ผมกลัวว่าจะเป็นการสอนปลาฉลามว่านน้ำนะสิครับ แต่เมื่อพี่ท่านถามมาก็ขอตอบเท่าที่หางอึ่งในสมองจะรู้นะครับhumdrum เขียน: พี่ท่านเขียนเรื่องบัญชีให้เป็นวิทยาทาน ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ผมถามก่อนเลย
1. เวลาพี่ท่านเซียนบัญชีอยางนี้ อ่านงบ พี่ท่านดูอะไรก่อนเป็นอันดับแรกครับ คือ เปิดมานี่ ต้องอ่านก่อนเลย
2. การดูงบบัญชีมีจดอ่อนตรงไหนบ้างครับ
3. ส่วนไหนที่พี่ท่านตั้งข้อสังเกคให้ระวะงมากที่สุดในการอ่านงบ
4. เวลาผมอ่าน ผมจะเอากำไรไว้บนสุด กลับหัวแล้วอ่านกลับลงมาที่รายได้ อยากทราบว่า ทำไมเขาไม่ทำอย่างนี้กัน แล้วมีบัญชีในแนวตั้งหรือไม่ครับ
ขอบคุณมากครับ
ก่อนอ่านงบการเงินผมจะดูกำไรก่อนเป็นอันดับแรก แต่เวลาผมโหลดงบการเงินมาอ่านผมจะอ่านในส่วนของรายงานผู้สอบบัญชีก่อนเลย ถามว่าดูทำไม ตัวรายงานผู้สอบนี้ผมว่าสำคัญนะครับ เหมือนกับเราจ้างนักสืบไปสืบเรื่องบางอย่าง พอเราได้ข้อมูลโดยสรุปแล้ว เราสามารถใช้ข้อมูลของนักสืบเพื่อไปดำเนินการต่อว่าเราจะดูจุดไหนเป็นพิเศษ จะเป็นจุดที่นักสืบตั้งข้อสังเกตุไว้หรือ จะดูเองใหม่หมด1. เวลาพี่ท่านเซียนบัญชีอยางนี้ อ่านงบ พี่ท่านดูอะไรก่อนเป็นอันดับแรกครับ คือ เปิดมานี่ ต้องอ่านก่อนเลย
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นอีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจและควรอ่านคู่ไปกับอ่านงบการเงิน
แต่งบการเงินเป็นเพียงจิ๊กซอตัวหนึ่งในอีกหลายๆตัว ที่จะบอกได้ว่าบริษัทนั้นๆน่าลงทุนหรือไม่ สิ่งที่ควรรู้ก่อนงบการเงินก็น่าจะรู้ Business Model จุดอ่อนแข็งของบริษัท ความสามารถและจริยธรรมของผู้บริหาร Positioning ของบริษัท ถ้าเป็นพี่หมอศรรามก็จะบอกว่าต้องรู้ วัฏจักรของอุตสาหกรรม
พอแงะงบการเงินแล้วก็ต้องคำนวณราคาที่เหมาะสมอย่างที่หลายท่านบอกว่ามี Margin of safety มากพอไหม วิธีคำนวณราคาก็มีหลายวิธี อันนี้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละท่าน ต่อมาก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเข้าซื้อหุ้น สุดท้ายเป็นเรื่องปราบเซียน ที่หลายท่านบอกว่ายากสุดคือเวลาหรือราคาที่เหมาะสมที่จะขาย
งบดุลเป็นงบที่แสดงสินทรัพย์ หนี้สิน ทุน เพียงแค่เวลาใดเวลาหนึ่ง (วันสิ้นงวดบัญชีนั้นๆ) ดังนั้นแค่ 1 วันในรอบทั้งปีความน่าเชื่อถือได้ก็คงมีระดับหนึ่ง2. การดูงบบัญชีมีจดอ่อนตรงไหนบ้างครับ
งบกำไรขาดทุน เป็นการแสดงกำไรขาดทุนในเกณฑ์สิทธิ์ คือที่ว่ามีกำไรนะ เงินได้รับหรือยังไม่รู้ ลูกค้าจะเบี้ยวหนี้ไหมบอกได้ยาก
อย่างที่พี่โหน่งบอกครับ ตัวเลขเป็นสิ่งที่คนสมมติขึ้นมันหลอกเราได้ง่าย ขนาดบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่ทำกิจการมานานหลายสิบปียังกลายเป็นเพียงแชร์ลูกโซ่ได้เลย ก็เพราะคนเชื่องบการเงิน เชื่อคำผู้บริหาร
มันถูกบิดเบือนได้ง่าย
ในส่วนของงบการเงินผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าปกติจะตั้งข้อสังเกตตรงไหน เพราะเท่าที่อ่านมาแต่ละงบจะมีจุดสังเกต หรือจุดที่น่าสงสัยต่างกัน สำหรับสิ่งที่ต้องระวังที่สุดน่าจะเป็นความมั่นใจจนเกินเหตุที่จะเชื่อตัวเลขที่เราได้ออกมาครับ เพราะบางครั้งตอนที่ดูคร่าวๆ จะมีความรู้สึกบางอย่างแต่เมื่ออ่านงบแล้วจะเกิด bias จนทำให้เราเชื่อมั่นจนเกินเหตุ3. ส่วนไหนที่พี่ท่านตั้งข้อสังเกตให้ระวังมากที่สุดในการอ่านงบ
เวลาผมดูงบกำไรขาดทุนเบื้องต้นผมก็ดุแบบพี่โหน่งนะครับ เปรียบเทียบกำไรแล้วดูต้นทุน ค่าใช้จ่าย ยอดขายหลังสุด4. เวลาผมอ่าน ผมจะเอากำไรไว้บนสุด กลับหัวแล้วอ่านกลับลงมาที่รายได้ อยากทราบว่า ทำไมเขาไม่ทำอย่างนี้กัน แล้วมีบัญชีในแนวตั้งหรือไม่ครับ
เวลาลงบัญชีผมคิดว่าเหมือนกับการจัดของลงกล่องครับกล่องแต่ละใบก็คือรายการบัญชีแต่ละรายการ รายการไหนเกิดขึ้นก่อนมันต้องวางก่อน ส่วนของที่อยู่บนสุดของกล่องแต่ละใบคือใบปะหน้าว่าในนั้นมีอะไรบ้าง
ส่วนงบการเงินก็คล้ายกับใบสรุปว่ากล่องใส่ของแต่ละกล่องมีอะไรอยู่เท่าใด ซึ่งก็ต้องจัดทำตามลำดับการเกิดก่อนหลัง มีรายได้ มีค่าใช้จ่าย ถึงจะรู้ได้ว่ามีกำไรหรือขาดทุนเท่าใด
ผู้บริหารหรือคนอ่านงบการเงินอย่างเราๆ คงจะใช้เพียงใบสรุปหรืองบการเงินต่างๆ ส่วนอยากได้แบบไหนนั้นคงต้องมาปรับใหม่ตามถนัดของเราครับ