วิตามิน อาหารเสริม จำเป็นไหม?

[หมีบึงกุ่ม]

วันก่อนมีคนให้ Centrum (A-Zn) มา  ด้วยความที่ไม่เคยกินวิตามิน หรืออาหารเสริมใดๆ  (ปกติผมว่าผมกินอาหารมากเกินนะ) และเหมือนเคยได้ยินว่าบริโภคผิดก็มีข้อเสีย  เลยไปคุยกับเพื่อนๆ อีก 4 คนที่ได้รับแจกด้วยว่าจะกินไหม กลายเป็นว่าเราแปลกอยู่คนเดียวที่ไม่เคยทานอาหารเสริมพวกนี้

"อย่างน้อยก็ต้อง B รวม" เพื่อนคนหนึ่งแนะนำ  ส่วนอีกคนสำทับว่า "วันๆ หนึ่งจะไปกินอาหารครบหมดได้อย่างไรถ้าไม่เสริม"

เลยอยากถามผู้รู้ครับ (หากมี reference ด้วยจะดีมากจะได้เอาไปยันต่อ  :lol: ) ว่า

1. เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยุคนี้แล้วหรือไม่ อย่างไร?  หรือเป็นเพียงการโฆษณา แฟชั่น หรือกลวิธีทางธุรกิจ?

2. กินแล้วแตกต่างจากเดิมอย่างรู้สึกได้เลยหรือไม่?  เช่น กระปรี้กระเปร่า มีพลังในการทำงาน ไม่เหนื่อยง่าย

3. คนชนชั้นกลางที่บริโภคอาหารจานเดียว (ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่งต่างๆ) 3 มื้อ และอาจจะพยายามเติมผลไม้ถุงบ้าง จะได้สารอาหารไม่ครบ สุขภาพไม่ดีเท่า คนที่คอยเติมอาหารให้ครบหรือ?

4. การเติมอาหารเสริมให้แก่ร่างกายจนครบสำคัญกว่าการออกกำลังกายไหม?

รบกวนช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ  ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับสำหรับทุกความเห็น

[mprandy]

ตอบรวบยอด 4 ข้อครับว่า คนปกติที่สุขภาพแข็งแรงดี การรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินเสริม ไม่มีความแตกต่างกับคนที่ไม่ได้กิน (ไม่ดีขึ้น และไม่แย่ลง)

Huang HY, Caballero B, Chang S, Alberg AJ, Semba RD, Schneyer CR, Wilson RF, Cheng TY, Vassy J, Prokopowicz G, Barnes GJ 2nd, Bass EB.The efficacy and safety of multivitamin and mineral supplement use to prevent cancer and chronic disease in adults: a systematic review for a National Institutes of Health state-of-the-science conference. Ann Intern Med. 2006 Sep 5;145(5):372-85

ดังนั้น ใครจะกินหรือไม่กิน ขึ้นกับเหตุผลของแต่ละคนครับ (กินก็ดี ไม่กินก็ได้) แต่ถ้าจะเอาหลักฐานมายืนยัน ก็ตามข้อมูลข้างต้น

[Jeng]

ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้ครับ เรื่องแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่า จะเป็น gray zone ได้ แปลกดีนะโลกมนุษย์

อิอิ

อาจารย์ prandy ช่วยแปล บทความดังกล่าวด้วย อยากรู้เหมือนกันนะครับ

เป็นวิทยาทานครับ

ส่วนตัวผม นี่เป็นพวกบ้าอาหารเสริม เพราะเจอเคสเยอะมาก มากเกินกว่าจะมาพูดตรงนี้ครับ

[หมีบึงกุ่ม]

ขอบคุณคุณ mprandy และคุณ Jeng ครับ

คุณ Jeng พูดเหมือนกลุ่มเพื่อนผมเลย  :lol: ไม่ทราบว่ารบกวน แลกเปลี่ยนสักเคสได้มั้ยครับ เอาที่เด่นๆ ก็ได้ครับ เผื่อว่าจะเปลี่ยนไปเสริมอาหารและวิตามินให้กับตัวเองบ้าง...อย่างพอเพียง

Ann Intern Med. นี่เป็นวารสารบนฐานข้อมูลไหนครับ ISI หรือเปล่า หาได้จาก Sciencedirect ไหมครับ?

[Jeng]

โอเค ตัดประเด็นเรื่องผลประโยชน์ ออกไปก่อนนะ

เช่น มีหมอคนนึง เป็นเพื่อนเตรียมอุดม แกไปเรียนศิริราช เป็นหมอผ่าตัด และ แกเป็นโรคกระเพาะมานาน จั้งแต่จบ แกเอนทรานปี 2526

วันหนึ่ง แกมาเจอพี่ แล้วบอกว่า จำแกได้ปะ เคยเล่นบาสด้วยกัน ผมจำไม่ได้ แกบอกว่า แกชื่อนันทิส และ เป็นหมอจบศิริราช เหรอ โอเค แกบอกว่า แกไม่อยากเชื่อเลย แกเป็นโรคกระเพาะมานาน รักษาตัวเองมาตลอดระยะเวลา 14 ปี ไม่หาย และเคยเข้าห้องผ่าตัด แล้วตัวเอง ปวดท้องกระทันหัน ล้มลง จนกระทั่งโดนหามเข้าห้อง icu

และแกก็มากินอาหารเสริมตัวนึง กินปั๊บ หายเลย

แกไม่อยากเชื่อ ผมก็ทำหน้าเฉยๆ เพราะชินซะแล้ว ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

แกก็เลยทำท่างงๆ แล้วเล่าต่อ ประมาณว่า เฮ้ย กรุเป็นหมอนะ กรูงงเลย

ผมก็เฉยๆอีก ว่า ก็เรื่องธรรมดา ไม่เห็นมีอะไร และยังมีอีกตั้งหลายโรคที่ผมเคยเจอ แล้วหายได้ จากอาหารเสริม เช่น ............ ก็พูดคุยกัน

อีกเคสนึง ตลกดี ขึ้นลิป มาด้วยกัน แกบอกว่า พี่เจ๋ง เมื่อเช้า ตาผม ข้างขวา เปิดไม่ได้ ขี้ตาตรึม พร้อม ยื่นหน้ามาเล็กน้อย พี่ก็ ก็ดู แล้วไง แกบอกว่า เมื่อเช้าตาเปิดไม่ได้ ก็เลยเอาอาหารเสริมตัวนึง หยอด เข้าไป ตอนนี้หายเลย นึกว่าจะมาไม่ได้แล้ว พี่บอกว่า เฮ้ย อันตรายนะ อย่าไปหยอด เรื่องของตา นี่อันตราย ต้องไปหาหมอ

เค๊าบอกวา ผมนี่แหละหมอ ผมจบศิริราช อืม งั้นแล้วไป

อีกท่านนึง เป็น ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงบาล bnh เจ้ากิ๊ก คนนี้ หัวล้านเป็นหย่อมๆ ที่กลางศรีษะ พอกินเข้าไป ผมขึ้นมาเต็มหัว เจ้ากิ๊ก ชอบยื่นหัวมาให้ดู แล้วบอกว่า อืม ผมมันขึ้นมาเต็มเลย ไม่รู้เพราะอะไร งงเหมือนกัน

ก็ว่ากันไปครับ จริงไม่จริงอย่างไร ก็ต้องค่อยๆว่ากันต่อไป เรือ่ง gray zone

[Jeng]

ผมเคยไปประชุมนานาชาติ ที่ รัฐยูท่า เมกา แล้วมีคนไทย ที่ทำงาน อยู่ที่เมกา ได้มีโอกาสมาซักถามว่า สินค้าดีอย่างไร ผมบอกว่า ก็มองไปรอบๆซิ มีแต่คนแก่ๆ และ หลายคนก็อายุพอประมาณ คนเหล่านี้ไม่ได้หลอกง่ายๆ ถ้าสินค้าไม่มีส่วนดีบ้าง ใครจะมา

