ติดกาแฟครับ ทำไงดี

[CEO]

วันไหนไม่ได้ดื่มกาแฟตอนเช้า จะปวดหัวครับ
เรื่องไม่ได้ดื่มแล้วง่วงนี่มันเป็นปรกติไปแล้วครับ
ไม่ทราบว่ามีวิธีเลิกกาแฟไหมครับ ผมเคยเลิกมาได้หลายหนแล้ว ก็เลยชักไม่แน่ใจว่าวิธีของผมมันใช้ได้จริงหรือเปล่าครับ

พอดื่มกาแฟมาก มันก็ไม่ยอมง่วง ไม่ยอมนอนครับ เด๋วนี้ตื่นสายเกือบทุกวัน ไม่ทันตลาดเปิดเลยครับ

[akekarat]

ลองเปลี่ยนเครื่องดื่มดูสิครับ
บางคนอาจไม่ได้ติดกาแฟ แต่ติดนิสัยหยิบโน่นนี่ทานมากกว่า
ผมก็เคยเป็น

[เหาฉลามสุดขอบฟ้า]

ยังไม่ติดจริงครับ
เพิ่งแค่เริ่มต้น
คนติดจริงๆมักกินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลอีกตะหาก
แถมไม่กินกาแฟก่อนนอนแล้วจะนอนไม่หลับครับ
เอ้อ...ถามนิดสิ
ถ้าติดกาแฟจริง
แล้วมันไม่ดีอย่างไรหรือครับ
พี่เสี่ยว(CEOนี่อ่านว่าเสี่ยวได้ก็พี่)กินกาแฟถ้วยนึงปวดหัวยังหายไปได้อีก
นี่เรียกกาแฟรักษาโรคเชียวนะ
แต่ถ้าอยากเลิกจริง
เวลาพี่อยากให้เห็นตัวอยากจิบกาแฟเร็วๆครับ
อย่าให้ใจไปปรุงแต่งต่อมันอร่อยอย่างนั้น ไม่ง่วงดีอย่างนี้
พี่เสี่ยวเสร็จมันแน่ครับ
เพราะพอรู้ตัวอีกที กาแฟก็จะมาอยู่ในมือพี่เสี่ยวได้ไงไม่รู้

อ้อสุดท้ายครับ
ณเวลาใด จึงจะเปลี่ยนโลโก้จากกริซลี่แบร์ไปเป็น กระทิงเปลี่ยว ครับ

[modpattaya]

อย่าชงให้รสชาติอร่อย เหมือนที่ชื่นชอบ
เปลี่ยนรสให้แย่ลงเรื่อยๆ ค่ะ    แล้วดื่มอย่างอื่นบ้างค่ะ



ตัวเองดื่มกาแฟได้เรื่อยๆ เป็น 10 กว่าถ้วย  ดื่มทั้งวัน และก่อนนอน
ไม่เคยหงุดหงิดถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟ   แต่ไม่เคยดื่มแล้วนอนไม่หลับ หรือตาค้าง
ดื่มแบบไหนก็ได้ ทั้งแก่ ทั้งอ่อน  ดื่มไม่หวานและต้องเป็นกาแฟร้อน (เท่านั้น)


แก้ปัญหาโดย
-ห้ามชงเองเด็ดขาด
-ถ้าไม่มีลูกน้องอยู่  ต้องรอค่ะ
ปล.ต้องเกรงใจลูกน้อง อย่าใช้งานบ่อย

หมายเหตุ   วิธีนี้ยกเว้นวันหยุด-อยู่บ้าน   ชงดื่มเองได้ ไม่งั้นอดทั้งวันค่ะ  :D

[BeSmile]

ดื่ม กระทิงแดง ซิครับ

[กล้วยทอด]

กล้วยทอดเลิกทานกาแฟแล้วค่ะ
ไม่อยากทำร้ายตัวเอง หรือผ่านการชงของคนอื่น
เริ่มคิด ก็ทำเลย หักดิบ อิอิ

[กล้วยทอด]

กล้วยทอดเลิกทานกาแฟแล้วค่ะ
ไม่อยากทำร้ายตัวเอง หรือผ่านการชงของคนอื่น
เริ่มคิด ก็ทำเลย หักดิบ อิอิ

