำมา ใครอยากลองก็ต้องระวังกันหน่อย Group Policy และ Registry เวลาแก้ไขต้องระวังมาก พลาดท่าขึ้นมา อาจ boot ไม่ขึ้น หรือ ขึ้นมาแล้ว log in ไม่ได้
โดยทฤษฎี ซอฟท์แวร์ที่เป็นพวกมีความสำคัญมาก อย่าง VoIP จะขอสิทธิใช้ bandwidth ที่สำรองไว้ แต่ถ้าไม่มี software พวกนี้ใช้งานอยู่ เครื่องก็จะใช้เด็ม 100%
โดยรวมคือ Windows จะสำรอง bandwidth 20% ถ้าหากมี QoS aware application ขอ ถ้าไม่มีการขอก็ไม่มีการสำรอง ใช้เต็มร้อย
วิธีที่แนะนำมา ใครอยากลองก็ต้องระวังกันหน่อย Group Policy และ Registry เวลาแก้ไขต้องระวังมาก พลาดท่าขึ้นมา อาจ boot ไม่ขึ้น หรือ ขึ้นมาแล้ว log in ไม่ได้
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
วิธีปลดล็อคความเร็วเน็ต
โพสต์ที่ 6
เร่งสปีด firefox ให้เร็วได้อย่างใจ
1. พิมพ์คำสั่ง about:config เข้าไปในช่องแอดเดรส แล้วกดปุ่ม Enter จากนั้นเลื่อนหน้าจอลงมาจนถึงรายการข้างล่างนี้
network.http.pipelining
network.http.proxy.pipelining
network.http.pipelining.maxrequests
2. แก้ไขค่าดังนี้
กำหนดค่า “network.http.pipelining” ให้เป็น “true”
กำหนดค่า “network.proxy.pipelining” ให้เป็น “true”
จากนั้นกำหนดค่าของ “network.http.pipelining.maxrequests” โดยดับเบิ้ลคลิกแล้วกำหนดค่าเป็น 30 ซึ่งหมายความว่า ให้ส่งคำสั่งร้องขอหน้าเว็บ 30 ครั้งในคราวเดียว
3. หลังจากแก้ไขเสร็จแล้ว คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง เลือกคำสั่ง New -> Integer ตั้งชื่อว่า “nglayout.initialpaint.delay” พร้อมทั้งกำหนดค่าเป็น “0” ค่านี้จะหมายถึงช่วงเวลาที่บราวเซอร์ใช้รอคอยก่อนที่ มันจะรับข้อมูลข่าวสาร
คราวนี้ ลองเข้าไปเว็บไซต์ที่ชื่นชอบ เพื่อสัมผัสความเร็วที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดได้แล้ วครับ
1. พิมพ์คำสั่ง about:config เข้าไปในช่องแอดเดรส แล้วกดปุ่ม Enter จากนั้นเลื่อนหน้าจอลงมาจนถึงรายการข้างล่างนี้
network.http.pipelining
network.http.proxy.pipelining
network.http.pipelining.maxrequests
2. แก้ไขค่าดังนี้
กำหนดค่า “network.http.pipelining” ให้เป็น “true”
กำหนดค่า “network.proxy.pipelining” ให้เป็น “true”
จากนั้นกำหนดค่าของ “network.http.pipelining.maxrequests” โดยดับเบิ้ลคลิกแล้วกำหนดค่าเป็น 30 ซึ่งหมายความว่า ให้ส่งคำสั่งร้องขอหน้าเว็บ 30 ครั้งในคราวเดียว
3. หลังจากแก้ไขเสร็จแล้ว คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง เลือกคำสั่ง New -> Integer ตั้งชื่อว่า “nglayout.initialpaint.delay” พร้อมทั้งกำหนดค่าเป็น “0” ค่านี้จะหมายถึงช่วงเวลาที่บราวเซอร์ใช้รอคอยก่อนที่ มันจะรับข้อมูลข่าวสาร
คราวนี้ ลองเข้าไปเว็บไซต์ที่ชื่นชอบ เพื่อสัมผัสความเร็วที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดได้แล้ วครับ