ผมบอกว่า ลองถามฝรั่งคนไหนก็ได้ที่มา ว่าสินค้าดีอย่างไร คนไทยคนนั้น คงอยู่มานาน ก็เริ่ม speak eng กับ ผู้หญิงคนหนึงดู อายุไม่มาก ประมาณ 45

ถาม ญ คนนั้นก็ตอบ พอสมควร คนไทยคนนี้ก็เลยถามต่อว่า ถ้าดีอย่างนั้นจริง หมอๆ ไม่เข้ามาสนใจหรือ เธอตอบ ว่า ดิฉันเป็นหมอค่ะ ทำงานอยู่ จอนฮอบกิ้น คนไทยคนนั้นก็เลย เงียบหน่อย

พอและ ขี้เกียจเล่า ประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณาน

[หมีบึงกุ่ม]

โห...ที่เล่ามานี่อาหารเสริมคนละตัวกันหมดใช่ไหมครับ ถ้าเป็นตัวเดียวกันก็สุดยอดเลย ให้ประโยชน์หลากหลายจริง  :shock: และแต่ละเคสหมอๆ ยอมรับกันเองเลยนะครับ น่าเชื่อถือ ขอบคุณที่ช่วยแชร์ครับ

[ลูกอิสาน]

พี่เจ๋งอธิบายแบบวิทยาศาสตร์ได้ไหมครับ คือเคสที่พี่พูดมายังไม่รู้เลยว่าหายอย่างไร เกี่ยวข้องกับอาหารเสริมหรือเปล่า ที่หายอาจเป็นเพราะปัจจัยอื่นหรือไม่ ถ้าหายมีกลไกการทำงานอย่างไร  


ไม่ใช่อะไร ถ้าดีจริงผมจะซื้อให้ตัวเอง ญาติๆใช้ดูบ้าง คือผมเห็นบ่อยๆคนขายบอกว่าดี ผมถามว่าดีอย่างไร ทุกคนก็มักจะพูดเหมือนกันหมดว่า คนโน้นคนนี้ใช้แล้วหาย ใช้แล้วดี แต่ผมว่าคำอ้างพวกนี้มันเลื่อนลอยนะ และส่วนใหญ่เช่นกัน รักษาได้สารพัด แทบทุกโรค สินค้าพวกนี้ขายได้แน่สำหรับคนป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังหรือรักษาไม่ได้แล้ว พอมีความหวังนิดหน่อย เค้าก็ซื้อครับ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ ผมก็คงซื้อเช่นกัน แต่เห็นพี่เจ๋งเคยเรียนหมอมา เลยคิดว่าพี่น่าจะอธิบายแบบมีที่มาที่ไปได้บ้าง

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ไม่ใช่อะไร ถ้าดีจริงผมจะซื้อให้ตัวเอง ญาติๆใช้ดูบ้าง คือผมเห็นบ่อยๆคนขายบอกว่าดี ผมถามว่าดีอย่างไร ทุกคนก็มักจะพูดเหมือนกันหมดว่า คนโน้นคนนี้ใช้แล้วหาย ใช้แล้วดี แต่ผมว่าคำอ้างพวกนี้มันเลื่อนลอยนะ และส่วนใหญ่เช่นกัน รักษาได้สารพัด แทบทุกโรค สินค้าพวกนี้ขายได้แน่สำหรับคนป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังหรือรักษาไม่ได้แล้ว พอมีความหวังนิดหน่อย เค้าก็ซื้อครับ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ ผมก็คงซื้อเช่นกัน แต่เห็นพี่เจ๋งเคยเรียนหมอมา เลยคิดว่าพี่น่าจะอธิบายแบบมีที่มาที่ไปได้บ้าง 

อาหารเสริม เริ่มพัฒนาจาก
วิตามินเดี่ยวๆ เช่น วิตามินซี วิตามิน A
ต่อมาเป็นวิตามินรวม
ต่อมาเป็นวิตามินรวมบวกแร่ธาตุ
ต่อมาเป็นวิตามินรวมบวแร่ธาตุ บวสารอาหารจากพืช

สมัยก่อนนานมาก ชาวเรือแล่นเรือออกไป แล้ว กลาสี ตายกันหลายคน ตัวช้ำเลือด ต่อมามีการให้กินผลไม้บางอย่าง ระหว่างเดินเรือ การตายลดลง เป็นที่มาของการค้นพบ วิตามินซีครับ

การขาดวิตามินซีนานๆ จะเป็นโรคลักปิดลักเปิด หรือเลือดออกตามไรฟัน ซึ่งพวกเราอาจจะคิดว่า ไม่อันตราย แต่จริงๆร้ายแรงมาก เมื่อเลือดออกตามอวัยวะ ก็ถึงขนาดตายได้

เมกา ก็เลยมีการกำหนดค่าขั้นต่ำในการ กินวิตามินซี กินน้อยกว่านั้นอาจจะทำให้เกิดโรคได้ ที่เรียกว่า RDA

.....................................................

กลับมาเรื่องกลาสีเรือ ถามว่า ทุกคนทีเดินเรือไป ตายกันหมดหรือไม่ คำตอบ พี่เดาว่า ไม่ แล้วทำไมบางคนเป็น บางคนไม่เป็น ทั้งๆที่อาหารบนเรือก็เหมือนๆกัน คำตอบ พี่เดาว่า ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แล้วทำไม เมื่อกินวิตามินซี ในผลไม้แล้วดีขึ้น ไม่ตายแล้ว ก็เพราะ ว่า พวกเขาขาดวิตามินซี

แล้วสมัยโน้นเขารู้หรือไม่ ว่า มีการขาดวิตามินซี พี่เดาว่าเขาไม่รู้นะ แต่เขารู้กันว่า จะเดินทางไปไกลๆ ทางทะเล ให้พกผลไม้ไปกินด้วย จะได้ไม่ป่วย

......................................................

พี่บอกคุณลูกอิสานเลยว่า คำถามนั้น พี่ตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า บางคนก็กินแล้วดี บางคนก็กินแล้วไม่รู้สึกอะไร ทำไมเป็นแบบนั้น พีก็ไม่ทราบ

คงเหมือน บางคนกินข้าวจานเดียว อิ่ม ทำไมบางคนกินสองจานอิ่ม ร่างกายบางคนอาจจะขาดสารอาหารบางอย่าง เมื่อได้รับสารนั้นเข้าไปก็ดีขึ้น แต่อีกคนอาจจะขาดเยอะกว่านั้น หรือมีปัจจัย เยอะกว่า นั้น ทำให้ กินไปแล้วก็ไม่ดีขึ้น

...................................................