ขยายความหน่อยดีกว่า...
กล้วยทอดไม่ชอบให้ ฟันไม่สวยค่ะ
ปกติไปหาคุณหมอฟันทุกๆ 6 เดือน
มีช่วงหนึ่งแล้วเคลือบฟันมันคล้ำลง จนสังเกตุได้
คุณหมอฟันแนะนำให้ หยุดที่สาเหตุ
กาแฟ ชา จับเลี้ยง นั่นนี่ เลยงด
ตอนนี้ปกติแล้ว เลยงดยาวว

เหตุผลที่เลิก ไม่ได้เกี่ยวกับสุขภาพด้านอื่นๆ
เหมือนกับหลายๆท่านค่ะ

[por_jai]

เคลือบฟันทีมันคล้ำลง
     ใช่จากกาแฟแน่นะ
     ไม่ใช่สีผิวสีิแทนของน้องกล้วยมันไปสะท้อนเข้าตาหมอฟัน
     ซะังั้น...

[กล้วยทอด]

เคลือบฟันทีมันคล้ำลง
     ใช่จากกาแฟแน่นะ
     ไม่ใช่สีผิวสีิแทนของน้องกล้วยมันไปสะท้อนเข้าตาหมอฟัน
     ซะังั้น...

อืม...ถึงผิวเป็นหยวก สะท้อนตาคุณหมอ ฟันก็คงไม่ขาวขึ้นหรอกค่ะ
คนรุ่นพ่อ-แม่เท่าที่เห็น ฟันเค้าไม่ค่อยสวย อาจเพราะ
ไม่ได้ให้ความสำคัญแต่เด็กแต่น้อย
ขนาดโตขึ้นมา ก็ไม่ค่อยดูแลตัวเอง  :lol:
ฟันเกบ้าง ผุบ้าง นั่นนี่ ต้องมาคอยรักษาตอนแก่ตัว
ต้องเจ็บตัว ไม่คุ้มหรอกกันดอกมั้งคะ

ไม่เกี่ยวกับกาแฟแล้ว ไปดีกว่า  :lol:

[por_jai]

ขอโทษที่มาคุยด้วยครับ

[modpattaya]

ทำไมบรรยากาศไม่เหมือนห้อง  "นั่งเล่น"   เลย


ขอโทษที่มาคุยด้วย นึกว่า "คอกาแฟ"


บายค่ะ

[MO101]

ติดเหมือนกันเลย
แต่ยังไม่ยอมเลิก เพราะไม่กินแล้วง่วง

[humdrum]

เดาครับ ผมเคยเลิกบุหรี่ได้ด้วยวิธีนี้

1. จินตนาการเป้นภาพเป็นร้อยๆ ครั้ง ว่าเลิกกินกาแฟแล้วในสมอง
     ก่อนนอน นอนฝันว่าเลิกแล้วนะ
     ตอนเทรดหุ้น ผมจินตนาการอย่างนี้ด้วย
     ผมเอาเทคนิคนี้มาจากคนตาบอดที่ผมไปคุยด้วย

2. สัญญากับคนทั้งตลาด
       เดินไปไหนผมก้บอกว่าผมเลิกแล้วนะ
      สัญญากับคนในครอบครัว กับ พ่อ กับ แม่
       สัญญากับโลกนี้
       เป็น a man of my word ถ้าทำไมได้นี่ ไม่มีใครเชื่อถือแล้วครับ
     แค่กาแฟนี่ยังทำไมได้เลยครับ ผมไม่ได้ว่านะครับ
    ผมพุดให้ฟัง ตอนเลิกบุหรี่ ผมทำอย่างนี้เหมือนกันครับ
       เทคนิคนี้เอามาจากคนยิวครับ

[sathaporne]

ผมว่าถ้าสามารถเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตได้ก็จะช่วยได้ครับ
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เรามักจะดื่มกาแฟบ่อยๆครับ
อย่างผม สมัยเมื่อก่อนทำงานในโรงงาน เวลาพักทีผมก็จะมานั่งประจำในที่หนึ่ง และก็มักจะกินกาแฟตอนนั้นครับ
มันก็เลยคล้ายๆเป็นนิสัยประจำว่าถ้าไปตรงนั้นเมื่อไหร่ต้องกินกาแฟ
พอผมคิดอยากจะเลิกก็เลยเปลี่ยนสถานที่ครับ ไม่ไปที่เดิม มันก็เลยลืมนึกถึงไปเลยครับ
แต่จริงๆก็ไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่ครับ เพราะปัจจุบันก็กลับมาติดอีก ด้วยหลายเหตุผลครับ
และก็ยังไม่ได้คิดจะเลิกจริงๆด้วย

