รักแห่งสยาม VS Ordinary People

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เพิ่งได้ดู รักแห่งสยาม ทางเคเบิ้ลเมื่อคืนนี้เอง เชยมากๆ :roll:
(แต่ไปดูโรงจริง เวลานั้นก็คงเจอเด็กๆเต็มไปหมด )
เป็นหนังฟอร์มเล็กๆที่น่ารักเรื่องหนึ่ง สะท้อนความว้าวุ่นของจิตใจวัยรุ่น
อันเนื่องมาจากความสับสนในทางเลือกชีวิตช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
กอปรกับแรงกดดันของครอบครัวที่ร้าวลึก

แม่ ผู้เคร่งเครียดเหน็ดเหนื่อยกับการบงการทุกอย่างในชีวิต
พ่อ ผู้ท้อแท้กับสำนึกผิดที่(คิดไปเองว่า)เป็นตัวการทำให้ลูกสาวคนโตหายไป
จึงใช้ชีวิตผ่านพ้นๆไปวันๆกับขวดเหล้ากับรูปลูกสาว
โต้ง ตัวเอกของเรื่อง ออกนอกบ้านหันเหไปคบกับ มิว
เพื่อนหนุ่มที่สนิทสนมมาตั้งแต่เด็ก
จนเกือบจะลงเอยด้วยความสัมพันธ์ลึกซึ้งระดับหนึ่งก่อนจะพลิกตัวกลับทัน
ขณะที่ มิว ก็ยอมรับเส้นทางเดินของตัวเองที่ไม่เหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป
และพร้อมจะเจ็บปวดกับทางเลือกนั้น

ใน Plot ใหญ่ก็มี  sub plot คือ เรื่องราวของ จูน
หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนแตง(อย่างประหลาด)ลูกสาวคนโตของครอบครัวนี้
จึงถูกนำมาเกี่ยวโยงเป็นตัวช่วยปลอบประโลมให้กับพ่อ
เพื่อหวังจะฟื้นฟูสุขภาพและจิตใจ
แต่ตัวช่วยก็เป็นเพียงแค่ตัวปลอม ไม่ใช่ตัวจริง
ในที่สุดทั้ง 3 ชีวิต ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันกับความจริง :roll:

นั่นคือ Plot คร่าวๆจากภาพยนตร์วัยรุ่นที่ไม่ตลกโปกฮา
และใช้พื้นที่สยามสแควร์มาเป็นชื่อเรื่อง
คงเอามาฉายซ้ำอีกหลายรอบ
ทราบว่าประสบความสำเร็จมากทางจอเงิน
ได้รางวัลภาพยนตร์ไปหลายเวทีและแจ้งเกิดดาราวัยรุ่นอีกหลายคน

กูรูดูจบปุ๊บ ตอนห้าทุ่ม ความรู้สึกที่แปล๊บขึ้นมาก็คือ
นึกถึงหนังฝรั่งอีกเรื่องทันที
นั่นก็คือ Ordinary People

รูปภาพ

จากฝีมือกำกับของ Robert Redford คุณปู่รูปหล่อในอดีต
(ปัจจุบันก็ยังคงความสง่างามตามอายุ)
สร้างเมื่อปี 1980 โอ้โฮ ห่างกันตั้งเกือบ 30 ปี
ไม่ได้ดูในโรงใหญ่ ไม่แน่ใจด้วยว่าเอาเข้ามาฉายหรือเปล่า
แต่ถ้าฉายจริงก็คงจะแค่อาทิตย์เดียว
เพราะเนื้อหนังไม่ถูกใจคอตลาดบ้านเราแน่ๆ :?

มีโอกาสดูทางวีดิโอภายหลัง  เลยประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้
แม้แต่ฉากเริ่มต้นก็ยังจำได้

เปิดฉากด้วยเสียงเพลง Canon ของ Pachelbel อันแสนอ่อนหวาน
เช้าวันอาทิตย์ของเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง Lake Forest, Illinois
ครอบครัวชาวเมืองชุมนุมกันที่โบสถ์ตามปกติ
กล้องแพนให้เห็นความสวยงาม มีระเบียบและน่าอยู่ของหมู่บ้านเล็กๆ
ที่เป็นถิ่นพำนักอาศัยครอบครัวมีฐานะทั้งหลาย
รวมทั้งครอบครัว Jarretts