ไม่มีการวิจัย และบอกคุณลูกอิสานได้หน่อยนึงว่า คนที่เขาขายๆกัน นั้นเขาก็ต้องพูดแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเพราะนี่คือโลกมนุษย์

ยกตัวอย่าง เวลากองทัพเกณทหาร โฆษณา ในทีวี ก็จะบอกแต่เรื่องดีๆของการไปเป็นทหาร ไม่ได้บอกเรื่องที่ไม่ดี เช่น เป็นแล้ว ต้องสูญเสียอะไรบ้างครับ

มีอะไรก็ถามได้นะ เบอร์พี่มีแล้วนี่

ประสบการณ์ 10 ปี เล่าแล้วยาว

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

พี่เจ๋งอธิบายแบบวิทยาศาสตร์ได้ไหมครับ คือเคสที่พี่พูดมายังไม่รู้เลยว่าหายอย่างไร เกี่ยวข้องกับอาหารเสริมหรือเปล่า ที่หายอาจเป็นเพราะปัจจัยอื่นหรือไม่ ถ้าหายมีกลไกการทำงานอย่างไร  

เดี่ยวนี้มีการศึกษามากขึ้น ใน pubmed ซึ่งเป็นงานวิจัยทางการแพทย์ และได้นำอาหารเสริมบางตัว ไปวิจัย มีประปราย ถามแบบนี้กว้าง ตอบไม่ได้

ถ้าบอกว่าวิตามินเป็นอาหารเสริม ในโรงพยาบาลก็มีใช้ และคุณหมอทั้งหลายก็พอรู้ถึงประโยชน์ เช่น วิตามินซี วิตามิน a b e และอื่นๆ

แต่ ในแง่ของคำว่าอาหารเสริม ในมุมของชาวบ้าน น่าจะเป็นพวก วิตามินรวมบวกสารอาหารจากพืชบางตัว และมีความพยายาม ยกระดับ อาหารเสริม เป็น functional food

คือ เอามาทั้งดุ้นเลย เช่น น้ำเปลือมังคุด น้ำลูกยอ น้ำทับทิม น้ำเกากี้ น้ำเบอรี่ น้ำสมุนไพรหลายๆชนิด มีเยอะครับ

ที่นี้มาดูว่า หากเราหิวน้ำ เรากินน้ำ 1 หยด แล้วเราบอกว่า ไม่อิ่ม เราก็อาจจะไปตั้งคำถามว่า กินน้ำแล้วทำไมไม่อิ่ม คำตอบคือ เรากินไป 1 หยด

อาหารเสริม หลายยี่ห้อ เป็นประเภท mee-too product คือเห็นเขาทำอะไรขาย ก็เอามาเลียนแบบขาย แล้วขายในราคาถูก เช่น น้ำลูกยอ บูม คนไทยก็มีน้ำลูกยอ เขาขาย 1500 เราขาย 50 บาท

ซึ่งกรรมวิธีในการผลิตไม่เหมือนกัน เป็นต้น

พอคนไปกิน ก็บอกว่า กินแล้วไม่เห็นผล ถามกินอะไร กินน้ำลูกยอ ถามว่าลูกยออะไร ตอบว่า ไม่รู้ ก็ลูกยอแหละ

ต่อเรื่องกลไก พี่ว่า ปัจจุบันมีการอธิบายทางวิทยาศาสตร์มากขึน แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับ เท่าที่ควร เนื่องจาก ใครจะไปวิจัยมากๆหละ เพราะ วิจัยไป ตัวบริษํทไม่ได้ประโยชน์ อาจจะเสียประโยชน์ด้วยซ้ำ

เช่น มาวิจัยว่า กินส้ม วันละผล ดีอย่างไร ก็วิจัยไปซิ แล้วสุดท้าย ใครได้ประโยชน์ เรื่องแบบนี้ รัฐบาลต้องวิจัย ไม่ใช่เอกชน ซึ่งจะหวังให้รัฐบาลมาวิจัย คงยาก

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ไม่ใช่อะไร ถ้าดีจริงผมจะซื้อให้ตัวเอง ญาติๆใช้ดูบ้าง คือผมเห็นบ่อยๆคนขายบอกว่าดี ผมถามว่าดีอย่างไร ทุกคนก็มักจะพูดเหมือนกันหมดว่า คนโน้นคนนี้ใช้แล้วหาย ใช้แล้วดี แต่ผมว่าคำอ้างพวกนี้มันเลื่อนลอยนะ และส่วนใหญ่เช่นกัน รักษาได้สารพัด แทบทุกโรค สินค้าพวกนี้ขายได้แน่สำหรับคนป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังหรือรักษาไม่ได้แล้ว พอมีความหวังนิดหน่อย เค้าก็ซื้อครับ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ ผมก็คงซื้อเช่นกัน แต่เห็นพี่เจ๋งเคยเรียนหมอมา เลยคิดว่าพี่น่าจะอธิบายแบบมีที่มาที่ไปได้บ้าง 

ขอตอบอีกครั้งว่า คนขายบอกว่าดีนั้น บางคนเขาก็พูดความจริงตามที่เขารู้เห็นมานะครับ แต่ว่า หลักการคือ ร่างกายของตัวเราเองรักษาตัวเองได้ เราเลยไม่ป่วย แล้วร่างกายเราจะรักษาตัวเองได้อย่างไรหากเราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ตรงนี้ครับ ที่ทำให้ อาหารเสริมบูมในกลุ่มคนบางกลุ่ม

ซึ่งหากคุณลูกอิสานบอกว่า มีแต่คนสิ้นหวังที่ซื้อไปกิน พี่ว่า ผิดแล้วครับ คนส่วนใหญ่ที่พี่เจอนั้น ไม่ใช่คนป่วยสิ้นหวัง และเป็นพวกที่มีความรู้มากๆด้วย ล่าสุด เจอพี่คนนึง แกเป็นเจ้าของโรงเรียน fun english แกเป็นเจ้าของเฟรนไชน์ รุ่นพี่คนนี้จบอักษรจุฬา เนื่องจากชื่นชอบอาหารเสริมกันทั้งคู่ และมีประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกัน ก็เลยคุยกันสนุก คือพี่เค๊าบอกว่า บ้านเค๊าไม่มีตู้ยาแล้ว พี่เองก็บอกว่า บ้านผมก็ไม่มีตู้ยาเหมือนกัน อิอิ

อย่างไรก็ตาม หากป่วย ก็ไปหาหมอนะ ไม่ได้ใช้อาหารเสริมมาแทนยา

เพียงแต่ว่า พักหลังนี้ ไม่ได้เป็นหวัดมานานมาก ลืม พารา ไปเลย

พอก่อน ยาว

[Jeng]

สรุปตรงนี้ก่อน คุณลูกอิสาน คิดง่ายๆ ว่า ร่างกายของคนเรา แบ่งตัวทุกวัน ในการแบ่งตัว เพื่อสร้างเซลใหม่ เราต้องได้รับสารอาหารที่ครบ เพื่อให้เกิดการแบ่งเซลที่สมบูรณ์แบบ

หากร่างกายเราขาดสารอาหาร เราก็ต้องป่วย

คุณลูกอิสานแน่ใจได้อย่างไร ว่า เรากินอาหารครบ 5 หมู่พอแล้ว

พวกเรากินอาหารครบ 5 หมู่ จริงหรือ

และแต่ละหมู่ที่เรากินนั้น เจอปน ด้วยสารพิษ ฮอโมน สารปนเปื้อน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่ง เป็นอาหาร 5 หมู่ ที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว ด้วยกระบวนการ ที่เน้นการผลิตมากๆ เร็วๆเพื่อลดต้นทุน

เมื่อร่างกายเริ่มทำงานผิดปกติ ที่ไม่ได้เกิดจากเชื่อโรค เราไปหาหมอ เราก็ได้กินยา ที่กินปั๊บ ก็ได้ผลทันที และเราก็เริ่มติดใจ เป็นอะไรก็ไปหาหมอ การกินยานานๆ ก็ไปทำลายตับ ทำลายไต พี่เคยอ่านนะ สาเหตุการตายอันดับ 4 ที่เมกา คือ การใช้ยาเกินขนาด แต่จำเป็นต้องใช้ เพราะไม่มีทางเลือก

[Jeng]

ต่ออีกนิด ปัจจุบัน พี่เลิกใช้อาหารเสริม มาช่วยรักษาแล้ว คือพี่เบ่อที่จะอธิบาย และหมอหลายๆคนก็เบื่อ เนื่องจาก ว่า เราไม่รู้จริง ว่า มันดีอย่างไร เราได้แต่สังเกตุว่า คนนั้นคนโน้น คนนี้ คนรอบๆตัวเรา กินแล้วดี ก็เลยมาเล่าให้ฟัง เท่านั้นเอง