[humdrum]

ผมติดเรือง CHRIS MOON มาฝากครับ ผมไม่รู้ว่า เขากินกาแฟหรือปล่าวนะครับ แต่ถ้าใครต้องการ "กำลังใจ" มากกว่า "กำลังกาย"  เรื่องนี้อ่านกี่ครั้ง ให้กำลังใจได้ดีเหลือเกินครับ ผมชอบคำที่พี่ WEB บอกวา "จงตามหาความฝันและทุ่มเททุกสิ่งให้แก่ความฝันซึ่งมีแต่คุณเท่านั้นที่มองเห็น"

   ถ้าเราข้าม สิ่งที่เราว่ายากไปได้ อย่างกาแฟนี้ ถ้าเรามองว่าเป้นอุปสรรค แต่เราก้าวข้ามไปได้ ผมสะสมในใจครับ เวลาข้ามไปได้นี่ มันภูมิใจมากเลยนะ แล้วมันกลายเป็นทุนให้เราชนะปัญหาต่างๆ ที่รออยู๋ข้างหน้าได้อีก คราวนี้มันจะง่ายขึ้นเรือยๆ เพราะเรามั่นใจมากขึ้น มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ เวลาผมเจออะไรที่ผมกลัวนี้ ผมดีใจมา เพราะมองปัญหาเป็นครูไปหมด เวลาข้ามไปได้นี่ โห......ดีใจครับ นั่งนึกถึงทีไร ผมว่ามันเป้นสีสันของชีวิตครับ...... มันส์ครับ ถ้ามองอย่างนั้น  กาแฟนี่เป้นเรื่องขี้ๆไปเลยครับ  

   อย่าลืมอ่านเรื่องนี้ครับ.....

    "อุปสรรคทางกายเป็นเรื่องเล็กเสมอสำหรับคนที่ใช้กำลังใจเป็นเข็มทิศชีวิตเพราะมนุษย์อาจสูญเสียองคาพยพแห่งกายได้ แต่หากไม่ยอมแพ้ นรกที่ไหนก็ขวางไม่ได้"
                                 CHRIS MOON

                         

 หนึ่งก้าวถัดไป

ในตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง มันมิได้เกิดขึ้นกับเขา

เสียงระเบิดก้องแก้วหู แรงสะเทือนหนักหน่วงราวกับร่างของเขาถูกฟ้าผ่า เขามองเห็นเลือดสีแดงทะลักจากซีกขวาของร่างกาย เขารู้ว่าทุกๆ วินาทีที่ผ่านไป เขาใกล้ความตายทุกขณะ

พื้นที่ที่ฝังทุ่นระเบิดในโมซัมบิค อัฟริกา เต็มไปด้วยกับระเบิดที่รอการ ทำความสะอาด ครั้งใหญ่ พื้นที่ที่เขาเหยียบน่าจะ สะอาด แต่เสียงฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นในวินาทีที่ผ่านมาบอกเขาว่า พื้นที่นี้ยังห่างไกลจากความสะอาด

ปีนั้นคือ 1995 คริส มูน ไปเยือนโมซัมบิค ในงานอาสาสมัคร แรงระเบิดตัดขาขวาท่อนล่างกับแขนขวาขาดกระเด็น เขาเสียเลือดไปมาก

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดความตาย

ชีวิตของเขาน่าจะดับสิ้นไปนานเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ในป่าลึกเขมร...



ยี่สิบปีก่อน คริส มูน เยือนเขมรในสถานะอาสาสมัครกู้ระเบิด

สงครามกลางเมืองในกัมพูชาส่งผลให้กับระเบิดกระจายไปทั่วประเทศ จากชนบทห่างไกลถึงป่าลึก แต่กับระเบิดอาจมีอันตรายน้อยกว่าทหารเขมรแดง

วันนั้นเขาถูกทหารเขมรแดงกลุ่มหนึ่งจับตัวไป พร้อมรถบรรทุกขององค์กรอาสาสมัคร ในยุคที่ชาวบ้านถูกทหารเขมรแดงสังหารไปหลายล้านคน การรอดชีวิตออกมาจากเงื้อมมือเขมรแดงเป็นเรื่องที่ เป็นไปไม่ได้ อย่างยิ่ง

