แนะนำ web ไว้ download พระไตรปิฎก ครับ

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 1:27 pm

แนะนำ

web ไว้ download พระไตรปิฎก ครับ

http://www.learntripitaka.com/Download.html

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 4:47 pm

ขอบคุณครับ :D

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 9:56 pm

พี่เหลียงสรุปๆแบบเรื่องเล่าให้ฟังมั่งได้ไหมอ่ะ
ว่าพระไตรปิฎกนี่ว่าด้วยอะไร
มีที่มาที่ไปอย่างไร
ตอบคำถามอะไรในชีวิตได้บ้าง
อะไรอย่างนี้
ดีครับมาสนทนาธรรมกัน
หรือจะให้ไปอ่านบทไหนมาแล้วมาถกกันอะไรอย่างนี้ก็ดีนะ

ผมเริ่มก่อนดีไหม
พระอาจารย์แม็คสอนผมว่า
พี่ไม่ต้องทำไรมาก ทำบุญเยอะๆ
เดี๋ยวก็เลือกหุ้นถูกตัวไปเองแหละ
พี่เหลียงคิดว่าประโยคนี้ผมควรเชื่อแกไหมครับ
ถ้าเชื่อเพราะอะไร ไม่เชื่อเพราะอะไร
หรือควรเฉยๆปล่อยให้แกว่าของแกไป
เราจะเชื่ออะไรก็เรื่องของเราไป

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 10:02 pm

พระไตรปิฎกมีแต่เรื่องสนุกๆ ครับ ผมอ่านแล้วติดใจวางไม่ลง

แต่รู้สึกว่าผมจะไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ เพราะยังเป็นคน XXX เหมือนเดิม

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 10:12 pm

ผมชอบอ่านหนังสือที่รวมรวมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ครับ
สนุกและได้สาระมาก
ผมเลื่อมใสแนววิปัสสนาของท่าน
พระไตรปิฎกสำหรับผม คงยากไปหน่อย
ผมเอาไว้ใช้อ้างอิง เวลาค้นคว้าแล้วไม่แน่ใจมากกว่า
ถ้าพี่ริวหรือพี่เหลียง หาpointที่ดีๆน่าสนใจได้บอกกันมั่งสิครับ

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 10:47 pm

ขออภัยครับ พี่ พอใจ

ตัวผม แทบจะยังไม่ได้อ่าน พระไตรปิฎกเลย ครับ

แต่ได้เห็นว่า web นี้ โหลด อ่านได้ สะดวก และ ฟรี

เลยมาแนะ ไว้ เผื่อมีใครอยากอ่านครับ

ส่วนเรื่อง สนทนาธรรม ผมคงไม่สามารถหรอกครับ

ผมเป็นพวกยังไม่เห็น ธรรมมะ เท่าไหร่ครับ

ผมเป็นพวก เห็นแต่ ธรรมชาติ (สิ่งธรรมดาที่ผมได้พบเห็นตั้งแต่เกิดมา) ครับ

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 10:55 pm

เวลาผมไปวัดเห็นเขาใส่พระไตรปิฎกไว้ในตู้กระจก สวยงาม

พฤหัสฯ. ก.ย. 11, 2008 11:20 pm

ที่พี่พอใจเขียนว่า

ในความเข้าใจของผมเอง
ธรรมกับธรรมชาติ ไม่ต่างกันหรอกครับพี่เหลียง

งั้นก็แปลว่า

บางคน อยู่กับ ธรรมะ แต่มองไม่เห็นธรรมชาติ

บางคน อยู่กับ ธรรมชาติ แต่มองไม่เห็นธรรมมะ

งั้น จะเห็น ธรรมมะ ก็ ต้องเข้าใจธรรมชาติ สิครับ

อืม น่าคิด ๆ 555

ศุกร์ ก.ย. 12, 2008 8:52 am

ผมเล่นคำไปอย่างนั้นเองครับ
เดี๋ยวคุยไม่รู้เรื่องกันเข้าไปใหญ่

เราคุยกันเรื่องพระไตรปิฎกอยู่
ผมอ่านบ้างแต่ไม่รู้เคล็ดลับหรือความหมายที่แท้จริง
คิดว่าพี่เหลียงอ่านอยู่
ปรากฏว่าพี่เหลียงก็ไม่ได้อ่านเหมือนกัน
มีแต่พี่ริวที่ชอบอ่าน
อย่างนี้ต้องรอพี่ริวมาวิสัชนาละครับ

ศุกร์ ก.ย. 12, 2008 9:32 am

ผมนำเวบปฏิบัติวิปัสสนามาฝากพี่ๆน้องๆด้วย

http://www.thai.dhamma.org/

พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2008 2:25 am

[quote="พี่พอใจ"]

เวลาผมไปวัดเห็นเขาใส่พระไตรปิฎกไว้ในตู้กระจก สวยงาม

พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2008 10:16 am

ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

ความไ่ม่มีลาภเป็นโรคอันประเสริฐ

เช่นกัน

พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2008 10:40 am

อ่านแล้วสนุกดีนะครับ

ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 9:58 pm

ดีเลยครับ ขอบคุณครับ
ถ้าเป็นไปได้จะลองอ่านคู่กับ Bible ดู น่าจะมันส์ครับ

เสาร์ ก.ย. 20, 2008 5:21 pm

ขอบคุณครับ
ลองโหลดมาดูแล้วครับ
มีใครพอทราบไหมครับว่า
ถ้าอยากอ่านเรื่องอานาปานสติ
นี่อ่านตรงบทไหนครับ

เสาร์ ก.ย. 20, 2008 5:24 pm

อ้อ มีเว็บมาฝากครับ
http://www.buddhadasa.com
จริง ๆ ผมก็เพิ่งมาสนใจเรื่องนี้นี่แหละครับ