ครอบครัวของ Jarretts ก็เหมือนกับครอบครัวอื่นๆ
มีสมาชิกพร้อมหน้า 3 คน คือ  พ่อ Calvin, แม่ Beth และลูกชายที่เหลือคือConrad
ส่วนลูกชายคนโตคือ  Buck อดีตนักกีฬาคนดังประจำโรงเรียน
ได้เสียชีวิตขณะออกไปแล่นเรือกับน้องชาย

ชีวิตของคนทั้ง 3 จากภายนอกก็ดูเหมือนปกติ
แต่ส่องเข้าไปภายในล้วนแต่เป็นแก้วที่มีรอยร้าว
รอเวลาสั่นสะเทือนก็แตกร่วงกราวได้เลย

เริ่มตั้งแต่ตัว Conrad ที่โทษตัวเองตลอดว่าเป็นสาเหตุให้พี่ตาย
ถ้าไม่คะยั้นคะยอให้พี่ชายไปล่องเรือที่ทะเลสาบด้วยกันในวันเกิดเหตุ
Conrad จมอยู่กับความทุกข์ระทมหลอกหลอน
จนพยายามจะฆ่าตัวตายตามไปด้วยเพื่อลบล้างความผิด
ดีที่ผู้เป็นพ่อได้ช่วยทันและส่งเข้าโปรแกรมบำบัดจิตใจคลายกังวลเป็นระยะๆ
แต่ก็ไม่วายเกิดอารมณ์ปะทุขึ้นมาอีก เมื่อเจอสถานการณ์และตัวเร่งโ
ดยเฉพาะจาก Beth ผู้เป็นแม่

Beth แม่ผู้ไม่เคยปล่อยวางจากการจากไปของลูกชายคนโต Buck
Hero ในใจของเธอมาตลอดแม้กระทั่งวินาทีนี้
ถึงไม่พูดกล่าวหาโดยตรง แต่ใจลึกๆก็อดโทษ Conrad ไม่ได้ว่า
เป็นต้นเหตุการตายของพี่ชาย
เธอยังเก็บห้องและสมบัติเดิมของ Buck ไว้รำลึกถึงตลอดเวลา
ห้ามใครเข้ามาแตะต้องหรือยุ่มย่ามเข้ามาในห้องนั้น

Calvin พ่อคนเดียวที่พยายามประสานความสัมพันธ์ของคนที่ตนรัก
แต่ยิ่งประสานก็ยิ่งห่างเหิน  จนตัวเองรู้สึกเป็น Loser ของบ้าน

ทุกคนมีปัญหาไปหมด และพยายามหนีปัญหา :oops:

โชคดีที่ครอบครัวมีจิตแพทย์ที่เก่ง เข้าใจดีว่า
ปัญหาทั้งหมดเริ่มจากการไม่ยอมรับความจริง
ยิ่งหนีห่าง ก็ยิ่งถูกคุกคาม
ยิ่งปิดกลั้น ก็ยิ่งถูกดันปะทุ
ทำไมไม่บอกกันตรงๆว่ากำลังคิดอะไร

ฉากสุดท้าย คือ บทสนทนาลาจากของ Beth กับ Calvin หน้าระเบียงบ้าน
เมื่อผู้เป็นสามีเปรยขึ้น  เริ่มไม่แน่ใจว่า ใช่ Beth คนเดิมที่รู้จักมาตลอดหรือเปล่า
Beth หิ้วกระเป๋าเดินทางใส่รถแล้วขับออกไป
ขณะที่ Conrad เดินออกมาจากในบ้านถามว่า แม่ไปไหน
Calvin มองท้องฟ้าตอบกลับ คงหาคำตอบให้กับตัวเองสักพัก
แล้วพ่อ ลูกก็นั่งอยู่ตรงหน้าระเบียงบ้าน
กล้องซูมออกมา เห็นบ้านหลังอื่นๆในละแวกเดียวกัน
ก็ยังมีผู้คนดำเนินกิจวัตรตามปกติ