ก็ มีผลวิจัย ว่าคนอีก 93 % ไม่เคยใช้อาหารเสริม มีแค่ 7 % เท่านั้นที่เกียวข้องกับอาหารเสริม

ก็คงเป็นเพราะคิดอย่างคุณลูกอิสาน ว่า มันไม่น่าจะดีจริง แต่ถ้าดีก็จะใช้ เนื่องจากคุณลูกอิสานยังติดอยู่ กับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ในเมื่อทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้พิสูจน์ แล้วมันจะดีจริงได้อย่างไร

ซึ่พี่ก็ได้อธิบายไปแล้ว ว่า ไม่มีใครทำ เพราะทำแล้วไม่ได้เงิน

ส่วนบริษัทยาก็เก่ง เริ่มเอาวิตามินบางตัว มาปรับให้อยู่ในรูปแบบที่เข้มข้น แล้วก็วิจัย แล้วก็ตั้งชื่อให้เป็นยา แบบนี้ครับ จ่ายให้เรา เราก็กินครับ

เพราะมีผลวิจัยและหมอสั่งจ่าย

........................................................................................

อย่างไรก็ตามมันก็มีผลข้างเคียง ซึ่ง เมื่อมีปัญหาขึ้นมามากๆ ยาบางตัวก็โดนถอนออกจากตลาดไป ทั้งๆที่ มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับนะครับ

[MindTrick]

ข้อความหมอ mrprandy ถูก แต่ขาดนิดนึงครับ**ประเด็นสำคัญ คือ ถ้ามั่นใจว่ารู้จักแยกแยะอาหาร รู้โภชนาการ กินได้ครบทุกหมู่ ทำได้จริง และ สม่ำเสมอ ..อาหารเสริมทำมาจากเทคโนโลยีดีแค่ไหน ไม่ต้องกินเลยครับ

**การใช้ชีวิตมนุษย์สมัยนี้ น้อยคนนักจะทำแบบที่ว่ามาข้างบนได้ จึงจะดีกว่าถ้าเราเลือกกินเฉพาะอันที่สมควรกิน และมีประโยชน์กับตัวเรา ครับ ดีกว่าเช้าชามเย็นชาม รอเป็นโรคแล้วต้องไปใช้ยาสังเคราะห์ จากสารเคมีนะครับ**

พนง.ขายอาหารเสริม"ส่วนมาก" มากจริงๆ... รู้เพียงผิวๆว่า อาหารที่ตนขาย ข้อดีแบบไหนพูดมาแล้วขายได้ ดีงั้นงี้ ญาติบอกว่างั้นงี้ ..ลดอ้วนไม่ต้องอด ลดไขมันหน้าท้องไม่ต้องออกกำลังกาย  ผลิตภัณฑ์เดียวรักษาทุกโรค
too good to be true ทั้งนั้น

พวกเขาไม่พิสูจน์ ด้วยตนเอง ว่าสิ่งที่เจ้านายบอกมาหรอกว่าจริงเท็จแค่ไหน คนที่พิสูจน์อย่างจริงจังน้อยมากๆ
ขายแล้วได้ % ถือว่าเสร็จกิจ

พอลองยิงคำถามไปครับ...
ส่วนผสมตัวไหนเป็น active intgrdient ,
แล้วกลไกมันทำหน้าที่ยังไง
กิน dose แค่ไหนถึงจะได้ผล
กินนานแค่ไหนได้ผล
กินนานไปจะเป็นไง มีข้อเสียไหม
side effect มีไร
ที่ว่ามาข้างบน bias หรือเปล่า

....ใบ้กินแทบทุกราย

ปล. อย่าเชื่อผมนะครับ ขอให้พิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง ...ดังเช่น หลัก กาลามสูตร ครับ

[Juninho]

ผมว่า ถ้าบ้านมีเงินซื้อกิน แบบสบาย ๆ
ก็กินไปเถอะ อย่างน้อย ก็เป็นการเติมวิตามิน
เกลือแร่ที่ขาดให้กับร่างกาย

เนื่องจากเราไม่มีทางได้รับวิตามินเกลือแร่
ที่ร่างกายต้องการได้ครบถ้วน จากชีวิตประจำวัน
(ยกเว้นมีหมอดูแลเรื่องอาหารให้)

เคยอ่านหนังสือของหนูดี เขาก็แนะนำให้กินนะครับ
หากบ้านมีเงิน

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

พอลองยิงคำถามไปครับ... 
ส่วนผสมตัวไหนเป็น active intgrdient , 
แล้วกลไกมันทำหน้าที่ยังไง 
กิน dose แค่ไหนถึงจะได้ผล 
กินนานแค่ไหนได้ผล 
กินนานไปจะเป็นไง มีข้อเสียไหม 
side effect มีไร 
ที่ว่ามาข้างบน bias หรือเปล่า 

....ใบ้กินแทบทุกราย 

555

ผมก็ใบ้ครับ คุณ MindTrick  

ตัวอย่างข้างบน มียกไว้ 1 ตัวอย่าง เช่นสมัยก่อน คนที่เดินทางไปทางเรือ นานๆ ก็ต้องพกผลไม้ไป แล้วจะป่วยน้อย สมัยโน้น ยังไม่เข้าใจว่าขาดอะไร ในผลไม้ แต่รู้อย่างเดียวว่าพกผลไม้บางชนิด คล้ายๆมะนาว ไป แล้วจะป่วยน้อย

ส่วนความรู้ตามมาทีหลังครับ

ส่วนคนที่คาดคั้นเอาคำตอบ จากคนไม่รู้ ก็ยังไม่ต้องใช้ครับ เพราะคนขาย เขาก็ไม่รู้จริงๆ

แต่เขารู้ผลการใช้ครับ

อย. ก็เลยเข้ามามีบทบาทตรงนี้ ว่า อาหารเสริมที่ขึ้นทะเบียนอย. ต้องไม่อันตราย

ถ้าในเมืองนอก ก็จะมีมาตรฐาน เช่น

1. ไม่มีสารกัมมันตรังสี
2. ไม่มีเชื้อโรคปนเปื้อน เช่น อีโคไล หรือ ซามอนเนลล่า
3. ไม่มีพยาธิ
4. ไม่มีโลหะหนัก เป็น ปรอท แคดเมียม
5. ไม่มีอะไรอีกหว่า จำไม่ได้

สรุปว่า อย. อย่าง fda ก็เลยเข้ามา ดูแลตรงที่ว่า อาหารเสริมเหล่านั้น กินได้ ไม่อันตราย แต่ไม่ได้รับประกันว่า ดีหรือไม่ดี และไม่ให้โฆษณาที่ข้างขวด อวดอ้างสรรพคุณ

หากคุณ Mindtrick ได้มีโอกาสพบเห็น ว่าอาหารเสริมบางตัว มีคุณภาพช่วยรักษาหลายโรค จากญาติพี่น้องคุณเอง คุณ Mindtrick ก็จะเป็นอีกคนนึง ที่ใบ้ครับ ว่า เฮ้ย แล้วมันดีไงนี่ ทำกินแล้ว โรคตั้งหลายอย่าง ของตั้งหลายคนดีขึ้น

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ข้อความหมอ mrprandy ถูก แต่ขาดนิดนึงครับ**ประเด็นสำคัญ คือ ถ้ามั่นใจว่ารู้จักแยกแยะอาหาร รู้โภชนาการ กินได้ครบทุกหมู่ ทำได้จริง และ สม่ำเสมอ ..อาหารเสริมทำมาจากเทคโนโลยีดีแค่ไหน ไม่ต้องกินเลยครับ 