เขาและเพื่อนชาวเขมรถูกจับตัวไปนานสามวัน เป็นสามวันที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของเขา เขารู้ว่าโอกาสรอดต่ำยิ่ง แต่ก็พยายามต่อรองกับทหารเขมรแดง หลายครั้งเขาเกือบถูกสั่งยิงเป้า แต่ก็รอดมาได้ เขายังต่อรองกับเขมรแดงให้ไว้ชีวิตเพื่อนร่วมงานชาวเขมรอีกสองคน

พวกเขาถูกบังคับให้เดินทางตามเขมรแดงไปตามจุดต่างๆ ล่าสุดทหารเขมรแดงที่คุมพวกเขาเป็นทหารเด็ก

ในวันสุดท้าย พวกเขาค้างแรมในป่าแห่งหนึ่ง เขารู้ดีว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหนี เขาใช้จิตวิทยาขู่ทหารเด็กว่าผีป่าดุร้าย ไม่ควรที่พวกเขาจะค้างแรมที่นั่น ทหารเขมรแดงกลัว จึงเปลี่ยนใจไม่ค้างแรมที่นั่น นำทางพวกเขาออกมา ไม่นานก็ละทิ้งพวกเขาไว้ คริส มูน กับพวกเดินเท้าระยะทางห้าสิบกิโลเมตรทั้งคืน ฝ่าดงระเบิดและป่าทึบ จนเช้าตรู่ก็พ้นเขตอันตราย

 


คริส มูน เป็นชาวอังกฤษ เลือดรักการผจญภัยในร่างทำให้เขาเลือกทำงานด้านอาสาสมัครช่วยคนไร้บ้านมาแต่หนุ่ม ไม่นานก็เข้าสู่กองทัพ หลังจากออกจากกองทัพ เขาทำงานกับหน่วยงานอาสาสมัครอังกฤษเพื่อกวาดกับระเบิดทั่วโลก

ชีวิตของเขาคลุกคลีกับความตายมาโดยตลอด

ใช่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดความตาย

ออกจากโรงพยาบาลอัฟริกาไม่ถึงหนึ่งปี คริส มูน ใส่ขาเทียมไปร่วมวิ่ง ลอนดอน มาราธอน เพื่อหาทุนมาเพื่อคนพิการจากกับระเบิดในเขมร ในเมษายน ปี 1997 เขาเป็นคนพิการขาขาดคนแรกในโลกที่วิ่ง The Great Sahara Run ฝ่าระยะทาง 250 กิโลเมตรในทะเลทรายสะฮาราสำเร็จ มันเป็นการวิ่งวิบากที่สุดในโลก ใช้เวลาวิ่งหกวัน ใต้ความร้อนจัดของแดดอัฟริกัน และเม็ดทรายระอุแห่งสะฮารา นักวิ่งทุกคนต้องพกพาอาหารและอุปกรณ์ทุกอย่างไปเอง นอกจากจะลิ่งเพื่อพิสูจน์ขีดจำกัดของเขาเองแล้ว ยังเป็นการวิ่งเรี่ยไรเงินหนึ่งแสนเหรียญสำหรับองค์การกาชาดสากลเพื่อจัดหาแขนขาเทียมในเวียดนาม

ในเดือนกรกฎาคม ปี 1997 คริส มูน วิ่งทางสองร้อยกิโลเมตรในเวลาสี่วันร่วมกับกองทัพออสเตรเลีย เพื่อช่วยเหยื่อกับระเบิด

หลังจากนั้นเขาก็วิ่งเพื่อการกุศลในทุกแห่งหน ในการวิ่งที่คนร่างกายครบสามสิบสองลังเล เขาวิ่งจากฮาโกเนะไปโตเกียว เพื่อหาทุนให้องค์กรการกุศลในญี่ปุ่น วิ่งนำขบวนนักวิ่งห้าร้อยคน ใน The Flora London Marathon เพื่อเรี่ยไรเงินกุศล วิ่ง The Outback Challenge มาราธอนวิบากระยะทาง 250 กิโลเมตร ไปตามทางคดเคี้ยวและภูเขาในออสเตรเลียเพื่อหาเงินมาช่วยการกำจัดกับระเบิด

ในเดือนพฤษภาคม ปี 1999 เขาวิ่งระยะทาง 700 กิโลเมตร เพื่อพยายามพิสูจน์เปลี่ยนทัศนคติผู้คนต่อคนพิการ และเพื่อเรี่ยไรเงินการกุศล