เป็นหนังที่เรียบง่าย แต่ในความเรียบง่ายนั้น
ได้เจาะรายละเอียดของชีวิตครอบครัวคนธรรมดาๆที่ไม่ใช่ Hero
อย่างหมดจด งดงามและสมจริง
ไม่มีเคลือบน้ำตาล  คำหวานปลอบประโลมใดๆ
ขณะเดียวกันก็ไม่ฟูมฟาย  ตีอกชกหัว ร่ำไห้เวทนา
นี่แหละคือชีวิต :wink:

ไม่แปลกใจที่หนังคว้ารางวัลทั้งออสการ์ประจำปีถึง 4 ตัว
และรางวัลจากเวทีอีกสารพัด
แม้แต่ในดินแดนปลาดิบ ในฐานะภาพยนตร์ต่างชาติยอดเยี่ยม

ไม่ทราบยังจะพอมี DVD หรือ Video หลงเหลือมั้ย
เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้วจะหลับตาลงอย่างไม่เสียใจ  :D

ปล.ทั้ง รักแห่งสยาม และ Ordinary People
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวชนชั้นกลาง
ซึ่งมีจารีตวิถีซับซ้อนมากกว่าเรื่องทำมาหากินและปากท้อง
เอ..คิดเล่นๆว่า ถ้าเรื่องนี้เกิดในชนชั้นล่างที่ปากกัดตีนถีบจะเป็นอย่างไรหว่า :roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Akajon
Verified User
โพสต์: 530
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เนื้อเรื่องคล้ายกันจริงๆ ชอบเนื้อเรื่อง และการดำเนินเรื่อง กำกับการแสดงก็ค่อนข้างดี

ช่วงหลังๆ มานี้ ส่วนใหญ่จะเลือกเช่าหนังของ GTH หรือไม่ก็หนังตลกไปเลย นอกนั้นไม่ค่อยได้ดู เพราะส่วนใหญ่เนื้อเรื่องดี แต่กำกับได้ไม่ค่อยถึงอารมณ์ หรือปล่อยบทเด่นๆ ให้ผ่านไปเร็วเกิน แต่เรื่องนี้ทำได้ดีไม่แพ้เรื่องอื่นๆ ได้ความรู้สึกร่วม ค่อยๆ เรียนรู้ตัวละครไปพร้อมๆ กัน

เดี๋ยวคงต้องหา Ordinary People มาดูบ้าง

พูดถึงปากกัดตีนถีบ อาทิตย์ก่อนไปเยี่ยมอาม่าที่เมืองกาญจน์ อายุเกือบ 90 แล้ว แกลุกไม่ไหว ปวดหลัง เพราะวันเสาร์ช่วย กู๋-กิ๋ม เด็กๆ แกะข้าวโพด 5 คน ช่วยกันแกะ ข้าวโพดอันเล็กๆ แกะไป 3-4 ชั่วโมง เก้าอี้ก็ไม่มีพนัก นั่งแกะนานๆ เลยทำให้ปวดหลัง

แกะเสร็จก็มีรถเข้ามารับถึงที่ แกะได้ทั้งหมดน่าจะ 4-5 กระสอบ น้ำหนักก็ประมาณ 11-12 โล รับเงินมาไม่ถึง 100 บาท เลยถามไปว่าเค้าให้โลละเท่าไหร่ น้องชายบอกโลละ 7 บาท

คนทำงานหลังแข็ง 5 คน ทำงาน 3-4 ชั่วโมง ได้เงินไม่ถึง 100 บาท

เรากินฟูจิมื้อนึงก็ 100 กว่าบาท แล้ว...

ถามไปว่าได้แค่นี้จะทำไปทำไม เค้าก็ว่างก็ดีกว่าอยู่ว่างๆ ปวดหลังนิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย

ขับรถไปทำงาน เหนื่อย รถติด เครียด ได้เงินเดือนหมื่น สองหมื่น น้อย

เทียบไม่ได้กับคนชนบทเลย

อยากให้ความเจริญมันไปถึงในทุกๆ ชุมชน ทุกคนอยู่ดีกินดี มีเงินพอจับจ่ายใช้สอย

จำได้เลาๆ ว่ามีคนโพสต์เกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง เชื่อมทุกภาคเข้าด้วยกัน น่าจะดีไม่น้อย
Mr. Boo
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1841
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 3