เรื่องไม่กินอาหารเสริม ในกรณีกินครบ 5 หมู่ ผมไม่แน่ใจนะครับ ว่าปัจจุบัน เพียงพอหรือไม่

ยกตัวอย่าง มีเพื่อนสมาชิกในอดีต อยู่เกาะสีชัง มาถามผมว่า ที่เกาะสีชัง อากาศบริสุทธิ์ อาหารทะเลสดๆ และ ผักก็ปลูกกันเอง

ทำไม คนในเกาะเป็นเบาหวานกันเยอะมาก

ก็ว่ากันไปครับ คงเป็นกรรมพันธ์ อืม แต่กรรมพันธ์นี่ มันเป็นไงกันนี่

พ่อแม่เป็น ลูก ก็เลยมีโอกาสเป็น แล้วก็เป็นต่อๆกันไป

อะไรที่ไปเปิดการทำงานของยีน ก็เลยเริ่มมีการศึกษา

ว่า อาหารนี่แหละ ที่ไป ทำให้ ยีน ทำงานออกมาต่างกัน

ยกตัวอย่าง กินเหล้า ยีนเดียวกัน ส่งผลออกมาให้คนกินเหล้า เมาครับ

คนไม่กินเหล้า กินน้า ยีนก็ตัวเดียว กัน ในคนๆเดียวกัน แต่ ไม่เมาครับ

แสดงว่า ยีน ของคนๆเดียวกัน แต่เติม สารเข้าไปต่างกัน ออกผลมาต่างกัน

เรื่องนี้ มีการศึกษา ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว ชื่อคล้ายๆ อะไรที่ทำให้ยีน แสดงผลต่างกันครับ

นอกจากยีน บนเกาะสีชัง มีโอกาสเป็นเบาหวานกันเยอะ แล้วยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่ บนเกาะสีชัง ที่กระตุ้น ให้ยีน แสดงออก ในการเป็นเบาหวานกันเยอะ

ผมเอง เดานะ เดา ว่าไม่เกียงกับเกาะสีชัง จริงๆ แล้วคนทั่วโลกกำลังเป็นเบาหวานกันเยอะ

สถานการณ์น่ากลัวกว่าเอดอีก ( องค์การอนามัยโลกเตือนไว้ )

ผมเดาว่า เกิดจากการสร้างน้ำตาล ขึ้นมาให้คนกินครับ

การออกกำลังกายที่น้อย การนั่งทำงาน การกินน้ำตาลที่มากเกิน

ทำให้ร่างกาย ต้องหลั่ง อินซุลิน ออกมาอย่างรวดเร็ว และแล้ว น้ำตาลที่ไม่ใช่ แบบเดิม คือสมัยก่อนเรากินหัวเผือก หัวมัน เป็นขนม ตอนผมเด็กๆนะ ซึ่งการกิน ขนมแนวนั้น มันจะค่อยๆ ปล่อยน้ำตาล เข้ากระแสเลือด แต่ น้ำตาลสมัยนี้ วิ่งเข้ากระแสเลือด อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อินซุลิน ที่มีหน้าที่นำน้ำตาลออกไปใช้ ก็ ต้องออกมาอย่างรวดเร็ว

และในที่สุด น้ำตาลที่เข้าเร็วแต่มีปริมาณ น้อยลงอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ได้ค่อยๆปล่อยเข้าร่างกาย ทำให้ อินซุลิน ยังคงทำงานอยู่ และทำให้น้ำตาลตก

ลองสังเกตุ บางคน กินกาแฟ และตามมาด้าวย เหงือแตกพลักๆ อาการนี้เป็นอาการน้ำตก หรือไม่

ผมเดาต่อว่า อินซุลิน ก็เลยปรับตัวเอง ให้ออกเร็ว แต่ไม่ potent คือเป็นอินซุลิน ที่ลดความรุนแรงลง

เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นมาซักระยะหนึ่ง จนในที่สุด หลายๆคนเริ่มมีภาวะน้ำตาลสูงขึ้น แต่ยังไม่เป็นเบาหวาน

ผมเคยอ่านของ โรงพยาบาลเมโย บอกว่า 2 ใน 3 ของคนที่ภาวะน้ำตาลสูง ยังไม่ได้รับการตรวจ เพราะยังไม่แสดงอาการ เบาหวาน

เพราะฉะนั้น ที่บอกว่า กินครบ 5 หมู่นั้น ผมคิดว่า มันเปลี่ยนไปมาก
มันมีหมู่ น้ำตาล เพิ่มเข้ามา อันนี้ก็ ทำร้ายเซลมาก
มันมีหมู่ไม่ได้กินผลไม้เข้ามา
มันมีหมู่ ไม่ได้ออกกำลังกาย
มันมีหมู่ กินเหล้า กินเบียร์ เข้ามา
มันมีหมู่ กินสารพิษ ต่างๆเข้ามา
มันมีหมู่ ความเครียดเข้ามาอีก
มันมีหมู่ การนอนดึก ตื่นสายเข้ามา

เพราะฉะนั้น คำถามของผม การกินอาหารครบ 5 หมู่ ยังคงใช้ได้ผลในปัจจุบัน หรือไม่ ผมไม่ทราบ รู้แต่ว่า ใครคิดว่า น่าจะลองกิน ก็ลองกิน ใครคิดว่า ไม่น่าจะลองกิน ก็ไม่ควรที่จะลองกิน

หากจะลองกินอาหารเสริม ก็ควรจะมีวิธีเลือก เช่น มั่นใจได้ 100 % ว่าไม่อันตราย อย่าไปตามแห่ ว่าตัวนั้นดี ตัวนี้ดี เอาข้อนี้ก่อน คือไม่อันตราย

ต่อมา ลองดู ว่า ตัวเอง จำเป็น อะไรที่ต้องใช้อาหารเสริม เช่นอาจจะรู้สึก่อนเพลีย ก็ลองหาอาหารเสริม ที่ช่วยเรื่องนี่ มาลองกินดูว่าดีหรือไม่

เรื่องจะให้ใครมารับประกันนั้น เป็นเรื่อง ที่ เอามุมมองของยา มาใช้

ยาเอง คุณหมอทั้งหลายก็ไม่ได้รับประกันอะไร คุณหมอรู้แต่ว่า ใช้แล้ว ได้ผลประมาณ เท่าไร

และมี ไซเอฟเฟค แค่ไหน

ยาบางตัวได้ผล 20-25 % ก็ต้องใช้ เพราะไม่มีตัวอื่นให้ใช้

และเรื่องกลไก คุณหมอก็ตอบได้ว่า ดีเพราะอะไร เพราะมีผลวิจัยมา

แต่อาหารเสริมไม่ใช่แบบนั้น

[Jeng]

มีเหตุผลข้างๆคูๆ อย่างนึง คือ สังเกตุซิ สมัยนี้

การเลี้ยงกุ้ง ใส่ยาปฎิชีวนะ และในอาหารกุ้ง มีการใส่วิตามินเข้าไปด้วย

การเลี้ยงสัตว์ หลายชนิด เช่น หมู ไก่ ปลา ผมเดาว่าอาหารสัตว์เหล่านั้น ใสวิตามินเข้าไปด้วย

การปลูกต้นไม้ เราก็ใส่ปุ่ยนะ

แต่ ว่า ตัวมนุษย์เอง เรากลับไม่เติมสิ่งเหล่านี้เข้าไป เพราะเราคิดว่า มันไม่มีประโยชน์

จริงๆแล้ว กลุ่มคนที่ควรกินอาหารเสริมที่สุด คือคนที่ไม่ได้เป็นอะไร แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่ได้เป็นอะไรเลย เขาก็ไม่กินหรอก เรื่องอะไร มากินแพงก็แพง

ส่วนคนที่ตัดสินใจกินหลายๆคน ก็กินเพราะมีปัญหาอะไรบางอย่าง ตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนกระทั่ง รุนแรงก็มี

เป็นไปได้หรือไม่ ว่า หากคนที่ กินแล้วโรคต่างๆที่เห็น ดีขึ้น ทุเลาขึ้น หรือ บางคนก็หายเลย

เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ป่วยบางคนกินแล้วยังหาย คนปกติ กินแล้วเป็นการป้องกัน

..................................................