เพียงสามเดือนถัดมา เขาเป็นคนพิการคนแรก หนึ่งในสิบสองคนในโลกที่วิ่ง The Badwater Death Valley Ultramarathon ระยะทาง 136 ไมล์ หรือเท่ากับห้ามาราธอนต่อเนื่องกัน ในพื้นที่ที่ร้อนระอุขนาดอบไก่ย่าง

ในเดือนเมษายน ปี 2000 ร่วมการปีนเขาคิลิมันจาโร เดือนถัดมาเขาวิ่งระยะทาง 100 กิโลเมตรบนภูเขาไฟในญี่ปุ่น



ในการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาวที่นากาโนะ ญี่ปุ่น ในปี 1998 คริส มูน ได้รับเกียรติให้เป็นนักวิ่งผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิคไปยังสนามกีฬาโอลิมปิค

คบเพลิงชีวิตของเขาไม่เคยมอดดับ

คริส มูน เป็นตัวอย่างของมนุษย์ที่ไม่ยอมให้อุปสรรคทางกายภาพมาบั่นทอนความฝัน ทัศนคติของเขาคือ ชีวิตไม่มีขีดจำกัด เขาไม่เชื่อในขีดจำกัด และพิสูจน์อย่างชัดเจนว่าไม่มีขีดจำกัดใดที่ขวางกั้นกำลังใจของมนุษย์

อุปสรรคทางกายเป็นเรื่องเล็กเสมอสำหรับคนที่ใช้กำลังใจเป็นเข็มทิศชีวิต

เพราะมนุษย์อาจสูญเสียองคาพยพแห่งกายได้ แต่หากไม่ยอมแพ้ นรกที่ไหนก็ขวางไม่ได้



(ป.ล. หลังจากออกจากโรงพยาบาล คริส มูน ยังเรียนต่อปริญญาโท เปิดบริษัท และได้รับรางวัลมากมาย

ในปี 1999 เขาเขียนหนังสือชื่อ One Step Beyond - หนึ่งก้าวถัดไป เป็นอัตชีวประวัติของเขาเอง)

credit

http://www.winbookclub.com/basket_detail.php?id=107

[MarginofSafety]

ผมว่าผมไม่ได้ติดนะ
แต่ดื่มประจำวันละ 2-3 แก้ว
ชอบดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่อะไรเลย
ชอบกลิ่น และความหอมของกาแฟ

ผลเสียต่อสุขภาพ ไม่ทราบเหมือนกัน
แต่ที่แน่ๆคือฟันเหลืองอย่างที่พี่กล้วยว่าไว้
แต่คงมีผลดีเหมือนกัน

ถ้าจะหยุด (ไม่ใช้คำว่าเลิก เพราะคิดว่าตัวเองไม่ติด)
ก็ไม่น่าจะยากอะไร
ทนปวดหัวซักสองสามวัน (ผลจากการขาดคาเฟอีน)
ก็น่าจะหยุดได้แล้วครับ
แต่ก็ไม่เห็นว่าจะหยุดไปทำไม
ความสุนทรีย์เล็กๆของชีวิต

[Ano]

ถ้าเมื่อไหร่  เราคิดว่าการดื่มกาแฟของเราเป็นปัญหา  ร่วมกับเราตระหนักถึงผลเสียของมัน  เมื่อชั่งน้ำหนักว่าความอร่อย, ความสุนทรีย์ในอารามณ์ที่เกิดจากการดื่มกาแฟนั้นน้อยกว่าผลเสียของมัน  เราก็จะหยุดดื่มได้ค่ะ

ยกตัวอย่างผู้หญิงหลายคนดื่มกาแฟเป็นประจำ   เนื่องจากการดื่มกาแฟข้อเสียไม่เด่นชัด   แต่ผลตั้งครรภ์ก็หยุดดื่มกาแฟได้กันทั้งนั้น  เพราะคราวนี้ผลเสียของกาแฟต่อเด็กมีชัดเจน  ฉะนั้นเมื่อเห็นว่าเป็นปัญหา ตระหนักถึงโทษของมัน  ก็จะเลิกได้ไปเองค่ะ

[CEO]

อ้อสุดท้ายครับ
ณเวลาใด จึงจะเปลี่ยนโลโก้จากกริซลี่แบร์ไปเป็น กระทิงเปลี่ยว ครับ

เรื่องโลโก้คงไม่เปลี่ยนมังครับ  ถ้าหุ้นยังไปไม่ถึง 2000 จุด

[CEO]