โพสต์

จำได้ว่า ช่วงนั้น หนังเมืองนอกไม่ยอมเข้ามาฉาย

ผมดู the ordinary people กับ on the golden pond ที่ อจ.สงวน แต่ลืมหมดแล้ว

จำได้แต่ว่า on the golden pond ตอนจบ สวยงามมาก เหมือนอยู่ในสวรรค์
Rabbit VS. Turtle
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ต้องไปหามาดูบ้างซะแล้ว  :D
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 5

โพสต์

Mr. Boo เขียน:จำได้ว่า ช่วงนั้น หนังเมืองนอกไม่ยอมเข้ามาฉาย

ผมดู the ordinary people กับ on the golden pond ที่ อจ.สงวน แต่ลืมหมดแล้ว

จำได้แต่ว่า on the golden pond ตอนจบ สวยงามมาก เหมือนอยู่ในสวรรค์
จำเรื่องไม่ได้เลยสำหรับ On Golden Pond :roll:
ต้องไปเปิดวิกี้ ค่อยรำลึกขึ้นมา
รู้เลาๆว่าเป็นเรื่องแรกที่ พ่อ-ลูกในชีวิตจริงคือ Henry และ Jane Fonda
มารับบทพ่อ-ลูก จ้าวปัญหาในหนัง
จำภาพลางเลือนของกระท่อมในป่าริมสระน้ำที่ใช้เป็นชื่อเรื่อง
สวยจริงๆแหละ

ช่วงนั้น มีหนังฝรั่งดีๆที่เข้ามา (และไม่ได้เข้า) อีกหลายเรื่อง
ด้วยปัญหาภาษีและการปกป้องหนังไทย
อย่างเรื่องนี้ ได้ดูหรือเปล่าครับ

รูปภาพ

หนังครอบครัวคู่สามีภรรยาที่แย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว
เรียบง่าย งดงาม ไม่มีเทคนิค เหาะ เหิร เดินอากาศใดๆ
เจ๋งที่บทและการแสดงของ พ่อ แม่ ลูก 3 คนล้วนๆ  :wink:
Mr. Boo
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1841
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ดูครับท่าน
สงครามแย่งลูก
หนังครอบครัวที่ดูแล้วซึ้งถึงความเป็นพ่อเป็นแม่คน.......
Rabbit VS. Turtle
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 7

โพสต์

อีกสักเรื่อง เก่ายิ่งกว่า

รูปภาพ

เป็นเรื่องราวของ Professor Harry ศาสตราจารย์วัยเกษียณจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ผู้เริ่มรู้สึกถึงว่างเปล่าของชีวิตบั้นปลาย ภายหลังภรรยาคู่ทุกข์ยากเสียชีวิต
เหลือเพียง Tonto แมวตัวโปรด (อายุยืนกว่าภรรยาเสียอีก อิอิ)
คอยเคล้าเคลียไม่ห่าง

เมื่อบ้านเก่าที่อยู่ต้องถูกรื้อถอนเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทันสมัย
Harry จึงเสมือนคนไร้บ้าน เลยออกเดินทางพร้อมกับ Tonto ท่องทั่วประเทศ
ซึ่งตัวเองไม่เคยมีโอกาสเยี่ยงนี้มาก่อน (เพราะทำแต่งานลูกเดียว)
ไปเยี่ยมลูกชายขี้ใจอ่อนก็พบปัญหาในครอบครัวของคนรุ่นใหม่
ที่เพ่งผ่านการหย่าร้างและหนี้สิน
ไปเยี่ยมลูกสาวหัวแข็ง แม้จะจัดการกับชีวิตในครอบครัวได้ลงตัว
แต่ก็ยังไม่พร้อมจะรับภาระให้พ่อมาอยู่ด้วย

ท้ายสุด Harry เลยตัดสินใจอยู่คนเดียวกับแมวผู้ทุกข์ยาก
จนวันหนึ่ง Tonto ได้ลาจาก  :oops:

Harry กำลังจะตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตทีเหลือดี
เช้าวันหนึ่ง ขณะเดินย่ำทรายที่ชายหาด ดวงตะวันแรกเพิ่งพ้นจากผืนน้ำ
เด็กเล็กๆกำลังใช้ช้อนตักทรายสนุกสนาน
คุณปู่ Harry เดินเข้าไปคุยทักทายและเล่นทรายกับเด็กๆ

