เอาไง...ดี

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
Supra
Verified User
โพสต์: 479
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 1

โพสต์

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

      สภาวะปัจจุบัน อยากทราบพี่ๆๆ เพื่อนๆๆควบคุมจิตใจ สร้างแรงใจกันไงบ้าง
กับภาระต่างๆๆที่ทำให้การดำเนินชีวิตทั้งตน และครอบครัว เริ่มยากขึ้นทุกวัน
       
      เหอ......เบื่อความวุ่นวาย สับสน ดิ้นรน การแก่งแย่งชิงดี  อยากรวย  สุดท้ายแล้วมีอะไร ก้อแค่ธุรีดิน :(  :(  :(  :(
*****
121
Verified User
โพสต์: 843
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 2

โพสต์

หาตัวเราให้เจอก่อนครับ

เหมือนที่เขาบอก ให้รักตัวเองให้ได้ก่อนจะไปรักคนอื่น

เจอตัวเอง ก็จะรู้ความต้องการจริงๆของเราเองว่า

ไอ้ที่จำเป็นจริงๆๆๆ.......ก็แค่ป้จจัย 4แค่เนี่ย

ที่เหลือหลอกต้วเองว่าจำเป็น

พอรุ้ว่าที่จำเป็นจริงๆมันเป็นสิ่งง่ายๆ  

ก็ต้องหามาได้ง่ายๆ  ชีวิตก็จะง่าย

 ไปหาหนังสือ ของมูลนิธิโกมล คีมทอง

จะเอาเงินหรือชีวิต  มาอ่านก็จะง่ายขึ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
san
Verified User
โพสต์: 1675
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คิดถึงรูปลิง   ปิดหู  ปิดตา   ปิดปาก
ทำยากชะมัด
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 4

โพสต์

[quote="Supra"]:lol:
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ความคิด ความเชื่อ >>> อารมณ์ >>> การกระทำ >>> ผลลัพ

อยากเปลี่ยนผลลัพ ต้องเปลี่ยนความคิด และดึงศักยภาพในตัวออกมาก่อนครับ

ลักษณะงานทั่วไปไม่ได้สอนให้ดึงศักยภาพ ในตัวออกมาครับ

เราใช้พลังงานศักที่มีในตัวน้อยไปครับ

คงต้องหาวิธีดึงออกมาใช้ครับ

ลองอ่าน the secret ดูครับ ผมก็ยังไม่เคยอ่านครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Diablo
Verified User
โพสต์: 822
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Jeng เขียน:ความคิด ความเชื่อ >>> อารมณ์ >>> การกระทำ >>> ผลลัพ

อยากเปลี่ยนผลลัพ ต้องเปลี่ยนความคิด และดึงศักยภาพในตัวออกมาก่อนครับ

ลักษณะงานทั่วไปไม่ได้สอนให้ดึงศักยภาพ ในตัวออกมาครับ

เราใช้พลังงานศักที่มีในตัวน้อยไปครับ

คงต้องหาวิธีดึงออกมาใช้ครับ

ลองอ่าน the secret ดูครับ ผมก็ยังไม่เคยอ่านครับ
ฮาครับพี่
รูปภาพ
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 7

โพสต์

สวดมนต์ สวดมนต์และสวดมนต์

สวดทีละคำฟังทีละเสียง
โดยที่ไม่ต้องเปิดหนังสือ

ให้มันฟุ้งให้รู้ไป ภาษาบาลี ถ้ายังฟุ้งได้

:)
:)
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 8

โพสต์

สุดท้ายแล้วมีอะไร ก้อแค่ธุรีดิน
เชื่อตามนี้จริงหรือเปล่าละคะ ถ้าเข้าใจประโยคนี้จริง ก็ไม่มีทุกข์แล้ว

ถ้ายังทุกข์อยู่ แปลว่า ยังไม่เชื่อตามนั้น

มีเกิดนั้นแล ทำให้มีตาย
แต่มีตายแล้วทำให้มีเกิดหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวมั้ย เพราะก็ระลึกชาติไม่ได้ จึงพิสูจน์ไม่ได้ว่า เพราะตายไปแล้วจึงได้สิทธิเกิดใหม่หรือไม่