ปัจจุบัน ผมไม่ได้เน้นเกียวกับโรค ก็สบายไป แต่ไปจับอีกกลุ่มหนึ่ง คือกินแล้วสวย โอ้โห สนุกมากครับ

เพราะสาวๆ นี่แค่บอกว่า กินแล้วสวยใส ก็ ตัดสินใจกินทันที

ที่นี้ มาดูต่อเรื่องการกินซ้ำ หากสาวๆเหล่านั้น มีการซื้อซ้ำ ก็แสดงว่า เธอๆเหล่านนั้นพอใจ ใช่หรือไม่

ของแถมที่ได้ยินตามมา แต่ไม่ได้ไปคาดคั้นถาม คือ กินแล้ว แปลก ปวดประจำเดือน หายไป เป็นมา 10 แล้ว

อีกคนเป็นพยาบาลสมิติเวช ไม่เคยกินอาหารเสริม กินเน้นสวย ผิวเธอแตกๆ ตามตัว ต้องทาโลชั่น ก็กินเน้นความสวย กินแล้วผิวดี เอออย่างนี้แนะนำแล้วคนกินกันง่าย กินกันเยอะ

ล่าสุด พยาบาลบี่ สมิติเวช มาบอกว่า เออแปลก ภูมิแพ้ อย่างหนัก ที่เป็นที จะจามมาก และคันเหงือก คันตา หายไป ประมาณ 95 % เดี่ยวนี้ไม่ต้องกินยาแล้ว แต่บางครั้งก็ยังมีจามนิดๆ ถ้าไปเจอสิ่งกระตุ้น

เคสเยอะจริงๆ

[Jeng]

ล่าเกือบสุดๆ คุณพาที สารสิน สมัครเข้ามากินอาหารเสริมตัวหนึ่ง กำลังติดตามดูว่าจะกินซ้ำหรือไม่

คนระดับนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงิน ถ้าดีจริงก็กินต่อ ถ้าไม่ดีก็ไม่กิน

ต่อจากคุณพาที สารสิน ก็มีนายกสมาคมผู้ผลิตข้าวถุงแห่งประเทศไทย คุณสมฤก ตั้งพิรุฬธรรม ( kaset ) ใช้ชื่อภรรยาสมัครเข้ามา ทดลองกิน

ก็กำลังติดตามอยู่ว่า กินแล้วดีไม่ดีอย่างไร

[Jeng]

สรุป ที่พูดมาทั้งหมด คือ ในโลกนี้ มีคน 6000 ล้านคน และ มีการกินการใช้ อาหารเสริม ทั้งโลก ทั้งเมกา ยุโรป เอเชีย

คนที่กินอาหารเสริม ราคาแพงๆ มักจะมีเงิน และมีความรู้ ในการเลือกที่จะใช้หรือไม่ใช้สินค้า

ดูอย่างอิสราเอล อาหารเสริมตัวนึงก็บูมที่อิสราเอล ยิวนี่ ของไม่ดี คงไม่ใช้แน่ๆ

สำหรับผมแล้ว มุมมองเรื่องอาหารเสริม ให้ดูที่ลูกค้า หรือ สมาชิก ที่ใช้อย่างต่อเนื่อง แสดงว่าเขาพอใจในผลการใช้ และแต่ละคนมีประสบการณ์แตกต่างกัน ว่าอาหารเสริมตัวนั้นๆ ดีอย่างไร

ไม่ว่าจะแอมเวย์ เฮอร์บัลไลฟ์ นูสกิน ยูซาน่า โนนิ เอเจล และอีกเพรียบ ต่างก็มีลุกค้าซื้อซ้ำ

คนเหล่านั้น ที่ไม่ได้เกียวข้องกับการมีรายได้ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขาย

คือคนที่เป็นสมาชิก ใช้อย่างเดียว ไม่ได้ทำเรื่องการขาย หรือเครื่อข่าย กลับเป็นสัดส่วนที่สูงมาก น่าจะประมาณ 90 % ของสมาชิกบริษัทนั้นๆ เป็นสมาชิก ใช้อย่างเดียว

การบอกต่อของเหล่าสมาชิกใช้อย่างเดียว เขาก็บอกด้วยความหวังดี แต่ไม่ได้ศึกษาอะไรมากมาย ที่จะไปตอบอะไรให้คนส่วนใหญ่รับรู้ได้ว่า อาหารเสริมเหล่านั้นดี อย่างไร

เรื่องอาหารเสริม ยังคงเป็น gray zone ต่อไป นานแล้ว ผมเคยเห็นคนนึง นั่งฟังบรรยาย แล้วหน้าเบี้ยวบูด โมโห แล้วลุกขึ้น ด่า ว่า พวกคุณมาหลอกลวงประชาชน แบบนี้กรรมจะตามสนอง

อืม แล้วแกก็เดินออกไป ปัจจุบันนี้บริษัทนั้นๆ ก็ยังมียอดขาย 200 ล้านต่อปี

เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ ที่จะมีคนคิดว่าดี คิดว่าไม่ดี

ผมจำได้ มีคนนึงผมเคยไปเจอ แกใช้สินค้า นิคเคน คือเตียงแม่เหล็ก

สมัยก่อน มีการออกโฆษณา ว่า เตียงแม่เหล็กไม่ดีจริง และอย่าไปเชื่อพวกจิ้งจอกหลอกขาย

ได้ผลครับ เตียงแม่เหล็ก หายไปจากวงการ คือหายบูม แต่บริษัทยังอยู่นะ

ผมไปเจอคนนึง ผู้หญิง แกใช้สินค้าเตียงแม่เหล็ก และใช้สินค้าอื่นๆ มีหลายอย่าง แกเอามาให้ดู ว่าอันนี้ดีอย่างไร อันนั้นดีอย่างไร แกบอกว่า แกไม่ได้ทำธุรกิจนะ แค่เป็นผู้ใช้ ( ไม่รู้ว่าจะเชื่อได้หรือไม่ แต่เชื่อไว้ก่อน ) แกบอกว่า โจมตีกันซะ บริษัทเจ๊งไปเลย ( จริงๆบริษัทยังไม่ได้เจ๊ง และเป็น ติด topten ของโลก แต่ผมก็ไม่เคยทำเตียงแม่เหล็กนะ เคยแต่ซื้อให้แม่ใช้เท่านั้นเอง )

แกบอกว่า แย่จังเมืองไทย ของดีๆ ก็โจมตีกันซะ นี่ๆ มันไม่ดีตรงไหน

โชว์ให้ดู

[Jeng]

มีวันนึง ได้ฟัง คุณ อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ คุณเสรี จินตเสรี ขึ้นเวที บอกว่า ไม่ได้ทำธุรกิจนะ อายุ 66 แกเป็นนักแบดด้วย แกแชร์ประสบการณ์ บนเวที ว่า แกกินวันละ 5 อย่าง สังเกตุหน้าตา และน้ำเสียง โห เหมือนอายุ 50 เลย

[chatchai]

ก่อนที่จะทานอาหารเสริมใดๆ  ผมว่าเราควรที่จะศึกษาให้มากๆ  ศึกษาจากข้อมูลหลายๆแหล่งที่น่าเชื่อถือ  ก่อนที่จะซื้อมาทาน  คงคล้ายกับการซื้อหุ้นที่ต้องศึกษาให้มากๆ  ศึกษาจากข้อมูลหลายๆแหล่ง