ลองเปลี่ยนเครื่องดื่มดูสิครับ
บางคนอาจไม่ได้ติดกาแฟ แต่ติดนิสัยหยิบโน่นนี่ทานมากกว่า
ผมก็เคยเป็น

ตอนนี้ผมพยายามดื่มน้ำส้มแทนครับ ตนนนี้ไม่รู้ว่าจะติดทั้งน้ำส้มและกาแฟหรือเปล่าครับ

[CEO]

[quote="modpattaya"]อย่าชงให้รสชาติอร่อย เหมือนที่ชื่นชอบ
เปลี่ยนรสให้แย่ลงเรื่อยๆ ค่ะ

[CEO]

ถ้าจะหยุด (ไม่ใช้คำว่าเลิก เพราะคิดว่าตัวเองไม่ติด)
ก็ไม่น่าจะยากอะไร
ทนปวดหัวซักสองสามวัน (ผลจากการขาดคาเฟอีน)
ก็น่าจะหยุดได้แล้วครับ
แต่ก็ไม่เห็นว่าจะหยุดไปทำไม
ความสุนทรีย์เล็กๆของชีวิต

ตอนลองหยุดดื่มกาแฟดู มันก็จะปวดหัวครับ ปวดทั้งวันจนกลางคืนยังปวด ปวดหัวอย่างเดียวยังพอทนครับ พอปวดๆมึนๆ ผมไม่รู้เป็นไร ชอบสั่งขายหุ้นล้างพอร์ตนี่สิครับ แย่ ! แล้วก้ต้องมาซื้อในวันรุ่งขึ้น

[CEO]

สมัยเมื่อก่อนทำงานในโรงงาน เวลาพักทีผมก็จะมานั่งประจำในที่หนึ่ง และก็มักจะกินกาแฟตอนนั้นครับ
มันก็เลยคล้ายๆเป็นนิสัยประจำว่าถ้าไปตรงนั้นเมื่อไหร่ต้องกินกาแฟ

แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่ดื่มกาแฟครับ เห็นเพื่อนๆรุ่นน้องดืมกันตอนเช้าๆ เราก็ยังสงสัยว่าทำไมเราต้องดื่ม
แต่พอมาทำงานกับญี่ปุ่น บางครั้งต้องประชุ่มทั้งวันครับ แม่บ้านก็ขยันเสิร์ฟกาแฟ พอประชุ่มบ่อยๆมัน ต่อมาก็เลยดื่มเองทุกวัน ตอนนั้นเราก็ว่าไม่ติด เพราะวันหยุดเราไม่ดื่มก็ไม่เห็นเป็นไรครับ พอนานๆไป ไม่ดื่มมันจะปวดหัวครับ

[f.escape]

รู้จักคุณยายอยู่คนหนึ่ง มีคนไปถามว่าทำไมอายุยืน แกบอกว่าทำสองอย่าง
กินกาแฟ กับอ่านไทยรัฐทุกวัน

[chatchai]

รู้จักคุณยายอยู่คนหนึ่ง มีคนไปถามว่าทำไมอายุยืน แกบอกว่าทำสองอย่าง
กินกาแฟ กับอ่านไทยรัฐทุกวัน

โห

[sathaporne]

ตอนลองหยุดดื่มกาแฟดู มันก็จะปวดหัวครับ ปวดทั้งวันจนกลางคืนยังปวด ปวดหัวอย่างเดียวยังพอทนครับ พอปวดๆมึนๆ ผมไม่รู้เป็นไร ชอบสั่งขายหุ้นล้างพอร์ตนี่สิครับ แย่ ! แล้วก้ต้องมาซื้อในวันรุ่งขึ้น

อืม โทษของกาแฟแบบนี้นี่น่ากลัวจริงๆ แฮะ

[por_jai]

ตอนลองหยุดดื่มกาแฟดู มันก็จะปวดหัวครับ ปวดทั้งวันจนกลางคืนยังปวด ปวดหัวอย่างเดียวยังพอทนครับ พอปวดๆมึนๆ ผมไม่รู้เป็นไร ชอบสั่งขายหุ้นล้างพอร์ตนี่สิครับ แย่ ! แล้วก้ต้องมาซื้อในวันรุ่งขึ้น

อืม โทษของกาแฟแบบนี้นี่น่ากลัวจริงๆ แฮะ [/quote]

ผมว่าไม่ใช่โทษของกาแฟครับ
     แต่เป็นพี่เสี่ยวแกโทษกาแฟครับ ชัดๆเลย...ฮ่า...