ดังนั้น สมการนี้ ชี้ชัดว่า เมื่อมีเกิดแล้ว ย่อมมีตาย
เรากำลังเดินไปสู่ประตูความตาย และเรายังสรุปไม่ได้ว่า หลังประตูความตาย คือจะไปที่ไหน
ความตาย คือจุดหมายนึงที่(เท่าที่ทราบกันเนี่ย) ก็คือจุดหมายสุดท้าย ของหนึ่งชีวิต
ซึ่งอาจจะไม่ใช่สุดท้าย เราจะรู้ว่าสุดท้ายมั้ย ก็ต่อเมื่อไปถึงจุดที่ข้ามผ่านประตูไปแล้ว ...หรือไม่ก็อาจจะไม่รู้อะไรอีก เพราะมันอาจเป็นจุดสุดท้ายจริงๆ คือ แค่ธุลีดินที่ไม่มีประสาทรับรู้อะไรอีก ...หรือบางที เจ้าธุลีดินเนี่ย อาจจะมีประสาทรับรู้ต่อไปอีกก็ได้ เราไม่มีวันรู้ว่าจะมีมั้ย จนกว่าเราจะเป็นธุลีดินแล้วเท่านั้น

จะเครียดไปทำไมกับเรื่องราวที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่รู้ได้ก่อนว่าจะเกิดขึ้นมั้ย หรือเกิดแบบไหน
ชีวิตนึง ก็เหมือนเกม ... ถ้าเราเครียดแล้วไม่สนุก ก็เลิกเครียดซะ แต่ถ้าเครียดแล้วชอบจังเลย ก็เครียดต่อไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร (ไม่ได้กวนนา แต่พูดจริงๆ เพราะบางคนชอบเลือกที่จะอยู่แบบเครียดๆ มันก็อยู่ไปได้นะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร)

ไม่ว่าจะเครียดมั้ย จะสุขหรือจะทุกข์ เรื่องราวก็ยังคงดำเนินต่อไปอยู่ดี

สรุป...ยังไงซะ เราก็ต้องมีชีวิตอยู่ จนกว่าเราจะตาย และเราจะรู้ว่าเราตายไปแล้ว จะได้ไปไหน หรือไม่ได้ไปไหนอีกเลย ก็ต่อเมื่อเราตายเสียก่อนนั่นเอง

ดังนั้น หมายถึง ถ้าเราเข้าใจจริงๆ ก็ไม่มีข้อกังวลใดใดอีก ถ้ายังมีข้อกังวลใดใด แปลว่าไม่เข้าใจอย่างแท้จริง มัวพายเรือในอ่างอยู่วนไปวนมา
ยังกลัวตายอยู่ แปลว่า มีความอยากที่จะอยู่ ,มีความอยากที่จะอยู่ แปลว่ากลัวความตาย ,คงจะกลัวว่า ตายไปแล้วไม่รู้ไปไหนเลยกลัว ,ซึ่งมันคือการกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ย

ถ้ายุติ ความกลัวตาย และความอยากอยู่ ลงได้แล้ว
ทุกอย่างก็จะโอเคหมดเลย เวลาเจอเรื่องที่เขาว่ากันว่ายาก จะรู้สึกสนุกสนานไปเหมือนเล่นเกม เวลาเจอเรื่องง่ายๆ ก็จะได้อารมณ์ชิลชิลไป
ยากก็ได้ ง่ายก็ได้ กลางๆก็ได้ อะไรๆก็ได้หมด เพราะเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า ไม่ว่าจะยอมรับความยากหรือง่ายนั้นๆหรือไม่ เรื่องราวก็ต้องดำเนินไปอยู่ดีแหละค่ะ

ปล. คำว่า ธุรีดิน น่าจะสะกดด้วย ล.ลิงมั้งคะ  :oops: แต่ไม่ไรหรอกค่ะ สะกดด้วย ธุรี ร.เรือ ก็ออกเสียงแล้วก็ฟังเพราะหูดี แล้วทุกคนก็เข้าใจว่าที่พูดหมายถึง ธุลีดิน เหมือนกัน
... :wink: เห็นมะ ทุกอย่างมันไม่ยาก ถ้าเราคิดว่ามันง่ายค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

เอาไง...ดี

โพสต์ที่ 9

โพสต์

Supra เขียน:เหอ......เบื่อความวุ่นวาย สับสน ดิ้นรน การแก่งแย่งชิงดี  อยากรวย  สุดท้ายแล้วมีอะไร ก้อแค่ธุรีดิน
สุดท้ายก็แค่ธุลีดินจริงๆครับ

แต่ก่อนจะเป็นธุลีดิน นี่สิครับ
ผมว่าเราก็ควรจะทำให้มันเต็มที่ก่อนนะครับ
( พยายามทำในสิ่งที่มีความสุข และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
ไม่จำเป็นต้่องหาเงินทองสร้างความร่ำรวยแต่อย่างเดียว)

ผมว่าถ้ามัวแต่ไปคิดว่าสุดท้ายจะไม่เหลืออะไร
มันก็จะไม่เหลืออะไรตั้งแต่ตอนนี้แล้วละครับ

:wink:  :wink:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
โพสต์โพสต์