โลกทุกวันนี้  มีการตลาดค่อนข้างมาก  รวมทั้งมีกลยุทธการขายด้วยการสร้างความกลัว  จนกระทั่งเรางงไปหมดว่าอะไรดี  อะไรควร

และที่สำคัญนอกจากโภชนาการ  สารอาหารต่างๆแล้ว  การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

[Jeng]

เห็นด้วยครับ คุณฉัตรชัย ว่าต้องศึกษาให้มากๆ และต้องฟังคนที่เขาศึกษามาด้วย เหมือนเล่นหุ้น ก็ต้องเรียนจากคนที่รู้มากกว่า

อย่างดร. อาณัชชัย รัตนกุล น้องดร.พิจิตร รัตนกุล ผมว่า ท่านรวยแล้วนะ

ประวัติของท่าน

นายกสมาคมอุตสาหกรรมไทย ผลิตยาแผนปัจจุบัน
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัทกระทิงแดง ประเทศจีน
หุ้นส่วน บริษัทยาเยาวราชจำกัด ( ผู้ผลิตยากว่า 200 ชนิด )
อาจารย์พิเศษ ประจำมหาวิทยาลัย จุฬา มหิดล นิด้า

" ผมเข้ามาทำธูรกิจนี้ เพราะเชื่อว่า เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีนวัตกรรมดีที่สดุในโลกยุคปัจจุบัน จากการใช้วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยระบบดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ระบบย่อยอาหารโดย กระเพาะ ลำไส้ และส่วนอื่นๆ ของร่างกายทำให้เกิดความปลอดภัย และมีประโยชน์โดยตรงต่อผู้บริโภคอย่างมาก เพื่อนๆของผม ต่างมีความสุขที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้

ลงชื่อ

นี่ก็เป็นตัวอย่างของคนคนหนึ่ง ที่ไม่น่าจะมาวิ่งขายของ แล้วโฆษณาเกินจริง

อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่า ส่วนนึงที่ทำให้อาหารเสริม ยังเป็นข้อถกเถียงกันมากมาย ในบางครั้งเนื่องจาก

1. มีสินค้าที่ไม่น่าจะดีจริงมากมาย ที่ทำขึ้นมาเพื่อเน้นขายให้ได้เท่านั้น ขายได้ก็จบ ลูกค้าจะซื้อซ้ำหรือไม่ ก็อีกเรื่อง และที่แน่ๆ คือ คนขาย คนทำ ไม่มีความรู้จริง รู้แต่เพียงว่า อะไรบูม ก็ทำออกมาขายมั่งเท่านั้นเอง ไม่มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่อง

2. คนขาย คนแนะนำ หลายคนโกหก พูดเกินจริง ทำให้ ประชาชน เบื่อ

อย่างไรก็ตาม เรื่องอาหารเสริมบางตัว ที่ช่วยได้ ทั้งภูมิแพ้ โรคกระเพาะ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และอื่นๆ ผมเชื่อจากประสบการณ์ 10 ปีว่ามีจริง แต่

ไม่ใช่ทุกคนจะดีขึ้นตามนั้น และไม่มีใครเข้าใจกลไก ว่าทำไม มันไม่ดีขึ้นทุกคน

เนื่องจาก โรคต่างๆที่เกิดขึ้น เราก็ยังไม่รู้ว่า ทำไมมันเกิดขึ้นมาแบบนั้น เช่น คนที่ตอนเด็กไม่ได้เป็นภูมิแพ้ พอโตขึ้น แพ้สารพัด เช่น ฝุ่น

ถามทำไมถึงแพ้ ผมคิดว่า การแพทย์ ปัจจุบัน ตอบไม่ได้ แต่รู้ว่า แพ้แล้ว มีอะไรออกมา เช่น histamine ทางแก้ ก็คือ รักษาตามอาการไปก่อน คือ ให้ anti - histamine ผลคือ หายอย่างรวดเร็ว เม็ดเลือดขาวก็ปล่อย histamine ออกมาสู้กับฝุ่น เพราะเข้าใจผิด นึกว่า เป็นสารอันตราย

เราก็แก้ไปก่อน เพราะแก้ที่ต้นเหตุไม่ได้ คือ จริงๆต้องแก้ให้เม็ดเลือดขาว จำได้ว่า ฝุ่นนะ ไม่อันตรายขนาดนั้น

เราแก้โดย ใส่สารทำให้ histamine หมดแรง เม็ดเลือดขาวทำไง

ผมเดานะ เม็ดเลือดขาวก็คงนึกว่า งั้น คราวหน้า ยกทัพมาเยอะกว่านี้ ดีกว่า ปล่อย อะไรออกไป ไม่มีผลเลย ต้องใช้พวกเยอะๆ

เป็นไปได้หรือไม่ ว่า การที่ เป็นภูมิแพ้ แล้ว ก็เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากการกินยานั่นเอง

แต่ ผมก็กินนะ มันไมมีทางเลือก สมัยก่อนผมกิน อะไรนะ ลืม ซูโดเอฟริดีน ใช่ปะ ชื่อ อติเฟ็ก กินเป็นเดือนเลย จามตลอด เดี่ยวนี้หายหมดแล้ว

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกทุกวันนี้  มีการตลาดค่อนข้างมาก  รวมทั้งมีกลยุทธการขายด้วยการสร้างความกลัว  จนกระทั่งเรางงไปหมดว่าอะไรดี  อะไรควร 

จากประสบการณ์ของผมนะ คุณฉัตรชัย กลยุธในการสร้างความกลัว ไม่ทำให้คนกินต่อเนื่องครับ

แต่ผลการใช้แล้วดี ตะหากที่ทำให้คนกินต่อเนื่องโดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งกับเขา หรือ เธอ เหล่านั้น คนเหล่านั้นจะมาเล่าให้เราฟังเอง ว่าดีอย่างไร

ซึ่งกลับกลายเป็นกลยุธไปแล้ว จริงๆ แล้ว มันเริ่มมาจากธรรมชาติของคน ที่เข้ามาทดลองใช้ เพราะอยากมีรายได้ และเข้ามาใช้เพราะอยากใช้สินค้า

บางคนในนั้น ใช้แล้วดี ก็เลยตื่นเต้น ก็เลยไปบอกต่อ บางคนใช้แล้วไม่ดี ก็เลยเงียบๆกันไป เพราะไม่แน่ใจว่า สินค้าดีจริงหรือไม่ครับผม

[Jeng]

มีเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างมาก เช่น ไปใช้อาหารเสริม เพราะคิดว่าเป็นยา

จริงๆแล้วอาหารเสริมไม่ใช่ยา ป่วยก็ต้องไปหาหมอนะครับ

ทีนี้ บางคนกินอาหารเสริม แล้วดีขึ้น เช่นเป็นเบาหวาน กินแล้วดีขึ้น ตื่นเต้น บางคน หมอสั่งหยุดยา หายแล้ว ตื่นเต้น ขึ้นเวที

ปรากฎว่า คนอื่นฟังแล้ว ก็ นำไปแนะนำเพื่อนๆ ที่เป็นเบาหวาน ว่า กินตัวนี้ซิ ช่วยเบาหวานได้

นี่ครับ ที่ทำให้เกิดเรื่อง

อาหารเสริมไม่ใช่ยาครับ

และ ก็เลยมีปัญหา ท้าพิสูจน์ตามมา เช่น งั้น เดี่ยวไปเจาะเลือดก่อน แล้วจะกิน ดูซิ ว่า น้ำตาลจะลง มันจะดีจริง สมคำเล่าลือหรือไม่