[humdrum]

หรือว่าเกี่ยวกับ DNA ครับ แต่ละคนร่างกายตอบสนองต่อสารเสพติดในกาแฟไม่เหมือนกัน แล้วผลที่คาแฟอินมีผลต่อสารเคมีในสมองยังไม่เท่ากันอีก ผมคิดถึงบทคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่อง อริยะสัจ 4 นั่นใช้แก้อาการติดกาแฟได้   ถ้าเอาวิทยาศาสตร์ช่วย เติมเกลือลงไปในกาแฟ รับรองเลิกได้ตั้งแต่แก้วแรก

   คิดถึง BUFFETT ชอบกินโค๊ก
 เขาไปตรวจสุขภาถประจำปี
 หมอทักว่า "คุณเชื่อมั่นใน DNA ของคุณมากซินะ"

  ข้างบ้านผมมียาย 85 ท่านหนึ่ง ไปซื้อกาแฟเย็นให้ท่านกินบ่อย
  ยายบอกว่า กินแล้วมันกระชับกระเฉงดี
  พุดคุยปกติครับ ไม่หลง แต่กินกาแฟแล้ว อารมณดี หัวเราะเอิกอ้ากกกก
 
     การที่คนเราต้องเจอกับสภาพที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานั้น
  เป้นคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตลาดอย่างมาก
 เรียกว่า พวกเขามีคุณสมบัติฟังใน DNA ตั้งแต่เกิดเลยด้วยซ้ำ
 DNA นี้คือ การเคยชินกับสิ่งต่าง ๆ การรุ้สึกสะดวกสบาย เป้นสิ่งต้องห้ามลำดับแรก เมืือคนเราเคยชินกับสิ่งต่างๆ นั้น เป้นปัยหาใหญ่ที่สุดในการพัฒนาตนเองเพื่อความอยู่รอด

   ดูเหมือน บางคนจะใช้ชีวิตที่ตรงข้ามกับความต้งการของมนุษยือย่างเรา ๆ ที่ คิดว่า  ความสะดวกสบายไม่เป็นผลดีต่อชีวิต  

  ในอาหารบางประเภทอย่าง ชีส วาซาบิ ถั่ว ขาหมู  มีสารที่ทำให้เราติดมันได้
 
 ไม่ทราบว่า นอกจากท่านติดกาแฟแล้ว ท่านยังติดอะไรอีกครับ
 
   เมื่อวาน ผมไปเดินเว็นทรับพระราม 7-4  เห็นสาวผมไทยหน้ามวยแต่ผมทองหมุนผมเป็นเกีลยวเหมือนเชื่อกบันไดวน เหมือนโมเลกุลของดีเอนเอที่หมุนอย่างไรอย่างนั้นไม่ผิดเพี้ยน

    ผมก้อดชมคนคิดทรงผมนี้ขึ้นมาอย่างจับใจ แต่เหตุผลที่ผมรู้สึกขอบคุณออกจะแปลกกว่าชาวบ้าน เพราะมันทำให้ผมเข้าใจว่า

      วิวัฒนาการของ "ความเชื่อ" หรือ "การยืดมั่น" กับกาแฟ หรือ สิ่งอื่นๆ  ของ trader เป็นเหมือนวิวัฒนาการที่ไม่ต่างอะไรจากวิวัฒนาการของเซกซ์ ซึ่ง สุดท้ายแล้ว มันคือ เพียงกลไลให้รางวัลเพียงเพื่อให้เราส่งต่อ "สารทางพันธุกรรม" ที่เป้น "ตัวเรา " ออกไปเพื่อ "ความอยู่รอด" เท่านั้น

    ทุกครั้งที่ผมเห็นสาว ๆขาว หุ่นดี ผมรู้สาเหตุของอาการตื่นเต้นแล้วความรู้สึกความต้องการทางเพศขึ้นมาทันที ที่แท้ผมไม่ได้เป็นพวกหื่นกามที่ไหน แต่เพราะเป็นผลพวงมาจาก "ยีน" ของผมนั่นเอง ที่พยายามเพียงแค่ "รางวัล" ที่แฝงจุดประสงค์ที่แท้จริง ของการ ส่งต่อ "สารทางพันธุกรรม" ที่เป้น "ตัวเรา " ออกไปเพื่อ "ความอยู่รอด" เท่านั้น