ณ วินาทีที่เขาสัมผัสเม็ดทราย
พร้อมคำอธิบายของที่มาของทรายแต่ละเม็ดให้เด็กๆฟังจ้องตาเป๋ง
Professor Harry ก็ตระหนักว่า สิ่งที่ตนเดินทางท่องประเทศมองหามาตลอด
ได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้านี้แล้ว

แล้วศาสตราจารย์วัยเกษียนก็กลับไปเป็นครูสอนเด็กๆอีกครั้ง :wink:

หนังรางวัลออสการ์อีกเรื่องที่ขับเหลี่ยมชีวิตของคนแก่ให้แจ่มจรัส
Mr. Boo
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1841
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อันนี้แบ๊ะ แบ๊ะ ครับ

แต่เนื้อเรื่องทำนองนี้ผมชอบ

คล้ายๆ To Sir With Love เกี่ยวกะนักเรียน

ผมดูทั้งหมดสิริรวมน่าจา ๖-๗เที่ยว
Rabbit VS. Turtle
ภาพประจำตัวสมาชิก
Akajon
Verified User
โพสต์: 530
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 9

โพสต์

หนังน่าดูหลายเรื่องเลย  :D

จริงๆ ก็อยากแชร์หนังที่ชอบหลายเรื่องเหมือนกัน แต่จำชื่อเรื่องไม่ค่อยได้ ความจำไม่ค่อยดี ไว้เดี๋ยวหาใน imdb.com แล้วมาโพสต์อีกที
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอแนะนำเรื่องนึงครับ

ถึงแม้จะไม่เก่าเท่าไหร่ ไม่ได้รางวัลอะไร แต่พอดูแล้วก็ให้ความรู้สึกดีไม่แพ้กันเลย

รูปภาพ

Is it possible for one idea to change the world?

เป็นเรื่องราวของเด็กคนนึงที่พยายามส่งต่อความปรารถนาดี ขยายออกไปเป็นเครือข่าย แนวคิดที่ดูง่ายๆแต่ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่น สามารถทำให้ครอบครัวและสังคมรอบข้างเปลี่ยนไปได้ขนาดไหน.. ต้องหามาชมกัน  :wink:

รูปภาพ
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมก็อยากดู รักแห่งสยาม นะ ดันเจอคนข้างๆตัวบ่นว่า
"เป็นเกย์หรือเปล่าอยากดูหนังแบบนี้ สารภาพมาซะดีๆนะ"
ฮ่วย ไหงมาสงสัยกันได้หว่า???
สุดท้ายเลยไม่ได้ดูซะที T-T
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 12

โพสต์

แว่บไปห้องเฉลิมไทย กระทู้หนังเรื่อง รักแห่งสยาม
แทบจะทำให้ห้องระเบิด ฮิฮิ :roll:
สงสัยจะเป็นตรงข้ามกับรัก  ฮิฮิ

Pay It Forward หรือในบทสรุปของกูรูเรียกว่า
ทำดีได้สไตล์ MLM เหมือนรูปที่น้องสามจุดเอามาเสริมเลย
แต่เจ้าหนู Haley นี่เล่นหนังกี่เรื่องๆ
รู้สึกชีวิตจะรันทดไปเสียทุกเรื่อง
ตั้งแต่เป็นคนที่เห็นผีใน The Sixth Sense มาล่ะ
เล่นเป็นหุ่นยนต์ใน AI
ใน Pay It Forward ก็ไปสวรรค์

ไม่รู้เมื่อไรจะมีหนังเล่นที่สดใสๆกับเขาบ้าง
อย่างเจ้าหนูคนนี้ :lol:

รูปภาพ
njTAO
Verified User
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

รักแห่งสยาม VS Ordinary People

โพสต์ที่ 13

โพสต์

อาจารย์เขียนได้ดีจังครับ (เจ้าของหนังคงชอบสไตล์นี้)
ถ้าเป็นผมเล่า เจ้าของหนังคงเครียด เพราะคงจะเสียลูกค้า (ก็ปอกเปลือกเค้าซะหมด)


แฮ่ๆ ไว้่ถ้ามีโอกาสลมเย็นสบายๆ จะขออนุญาตลองดูบ้างนะครับ
ห้องสมุดจิ๋ว http://nano-lib.micro-mba.org
โพสต์โพสต์