เสาร์ ก.ย. 20, 2008 5:38 pm

Cool พี่เหลียงสรุปๆแบบเรื่องเล่าให้ฟังมั่งได้ไหมอ่ะ
ว่าพระไตรปิฎกนี่ว่าด้วยอะไร
มีที่มาที่ไปอย่างไร
ตอบคำถามอะไรในชีวิตได้บ้าง
อะไรอย่างนี้
ดีครับมาสนทนาธรรมกัน
หรือจะให้ไปอ่านบทไหนมาแล้วมาถกกันอะไรอย่างนี้ก็ดีนะ

ผมเริ่มก่อนดีไหม
พระอาจารย์แม็คสอนผมว่า
พี่ไม่ต้องทำไรมาก ทำบุญเยอะๆ
เดี๋ยวก็เลือกหุ้นถูกตัวไปเองแหละ
พี่เหลียงคิดว่าประโยคนี้ผมควรเชื่อแกไหมครับ
ถ้าเชื่อเพราะอะไร ไม่เชื่อเพราะอะไร
หรือควรเฉยๆปล่อยให้แกว่าของแกไป
เราจะเชื่ออะไรก็เรื่องของเราไป

คำถามพี่พอใจนี่ตอบประมาณนี้เปล่าครับ

หลักความเชื่อ ๑๐

หลักนี้มีที่มาใน กาลามสูตร และสูตรอื่นๆ ที่ตรัสไว้สำหรับให้ทุกคน มีความเชื่อ
ในเหตุผลของตนเอง ในเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นว่า สิ่งที่มีผู้นำมากล่าวหรือสั่งสอนนั้น
ตนควรจะเชื่อถือเพียงไรหรือไม่ มีผู้ไปทูลถามว่า เขาได้รับความลำบากใจ ในการ
ที่สมณะพราหมณ์พวกหนึ่ง ก็สอนไปอย่างหนึ่ง สมณะพราหมณ์พวกอื่นก็สอนไป
อย่างอื่น หลายพวกหลายอย่างด้วยกัน จนไม่รู้ว่า จะเชื่อใครดี ในที่สุด พระองค์
ตรัสหลักสำหรับ ทำความเชื่อแก่คนพวกนั้น มีใจความว่า

๑. มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
๒. มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
๓. มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก
๕. มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
๗. มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ
๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
๙. มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้
๑๐. มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา

อ่านแล้วสรุปว่า ผมจะเชื่อใครได้นา :shock:

เสาร์ ก.ย. 20, 2008 10:40 pm

555 ตอนแรก ผมก็สงสัยเหมือนกัน

แล้วอย่างนี้จะเชื่อใคร หรือ เชื่ออะไรล่ะ

ในเมื่อ มีอย่าเชื่อ 10 ข้อ แบบนี้

คำตอบ ที่ผม เดาได้ คือ

ไม่ต้องเชื่อ ทุกสิ่งทุกอย่าง

เมื่อไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องยึด

เมื่อไม่ต้องยึด ก็ไม่หลง งมงาย

เมื่อไม่หลงงมงาย ก็มีปัญญา

เมื่อมีปัญญา ก็มองทุกอย่าง ด้วยความเข้าใจ ไม่ต้องใช้ความเชื่อ

แต่เข้าใจ ความจริง (ความธรรมดา ความเป็นธรรมชาติ ของทุกๆสิ่ง)

และเมื่อเข้าใจความจริง ก็ มองเห็นความเป็นไป

เมื่อรู้ความเป็นมา เป็นไป ก็ เลือก สิ่งที่พ้นทุกข์ ให้ตัวเองได้

และถ้าตัวเราพ้นทุกข์ได้ บ้างแล้ว

เราก็หยิบยื่นสิ่งที่เรารู้ ให้ผู้อื่น ได้

และถ้าผู้อื่นบังเอิญ โชคดี สนใจ ศึกษา และเข้าใจ

ผู้อื่น ก็จะพ้นทุกข์ ได้ บ้างไปด้วย

*ความเห็นส่วนตัวนะครับ

อังคาร ก.ย. 23, 2008 5:00 am

Yod เขียน:ขอบคุณครับ
ลองโหลดมาดูแล้วครับ
มีใครพอทราบไหมครับว่า
ถ้าอยากอ่านเรื่องอานาปานสติ
นี่อ่านตรงบทไหนครับ

ในพระไตรปิฎกอาจจะไม่ละเอียดมากนักนะครับ ลองอ่านในวิสุทธิมรรคดูมั้ยครับ (แถวเปรียญ 8) :8)

อังคาร ก.ย. 23, 2008 5:03 pm

เมื่อไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องยึด

เมื่อไม่ต้องยึด ก็ไม่หลง งมงาย

อืม เป็นมุมที่ผมไม่เคยมองมาก่อนเลยครับ
ประมาณว่าถ้าเราเชื่อ ก็จะยึดติด
เป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่สามารถรับความรู้ใหม่
ซึ่งเป็นความจริงเป็นปัญญาได้ ใช่ไหมครับ

อังคาร ก.ย. 23, 2008 5:04 pm

ในพระไตรปิฎกอาจจะไม่ละเอียดมากนักนะครับ ลองอ่านในวิสุทธิมรรคดูมั้ยครับ (แถวเปรียญ 8)

ขอบคุณครับ พี่ริว
จะลองไปหาอ่านดู
ตอนแรกผมนึกว่า เปรียญนี่คือ การเรียนพระไตรปิฏกแบบ
แบ่งเป็นส่วน ๆ ซะอีกนะครับ
พึ่งรู้ว่าไม่เหมือนกัน