   บางทีการติดกาแฟอาจเป้นข้อดีของใครบางคน แต่อาจเป็นข้อเสียของบางท่าน มันขึ้นอยู่กับ DNA ของแต่ละคน

 ผมอาจผิดครับ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ

[nanchan]

[quote="กล้วยทอด"][quote="por_jai"] เคลือบฟันทีมันคล้ำลง

[กล้วยทอด]

ช่วงหลังอาจต้องเน้นขยายความหลังโพสต์ตลอดเลย

กล้วยทอดเข้าใจค่ะ ว่าพี่พอใจแซวเรื่องผิว เพื่อสร้างความคุ้นเคยกัน
ช่วงนี้กล้วยทอดคงระรื่นไปหน่อย พี่บางคนคงพอรู้ว่า
หมู เห็ด เป็ด ไก่ ผัก ข้าวโพดนั่นนี่ในปอดเค้าทำตัวดีหน่ะค่ะ

กล้วยทอดได้รับการปลูกฝังเรื่องรักษาฟันจากแม่ค่ะ
ตอนเด็กและโตมา เค้าดูแลมันไม่ค่อยดีนัก
นี่ก็เพิ่งพาเค้าไปรักษารากฟันเทียมมาเมื่ออาทิตย์ก่อน
เคยฟังคุณหมอฟันเล่าให้ฟัง ว่าค่าทำรากฟันที่เมืองไทยถูกแล้วนะ
60,000-90,000 บาท เค้าเคยทำอยู่ที่อเมริกาได้ค่ารักษาต่อซี่ประมาณ 3600เหรียญแหน่ะ
ที่คลินิคคุณหมอเค้ามีฝรั่งนิยมบินมาทำ เพราะเป็นรากเทียม 1ใน3 ยี่ห้อที่คุณภาพดี
เรียกว่าบินมา ค่ารักษารวมกับค่าตั๋วยังคุ้มกับการที่ทำในเมืองไทยเลย

หลังจากดูบรรยากาศแปลกๆ อย่างที่คุณ modpattaya พูด
กล้วยทอดเลยไป search หาที่มาดูที่พี่พอใจเคยโพสต์
เห็นว่าชอบพบคุณหมอฟันเหมือนกับแม่เลย อิ อิ
กระทู้นี้เน้นกาแฟนิ เรื่องฟันอาจไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่

[por_jai]

ครับป๋านัน ผมอาจเข้าใจผิดคิดมากไปจริงๆ
ผมก็คิดไปว่าคงแซวไปโดนเรื่องที่น้องเขาถือ
ก็เลยขอโทษไป
ใจก็ว่าเออ..ตรูหนออายุพามาซะขนาดนี้
ปาก(กา)ดันพามาเสียคนซะได้

มาคุยเรื่องกาแฟต่อดีกว่า
ทุกวันนี้ตอนอยู่บ้านผมกินกาแฟทั้งวัน
เพื่อนฝูงก็บอกให้ไปซื้อเครื่องชงกาแฟสดมาใช้เถิด
ทั้งอร่อยและหอมกว่าเยอะ
เขาก็คอยโทรมาเตือนตอนวีรสุ ลดราคา
เขาว่าให้ไปจ่ายเงินไว้ก่อนเลย
แล้วค่อยถือบิลไปรับของวันงานจะได้ในราคาพิเศษ
เพื่อนว่าวันงานจริง คนเยอะ แล้วของจะมีวันละุไม่กี่ชิ้น
มันจะหมด
ผมเห็นว่าวุ่นวายขายปลาช่อนอย่างนี้
ผมกินกาแฟชงต่อไปก็ได้
เพื่อนมันก็โทรมาว่าอีก
บอกมรึงไม่มีอารมณ์สุนทรีย์ในการจิบกาแฟเลย
ตัวมันมีความมานะขนาดซื้อเครื่องชงกาแฟสดไปไว้ที่ทำงานยังยอมทำเลย
พวกจับกัง...เห็นมันบ่น..พึมพำ พึมพำ อะไรออกมาทำนองนี้
หรือที่บ้านมันทำโรงสีข้าว ต้องใช้จับกังขนข้าว
แล้วจับกังไม่พอ
เลยมาบ่นคำนี้ก็ไม่รู้...ฮ่า...