ผู้แนะนำ อาจจะอยากขาย หรืออาจจะแค่หวังดี ก็ตาม

แต่มีการ ท้าพิสูจน์ เอ้า เมื่อมีการพิสูจน์ โดยคิดกันเอง ว่า เจาะเลือดก่อน แล้ว กิน แล้วเจาะใหม่ ถ้าดีจริง น้ำตาลลง

โห ถ้ามันดีขนาดนั้นจริง กินภายใน 1 เดือน แล้วดีขึ้นเลย ในทุกๆคนที่เป็นเบาหวาน อย่างนี้ ยาก็ต้องเลิกใช้

แต่ในความเป็นจริง มันไม่ใช่แบบนั้น

มาว่าต่อ คนที่เป็นเบาหวาน นี่ ต่อให้ไม่กินอาหารเสริม กินแต่ยา ในแต่ละช่วง ที่ไปเจาะเลือด เป็นระยะๆ น้ำตาล ก็ขึ้นๆ ลงๆ หาก ขึ้นมาก คุณหมอก็ปรับขนาดยา หรือไม่ก็เปลี่ยนยา ให้แรงขึ้น

ทีนี้ บางคน มากอาหารเสริม พอไปเจาะเลือด น้ำตาลลง ก็ดีใจ ว่า นี่ใช่เลย ในขณะที่บางคน ไปเจาะแล้วน้ำตาลขึ้น ก็ตกใจ ว่านี่ แย่มาก ของไม่ดีจริง

ผมคิดว่า กรอบในการแนะนำอย่างนั้นผิด ซึ่งผมไม่ได้ยุ่งเกียวนะ เคยแต่ได้ยินมา ผมเองหนะ ตระหนักดีว่าตัวเองเรียนหมอไม่จบ และไม่ได้แนะนำคนที่เป็นโรคต่างๆ ให้กินตัวนั้นตัวนี้ ในอดีต เคยมีลูกทีม ชอบมาถาม ผมก็ได้แต่ serch ทางอินเตอร์เน็ตแล้วไปอธิบายเป็นกลางๆไป

ว่า ต่อ

สำหรับผมแล้ว ผมเชื่อว่ามีอาหารเสริมบางตัว กินควบคู่กับยา เพราะมันคนละกลไก คือยามีกลไก อย่างหนึ่ง แต่ไม่เกี่ยวกับอาหารเสริม อาหารเสริม คือ สารอาหารที่เข้าไปบำรุงเซลให้เซลทำงานได้ดีขึ้น ซึ่ง ดูได้แต่ผลการใช้

บางคนเห็นผลเร็ว บางคนเห็นช้า บางคนเห็นผลดีมาก ถึงขั้นหาย บางคนแค่ดีขึ้นเล็กน้อย บางคนไม่รูสึกอะไรเลย

ซึ่ง ผมบอกให้ว่า อย่าไปเน้นที่รู้สึก ว่ากินแล้วรู้สึกอะไร ให้สังเกตุว่า กินแล้ว ผลเป็นอย่างไร เช่น เจ้าของกระทู้บอกวา จะไปกิน เซ็นทรัม ก็ลองกินดู แล้วสังเกตุตัวเอง ว่า กินแล้ว แตกต่างจากสมัยก่อนอย่างไร กินซักระยะ 3-6 เดือน

ผลของการสังเกตุ อาจจะออกมาว่า ไม่ค่อยเป็นหวัดเหมือนสมัยก่อน แต่ในทางการแพทย์ ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้อยู่ดี ว่า เพราะเซ็นทรัม ก็ถามตัวเอง ว่า แล้วจะกินต่อหรือไม่ ก็แค่นั้นเอง นี่แหละเรื่องอาหารเสริม

[Radio]

ผมเห็นด้วยกับคุณ Jeng ครับ อาหารเสริมนี่เป็น Gray Zone  โรคบางอย่าง
กินเข้าไปก็หายจริงๆ  ผมประสบกับตนเอง คือผมเป็นโรคหอบหืดมา
ตั้งแต่เด็ก  เวลาวิ่ง หรืออากาศหนาวเย็น จะหอบ คุณแม่ก็หายาบำรุงให้กิน
ตลอด   หลายสิบปีก่อนมีคนแนะนำให้กินสาหร่ายเกลียวอัดเม็ด ผมก็ทำตาม
ควบคู่กับการว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ ทำอยู่ประมาณปีเศษ  ปรากฎว่า
ไม่เป็นโรคนี้อีกเลย  ผมก็แนะนำคนอื่นก็ได้ผลเช่นกัน  ผมก็ยังงงๆอยู่
เพราะตามตำราเขาบอกว่าโรคภูมิแพ้ไม่หายขาด ปัจจุบันไม่ได้กินสาหร่าย
แล้ว แต่อาการหอบหืดก็ไม่มี ลุยหิมะสบาย
  ปล.  ไม่ได้ค่าโฆษณาและไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย

[ลูกอิสาน]

ขอบคุณพี่เจ๋งที่เสียเวลาอธิบายครับผม
ผมสรุปตามที่เข้าใจและจากที่อธิบายตอนหลังๆนะครับ ว่า

*อาหารเสริมเกือบทั้งหมด ไม่ใช่ยา รักษาโรคไม่ได้ และก็ตามความหมายคือเป็นอาหารที่เสริมเข้าไปสำหรับคนที่ขาดสารอาหารชนิดนั้น

แต่ในทางปฎิบัติคนขายเกือบร้อยเปอร์เซนต์จะอวดอ้างสรรพคุณต่างๆนาๆ และส่วนใหญ่รวมถึงรักษาโรคด้วย โดยไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาตร์รองรับ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องมีกฎหมายควบคุมการขายตรงโดยเฉพาะ ไม่มีใครกล้าใช้คำพูดที่พูดกับลูกค้ามาโฆษณาวงกว้างอย่างออก tv ครับ เพราะพูดไปพิสูจน์ไม่ได้

ส่วนประเด็นโรคหวัด โรคหอบหืด ผมเชื่ออย่างนี้กรณีหวัดมักเป็นกับคนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอเช่นเด็ก คนแก่ คนหนุ่มสาว จะไม่ค่อยเป็นหวัด นี่เป็นเรื่องปกติธรรมดา ดังนั้นเราหนุ่มๆวัยนี้คงอ้างไม่ได้ว่าที่ไม่เป็นหวัด เพราะกินอาหารเสริมอะไรก็ตาม  ส่วนหืดหอบผมไม่มีรู้ แต่แม่เคยเล่าให้ฟังว่าลูกญาติ 2-3 คนที่เคยเลี้ยงตอนเด็ก แต่ก่อนเป็นหอบหืดทุกคน แต่พอโตไม่เป็น เพื่อนคนนึงก็เป็นตอนเด็ก ตอนโตก็หายไป และผมไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะไปกินอาหารเสริมอะไรครับ

คำพูดที่เรา vi ได้ยินบ่อยๆคือ เราจะถูกจะผิด ก็ด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ผิดหรือถูก เพราะคนอื่นๆเค้าทำกัน (ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะดูน่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม)

สรุปว่าผมไม่ได้แอนตี้ อาหารเสิรมนะครับ ถ้าคิดว่าไม่ขาดสารอาหาร ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อกิน แต่หากคิดว่าขาด เสริมให้ตรงกับที่เราขาด ด้วยต้นทุนที่ไม่แพงจนเกินไป ดีไหม

[ปรัชญา]

ผมอ่านแล้ว

[chatchai]

[quote="Jeng"]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกทุกวันนี้

[ปรัชญา]

Posted: Thu Jun 26, 2008 4:47 pm    Post subject:

Posted: Thu Jun 26, 2008 4:47 pm    Post subject:

ทำไมเวลาตรงกันได้ครับ